SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
วิสัยทัศน์
มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำาลัง
ของชาติให้
1.เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้าน
ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม
2.มีจิตสำานึกในความเป็นพลเมืองไทย
และเป็นพลโลก 3.ยึดมั่นในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุ ข
4.มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง
เจตคติ ที่จำาเป็นต่อ
- การศึกษาต่อ
- การประกอบอาชีพ
- การศึกษาตลอดชีวิต
**โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญบน
พื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถ
เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตาม
ศักยภาพ
หลักการ
1.เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็น
เอกภาพของชาติ มีจุดหมายและ
มาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมาย
สำาหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มี
ความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบน
พื้นฐานของความเป็นไทยควบคู่กับ
ความเป็นสากล
2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน
ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการ
ศึกษาอย่างเสมอภาค และมีคุณภาพ
3.เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการก
ระจายอำานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมใน
การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับ
สภาพและความต้องการของท้องถิ่น
4. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มี
โครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการ
เรียนรู้ เวลาและการจัดการเรียนรู้
5.เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียน
เป็นสำาคัญ
6.เป็นหลักสูตรการศึกษาสำาหรับการ
ศึกษาในระบบ นอกระบบ และตาม
อัธยาศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และ
ประสบการณ์
จุดหมาย
หลักสูตรแกนกลางการ
ศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้
เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข
มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และ
ประกอบอาชีพ จึงกำาหนดเป็นจุด
หมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เมื่อจบ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้
๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่า
นิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของ
ตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลัก
ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนา
ที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
๒. มีความรู้ ความสามารถในการ
สื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้
เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต
๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มี
สุขนิสัย และรักการออกกำาลังกาย
๔. มีความรักชาติ มีจิตสำานึกในความ
เป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นใน
วิถีชีวิตและ การปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา
กษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๕. มีจิตสำานึกในการอนุรักษ์
วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การ
อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต
สาธารณะที่มุ่งทำาประโยชน์และสร้าง
สิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันใน
สังคมอย่างมีความสุข
หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551
สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น
ฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานที่กำาหนด ซึ่งจะช่วยให้
ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำาคัญและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้
สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น
ฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำาคัญ
๕ ประการ ดังนี้
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร
มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอด
ความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความ
รู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลก
เปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา
ตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อ
รองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัด
แย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับ
ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ
ความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธี
การสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำานึง
ถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็น
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การ
คิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์
การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการ
คิดเป็นระบบ เพื่อนำาไปสู่การสร้างองค์
ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสิน
ใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่าง
เหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็น
ความสามารถในการแก้ปัญหาและ
อุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของ
หลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูล
สารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ
ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์
ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปัญหา และมีการตัดสินใจที่มี
ประสิทธิภาพโดยคำานึงถึงผลกระทบที่
เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและสิ่ง
แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะ
ชีวิต เป็นความสามารถในการนำา
กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน
การดำาเนินชีวิตประจำาวัน การเรียนรู้
ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
การทำางาน และการอยู่ร่วมกันใน
สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์
อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา
และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
ของสังคมและสภาพแวดล้อม และการ
รู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
เป็นความสามารถในการเลือก และใช้
เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการ
พัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการ
เรียนรู้ การสื่อสาร
การทำางาน การแก้ปัญหาอย่าง
สร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมี
คุณธรรม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น
ฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วม
กับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก
ดังนี้
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซื่อสัตย์สุจริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มุ่งมั่นในการทำางาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ
นอกจากนี้ สถานศึกษาสามารถ
กำาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพิ่ม
เติมให้สอดคล้องตามบริบทและจุดเน้น
ของตนเอง
มาตรฐานการเรียนรู้
การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความ
สมดุล ต้องคำานึงถึงหลักพัฒนาการ
ทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตรแกน
กลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำาหนด
ให้ผู้เรียนเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียน
รู้ ดังนี้
ภาษาไทย
คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สุขศึกษาและพลศึกษา
ศิลปะ
การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาษาต่างประเทศ
ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้
กำาหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้า
หมายสำาคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้
เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้
เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยม ที่พึง
ประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยัง
เป็นกลไกสำาคัญ ในการ
ขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ
เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อน
ให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอน
อย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้ง
เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการ
ประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบ
การประเมินคุณภาพภายในและการ
ประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึง
การทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา
และการทดสอบระดับชาติ ระบบการ
ตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าว
เป็นสิ่งสำาคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการ
จัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียน
ให้มีคุณภาพตามที่มาตรฐานการเรียน
รู้กำาหนดเพียงใด
ตัวชี้วัด
ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรีียนพึงรู้และ
ปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียน
ในแต่ละระดับชั้น ซึ่งสะท้อน
ถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะ
เจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำาไป
ใช้ ในการ
กำาหนดเนื้อหา จัดทำาหน่วยการเรียนรู้
จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์
สำาคัญสำาหรับการวัดประเมินผลเพื่อ
ตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน
๑. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการ
พัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการ
ศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษา
ปีที่ ๑ – มัธยมศึกษาปีที่ ๓)
๒. ตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นเป้าหมายใน
การพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลาย(มัธยมศึกษาปีที่ ๔- ๖)
หลักสูตรได้มีการกำาหนดรหัสกำากับ
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพื่อ
ความเข้าใจและให้สื่อสารตรงกัน ดังนี้
ว ๑.๑ ป. ๑/๒
ป.๑/๒ ตัวชี้วัดชั้นประถมศึกษาปี
ที่ ๑ ข้อที่ ๒
๑.๑ สาระที่ ๑ มาตรฐานข้อ
ที่ ๑
ว กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์
ต ๒.๒ ม.๔-๖/ ๓
ม.๔-๖/๓ ตัวชี้วัดชั้นมัธยมศึกษา
ตอนปลาย ข้อที่ ๓
๒.๓ สาระที่ ๒ มาตรฐานข้อ
ที่ ๒
ต กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ
สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์
ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้
และคุณลักษณะ อันพึง
ประสงค์ ซึ่งกำาหนดให้ผู้เรียนทุก
คนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จำาเป็นต้องเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น ๘ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ ดังนี้
องค์ความรู้ ทักษะ
สำาคัญ
และคุณลักษณะ
ในหลักสูตรแกน
กลางการศึกษา
วิทยาศาสตร์ :
การนำาความรู้
และกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์
ไปใช้ในการศึกษา
ค้นคว้าหาความรู้ และ
แก้ปัญหาอย่างเป็น
ระบบ การคิดอย่างเป็น
เหตุเป็นผล คิด
วิเคราะห์
คิดสร้างสรรค์ และ
จิตวิทยาศาสตร์
สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม :
การอยู่ร่วมกันในสังคม
ไทยและสังคมโลกอย่าง
สันติสุข การเป็น
พลเมืองดี ศรัทธาใน
หลักธรรมของศาสนา
การเห็นคุณค่าของ
ทรัพยากรและสิ่ง
แวดล้อม ความรักชาติ
และภูมิใจในความเป็น
ไทย
ศิลปะ : ความรู้
และทักษะในการ
คิดริเริ่ม
จินตนาการ
สร้างสรรค์งาน
ศิลปะ
สุนทรียภาพและ
การเห็นคุณค่า
ทางศิลปะ
ภาษาไทย :
ความรู้ ทักษะ
และวัฒนธรรมการ
ใช้ภาษา
เพื่อ การสื่อสาร
ความชื่นชม
การเห็นคุณค่า
ภูมิปัญญา ไทย และ
ภูมิใจในภาษาประจำา
ชาติ
ภาษาต่าง
ประเทศ :
ความรู้ทักษะ
เจตคติ และ
วัฒนธรรม การใช้
ภาษาต่างประเทศ
ในการสื่อสาร การ
แสวงหาความรู้
และการประกอบ
อาชีพ
การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี :
ความรู้ ทักษะ และ
เจตคติ
ในการทำางาน การ
จัดการ
การดำารงชีวิต การ
ประกอบอาชีพ และ
การใช้เทคโนโลยี
สุขศึกษาและ
พลศึกษา : ความรู้
ทักษะและเจตคติใน
การสร้างเสริมสุขภาพ
พลานามัยของตนเอง
และผู้อื่น การป้องกัน
และปฏิบัติต่อ
สิ่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อ
สุขภาพอย่าง
ถูกวิธีและทักษะใน
การดำาเนินชีวิต
คณิตศาสตร์ :
การนำาความรู้ทักษะ
และกระบวนการทาง
คณิตศาสตร์ไปใช้
ใน
การแก้ปัญหา การ
ดำาเนินชีวิต และ
ศึกษาต่อ การมีเหตุ
มีผล มี
เจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์
พัฒนาการคิดอย่าง
เป็นระบบและ
สร้างสรรค์
คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
๑. รักชาติ
ศาสน์ กษัตริย์
๒.
ซื่อสัตย์สุจริต
๓. มี
วินัย
๔.
ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่
อย่างพอเพียง
๖. มุ่งมั่น
ในการทำางาน
๗. รัก
ความเป็นไทย
๘. มี
จิตสาธารณะ
สมรรถนะสำาคัญของผู้
เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
จุดหมาย
๑. มีคุณธรรม จริยธรรม
และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็น
คุณค่าของตนเอง มีวินัยและ
ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของ
พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตน
นับถือ ยึดหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
๒. มีความรู้อันเป็น
สากลและมีความสามารถในการ
สื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การ
ใช้เทคโนโลยีและมีทักษะชีวิต
๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพ
จิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออก
กำาลังกาย
๔. มีความรักชาติ มี
จิตสำานึกในความเป็นพลเมืองไทย
และพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ
การปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข
๕. มีจิตสำานึกในการ
อนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญา
ไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่ง
แวดล้อม มีจิต
สาธารณะที่มุ่งทำาประโยชน์และ
สร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วม
กันในสังคมอย่างมีความสุข
กิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน
๑.กิจกรรม
แนะแนว
๒.กิจกรรม
นักเรียน
๓. กิจกรรมเพื่อ
สังคมและ
สาธารณประโย
ชน์
ที่มีความสมดุลทั้งด้าน
ร่างกาย ความรู้
คุณธรรม มีจิตสำานึก
ในความเป็นพลเมือง
ไทยและเป็นพลโลก
ยึดมั่นในการปกครอง
ตามระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระ
มหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข มีความรู้และ
ทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง
เจตคติ ที่จำาเป็นต่อการ
ศึกษาต่อ การประกอบ
อาชีพและการศึกษา
ตลอดชีวิต โดยมุ่ง
เน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญ
บนพื้นฐานความเชื่อ
ว่า ทุกคนสามารถ
เรียนรู้และพัฒนา
ตนเองได้เต็มตาม
ศักยภาพ
ความสัมพันธ์ของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการ
เรียนรู้และตัว
ชี้วัด ๘ กลุ่ม
สาระการเรียน
รู้
๑. ภาษาไทย
๒. คณิตศาสตร์
๓.
วิทยาศาสตร์
๔. สังคมศึกษา
ศาสนาและ
วัฒนธรรม ๕.
สุขศึกษาและ
พลศึกษา ๖.
ศิลปะ
คุณภาพของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น
ฐานกำาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน ๘
กลุ่มสาระการเรียนรู้ จำานวน ๖๗
มาตรฐาน ดังนี้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจ
ประวัติ ความสำาคัญ ศาสดา หลักธรรม
ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตน
นับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง
ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่อ
อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ
ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่
ดี และธำารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาที่ตนนับถือ
สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม
และการดำาเนินชีวิตในสังคม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและ
ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็น
พลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และ
ธำารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย
ดำารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ
สังคมโลกอย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบ
การเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน
ยึดมั่น ศรัทธา และธำารงรักษาไว้ซึ่ง
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจ
และสามารถบริหารจัดการทรัพยากร
ในการผลิตและการบริโภค การใช้
ทรัพยากรที่มีอยู่จำากัดได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจ
หลักการ
ของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำารง
ชีวิตอย่างมีดุลยภาพ
มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ
และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความ
สัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความจำาเป็น
ของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจใน
สังคมโลก
สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความ
หมาย ความสำาคัญของเวลาและยุค
สมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธี
การทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์
เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจ
พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีต
จนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์
และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์
อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำาคัญ
และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิด
ขึ้น
มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความ
เป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม
ภูมิปัญญาไทย มีความรัก
ความภูมิใจและธำารงความเป็นไทย
สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะ
ของโลกทางกายภาพ และความ
สัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผล ต่อกัน
และกันในระบบของธรรมชาติ ใช้
แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ใน
การค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้
ข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี
ประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจ
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพ
แวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด
การสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสำานึก
และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
๗. การงาน
อาชีพและ
เทคโนโลยี
๘. ภาษาต่าง
ประเทศ
ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการ
พัฒนาที่ยั่งยืน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้
เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ
พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา
อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้
มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย
ปลูกฝังและสร้างจิตสำานึกของการทำา
ประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการ
ตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมี
ความสุข
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น ๓
ลักษณะ ดังนี้
๑. กิจกรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้
เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม
สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา
กำาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้าน
การเรียน และอาชีพ สามารถปรับตน
ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วย
ให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็น
กิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำาปรึกษา
แก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้
เรียน
๒. กิจกรรมนักเรียน
เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมี
ระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำาผู้ตามที่ดี
ความรับผิดชอบ การ
ทำางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การ
ตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การ
ช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้ออาทร และ
สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับ
ความสามารถ ความถนัด และความ
สนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วย
ตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษา
วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน
ประเมินและปรับปรุงการทำางาน เน้น
การทำางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความ
เหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะ
ของผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและ
ท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย
๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุว
กาชาด ผู้บำาเพ็ญประโยชน์ และ
นักศึกษาวิชาทหาร
๒.๒ กิจกรรมชุมนุม ชมรม
๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน
บำาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจใน
ลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความ
รับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละ
ต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรม
อาสาพัฒนาต่าง ๆ กิจกรรม
สร้างสรรค์สังคม
ระดับการศึกษา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น
ฐาน จัดระดับการศึกษาเป็น ๓ ระดับ
ดังนี้
๑. ระดับประถมศึกษา (ชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) การศึกษา
ระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษาภาค
บังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการ
อ่าน การเขียน การคิดคำานวณ ทักษะ
การคิดพื้นฐาน
การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้
ทางสังคม และพื้นฐานความเป็นมนุษย์
การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์
และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติ
ปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม
โดยเน้น จัดการ
เรียนรู้แบบบูรณาการ
๒. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓) เป็นช่วง
สุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่ง
เน้นให้ผู้เรียนได้สำารวจความถนัดและ
ความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการ
พัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะใน
การคิดวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์
และคิดแก้ปัญหา มีทักษะในการดำาเนิน
ชีวิต มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็น
เครื่องมือในการเรียนรู้ มีความรับผิด
ชอบต่อสังคม มีความสมดุลทั้งด้าน
ความรู้ ความคิด ความดีงาม และมี
ความภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจน
ใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพ
หรือการศึกษาต่อ
๓. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ – ๖) การศึกษา
ระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะ
เฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ
ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน
แต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ มี
ทักษะในการใช้วิทยาการและ
เทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง
สามารถนำาความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิด
ประโยชน์ในการศึกษาต่อและการ
ประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตนและ
ประเทศตามบทบาทของตน สามารถ
เป็นผู้นำา และผู้ให้บริการชุมชนในด้าน
ต่าง ๆ
การจัดเวลาเรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น
ฐาน ได้กำาหนดกรอบโครงสร้างเวลา
เรียนขั้นตำ่าสำาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้
๘ กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่ง
สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมได้ตาม
ความพร้อมและจุดเน้น โดยสามารถ
ปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถาน
ศึกษาและสภาพของผู้เรียน ดังนี้
๑. ระดับชั้นประถมศึกษา (ชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) ให้จัดเวลา
เรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียนวันละ
ไม่เกิน ๕ ชั่วโมง
๒. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓) ให้จัดเวลา
เรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียนวันละไม่
เกิน ๖ ชั่วโมง คิดนำ้าหนักของรายวิชาที่
เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ ๔๐
ชั่วโมงต่อภาคเรียน มี
ค่านำ้าหนักวิชา เท่ากับ ๑ หน่วยกิต
(นก.)
๓. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ ๔ - ๖) ให้จัดเวลา
เรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน วันละ
ไม่น้อยกว่า ๖ ชั่วโมง คิดนำ้าหนักของ
รายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์
๔๐ ชั่วโมง ต่อภาคเรียน มี
ค่านำ้าหนักวิชา เท่ากับ ๑ หน่วยกิต
(นก.)
โครงสร้างเวลาเรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน กำาหนดกรอบโครงสร้างเวลา
เรียน ดังนี้
กลุ่มสาระการ
เรียนรู้/
กิจกรรม
เวลาเรียน
ระดับประถมศึกษา ระด
มัธย
ตอน
ป.
๑
ป.
๒
ป.
๓
ป.
๔
ป.
๕
ป.
๖
ม
๑
— กลุ่มสาระ
การเรียนรู้
ภาษาไทย
๒
๐
๐
๒
๐
๐
๒
๐
๐
๑
๖
๐
๑
๖
๐
๑
๖
๐
๑๒
๐
(
นก
.)
คณิตศาสตร์ ๒
๐
๐
๒
๐
๐
๒
๐
๐
๑
๖
๐
๑
๖
๐
๑
๖
๐
๑๒
๐
(
นก
.)
วิทยาศาสตร์
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๑๒
๐
(
นก
.)
สังคมศึกษา
ศาสนา
และ
วัฒนธรรม
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๑๒
๐
(
นก
.)
สุขศึกษา
และพลศึกษา ๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘๐
(
นก
.)
ศิลปะ
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘๐
(
นก
.)
การงาน
อาชีพและ
เทคโนโลยี
๔
๐
๔
๐
๔
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๘๐
(
นก
.)
ภาษาต่าง
ประเทศ
๔
๐
๔
๐
๔
๐
๘
๐
๘
๐
๘
๐
๑๒
๐
(
นก
.)
รวมเวลาเรียน
(พื้นฐาน)
๘
๐
๐
๘
๐
๐
๘
๐
๐
๘
๐
๐
๘
๐
๐
๘
๐
๐
๘๔
๐
(๒
๑
นก
.)
— กิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน
๑
๒
๐
๑
๒
๐
๑
๒
๐
๑
๒
๐
๑
๒
๐
๑
๒
๐
๑๒
๐
—รายวิชา /
กิจกรรมที่
สถานศึกษา
จัดเพิ่มเติม
ตามความ
พร้อมและจุด
เน้น
ปีละไม่เกิน ๘๐ ชั่วโมง
ปีละ
๒๔๐
รวมเวลาเรียน
ทั้งหมด
ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ชั่วโมง/
ปี
ไม่เ
๑,๒
ชั่วโ
การกำาหนดโครงสร้างเวลาเรียนพื้น
ฐาน และเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถ
ดำาเนินการ ดังนี้
ระดับประถมศึกษา สามารถปรับเวลา
เรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้
ต้องมีเวลาเรียนรวมตามที่กำาหนดไว้
ในโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐาน และผู้
เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำาหนด
ระดับมัธยมศึกษา ต้องจัดโครงสร้าง
เวลาเรียนพื้นฐานให้เป็นไปตามที่
กำาหนดและสอดคล้องกับเกณฑ์การจบ
หลักสูตร
สำำหรับเวลำเรียนเพิ่มเติม ทั้งในระดับ
ประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ ให้จัด
เป็นรำยวิชำเพิ่มเติม หรือกิจกรรม
พัฒนำผู้เรียน โดยพิจำรณำให้
สอดคล้องกับควำมพร้อม จุดเน้นของ
สถำนศึกษำและเกณฑ์กำรจบหลักสูตร
เฉพำะระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑-๓
สถำนศึกษำอำจจัดให้เป็นเวลำสำำหรับ
สำระ กำรเรียนรู้พื้นฐำนในกลุ่มสำระ
กำรเรียนรู้ภำษำไทยและกลุ่มสำระกำร
เรียนรู้คณิตศำสตร์
กิจกรรมพัฒนำผู้เรียนที่กำำหนดไว้ใน
ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ ถึงชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ ๓ ปีละ ๑๒๐ ชั่วโมง
และชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๔-๖ จำำนวน
๓๖๐ ชั่วโมงนั้น เป็นเวลำสำำหรับ
ปฏิบัติกิจกรรมแนะแนวกิจกรรม
นักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สำธำรณประโยชน์ ในส่วนกิจกรรม
เพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ให้
สถำนศึกษำจัดสรรเวลำให้ผู้เรียนได้
ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
ระดับประถมศึกษำ (ป.๑-๖)
รวม ๖ ปี จำำนวน ๖๐ ชั่วโมง
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น (ม.
๑-๓) รวม ๓ ปี จำำนวน ๔๕
ชั่วโมง
ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย (ม.
๔-๖) รวม ๓ ปี จำำนวน ๖๐
ชั่วโมง
กำรจัดกำรศึกษำสำำหรับกลุ่มเป้ำหมำย
เฉพำะ
กำรจัดกำรศึกษำบำงประเภท
สำำหรับกลุ่มเป้ำหมำยเฉพำะ เช่น กำร
ศึกษำเฉพำะทำง กำรศึกษำสำำหรับผู้มี
ควำมสำมำรถพิเศษ กำรศึกษำทำง
เลือก กำรศึกษำสำำหรับผู้ด้อยโอกำส
กำรศึกษำตำมอัธยำศัย สำมำรถนำำ
หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้น
ฐำนไปปรับใช้ได้ตำมควำมเหมำะสม
กับสภำพและบริบทของแต่ละกลุ่มเป้ำ
หมำย โดยให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำน
ที่กำำหนด ทั้งนี้ให้เป็นไปตำมหลัก
เกณฑ์และวิธีกำรที่กระทรวง
ศึกษำธิกำรกำำหนด
กำรจัดกำรเรียนรู้
กำรจัดกำรเรียนรู้เป็นกระบวน
กำรสำำคัญในกำรนำำหลักสูตรสู่กำร
ปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ
ขั้นพื้นฐำน เป็นหลักสูตรที่มีมำตรฐำน
กำรเรียนรู้ สมรรถนะสำำคัญและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เป็นเป้ำหมำยสำำหรับพัฒนำเด็กและ
เยำวชน
ในกำรพัฒนำผู้เรียนให้มี
คุณสมบัติตำมเป้ำหมำยหลักสูตร ผู้
สอนพยำยำมคัดสรร
กระบวนกำรเรียนรู้ จัดกำรเรียนรู้โดย
ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่ำนสำระที่
กำำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสำระ
กำรเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร้ำง
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนำ
ทักษะต่ำงๆ อันเป็นสมรรถนะสำำคัญให้
ผู้เรียนบรรลุตำมเป้ำหมำย
๑. หลักกำรจัดกำรเรียนรู้
กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้
เรียนมีควำมรู้ควำมสำมำรถตำม
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สมรรถนะสำำคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมที่
กำำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลำงกำร
ศึกษำ
ขั้นพื้นฐำน โดยยึดหลักว่ำ ผู้เรียนมี
ควำมสำำคัญที่สุด เชื่อว่ำทุกคนมีควำม
สำมำรถเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้
ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ต้องส่งเสริม
ให้ผู้เรียน สำมำรถพัฒนำตำม
ธรรมชำติและเต็มตำมศักยภำพ คำำนึง
ถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลและ
พัฒนำกำรทำงสมอง เน้นให้
ควำมสำำคัญทั้งควำมรู้ และคุณธรรม
๒. กระบวนกำรเรียนรู้
กำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้
เรียนเป็นสำำคัญ ผู้เรียนจะต้องอำศัย
กระบวนกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย เป็น
เครื่องมือที่จะนำำพำตนเองไปสู่เป้ำ
หมำยของหลักสูตร กระบวนกำรเรียน
รู้ที่จำำเป็นสำำหรับผู้เรียน อำทิ
กระบวนกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำร
กระบวนกำรสร้ำงควำมรู้
กระบวนกำรคิด กระบวนกำรทำงสังคม
กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์และแก้
ปัญหำ กระบวนกำรเรียนรู้
จำกประสบกำรณ์จริง กระบวนกำร
ปฏิบัติ ลงมือทำำจริง กระบวนกำร
จัดกำร กระบวนกำรวิจัย กระบวนกำร
เรียนรู้กำรเรียนรู้ของตนเอง
กระบวนกำรพัฒนำลักษณะนิสัย
กระบวนกำรเหล่ำนี้เป็นแนวทำง
ในกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับ
กำรฝึกฝน พัฒนำ เพรำะจะสำมำรถ
ช่วยให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ได้ดี
บรรลุเป้ำหมำยของหลักสูตร ดังนั้น ผู้
สอน จึงจำำเป็นต้อง
ศึกษำทำำควำมเข้ำใจในกระบวนกำร
เรียนรู้ต่ำง ๆ เพื่อให้สำมำรถเลือกใช้
ในกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ
๓. กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้
ผู้สอนต้องศึกษำหลักสูตร
สถำนศึกษำให้เข้ำใจถึงมำตรฐำนกำร
เรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำำคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
และสำระกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับผู้
เรียน แล้วจึงพิจำรณำออกแบบกำร
จัดกำรเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและ
เทคนิคกำรสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ กำร
วัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้
พัฒนำเต็มตำมศักยภำพและบรรลุตำม
เป้ำหมำยที่กำำหนด
๔. บทบำทของผู้สอนและผู้เรียน
กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้
เรียนมีคุณภำพตำมเป้ำหมำยของ
หลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมี
บทบำท ดังนี้
๔.๑ บทบำทของผู้สอน
๑) ศึกษำวิเครำะห์ผู้เรียนเป็นรำย
บุคคล แล้วนำำข้อมูลมำใช้ในกำร
วำงแผน
กำรจัดกำรเรียนรู้ ที่ท้ำทำยควำม
สำมำรถของผู้เรียน
๒) กำำหนดเป้ำหมำยที่ต้องกำร
ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้ำนควำมรู้และ
ทักษะ
กระบวนกำร ที่เป็นควำมคิดรวบยอด
หลักกำร และควำมสัมพันธ์ รวมทั้ง
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๓) ออกแบบ
กำรเรียนรู้และจัดกำรเรียนรู้ที่ตอบ
สนองควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลและ
พัฒนำกำรทำงสมอง เพื่อนำำผู้เรียนไป
สู่เป้ำหมำย
๔) จัดบรรยำกำศที่เอื้อต่อกำร
เรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้
เกิดกำรเรียนรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้
เหมำะสมกับกิจกรรม นำำภูมิปัญญำ
ท้องถิ่น
เทคโนโลยีที่เหมำะสมมำประยุกต์ใช้
ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
๖) ประเมินควำมก้ำวหน้ำของผู้
เรียนด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย เหมำะ
สมกับ
ธรรมชำติของวิชำและระดับ
พัฒนำกำรของผู้เรียน
๗) วิเครำะห์ผลกำรประเมินมำใช้
ในกำรซ่อมเสริมและพัฒนำผู้เรียน
รวมทั้ง
ปรับปรุงกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของ
ตนเอง
๔.๒ บทบำทของผู้เรียน
๑) กำำหนดเป้ำหมำย
วำงแผน และรับผิดชอบกำรเรียนรู้ของ
ตนเอง
๒) เสำะแสวงหำควำมรู้ เข้ำถึง
แหล่งกำรเรียนรู้ วิเครำะห์ สังเครำะห์
ข้อควำมรู้
ตั้งคำำถำม คิดหำคำำตอบหรือหำแนวทำง
แก้ปัญหำด้วยวิธีกำรต่ำง ๆ
ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วย
ตนเอง และนำำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้
ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ
มีปฏิสัมพันธ์ ทำำงำน ทำำกิจกรรมร่วม
กับกลุ่มและครู
ประเมินและพัฒนำกระบวนกำรเรียนรู้
ของตนเองอย่ำงต่อเนื่อง
สื่อกำรเรียนรู้
สื่อกำรเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริม
สนับสนุนกำรจัดกำรกระบวนกำรเรียน
รู้ ให้ผู้เรียนเข้ำถึงควำมรู้ ทักษะ
กระบวนกำร และคุณลักษณะตำม
มำตรฐำนของหลักสูตรได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ สื่อกำร
เรียนรู้มีหลำกหลำยประเภท ทั้งสื่อ
ธรรมชำติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ
เทคโนโลยี และเครือข่ำย
กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ที่มีในท้องถิ่น กำร
เลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีควำมเหมำะ
สมกับระดับพัฒนำกำร และลีลำกำร
เรียนรู้ที่หลำกหลำยของผู้เรียน
กำรจัดหำสื่อกำรเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้
สอนสำมำรถจัดทำำและพัฒนำขึ้นเอง
หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่ำงมีคุณภำพ
จำกสื่อต่ำงๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำำมำ
ใช้ประกอบในกำรจัดกำรเรียนรู้ที่
สำมำรถส่งเสริมและสื่อสำรให้ผู้เรียน
เกิดกำรเรียนรู้ โดยสถำนศึกษำควร
จัดให้มีอย่ำงพอเพียง เพื่อพัฒนำให้ผู้
เรียน เกิดกำรเรียนรู้อย่ำง
แท้จริง สถำนศึกษำ เขตพื้นที่กำร
ศึกษำ หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องและผู้
มีหน้ำที่จัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ควร
ดำำเนินกำรดังนี้
๑. จัดให้มีแหล่งกำรเรียนรู้
ศูนย์สื่อกำรเรียนรู้ ระบบสำรสนเทศ
กำรเรียนรู้ และเครือข่ำย
กำรเรียนรู้ที่มีประสิทธิภำพทั้งในสถำน
ศึกษำและในชุมชน เพื่อกำรศึกษำ
ค้นคว้ำและกำรแลกเปลี่ยน
ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ ระหว่ำงสถำน
ศึกษำ ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก
๒. จัดทำำและจัดหำสื่อกำรเรียน
รู้สำำหรับกำรศึกษำค้นคว้ำของผู้เรียน
เสริมควำมรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหำ
สิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมำประยุกต์ใช้เป็น
สื่อกำรเรียนรู้
๓. เลือกและใช้สื่อกำรเรียนรู้ที่มี
คุณภำพ มีควำมเหมำะสม มีควำม
หลำกหลำย สอดคล้อง กับวิธี
กำรเรียนรู้ ธรรมชำติของสำระกำร
เรียนรู้ และควำมแตกต่ำงระหว่ำง
บุคคลของผู้เรียน
๔. ประเมินคุณภำพของสื่อกำร
เรียนรู้ที่เลือกใช้อย่ำงเป็นระบบ
๕. ศึกษำค้นคว้ำ วิจัย เพื่อ
พัฒนำสื่อกำรเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ
กระบวนกำรเรียนรู้ของผู้เรียน
๖. จัดให้มีกำรกำำกับ ติดตำม
ประเมินคุณภำพและประสิทธิภำพเกี่ยว
กับสื่อและกำรใช้สื่อ
กำรเรียนรู้เป็นระยะๆ และสมำ่ำเสมอ
ในกำรจัดทำำ กำรเลือกใช้ และกำร
ประเมินคุณภำพสื่อกำรเรียนรู้ที่ใช้ใน
สถำนศึกษำ ควร
คำำนึงถึงหลักกำรสำำคัญของสื่อกำร
เรียนรู้ เช่น ควำมสอดคล้องกับ
หลักสูตร วัตถุประสงค์กำรเรียนรู้
กำรออกแบบกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำร
จัดประสบกำรณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหำมี
ควำมถูกต้องและทันสมัย
ไม่กระทบควำมมั่นคงของชำติ ไม่ขัด
ต่อศีลธรรม มีกำรใช้ภำษำที่ถูกต้อง
รูปแบบกำรนำำเสนอที่เข้ำใจง่ำย และ
น่ำสนใจ
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้
ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักกำรพื้นฐำน
สองประกำรคือ
กำรประเมินเพื่อพัฒนำผู้เรียนและเพื่อ
ตัดสินผลกำรเรียน ในกำรพัฒนำ
คุณภำพกำรเรียนรู้ของผู้เรียน
ให้ประสบผลสำำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้อง
ได้รับกำรพัฒนำและประเมินตำมตัวชี้
วัดเพื่อให้บรรลุตำมมำตรฐำนกำรเรียน
รู้ สะท้อนสมรรถนะสำำคัญ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
ซึ่งเป็นเป้ำหมำยหลักในกำรวัดและ
ประเมินผลกำรเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่ำ
จะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถำน
ศึกษำ ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ และ
ระดับชำติ กำรวัดและประเมินผลกำร
เรียนรู้ เป็นกระบวนกำรพัฒนำ
คุณภำพผู้เรียนโดยใช้ผลกำรประเมิน
เป็นข้อมูลและสำรสนเทศที่แสดง
พัฒนำกำร ควำมก้ำวหน้ำ และควำม
สำำเร็จทำงกำรเรียนของผู้เรียน ตลอด
จนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกำรส่ง
เสริมให้ผู้เรียนเกิด กำร
พัฒนำและเรียนรู้อย่ำงเต็มตำม
ศักยภำพ
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้
แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้น
เรียน ระดับสถำนศึกษำ ระดับเขตพื้นที่
กำรศึกษำ และระดับชำติ มีรำย
ละเอียด ดังนี้
๑. กำรประเมินระดับชั้นเรียน
เป็นกำรวัดและประเมินผลที่อยู่ใน
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ผู้สอน
ดำำเนินกำรเป็นปกติและสมำ่ำเสมอ ใน
กำรจัดกำรเรียนกำรสอน ใช้เทคนิค
กำรประเมินอย่ำงหลำกหลำย เช่น
กำรซักถำม กำรสังเกต กำรตรวจ
กำรบ้ำน กำรประเมินโครงงำน กำร
ประเมินชิ้นงำน/ ภำระงำน แฟ้มสะสม
งำน กำรใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้
สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกำส
ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมิน
เพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณี
ที่ไม่ผ่ำนตัวชี้วัดให้มี กำรสอนซ่อม
เสริม
กำรประเมินระดับชั้นเรียน
เป็นกำรตรวจสอบว่ำ ผู้เรียนมี
พัฒนำกำรควำมก้ำวหน้ำใน
กำรเรียนรู้ อันเป็นผลมำจำกกำรจัด
กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือไม่ และ
มำกน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับ
กำรพัฒนำปรับปรุงและส่งเสริมในด้ำน
ใด นอกจำกนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอน
ใช้ปรับปรุง
กำรเรียนกำรสอนของตนด้วย ทั้งนี้
โดยสอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้
และตัวชี้วัด
๒. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำ
เป็นกำรประเมินที่สถำนศึกษำดำำเนิน
กำรเพื่อตัดสินผล กำรเรียนของผู้
เรียนเป็นรำยปี/รำยภำค ผลกำร
ประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์และ
เขียน คุณลักษณะ อันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน
นอกจำกนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับกำร
จัดกำรศึกษำ ของสถำน
ศึกษำ ว่ำส่งผลต่อกำรเรียนรู้ของผู้
เรียนตำมเป้ำหมำยหรือไม่ ผู้เรียนมีจุด
พัฒนำในด้ำนใด รวมทั้งสำมำรถนำำ
ผลกำรเรียนของผู้เรียนในสถำนศึกษำ
เปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชำติ ผล
กำรประเมินระดับสถำนศึกษำจะเป็น
