สร้างความอบอุ่นในร่างกายในฤดูหนาวด้วยวิธีง่ายๆรอบกายเรา

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน สร้างความอบอุ่นในร่างกายในฤดูหนาวด้วยวิธีง่ายๆรอบกายเรา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาว อริศรา เพียนไลย เลขที่ 20 ชั้น ม.6 ห้อง14
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1 นางสาว อริศรา เพียนไลย เลขที่ 20
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
-สร้างความอบอุ่นในร่างกายในฤดูหนาวด้วยวิธีง่ายๆรอบกายเรา
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
- Create warmth in a simple way.
ประเภทโครงงาน เพื่อการเรียนรู้
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว อริศรา เพียนไลย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 3 อาทิตย์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
-ที่มาของโครงงานนี้คืออัตราการเจ็บป่วยหรือตายในฤดูหนาว มีมากเพิ่มขึ้นทุกๆปี
เนื่องจากไม่รู้วิธีคลายหนาวหรือที่บ้านขาดแคลนเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่ม จึงทาให้ถึงแก่ความตายโดย
การสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นมาก ๆ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและทาให้เราเจ็บป่วยได้ง่าย ความ
เย็นของอากาศจะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ ทาให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่าลงและก่อให้เกิดผลกระทบ
อื่น ๆ ในร่างกายตามมา บางรายที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลายเช่น ผู้ป่วยเบาหวาน อาจทาให้
เลือดไม่สามารถหล่อเลี้ยงอวัยวะสาคัญต่าง ๆ ได้ตามปกติ
ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุที่มีโรคประจาตัว อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคระบบทางเดินหายใจ และอื่น ๆ ก็อาจจะเสียชีวิตจากอากาศที่หนาวเย็นได้หากไม่ได้รับการดูแลที่
เหมาะสม ดังนั้นทุกคนจึงควรดูแลป้องกันตนเองด้วยการรักษาความอบอุ่นของร่างกายสม่าเสมอ
รับประทานอาหารครบถ้วน และพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศหนาวจัด จึงทาให้คิดโครงงาน
สร้างอบอุ่นในหน้าหนาวขึ้นมา เพื่อให้รู้วิธีคลายหนาว แม้กระทั่งกับบุคลที่มีฐานะยากจน ก็สามารถ
สร้างความอบอุ่นกับร่างกายได้ด้วยสมุนไพรรอบกายเราได้ในฤดูมักจะมีอุณภูมิที่ต่ามาก ยิ่งทาให้
ผู้ป่วยในฤดูหนาวมากเพิ่มขึ้นและบางครั้งเป็นผลเสียต่อสุขภาพของเด็กและทุกๆวัยจึงต้องมีโรงงานนี้
เพื่อศึกษาวิธีคลายหนาว

