More Related Content
Similar to การสถาปนา (20)
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
การสถาปนา
- 2. ิ
สมาชกกลุม
่
1.นางสาวธีรานุช ์
วงศษา เลขที่ 19
2.นางสาวเบญจวี แสนเงิน เลขที่ 20
3.นางสาวปาลิตา วงศมาน์ ่ เลขที่ 24
4.นางสาวภัทราภรณ์ โรจนสกุลพิสทธิ์
ุ เลขที่ 26
5.นางสาววิรัฐญา พรหมตัน เลขที่ 27
ิ ิ
6.นางสาวสรวรรณ นันทสุวรรณ เลขที่ 28
7.นางสาวรุจมาศ
ิ สาปาน เลขที่ 33
ั้ ึ
ชนมัธยมศกษาปี ท ี่ 6/4
เสนอ ครูสายพิน วงษารัตน์
- 3. การสถาปนากรุงสุโขท ัย
อาณาจักรสุโขทัยเป็ นอาณาจักรของคนไทยทีได ้รับการสถาปนาขึนใน
่ ้
พ.ศ. 1792 ก่อนหน ้าทีจะมีการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึนมานัน สุโขทัย
่ ้ ้
ี่ ี ่ ิ
เป็ นเมืองเก่าแก่ทมความเจริญรุงเรืองมาก่อน จากการตีความในศลาจารึกหลักที่
ื่
2 (วัดศรีชม) พอจะสรุปความได ้ว่า เมืองสุโขทัยแต่เดิมมีผู ้นาคนไทยชอ พ่อ
ุ
ิ้
ขุนศรีนาวนาถุม เป็ นเจ ้าเมืองปกครองอยู่ เมือพระองค์สนพระชนม์ ขอมสบาด
่
โขลญลาพง ขุนนางขอมได ้นากาลังเข ้ายึดกรุงสุโขทัยไว ้ได ้
- 4. ่ ่ ื่
เมือพวกขอมเริมเสอมอานาจลง ในปี พ.ศ. 1780 ได ้มีผู ้นา 2 ท่าน คือ
ึ่
พ่อขุนบางกลางหาว และพ่อขุนผาเมือง ซงเป็ นผู ้นาคนไทยได ้ร่วมมือกันรวบรวม
กาลังเข ้าขับไล่ขอมออกจากดินแดนแถบนีและตังตนเป็ นอิสระ พร ้อมกับสถาปนา
้ ้
กรุงสุโขทัยเป็ นราชธานีของอาณาจักรไทย และได ้สถาปนาพ่อขุนบางกลางหาวขึน ้
เป็ นกษั ตริยปกครองกรุงสุโขทัยทรงพระนามว่า พ่อขุนศรีอนทราทิตย์นับเป็ นปฐม
์ ิ
์ ุ ์
กษั ตริยแห่งราชวงศสโขทัยหรือราชวงศพระร่วง นับตังแต่ พ.ศ. 1792 เป็ นต ้นมา
์ ้
พ่อขุนศรี อินทราทิตย์
- 5. ปั จจัยทีเอือต่อการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยเป็ นราชธานี มีดงนี้
่ ้ ั
1. ปัจจ ัยภายใน ได ้แก่ การมีขวัญและ
กาลังใจดีของประชาชนเนืองจากมีผู ้นาทีเข ้มแข็ง
่ ่
ิ ั
และมีความสามารถ การมีนสยรักอิสระ ไม่ชอบ
ให ้ผู ้ใดมากดขีขมเหง บังคับ และบ ้านเมืองมีความ
่ ่
อุดมสมบูรณ์
2. ปัจจ ัยภายนอก ได ้แก่ การ
ื่
เสอมอานาจของขอม หลังจากทีพระเจ ้า
่
ั ิ้
ชยวรมันที่ 7 สนพระชนม์ลง กษั ตริยองค์
์
ต่อมาไม่สามารถรักษาอานาจของตนใน
ดินแดนทียดครองมาได ้ ทาให ้หัวเมืองต่าง ๆ
่ ึ
พากันตังตนเป็ นอิสระ
้
- 6. ระยะเริมต ้นของการสถาปนากรุงสุโขทัยเป็ นราชธานี โดยเฉพาะในสมัย
่
พ่อขุนศรีอนทราทิตย์ บ ้านเมืองยังไม่มั่นคงมากนัก คนไทยยังอยูกนอย่างกระจัด
ิ ่ ั
กระจาย บางเมืองยังคงมีอสระในการปกครองตนเอง ไม่มการรวมอานาจไว ้ ณ