ข้อมูลและสำรสนเทศเพื่อกำรปรับปรุง
นโยบำย หลักสูตร โครงกำร หรือวิธี
กำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตลอดจน
เพื่อกำรจัดทำำแผนพัฒนำคุณภำพกำร
ศึกษำของสถำนศึกษำ
ตำมแนวทำงกำรประกันคุณภำพกำร
ศึกษำและกำรรำยงำนผลกำรจัดกำร
ศึกษำต่อคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ
สำำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ
สำำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้น
พื้นฐำน ผู้ปกครองและชุมชน
๓. กำรประเมินระดับเขตพื้นที่
กำรศึกษำ เป็นกำรประเมินคุณภำพผู้
เรียนในระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำตำม
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกน
กลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อใช้เป็น
ข้อมูลพื้นฐำนในกำรพัฒนำคุณภำพ
กำรศึกษำของเขตพื้นที่กำรศึกษำ
ตำมภำระควำมรับผิดชอบ สำมำรถ
ดำำเนินกำรโดยประเมินคุณภำพผล
สัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบ
มำตรฐำนที่จัดทำำและดำำเนินกำรโดย
เขตพื้นที่กำรศึกษำ หรือด้วยควำมร่วม
มือกับหน่วยงำนต้นสังกัด ในกำร
ดำำเนินกำรจัดสอบ นอกจำกนี้ยังได้
จำกกำรตรวจสอบทบทวนข้อมูลจำก
กำรประเมินระดับสถำนศึกษำในเขต
พื้นที่กำรศึกษำ
๔. กำรประเมินระดับชำติ
เป็นกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนใน
ระดับชำติตำมมำตรฐำน
กำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำร
ศึกษำขั้นพื้นฐำน สถำนศึกษำต้องจัด
ให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้น
ประถมศึกษำปีที่ ๓ ชั้นประถมศึกษำ
ปีที่ ๖ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ และชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ ๖ เข้ำรับกำรประเมิน
ผลจำกกำรประเมินใช้เป็นข้อมูลใน
กำรเทียบเคียงคุณภำพกำรศึกษำใน
ระดับต่ำง ๆ เพื่อนำำไปใช้ในกำร
วำงแผนยกระดับคุณภำพกำรจัดกำร
ศึกษำ ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน
กำรตัดสินใจในระดับนโยบำยของ
ประเทศ
ข้อมูลกำรประเมินในระดับต่ำง ๆ
ข้ำงต้น เป็นประโยชน์ต่อสถำนศึกษำ
ในกำรตรวจสอบทบทวนพัฒนำ
คุณภำพผู้เรียน ถือเป็นภำระควำมรับ
ผิดชอบของสถำนศึกษำที่จะต้องจัด
ระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่ง
เสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนำ
เต็มตำมศักยภำพบนพื้นฐำน
ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลที่จำำแนก
ตำมสภำพปัญหำและควำมต้องกำร
ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่
มีควำมสำมำรถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี
ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนตำ่ำ กลุ่มผู้เรียน
ที่มีปัญหำด้ำนวินัยและพฤติกรรม
กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้
เรียนที่มีปัญหำทำงเศรษฐกิจและสังคม
กลุ่มพิกำรทำงร่ำงกำยและสติปัญญำ
เป็นต้น ข้อมูลจำกกำรประเมินจึงเป็น
หัวใจของสถำนศึกษำในกำรดำำเนิน
กำรช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิิด
โอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ
ประสบความสำาเร็จในการเรียน
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบ
จัดการศึกษา จะต้องจัดทำาระเบียบว่า
ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน
ของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็น
ไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็น
ข้อกำาหนดของหลักสูตรแกนกลางการ
ศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บุคลากรที่
เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน
เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน
๑. การตัดสิน การให้ระดับและการ
รายงานผลการเรียน
๑.๑ การตัดสินผลการเรียน
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอน
ต้องคำานึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละ
คนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้
เรียนทุกด้านอย่างสมำ่าเสมอและต่อเนื่อง
ในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อม
เสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตาม
ศักยภาพ
ระดับประถมศึกษา
(๑) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียน
ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน
ทั้งหมด
(๒) ผู้เรียนต้องได้รับการ
ประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์
ที่สถานศึกษา
กำาหนด
(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการ
ตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รับการ
ประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตาม
เกณฑ์ที่
สถานศึกษากำาหนด ในการอ่าน คิด
วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ระดับมัธยมศึกษา
(๑) ตัดสินผลการเรียนเป็น
รายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอด
ภาคเรียนไม่น้อย
กว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด
ในรายวิชานั้น ๆ
(๒) ผู้เรียนต้องได้รับการ
ประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์
ที่สถานศึกษา
กำาหนด
(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการ
ตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รับการ
ประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตาม
เกณฑ์ที่
สถานศึกษากำาหนด ในการอ่าน คิด
วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
การพิจารณาเลื่อนชั้นทั้งระดับ
ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ถ้าผู้
เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และ
สถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าสามารถ
พัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ใน
ดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผัน
ให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ผ่าน
รายวิชาจำานวนมาก และมีแนวโน้มว่า
จะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้น
ที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะ
กรรมการพิจารณาให้เรียนซำ้าชั้นได้
ทั้งนี้ให้คำานึงถึงวุฒิภาวะและความรู้
ความสามารถของผู้เรียนเป็นสำาคัญ
๑.๒ การให้ระดับผลการเรียน
ระดับประถมศึกษา
ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผล
การเรียนรายวิชา สถานศึกษา
สามารถให้ระดับผลการเรียนหรือ
ระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน
เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร
ระบบร้อยละ และระบบที่ใช้คำาสำาคัญ
สะท้อนมาตรฐาน
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
นั้น ให้ระดับผล
การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะ
ต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วม
กิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผล
งานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถาน
ศึกษากำาหนด และให้ผลการเข้าร่วม
กิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ผ่าน
ระดับมัธยมศึกษา ใน
การตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียน
รายวิชา ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผล
การเรียนเป็น ๘ ระดับ
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
นั้น ให้ระดับผล
การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะ
ต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วม
กิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผล
งานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถาน
ศึกษากำาหนด และให้ผลการเข้าร่วม
กิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ผ่าน
๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการ
สื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบ
ความก้าวหน้า ในการเรียนรู้
ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผล
การประเมินและจัดทำาเอกสารรายงาน
ให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะ ๆ หรือ
อย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง
การรายงานผลการเรียนสามารถ
รายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติ
ของผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐานการ
เรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้
๒. เกณฑ์การจบการศึกษา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน กำาหนดเกณฑ์กลางสำาหรับ
การจบการศึกษาเป็น ๓ระดับ คือ
ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลาย
๒.๑ เกณฑ์การจบระดับประถม
ศึกษา
(๑) ผู้เรียนเรียน
รายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/
กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลา
เรียน ที่หลักสูตรแกนกลางการ
ศึกษาขั้นพื้นฐานกำาหนด
(๒) ผู้เรียนต้องมีผลการ
ประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์
การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด
(๓) ผู้เรียนมีผล
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ
เขียนในระดับผ่านเกณฑ์
การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมิน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับ
ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถาน
ศึกษากำาหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการ
ประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำาหนด
๒.๒ เกณฑ์การจบระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้น
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชา
พื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน ๘๑
หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๓
หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่
สถานศึกษากำาหนด
(๒) ผู้เรียนต้องได้
หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า
๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้น
ฐาน ๖๓ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่ม
เติมไม่น้อยกว่า ๑๔ หน่วยกิต
(๓) ผู้เรียนมีผลการ
ประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์
การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการ
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใน
ระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำาหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการ
ประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำาหนด
๒.๓ เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลาย
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชา
พื้นฐานและเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า ๘๑
หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน
๓๙ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม
ตามที่สถานศึกษากำาหนด
(๒) ผู้เรียนต้องได้
หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า
๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้น
ฐาน ๓๙ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่ม
เติม ไม่น้อยว่า ๓๘ หน่วยกิต
(๓) ผู้เรียนมีผลการ
ประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียน ในระดับผ่านเกณฑ์
การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการ
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใน
ระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำาหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการ
ประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำาหนด
สำาหรับการจบการศึกษาสำาหรับ
กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษา
เฉพาะทาง การศึกษาสำาหรับผู้มีความ
สามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก
การศึกษาสำาหรับผู้ด้อยโอกาส การ
ศึกษาตามอัธยาศัย ให้
คณะกรรมการของสถานศึกษา เขต
พื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ดำาเนินการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ในแนว
ปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียน
รู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐานสำาหรับกลุ่มเป้าหมาย
เฉพาะ
เอกสารหลักฐานการศึกษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็น
เอกสารสำาคัญที่บันทึกผลการเรียน
ข้อมูลและสารสนเทศ ที่
เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของผู้เรียนใน
ด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท
ดังนี้
๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่
กระทรวงศึกษาธิการกำาหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการ
เรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียน
และรับรองผลการเรียนของผู้เรียนตาม
รายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิด
วิเคราะห์และเขียน ผลการประเมิน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถาน
ศึกษา และผลการประเมินกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้อง
บันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ให้ผู้
เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการ
ศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถม
ศึกษาปีที่ ๖) จบการศึกษาภาค
บังคับ(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓) จบการ
ศึกษาขั้นพื้นฐาน(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
๖) หรือเมื่อลาออกจากสถานศึกษาใน
ทุกกรณี
๑.๒ ประกาศนียบัตร เป็น
เอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพื่อรับรอง
ศักดิ์และสิทธิ์ของผู้จบการศึกษา ที่
สถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษา
หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51

