More Related Content
Similar to Microsoft word สัปดาห์ที่ 9
Similar to Microsoft word สัปดาห์ที่ 9 (20)
More from ศุภวัฒน์ ปภัสสรากาญจน์
More from ศุภวัฒน์ ปภัสสรากาญจน์ (20)
Microsoft word สัปดาห์ที่ 9
- 1. แผนการสอนประจําสัปดาห์ที่ 9
หัวข้อเรื่อง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในมิติต่าง ๆ และ
องค์ประกอบและแนวคิดในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
รายละเอียด แนวปฏิบัติด้าน ความพอประมาณความมีเหตุผลการมีภูมิคุ้มกันในตัวเงื่อนไขความรู้และ
คุณธรรมการเชื่อมโยงองค์ประกอบสามประการเข้ากับเงื่อนไขความรู้และคุณธรรมตัวอย่างการประยุกต์ใช้หลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและภาคีการพัฒนา
จํานวนชั่วโมงที่สอน3ชั่วโมง
กิจกรรมการเรียนการสอน
1.การบรรยายเนื้อหาวิชา
2.การซักถามและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3.ทําแบบทดสอบความรู้หลังทําความเข้าใจบทเรียน
สื่อการสอน
1.การบรรยาย
2.การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การนําเสนอแนวความคิด
3.การใช้สื่อต่างๆเช่นPowerPointwhiteboardMediaWebsite
แผนการประเมินผลการเรียนรู้
1.ผลการเรียนรู้
1.1การประเมินผลความเข้าใจเนื้อหาวิชา
1.2การประเมินผลการมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
2.วิธีการประเมินความรู้
2.1การทําแบบทดสอบย่อยและการทําแบบฝึกหัดเมื่อมีการบรรยายเสร็จสิ้น
2.2 ประเมินผลการมีส่วนร่วม เช่น การแสดงความคิดเห็น การนําเสนอ การแลกเปลี่ยน
เรียนรู้
- 2. 94
3.สัดส่วนการประเมิน(5คะแนน)
3.1 การประเมินความเข้าใจการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ (ร้อยละ60)
3.2 การประเมินการมีส่วนร่วม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการนําเสนอ (ร้อยละ 40)
เนื้อหาที่สอน ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนใน
มิติต่าง ๆ และองค์ประกอบและแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน1
การกําหนดกรอบของแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากข้อเท็จจริงและประสบการณ์ในวิถีการ
ดําเนินชีวิตภายในชุมชน เพื่อการอนุมานเป็นแนวคิดในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนจะสามารถพิจารณาถึง
องค์ประกอบด้านต่างๆในการพัฒนาชุมชนได้เป็นอย่างดี
9.1ความพอประมาณ
ความพอประมาณเป็นหลักคุณธรรมพื้นฐานที่ใช้ในการควบคุมความอยากได้ หรือความ
ต้องการและการสนองตอบต่อความพึงพอใจเพื่อที่จะได้รับความสุขภายนอก เกิดขึ้นในขอบเขตของ
เหตุผล ไม่มีคุณธรรมใดที่สามารถทําได้หากปราศจากการควบคุมตัวเอง ขาดความยับยั้งชั่งใจหลัก
การดังกล่าวจึงได้ถูกจัดไว้ให้เป็นคุณธรรมพื้นฐาน ความพอประมาณนั้นสามารถแบ่งได้เป็น การละ
เว้น ความบริสุทธิ์ หรือพรหมจรรย์และความถ่อมตัว ครอบคลุมไปถึงการดื่ม กิน การมีเพศสัมพันธ์
และการป้องกันตัวเองมิให้เกิดความหลงตัวเอง
ความพอประมาณในคิดเศรษฐกิจพอเพียงรวมเอาหลักการของพุทธเศรษฐศาสตร์เข้าไว้ด้วยคือ
การไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น โดยอาจนํามาปฏิบัติได้ เช่น การไม่ใช้จ่ายเกินความจําเป็นหรือการ
ใช้จ่ายที่เกินกําลังขอตนเองหรือไม่ฉกฉวยของบุคคลอื่นมาเป็นขอตนเองเป็นต้น
9.2ความมีเหตุผล
ความมีเหตุผลเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับความมีสติ และความนึกคิดที่ต้องมีการตัดสินใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ
วางเป้าหมาย วิธีการกระทําและสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น
ทรัพยากรที่มีอยู่ ขีดความสามารถข้อจํากัดด้านทรัพยากรและความรู้ อย่างไรก็ตามปัจจัยสําคัญอีกประการ
