More Related Content
Similar to ความลับของน้ำซาวข้าว
Similar to ความลับของน้ำซาวข้าว (20)
More from Supichaya Tamaneewan
More from Supichaya Tamaneewan (20)
ความลับของน้ำซาวข้าว
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่ างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร 6
ปี การศึกษา 2556
ชื่อโครงงาน ความลับของน้ าซาวข้าว
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. นางสาวสุพิชญา ทามณี วรรณ เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 10
2. นางสาวกฤติยากานต์ คาเหลือง เลขที่ 30 ชั้น ม.6 ห้อง 10
ชื่ออาจารย์ ที่ปรึกษาโครงงาน ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
้
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้ อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวสุพิชญา ทามณี วรรณ เลขที่ 27
2. นางสาวกฤติยากานต์ คาเหลือง เลขที่30
คาชี้แจง ให้ผเู้ รี ยนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ความลับของน้ าซาวข้าว
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Secrets of water from washing rice
ประเภทโครงงาน การประยุกต์ใช้งาน
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาว สุพิชญา ทามณี วรรณ เลขที่ 27
2. นางสาว กฤติยากานต์ คาเหลือง เลขที่ 30
ชื่อที่ปรึกษา ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่ วม –
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ข้าวจัดว่าเป็ นอาหารหลักที่มีความสาคัญต่อคนเอเชีย ซึ่งในประเทศไทยเรานั้นก็บริ โภคข้าวเป็ นหลัก
เพราะข้าวมีสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ ส่วนวิธีการก่อนที่เราจะบริ โภคนั้น แต่ละข้าวก็จะมีวิธีทาที่แตกต่าง
กันออกไป อย่างเช่นข้าวเจ้า เราก็จะทาโดยการหุง ซึ่งแตกต่างจากข้าวเหนียวที่จะต้องแช่น้ าค้างคืนไว้ก่อนที่จะ
นามานึ่ง และน้ าที่เหลือจากการแช่ขาวนั้นบางท่านอาจจะไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์มากกมาย และอาจจะนาไปทิ้งโดย
้
ไร้ประโยชน์
ดังนั้นเราจึงคิดจะเอาน้ าซาวข้าวนั้นกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ตองสิ้นเปลืองไม่ว่า
้
จะเป็ นน้ า และสารอาหารของข้าวที่เราจะต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ และจะทาให้ทุกคนได้รู้ว่าน้ าซาวข้าวนั้นมี
ดีมากกมายกว่าที่คิด
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ตองการในการทาโครงงาน ระบุเป็ นข้อ)
้
1. เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
2. เพื่อนาน้ าซาวข้าวกลับมาทาให้เกิดประโยชน์
3. เพื่อให้ทุกคนได้รู้ถึงประโยชน์ของน้ าซาวข้าว
- 3. 3
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
จากการศึกษาความลับของน้ าซาวข้าวครั้งนี้ ได้ทาการศึกษาภายในบ้านของพวกเราเอง เพราะเป็ นเรื่ องที่
ใกล้ตวสามารถทดลอง และทาได้จริ ง ว่าจะเกิดผลประโยชน์ต่อเราอย่างไรบ้าง เพื่อเราจะได้รู้และนาน้ าซาวข้าวมา
ั
ใช้ประโยชน์แทนที่จะทิ้งให้เสียเปล่าให้กลายเป็ นสิ่งที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อตัวเราเอง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรื อทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ข้าว ที่เรากินจะต้องผ่านกรรมวิธีสีเอาเปลือกข้าวออก ในเมล็ดข้าวจะมีวิตามินแร่ ธาตุและสารอาหาร ที่
สาคัญต่อร่ างกายรวม 20 กว่าชนิด แต่ขาวที่อุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารที่กล่าวมานี้ จะต้อง ผ่านการสีแต่นอย
้
้
คือ สีเอาเปลือกข้าวหรื อที่ชาวบ้านเรี ยกว่า "แกลบ" ออกโดยที่ยงมีจมูกข้าว และเยือหุมเมล็ดข้าวที่เราเรี ยกว่า "รา"
ั
่ ้
อยู่ ซึ่งจมูกข้าวและเยือหุมเมล็ดข้าวนี้มีคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์มาก ข้าวที่มีคุณค่าอาหารก็คือ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อม
่ ้
มื้อ ข้าวนึ่งก่อนสี ข้าวเสริ มวิตามิน ข้าวกล้อง นั้นในสมัยก่อนเรี ยกว่า ข้าวซ้อมมื้อ หรื อข้าวแดง ในสมัยก่อน
ชาวบ้านใช้วิธีตาข้าวกินกันเอง ซึ่งมักใช้ครกกระเดื่องตาจึงเรี ยกว่าข้าวซ้อมมื้อ ปัจจุบนนี้จะไม่มีให้เห็นโดยทัวไป
ั
่
แล้ว จะมีก็ ในหมู่บานที่ห่างไกลตัวเมืองอย่างบนพื้นที่สูง เราจะพบชาวเขานามาขายข้างทาง ซึ่งถ้าซื้อมา บริ โภคจะ
้
มีประโยชน์มาก ในสมัยก่อนนั้นเราจะเห็นพวกชาวเขาและพวกชาวบ้านจะมีสุขภาพ พลานามัยดี หน้าตาไม่ซีด
เซียว ไม่ขาดสารอาหาร แต่ในปัจจุบน พบว่า ในบางพื้นที่มีการ ขาดสารอาหาร ซึ่งสามารถสังเกตได้ว่ามีหน้าตาซีด
ั
เซียว ไม่แข็งแรงในบางราย ซึ่งจากการสังเกต และสอบถามดูจะรู้ว่าอาหารการกินของเขาในแต่ละวันนั้นเปลี่ยนไป
จากเดิม เมื่อก่อนเคยกินข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ อุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบนกินข้าวขาว กินอาหารที่แปรรู ปมากขึ้น ทาให้
ั
ได้สารอาหารไม่เพียงพอ อาหารที่มีวางจาหน่ายในร้านค้าในหมู่บาน ก็พบว่ามีอาหารสาเร็ จรู ปเป็ นพวกขนมปัง
้
แครกเกอร์ บะหมี่ก่ ึงสาเร็ จรู ปรสต่างๆ มากมาย และขนมใส่สีอีกมากมายหลากหลายชนิด เท่าที่สงเกตดูส่วน
ั
ประกอบของอาหารสาเร็ จรู ปเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก จะมีก็แต่ในรู ปของแป้ งและ น้ าตาล ซึ่งไม่
ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่ างกาย ถ้าเทียบกับการบริ โภคข้าวและอาหารไทยๆ ในสมัยก่อนจะมีประโยชน์มากกว่า
ข้าวกล้อง นั้นจะมีโปรตีนประมาณ 7-12 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็แล้วแต่พนธุขาว การขัดสีขาวกล้องจนมีสีขาวจะทา ให้
ั ์ ้
้
้
โปรตีนสูญหายไปประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าดูอย่างผิวเผิน การสูญเสียเพียงแต่น้ ีไม่มากนัก ซึ่งคนส่วนใหญ่กินข้าว
กันวันละ 3 มื้อ และข้าวเป็ นอาหารที่เรากินมากที่สุด จึงจาเป็ นที่เราควรจะ คานึงถึงคุณค่าในสิ่งที่เรากินเข้าไป ข้าว
ขาวที่กินในแต่ละวันนั้นมีคุณค่าสารอาหารน้อยกว่าข้าวกล้อง ในข้าวกล้องจะมีคุณค่าแร่ ธาตุมากมาย ที่เป็ น
ประโยชน์ต่อร่ างกาย คือมีวิตามินบีรวม ซึ่งจะช่วยห้องกัน และบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แขน ขา ไม่มีแรง ปวด
กล้ามเนื้อ โรคผิวหนังบางชนิด บารุ งสมอง ทา ให้เจริ ญอาหาร
1. วิตามินบี 1 ซึ่งถ้าจะกินพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวนึ่งก่อนสี ข้าวเสริ มวิตามินจะช่วยป้ องกันโรคเหน็บ
ชาได้
- 4. 4
2. วิตามินบี 2 ซึ่งจะช่วยป้ องกันโรคปากนกกระจอก คือ จะมีอาการเป็ นแผลที่มุมปาก ทั้งสองข้าง ริ มฝี ปาก
บวม ร่ างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตาสูแสงไม่ได้
้
3. แร่ ธาตุ ฟอสฟอรัส ซึ่งจะช่วยในการเจริ ญเติบโตของกระดูกและฟัน
4. แร่ ธาตุ แคลเซียม จะช่วยลดอาการเป็ นตะคริ ว
5. แร่ ธาตุทองแดง จะช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
