More Related Content
Similar to Is5 ลงมือเขียน
Similar to Is5 ลงมือเขียน (20)
Is5 ลงมือเขียน
- 1. แนวคิดความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
เป็ นการเกริ่นนาหรืออารัมภบทแสดงให้ เห็นถึงความสาคัญและความ
จาเป็ นทีจะต้ องทารายงาน หรือเหตุผลทีสมควรต้ องมีการ ศึกษาปัญหา
่
่
พิเศษเรื่องนี้ โดยพยายามกาหนดปัญหาให้ ชัดเจนทั้งในด้ านการเกิดความ
รุ นแรง การกระจายตัวของปัญหา หรือด้ านอืน ๆ ให้ เข้ าถึงข้ อเท็จจริงของ
่
ปัญหาอย่ างแท้ จริง ด้ วยการทบทวนเอกสารทีเ่ กียวข้ อง ตรวจสอบสถิติ
่
สอบถามความเห็นจากบุคคลทีเ่ กียวข้อง และแสวงหาเหตุผลทีน่าเป็ นไปได้
่
่
จากทฤษฎีและสาขาทีเ่ กียวข้ อง โดยเขียนโน้ มน้ าว จูงใจให้ ผู้อ่านคล้ อยตาม
่
เห็นด้ วยว่ าทาไมต้ องทารายงานเรื่องนี้ เช่ นยังประสบปัญหาอยู่แก้ ไขไม่ ได้
โดยใช้ ความคิดตัวเองให้ มากทีสุด
่
ย่ อหน้ าแรก จะต้ องอภิปรายถึงความเป็ นมา ปัญหา ข้ อดี ข้ อเสี ย หรือ
ข้ อโต้ แย้ งของเรื่องทีได้ ทาการก่ อนหน้ า
่
ย่ อหน้ าทีสอง จะต้ องอภิปรายถึงความสาคัญ ข้ อดีของปัญหา รวมถึง
่
แนวทางแก้ ไขปัญหาในเรื่องทีเ่ ราสนใจจะดาเนินการทารายงาน ควรมี
เอกสารหรือทีมาของปัญหาทีทอ้างอิงเพือสนับสนุนหรือโต้ แย้ งสิ่ งที่ เราจะ
่
่ ี่
่
ทาการรายงานนั้น
ย่ อหน้ าสุ ดท้ าย ต้ องอภิปรายสรุ ปเป้ าหมายหรือเหตุผลทีจะทา เพือ
่
่
แก้ ปัญหาทีงานทีเ่ ราจะทา
่
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
หมายถึง แนวทางหรือทิศทางในการค้ นหาคาตอบ เป็ นเรื่องที่
ต้ องการทา
- 2. - เป็ นการกาหนดว่ าต้ องการศึกษาในประเด็นใดบ้ างในเรื่องทีจะทา
่
โดยบ่ งบอกสิ่ งทีจะทา ทั้งขอบเขต และคาตอบทีคาดว่ าจะได้ รับ
่
่
- เป็ นการนาเอาความคิดของประเด็นปัญหามาขยาย รายละเอียด
โดยใช้ ภาษาทีชัดเจน เข้ าใจง่ ายเขียนเป็ นข้ อหรือเขียนรวมเป็ นข้ อ
่
เดียวกัน
- อย่ านาประโยชน์ ทคาดว่ าจะได้ รับมาเขียนเพราะประโยชน์ ทคาด
ี่
ี่
ว่ าจะได้ รับเป็ นผลทีคาดว่ าจะเกิดขึนหลังจากสิ้นสุ ด
่
้
แนวการเขียนวัตถุประสงค์
1.วัตถุประสงค์ เขียนในรูปเป้ าหมายไม่ ใช่ วธีการ
ิ
2.วัตถุประสงค์ สอดคล้ องกับชื่อเรื่อง
3.วัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่ กากวม
4. ให้ ใช้ คาว่ า “เพือ”
่
คาทีใช้ สาหรับการเขียนวัตถุประสงค์
่
เช่ น เพือศึกษา เพือสารวจ เพือค้ นหา เพือบรรยาย เพืออธิบาย
่
่
่
่
่
เพือพัฒนา เพือเปรียบเทียบ...กับ... เพือพิสูจน์ เพือแสดงให้ เห็น
่
่
่
่
เพือศึกษาความสั มพันธ์ เพือประเมิน เพือสั งเคราะห์
่
่
่
เพือศึกษาอิทธิพลของ......ทีมต่อ..
่
่ ี
เพือวิเคราะห์ ปัจจัยทีมี / ส่ งผล/อิทธิพล/ผลกระทบ...