More Related Content

What's hot

การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์ เพื่อพัฒนาทักษะแ...
การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์  เพื่อพัฒนาทักษะแ...การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์  เพื่อพัฒนาทักษะแ...
การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์ เพื่อพัฒนาทักษะแ...Sarit Promthep
 
การพัฒนาหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตรการพัฒนาหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตรJiraprapa Suwannajak
 
การจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนananphar
 
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558pakpoom khangtomnium
 
ช่วงชั้นที่1
ช่วงชั้นที่1ช่วงชั้นที่1
ช่วงชั้นที่1Trai Traiphop
 
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Polเค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ PolSamapol Klongkhoi
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9kanwan0429
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7kanwan0429
 

What's hot (10)

การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์ เพื่อพัฒนาทักษะแ...
การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์  เพื่อพัฒนาทักษะแ...การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์  เพื่อพัฒนาทักษะแ...
การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์ เพื่อพัฒนาทักษะแ...
 
การพัฒนาหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตรการพัฒนาหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตร
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
School curiculum
School curiculumSchool curiculum
School curiculum
 
การจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอน
 
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
 
ช่วงชั้นที่1
ช่วงชั้นที่1ช่วงชั้นที่1
ช่วงชั้นที่1
 
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Polเค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 

Viewers also liked

คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...โทษฐาน ที่รู้จักกัน
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อโทษฐาน ที่รู้จักกัน
 
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557โทษฐาน ที่รู้จักกัน
 
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษการบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษโทษฐาน ที่รู้จักกัน
 

Viewers also liked (20)

คณะกรรมการต่างๆ
คณะกรรมการต่างๆคณะกรรมการต่างๆ
คณะกรรมการต่างๆ
 
หลักสูตร 51
หลักสูตร 51หลักสูตร 51
หลักสูตร 51
 
คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
 
ย่อ บริษัทประชารัฐ
ย่อ บริษัทประชารัฐย่อ บริษัทประชารัฐ
ย่อ บริษัทประชารัฐ
 
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51  ฉบับปรับปรุง ระบบ HDหลักสูตร 51  ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
 
รวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษ
รวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษรวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษ
รวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษ
 
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HDหลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
 
ยุทธศาสตร์ พช 60 64
ยุทธศาสตร์ พช 60 64ยุทธศาสตร์ พช 60 64
ยุทธศาสตร์ พช 60 64
 
จปฐ 30 ข้อ ลำยอง
จปฐ 30 ข้อ ลำยองจปฐ 30 ข้อ ลำยอง
จปฐ 30 ข้อ ลำยอง
 
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้วสูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
 
สมรรถนะหลัก และ ประจำสายงาน
สมรรถนะหลัก และ ประจำสายงานสมรรถนะหลัก และ ประจำสายงาน
สมรรถนะหลัก และ ประจำสายงาน
 
คุณธรรม
คุณธรรมคุณธรรม
คุณธรรม
 
ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)
ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)
ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)
 
ย่อ สัมมาชีพชุมชน
ย่อ สัมมาชีพชุมชนย่อ สัมมาชีพชุมชน
ย่อ สัมมาชีพชุมชน
 
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
 
ลำยอง 2
ลำยอง 2 ลำยอง 2
ลำยอง 2
 
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษการบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
 
ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1
ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1
ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1
 
สูตรคณิต
สูตรคณิตสูตรคณิต
สูตรคณิต
 

Similar to หลักสูตรแกนกลาง 51

หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51Suwanan Nonsrikham
 
หลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 doc
หลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 docหลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 doc
หลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 dockrupornpana55
 
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...สอบครูดอทคอม เว็บเตรียมสอบ
 
หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑rampasri
 
หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51Suwanan Nonsrikham
 
R บทที่ 1
R บทที่  1R บทที่  1
R บทที่ 1khuwawa
 
การสอน
การสอนการสอน
การสอนguest283582b
 
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Polเค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ PolSamapol Klongkhoi
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7Dook dik
 
ตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบ
ตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบ
ตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบWongduean Phumnoi
 

Similar to หลักสูตรแกนกลาง 51 (20)

หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51
 
หลักสูตร
หลักสูตรหลักสูตร
หลักสูตร
 
หลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 doc
หลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 docหลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 doc
หลักสูตรส่วนนำต้น ปลาย. 55 doc
 
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...
ติวสอบครูผู้ช่วย (บ้านสอบครู อ.บวร)เอกสารบรรยายวิชาการศึกษา (เก่าแล้วใช้ได้บา...
 
หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑หลักสูตรส่วนที่ ๑
หลักสูตรส่วนที่ ๑
 
C
CC
C
 
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7
 
หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51หลักสูตรแกนกลาง 51
หลักสูตรแกนกลาง 51
 
Ea5103
Ea5103Ea5103
Ea5103
 
ตอนที่2 sar2554 ราชประชานุเคราะห์ 20
ตอนที่2 sar2554 ราชประชานุเคราะห์ 20ตอนที่2 sar2554 ราชประชานุเคราะห์ 20
ตอนที่2 sar2554 ราชประชานุเคราะห์ 20
 
หลักสูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลางหลักสูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลาง
 
B2
B2B2
B2
 
จุดเน้นที่ 7
จุดเน้นที่  7 จุดเน้นที่  7
จุดเน้นที่ 7
 
R บทที่ 1
R บทที่  1R บทที่  1
R บทที่ 1
 
การสอน
การสอนการสอน
การสอน
 
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Polเค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
เค้าโครงวิทยานิพนธ์ Pol
 
สรุป E 734
สรุป    E  734สรุป    E  734
สรุป E 734
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
ตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบ
ตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบ
ตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินฯศูนย์การศึกษานอกระบบ
 

More from โทษฐาน ที่รู้จักกัน

More from โทษฐาน ที่รู้จักกัน (13)

ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)
ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)
ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)
 
ย่อ กข.คจ.
ย่อ กข.คจ.ย่อ กข.คจ.
ย่อ กข.คจ.
 
จปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคี
จปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคีจปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคี
จปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคี
 
แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 ok
แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 okแนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 ok
แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 ok
 
ความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณ
ความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณ
ความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณ
 
ความรู้ทั่วไป
ความรู้ทั่วไปความรู้ทั่วไป
ความรู้ทั่วไป
 
สุรินทร์
สุรินทร์สุรินทร์
สุรินทร์
 
เพิ่มเติม รวมมิตร
เพิ่มเติม รวมมิตรเพิ่มเติม รวมมิตร
เพิ่มเติม รวมมิตร
 
คุณธรรม วินัย
คุณธรรม  วินัยคุณธรรม  วินัย
คุณธรรม วินัย
 
ชื่อคณะกรรมการต่างๆ
ชื่อคณะกรรมการต่างๆชื่อคณะกรรมการต่างๆ
ชื่อคณะกรรมการต่างๆ
 
อักษรย่อ
อักษรย่ออักษรย่อ
อักษรย่อ
 
ตารางกฎหมายการศึกษา
ตารางกฎหมายการศึกษาตารางกฎหมายการศึกษา
ตารางกฎหมายการศึกษา
 
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้วสูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
 