6. แร่ ธาตุเหล็ก ช่วยป้ องกันโรคโลหิตจางและช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
สารอาหารโปรตีน จะช่วยเสริ มสร้างส่วนที่สึกหรอของร่ างกาย แต่เนื่องจากโปรตีนในข้าวเป็ นโปรตีนที่ไม่
สมบูรณ์
การที่จะกิน ข้าว เพื่อให้ได้คุณค่าของสารอาหารครบถ้วน สมบูรณ์ก็โดยการกินร่ วมกับพวกถัวเมล็ดแห้งต่างๆ
่
จะทาให้คุณภาพของโปรตีน ในข้าวดีข้ ึน เช่น จะใช้วิธีการง่ายๆ โดยการนึ่งหรื อหุงข้าวใส่ถวเขียว ถัวลิสงหรื อถัว
ั่
่
่
ดา ถัวแดง ตามความชอบ ถัวแต่ละ ชนิดมีคุณค่าแตกต่างกันไป แต่ก่อนจะนาถัวมานึ่งหรื อหุงรวมกับข้าวนั้น ควร
่
่
่
ล้างแล้วแช่น้ าทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชัวโมง ในน้ าธรรมดา ถ้าเป็ นน้ าร้อนก็แช่ประมาณ 1 ชัวโมง จะช่วยทาให้เอนไซม์
่
่
บางตัวในถัวไม่เกิดปฎิกริ ยาอาการท้องอืด ท้องเฟ้ อ มีแก๊ซ บางคนคิดว่ากินถัวแล้วไม่ค่อยย่อย ซึ่งก็ข้ ึนอยูกบ
่ ั
่
่
กรรมวิธีการทาที่ถกต้องด้วย ถ้ากินข้าวกล้องผสมถัวได้ เป็ นประจาจะทาให้เราได้คุณค่าสารอาหารที่สมบูรณ์
ู
่
ทดแทนเนื้อสัตว์ได้
1. เมล็ดข้าวมีส่วนประกอบของโปรตีนอยูประมาณ 4.3 – 18.2 % หรื อเฉลี่ย 9.5 % เป็ น อันดับสองรองจาก
่
แป้ ง ปริ มาณโปรตีนที่พบในเมล็ดข้าวมีความแปรปรวนขึ้นอยูกบสถานที่ปลูกและสภาพ แวดล้อม โปรตีน
่ ั
ในเมล็ดข้าวสามารถแบ่งเป็ น 4 ชนิดตามคุณสมบัติในการละลายได้แก่
1.1 อัลบลูมิน (Alblumin) มีคุณสมบัติละลายได้ในน้ า (Water soluble protein)
1.2 โกลบูลิน (Globulin) มีคุณสมบัติละลายได้ในน้ าเกลือ (Salt soluble protein)
1.3 โปรลามิน (Prolamin) มีคุณสมบัติละลายได้ในแอลกอฮอล์ (Alcohol soluble protein)
1.4 กลูเตลลิน (Glutelin) มีคุณสมบัติละลายได้ในกรดหรื อด่าง (Acid or alkali soluble protein)
2. ไขมันที่อยูในเมล็ดข้าวมักจะอยูในสภาพเป็ นหยดไขมันเล็กๆ ขนาดเล็กกว่า 1.5 ไมครอนอยูบริ เวณเยือหุม
่
่
่
่ ้
ผิวเมล็ด (ราหยาบและราละเอียด) และจมูกข้าว (คัพภะ) เมล็ดข้าวมีไขมัน 1.6 – 2.8 % ส่วนใหญ่อยูในรา
่
ข้าว ไขมันที่ได้จากข้าวเป็ นไขมันชนิดที่มีคุณภาพดี มีกรดไขมันอิ่มตัว18% กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
(Monounsaturated Fatty Acid : MUFA) 45% กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fatty Acid :
PUFA) 37% น้ ามันราข้าวเหมาะสาหรับผูที่ตองการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) เพราะมีปริ มาณกรด
้ ้
ไขมันไม่อิ่มตัวสูง (Linoleic acid, Oleic acid และ Palmitic acid) มีสารแกมม่า ออไรซานอล (Gamma
Oryzanol) ช่วยในการควบคุมระดับโคเลสเตอรอลในเส้นเลือด
- 5. 5
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
นาน้ าข้าวที่เหลือ มาใช้ให้เกิดประโยชน์
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
น้ าซาวข้าว
งบประมาณ
ไม่มีค่าใช่จ่าย
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน
1
2
3
คิดหัวข้อโครงงาน
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
จัดทาโครงร่ างงาน
4
5
ปฏิบติการสร้าง
ั
โครงงาน
ปรับปรุ งทดสอบ
6
การทาเอกสารรายงาน
7
8
ประเมินผลงาน
นาเสนอโครงงาน
สัปดาห์ ที่
1 1 1
1 2 3 4 5 6 7 8 9
0 1 2
ผู้รับผิดชอบ
1 1 1 1 1
3 4 5 6 7
สุพิชญา
กฤติยากานต์
สุพิชญา
กฤติยากานต์
สุพิชญา
กฤติยากานต์
สุพิชญา
กฤติยากานต์
สุพิชญา
กฤติยากานต์
สุพิชญา
สุพิชญา
กฤติยากานต์