หนึ่งคือ การคํานึงถึงทรัพยากรที่สามารถหามาได้โดยใช้ความพยายามเช่น ความรู้ การร้องขอความช่วยเหลือ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นต้น
โดยสรุปคือ การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียง อย่างมีเหตุผล ด้วยการพิจารณาปัจจัยที่
เกี่ยวข้องตลอดจนคํานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทําอย่างรอบคอบ
- 4. 96
9.6ตัวอย่างการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงการประยุกต์ใช้ปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวอย่างการประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกรณีศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนบ้าน
ดอกบัว อําเภอเมืองพะเยาว์ จังหวัดพะเยาว์
หมู่บ้านบ้านดอกบัว ตําบลบ้านตุ่น อําเภอเมืองพะเยาว์ ยึดทางสายกลางในการดํารงชีวิตตามวิถี
เศรษฐกิจพอเพียงโดยน้อมนําเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้
ในชุมชนชุมชนจึงเกิดการเรียนรู้อย่างพึ่งตนเองและประสบผลสําเร็จมาโดยตลอดเพราะยึดทางสายกลางภายใต้
หลักการและเงื่อนไขดังนี้คือ
" หลักความพอประมาณ " หมายถึง ความพอดีพอเหมาะต่อความจําเป็นที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มาก
เกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
" หลักความมีเหตุมีผล " หมายถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปตาม
เหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคํานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทํานั้นๆอย่าง
รอบคอบ
" หลักการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว" หมายถึงการเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง
ด้านต่าง ๆที่จะเกิดขึ้น โดยคํานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้
และไกล
"เงื่อนไขความรู้ "ประกอบด้วยความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความ
รอบคอบที่จะนําความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกันเพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้น
ปฏิบัติ
"เงื่อนไขคุณธรรม"ประกอบด้วยความตระหนักในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตความอดทนมีความ
เพียรและใช้สติปัญญาในการดําเนินชีวิต
1)กรณีศึกษาการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาชุมชนของหมู่บ้านดอกบัว
- 5. 97
ตารางที่ 9.1กรณีศึกษาการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาชุมชนของหมู่บ้านดอกบัว
1.กิจกรรมที่โดดเด่นและสําคัญของชุมชนที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงในอดีต
คนในชุมชนบ้านดอกบัวมีการดําเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้วแต่ไม่เป็น
รูปธรรม ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นย้ําแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทําให้
ประชาชนทุกคนได้น้อมนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตซึ่งมีกิจกรรมที่
สอดคล้องกับ สามห่วงสองเงื่อนไขคือชุมชนมีความพอประมาณมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอด
ทั้งมีความรู้คู่คุณธรรม ซึ่งสามารถสรุปภาพของตัวชี้วัดได้แก่ การลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ การ
ประหยัดการเรียนรู้ การอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติและความเอื้ออารี
ในอดีตชุมชนมีการปรับเปลี่ยนหลายประการเช่นการจัดตั้งกลุ่มเพื่อบริหารการจัดการในรูป
ของคณะกรรมการ
ศักยภาพของชุมชนซึ่งมีสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ทําให้การทํานาซึ่งเป็น
อาชีพหลักได้ผลดีเนื่องจากมีน้ําเพียงพอต่อการทํานาจากเดิมมีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี ซึ่งมีราคาสูง
ประกอบกับค่าแรงที่สูงขึ้น จึงมีการนําแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เกิดประโยชน์เพื่อ
การลดต้นทุนการผลิตโดยการทําปุ๋ยหมักปุ๋ยชีวภาพประกอบกับชุมชนมีการเลี้ยงวัวเกือบทุกครัวเรือน
จึงมีมูลวัวในปริมาณที่มากพอสําหรับการทําปุ๋ยหมักปุ๋ยชีวภาพและลดรายจ่ายค่าแรงงานโดยการเอา
มื้อ (ลงแขก) ในการทํานา และลดรายจ่ายสําหรับเจ้าภาพด้วยการนําห่อข้าวไปกินร่วมกันด้านการลด
รายจ่าย
ทุกครัวเรือนมีการปลูกผักสวนครัวผักปลอดสารพิษการเลี้ยงไก่พื้นเมืองเลี้ยงปลาไว้บริโภค
แต่ละครัวเรือน เหลือจากการบริโภคก็แบ่งปันให้เพื่อนบ้านและจําหน่าย ทําให้ประชาชนในชุมชน
สามารถพึ่งตนเองได้ มีการจัดตั้งกลุ่มการเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมือง การเลี้ยงโคขุนซึ่งปัจจุบันมีเป็นจํานวน
มากทําให้มีมูลวัวจํานวนมากและสามารถใช้ประโยชน์จากมูลวัวมาแปรสภาพเป็นแก๊สหุงต้มชีวภาพ
เพื่อลดรายจ่ายของครัวเรือนได้เดือนละไม่น้อยกว่า 300 บาทอีกด้านหนึ่งของครัวเรือนทุกครัวเรือน
นอกจากจะใช้แก็สหุงต้มชีวภาพแล้วยังมีการทําจุลินทรีย์จากหน่อกล้วยไว้เป็นปุ๋ยสําหรับใช้ใน
การเกษตรอีกด้วย
ด้านการเพิ่มรายได้เริ่มแรกคนในชุมชนมีความคิดว่าต่างคนต่างทําไม่มีการรวมกลุ่มต่อมาจึง
ได้รวมกลุ่มกันเช่น การจักสานเข่ง สุ่มไก่ ซึ่งมีวัตถุดิบอยู่ในชุมชนคือมีไม้ไผ่รวกตลอดทั้งภูมิสังคมมี
ภูมิปัญญาในท้องถิ่นในการจักสานมีการรวมกลุ่มเล็กๆทํากันเองเพื่อใช้และจําหน่ายในหมู่บ้านตําบล
เดียวกัน และต่อมาได้มีการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ที่มีสมาชิกเป็นจํานวนมาก และมีการระดมเงินออม
และขยายไปในชุมชนอื่นๆโดยมีเครือข่ายหมู่บ้าน/ตําบลที่ใกล้เคียงจากการรวมกลุ่มและยังเป็นอย่าง
- 6. 98
ตารางที่ 9.1(ต่อ)
ดี นอกจากนั้นสิ่งดังกล่าวยังเป็นสินค้าOTOPของจังหวัดพะเยาว์
การเลี้ยงโคของคนในชุมชน มีการปลูกหญ้าแพงโกล่า สําหรับใช้เป็นอาหารของโคและจําหน่าย
ทําให้มีรายได้เข้าในชุมชนอีกทางหนึ่ง มีการจักสานผักตบชวา เป็นอาชีพเสริม ซึ่งนําวัตถุดิบจากกว๊าน
พะเยามาจักสานเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสวยงามตลอดทั้งเป็นการกําจัดผักตบชวาไปด้วย
ด้านการประหยัดทุกครัวเรือนต้องประหยัดและออมเงินโดยจัดทําบัญชีครัวเรือนนี่คือเสียงจาก
ชุมชนที่สามารถพึ่งตนเองได้โดยการรวมกลุ่มกันเช่นกองทุนหมู่บ้านมีการออมเงินจํานวน120ครัวเรือน
ณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน 198 คน และมีเงินออมเป็นเงิน 150,000 บาทและเงินทุนดําเนินการ
1,115,000บาทโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน(กข.คจ.)มีการออมเงินจํานวน62ครัวเรือนณ.ปัจจุบัน
มีสมาชิกกลุ่มจํานวน62 คนมีเงินออมและเงินทุนหมุนเวียนฯรวมเป็นเงิน285,292 .68 บาทกลุ่มออม
ทรัพย์เข่งมีการออมเงินจํานวน 88 ครัวเรือน ณ ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่ม จํานวน 88 คน มีเงินออมและ
เงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน295,261 บาทกลุ่มแม่บ้านมีการออมเงินจํานวน100 ครัวเรือนณปัจจุบันมี
สมาชิกกลุ่ม จํานวน 100 คน มีเงินออมและเงินทุนหมุนเวียนฯ เป็นเงิน 50,000 บาทกลุ่มเลี้ยงวัวพันธุ์
พื้นเมืองมีการออมเงินจํานวน50ครัวเรือนณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน50คนมีเงินออมและมีเงินทุน
หมุนเวียนฯเป็นเงิน96,451 บาทกลุ่มจักสานผักตบชวามีการออมเงินจํานวน25 ครัวเรือนณปัจจุบันมี
สมาชิกกลุ่มจํานวน25คนมีเงินออมและมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นเงิน25,000บาทกลุ่มปลูกหญ้าแพงโกล่า
มีการออมเงินจํานวน 25 ครัวเรือน ณ ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน25 คน มีเงินออมและมีเงินทุน
หมุนเวียนฯ เป็นเงิน 25,000 บาทกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีการออมเงินจํานวน 30 ครัวเรือน ณปัจจุบันมี
สมาชิกกลุ่มจํานวน30คนมีเงินออมและมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นเงิน35,000บาท
ด้านการเรียนรู้ ชุมชนมีครูภูมิปัญญาชาวบ้านหลายด้านที่ถ่ายทอดแนวคิด ความรู้ แนวทางการ
ทํางานประสบการณ์ และกระบวนการเรียนรู้ต่างๆสู่ชุมชนเช่นมีศูนย์การเพาะพันธุ์กว่างด้วงเขาซึ่งเป็น
แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวล้านนาที่มีการแข่งขันชนกว่าง แต่ปัจจุบัน
จํานวนกว่างลดลงมาก ทําให้มีปราชญ์ท่านหนึ่งคือ นายบรรพต ปัฐวี ได้ศึกษาและทําการเพาะพันธุ์กว่าง
และจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและการเพาะพันธุ์ไม้ต่างๆการจัดสวนหย่อมฯโดยสามารถดูได้ที่บ้าน
นายบรรพตปัฐวี และทุกครัวเรือนมีการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง
ยั่งยืน บ้านบัวมีการปลูกไม้ไผ่ทดแทนไม้ไผ่ที่นํามาใช้สําหรับการจักสานเข่งเป็นประจํา และไม่นําหน่อไม้
จากไผ่เหล่านี้มาประกอบอาหารอีกทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในชุมชนจะออกกฎระเบียบห้ามใช้รถยนต์ รถ
จักยานยนต์ภายในชุมชนโดยให้เดินเท้าเท่านั้นหรือให้ใช้การปั่นรถจักยานเพื่อเป็นประหยัดพลังงานและ
- 7. 99
ตารางที่ 9.1(ต่อ)
ลดภาวะโลกร้อนด้วยด้านความเอื้ออารีต่อกันชุมชนมีการดูแลช่วยเหลือคนจน คนด้อยโอกาส และคน
ประสบปัญหา โดยการจัดสวัสดิการจากกองทุนต่าง ๆ และคนภายในชุมชน ตัวอย่างเช่น หากคนในชุมชน
เกิดอัคคีภัย หรือไฟไหม้บ้าน ทุกคนจะช่วยกันบริจาคสิ่งของและก่อสร้างบ้านจนแล้วเสร็จภายในวันเดียว
และในชุมชนมีการดูแลผู้ด้อยโอกาสโดยการนําเงินปันผลของกลุ่มต่างๆ จัดเป็นสวัสดิการให้กับคนด้อย
โอกาสเหล่านั้น
1.2)ความภาคภูมิใจของชุมชนในการนําเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้คืออะไร
ชุมชนได้นําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตแล้ว ส่งผลให้ชุมชน
ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานราชการ ทั้งได้รับเป็นเงินรางวัลและโล่เกียรติยศ ดังนี้ พัฒนากรผู้
ประสานตําบลได้คัดเลือกบ้านบัว(ดอกบัว)เป็นหมู่บ้านหลักนักพัฒนาหมู่บ้านพึ่งตนเองและยังอยู่
ภายในการปกครองของกํานันดีเด่นปี 2551 และเป็นหมู่บ้านที่ผ่าน ระบบมชช. ปี 2551 โดยมีนาย
บาลบุญก้ําเป็นผู้ใหญ่บ้านและมีผลงานเด่นคือบ้านดอกบัวเป็นหมู่บ้านที่ชนะเลิศตามโครงการเชิด
ชูเกียรติผู้นําเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่น เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข ” และ
ชนะเลิศหมู่บ้านพึ่งตนเองในระดับจังหวัดพะเยา ในปี 2551 และผู้ใหญ่บ้านได้รับการคัดเลือกเป็น
ผู้ใหญ่บ้านดีเด่นประจําปี 2551 อีกทั้งกลุ่มจักสานเข่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศประเภทกลุ่มอาชีพ
ดีเด่นตามโครงการเชิดชูเกียรติผู้นําเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่นเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง“อยู่
เย็นเป็นสุข ” ประจําปี 2551 ในปี 2552 บ้านบัว เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้าน
เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบระดับ“มั่งมี ศรีสุข”ตัวอย่างจังหวัดพะเยา
1.3)การดําเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชน
ชุมชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างไร องค์ประกอบด้านความ
พอประมาณ ชุมชนได้มีการพัฒนาหมู่บ้านโดยวิเคราะห์ถึงศักยภาพของชุมชนและประชาชน อีกทั้ง
ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนนํามาใช้ในการพัฒนาชุมชนให้เกิดความอีกทั้งมีการทดแทนสิ่งเหล่านี้ให้กับ
ชุมชน โดยยึดหลักความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไป หรือไม่มากเกินไป ไม่เบียดเบียนตัวเอง และผู้อื่นใน
ชุมชนตลอดมาองค์ประกอบด้านความมีเหตุผลชุมชนได้มีการร่วมกันศึกษาวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ
สังคมและทรัพยากรของชุมชนด้วยเหตุผลและความรู้ ความเข้าใจ แล้วจึงตัดสินใจนําไป ใช้ในการทํา
แผนพัฒนาชุมชน สมาชิกในชุมชนมีการลงทุนในการดําเนินกิจกรรมร่วมกันด้วยความมีเหตุผล โดย
พิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีการวางแผนรู้จักแยกแยะปัญหาอุปสรรคตลอดจนคํานึงถึงผลที่คาด
- 8. 100
ตารางที่ 9.1(ต่อ)
องค์ประกอบด้านความมีเหตุผลชุมชนได้มีการร่วมกันศึกษาวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจสังคม
และทรัพยากรของชุมชนด้วยเหตุผลและความรู้ ความเข้าใจ แล้วจึงตัดสินใจนําไป ใช้ในการทํา
แผนพัฒนาชุมชน สมาชิกในชุมชนมีการลงทุนในการดําเนินกิจกรรมร่วมกันด้วยความมีเหตุผล โดย
พิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีการวางแผนรู้จักแยกแยะปัญหาอุปสรรคตลอดจนคํานึงถึงผลที่คาด
ว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทําเหล่านั้นอย่างรอบคอบมีภูมิคุ้มกันโดยทุกครัวเรือนต้องประหยัดและออม
เงิน และจัดทําบัญชีครัวเรือน นี่คือเสียงจากชุมชน ที่สามารถพึ่งตนเองได้โดยการรวมกลุ่มกัน ตลอด
ทั้งชุมชนได้มีการจัดตั้งองค์กรที่จะช่วยเหลือคนในชุมชนยามเดือดร้อน ดังนี้ เช่น กองทุนหมู่บ้าน มี
การออมเงินจํานวน120 ครัวเรือนณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน198 คนและมีเงินออมเป็นเงิน
150,000 บาทและเงินทุนดําเนินการ1,115,000 บาทโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน(กข.คจ.)มี
การออมเงินจํานวน 62 ครัวเรือน ณ .ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน 62 คน มีเงินออมและเงินทุน
หมุนเวียนฯรวมเป็นเงิน285,292 .68 บาทกลุ่มออมทรัพย์เข่งมีการออมเงินจํานวน88 ครัวเรือนณ
ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน88 คนมีเงินออมและเงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน295,261 บาทกลุ่ม
แม่บ้านมีการออมเงินจํานวน100ครัวเรือนณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน100คนมีเงินออมและ
เงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน50,000บาทกลุ่มเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมืองมีการออมเงินจํานวน50ครัวเรือน
ณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน50คนมีเงินออมและมีเงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน96,451บาทกลุ่ม
จักสานผักตบชวามีการออมเงินจํานวน25 ครัวเรือน ณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน25 คน มีเงิน
ออมและมีเงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน 25,000 บาทกลุ่มปลูกหญ้าแพงโกล่ามีการออมเงินจํานวน 25
ครัวเรือนณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน25คนมีเงินออมและมีเงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน25,000
บาทกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีการออมเงินจํานวน30ครัวเรือนณปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจํานวน30คน
มีเงินออมและมีเงินทุนหมุนเวียนฯเป็นเงิน35,000บาทความรู้ชุมชนจะส่งผู้นําชุมชนเข้าร่วมศึกษาที่
มีประโยชน์สําหรับการประกอบอาชีพและเรื่องใหม่ ๆจากหน่วยงานราชการมาเป็นแนวทางในการ
ดําเนินชีวิต เช่น การทําจุลินทรีย์จากหน่อกล้วย และ ผู้นําในหมู่บ้านรณรงค์ให้ครัวเรือนมีการผลิต
และการใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยชีวภาพเนื่องจากบ้านบัวเป็นหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงสัตว์ (โค)มากเพื่อลดต้นทุน
การผลิต และช่วยในการรักษาคุณภาพดิน ซึ่งทําให้มีการลดรายจ่ายจากการซื้อปุ๋ยเคมีในปีละ 5,000
บาท
ชุมชนเริ่มยึดแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียงมาตั้งแต่เมื่อใดและอะไรคือแรงจูงใจที่ทําให้ชุมชน
ยึดแนวทางดังกล่าวชุมชนดําเนินชีวิตแบบพอเพียงมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้วและคนในชุมชนก็อยู่อย่าง
- 9. 101
ตารางที่ 9.1(ต่อ)
เอื้ออาทรต่อกันมาตลอดมาปี พ.ศ.2540พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นย้ําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจในประเทศหลายหมู่บ้านที่คนในชุมชนไปทํางานในภาคอุตสาหกรรมถูกเลิกจ้าง
และเดินทางกลับมาบ้านนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดกับคนในชุมชนแต่ชุมชนก็ไม่ประมาท ยังคงดําเนินชีวิตตาม
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยังสอนให้ลูกหลานได้ดําเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตลอดมาซึ่ง
นายบาล บุญก้ํา เล่าว่า เมื่อ 10 ปี ที่ผ่านคนในชุมชนได้นําภูมิปัญญาเรื่องการจักสานมาจักสานโดยใช้
วัตถุดิบที่มีอยู่ภายในชุมชนคือไม่ไผ่มาจักสานเป็นเข่งที่นํารายได้เข้าสู่ชุมชนมาจนถึงปัจจุบันนี้
ความเป็นอยู่เดิมของชุมชนเป็นอย่างไร หลังจากการนําเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และเกิด
ความเปลี่ยนแปลงในชุมชนของท่านอย่างไร
ความเป็นอยู่ของคนในชุมชนพบว่ามีคนในชุมชนมีภูมิลําเนามาจากที่เดียวกันจึงมีลักษณะเป็นอยู่
ที่ไม่แตกต่างกัน อยู่กันแบบเครือญาติ พึ่งพาอาศัยกันในชุมชน ทุกคนจึงรู้จักกันหมดทุกครัวเรือน การ
ประกอบอาชีพส่วนใหญ่ทําการเกษตร รับจ้างและมีการรวมกลุ่มของคนในชุมชนในการทํากิจกรรมร่วมกัน
เช่นการสานเข่งสานสุ่มไก่ การจักสานผักตบชวา การเลี้ยงสัตว์และการปลูกหญ้าเป็นต้นชาวบ้านบัวทุก
คน ก็มีการดําเนินชีวิตตามวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อไม่ต่างจากคนล้านนาทั่วไป ที่ชอบความ
สนุกสนาน แม้แต่ในงานศพก็มีการดื่มเหล้าแต่ปัจจุบันคนในชุมชนได้น้อมนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา
ใช้ จึงมีการงดเหล้าในงานศพทุกวันพระมีการจูงลูก–หลานเข้าวัดและในช่วงเทศกาลสงกรานต์ห้ามมีการ
ดื่มสุรา
ชุมชนมีการจัดทําแผนพัฒนาชุมชนหรือไม่ ทํามาเป็นระยะเวลากี่ปี และแผนหนึ่งมีระยะเวลานาน
เท่าใด เป็นการดําเนินงานร่วมกันของใครบ้างชุมชนมีการจัดทําแผนพัฒนาชุมชนที่เรียกว่าแผนชุมชน มา
ตั้งแต่ปี 2546 เป็นแผนระยะเวลา 3 – 5 ปี โดยการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีการพัฒนา
ประกอบด้วย สํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอ สํานักงานเกษตรอําเภอ สํานักงาน กศน. ที่ทําการปกครอง
อําเภอโดยเริ่มจากการจัดเวทีประชาคมวิเคราะห์หาจุดแข็ง–จุดอ่อนของชุมชนและให้คนในชุมชนช่วยกัน
วิเคราะห์ปัญหาสาเหตุ แนวทางแก้ไขพร้อมกับจัดทําเป็นแผนชุมชน
บ้านบัวเป็นชุมชนหนึ่งที่สามารถพึ่งตนเองได้ โดยภาพรวมแล้วสัดส่วนของครัวเรือนในชุมชนที่นํา
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดําเนินชีวิต(ให้จากจํานวนครัวเรือนที่นําเศรษฐกิจพอเพียงมา
ประยุกต์ใช้ต่อจํานวนครัวเรือนทั้งหมด) คิดเป็นร้อยละ100ของครัวเรือนทั้งหมด