ิ ี
ศูนย์กลางเมืองใดเมืองหนึงโดยตรง บางครังจึงมีการทาสงครามกันเพือแย่งชง
่ ้ ่ ิ
่
อานาจและขยายอาณาเขตของเมือง เชน ขุนสามชนเจ ้าเมืองฉอดได ้ยกทัพมาตี
เมืองตาก
่ ิ้
เมือสนรัชสมัยของพ่อขุนศรีอนทราทิตย์
ิ
พระราชโอรสองค์ใหญ่ คือ พ่อขุนบานเมือง
ได ้ขึนครองราชย์ สมัยนีสโขทัยได ้ขยายอานาจ
้ ้ ุ
ทางการเมืองด ้วยการทาสงครามกับหัวเมืองต่าง ๆ
โดยมีพระอนุชา คือ พระรามคาแหง เป็ นกาลัง
ึ่
สาคัญ ซงต่อมาพระองค์ได ้ขึนครองราชย์สบต่อ
้ ื
จากพ่อขุนบานเมือง
พ่อขุนรามคาแหงมหาราช
- 7. ในสมัยพ่อขุนรามคาแหง พระองค์ทรงเป็ นแม่ทัพไปปราบเมืองต่าง ๆ จน
เป็ นทีเกรงขามของอาณาจักรอืน ๆ ดังนันเมือพระองค์ขนครองราชย์จงมีหลายเมืองที่
่ ่ ้ ่ ึ้ ึ
ยอมอ่อนน ้อมเข ้ารวมอยูกบอาณาจักรสุโขทัย โดยพ่อขุนรามคาแหงมหาราชมิได ้สง
่ ั ่
กองทัพไปรบ ทาให ้อาณาจักรสุโขทัยมีอาณาเขตแผ่ขยายออกไปกว ้างขวาง ดัง
ิ
ปรากฏในศลาจารึกหลักที่ 1 ดังนี้
ทิศเหนือ ครอบคลุมเมืองแพร่ น่าน พลัว จนถึงเมืองหลวงพระบาง
ทิศใต ้ ครอบคลุมเมืองคณฑี (กาแพงเพชร) พระบาง (นครสวรรค์)
ั
แพรก(ชยนาท) สุพรรณบุร ี ราชบุร ี นครศรีธรรมราช จนถึง
แหลมมลายู
ทิศตะวันออก ครอบคลุมเมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก) ลุมบาจาย
(หล่มเก่า) สระคา และข ้ามฝั่ งแม่น้ าโขงไปถึงเมืองเวียงจันทน์
และเวียงคา
ทิศตะวันตก ครอบคลุมเมืองฉอด หงสาวดี จนถึงชายฝั่ งทะเลด ้านอ่าวเบงกอล
- 8. ้
ขณะเดียวกันพ่อขุนรามคาแหงมหาราชทรงใชหลักธรรมในการปกครอง
เพือให ้ประชาชนได ้อยูเย็นเป็ นสุข ด ้วยเหตุนจงทาให ้เจ ้าเมืองต่าง ๆ เหล่านีสานึก
่ ่ ี้ ึ ้
ึ ั
ในพระมหากรุณาธิคณ ทาให ้สุโขทัยปราศจากข ้าศกศตรูในทุกทิศ นับได ้ว่าใน
ุ
่
สมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราช เป็ นชวงสมัยทีอาณาจักรสุโขทัยมีความ
่
เจริญรุงเรืองสูงสุด
่
ิ้
หลังจากสนรัชสมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราช มีกษั ตริยขนครองราชย์อก 2
์ ึ้ ี
พระองค์ คือ พญาเลอไทย และพญางั่วนาถม แต่อาณาจักรสุโขทัยก็เริมเสอม ่ ่ื
อานาจลง บรรดาเมืองต่าง ๆ ทีอยูภายใต ้การปกครองของสุโขทัยได ้แยกตัวเป็ น
่ ่
อิสระและเมืองประเทศราชทีมกาลังเข ้มแข็งต่างพากันแยกตัวไม่ขนต่อกรุง
่ ี ึ้
่
สุโขทัย เชน เมืองพงสาวดี เมืองนครศรีธรรมราช เป็ นต ้น นอกจากนีในตอน
้
้ ่ ิ
ปลายรัชสมัยพญางั่วนาถมยังเกิดจลาจลขึนอีก เนืองจากมีการแย่งชงราชสมบัตจน ิ
ั
พญาลิไทยเจ ้าเมืองศรีสชนาลัยต ้องยกกาลังมาปราบ ทาให ้บ ้านเมืองสงบลง