หลักสูตรแกนกลาง 51

  • 1. วิสัยทัศน์ มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำาลัง ของชาติให้ 1.เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้าน ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม 2.มีจิตสำานึกในความเป็นพลเมืองไทย และเป็นพลโลก 3.ยึดมั่นในการ ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุ ข 4.มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ที่จำาเป็นต่อ - การศึกษาต่อ - การประกอบอาชีพ - การศึกษาตลอดชีวิต **โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญบน พื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตาม ศักยภาพ หลักการ 1.เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็น เอกภาพของชาติ มีจุดหมายและ มาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมาย สำาหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มี ความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบน พื้นฐานของความเป็นไทยควบคู่กับ ความเป็นสากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการ ศึกษาอย่างเสมอภาค และมีคุณภาพ 3.เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการก ระจายอำานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมใน การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับ สภาพและความต้องการของท้องถิ่น 4. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มี โครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการ เรียนรู้ เวลาและการจัดการเรียนรู้ 5.เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียน เป็นสำาคัญ 6.เป็นหลักสูตรการศึกษาสำาหรับการ ศึกษาในระบบ นอกระบบ และตาม อัธยาศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และ ประสบการณ์ จุดหมาย หลักสูตรแกนกลางการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และ ประกอบอาชีพ จึงกำาหนดเป็นจุด หมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เมื่อจบ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่า นิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของ ตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลัก ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนา ที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ๒. มีความรู้ ความสามารถในการ สื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต ๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มี สุขนิสัย และรักการออกกำาลังกาย ๔. มีความรักชาติ มีจิตสำานึกในความ เป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นใน วิถีชีวิตและ การปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๕. มีจิตสำานึกในการอนุรักษ์ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การ อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต สาธารณะที่มุ่งทำาประโยชน์และสร้าง สิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันใน สังคมอย่างมีความสุข หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551
  • 2. สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรียนตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น ฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานที่กำาหนด ซึ่งจะช่วยให้ ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำาคัญและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้ สมรรถนะสำาคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น ฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำาคัญ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอด ความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความ รู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลก เปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อ รองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัด แย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับ ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ ความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธี การสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำานึง ถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็น ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การ คิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการ คิดเป็นระบบ เพื่อนำาไปสู่การสร้างองค์ ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสิน ใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่าง เหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็น ความสามารถในการแก้ปัญหาและ อุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของ หลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูล สารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปัญหา และมีการตัดสินใจที่มี ประสิทธิภาพโดยคำานึงถึงผลกระทบที่ เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและสิ่ง แวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะ ชีวิต เป็นความสามารถในการนำา กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำาเนินชีวิตประจำาวัน การเรียนรู้ ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำางาน และการอยู่ร่วมกันใน สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์ อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ของสังคมและสภาพแวดล้อม และการ รู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ กระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการ พัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการ เรียนรู้ การสื่อสาร การทำางาน การแก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมี คุณธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น ฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วม กับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
  • 3. ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมั่นในการทำางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ นอกจากนี้ สถานศึกษาสามารถ กำาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพิ่ม เติมให้สอดคล้องตามบริบทและจุดเน้น ของตนเอง มาตรฐานการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความ สมดุล ต้องคำานึงถึงหลักพัฒนาการ ทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตรแกน กลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำาหนด ให้ผู้เรียนเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียน รู้ ดังนี้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ กำาหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้า หมายสำาคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้ เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้ เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม ที่พึง ประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยัง เป็นกลไกสำาคัญ ในการ ขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อน ให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอน อย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้ง เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการ ประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบ การประเมินคุณภาพภายในและการ ประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึง การทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการ ตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าว เป็นสิ่งสำาคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการ จัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียน ให้มีคุณภาพตามที่มาตรฐานการเรียน รู้กำาหนดเพียงใด ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรีียนพึงรู้และ ปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียน ในแต่ละระดับชั้น ซึ่งสะท้อน ถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะ เจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำาไป ใช้ ในการ กำาหนดเนื้อหา จัดทำาหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์ สำาคัญสำาหรับการวัดประเมินผลเพื่อ ตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ๑. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการ พัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการ ศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษา ปีที่ ๑ – มัธยมศึกษาปีที่ ๓) ๒. ตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นเป้าหมายใน การพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย(มัธยมศึกษาปีที่ ๔- ๖) หลักสูตรได้มีการกำาหนดรหัสกำากับ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพื่อ ความเข้าใจและให้สื่อสารตรงกัน ดังนี้ ว ๑.๑ ป. ๑/๒ ป.๑/๒ ตัวชี้วัดชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๑ ข้อที่ ๒ ๑.๑ สาระที่ ๑ มาตรฐานข้อ ที่ ๑
  • 4. ว กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ต ๒.๒ ม.๔-๖/ ๓ ม.๔-๖/๓ ตัวชี้วัดชั้นมัธยมศึกษา ตอนปลาย ข้อที่ ๓ ๒.๓ สาระที่ ๒ มาตรฐานข้อ ที่ ๒ ต กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
  • 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ ซึ่งกำาหนดให้ผู้เรียนทุก คนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำาเป็นต้องเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น ๘ กลุ่ม สาระการเรียนรู้ ดังนี้ องค์ความรู้ ทักษะ สำาคัญ และคุณลักษณะ ในหลักสูตรแกน กลางการศึกษา วิทยาศาสตร์ : การนำาความรู้ และกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ไปใช้ในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ และ แก้ปัญหาอย่างเป็น ระบบ การคิดอย่างเป็น เหตุเป็นผล คิด วิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และ จิตวิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม : การอยู่ร่วมกันในสังคม ไทยและสังคมโลกอย่าง สันติสุข การเป็น พลเมืองดี ศรัทธาใน หลักธรรมของศาสนา การเห็นคุณค่าของ ทรัพยากรและสิ่ง แวดล้อม ความรักชาติ และภูมิใจในความเป็น ไทย ศิลปะ : ความรู้ และทักษะในการ คิดริเริ่ม จินตนาการ สร้างสรรค์งาน ศิลปะ สุนทรียภาพและ การเห็นคุณค่า ทางศิลปะ ภาษาไทย : ความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรมการ ใช้ภาษา เพื่อ การสื่อสาร ความชื่นชม การเห็นคุณค่า ภูมิปัญญา ไทย และ ภูมิใจในภาษาประจำา ชาติ ภาษาต่าง ประเทศ : ความรู้ทักษะ เจตคติ และ วัฒนธรรม การใช้ ภาษาต่างประเทศ ในการสื่อสาร การ แสวงหาความรู้ และการประกอบ อาชีพ การงานอาชีพและ เทคโนโลยี : ความรู้ ทักษะ และ เจตคติ ในการทำางาน การ จัดการ การดำารงชีวิต การ ประกอบอาชีพ และ การใช้เทคโนโลยี สุขศึกษาและ พลศึกษา : ความรู้ ทักษะและเจตคติใน การสร้างเสริมสุขภาพ พลานามัยของตนเอง และผู้อื่น การป้องกัน และปฏิบัติต่อ สิ่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อ สุขภาพอย่าง ถูกวิธีและทักษะใน การดำาเนินชีวิต คณิตศาสตร์ : การนำาความรู้ทักษะ และกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ไปใช้ ใน การแก้ปัญหา การ ดำาเนินชีวิต และ ศึกษาต่อ การมีเหตุ มีผล มี เจตคติที่ดีต่อ คณิตศาสตร์ พัฒนาการคิดอย่าง เป็นระบบและ สร้างสรรค์
  • 6. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ๓. มี วินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่ อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมั่น ในการทำางาน ๗. รัก ความเป็นไทย ๘. มี จิตสาธารณะ สมรรถนะสำาคัญของผู้ เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี จุดหมาย ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็น คุณค่าของตนเอง มีวินัยและ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของ พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตน นับถือ ยึดหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ๒. มีความรู้อันเป็น สากลและมีความสามารถในการ สื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การ ใช้เทคโนโลยีและมีทักษะชีวิต ๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพ จิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออก กำาลังกาย ๔. มีความรักชาติ มี จิตสำานึกในความเป็นพลเมืองไทย และพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ๕. มีจิตสำานึกในการ อนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญา ไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่ง แวดล้อม มีจิต สาธารณะที่มุ่งทำาประโยชน์และ สร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วม กันในสังคมอย่างมีความสุข กิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ๑.กิจกรรม แนะแนว ๒.กิจกรรม นักเรียน ๓. กิจกรรมเพื่อ สังคมและ สาธารณประโย ชน์ ที่มีความสมดุลทั้งด้าน ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำานึก ในความเป็นพลเมือง ไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครอง ตามระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระ มหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข มีความรู้และ ทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ที่จำาเป็นต่อการ ศึกษาต่อ การประกอบ อาชีพและการศึกษา ตลอดชีวิต โดยมุ่ง เน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญ บนพื้นฐานความเชื่อ ว่า ทุกคนสามารถ เรียนรู้และพัฒนา ตนเองได้เต็มตาม ศักยภาพ ความสัมพันธ์ของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการ เรียนรู้และตัว ชี้วัด ๘ กลุ่ม สาระการเรียน รู้ ๑. ภาษาไทย ๒. คณิตศาสตร์ ๓. วิทยาศาสตร์ ๔. สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ๕. สุขศึกษาและ พลศึกษา ๖. ศิลปะ คุณภาพของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  • 7. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น ฐานกำาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ จำานวน ๖๗ มาตรฐาน ดังนี้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจ ประวัติ ความสำาคัญ ศาสดา หลักธรรม ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตน นับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่อ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ ดี และธำารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนนับถือ สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำาเนินชีวิตในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและ ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็น พลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และ ธำารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบ การเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำารงรักษาไว้ซึ่ง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจ และสามารถบริหารจัดการทรัพยากร ในการผลิตและการบริโภค การใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำากัดได้อย่างมี ประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจ หลักการ ของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำารง ชีวิตอย่างมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความ สัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความจำาเป็น ของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจใน สังคมโลก สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความ หมาย ความสำาคัญของเวลาและยุค สมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธี การทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์ เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจ พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีต จนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำาคัญ และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิด ขึ้น มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความ เป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำารงความเป็นไทย สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะ ของโลกทางกายภาพ และความ สัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผล ต่อกัน และกันในระบบของธรรมชาติ ใช้ แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ใน การค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้ ข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี ประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพ แวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด การสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสำานึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ๗. การงาน อาชีพและ เทคโนโลยี ๘. ภาษาต่าง ประเทศ