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ในวิธีคลายหนาว
2.ผู้อ่านจะได้รู้ถึงสมุนไรรอบกายเราที่ช่วยคลานหนาวได้
3.ผู้อ่านได้รู้วิธีที่ทาให้ญาติของเราได้รับวิธีคลายหนาวได้อย่างถูกต้อง
4.เพื่อให้ผู้อ่านป้องกันตัวเองจากการรับอากาศหนาวเร็วๆนี้
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.จัดขึ้นสาหรับผู้ที่สืบค้นข้อมูลทางออนนไลน์
2.สาหรับผู้ที่ต้องการหาสมุนไพรใกล้ตัวที่เป็นประโยชน์ในหน้าหนาว
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทา
โครงงาน)
วิธีคลายหนาวง่ายๆด้วยสิ่งรอบๆกายเรา
คลายหนาวด้วยอาหารสมุนไพร ในหน้าหนาว ควรเลือกรับประทานอาหารที่ร้อน เพราะจะทาให้ร่างกายสดชื่น
และอบอุ่น โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ส่วนรสชาติควรเน้นพวกรสเปรี้ยวอมขมเล็กน้อยและรสเผ็ด ส่วน
วัตถุดิบก็พวกพืชผักสมุนไพรนี่แหละครับเช่น
สะเดา ซึ่งมีรสขมเมื่อกินแล้วสามารถช่วยเจริญอาหาร นอกจากนั้นยังสามารถบรรเทาอาการไข้ต่างๆได้ด้วย
ขิง ชงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร เพื่อช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการไอ แก้หวัด ช่วยให้เสมหะอ่อนขับตัวออกได้ง่าย ป้องกัน
การเป็นหวัดได้อีกทางหนึ่ง
พริก และ พริกไทย อันนี้ไม่ต้องพูดถึง รสเผ็ดร้อนของพริกช่วยในการสูบฉีดโลหิต ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
นอกจากนั้นยังมีพวก ผักโขมที่อุดมด้วยวิตามินซี ป้องกันหวัด หัวหอม หอมต้น ที่ทาให้จมูกโล่ง หายใจสะดวก
หรือแม้แต่ยามที่เจ็บป่วยเป็นไข้ไม่สบาย และเจ็บคอ ฟ้าทะลายโจรก็เป็นทางเลือกที่ดีตัวหนึ่ง
และสมุนไพรยังช่วยเรื่องการบารุงผิวในหน้าหนาวอีกด้วย
บารุงผิวรับลมหนาวด้วยสมุนไพรไทย ด้วยอากาศที่หนาวเย็น การอาบน้าควรเป็นน้าอุ่น เสื้อผ้าที่สวมใส่ควรเป็น
เสื้อผ้าที่หนาและอบอุ่น แต่การอาบน้าอุ่นจะทาให้ผิวแห้งง่ายกว่าอาบน้าเย็น เพราะน้ามันที่ผิวหนังจะถูกชะล้าง
ออกไป รวมทั้งความชื้นของอากาศลดลง จะทาให้ผิวแห้งแตกและคัน ดังนั้นการดูแลผิวพรรณในฤดูหนาวจึงเป็น

4. 4
สิ่งจาเป็น ซึ่งสมุนไพรที่ใช้ดูแลผิวพรรณ ได้แก่ น้ามันงา ขมิ้นชัน ผิวมะนาวและผิวมะกรูด เป็นต้นโดยมีวิธีใช้
ดังต่อไปนี้
น้ามันงา โดยนางาดิบประมาณ 1 ถ้วย โขลกให้ละเอียด บีบเอาน้ามันจากงาเก็บไว้ในขวด ทาผิวเช้าและก่อนนอน
น้ามันงาจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการแห้งแตกและคัน
ขมิ้นชัน มีสรรพคุณลดอาการคัน และช่วยเกิดอาการผดผื่นตามผิวหนัง โดยนาขมิ้นชันสดมาล้างให้สะอาด โขลก
ให้ละเอียด บีบน้าที่ได้ทาผิว หลังอาบน้า เช้า–เย็น ข้อควรระวัง สีขมิ้นจะติดตามเสื้อผ้าที่สวมใส่ ซักออก
ลาบาก
ผิวมะกรูด น้ามันที่ผิวของมะนาวและมะกรูด จะช่วยเคลือบผิวให้ชุ่มชื้น ลดอาการคัน ลดการอักเสบ โดยนามะกรูด
ที่ใช้น้าแล้ว นาบริเวณผิวด้านนอกทาผิวบริเวณที่แห้งคัน เช้า-เย็น
เครื่องดื่มและสมุนไพรคลายหนาว
น้าเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ช่วยคลายหนาวได้เช่นกัน โดยน้าเต้าหู้สามารถให้พลังงานกับ
ร่างกายเราได้มากพอกับนมวัว แม้ว่าปริมาณโปรตีน วิตามินและเกลือแร่จะน้อยกว่า ข้อดีที่สาคัญอีกอย่างคือ กิน
เท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เนื่องจากในน้าเต้าหู้มีไขมันไม่อิ่มตัวมากถึง 63% นอกเหนือจากคุณค่าในแง่ของพลังงานแล้ว
ยังมีวิตามินอีในปริมาณที่สูง โดยมีส่วนสาคัญที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลเนื้อเยื่อร่างกายให้เป็นปกติ ทาให้
ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ชะลอความแก่ ช่วยป้องการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก และลดความ
เสี่ยงของการเกิดมะเร็งลาไส้ และริดสีดวงได้อีกด้วย

5. 5
ชาและกาแฟ หากพูดถึงเครื่องดื่มสองชนิดนี้หลายคนคงต้องยกให้เป็นที่หนึ่งในใจ เพราะหาได้ง่ายและมี
ประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง อย่างกาแฟก็เป็นตัวกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทาให้ไม่ง่วง สมาธิในการ
ทางานดีขึ้นและยังลดอาการปวดเมื่อยเนื่องจากไข้หวัด กระตุ้นอวัยวะของร่างกายและเป็นตัวลดน้าหนักได้ด้วย
ส่วนชาก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ขยายหลอดเลือด ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ป้องกันโรคหัวใจตีบตัน
บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก รักษาโรคหวัดและอาการปวดหัวได้และในใบชายังมีสารโพลิฟินอล คาร์โบไฮเดรท
และกรดอะมิโน เมื่อสารเหล่านี้ทาปฏิกิริยากับน้าลาย ก็จะช่วยกระจายความร้อนในร่างกายออกไปพร้อมๆ กับขับ
สารพิษในร่างกาย
สาหรับเครื่องดื่มต่อไปที่เราจะลืมไม่ได้คือ โกโก้ร้อน ที่หลายๆคนชอบดื่ม โกโก้ร้อน 1 ถ้วย ที่มักอุดมไปด้วย
ประโยชน์มากมายจริงๆทั้งสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีมากกว่าชา หรือ ไวน์แดงเสียอีก นอกจากนี้ยังมีไขมันเพียง
แค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้นและเมื่อดื่มไปแล้วจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของเราได้จริงๆ

6. 6
น้าขิง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน สามารถช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและขับเหงื่อได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้
ยังช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืดเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน รวมทั้งยังช่วยขยายช่องทางเดินของเลือดลมทั่วร่างกาย
ไล่หวัด ลดอาการอักเสบ บวมตามข้อต่างๆ รวมทั้งบรรเทาอาการปวดเมื่อยเนื่องจากข้อเสื่อมด้วย ถือว่าเป็น
เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากจริงๆ
มะตูม เครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์มาก ทั้งเป็นยาบารุงร่างกาย รักษาธาตุ บารุงธาตุไฟ ยาระบาย ช่วย
รักษาอาการท้องร่วง ท้องเดิน โรคลาไส้ อาการท้องผูกเรื้อรัง แก้หวัด อาการไข้จับสั่น แก้ลม แก้มูกเลือด และ
รักษาอาการหลอดลมอักเสบได้หากใครหนาวๆก็หาน้ามะตูมดื่มลดหนาวกันได้เลย
สมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน นอกจากเครื่องดื่มที่คลายหนาวข้างบนแล้วนั้น สมุนไพรพื้นบ้านก็สามารถช่วยคลายหนาว
และรักษาโรคได้เช่นกัน เช่น ดอกแคมะเขือพวง พริกไทย กระชายกะเพรา กระเทียม ขี้เหล็กสะเดา ชะมวง ผักชี
หอมขิง มะขามเปียก มะขามป้อม ชะเอม กานพลู กระวาน ยี่หร่า และพริกไทยดา ซึ่งสมุนไพรทั้งหมดที่กล่าว
มาแล้วนั้น มักจะเป็นตัวเพิ่มความร้อนให้แก่ร่างกาย รับรอง หายหนาว!

7. 7
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา
4. การลงมือทาโครงงาน
5.ตรวจปรับปรุงและแก้ไข
6.นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.อินเตอร์เน็ต
2.คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / / อริศรา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / อริศรา
3 จัดทาโครงร่างงาน / / / อริศรา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / / อริศรา
5 ปรับปรุงทดสอบ / / อริศรา
6 การทาเอกสารรายงาน / / อริศรา
7 ประเมินผลงาน / / / อริศรา
8 นาเสนอโครงงาน / / อริศรา

8. 8
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ผู้อ่านได้ความรู้วิธีคลายหนาวต้อนรับฤดูหนาว
2.ได้รับความรู้จากสมุนไพรรอบกายเรา
3.ได้รับรู้วิธีป้องกันภัยหนาว
สถานที่ดาเนินการ
1.โรงเรียน
2.ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.สุขศึกษา
2.วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
https://health.kapook.com/view51810.html
https://health.mthai.com/howto/health-care/8455.html