- 9. หลังทรงปราบจลาจลในกรุงสุโขทัยได ้สาเร็จ พญาลิไทยได ้ปราบดาภิเษก
ขึนเป็ นกษั ตริยครองราชสมบัต ิ ทรงพระนามว่า พระมหาธรรมราชาที่ 1 พระองค์ทรง
้ ์
พยายามสร ้างอานาจทางการเมือง เพือพัฒนาบ ้านเมืองให ้เข ้มแข็งมาใหม่ อย่างไร
่
ก็ตามอาณาเขตของอาณาจักรสุโขทัยในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 ก็ได ้ลดลง
่ ิ้
ไปมากกว่าครึงเมือเทียบกับสมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราช ต่อมาเมือสนรัชสมัยของ
่ ่
ื
พระมหาธรรมราชาที่ 1 แล ้ว มีพระมหากษั ตริยขนครองราชย์สบต่อมาอีก 3
์ ึ้
พระองค์ คือ พระมหาธรรมราชาที่ 2 พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย) และ
่
พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) แต่ในชวงเวลาดังกล่าวอาณาจักรสุโขทัยเริม ่
่ื
เสอมอานาจ
- 10. กรุงสุโขทัย มีกษั ตริยปกครอง 9 พระองค์ ดังนี้
์
1. พ่อขุนศรีอนทราทิตย์ (พ่อขุนบางกลางหาว)
ิ
2. พ่อขุนบานเมือง
3. พ่อขุนรามคาแหงมหาราช
4. พญาเลอไทย
5. พญางั่วนาถม
6. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย)
7. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 2
8. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย)
9. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล)
- 11. การสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ึ
ในการศกษาประวัตศาสตร์ทาให ้
ิ
เราทราบว่าบรรพบุรษของไทยเป็ น
ุ
ผู ้สถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึนใน ้
บริเวณลุมแม่น้ าเจ ้าพระยาตอนบน
่
่
และในชวงเวลาทีอาณาจักรสุโขทัย
่
ื่
เริมเสอมอานาจลง อาณาจักรอยุธยา
่
ก็สถาปนาขึน และดารงอยูเป็ น
้ ่
ราชธานีตลอดระยะเวลา 417 ปี
จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาเสยอิสรภาพี
ให ้แก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 แล ้ว
ิ
สมเด็จพระเจ ้าตากสนมหาราชได ้กอบกู ้เอกราชของไทยคืนมา และสถาปนากรุง
ี ึ้ ี ่ ิ้
ธนบุรขนเป็ นราชธานีแห่งใหม่ อาณาจักรธนบุรดารงอยูมาได ้ 15 ปี ก็สนสุดแผ่นดิน
ิ
สมเด็จพระเจ ้าตากสนมหาราช ต่อมาในปี พ.ศ. 2325 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬา
์
โลกมหาราช ทรงสถาปนาพระราชวงศจักรีขนปกครองแผ่นดินและตังกรุง
ึ้ ้
ิ ื
รัตนโกสนทร์เป็ นราชธานีแห่งใหม่ของไทยสบต่อมาจนถึงปั จจุบนนี้
ั
- 12. ผู ้ก่อตังอาณาจักรอยุธยา
้
ก่อนทีพระเจ ้าอูทองจะเสด็จมาสร ้างกรุงศรีอยุธยาเมือ พศ. 1893 ไม่
่ ่ ่
ั ี ื้ ์
ปรากฏหลักฐานแน่ชดว่าพระองค์มเชอสายมาจากราชวงศใด และมีถนกาเนิดอยูท ี่
ิ่ ่
ั ื ื้
เมืองใด แต่มข ้อสนนิษฐานว่า พระเจ ้าอูทองสบเชอสายมาจากทางเหนือ ตอนบน
ี ่
ของแม่น้ าเจ ้าพระยา ก่อนทีจะอพยพมาสร ้างกรุงศรีอยุธยา
่
นอกจากนียังมีความคิดเห็นทีแตกต่าง
้ ่
ึ่
ออกไปว่า พระเจ ้าอูทองซงเป็ นฝ่ ายละโว ้ได ้อภิเษก
่
สมรสกับพระราชธิดาของกษั ตริยแห่งสุพรรณ
์
ภูม ิ เพือจุดมุงหมายทางการเมืองทีจะสร ้างความ
่ ่ ่
มั่นคงให ้กับอาณาจักร
ต่อมาเมือเมืองอูทองเกิดโรคระบาด เกิดภัย
่ ่
ธรรมชาติ ผู ้คนล ้มตายเป็ นจานวนมาก พระเจ ้าอูทอง ่
จึงอพยพผู ้คนไปยังทาเลทีมน้ าอุดมสมบูรณ์ (เชอกัน
่ ี ื่
ว่าเป็ นบริเวณทีเป็ นวัดพุทไธสวรรย์ในปั จจุบน) ทรง
่ ั
สร ้างเมืองใหม่ทบริเวณหนองโสนหรือบึง
ี่
พระราม แล ้วสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็ นราชธานีในปี
พ.ศ. 1893 ทรงพระราชทานนามพระนคร
ว่า "กรุงเทพทวารวดี ศรีอยุธยา" พระเจ ้าอูทอง ่
เสด็จขึนครองราชย์เป็ นปฐมกษั ตริยต ้นราชวงศอู่
้ ์ ์
พระเจ้าอู่ทอง ทอง ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระรามาธิบดีท ี่ 1"
- 13. ทีตงของกรุงศรีอยุธยา
่ ั้
กรุงศรีอยุธยามีทตงทีเหมาะสม เนืองจากมีแม่น้ าสาคัญไหลผ่านถึง
ี่ ั ้ ่ ่
3 สาย ได ้แก่
แม่นาลพบุร ี
้ ไหลจากทางทิศเหนือ
อ ้อมไปทางทิศตะวันตก
แม่นาปาสก
้ ่ ั ไหลผ่านจากทิศตะวันออก
แม่นาเจ้าพระยา ไหลจากทิศตะวันตกอ ้อม
้
ไปทางทิศใต ้
แม่น้ าทัง 3 สายนี้ ไหลมาบรรจบกัน
้
ล ้อมรอบราชธานี ทาให ้กรุงศรีอยุธยามีลกษณะ
ั
่ ี ั
เป็ นเกาะทีมสณฐานคล ้ายเรือสาเภา คนทัวไปจึงเรียกอยุธยาว่า "เกาะเมือง"
่
อยุธยามีทาเลทางภูมศาสตร์ทเหมาะสมกับการเป็ นราชธานี คือ
ิ ี่
1. เป็ นทีมความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก
่ ี
2. สะดวกแก่การคมนาคม
3. มีความเหมาะสมด ้านยุทธศาสตร์
- 14. รายพระนามพระมหากษั ตริยแห่งกรุงศรีอยุธยา
์
ตลอดระยะเวลา 417 ปี ทีกรุงศรีอยุธยาเป็ นราชธานีของไทย ได ้มี
่
พระมหากษั ตริยปกครองสบต่อกันมา 5 ราชวงศ ์ รวมทังสน 33 พระองค์
์ ื ้ ิ้
์ ู่
1. พระราชวงศอทอง
- สมเด็จพระรามาธิบดีท ี่ 1 (พระจ ้าอูทอง) ครองราชย์ พ.ศ. 1893 - 1912
่
- สมเด็จพระราเมศวร ครองราชย์ พ.ศ. 1912 - 1913 และ พ.ศ. 1931 - 1938
- สมเด็จพระรามราชาธิราช ครองราชย์ พ.ศ. 1938 - 1952
- 15. 2. สุพรรณภูม ิ
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพ่องั่ว) ครองราชย์ พ.ศ. 1913 -
1931
- สมเด็จพระเจ ้าทองลัน (ทองจันทร์) ครองราชย์ พ.ศ. 1931 - 1931
- สมเด็จพระอินทราธิราช (เจ ้านครอินทร์) ครองราชย์ พ.ศ. 1952 - 1967
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ ้าสามพระยา) ครองราชย์ พ.ศ. 1967
- 1991
- สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ครองราชย์ พ.ศ. 1991 - 2031
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ครองราชย์ พ.ศ. 2031 - 2034
- สมเด็จพระรามาธิบดีท ี่ 2 ครองราชย์ พ.ศ. 2034 - 2072
- สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (หน่อพุทธางกูรหรือพระอาทิตยวงศ) ์
ครองราชย์ พ.ศ. 2072 - 2076
- สมเด็จพระรัษฎาธิราชราชกุมาร ครองราชย์ พ.ศ. 2076 - 2077
- สมเด็จพระไขยราชาธิราช ครองราชย์ พ.ศ. 2077 – 2089
- สมเด็จพระยอดฟ้ า (พระแก ้วฟ้ า) ครองราชย์ พ.ศ. 2089 - 2091
- สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ครองราชย์ พ.ศ. 2091 - 2111
- สมเด็จพระมหินทราธิราช ครองราชย์ พ.ศ. 2111 - 2112
- 16. 3. สุโขทัย
- สมเด็จพระมหาธรรมราชา ครองราชย์ พ.ศ. 2112 - 2133
- สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครองราชย์ พ.ศ. 2133 - 2148
- สมเด็จพระเอกาทศรถ ครองราชย์ พ.ศ. 2148 - 2163
- สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ ครองราชย์ พ.ศ. 2163 - 2163
- สมเด็จพระเจ ้าทรงธรรม ครองราชย์ พ.ศ. 2163 - 2173
- สมเด็จพระเชษฐาธิราช ครองราชย์ พ.ศ. 2171 - 2173
- สมเด็จพระอาทิตยวงศ ์ ครองราชย์ พ.ศ. 2173 – 2173
4. ปราสาททอง
- สมเด็จพระเจ ้าปราสาททอง ครองราชย์ พ.ศ. 2173 - 2198
- สมเด็จเจ ้าฟ้ าไชย ครองราชย์ พ.ศ. 2198 - 2199
- สมเด็จพระสุธรรมราชา ครองราชย์ พ.ศ. 2199 - 2199
- สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครองราชย์ พ.ศ. 2199 - 2231
- 17. 5. บ ้านพลูหลวง
- สมเด็จพระเพทราชา ครองราชย์
พ.ศ. 2231 - 2245
- สมเด็จพระสรรเพชญ์ท ี่ 8 (พระเจ ้าเสอ)ื
ครองราชย์ พ.ศ. 2245 - 2252
- สมเด็จพระสรรเพชญ์ท ี่ 9 (พระเจ ้าท ้ายสระ)
ครองราชย์ พ.ศ. 2252 - 2275
- สมเด็จพระเจ ้าอยูหวบรมโกศ ครองราชย์
่ ั
พ.ศ. 2275 - 2301
- สมเด็จพระเจ ้าอุทมพร (ขุนหลวงหาวัด)
ุ
ครองราชย์ พ.ศ. 2301 - 2301
- สมเด็จพระทีนั่งสุรยาศน์อมรินทร์
่ ิ
(พระเจ ้าเอกทัศ) ครองราชย์ พ.ศ. 2301 - 2310
- 18. การสถาปนากรุงธนบุรเปนราชธานี
ี ็
เมือพระยาตากกู ้เอกราชได ้สาเร็จได ้โปรดให ้ขุดพระบรมศพพระเจ ้าเอก
่
ทัศขึนมาถวายพระเพลิงอย่างสมพระเกียรติ ประชาชนต่างก็ยอมรับพระเจ ้าตาก
้
เป็ นพระเจ ้าแผ่นดิน จึงได ้ทรงปราบดาภิเษกขึนเป็ นพระมหากษั ตริย ์ ใน พ.ศ.
้
้ ์
2311 และยังได ้ทรงเกือกูลพระราชวงศของกรุงศรีอยุธยาหลายพระองค์ทประชวร ี่
อยู่
ิ
หลังจากกอบกู ้เอกราชได ้แล ้ว สมเด็จพระเจ ้าตากสนมหาราชทรงมี
่
พระราชดาริวา กรุงศรีอยุธยามีสภาพทรุดโทรมมาก ไม่สามารถซอมแซมฟื้ นฟูให ้
่
กลับคืนสภาพเดิมได ้ ปราสาทราชมณเฑียร วัดวาอารามพังย่อยยับ จึงทรง
ิ ึ่
ตัดสนพระทัยสร ้างราชธานีใหม่ขนทีเมืองธนบุร ี ซงมีขอบเขตของราชธานี
ึ้ ่
ครอบคลุมสองฝั่ งน้ า โดยมีแม่น้ าเจ ้าพระยาตัดผ่านกลางเมือง
- 19. สาเหตุทย ้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยามาอยูทกรุงธนบุร ี
ี่ ่ ี่
ี ั
1 กรุงศรีอยุธยาชารุดเสยหายมาก ไม่สามารถบูรณปฏิสงขรณ์ให ้มี
สภาพเหมือนเดิมได ้
2 กาลังพลของพระองค์มน ้อย ไม่สามารถรักษากรุงศรีอยุธยาทีเป็ น
ี ่
เมืองใหญ่ได ้
ึ
3 ข ้าศกรู ้ทิศทางทีจะมาตีกรุงศรีอยุธยาดีแล ้ว
่
4 กรุงศรีอยุธยาตังอยูไกลจากปากแม่น้ ามากเกินไป ไม่สะดวกต่อการ
้ ่
ติดต่อค ้าขายกับต่างชาติทมจานวนเพิมขึนเรือย ๆ
ี่ ี ่ ้ ่
- 20. สาเหตุททรงเลือกกรุงธนบุรเป็ นเมืองหลวง
ี่ ี
1 กรุงธนบุรเป็ นเมืองเล็ก เหมาะต่อการป้ องกันรักษา
ี
2 กรุงธนบุรตงอยูใกล ้ปากแม่น้ า ทาให ้สะดวกต่อการติดต่อค ้าขายกับ
ี ั้ ่
ต่างชาติ และการควบคุมการลาเลียงเสบียงอาหาร
่ ึ
3 กรุงธนบุรตงอยูใกล ้ทะเล หากข ้าศกมีแต่ทัพบกไม่มทัพเรือก็ยากทีจะ
ี ั้ ี ่
ชนะได ้ และหากตังรับไม่ไหวก็สามารถยกพลทางเรือไปตังรับทีจันทบุรได ้
้ ้ ่ ี
4 กรุงธนบุรเป็ นแหล่งรวมขวัญและกาลังใจของคนได ้ดี เพราะตังอยูไม่
ี ้ ่
ไกลจากกรุงศรีอยุธยา
- 21. บรรณานุกรม
กรุงสุโขทัย (เอกสารออนไลน์) เข ้าถึงได ้จาก
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_conten
t_id=1620
กรุงศรีอยุธยา (เอกสารออนไลน์) เข ้าถึงได ้จาก
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content
_id=1752
กรุงธนบุร ี (เอกสารออนไลน์) เข ้าถึงได ้จาก
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content
_id=1898