  • 8. ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการ พัฒนาที่ยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้ เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้ มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำานึกของการทำา ประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการ ตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมี ความสุข กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ ดังนี้ ๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้ เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้าน การเรียน และอาชีพ สามารถปรับตน ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วย ให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็น กิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำาปรึกษา แก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้ เรียน ๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมี ระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำาผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การ ทำางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การ ตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การ ช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้ออาทร และ สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับ ความสามารถ ความถนัด และความ สนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วย ตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำางาน เน้น การทำางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความ เหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะ ของผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและ ท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย ๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุว กาชาด ผู้บำาเพ็ญประโยชน์ และ นักศึกษาวิชาทหาร ๒.๒ กิจกรรมชุมนุม ชมรม ๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน บำาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจใน ลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความ รับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละ ต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรม อาสาพัฒนาต่าง ๆ กิจกรรม สร้างสรรค์สังคม ระดับการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น ฐาน จัดระดับการศึกษาเป็น ๓ ระดับ ดังนี้ ๑. ระดับประถมศึกษา (ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) การศึกษา ระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษาภาค บังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการ อ่าน การเขียน การคิดคำานวณ ทักษะ การคิดพื้นฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ ทางสังคม และพื้นฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์ และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติ ปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเน้น จัดการ เรียนรู้แบบบูรณาการ ๒. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓) เป็นช่วง สุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่ง เน้นให้ผู้เรียนได้สำารวจความถนัดและ ความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการ
  • 9. พัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะใน การคิดวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหา มีทักษะในการดำาเนิน ชีวิต มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็น เครื่องมือในการเรียนรู้ มีความรับผิด ชอบต่อสังคม มีความสมดุลทั้งด้าน ความรู้ ความคิด ความดีงาม และมี ความภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจน ใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพ หรือการศึกษาต่อ ๓. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ – ๖) การศึกษา ระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะ เฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน แต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ มี ทักษะในการใช้วิทยาการและ เทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถนำาความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการศึกษาต่อและการ ประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตนและ ประเทศตามบทบาทของตน สามารถ เป็นผู้นำา และผู้ให้บริการชุมชนในด้าน ต่าง ๆ การจัดเวลาเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้น ฐาน ได้กำาหนดกรอบโครงสร้างเวลา เรียนขั้นตำ่าสำาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่ง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมได้ตาม ความพร้อมและจุดเน้น โดยสามารถ ปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถาน ศึกษาและสภาพของผู้เรียน ดังนี้ ๑. ระดับชั้นประถมศึกษา (ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) ให้จัดเวลา เรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียนวันละ ไม่เกิน ๕ ชั่วโมง ๒. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓) ให้จัดเวลา เรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียนวันละไม่ เกิน ๖ ชั่วโมง คิดนำ้าหนักของรายวิชาที่ เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ ๔๐ ชั่วโมงต่อภาคเรียน มี ค่านำ้าหนักวิชา เท่ากับ ๑ หน่วยกิต (นก.) ๓. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ - ๖) ให้จัดเวลา เรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน วันละ ไม่น้อยกว่า ๖ ชั่วโมง คิดนำ้าหนักของ รายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ ๔๐ ชั่วโมง ต่อภาคเรียน มี ค่านำ้าหนักวิชา เท่ากับ ๑ หน่วยกิต (นก.) โครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน กำาหนดกรอบโครงสร้างเวลา เรียน ดังนี้ กลุ่มสาระการ เรียนรู้/ กิจกรรม เวลาเรียน ระดับประถมศึกษา ระด มัธย ตอน
  • 10. ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ม ๑ — กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ภาษาไทย ๒ ๐ ๐ ๒ ๐ ๐ ๒ ๐ ๐ ๑ ๖ ๐ ๑ ๖ ๐ ๑ ๖ ๐ ๑๒ ๐ ( นก .) คณิตศาสตร์ ๒ ๐ ๐ ๒ ๐ ๐ ๒ ๐ ๐ ๑ ๖ ๐ ๑ ๖ ๐ ๑ ๖ ๐ ๑๒ ๐ ( นก .) วิทยาศาสตร์ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๑๒ ๐ ( นก .) สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๑๒ ๐ ( นก .) สุขศึกษา และพลศึกษา ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘๐ ( นก .) ศิลปะ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘๐ ( นก .) การงาน อาชีพและ เทคโนโลยี ๔ ๐ ๔ ๐ ๔ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘๐ ( นก .) ภาษาต่าง ประเทศ ๔ ๐ ๔ ๐ ๔ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๘ ๐ ๑๒ ๐ ( นก .) รวมเวลาเรียน (พื้นฐาน) ๘ ๐ ๐ ๘ ๐ ๐ ๘ ๐ ๐ ๘ ๐ ๐ ๘ ๐ ๐ ๘ ๐ ๐ ๘๔ ๐ (๒ ๑ นก .) — กิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑๒ ๐ —รายวิชา / กิจกรรมที่ สถานศึกษา จัดเพิ่มเติม ตามความ พร้อมและจุด เน้น ปีละไม่เกิน ๘๐ ชั่วโมง ปีละ ๒๔๐ รวมเวลาเรียน ทั้งหมด ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ชั่วโมง/ ปี ไม่เ ๑,๒ ชั่วโ การกำาหนดโครงสร้างเวลาเรียนพื้น ฐาน และเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถ ดำาเนินการ ดังนี้ ระดับประถมศึกษา สามารถปรับเวลา เรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ต้องมีเวลาเรียนรวมตามที่กำาหนดไว้ ในโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐาน และผู้ เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำาหนด ระดับมัธยมศึกษา ต้องจัดโครงสร้าง เวลาเรียนพื้นฐานให้เป็นไปตามที่ กำาหนดและสอดคล้องกับเกณฑ์การจบ หลักสูตร
  • 11. สำำหรับเวลำเรียนเพิ่มเติม ทั้งในระดับ ประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ ให้จัด เป็นรำยวิชำเพิ่มเติม หรือกิจกรรม พัฒนำผู้เรียน โดยพิจำรณำให้ สอดคล้องกับควำมพร้อม จุดเน้นของ สถำนศึกษำและเกณฑ์กำรจบหลักสูตร เฉพำะระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑-๓ สถำนศึกษำอำจจัดให้เป็นเวลำสำำหรับ สำระ กำรเรียนรู้พื้นฐำนในกลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทยและกลุ่มสำระกำร เรียนรู้คณิตศำสตร์ กิจกรรมพัฒนำผู้เรียนที่กำำหนดไว้ใน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ ถึงชั้น มัธยมศึกษำปีที่ ๓ ปีละ ๑๒๐ ชั่วโมง และชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๔-๖ จำำนวน ๓๖๐ ชั่วโมงนั้น เป็นเวลำสำำหรับ ปฏิบัติกิจกรรมแนะแนวกิจกรรม นักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและ สำธำรณประโยชน์ ในส่วนกิจกรรม เพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ให้ สถำนศึกษำจัดสรรเวลำให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ ระดับประถมศึกษำ (ป.๑-๖) รวม ๖ ปี จำำนวน ๖๐ ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น (ม. ๑-๓) รวม ๓ ปี จำำนวน ๔๕ ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย (ม. ๔-๖) รวม ๓ ปี จำำนวน ๖๐ ชั่วโมง กำรจัดกำรศึกษำสำำหรับกลุ่มเป้ำหมำย เฉพำะ กำรจัดกำรศึกษำบำงประเภท สำำหรับกลุ่มเป้ำหมำยเฉพำะ เช่น กำร ศึกษำเฉพำะทำง กำรศึกษำสำำหรับผู้มี ควำมสำมำรถพิเศษ กำรศึกษำทำง เลือก กำรศึกษำสำำหรับผู้ด้อยโอกำส กำรศึกษำตำมอัธยำศัย สำมำรถนำำ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้น ฐำนไปปรับใช้ได้ตำมควำมเหมำะสม กับสภำพและบริบทของแต่ละกลุ่มเป้ำ หมำย โดยให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำน ที่กำำหนด ทั้งนี้ให้เป็นไปตำมหลัก เกณฑ์และวิธีกำรที่กระทรวง ศึกษำธิกำรกำำหนด กำรจัดกำรเรียนรู้ กำรจัดกำรเรียนรู้เป็นกระบวน กำรสำำคัญในกำรนำำหลักสูตรสู่กำร ปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน เป็นหลักสูตรที่มีมำตรฐำน กำรเรียนรู้ สมรรถนะสำำคัญและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นเป้ำหมำยสำำหรับพัฒนำเด็กและ เยำวชน ในกำรพัฒนำผู้เรียนให้มี คุณสมบัติตำมเป้ำหมำยหลักสูตร ผู้ สอนพยำยำมคัดสรร กระบวนกำรเรียนรู้ จัดกำรเรียนรู้โดย ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่ำนสำระที่ กำำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร้ำง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนำ ทักษะต่ำงๆ อันเป็นสมรรถนะสำำคัญให้ ผู้เรียนบรรลุตำมเป้ำหมำย ๑. หลักกำรจัดกำรเรียนรู้ กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้ เรียนมีควำมรู้ควำมสำมำรถตำม มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สมรรถนะสำำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมที่ กำำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลำงกำร ศึกษำ ขั้นพื้นฐำน โดยยึดหลักว่ำ ผู้เรียนมี ควำมสำำคัญที่สุด เชื่อว่ำทุกคนมีควำม สำมำรถเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
  • 12. กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ต้องส่งเสริม ให้ผู้เรียน สำมำรถพัฒนำตำม ธรรมชำติและเต็มตำมศักยภำพ คำำนึง ถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลและ พัฒนำกำรทำงสมอง เน้นให้ ควำมสำำคัญทั้งควำมรู้ และคุณธรรม ๒. กระบวนกำรเรียนรู้ กำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้ เรียนเป็นสำำคัญ ผู้เรียนจะต้องอำศัย กระบวนกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย เป็น เครื่องมือที่จะนำำพำตนเองไปสู่เป้ำ หมำยของหลักสูตร กระบวนกำรเรียน รู้ที่จำำเป็นสำำหรับผู้เรียน อำทิ กระบวนกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำร กระบวนกำรสร้ำงควำมรู้ กระบวนกำรคิด กระบวนกำรทำงสังคม กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์และแก้ ปัญหำ กระบวนกำรเรียนรู้ จำกประสบกำรณ์จริง กระบวนกำร ปฏิบัติ ลงมือทำำจริง กระบวนกำร จัดกำร กระบวนกำรวิจัย กระบวนกำร เรียนรู้กำรเรียนรู้ของตนเอง กระบวนกำรพัฒนำลักษณะนิสัย กระบวนกำรเหล่ำนี้เป็นแนวทำง ในกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับ กำรฝึกฝน พัฒนำ เพรำะจะสำมำรถ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้ำหมำยของหลักสูตร ดังนั้น ผู้ สอน จึงจำำเป็นต้อง ศึกษำทำำควำมเข้ำใจในกระบวนกำร เรียนรู้ต่ำง ๆ เพื่อให้สำมำรถเลือกใช้ ในกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ ๓. กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ ผู้สอนต้องศึกษำหลักสูตร สถำนศึกษำให้เข้ำใจถึงมำตรฐำนกำร เรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำำคัญของ ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสำระกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับผู้ เรียน แล้วจึงพิจำรณำออกแบบกำร จัดกำรเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและ เทคนิคกำรสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ กำร วัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้ พัฒนำเต็มตำมศักยภำพและบรรลุตำม เป้ำหมำยที่กำำหนด ๔. บทบำทของผู้สอนและผู้เรียน กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้ เรียนมีคุณภำพตำมเป้ำหมำยของ หลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมี บทบำท ดังนี้ ๔.๑ บทบำทของผู้สอน ๑) ศึกษำวิเครำะห์ผู้เรียนเป็นรำย บุคคล แล้วนำำข้อมูลมำใช้ในกำร วำงแผน กำรจัดกำรเรียนรู้ ที่ท้ำทำยควำม สำมำรถของผู้เรียน ๒) กำำหนดเป้ำหมำยที่ต้องกำร ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้ำนควำมรู้และ ทักษะ กระบวนกำร ที่เป็นควำมคิดรวบยอด หลักกำร และควำมสัมพันธ์ รวมทั้ง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓) ออกแบบ กำรเรียนรู้และจัดกำรเรียนรู้ที่ตอบ สนองควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลและ พัฒนำกำรทำงสมอง เพื่อนำำผู้เรียนไป สู่เป้ำหมำย ๔) จัดบรรยำกำศที่เอื้อต่อกำร เรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้ เกิดกำรเรียนรู้ ๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้ เหมำะสมกับกิจกรรม นำำภูมิปัญญำ ท้องถิ่น เทคโนโลยีที่เหมำะสมมำประยุกต์ใช้ ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ๖) ประเมินควำมก้ำวหน้ำของผู้ เรียนด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย เหมำะ สมกับ
  • 13. ธรรมชำติของวิชำและระดับ พัฒนำกำรของผู้เรียน ๗) วิเครำะห์ผลกำรประเมินมำใช้ ในกำรซ่อมเสริมและพัฒนำผู้เรียน รวมทั้ง ปรับปรุงกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของ ตนเอง ๔.๒ บทบำทของผู้เรียน ๑) กำำหนดเป้ำหมำย วำงแผน และรับผิดชอบกำรเรียนรู้ของ ตนเอง ๒) เสำะแสวงหำควำมรู้ เข้ำถึง แหล่งกำรเรียนรู้ วิเครำะห์ สังเครำะห์ ข้อควำมรู้ ตั้งคำำถำม คิดหำคำำตอบหรือหำแนวทำง แก้ปัญหำด้วยวิธีกำรต่ำง ๆ ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วย ตนเอง และนำำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ มีปฏิสัมพันธ์ ทำำงำน ทำำกิจกรรมร่วม กับกลุ่มและครู ประเมินและพัฒนำกระบวนกำรเรียนรู้ ของตนเองอย่ำงต่อเนื่อง สื่อกำรเรียนรู้ สื่อกำรเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริม สนับสนุนกำรจัดกำรกระบวนกำรเรียน รู้ ให้ผู้เรียนเข้ำถึงควำมรู้ ทักษะ กระบวนกำร และคุณลักษณะตำม มำตรฐำนของหลักสูตรได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ สื่อกำร เรียนรู้มีหลำกหลำยประเภท ทั้งสื่อ ธรรมชำติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ เทคโนโลยี และเครือข่ำย กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ที่มีในท้องถิ่น กำร เลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีควำมเหมำะ สมกับระดับพัฒนำกำร และลีลำกำร เรียนรู้ที่หลำกหลำยของผู้เรียน กำรจัดหำสื่อกำรเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้ สอนสำมำรถจัดทำำและพัฒนำขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่ำงมีคุณภำพ จำกสื่อต่ำงๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำำมำ ใช้ประกอบในกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ สำมำรถส่งเสริมและสื่อสำรให้ผู้เรียน เกิดกำรเรียนรู้ โดยสถำนศึกษำควร จัดให้มีอย่ำงพอเพียง เพื่อพัฒนำให้ผู้ เรียน เกิดกำรเรียนรู้อย่ำง แท้จริง สถำนศึกษำ เขตพื้นที่กำร ศึกษำ หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องและผู้ มีหน้ำที่จัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ควร ดำำเนินกำรดังนี้ ๑. จัดให้มีแหล่งกำรเรียนรู้ ศูนย์สื่อกำรเรียนรู้ ระบบสำรสนเทศ กำรเรียนรู้ และเครือข่ำย กำรเรียนรู้ที่มีประสิทธิภำพทั้งในสถำน ศึกษำและในชุมชน เพื่อกำรศึกษำ ค้นคว้ำและกำรแลกเปลี่ยน ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ ระหว่ำงสถำน ศึกษำ ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก ๒. จัดทำำและจัดหำสื่อกำรเรียน รู้สำำหรับกำรศึกษำค้นคว้ำของผู้เรียน เสริมควำมรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหำ สิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมำประยุกต์ใช้เป็น สื่อกำรเรียนรู้ ๓. เลือกและใช้สื่อกำรเรียนรู้ที่มี คุณภำพ มีควำมเหมำะสม มีควำม หลำกหลำย สอดคล้อง กับวิธี กำรเรียนรู้ ธรรมชำติของสำระกำร เรียนรู้ และควำมแตกต่ำงระหว่ำง บุคคลของผู้เรียน ๔. ประเมินคุณภำพของสื่อกำร เรียนรู้ที่เลือกใช้อย่ำงเป็นระบบ ๕. ศึกษำค้นคว้ำ วิจัย เพื่อ พัฒนำสื่อกำรเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ กระบวนกำรเรียนรู้ของผู้เรียน