่
่
ตัวอย่ าง
เช่ น
1.เพือศึกษาสภาพสั งคมของผู้ติดเชื้อเอดส์ ทมอายุระหว่ าง 18 -24 ปี
่
ี่ ี
- 3. 2.เพือศึกษาถึงปัญหาและความต้ องการของผู้ติดเชื้อเอดส์ ครอบครัว
่
และชุ มชน
3.เพือศึกษาคุณภาพของแบบทดสอบทีใช้ ในการคัดเลือกโดยพิจารณา
่
่
ความเทียงและความตรงของแบบสอบ
่
ผลที่คาดว่าจะได้รบ (ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ)
ั
ความหมายผลทีคาดว่ าจะได้ รับ เป็ นความสาคัญของรายงาน
่
มีประโยชน์ ต่อใคร อย่ างไร เช่ น การระบุประโยชน์ ทเี่ กิดจากการนาผล
รายงานไปใช้ ไม่ ว่าจะเป็ นการเพิมพูนความรู้ หรือนาไปเป็ น แนวทางในการ
่
ปฏิบติ หรือแก้ ปัญหา หรือพัฒนาคุณภาพ หลักในการเขียนมีดงนี้
ั
ั
1. ระบุประโยชน์ ทอาจเกิดจากผลทีได้
ี่
่
2. สอดคล้ องกับวัตถุประสงค์ และอยู่ในขอบเขต
3. ในกรณีทระบุประโยชน์ มากกว่ า 1 ประการ ควรระบุเป็ นข้ อ
ี่
4. เขียนด้ วยข้ อความสั้ น กะทัดรัด ชัดจน
5. มีความเป็ นไปได้
เช่ น
วัตถุประสงค์
1. เพือศึกษาความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็ง
่
2. เพือศึกษาผลของการให้ การพยาบาล อย่ างมีแบบแผนต่ อความวิตก
่
กังวลของผู้ป่วยมะเร็ง
ประโยชน์ ทคาดว่ าจะได้ รับจากการวิจย
ี่
ั
- 4. 1. ได้ รับความรู้เกียวกับความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็ง
่
2. ได้ แนวทางในการลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งอาจ
พิจารณานาไปใช้ ในการพยาบาลผู้ป่วยโรคมะเร็ง
การทาทุกเรื่อง ผู้ทาคิดว่ าจะก่ อให้ เกิดประโยชน์ อย่ างไร ประโยชน์ มได้
ี
หลายลักษณะ เช่ น การนาผลไปใช้ ในการกาหนดนโยบาย ปรับปรุ งการ
ปฏิบติงาน ใช้ เป็ นแนวทางการตัดสิ นใจ การแก้ ปัญหา หรือทาวิจัยต่ อไป
ั
ตัวอย่ าง เช่ น
1. ช่ วยให้ เกิดวิทยาการใหม่ ๆ เพิมพูนมากยิงขึนทั้งทางด้ านทฤษฎี
่
่ ้
และปฏิบติ
ั
2. สามารถใช้ แก้ ปัญหาได้ อย่ างมีประสิ ทธิภาพ ถูกต้ องและยุติธรรม
3. ช่ วยให้ เข้ าใจปรากฏการณ์ และพฤติกรรมต่ าง ๆ ได้ ดขน และ
ี ึ้
สามารถใช้ ทานายปรากฏการณ์ และ
พฤติกรรมต่ าง ๆ ได้ อย่ างถูกต้ อง และมีประสิ ทธิภาพมากกว่ าการ
คาดคะเนแบบสามัญสานึก
4. สามารถช่ วยในด้านการกาหนดนโยบาย การวางแผนงาน การตัดสิ น
ปัญหาหรือการวินิจฉัยสั่ งการของผู้บริหารให้ เป็ นได้ อย่ างถูกต้ อง และ
รวดเร็ว
5. สามารถตอบคาถามทียงคลุมเครือให้ กระจ่ างชัดยิงขึน
่ั
่ ้
6. ช่ วยกระตุ้นความสนใจของนักวิชาการ ให้ มการใช้ ผลการวิจัยและ
ี
ทางานค้ นคว้ าวิจัยต่ อไป
- 5. 7. ทาให้ ทราบข้ อเท็จจริงต่ าง ๆ ซึ่งนามาใช้ เป็ นประโยชน์ เพือการ
่
ปรับปรุ งหรือพัฒนาบุคคลและหน่ วยงานต่ าง ๆ ให้ เจริญก้ าวหน้ าดี
ยิงขึน
่ ้
8. ทาให้ มผลงานวิจัยเพิมมากขึน ซึ่งจะช่ วยเสริมให้ ทราบข้ อเท็จจริงได้
ี
่
้
กว้ างขวางและแจ่ มชัดยิงขึน
่ ้
9. จะช่ วยกระตุ้นบุคคลให้ มเี หตุผล รู้ จกคิด และค้ นคว้ าหาความรู้ อยู่
ั
เสมอ
10. ช่ วยให้ มเี ครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทีทนสมัยเกิดขึนอยู่
่ ั
้
ตลอดเวลา ซึ่งอานวยความสะดวกสบายให้ แก่ มนุษย์ เป็ นอย่ างมาก
11.นักเรียนมีความสนใจในการเรียนงานประดิษฐ์ มากยิงขึน
่ ้
12.เป็ นแนวทางสาหรับเจ้ าหน้ าทีจัดรายการวิทยุเสี ยงธรรมเพือ
่
่
ประชาชนในการปรับปรุงแก้ ไขรูปแบบในการจัดรายการ ให้ มคุณภาพ
ี
มากยิงขึน
่ ้
13.เป็ นแนวทางในการวิจัยของผู้ทสนใจอยากจะจัดตั้งสถานี
ี่
วิทยุกระจายเสี ยงโดยทีไม่ มเี รื่องของธุรกิจเข้ ามาเกียวข้ อง
่
่
14.เป็ นแนวทางสาหรับครูผ้ ูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
เพือให้ เป็ นประโยชน์ ต่อการเรียนการสอนและ ผู้เรียนมากยิงขึน
่
่ ้
15.เป็ นแนวทางในการพัฒนา..........................................
16.ได้ ทราบถึงสาเหตุ( ทัศนคติ ) ของนักเรียน.............................ทีมี
่
..........
17.เป็ นแนวทางในการ...........................................( เช่ น ศึกษาปัญหา
ต่ างๆทีมในโรงเรียน)
่ ี
18.นักเรียนมีความพึงพอใจต่ อ......................
- 6. 19.ผลการศึกษาทีพบ ช่ วยให้ เกิด(องค์ ความรู้ ใหม่ วิธีการใหม่ แนวทาง
่
ใหม่ การจัดการเรียนรู้ใหม่ )ใน...............
ขอบเขตของการศึกษา
1. ประชากรทีใช้ ในการศึกษา
่
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรี ยนชั้น
..........................โรงเรี ยน............................... จานวน ....................
ห้องเรี ยน เป็ นนักเรี ยนทั้งสิ้ น.............คน
2. กลุ่มตัวอย่ างทีใช้ ในการศึกษา
่
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็ นนักเรี ยน(ที่...)ระดับชั้น
...................................... โรงเรี ยน.......................................ภาคเรี ยนที่ ...
ปี การศึกษา ..... จานวน.............คน
3. เนือหาทีใช้ ในการศึกษา
้
่
เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาเป็ นเนื้อหาที่เลือกจากปั ญหาที่พบใน
โรงเรี ยนคือ (ระบุเรื่ อง.ที่นกเรี ยนตั้งชื่อเรื่ อง).........................
ั
4. ระยะเวลา
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ดาเนินการในภาคเรี ยนที่ 2
ตั้งแต่วนที่ ........................ ถึง………………
ั
วิธีดาเนินการ
ในการศึกษาครั้งนี้ผศึกษาได้ทาการศึกษา.....(.ชื่อเรื่ อง)............................
ู้
ซึ่งมีวธีการดังนี้
ิ
- 7. ระเบียบวิธีทใช้ ในการศึกษา
ี่
ในการศึกษาใช้รูปแบบการสารวจ สื บค้นข้อมูล จากหนังสื อ
อินเตอร์เน็ต และตอบแบบสอบถาม
ประชากรทีใช้ ในการศึกษา
่
1. ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็ นนักเรี ยนระดับชั้น
มัธยมศึกษาปี ที่........(ตามกลุ่มตัวอย่างของนักเรี ยน)
โรงเรี ยนประชาบารุ ง ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556 จานวน..................
ห้องเรี ยน เป็ นนักเรี ยนทั้งสิ้ น........คน
2. กลุ่มตัวอย่ าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่นกเรี ยนระดับชั้น
ั
มัธยมศึกษาปี ที่..(ตามกลุ่มตัวอย่างของนักเรี ยน)
โรงเรี ยนประชาบารุ ง ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556 เป็ นนักเรี ยนทั้งสิ้ น
........คน ได้มาโดยสุ่ มอย่างง่าย จานวน............ห้องเรี ยน เพื่อตอบ
แบบสอบถามที่สร้างขึ้น
3. ระยะเวลาทีใช้ ในการศึกษา
่
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ในภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
- 8. วิธีดาเนินการศึกษา
ผูศึกษาได้ดาเนินการตามขั้นตอนดังนี้
้
1. กาหนดเรื่ องที่จะศึกษา โดยสมาชิกทั้ง 3 คน ประชุมร่ วมกัน และ
ร่ วมกันคิดและวางแผน ว่าจะศึกษาเรื่ องใด ( สมาชิกกลุ่มทั้ง 3 คน
ได้มาโดยนาผลการเรี ยนวิชาภาษาไทยพื้นฐาน มาจัดแบ่งกลุ่ม เก่ง
กลาง อ่อน)
2. สารวจปั ญหาที่พบในโรงเรี ยน ซึ่ งมีท้ งปัญหาด้านผูเ้ รี ยน ครู ผสอน
ั
ู้
อาคาร สถานที่ สิ่ งแวดล้อมในโรงเรี ยน ฯลฯ
3. เลือกเรื่ องที่จะศึกษา โดยเลือกเรื่ องที่สมาชิกมีความสนใจมากที่สุด
เพื่อเป็ นแรงจูงใจในการค้นหาคาตอบ
4. ศึกษาแนวคิดในการแก้ปัญหา ( ในข้อนี้ยงไม่สามารถดาเนินการได้
ั
เนื่องจาก การเรี ยนรายวิชา IS 2 เวลามีจากัด ผูศึกษาจึงทาได้เฉพาะ
้
การสารวจความคิดเห็นและสร้างเครื่ องมือ (แบบสอบถาม) ศึกษา
เพียงเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่ องกระบวนการวิจยเท่านั้น
ั
5. ตั้งชื่อเรื่ อง
6. สมาชิกทั้ง 3 คนของกลุ่ม พบครู ผสอนเพื่อปรึ กษา วางแผนและรับ
ู้
ฟังความคิดเห็น ปรับปรุ งแก้ไข
7. เขียนความสาคัญความเป็ นมาของปัญหา วัตถุประสงค์ สมมุติฐาน
ขอบเขตการวิจยและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ โดยศึกษาข้อมูล
ั
จากหนังสื อ วิทยานิพนธ์และสื บค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และจด
บันทึกในโครงร่ างรายงานเชิงวิชาการ ( ตามใบงาน)
8. สร้างเครื่ องมือ ที่เป็ นแบบสอบถาม จานวน..............ข้อ
ั
9. นาเครื่ องมือที่ปรับปรุ งแล้วไปใช้กบกลุ่มตัวอย่าง
10. รวบรวมข้อมูล
- 9. 11. วิเคราะห์ขอมูล
้
12. สรุ ปการศึกษา
ผลการวิเคราะห์ ข้อมูล
การวิเคราะห์ขอมูล.............................................................................
้
ระดับชั้น......มัธยมศึกษาตอนต้น...............................โรงเรี ยนประชาบารุ ง ได้ผล
ดังนี้
ตารางที่ 1 แสดงผลระดับคะแนนการประเมิน................................................
นักเรี ยนมัธยมศึกษาตอนต้น.......................จานวน ............คน
รายการประเมิน
1.นักเรี ยนเข้าใช้หองสมุดเพื่อทางานกลุ่ม
้
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
5
ระดับคะแนน
4
3
2
1
- 10. ่
จากตารางที่ 1 พบว่า นักเรี ยนเข้าใช้หองสมุดเพื่อทางานกลุ่มอยูในระดับ 5 คิดเป็ นร้อยละ 52.94%( ให้
้
่
เลือกคาถามที่ตอบในระดับ ที่มีเปอร์ เซ็นสู ง มาเขียนบรรยายเป็ นบางข้อและเขียนว่าอยูในระดับ 5 คิดเป็ นร้อยละ.....
นาคาถามประมาณ 3 – 4 ข้อมาเขียน)
ตารางที่ 2 แสดงผลการประเมิน ....( ชื่อเรื่ องที่ศึกษา....เช่นการศึกษาปั จจัยการส่ งเสี ยงดังในห้องสมุด ของ
นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรี ยน……….. )
รายการประเมินค่ าเฉลีย
่
1.นักเรี ยนเข้าใช้หองสมุดเพื่อทางานกลุ่ม
้
2.นักเรี ยนเข้ าใช้ ห้องสมุดเพื่อพักผ่อน
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
รวม
รวมทังฉบับ
้
ระดับคุณภาพ
5
3
มากที่สุด
ปานกลาง
59
4.92
จากตารางที่ 2 พบว่า นักเรี ยนระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น มีปัจจัยสาเหตุส่งเสี ยงดังในห้องสมุด
่
โรงเรี ยน................. อยูในระดับคุณภาพ ...มากที่สุด.....ค่าเฉลี่ย…..