  • 14. ๖. จัดให้มีกำรกำำกับ ติดตำม ประเมินคุณภำพและประสิทธิภำพเกี่ยว กับสื่อและกำรใช้สื่อ กำรเรียนรู้เป็นระยะๆ และสมำ่ำเสมอ ในกำรจัดทำำ กำรเลือกใช้ และกำร ประเมินคุณภำพสื่อกำรเรียนรู้ที่ใช้ใน สถำนศึกษำ ควร คำำนึงถึงหลักกำรสำำคัญของสื่อกำร เรียนรู้ เช่น ควำมสอดคล้องกับ หลักสูตร วัตถุประสงค์กำรเรียนรู้ กำรออกแบบกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำร จัดประสบกำรณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหำมี ควำมถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบควำมมั่นคงของชำติ ไม่ขัด ต่อศีลธรรม มีกำรใช้ภำษำที่ถูกต้อง รูปแบบกำรนำำเสนอที่เข้ำใจง่ำย และ น่ำสนใจ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักกำรพื้นฐำน สองประกำรคือ กำรประเมินเพื่อพัฒนำผู้เรียนและเพื่อ ตัดสินผลกำรเรียน ในกำรพัฒนำ คุณภำพกำรเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้อง ได้รับกำรพัฒนำและประเมินตำมตัวชี้ วัดเพื่อให้บรรลุตำมมำตรฐำนกำรเรียน รู้ สะท้อนสมรรถนะสำำคัญ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ซึ่งเป็นเป้ำหมำยหลักในกำรวัดและ ประเมินผลกำรเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่ำ จะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถำน ศึกษำ ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ และ ระดับชำติ กำรวัดและประเมินผลกำร เรียนรู้ เป็นกระบวนกำรพัฒนำ คุณภำพผู้เรียนโดยใช้ผลกำรประเมิน เป็นข้อมูลและสำรสนเทศที่แสดง พัฒนำกำร ควำมก้ำวหน้ำ และควำม สำำเร็จทำงกำรเรียนของผู้เรียน ตลอด จนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกำรส่ง เสริมให้ผู้เรียนเกิด กำร พัฒนำและเรียนรู้อย่ำงเต็มตำม ศักยภำพ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้น เรียน ระดับสถำนศึกษำ ระดับเขตพื้นที่ กำรศึกษำ และระดับชำติ มีรำย ละเอียด ดังนี้ ๑. กำรประเมินระดับชั้นเรียน เป็นกำรวัดและประเมินผลที่อยู่ใน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ผู้สอน ดำำเนินกำรเป็นปกติและสมำ่ำเสมอ ใน กำรจัดกำรเรียนกำรสอน ใช้เทคนิค กำรประเมินอย่ำงหลำกหลำย เช่น กำรซักถำม กำรสังเกต กำรตรวจ กำรบ้ำน กำรประเมินโครงงำน กำร ประเมินชิ้นงำน/ ภำระงำน แฟ้มสะสม งำน กำรใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้ สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกำส ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมิน เพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณี ที่ไม่ผ่ำนตัวชี้วัดให้มี กำรสอนซ่อม เสริม กำรประเมินระดับชั้นเรียน เป็นกำรตรวจสอบว่ำ ผู้เรียนมี พัฒนำกำรควำมก้ำวหน้ำใน กำรเรียนรู้ อันเป็นผลมำจำกกำรจัด กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือไม่ และ มำกน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับ กำรพัฒนำปรับปรุงและส่งเสริมในด้ำน ใด นอกจำกนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอน ใช้ปรับปรุง กำรเรียนกำรสอนของตนด้วย ทั้งนี้ โดยสอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้ และตัวชี้วัด
  • 15. ๒. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำ เป็นกำรประเมินที่สถำนศึกษำดำำเนิน กำรเพื่อตัดสินผล กำรเรียนของผู้ เรียนเป็นรำยปี/รำยภำค ผลกำร ประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์และ เขียน คุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน นอกจำกนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับกำร จัดกำรศึกษำ ของสถำน ศึกษำ ว่ำส่งผลต่อกำรเรียนรู้ของผู้ เรียนตำมเป้ำหมำยหรือไม่ ผู้เรียนมีจุด พัฒนำในด้ำนใด รวมทั้งสำมำรถนำำ ผลกำรเรียนของผู้เรียนในสถำนศึกษำ เปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชำติ ผล กำรประเมินระดับสถำนศึกษำจะเป็น ข้อมูลและสำรสนเทศเพื่อกำรปรับปรุง นโยบำย หลักสูตร โครงกำร หรือวิธี กำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตลอดจน เพื่อกำรจัดทำำแผนพัฒนำคุณภำพกำร ศึกษำของสถำนศึกษำ ตำมแนวทำงกำรประกันคุณภำพกำร ศึกษำและกำรรำยงำนผลกำรจัดกำร ศึกษำต่อคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ สำำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ สำำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้น พื้นฐำน ผู้ปกครองและชุมชน ๓. กำรประเมินระดับเขตพื้นที่ กำรศึกษำ เป็นกำรประเมินคุณภำพผู้ เรียนในระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำตำม มำตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกน กลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อใช้เป็น ข้อมูลพื้นฐำนในกำรพัฒนำคุณภำพ กำรศึกษำของเขตพื้นที่กำรศึกษำ ตำมภำระควำมรับผิดชอบ สำมำรถ ดำำเนินกำรโดยประเมินคุณภำพผล สัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบ มำตรฐำนที่จัดทำำและดำำเนินกำรโดย เขตพื้นที่กำรศึกษำ หรือด้วยควำมร่วม มือกับหน่วยงำนต้นสังกัด ในกำร ดำำเนินกำรจัดสอบ นอกจำกนี้ยังได้ จำกกำรตรวจสอบทบทวนข้อมูลจำก กำรประเมินระดับสถำนศึกษำในเขต พื้นที่กำรศึกษำ ๔. กำรประเมินระดับชำติ เป็นกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนใน ระดับชำติตำมมำตรฐำน กำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำร ศึกษำขั้นพื้นฐำน สถำนศึกษำต้องจัด ให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้น ประถมศึกษำปีที่ ๓ ชั้นประถมศึกษำ ปีที่ ๖ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ และชั้น มัธยมศึกษำปีที่ ๖ เข้ำรับกำรประเมิน ผลจำกกำรประเมินใช้เป็นข้อมูลใน กำรเทียบเคียงคุณภำพกำรศึกษำใน ระดับต่ำง ๆ เพื่อนำำไปใช้ในกำร วำงแผนยกระดับคุณภำพกำรจัดกำร ศึกษำ ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน กำรตัดสินใจในระดับนโยบำยของ ประเทศ ข้อมูลกำรประเมินในระดับต่ำง ๆ ข้ำงต้น เป็นประโยชน์ต่อสถำนศึกษำ ในกำรตรวจสอบทบทวนพัฒนำ คุณภำพผู้เรียน ถือเป็นภำระควำมรับ ผิดชอบของสถำนศึกษำที่จะต้องจัด ระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่ง เสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนำ เต็มตำมศักยภำพบนพื้นฐำน ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลที่จำำแนก ตำมสภำพปัญหำและควำมต้องกำร ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่ มีควำมสำมำรถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนตำ่ำ กลุ่มผู้เรียน ที่มีปัญหำด้ำนวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้ เรียนที่มีปัญหำทำงเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิกำรทำงร่ำงกำยและสติปัญญำ เป็นต้น ข้อมูลจำกกำรประเมินจึงเป็น หัวใจของสถำนศึกษำในกำรดำำเนิน กำรช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิิด
  • 16. โอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ ประสบความสำาเร็จในการเรียน สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบ จัดการศึกษา จะต้องจัดทำาระเบียบว่า ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็น ไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็น ข้อกำาหนดของหลักสูตรแกนกลางการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บุคลากรที่ เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน ๑. การตัดสิน การให้ระดับและการ รายงานผลการเรียน ๑.๑ การตัดสินผลการเรียน ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่ม สาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอน ต้องคำานึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละ คนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้ เรียนทุกด้านอย่างสมำ่าเสมอและต่อเนื่อง ในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อม เสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตาม ศักยภาพ ระดับประถมศึกษา (๑) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน ทั้งหมด (๒) ผู้เรียนต้องได้รับการ ประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ ที่สถานศึกษา กำาหนด (๓) ผู้เรียนต้องได้รับการ ตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา (๔) ผู้เรียนต้องได้รับการ ประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตาม เกณฑ์ที่ สถานศึกษากำาหนด ในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ระดับมัธยมศึกษา (๑) ตัดสินผลการเรียนเป็น รายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอด ภาคเรียนไม่น้อย กว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด ในรายวิชานั้น ๆ (๒) ผู้เรียนต้องได้รับการ ประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ ที่สถานศึกษา กำาหนด (๓) ผู้เรียนต้องได้รับการ ตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา (๔) ผู้เรียนต้องได้รับการ ประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตาม เกณฑ์ที่ สถานศึกษากำาหนด ในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การพิจารณาเลื่อนชั้นทั้งระดับ ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ถ้าผู้ เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และ สถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าสามารถ พัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ใน ดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผัน ให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ผ่าน รายวิชาจำานวนมาก และมีแนวโน้มว่า จะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้น ที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะ กรรมการพิจารณาให้เรียนซำ้าชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำานึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ ความสามารถของผู้เรียนเป็นสำาคัญ ๑.๒ การให้ระดับผลการเรียน ระดับประถมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผล การเรียนรายวิชา สถานศึกษา สามารถให้ระดับผลการเรียนหรือ ระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร ระบบร้อยละ และระบบที่ใช้คำาสำาคัญ สะท้อนมาตรฐาน
  • 17. การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นั้น ให้ระดับผล การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะ ต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วม กิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผล งานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถาน ศึกษากำาหนด และให้ผลการเข้าร่วม กิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ผ่าน ระดับมัธยมศึกษา ใน การตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียน รายวิชา ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผล การเรียนเป็น ๘ ระดับ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นั้น ให้ระดับผล การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะ ต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วม กิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผล งานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถาน ศึกษากำาหนด และให้ผลการเข้าร่วม กิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ผ่าน ๑.๓ การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียนเป็นการ สื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบ ความก้าวหน้า ในการเรียนรู้ ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผล การประเมินและจัดทำาเอกสารรายงาน ให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะ ๆ หรือ อย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง การรายงานผลการเรียนสามารถ รายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติ ของผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐานการ เรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๒. เกณฑ์การจบการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน กำาหนดเกณฑ์กลางสำาหรับ การจบการศึกษาเป็น ๓ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย ๒.๑ เกณฑ์การจบระดับประถม ศึกษา (๑) ผู้เรียนเรียน รายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/ กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลา เรียน ที่หลักสูตรแกนกลางการ ศึกษาขั้นพื้นฐานกำาหนด (๒) ผู้เรียนต้องมีผลการ ประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด (๓) ผู้เรียนมีผล การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขียนในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับ ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถาน ศึกษากำาหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการ ประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำาหนด ๒.๒ เกณฑ์การจบระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชา พื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน ๘๑ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๓ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่ สถานศึกษากำาหนด (๒) ผู้เรียนต้องได้ หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้น ฐาน ๖๓ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่ม เติมไม่น้อยกว่า ๑๔ หน่วยกิต (๓) ผู้เรียนมีผลการ ประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และ
  • 18. เขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใน ระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำาหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการ ประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำาหนด ๒.๓ เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชา พื้นฐานและเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า ๘๑ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๓๙ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม ตามที่สถานศึกษากำาหนด (๒) ผู้เรียนต้องได้ หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้น ฐาน ๓๙ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่ม เติม ไม่น้อยว่า ๓๘ หน่วยกิต (๓) ผู้เรียนมีผลการ ประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียน ในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำาหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใน ระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำาหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการ ประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำาหนด สำาหรับการจบการศึกษาสำาหรับ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษา เฉพาะทาง การศึกษาสำาหรับผู้มีความ สามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำาหรับผู้ด้อยโอกาส การ ศึกษาตามอัธยาศัย ให้ คณะกรรมการของสถานศึกษา เขต พื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำาเนินการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ในแนว ปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียน รู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานสำาหรับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะ เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็น เอกสารสำาคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศ ที่ เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของผู้เรียนใน ด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่ กระทรวงศึกษาธิการกำาหนด ๑.๑ ระเบียนแสดงผลการ เรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียน และรับรองผลการเรียนของผู้เรียนตาม รายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน ผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถาน ศึกษา และผลการประเมินกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้อง บันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ให้ผู้ เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการ ศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถม ศึกษาปีที่ ๖) จบการศึกษาภาค บังคับ(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓) จบการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖) หรือเมื่อลาออกจากสถานศึกษาใน ทุกกรณี ๑.๒ ประกาศนียบัตร เป็น เอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพื่อรับรอง ศักดิ์และสิทธิ์ของผู้จบการศึกษา ที่ สถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษา