SlideShare a Scribd company logo
1 of 25
บทที่ 9
การนาหลักสูตรไปใช้
มโนทัศน์(Concept)
การน าห ลัก สู ตร ไ ปใ ช้เ ป็ น ขั้ น ตอ น ที่ส า คัญ ยิ่ง ใ น ก า รพัฒ น า ห ลั ก สู ต ร
เ พ ร า ะ เ ป็ น ก า ร น า อุ ด ม ก า ร ณ์ จุ ด ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร
เ นื้ อ ห า วิช า แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ก า ร เ รี ย น รู้ ที่ คั ด ส ร ร อ ย่า ง ดี แ ล้ว ไ ป สู่ผู้ เ รี ย น
นักพัฒนาหลักสูตรทุกคนต่างก็ยอมรับความสาคัญของขั้นตอนในการนาหลักสู ตรไ ปใ ช้
ว่ า มี ค ว า ม ส า คั ญ ยิ่ ง ก ว่ า ขั้ น ต อ น อื่ น ใ ด ทั้ ง ห ม ด
เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสาเร็จหรือความล้มเหลวของหลักสูตรโดยตรง หลักสูตรแม้จะได้สร้างไว้ดีเพียงใดก็ตาม
ยั ง ไ ม่ ส า ม า ร ถ จ ะ ก ล่ า ว ไ ด้ ว่ า จ ะ ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส า เ ร็ จ ห รื อ ไ ม่
ถ้าหากว่าการนาหลักสูตรไปใช้ดาเนินไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ดีเพียงพอความล้มเหลวของหลักสูตรจะบังเ
กิ ด ขึ้ น อ ย่ า ง ห ลี ก เ ลี่ ย ง ไ ม่ ไ ด้
เพราะฉะนั้นการนาหลักสูตรไปใช้จึงมีความสาคัญที่บุคคลผู้เกี่ยวข้องในการนาหลักสูตรไปใช้จะต้องทาควา
ม เ ข้ า ใ จ กั บ วิ ธี ก า ร ขั้ น ต อ น ต่ า ง ๆ
เพื่อให้ความสามารถนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุดสมความมุ่งหมายทุกประการ
ผลการเรียนรู้(Learning Outcome)
4. มีความรู้ ความเข้าใจ การนาหลักสูตรไปใช้
5. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้
6. สามารถบอกบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อการประสานงานเมื่อนาหลักสูตรไปใช้
สาระเนื้อหา(Content)
การนาหลักสูตรไปใช้
ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้เ ป็ น ขั้ น ต อ น ส า คัญ ข อ ง ก า ร พัฒ น า ห ลั ก สู ต ร
เ ป็ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ด า เ นิ น ง า น แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ
ในการนาหลักสูตรไปสู่โรงเรียนและจัดการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุจุดหมายของหลักสู ตร
การนาหลักสูตรไปใช้เป็ นงานเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายตั้งแต่ระดับกระทรวงศึกษาธิการ
แต่ละฝ่ายมีความเกี่ยวข้องในแต่ละส่วนของการนาหลักสูตรไปใช้ เช่น หน่วยงานส่วน กลาง
เกี่ยวข้องในด้านการบริหารและบริการหลักสูตรกับการนิเทศและติดตามผลการใช้หลักสู ตร
ผู้บริหารสถานศึกษาเกี่ยวข้องในด้านการบริหารและบริการหลักสูตร การจัดปัจจัยและสภาพแวดล้อมต่างๆ
ภายในสถานศึกษา ครูผู้สอน เกี่ยวข้องในด้านการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตรใน
ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้จ า ต้อ ง เ ป็ น ขั้ น ต อ น ต า ม ล า ดับ นั บ แ ต่ขั้ น ก า ร ว า ง แ ผ น
และ เ ตรี ยมการใ น การประ ชาสัมพันธ์ หลักสู ตร และ การเ ตรี ยมบุคลากรที่เ กี่ยวข้อง
ขั้นต่อมาคือดาเนินการนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีระบบ นับแต่การจัดครูเข้าสอนตามหลักสู ตร
การบริ การ วัส ดุห ลักสู ต รแ ละ สิ่ ง อา น ว ย ค วา ม สะ ดว กใ น กา รน าห ลักสู ต ร ไ ป ใ ช้
และการดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร ส่วนขั้นสุดท้ายต้องติดตามประเมินผลการนาหลักสูตรไปใช้
นับแต่นิเทศติดตามผลการใช้หลักสูตร การติดตามและประเมินผล การใช้หลักสูตร การนาหลักสูตรไปใช้
ถือเ ป็ น กระ บวน การที่สาคัญที่จะ ทาใ ห้ห ลักสู ตรที่ สร้าง ขึ้ น บรร ลุผล ตา มจุ ด ห มา ย
และ เ ป็ น กระ บวน การที่ต้อง ได้รับความร่วมมือจาก บุคคล ที่เ กี่ยวข้อง หลายๆ ฝ่ าย
และที่สาคัญที่สุดคือครูผู้สอน
1. ความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้
การนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติงานที่มีขอบเขตกว้างขวาง
ท า ใ ห้ ก า ร ใ ห้ ค ว า มห มา ย ข อ ง ค า ว่า ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้แ ต ก ต่า ง กัน อ อ กไป
นักการศึกษาหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นหรือให้คานิยามของคาว่าการนาหลักสูตรไปใช้ดังนี้
โบแชมป์ (Beauchamp, 1975 : 164) ได้ให้ความหมายของการนาหลักสูตรไปใ ช้ว่า
การนาหลักสูตรไปใช้ หมายถึง การนาหลักสูตรไปปฏิบัติ โดยประกอบด้วยกระบวนการที่สาคัญที่สุดคือ
การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน การจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้ครูได้พัฒนาการเรียนการสอน
สั น ต์ ธ ร ร ม บ า รุ ง ( 2527: 120) ก ล่ า ว ว่ า
การนาหลักสูตรไปใช้หมายถึงการที่ผู้บริหารโรงเรียนและครูนาโครงการของหลักสูตรที่เป็ นรูปเล่มนั้นไปป
ฏิ บั ติ บั ง เ กิ ด ผ ล
และรวมถึงการบริหารงานด้วยวิชาการของโรงเรียนเพื่ออานวยความสะดวกให้ครูและนักเรียนสามารถสอน
และเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จั น ท ร า ( Chandra, 1977 : 1)
ได้ให้ความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้ว่าเป็นการทดลองใช้เนื้อหาวิชาวิธีการสอน เทคนิคการประเมิน
การใ ช้อุปกรณ์การสอบแบบเ รี ยน และทรัพ ยากรต่างๆ ใ ห้เกิดประโยชน์ แก่นักเรียน
โดยมีครูและผู้ร่างหลักสูตรเป็นผู้ปัญหาแล้วหาคาตอบให้ได้จากการประเมินผล
รายงานการประชุมทางวิชาการเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรของประเทศในภูมิภาค (APEID, 1977
: 3) ก ล่ า ว ว่ า
การนาหลักสูตรไปใช้มีความหมายครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตรไปจนถึงการอบรมครูผู้สอนให้เป็นผู้
มีสมรรถนะที่จาเป็น พร้อมที่จะนาหลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลตามเป้าหมายที่กาหนดไว้
ธ า ร ง บัว ศ รี ( 2514 : 165) ก ล่า ว ว่า ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ห มา ย ถึ ง
กระบวนการเรียนการสอนสาหรับสอนเป็นประจาทุกๆ วัน
สุ มิ ต ร คุ ณ า ก ร ( 2520 : 130) ก ล่ า ว ว่ า
การน าหลักสู ตรไปใ ช้เ ป็ น กระ บวน การที่ทาใ ห้หลักสู ตรก ลายเ ป็ น การ ปฏิบั ติ จ ริ ง
และเป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการพัฒนาหลักสูตรและมีกิจกรรมที่จะกระทาได้ 3ประการ คือ
1. การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน
2. การจัดปัจจัยและสภาพต่างๆ ภายในโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร
3. การสอนของครู
จากความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้ตามที่นักการศึกษาได้ให้ไว้ข้างต้น พอสรุปได้ว่า
ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ห ม า ย ถึ ง ก า ร ด า เ นิ น ง า น แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ
ในอันที่จะทาให้หลักสูตรที่สร้างขึ้นดาเนินไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นับแต่การเตรียมบุคลากร
อาคาร สถานที่ วัสดุอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม และการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน
2. แนวคิดเกี่ยวกับการนาหลักสูตรไปใช้
ถ้าเรายอมรับว่าการนาหลักสูตรไปใช้เป็นขั้นตอนหนึ่งที่สาคัญที่สุดที่จะทาให้หลักสูตรบังเกิด
ผ ล ต่ อ ก า ร ใ ช้ อ ย่ า ง แ ท้ จ ริ ง แ ล้ ว
การนาหลักสูตรไปใช้ก็ควรจะเป็นวิธีการปฏิบัติการที่มีหลักเกณฑ์และมีกระบวนการปฏิบัติที่มีประสิทธิภา
พพอที่จะมั่นใจได้ว่า หลักสูตรที่สร้างขึ้นนั้นจะได้มีโอกาสนาไปปฏิบัติจริงๆ อย่างแน่นอน
นักการศึกษาต่างก็ให้ทัศนะซึ่งเป็นแนวคิดในการนาหลักสูตรไปใช้ดังนี้
โ บ แ ช ม ป์ ( Beauchamp, 1975: 169) ก ล่ า ว ว่า สิ่ ง แ ร ก ที่ ค ว ร ท า คื อ
การจัดสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ครูผู้นาหลักสูตรไปใช้มีหน้าที่แปลงหลักสูตรไปสู่การสอน
โ ด ย ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ห ลั ก ใ น ก า ร พั ฒ น า ก ล วิ ธี ก า ร ส อ น
สิ่งที่ควรคานึงถึงในการนาหลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลตามเป้าหมาย
1. ครูผู้สอนควรมีส่วนร่วมในการร่างหลักสูตร
2. ผู้บริหารต้องเห็นความสาคัญและสนับสนุนการดาเนินงานให้เกิดผลสาเร็จได้
ผู้นาที่สาคัญที่จะรับผิดชอบได้ดี คือครูใหญ่
ท า น ก า ร์ ด ( Tankard, 1974 : 46- 88) ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม เ ห็ น ว่ า
ความสาเร็จของการนาหลักสูตรไปใช้อยู่ที่การวางแผนการทดลองใช้ ซึ่งมีองค์ประกอบต่างๆ คือ
1. รายละเอียดของโครงการ
2. ปรัชญาและจุดมุ่งหมาย
3. แผนการนาไปใช้และการดาเนินการ
ผู้เกี่ยวข้องในการนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งมีศึกษานิเทศก์ ครูใหญ่ผู้บริหารระดับต่างๆ
เป็นส่วนใหญ่จะต้องร่วมมือกันดาเนินงานตั้งแต่การทาโครงการปรับปรุงหลักสูตร กาหนดจุดมุ่งหมาย
จัดทาเนื้อหาแผนการนาไปทดลองใช้ และการประเมินผล ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการนาไปทดลองใช้
จะต้องบันทึกไว้ทั้งหมด เพื่อนาไปเป็นข้อมูลในการแก้ไขปรับปรุงหลักสูตร
ส า ห รั บ เ ว อ ร์ ดุ น ( Verduin, 1977 : 88- 90) เ ข า ใ ห้ ทั ศ น ะ ว่ า
การนาหลักสูตรไปใช้จะต้องเริ่มดาเนินการโดยการนิเทศให้ครูในโรงเรียนเข้าใจหลักสูตร
แล้วตั้งกลุ่มปฏิบัติการขึ้นเพื่อการศึกษาปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการใช้หลักสูตรจากพื้นที่ที่เป็นปัญหาห
ล า ย ๆ แ ห่ ง เ พื่ อ ใ ห้ ไ ด้ ข้ อ มู ล ม า ก ที่ สุ ด
กลุ่มปฏิบัติการนี้จะต้องเข้าไปทางานร่วมกันกับครูผู้สอนอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจและมีคว
า ม สั ม พั น ธ์ อั น ดี ต่ อ กั น
การจัดการอบรมปฏิบัติการแก่ครูประจาการถือว่าเป็นกิจกรรมที่สาคัญที่สุดในการนาหลักสูตรไปใช้
ต้องใช้วิทยากรผู้เชี่ยวชาญการสอนโดยเฉพาะสามารถฝึกผู้อื่นได้ดีและมีวิธีการให้ครูเกิดความสนใจ
ถ้ามีข้อเสนอแนะให้มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการใช้หลักสูตรควรเลือกครูผู้สอนที่อาสาสมัครและเต็มใจ
ไม่ควรใช้ครูทุกคนในโรงเรียนเพราะอาจมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยและไม่เต็มใจกับการเปลี่ยนแปลง
จึ ง ค ว ร ท า แ บ บ ค่ อ ย เ ป็ น ค่ อ ย ไ ป เ พื่ อ ใ ห้ ค รู ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ข้ า ใ จ
จะทาให้การเปลี่ยนแปลงมีความหมายและได้รับการยอมรับโดยปริยาย
จากเ อกสา ร กา ร ป ระ ชุมข อง ป ระ เ ทศ ต่าง ๆ ใ น เ อเ ชีย ( APEID, 1977 : 29)
ใ น ก า ร ป ร ะ ชุ ม ท บ ท ว น ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ต่า ง ๆ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ใ น เ อ เ ชี ย เ รื่ อ ง
ยุทธศาสตร์การนาหลักสูตรไปใช้ได้สรุปเป็นองค์ประกอบที่สาคัญได้ดังนี้
1.
วางแผนและเตรียมการนาหลักสูตรไปใช้โดยให้คนหลายกลุ่มเข้าร่วมแสวงหาการสนับสนุนจากประชาชนแ
ละจัดเตรียมทรัพยากร (มนุษย์และวัสดุ) ให้พร้อม
2. จัดให้มีหน่วยงานส่งเสริมการนาหลักสูตรไปใช้ให้เป็นไปได้สะดวกและรวดเร็ว
3. กาหนดวิถีทางและกระบวนการนาหลักสูตรไปใช้อย่างเป็นขั้นตอน รวมเหตุผลต่างๆ
ที่จะใช้ในการจูงใจครูและติดตามผลการปฏิบัติงาน
ธ า ร ง บั ว ศ รี ( 2514: 165- 195)
ได้สรุปชี้ให้เห็นปัจจัยจะนาไปสู่ความสาเร็จของการนาหลักสูตรไปใช้ไว้ว่าควรคานึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. โครงการสอน เช่น การวางโครงการสอนแบบหน่วย (Unit Organization of Instruction,
Teaching Unit) ประเภทของหน่วยการสอนมี 2 ประเภท คือ หน่วยรายวิชา (Subject Matter Unit)
และหน่วยงานประสบการณ์ (Experience Unit)
2. หน่วยวิทยาการ (Resource Unit) เป็ นแหล่งให้ความรู้แก่ครู เช่น เอกสาร คู่มือ
และแนวการปฏิบัติต่างๆ
3. องค์ประกอบอื่นๆ ที่ช่วยในการสอน เช่น สถานที่และเครื่ อง มือเ ครื่ อง ใ ช้
อุปกรณ์การเ รี ยน การสอน วิธี การสอน และ วัดผลการศึกษา กิจกรรมร่วมหลักสู ต ร
การแนะนาการจัดและบริหารโรงเรียนเป็นต้น
วิ ชั ย ว ง ษ์ ใ ห ญ่ ( 2521: 140 - 141) ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม เ ห็ น ว่ า
ผู้มีบทบาทในการนาหลักสูตรไปใช้ให้บรรลุจุดหมายมี 3กลุ่ม คือ ครูใหญ่ครูประจาชั้น และชุมชน
ในจานวนนี้ครูใหญ่เป็นผู้ที่มีบทบาทมากที่สุดที่จะต้องศึกษาและวางแผนเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรโดยมีขั้นต
อนสรุปสั้นๆ ได้ดังนี้
1. เตรียมวางแผน
2. เตรียมจัดอบรม
3. การจัดครูเข้าสอน
4. การจัดตารางสอน
5. การจัดวัสดุประกอบหลักสูตร
6. การประชาสัมพันธ์
7. การจัดสภาพแวดล้อมและการเลือกกิจกรรมเสริมหลักสูตร
8. การจัดโครงการประเมิน
จากเอกสารทางวิชาการของแผนกวิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(2516:11) กล่าวถึงบทบาทของโรงเรียนในการนาหลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลที่ควรจัดกิจกรรมดังนี้
1. ประชุมครูเพื่อศึกษาหลักสูตรและทาโครงการสอน
2. จัดอบรมครู เพื่อให้เพิ่มพูนความรู้จากวิทยากรในด้วยวิธีการสอนแบบใหม่ๆ
3. เตรียมเอกสารทุกชนิดไว้ให้ค้นคว้าและอ่านประกอบ
จากคู่มือการนาหลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521 ไปใช้ (กรมวิชาการ 2520: 279)
ได้กล่าวไว้ในเรื่องการเตรียมการในการใช้หลักสูตรว่ามีขั้นตอนสรุปได้ดังนี้
1. เผยแพร่และประชาสัมพันธ์
2. จัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการหลักสูตรขึ้นในส่วนภูมิภาคทุกเขตการศึกษา
3. ประสานงานกับกรมการฝึกหัดครู
4. ฝึกอบรมครู
5. จัดสรรงบประมาณ
6. จัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อจัดปัญหาและอุปสรรคการใช้หลักสูตร
จากแน วคิดของ การน าหลักสู ตรไปใ ช้ที่ได้ยกตัวอย่าง ข้าง ต้น จะ เ ห็ น ได้ว่า
การน าห ลักสู ต รไ ปใ ช้นั้ น เ ป็ น ง าน ห รื อ กิจ กร ร ม ที่เ กี่ยว ข้อง กับ บุ ค คล ห ล า ย ฝ่ า ย
นับแต่ผู้บริหารระดับกระทรวง กรมกอง ผู้บริหารระดับโรงเรียน ครูผู้สอน ศึกษานิเทศก์ และบุคคลอื่นๆ
ข อ บ เ ข ต แ ล ะ ง า น ข อ ง ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้เ ป็ น ง า น ที่ มีข อ บ เ ข ต ก ว้า ง ข ว า ง
เพราะฉะนั้นการนาหลักสูตรไปใช้จึงเป็นสิ่งที่ต้องทาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง
3. หลักการที่สาคัญในการนาหลักสูตรไปใช้
จากแนวคิดดังกล่าว สรุปเป็นหลักการสาคัญในการนาหลักสูตรไปใช้ได้ดังนี้
1. จ ะ ต้อ ง มีก า ร ว า ง แ ผ น แ ล ะ เ ต รี ย ม ก า ร ใ น ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้
ทั้ ง นี้ บุ ค ล า ก ร ผู้ มี ส่ ว น เ กี่ ย ว ข้ อ ง ค ว ร จ ะ ไ ด้ ศึ ก ษ า วิ เ ค ร า ะ ห์
ทาความเข้าใจหลักสูตรที่จะนาไปใช้ให้มีความเข้าใจตรงกัน เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทานองเดียวกัน
และสอดคล้องต่อเนื่องกัน
2.
จะต้องมีองค์คณะบุคคลทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นที่จะต้องทาหน้าที่ประสานงานกันเป็นอย่างดีในแต่ละ
ขั้นตอนของการนาหลักสูตรไปใช้ นับแต่การเตรียมการนาหลักสูตรไปใช้ในด้านวิธีการ สื่อ การประเมินผล
การจัดอบรมผู้ที่จะไปพัฒนาครู การอบรมผู้ใช้หลักสูตรในท้องถิ่น การนาหลักสูตรไปใช้ของครู
และการติดตามผลประเมินการใช้หลักสูตรของครู ฯลฯ
3.
การนาหลักสูตรไปใช้จะต้องดาเนินการอย่างเป็นระบบเป็นไปตามขั้นตอนที่วางแผนและเตรียมการไว้
4.
การนาหลักสูตรไปใช้จะต้องคานึงถึงปัจจัยสาคัญที่จะช่วยให้การนาหลักสูตรไปใช้ประสบความสาเร็จได้
ปัจจัยต่างๆ เหล่านั้นคือ งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ เอกสารหลักสูตรต่างๆ ตลอดจนสถานที่ต่างๆ
ที่จะเป็นแหล่งให้ความรู้ประสบการณ์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับการจัดเตรียมไว้เป็นอย่าง ดี
และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนได้เมื่อได้รับการร้องขอ
5. ค รู เ ป็ น บุ ค ล า ก ร ที่ ส า คั ญ ที่ สุ ด ใ น ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้
ดังนั้นครูจะต้องได้รับการพัฒน าอย่างเ ต็มที่และ จริง จัง เริ่มตั้งแต่การอบรมให้ค วา ม รู้
ความเข้าใจทักษะและเจตคติเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรอย่างเข้มแข็ง การให้การสนับสนุนด้านปัจจัยต่างๆ
แก่ครู ได้แก่ การติดตามประ เ มิน ผล กา รป ฏิบัติ การ สอน ข อง ค รู อ ย่าง เ ป็ น ร ะ บ บ
และการพัฒนาตัวครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน เช่น การจัดอบรมสัมมนาเป็นระ ยะๆ
การเผยแพร่เอกสารที่เป็ นประโยชน์ การพาไปทัศนศึกษา การเชิญวิทยากรมาให้ความรู้
และการสร้างขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน ฯลฯ
6. การน าห ลักสู ตรไปใ ช้ ควรจัดตั้ง ใ ห้มีห น่วยง าน ที่มีผู้เ ชี่ยวช าญการพิเศษ
เพื่อให้การสนับสนุนและพัฒนาครู โดยทาหน้าที่นิเทศ ติดตามผลการนาหลักสูตรไ ปใ ช้
และควรปฏิบัติงานร่วมกับครูอย่างใกล้ชิด
7. ห น่ ว ย ง า น แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ใ น ฝ่ า ย ต่ า ง ๆ
ที่ เ กี่ย ว ข้อ ง กับ ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้ไ ม่ว่า จ ะ เ ป็ น ส่ว น ก ล า ง ห รื อ ส่ว น ท้อง ถิ่น
ต้องปฏิบัติงานในบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถในส่วนที่รับผิดชอบ
ซึ่ ง จ ะ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ โ ด ย ต ร ง ต่ อ ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ข อ ง ค รู
ลักษณะเช่นนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าการนาหลักสูตรไปใช้จะประสบความสาเร็จหรือล้มเหลว
8. ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ส า ห รั บ ผู้ ที่ มี บ ท บ า ท เ กี่ ย ว ข้ อ ง ทุ ก ฝ่ า ย
ทุกหน่วยงานจะต้องมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ ซึ่งจะต้องกาหนดไว้ในแผนปฏิบัติการ
ทั้ ง นี้ เ พื่ อ จ ะ ไ ด้ น า ข้ อ มู ล ต่ า ง ๆ ม า ป ร ะ เ มิ น วิ เ ค ร า ะ ห์
เพื่อพัฒนาทั้งในแง่ของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและการวางแนวทางในการนาหลักสูตรไปใช้ให้มีประสิท
ธิภาพดียิ่งขึ้น
4. กิจกรรม/งานที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้
กิ จ ก ร ร ม ห รื อ ง า น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร นั้ น
นักพัฒนาหลักสูตรและนักการศึกษาได้เสนอแนะไว้ดังนี้
สุ มิ ต ร คุ ณ า นุ ก ร ( 2520 : 130- 132)
ได้เสนอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้ว่าประกอบด้วยกิจกรรม 3ประเภท คือ
1. ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ห ลั ก สู ต ร ไ ป สู่ ก า ร ส อ น คื อ ก า ร ตี ค ว า ม ห ม า ย
และการกาหนดรายละเอียดของหลักสูตร โดยจะดาเนินการในรูปแบบเอกสารประกอบหลักสู ตร
และวัสดุอุปกรณ์การสอน เช่น โครงการสอน ประมวลการสอน คู่มือครู เป็นต้น
2. ก า ร จั ด ปั จ จั ย แ ล ะ ส ภ า พ ต่ า ง ๆ ภ า ย ใ น โ ร ง เ รี ย น
เพื่อให้หลักสูตรบรรลุเ ป้าหมายผู้บริหารโรงเรี ยน ควรสารวจดูปั จจัยและสภาพ ต่าง ๆ
ของโรงเรียนว่าเหมาะสมกับสภาพการนาหลักสูตรมาปฏิบัติหรือไม่
3. การสอน ซึ่งเป็นหน้าที่ของครูประจาการ ถือว่าเป็นหัวใจสาคัญของการนาหลักสูตรไปใช้
ค รู จึ ง เ ป็ น ตั ว จั ก ร ที่ ส า คั ญ ที่ สุ ด
ครู ต้อง สอน ใ ห้สอดคล้อง กับ จุด มุ่ง ห มาย ของ หลักสู ตรเ ลือ กวิธี สอน ใ ห้เ หมา ะ ส ม
โดยผู้บริหารคอยให้ความสะดวกให้คาแนะนา และให้กาลังใจ
วิ ชั ย ว ง ษ์ ใ ห ญ่ ( 2537 : 198) ก ล่ า ว ว่ า
เอกสารหลักสูตรเมื่อได้จัดทาเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะนาไปใช้ควรจะได้ทบทวนตรวจสอบอีกครั้ง
ดังนั้น ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้มีดังนี้
1. ตรวจสอบทบทวนหลักสูตรตามหลักการของทฤษฎีหลักสูตร
2. ทาโครงการและวางแผนการศึกษานาร่องเพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสูตร
3. ประเมินโครงการศึกษาทดลอง
4. ประชาสัมพันธ์หลักสูตร
5. การอบรมครูผู้บริหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร
6. นาหลักสูตรไปปฏิบัติจริงหรือเรียกว่าขั้นดาเนินการใช้หลักสูตรเต็มรูป
7. การอบรมครูเพิ่มเติมในส่วนที่จาเป็นในระหว่างการใช้หลักสูตร
8. การติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตร
ภาพประกอบ 29 แสดงขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ของวิชัย วงษ์ใหญ่(2537: 175)
สงัด อุทรานันท์ (2532: 263-271) กล่าวว่า การนาหลักสูตรไปใช้มีงานหลัก 3 ประการ คือ
1. ง าน บริ หารและ บริ กา รห ลักสู ต ร จะ เ กี่ยวข้อง กับ ง าน เ ตรี ยมบุค ล า ก ร
การจัดครูเข้าสอนตามหลักสูตร การบริหารและบริการวัสดุหลักสูตร การบริการหลักสูตรภายในโรงเรียน
การตรวจสอบหลักสูตร
ปรับแก้ ยอมรับ ใช้ไม่ได้
โครงการ
ศึกษานาร่อง
ปรับแก้ ยอมรับ ใช้ไม่ได้
การฝึกอบรม
เพิ่มเติม
นาไปปฏิบัติจริง
การฝึกอบรมครู
บริการสนับสนุน
การติดตามและประเมิล
ผล
2. ง า น ด า เ นิ น ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ต า ม ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย
การปรับ ป รุ ง ห ลัก สู ต รใ ห้ ส อ ดค ล้อง กับ สภ าพ ท้อง ถิ่น การจัดท าแ ผน ก า ร ส อ น
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
3. ง า น ส นั บ ส นุ น แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย
การนิเทศและติดตามผลการใช้หลักสูตร และการตั้งศูนย์บริการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
จะเห็นได้ว่ากิจกรรมหรื องาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้มีมาก
นับแต่งานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเพื่อการเตรียมการใช้หลักสูตร เช่น การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา
ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน งานที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้จริง เช่น
การจัดการเรี ยน การสอน หรือ งานที่ต้องกระ ทาหลังการนาหลักสู ตรไปใช้แล้ว เช่น
การนิเทศและติดตามผลการใช้หลักสูตร การประเมินผลการใช้หลักสูตร ลักษณะงานต่างๆ
นี้จะเห็นได้ชัดเจนตามขั้นตอนของการนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้
5. ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้
จากลักษณะงานและกิจกรรมของการนาหลักสูตรไปใช้ดังกล่าวสามารถสรุปขั้นตอนของ
การนาหลักสูตรไปใช้ดังนี้
1. ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร
2. ขั้นดาเนินการใช้หลักสูตร
3. ขั้นติดตามและประเมินผล
5.1 ขั้นเตรียมการใช้หลักสูตร
ใ น ก า ร เ ต รี ย ม ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ขั้ น ต อ น ที่ ส า คั ญ
เพราะการนาเอาหลักสูตรใหม่เข้ามาแทนที่หลักสูตรเดิมจะสาเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็ต่อเมื่อได้มีการเตรียมการเ
ป็ น อย่าง ดีนับแต่การตรวจสอบทบทวน หลักสู ตรตามหลักการทฤษฎีข อง หลัก สู ต ร
การทาโครงการและวางแผนการศึกษานาร่องเพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสูตรหรือการทดลองใช้หลักสูตร
ก า ร ป ร ะ เ มิ น โ ค ร ง ก า ร ศึ ก ษ า ท ด ล อ ง
การประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร
1.การตรวจสอบลักษณะหลักสูตร
จุดประสงค์ของการตรวจสอบหรือทบทวนหลักสูตรเพื่อต้องการทราบว่าหลักสูตรที่พัฒนาเสร็จเรี
ย บ ร้ อ ย แ ล้ ว นั้ น มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ม า ก น้ อ ย เ พี ย ง ใ ด
เพื่อศึกษาหาวิธี การที่จะน าหลักสู ตรไปใช้ปฏิบัติได้จริง ตามเ จตนารม ณ์ของ หลัก สู ตร
รวมทั้งศึกษาองค์ประกอบ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรและบริบททางสังคมอื่นๆ
ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร
การตรวจสอบลักษณะ หลักสู ตรเ พื่อดู ความชัดเ จน ของ หลักสู ตร ซึ่ ง ได้แก่
ความกระจ่างชัดของคาชี้แจง คาอธิบายสาระสาคัญแนะปฏิบัติต่างๆ ของหลักสูตร นอกจากนั้น
จะดูความสอดคล้องขององค์ประกอบหลักสูตร ได้แก่จุดประสงค์การเรียน เนื้อหาสาระ
กิจกรรมประสบการณ์การเรียน และการประเมินผลมีความสอดคล้องสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด
มีค ว า มเ ห มา ะ ส มกับ พัฒ น า ก า ร ข อ ง ผู้เ รี ย น ที่ เ ป็ น ก ลุ่มเ ป้ า ห มา ย จ ริ ง ห รื อ ไ ม่
ร ว ม ทั้ ง ค ว า ม ห วัง ข อ ง สั ง ค ม ไ ด้ส ะ ท้อ น เ ข้า มา อ ยู่ใ น ส่ว น ใ ด ข อ ง ตัว ห ลัก สู ต ร
ความซับซ้อนของเนื้อหามีมากน้อยเพียงใด สิ่งสาคัญอีกประการณ์หนึ่งคือรายละเอียดต่าง ๆ
ที่ปรากฏในหลักสูตรนั้นสามารถที่จะนาไปปฏิบัติได้จริงตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรื อไม่
รวมทั้ง บุคลากรและ สิ่ ง อื่น ๆ โดยเ ฉพ าะ อย่าง ยิ่ง ครู ผู้สอน ผู้บริ หาร ง บประ มา ณ
การบริหารสนับสนุนการใช้หลักสูตรได้ตามจุดประสงค์
คณะบุคคลที่ทาการตรวจสอบหลักสูตร ได้แก่คณะกรรมการยกร่างหลักสูตรผู้บริหาร ครู
ศึ ก ษ า นิ เ ท ศ ก์ นั ก วิ ช า ก า ร ผู้ เ รี ย น แ ล ะ ผู้ ป ก ค ร อ ง
ซึ่งควรจะได้มีบทบาทในการประชุมสัมมนาเพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสู ตร เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน
เห็นคุณค่า เกิดการยอมรับ และมีทัศนคติที่ดีต่อหลักสูตรซึ่งเป็นสิ่งที่สาคัญในการจะนาหลักสูตรไปใช้ต่อไป
2. การวางแผนและทาโครงการศึกษานาร่อง
การวางแผนและทาโครงการศึกษานาร่องเป็นสิ่งที่จาเป็นจะตรวจสอบคุณภาพความเป็นไปได้ของ
ห ลั ก สู ต ร ก่ อ น ที่ จ ะ น า ไ ป ใ ช้ ป ฏิ บั ติ จ ริ ง
วิธีการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติประการแรกคือเลือกตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะทาการใช้หลักสูต
ร จ า ก นั้ น แ ป ล ง ห ลัก สู ต ร สู่ก ร ะ บ ว น ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น พัฒ น า วัส ดุ ห ลัก สู ต ร
เตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมในการใช้หลักสูตร จัดหาแหล่งบริการที่สนับสนุนการใช้หลักสูตร
งบประมาณ จัดสิ่งแวดล้อมที่จะสนับสนุนการสอนติดตามผลการทดลองทั้งระยะสั้นและ ระยะยาว
รวมทั้งศึกษาระบบการบริหารของโรงเรียนในปัจจุบันว่าระบบหลักสูตรจะเข้าไปปรับใช้ให้เข้ากับระบบบริ
หารที่มีอยู่เดิมให้ผสมผสานกันได้อย่างไร โดยไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบเดิม
3. การประเมินโครงการศึกษานาร่อง
การประ เ มิน โ ครง กา รศึ ก ษาน าร่อง อา จ จะ ก ระ ทา ได้หล าย รู ปแ บ บ เ ช่น
การประเมินผลการเรียนจากผู้เรียน โดยการประเมินแบบย่อย และการปร ะเมินรวมยอด
การประเมินหลักสูตรหรือการประเมินทั้งระบบการใช้หลักสูตร และปรับแก้จากข้อค้นพบ
โ ด ย ป ร ะ ชุ ม สั ม ม น า กับ ผู้ เ ชี่ ย ว ช า ญ แ ล ะ ผู้ ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กับ ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร
เพื่อนาความคิดเห็นบางส่วนมาปรับปรุงหลักสูตรให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
4. การประชาสัมพันธ์หลักสูตร
การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามย่อมมีผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเสมอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ ง
การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรก็เช่นเดียวกัน ผู้ที่เกี่ยวข้องนับตั้งแต่ผู้บริหารการศึกษา ศึกษาธิการจังหวัด
ศึกษาธิ การอ าเ ภ อ ผู้อาน วยกา รป ระ ถ มศึก ษ าจัง ห วัด แ ละ อ าเ ภ อ ศึกษานิ เ ท ศ ก์
ผู้ อ า น ว ย ก า ร โ ร ง เ รี ย น อ า จ า ร ย์ ใ ห ญ่ ค รู ใ ห ญ่ ค รู ผู้ ส อ น
ซึ่ ง จะ ต้อง ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้ง สิ้น มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่กรณี
ที่ ก ล่ า ว เ ช่ น นี้ ก็ เ พ ร า ะ ห ลั ก สู ต ร เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ สิ่ ง ต่ า ง ๆ
หลายอย่างไม่เฉพาะเรื่องการเรียนการสอนเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวพันไปถึงวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้
อาคารสถานที่ และงบประมาณค่าใช้จ่าย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ซึ่งจะต้องปรับตัวแก้ไขวิธีการทางานและปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้การใช้หลักสูตรผลสาเร็จตามจุ
ดหมายที่ได้กาหนดไว้ด้วยเหตุนี้เขาเหล่านั้นจึงจาต้องทราบว่ากาลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น
อัน ที่จริ ง การประ ชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ว่าจะมาเ ริ่ มตอนจัดทาห ลักสู ตรต้นแบบเสร็ จแล้ว
แต่ควรเริ่มต้นตั้งแต่มีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลักสูตรโดยให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบเป็นระยะๆ ว่า
ได้มีการดาเนินการไปแล้วแค่ไหนเพียงใด
การประชาสัมพันธ์อาจได้หลายรูปแบบ เช่น การออกเอกสารสิ่งพิมพ์ การใช้สื่อมวลชน เช่น วิทยุ
โ ท ร ทั ศ น์ ห นั ง สื อ พิ ม พ์ เ ป็ น ต้ น
นอกจากนี้การประชุมและการประชุมและการสัมมนากี่ครั้งเป็ นเรื่องที่จะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป
อย่างไรก็ตามสิ่ง ที่ควรให้ผู้เกี่ยวข้อง ทราบก็คือสิ่งสาคัญที่เปลี่ยน แปลง ไปนั้น คืออะ ไร
จะมีประโยชน์แก่ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องอย่างไร และจะมีผลต่อบทบาท
5. การเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
การอบรมผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรต้องคานึงและต้องกระทาอย่างรอบคอบ
นับแต่ขั้นเตรียมการสารวจข้อมูลเบื้องต้นที่นามาใช้ในการวางแผน และวิธีการฝึกบุคลากร เช่น
ข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการใช้หลักสูตรซึ่งจะมีความแตกต่างของความพร้อมของใช้หลักโรงเรียนในตัวเมือง
ขนาดใหญ่ย่อมมีความพร้อมหลายๆ ด้านมากกว่าโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท และบุคลากรฝ่ายต่างๆ เช่น
ผู้บ ริ ห า ร ศึ ก ษ า นิ เ ท ศ ก์ ค รู ก ลุ่ม ผู้ส นั บ ส นุ น ร ว ม ทั้ ง ผู้ป ก ค ร อ ง วิธี ก า ร อ บ ร ม
ระยะเวลาที่ใช้ในการอบรมและงบประมาณที่ใช้ในแผนนี้
วิธีการฝึ กอบรมจะ แตกต่าง กัน ไปตามกลุ่มเ ป้าหมายของการใช้หลักสู ตร เช่น
ผู้ บ ริ ห า ร แ ล ะ ผู้ ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง วิ ธี ก า ร อ บ ร ม จ ะ มุ่ง เ น้ น เ กี่ ย ว กั บ น โ ย บ า ย
เจตนารมณ์ของหลักสูตรการจัดงบประมาณและบริการสนับสนุนการใช้หลักสูตรและการสอน
วิธีการที่ใช้ส่วนมากจะเป็ นการประชุมชี้แจงสาระสาคัญและ แนวทางการปฏิบัติ เป็ นต้น
วิ ธี ก า ร ที่ ใ ช้ ส่ ว น ม า ก จ ะ เ ป็ น มุ่ ง เ น้ น ก า ร ป ร ะ ชุ ม เ ชิ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร
เพราะการที่จะเข้าใจหลักสูตรจนสามารถปฏิบัติการสอนได้นั้นต้องลงมือฝึกปฏิบัติจริงครูจึงจะเห็นภาพรวม
แ ล ะ เ กิ ด ค ว า ม มั่ น ใ จ ใ น ก า ร ส อ น
วิธีการฝึกอบรมแบบนี้จะสิ้นเปลืองงบประมาณและต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ดังนั้นทรัพยากรต่างๆ
ก า ร เ ต รี ย ม วั ส ดุ ส า ห รั บ ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม
จะต้องมีการวางแผนอย่างดีเพื่อไม่ให้ครูเกิดความสับสนและไม่แน่ใจซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่ยอมรับหลักสูตรใ
หม่ตามมา นอกจากนั้นครูให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อให้ทราบผลของการฝึกอบรมปัญหาและแนวทางแก้ไข
โ ด ย ใ ห้ ผู้ อ บ ร ม ไ ด้ มี ส่ ว น ว า ง แ ผ น ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า แ ล ะ ตั ด สิ น ใ จ
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผลของการพัฒนาหลักสูตรดาเนินไปสู่การปฏิวัติจริงได้มากขึ้น
5.2 ขั้นดาเนินการใช้หลักสูตร
การนาหลักสูตรไปใช้เป็นการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน การใช้หลักสูตรจะมีงานหลัก 3
ลักษณะ คือ
1. การบริหารและบริการหลักสูตร
2. การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร
3. การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
1. ก า ร บ ริ ห า ร แ ล ะ บ ริ ก า ร ห ลั ก สู ต ร
หน่วยงานบริการหลักสูตรส่วนกลางของคณะพัฒนาหลักสูตรจะมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเตรียมบุคลา
ก ร เ พื่ อ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ก า ร บ ริ ห า ร แ ล ะ บ ริ ก า ร ห ลั ก สู ต ร
ส่วนงานบริหารและบริการหลักสูตรในระดับท้องถิ่นซึ่งได้แก่โรงเรียนก็จะเกี่ยวข้องกับการจัดบุคลากรเข้าส
อนตามความถนัดและความเหมาะสม การบริหารและการบริการหลักสูตรในโรงเรียนได้แก่
1. 1 ก า ร จัด ค รู เ ข้า ส อ น ต า มห ลัก สู ต ร ก า ร จัด ค รู เ ข้า ส อ น ห มา ย ถึ ง
การจัดและดาเนินการเกี่ยวกับการสรรหาและกลวิธีการใช้บุคลากรอย่างเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ
ค ว า ม ส น ใ จ ค ว า ม ถ นั ด แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์
ร ว ม ทั้ ง ส า ม า ร ถ พัฒ น า บุ ค ล า ก ร เ พื่ อ ใ ห้ มีค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่
และมีความรับผิดชอบต่อการงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดครูเข้าสอนโดยหลักสูตรทั่วไปจะเป็นงานของหัวหน้าสถานศึกษาแต่ละแห่ง
การรับครูเ ข้าสอน จาเ ป็ น ต้อง คานึง ถึง ความรู้ ความสามารถ ความสนใ จ ค วามถนั ด
แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ต ล อ ด จ น ค ว า ม ส มั ค ร ใ จ ข อ ง ค รู แ ต่ ล ะ ค น ด้ ว ย
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้หลักสูตรแต่ละคนมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพของตนให้เป็นประโยชน์ต่อการใช้หลักสูตรให้มา
กที่สุด
1. 2 บ ริ ก า ร พั ส ดุ ห ลั ก สู ต ร วัส ดุ ห ลั ก สู ต ร ที่ ก ล่ า ว ถึ ง นี้ ไ ด้ แ ก่
เ อกสารห ลักสู ตรและ สื่ อการเ รี ยน การสอน ทุกช นิ ดที่จัดทาขึ้ น เ พื่อใ ห้ ความสะ ดวก
แ ล ะ ช่ ว ย เ ห ลื อ ค รู ใ ห้ ส า ม า ร ถ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ไ ด้ อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง
งานบริการหลักสูตรจึงเป็นภารกิจของหน่วยงานส่วนกลางซึ่งมีหน้าที่ในการพัฒนาหลักสูตรจึงเป็นหน้าที่ข
องหน่วยงานส่วนกลางซึ่งผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องดาเนินการบริหารและบริการสื่อหลักสูตรให้มีประสิทธิภ
าพเพื่อให้ถึงมือผู้ใช้ในโรงเรียนแต่ละแห่งอย่างครบถ้วนและทันกาหนด
1.3 การบริหารหลักสูตรภายในโรงเรียน การจัดบริการหลักสูตรภายในโรงเรียนได้แก่
ก า ร จั ด สิ่ ง อ า น ว ย ค ว า ม ส ะ ด ว ก ต่ า ง ๆ แ ก่ ผู้ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ช่ น
การบริ หารห้อง สอน วิช าเ ฉ พ าะ บ ริ การเ กี่ย ว กับ ห้อง ส มุด สื่ อการเ รี ยน กา ร ส อ น
บริ การเ กี่ยวกับเ ครื่ อง มือใ น การ วัด ผลแ ละ ประ เ มิน ผลแ ละ การแน ะ แน ว เ ป็ น ต้น
ผู้บริหารโรงเรียน ควรอานวยความสะดวกใน การจัดทาหรื อจัดหาแหล่ง วิชาการ ต่าง ๆ
รวมถึงการใช้ประโยชน์จากบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ภายนอกโรงเรียนอีกด้วย
2. การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร
2. 1 ก า ร ป รั บ ป รุ ง ห ลั ก สู ต ร ใ ห้ ส อ ด ค ล้ อ ง กับ ส ภ า พ ข อ ง ท้ อ ง ถิ่ น
เนื่องจากหลักสูตรที่ร่างขึ้นมาเพื่อใช้กับประชากรโดยส่วนรวมในพื้นที่กว้างขวางทั่วประเทศนั้น
มัก จ ะ ไ ม่ส อ ด ค ล้ อ ง กับ ส ภ า พ ปั ญ ห า แ ล ะ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ท้อ ง ถิ่ น ดัง นั้ น
เพื่อให้หลักสูตรมีความสอดคล้องกับสภาพของสังคมในท้องถิ่น และสามารถสนองความต้องการของผู้เรียน
ควรจะได้มีการปรับหลักสูตรกลางให้มีความเหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นที่ใช้หลักสูตรนั้นๆ
2. 2
การจัดทาแผนการสอนอการจัดทาแผนการสอนเป็นการขยายรายละเอียดของหลักสูตรให้ไปสู่ภาคปฏิบัติโด
ยการกาหนดกิจกรรมและเวลาไว้อย่างชัดเจน สามารถนาไปปฏิบัติได้ แผนการสอนควรจะแบ่งออกเป็น 2
ส่วน คือ
1. แผนการสอนระยะยาว จัดทาเป็นรายภาคหรือรายปี
2. แ ผ น ก า ร ส อ น ร ะ ย ะ สั้ น
นาแผนการสอนระยะยาวมาขยายเป็นรายละเอียดสาหรับการสอนในแต่ละครั้ง
1. ว า ง เ ป็ น แ น ว ท า ง ใ น ก า ร ส อ น
ซึ่งจะช่วยให้ความสะดวกแก่ครูผู้ใช้หลักสูตรสามารถดาเนินการสอนให้ได้ตามความมุ่งหมายของหลักสูตร
2. ใ ห้ ค ว า ม ส ะ ด ว ก แ ก่ ผู้ บ ริ ห า ร แ ล ะ ศึ ก ษ า นิ เ ท ศ ก์
ในการช่วยเหลือแนะนาและติดตามผลการเรียนการสอน
3. เป็นแนวทางในการสร้างข้อทดสอบเพื่อประเมินผลการเรียนการสอนเพื่อให้มีการ
ครอบคลุมกับเนื้อหาสาระที่ได้สอนไปแล้ว
จะ เ ห็ น ได้ว่าแผน กา รส อน จะ เ ป็ น แ น ว ทาง ใ น กา รใ ช้หลัก สู ต ร ข อ ง ค รู
ถ้ า ห า ก ไ ม่ มี ก า ร จั ด ท า แ ผ น ก า ร ส อ น
การใช้หลักสูตรก็จะเป็นไปอย่างไม่มีจุดหมายทาให้เสียเวลาหรือมีข้อบกพร่องในการใช้หลักสูตรเป็นอย่างม
ากอันจะส่งผลให้การบริหารหลักสูตรเกิดความล้มเหลว
2. 3 ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
มีนั ก ป ร า ช ญ์ ท า ง ด้า ง ห ลั ก สู ต ร ห ล า ย ค น ไ ด้ใ ห้ ค ว า มห มา ย ข อ ง ห ลัก สู ต ร ว่า
เ ป็ น กิจ ก ร ร มก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ช นิ ด ต่าง ๆ ที่ จัด โ ด ย โ ร ง เ รี ย น ดัง นั้ น จึ ง ถื อว่า
กิจกรรมการเรียนการสอนซึ่งจัดขึ้นโดยครูเพื่อให้สนองต่อเจตนารมณ์ของหลักสูตรจึงเป็นส่วนของการนา
หลักสูตรไปสู่ภาคปฏิบัติโดยแท้จริง
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละครั้งจาเป็นจะต้องเริ่มจากการพิจารณาถึงจุดมุ่งหมายขอ
งการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเรื่ องใดเรื่องหนึ่ งอาจจะทาได้หลายๆชนิด
ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปอย่างมากในเรื่องการใช้เวลา การใช้แรงงาน การใช้ทรัพยากร
ต ล อ ด จ น ก า ร ใ ช้ ง บ ป ร ะ ม า ณ
โดยเหตุนี้ครูผู้สอนในฐานะเป็นผู้จัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนควรพิจารณาคัดเลือกกิจกรรมที่เห็นว่าจะก่อให้เกิ
ดความรู้ หรือประสบการณ์ และสามารถทาให้บรรลุจุดมุ่งหมายได้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด ประหยัดเวลาที่สุด
ประหยัดแรงงานและค่าใช่จ่ายมากที่สุด การสอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ ง
อาจจะ เ ลือกใ ช้เ ฉพ าะกิจกรรมที่เ ห็ น ว่ามีประ สิ ทธิ ภ าพ มากที่สุ ดเ พียง 1- 2 กิจกรรม
ก็ เ พี ย ง พ อ แ ล้ ว ไ ม่ จ า เ ป็ น จ ะ ต้ อ ง ท า ทุ ก ๆ
กิจกรรมเพราะการทาเช่นนี้นั้นนอกจากไม่เป็นการประหยัดด้วยประการทั้งปวงแล้วอาจจะก่อให้เกิดความเบื่
อหน่ายอีกด้วย
2.4 การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน ในการนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น
มี ขั้ น ต อ น ห นึ่ ง ที่ จ ะ ข า ด เ สี ย มิ ไ ด้ คื อ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล
เพราะการวัดและประเมินผลจะได้ข้อมูลย้อนกลับที่สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความก้าวหน้าในการเรี
ยน รู้ว่าบรรลุตามจุดประ สง ค์ของ การสอน และ ความมุ่ง หมายของ หลักสู ตรหรื อไม่
การวัดและประเมินผลการศึกษาเป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพของนักการศึกษาในระดับการ
ศึ ก ษ า ต่ า ง ๆ
เพราะผลจากการวัดจะเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจของครูและนักการศึกษาเพื่อใช้ปรับปรุงวิธีการสอน
ก า ร แ น ะ แ น ว
การประเมินหลักสูตรแบบเรียนการใช้อุปกรณ์การสอนตลอดจนการจัดระบบบริหารทั่วไปของโรงเรียน
และ น อกจากนี้ ยัง ไม่ช่วยปรับปรุ ง การเ รี ยน ของ นักเ รี ยน ใ ห้เ รี ยน ถูกวิธี ยิ่ง ขึ้ น เ ช่น
ผลการสอบของนักเรียนที่ไม่ดี ไม่เพียงแต่แสดงความอ่อนของนักเรียนแต่ละ คนเท่านั้ น
เพราะถ้าพิจารณาผลการสอบรวมทั้งโรงเรียนก็จะแสดงถึงความบกพร่องในการสอนไม่ดีของครูด้วย
และถ้าพิจารณาผลการสอบรวมทั้งโรงเรียนก็จะแสดงถึงความบกพร่องในด้านการบริหารโรงเรียนของครูใ
หญ่ และคณะผู้บริหาร ยิ่งกว่านั้นถ้าเราพิจารณาผลสอบรวมทั้งประเทศอีกด้วย ดังนั้น
การวัดและประเมินผลการเรียนการสอนจึงนับว่ามีความสาคัญยิ่งในการพัฒนาคุณภาพของการศึกษา
การวัดและประเมินผลเป็นส่วนที่จะใช้พิจารณาตัดสินว่าผู้เรียนบรรลุจุดมุ่งหมายของการสอนตาม
ที่ ก า ห น ด ไ ว้ ห รื อ ไ ม่ เ พี ย ง ใ ด
การวัดและประเมินผลจึงเป็นกระบวนการต่อเนื่องสัมพันธ์กับกระบวนการการเรียนการสอนซึ่งจาเป็นต้องจั
ดให้เป็ นระบบที่ชัดเจนเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการเรียนการสอน
อันเป็นส่วนสาคัญของการนาหลักสูตรไปใช้
3. การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร
3. 1
การจัดงบประมาณเพื่อการเรียนการสอนนั้นเป็นสิ่งจาเป็นและมีความสาคัญมากสาหรับสถานศึกษาทุกระดั
บ
ผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องบริหารงานงบประมาณของโรงเรียนประจาปีการศึกษาหนึ่งๆ
ให้มีประสิทธิภาพสูงและยังประสิทธิ ผลตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ หรืออีกนัยหนึ่ งก็คือ
ผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินของโรงเรียนจะต้องมีสมรรถภาพในการจัดงบประมาณ
ข อ ง โ ร ง เ รี ย น ไ ด้ ดี ไ ม่ มี ผิ ด พ ล า ด
จึงจะสามารถจัดงบประมาณของโรงเรียนให้สอดคล้องกับแผนการเรียนการสอนของแต่ละกลุ่มวิชาได้เป็น
อย่างดี
3.2 การใช้อาคารสถานที่ เป็นสิ่งสนับสนุนการใช้หลักสูตรซึ่งผู้บริหารการศึกษา
พึ ง ต ร ะ ห นั ก อ ยู่ เ ส ม อ ว่า อ า ค า ร ส ถ า น ที่ แ ล ะ สิ่ ง ป ลู ก ส ร้ า ง ต่ า ง ๆ
ใ น ส ถ า น ศึ ก ษ า ย่ อ ม เ ป็ น ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ส า คั ญ ต่ อ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
และการอบรมบ่มเพราะนิสัยแก่ผู้เรียนได้ทั้งสิ้นแต่เนื่องจากสถานศึกษาแต่ละแห่งอาจมีปริมาณและคุณภาพ
ข อ ง อ า ค า ร ส ถ า น ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น
ฉะนั้นผู้บริหารจาเป็นจะต้องวางโครงการและแผนการใช้อาคารสถานที่ทุกแห่งให้เหมาะ สม
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะสามารถกระทาได้ โดยจะต้องสารวจศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบ
แ ล้ ว จึ ง ว า ง แ ผ น ว่า ค ว ร ด า เ นิ น ก า ร อ ย่า ง ไ ร จึ ง จ ะ บ ร ร ลุ ต า ม เ จ ต น า ร มณ์
หรืออุดมการณ์ของหลักสูตรที่กาหนดไว้
3. 3 ก า ร อ บ ร ม เ พิ่ ม เ ติ ม ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร
ข ณ ะ ที่ ด า เ นิ น ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร จ ะ ต้ อ ง ศึ ก ษ า ปั ญ ห า แ ล ะ ป รั บ แ ก้สิ่ ง ต่า ง ๆ
ใ ห้ เ ข้ า กับ ส ภ า พ จ ริ ง แ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ไ ป ไ ด้ ใ ห้ ม า ก ที่ สุ ด เ ท่า ที่ จ ะ ม า ก ไ ด้
ทั้งนี้โดยไม่ให้เสียหลักการใหญ่ของหลักสูตรสิ่งที่ครู ต้องการมากที่สุดคือการฝึกอบรมเพิ่มเติม
เ พื่ อ ส ร้ า ง ค ว า ม พ ร้ อ ม ใ น ก า ร ส อ น ข อ ง ค รู ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม มั่ น ใ จ ม า ก ขึ้ น
การฝึกอบรมจะกระทาจากการวิเคราะห์ส่วนที่ขาดในบทบาทหน้าที่ของครู เกี่ยวกับการใช้หลักสูตร
เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของสังคมและที่สาคัญที่สุดคือการเพิ่มพูนประสิทธิภาพขอ
งกระบวนการเรียนการสอน
3.4 การจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตรภารกิจเกี่ยวกับ
การจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตรที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนกลางซึ่งเ
ป็ น ผู้ พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร
หน่วยงานนี้ควรหาทางสนับสนุนและส่งเสริมหน่วยงานผู้ใช้หลักสูตรให้สามารถดาเนินการใช้หลักสูตรด้ว
ยความมั่นใจ การจัดตั้งศูนย์วิชาการ อาจจะทาในลักษณะของศูนย์ให้บริการแนะนาช่วยเห ลือ
หรือจัดตั้งโรงเรียนตัวอย่าง หรือดังที่กรมวิชาการได้จัดตั้ง “โรงเรียนผู้นาการใช้หลักสูตร”
ที่ศูน ย์พัฒน าห ลักสู ตรก็ได้ โรง เ รี ยน ผู้น าการใ ช้ห ลักสู ตรที่กรมวิช าการจัด ตั้ ง ขึ้ น
จะเป็นโรงเรียนที่สามารถดาเนินการใช้หลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพในลักษณะใดลักษณะหนึ่งซึ่งพอจะเ
ป็ น แ บ บ อ ย่ า ง ใ ห้ แ ก่ โ ร ง เ รี ย น อื่ น ๆ ไ ด้
วิธีการเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นให้โรงเรียนผู้ใช้หลักสูตรได้มีความกระตือรือร้นในการพัฒนาประสิทธิภาพใ
น ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ใ น โ ร ง เ รี ย น ข อ ง ต น
และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการใช้หลักสูตรระหว่างโรงเรียนต่างๆ ด้วย
5.3 ขั้นติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตร
1. ก า ร นิ เ ท ศ แ ล ะ ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ใ น โ ร ง เ รี ย น
การนิเทศมีความจาเป็ น อย่างยิ่งในหน่วยงานทุกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการศึก ษา
เพื่อเป็ นการช่วยปรับปรุง การเรี ยนการสอน สงัด อุทรานันท์ (2532 : 268-269) กล่าวว่า
ก า ร นิ เ ท ศ แ ล ะ ติ ด ต า ม ผ ล ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร ใ น ร ะ ห ว่า ง ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร นั้ น
หน่วยงานส่วนกลางในฐานะผู้พัฒนาหลักสูตรควรจัดส่งเสริมเจ้าหน้าที่ไปให้คาแนะนาเกี่ยวกับการใช้หลัก
สูตรเพิ่มเติม และติดตามผลการใช้หลักสูตรในโรงเรียนว่าได้ดาเนินการด้วยความถูกต้องหรื อไม่
มีปัญหาใดเกิดขึ้นหรือไม่หากไม่มีปัญหาก็จะได้แก้ไขให้ลุล่วงไปสาหรับหน่วยงานในระดับท้องถิ่นอาจดาเ
นินการให้คาปรึกษาแนะนาและช่วยเหลือแก่ครูผู้ใช้หลักสูตรให้ดาเนินการใช้หลักสูตรอย่างถูกต้อง
ก า ร นิ เ ท ศ ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร ห รื อ นิ เ ท ศ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
ต้ อ ง ค า นึ ง ถึ ง ห ลั ก ส า คั ญ ข อ ง ก า ร นิ เ ท ศ คื อ
การให้คาแนะนาช่วยเหลือไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อจับผิดแต่ประการใด โดยลักษณะเช่นนี้
ผู้นิ เ ทศจาเ ป็ น จะ ต้อง สร้าง ค วา มสั ม พัน ธ์ แ ละ ค วา มเ ข้าใ จอัน ดี กับ ผู้รั บ การ นิ เ ท ศ
การดาเนินการนิเทศจะต้องดาเนินไปด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นประชาธิปไตยและร่วมมือกัน
2. ก า ร ติ ด ต า ม แ ล ะ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร
จ ะ ต้อ ง มีก า ร ว า ง แ ผ น ไ ว้ใ ห้ชัด เ จ น ว่า จ ะ ท า ก า ร ป ร ะ เ มิน ส่ว น ใ ด ข อ ง ห ลักสู ตร
ถ้าการวางแผนเกี่ยวกับการประเมินไม่ชัดเจนเมื่อมีความต้องการจะทาการประเมินในหัวข้อนั้นหรือส่วนนั้น
บางครั้งอาจจะกระทาไม่ได้ต่อเนื่อง ดังนั้น การวางแผนเพื่อการประเมินหลักสูตรจะต้องชัดเจน
และจะต้องใช้วิธีการประเมินอย่างไรจึงจะได้ผลเป็ นภาพรวมที่สามารถนามาอธิบายได้ว่า
สิ่ ง ใ ด เ ป็ น บ ร ร ย า ก า ศ
หรือสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออานวยเท่าที่ดาเนินการใช้หลักสูตรไปแล้วบรรลุถึงสิ่งที่กาหนดไว้มากน้อยเพียงใ
ด สามารถตอบสนองความมุ่งหมายหลักที่กาหนดไว้หรือไม่ การประเมินหลักสูตรว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่
การออกแบบประเมินที่กว้างและลึก คือการมองภาพรวมทั้งหมดของการใช้หลักสูตรการหาตัวบ่งชี้สาคัญๆ
นั้นจะต้องระมัดระวังเรื่องตัวแปรทางด้านวัฒนธรรมสังคมและทางเศรษฐกิจด้วยเพราะบางอย่างผู้ประเมินอ
า จ จ ะ ม อ ง ข้ า ม ไ ป เ ช่ น
โรงเรียนขนาดใหญ่ย่อมได้เปรียบกว่าโรงเรียนขนาดเล็กองค์ประกอบที่ตั้งของโรงเ รี ยน
ถ้าชุมชนให้ความสนับสนุนอย่างดีก็มีผลต่อการใช้หลักสูตร หรือโรงเรียนเล็กมากเกินไป เช่นมีนักเรียน 40-
50 ค น มี ค รู 2- 3
คนบางครั้งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทาให้ไม่สามารถที่จะพัฒนาได้มากเท่าที่ควรหลักการจะร่างให้ดี
ส มบู ร ณ์ สั ก เ ท่า ใ ด ก็ต า มก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้ก็ค ว ร จ ะ พิ จ า ณ า ใ ห้ ร อ บ ค อ บ
ถึ ง แ ม้ว่า ปั จ จุ บั น นี้ จ ะ มีร ะ บ บ ก ลุ่มโ ร ง เ รี ย น ช่ว ย เ ห ลื อ ก็ต า ม บ ริ บ ท ท า ง สั ง ค ม
เศรษฐกิจและวัฒนธรรมจะเป็นสิ่งที่มาช่วยเสริมให้สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่าเหตุใดการนาหลักสูตรไปใช้
ไ ด้ ผ ล ห รื อ ไ ม่ ไ ด้ ผ ล เ พ ร า ะ มี ปั จ จั ย แ ท ร ก ซ้ อ น ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ
สังคมและค่านิยมของบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยข้อพิจารณาในการประเมินหลักสูตรสรุปได้ดังนี้
การประเมินหลักสูตร
การบรรลุเป้าหมาย
ด้านสังคม วัฒนธรรม
ด้านงบประมาณ
ด้านระบบบริหาร
ด้านเศรษฐกิจ
ด้านการเมือง
ด้านเทคนิค
ด้านบรรยากาศในการทางาน
ภาพประกอบ 30 แสดงข้อพิจารณาในการประเมินหลักสูตร
ก ร ะ บ ว น ก า ร ใ น ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล เ พื่ อ ค ว บ คุ ม ภ า พ ข อ ง ห ลั ก สู ต ร
ในแง่ของการปฏิบัติการกระบวนการของการประเมินผลเพื่อควบคุมคุณภาพของหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3
ขั้น ตอน คือ การตรวจสอบห าประ สิ ทธิ ผลและ ความตกต่าของคุณภ าพ ของห ลักสูตร
การตรว จส อ บ หา สาเ ห ตุ ของ ค ว า มต ก ต่า ข อง คุณภ าพ และ การน าวิธี ก า ร ต่า ง ๆ
มาแก้ไขพร้อมทั้งตรวจสอบประสิทธิผลของวิธีการเหล่านั้น รายละเอียดของแต่ละขั้นตอน มีดังนี้
1. การต รว จสอบประสิ ทธิผ ล แล ะค ว ามต กต่าข องคุณภาพข องหลักสูตร
วิ ธี ก า ร ต ร ว จ ส อ บ เ ริ่ ม ด้ ว ย ก า ร ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล พื้ น ฐ า น ( Basic Data)
เ พื่ อ ใ ช้ เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ ข้ อ มู ล ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ด า เ นิ น ก า ร
ข้อมูลพื้น ฐาน นี้ ควรเ ก็บรวบรวมใ น ระ หว่าง ที่น าหลักสู ตรไปทดลอง ใ น ภ าคสน าม
ค ว ร เ ก็ บ ใ ห้ ไ ด้ ม า ก แ ล ะ ห ล า ก ห ล า ย
เ ราจะ สรุ ปว่าคุณภ าพ ของ ห ลัก สู ตร ต่าลง ก็ต่อเ มื่อข้อ มูล ผล สั มฤท ธิ์ ใ น ด้าน ต่า ง ๆ
ที่ ร ว บ ร ว ม ไ ด้ ห ลั ง จ า ก ก า ร ท ด ล อ ง ใ ช้ ใ น ภ า ค ส น า ม
มีค่าต่ากว่าข้อมูลที่รวบรวมได้จากการทดลองใช้ในภาคสนาม อย่างไรก็ตามสิ่งที่พึงระมัดระวังก็คือ
ใ น ก า ร เ ก็ บ ข้ อ มู ล ทั้ ง ส อ ง ค รั้ ง นั้ น จ ะ ก ร ะ ท า ใ น ส ภ า พ ที่ ใ ก ล้ เ คี ย ง กัน ที่ สุ ด
มิฉะนั้นแล้วจะนาข้อมูลทั้งสองครั้งมาเปรียบเทียบกันไม่ได้
สาหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลหลังจากการนาเอาหลักสูตรมาใช้ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว
มีข้อมูลที่ ควรรวบรวม 3 รายการ คือ ผลการทดสอบขั้น สุดท้าย (ผลการสอบปลา ยปี )
ผลการสอบแต่ละวิชาในแต่ละภาคเรียนและข้อมูลจากพฤติกรรมของเรียนและจากการเครื่องมือวัด เช่น
แ บ บ ท ด ส อ บ ค ว า ม ส น ใ จ แ ล ะ เ จ ต ค ติ น อ ก จ า ก 3
รายการนี้ เ ราอาจเ ก็บข้อมูลอื่น ที่มีผลพ าดพิง ถึง คุณภ าพ ของ หลักสู ตรด้วยก็ได้ เช่น
สถิติการยืมหนังสือของห้องสมุดการเลือกเรียนวิชาที่ไม่ได้บังคับ และบันทึกเรื่องราวการกระทาต่างๆ
ของผู้เรียน เป็นต้น
ด้านการบริหารสนับสนุน ด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อทราบ
- การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
- ปัญหาและแนวทางแก้ไข
บทที่ 9
บทที่ 9
บทที่ 9
บทที่ 9
บทที่ 9
บทที่ 9
บทที่ 9

More Related Content

Similar to บทที่ 9

Similar to บทที่ 9 (20)

บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
9 170819173701
9 1708191737019 170819173701
9 170819173701
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
4 170819173249
4 1708191732494 170819173249
4 170819173249
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
4 170819173249
4 1708191732494 170819173249
4 170819173249
 
4 170819173249
4 1708191732494 170819173249
4 170819173249
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
4 170819173249
4 1708191732494 170819173249
4 170819173249
 
4 170819173249
4 1708191732494 170819173249
4 170819173249
 

More from kanwan0429

บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11kanwan0429
 
บทที่ 10
บทที่ 10บทที่ 10
บทที่ 10kanwan0429
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9kanwan0429
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8kanwan0429
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7kanwan0429
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6kanwan0429
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5kanwan0429
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4kanwan0429
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3kanwan0429
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2kanwan0429
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1kanwan0429
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11kanwan0429
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8kanwan0429
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7kanwan0429
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6kanwan0429
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5kanwan0429
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3kanwan0429
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2kanwan0429
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1kanwan0429
 

More from kanwan0429 (19)

บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 10
บทที่ 10บทที่ 10
บทที่ 10
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 

บทที่ 9

  • 1. บทที่ 9 การนาหลักสูตรไปใช้ มโนทัศน์(Concept) การน าห ลัก สู ตร ไ ปใ ช้เ ป็ น ขั้ น ตอ น ที่ส า คัญ ยิ่ง ใ น ก า รพัฒ น า ห ลั ก สู ต ร เ พ ร า ะ เ ป็ น ก า ร น า อุ ด ม ก า ร ณ์ จุ ด ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร เ นื้ อ ห า วิช า แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ก า ร เ รี ย น รู้ ที่ คั ด ส ร ร อ ย่า ง ดี แ ล้ว ไ ป สู่ผู้ เ รี ย น นักพัฒนาหลักสูตรทุกคนต่างก็ยอมรับความสาคัญของขั้นตอนในการนาหลักสู ตรไ ปใ ช้ ว่ า มี ค ว า ม ส า คั ญ ยิ่ ง ก ว่ า ขั้ น ต อ น อื่ น ใ ด ทั้ ง ห ม ด เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสาเร็จหรือความล้มเหลวของหลักสูตรโดยตรง หลักสูตรแม้จะได้สร้างไว้ดีเพียงใดก็ตาม ยั ง ไ ม่ ส า ม า ร ถ จ ะ ก ล่ า ว ไ ด้ ว่ า จ ะ ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส า เ ร็ จ ห รื อ ไ ม่ ถ้าหากว่าการนาหลักสูตรไปใช้ดาเนินไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ดีเพียงพอความล้มเหลวของหลักสูตรจะบังเ กิ ด ขึ้ น อ ย่ า ง ห ลี ก เ ลี่ ย ง ไ ม่ ไ ด้ เพราะฉะนั้นการนาหลักสูตรไปใช้จึงมีความสาคัญที่บุคคลผู้เกี่ยวข้องในการนาหลักสูตรไปใช้จะต้องทาควา ม เ ข้ า ใ จ กั บ วิ ธี ก า ร ขั้ น ต อ น ต่ า ง ๆ เพื่อให้ความสามารถนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุดสมความมุ่งหมายทุกประการ ผลการเรียนรู้(Learning Outcome) 4. มีความรู้ ความเข้าใจ การนาหลักสูตรไปใช้ 5. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ 6. สามารถบอกบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อการประสานงานเมื่อนาหลักสูตรไปใช้ สาระเนื้อหา(Content) การนาหลักสูตรไปใช้ ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้เ ป็ น ขั้ น ต อ น ส า คัญ ข อ ง ก า ร พัฒ น า ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ด า เ นิ น ง า น แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ ในการนาหลักสูตรไปสู่โรงเรียนและจัดการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุจุดหมายของหลักสู ตร การนาหลักสูตรไปใช้เป็ นงานเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายตั้งแต่ระดับกระทรวงศึกษาธิการ
  • 2. แต่ละฝ่ายมีความเกี่ยวข้องในแต่ละส่วนของการนาหลักสูตรไปใช้ เช่น หน่วยงานส่วน กลาง เกี่ยวข้องในด้านการบริหารและบริการหลักสูตรกับการนิเทศและติดตามผลการใช้หลักสู ตร ผู้บริหารสถานศึกษาเกี่ยวข้องในด้านการบริหารและบริการหลักสูตร การจัดปัจจัยและสภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในสถานศึกษา ครูผู้สอน เกี่ยวข้องในด้านการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตรใน ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้จ า ต้อ ง เ ป็ น ขั้ น ต อ น ต า ม ล า ดับ นั บ แ ต่ขั้ น ก า ร ว า ง แ ผ น และ เ ตรี ยมการใ น การประ ชาสัมพันธ์ หลักสู ตร และ การเ ตรี ยมบุคลากรที่เ กี่ยวข้อง ขั้นต่อมาคือดาเนินการนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีระบบ นับแต่การจัดครูเข้าสอนตามหลักสู ตร การบริ การ วัส ดุห ลักสู ต รแ ละ สิ่ ง อา น ว ย ค วา ม สะ ดว กใ น กา รน าห ลักสู ต ร ไ ป ใ ช้ และการดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร ส่วนขั้นสุดท้ายต้องติดตามประเมินผลการนาหลักสูตรไปใช้ นับแต่นิเทศติดตามผลการใช้หลักสูตร การติดตามและประเมินผล การใช้หลักสูตร การนาหลักสูตรไปใช้ ถือเ ป็ น กระ บวน การที่สาคัญที่จะ ทาใ ห้ห ลักสู ตรที่ สร้าง ขึ้ น บรร ลุผล ตา มจุ ด ห มา ย และ เ ป็ น กระ บวน การที่ต้อง ได้รับความร่วมมือจาก บุคคล ที่เ กี่ยวข้อง หลายๆ ฝ่ าย และที่สาคัญที่สุดคือครูผู้สอน 1. ความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้ การนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติงานที่มีขอบเขตกว้างขวาง ท า ใ ห้ ก า ร ใ ห้ ค ว า มห มา ย ข อ ง ค า ว่า ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้แ ต ก ต่า ง กัน อ อ กไป นักการศึกษาหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นหรือให้คานิยามของคาว่าการนาหลักสูตรไปใช้ดังนี้ โบแชมป์ (Beauchamp, 1975 : 164) ได้ให้ความหมายของการนาหลักสูตรไปใ ช้ว่า การนาหลักสูตรไปใช้ หมายถึง การนาหลักสูตรไปปฏิบัติ โดยประกอบด้วยกระบวนการที่สาคัญที่สุดคือ การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน การจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้ครูได้พัฒนาการเรียนการสอน สั น ต์ ธ ร ร ม บ า รุ ง ( 2527: 120) ก ล่ า ว ว่ า การนาหลักสูตรไปใช้หมายถึงการที่ผู้บริหารโรงเรียนและครูนาโครงการของหลักสูตรที่เป็ นรูปเล่มนั้นไปป ฏิ บั ติ บั ง เ กิ ด ผ ล และรวมถึงการบริหารงานด้วยวิชาการของโรงเรียนเพื่ออานวยความสะดวกให้ครูและนักเรียนสามารถสอน และเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จั น ท ร า ( Chandra, 1977 : 1) ได้ให้ความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้ว่าเป็นการทดลองใช้เนื้อหาวิชาวิธีการสอน เทคนิคการประเมิน การใ ช้อุปกรณ์การสอบแบบเ รี ยน และทรัพ ยากรต่างๆ ใ ห้เกิดประโยชน์ แก่นักเรียน โดยมีครูและผู้ร่างหลักสูตรเป็นผู้ปัญหาแล้วหาคาตอบให้ได้จากการประเมินผล รายงานการประชุมทางวิชาการเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรของประเทศในภูมิภาค (APEID, 1977 : 3) ก ล่ า ว ว่ า
  • 3. การนาหลักสูตรไปใช้มีความหมายครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตรไปจนถึงการอบรมครูผู้สอนให้เป็นผู้ มีสมรรถนะที่จาเป็น พร้อมที่จะนาหลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ ธ า ร ง บัว ศ รี ( 2514 : 165) ก ล่า ว ว่า ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ห มา ย ถึ ง กระบวนการเรียนการสอนสาหรับสอนเป็นประจาทุกๆ วัน สุ มิ ต ร คุ ณ า ก ร ( 2520 : 130) ก ล่ า ว ว่ า การน าหลักสู ตรไปใ ช้เ ป็ น กระ บวน การที่ทาใ ห้หลักสู ตรก ลายเ ป็ น การ ปฏิบั ติ จ ริ ง และเป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการพัฒนาหลักสูตรและมีกิจกรรมที่จะกระทาได้ 3ประการ คือ 1. การแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน 2. การจัดปัจจัยและสภาพต่างๆ ภายในโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร 3. การสอนของครู จากความหมายของการนาหลักสูตรไปใช้ตามที่นักการศึกษาได้ให้ไว้ข้างต้น พอสรุปได้ว่า ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ห ม า ย ถึ ง ก า ร ด า เ นิ น ง า น แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ ในอันที่จะทาให้หลักสูตรที่สร้างขึ้นดาเนินไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นับแต่การเตรียมบุคลากร อาคาร สถานที่ วัสดุอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม และการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน 2. แนวคิดเกี่ยวกับการนาหลักสูตรไปใช้ ถ้าเรายอมรับว่าการนาหลักสูตรไปใช้เป็นขั้นตอนหนึ่งที่สาคัญที่สุดที่จะทาให้หลักสูตรบังเกิด ผ ล ต่ อ ก า ร ใ ช้ อ ย่ า ง แ ท้ จ ริ ง แ ล้ ว การนาหลักสูตรไปใช้ก็ควรจะเป็นวิธีการปฏิบัติการที่มีหลักเกณฑ์และมีกระบวนการปฏิบัติที่มีประสิทธิภา พพอที่จะมั่นใจได้ว่า หลักสูตรที่สร้างขึ้นนั้นจะได้มีโอกาสนาไปปฏิบัติจริงๆ อย่างแน่นอน นักการศึกษาต่างก็ให้ทัศนะซึ่งเป็นแนวคิดในการนาหลักสูตรไปใช้ดังนี้ โ บ แ ช ม ป์ ( Beauchamp, 1975: 169) ก ล่ า ว ว่า สิ่ ง แ ร ก ที่ ค ว ร ท า คื อ การจัดสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ครูผู้นาหลักสูตรไปใช้มีหน้าที่แปลงหลักสูตรไปสู่การสอน โ ด ย ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ห ลั ก ใ น ก า ร พั ฒ น า ก ล วิ ธี ก า ร ส อ น สิ่งที่ควรคานึงถึงในการนาหลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลตามเป้าหมาย 1. ครูผู้สอนควรมีส่วนร่วมในการร่างหลักสูตร 2. ผู้บริหารต้องเห็นความสาคัญและสนับสนุนการดาเนินงานให้เกิดผลสาเร็จได้ ผู้นาที่สาคัญที่จะรับผิดชอบได้ดี คือครูใหญ่ ท า น ก า ร์ ด ( Tankard, 1974 : 46- 88) ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม เ ห็ น ว่ า ความสาเร็จของการนาหลักสูตรไปใช้อยู่ที่การวางแผนการทดลองใช้ ซึ่งมีองค์ประกอบต่างๆ คือ 1. รายละเอียดของโครงการ 2. ปรัชญาและจุดมุ่งหมาย
  • 4. 3. แผนการนาไปใช้และการดาเนินการ ผู้เกี่ยวข้องในการนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งมีศึกษานิเทศก์ ครูใหญ่ผู้บริหารระดับต่างๆ เป็นส่วนใหญ่จะต้องร่วมมือกันดาเนินงานตั้งแต่การทาโครงการปรับปรุงหลักสูตร กาหนดจุดมุ่งหมาย จัดทาเนื้อหาแผนการนาไปทดลองใช้ และการประเมินผล ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการนาไปทดลองใช้ จะต้องบันทึกไว้ทั้งหมด เพื่อนาไปเป็นข้อมูลในการแก้ไขปรับปรุงหลักสูตร ส า ห รั บ เ ว อ ร์ ดุ น ( Verduin, 1977 : 88- 90) เ ข า ใ ห้ ทั ศ น ะ ว่ า การนาหลักสูตรไปใช้จะต้องเริ่มดาเนินการโดยการนิเทศให้ครูในโรงเรียนเข้าใจหลักสูตร แล้วตั้งกลุ่มปฏิบัติการขึ้นเพื่อการศึกษาปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการใช้หลักสูตรจากพื้นที่ที่เป็นปัญหาห ล า ย ๆ แ ห่ ง เ พื่ อ ใ ห้ ไ ด้ ข้ อ มู ล ม า ก ที่ สุ ด กลุ่มปฏิบัติการนี้จะต้องเข้าไปทางานร่วมกันกับครูผู้สอนอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจและมีคว า ม สั ม พั น ธ์ อั น ดี ต่ อ กั น การจัดการอบรมปฏิบัติการแก่ครูประจาการถือว่าเป็นกิจกรรมที่สาคัญที่สุดในการนาหลักสูตรไปใช้ ต้องใช้วิทยากรผู้เชี่ยวชาญการสอนโดยเฉพาะสามารถฝึกผู้อื่นได้ดีและมีวิธีการให้ครูเกิดความสนใจ ถ้ามีข้อเสนอแนะให้มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการใช้หลักสูตรควรเลือกครูผู้สอนที่อาสาสมัครและเต็มใจ ไม่ควรใช้ครูทุกคนในโรงเรียนเพราะอาจมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยและไม่เต็มใจกับการเปลี่ยนแปลง จึ ง ค ว ร ท า แ บ บ ค่ อ ย เ ป็ น ค่ อ ย ไ ป เ พื่ อ ใ ห้ ค รู ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ข้ า ใ จ จะทาให้การเปลี่ยนแปลงมีความหมายและได้รับการยอมรับโดยปริยาย จากเ อกสา ร กา ร ป ระ ชุมข อง ป ระ เ ทศ ต่าง ๆ ใ น เ อเ ชีย ( APEID, 1977 : 29) ใ น ก า ร ป ร ะ ชุ ม ท บ ท ว น ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ต่า ง ๆ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ใ น เ อ เ ชี ย เ รื่ อ ง ยุทธศาสตร์การนาหลักสูตรไปใช้ได้สรุปเป็นองค์ประกอบที่สาคัญได้ดังนี้ 1. วางแผนและเตรียมการนาหลักสูตรไปใช้โดยให้คนหลายกลุ่มเข้าร่วมแสวงหาการสนับสนุนจากประชาชนแ ละจัดเตรียมทรัพยากร (มนุษย์และวัสดุ) ให้พร้อม 2. จัดให้มีหน่วยงานส่งเสริมการนาหลักสูตรไปใช้ให้เป็นไปได้สะดวกและรวดเร็ว 3. กาหนดวิถีทางและกระบวนการนาหลักสูตรไปใช้อย่างเป็นขั้นตอน รวมเหตุผลต่างๆ ที่จะใช้ในการจูงใจครูและติดตามผลการปฏิบัติงาน ธ า ร ง บั ว ศ รี ( 2514: 165- 195) ได้สรุปชี้ให้เห็นปัจจัยจะนาไปสู่ความสาเร็จของการนาหลักสูตรไปใช้ไว้ว่าควรคานึงถึงสิ่งต่อไปนี้ 1. โครงการสอน เช่น การวางโครงการสอนแบบหน่วย (Unit Organization of Instruction, Teaching Unit) ประเภทของหน่วยการสอนมี 2 ประเภท คือ หน่วยรายวิชา (Subject Matter Unit) และหน่วยงานประสบการณ์ (Experience Unit)
  • 5. 2. หน่วยวิทยาการ (Resource Unit) เป็ นแหล่งให้ความรู้แก่ครู เช่น เอกสาร คู่มือ และแนวการปฏิบัติต่างๆ 3. องค์ประกอบอื่นๆ ที่ช่วยในการสอน เช่น สถานที่และเครื่ อง มือเ ครื่ อง ใ ช้ อุปกรณ์การเ รี ยน การสอน วิธี การสอน และ วัดผลการศึกษา กิจกรรมร่วมหลักสู ต ร การแนะนาการจัดและบริหารโรงเรียนเป็นต้น วิ ชั ย ว ง ษ์ ใ ห ญ่ ( 2521: 140 - 141) ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม เ ห็ น ว่ า ผู้มีบทบาทในการนาหลักสูตรไปใช้ให้บรรลุจุดหมายมี 3กลุ่ม คือ ครูใหญ่ครูประจาชั้น และชุมชน ในจานวนนี้ครูใหญ่เป็นผู้ที่มีบทบาทมากที่สุดที่จะต้องศึกษาและวางแผนเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรโดยมีขั้นต อนสรุปสั้นๆ ได้ดังนี้ 1. เตรียมวางแผน 2. เตรียมจัดอบรม 3. การจัดครูเข้าสอน 4. การจัดตารางสอน 5. การจัดวัสดุประกอบหลักสูตร 6. การประชาสัมพันธ์ 7. การจัดสภาพแวดล้อมและการเลือกกิจกรรมเสริมหลักสูตร 8. การจัดโครงการประเมิน จากเอกสารทางวิชาการของแผนกวิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2516:11) กล่าวถึงบทบาทของโรงเรียนในการนาหลักสูตรไปใช้ให้ได้ผลที่ควรจัดกิจกรรมดังนี้ 1. ประชุมครูเพื่อศึกษาหลักสูตรและทาโครงการสอน 2. จัดอบรมครู เพื่อให้เพิ่มพูนความรู้จากวิทยากรในด้วยวิธีการสอนแบบใหม่ๆ 3. เตรียมเอกสารทุกชนิดไว้ให้ค้นคว้าและอ่านประกอบ จากคู่มือการนาหลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521 ไปใช้ (กรมวิชาการ 2520: 279) ได้กล่าวไว้ในเรื่องการเตรียมการในการใช้หลักสูตรว่ามีขั้นตอนสรุปได้ดังนี้ 1. เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ 2. จัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการหลักสูตรขึ้นในส่วนภูมิภาคทุกเขตการศึกษา 3. ประสานงานกับกรมการฝึกหัดครู 4. ฝึกอบรมครู 5. จัดสรรงบประมาณ 6. จัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อจัดปัญหาและอุปสรรคการใช้หลักสูตร จากแน วคิดของ การน าหลักสู ตรไปใ ช้ที่ได้ยกตัวอย่าง ข้าง ต้น จะ เ ห็ น ได้ว่า การน าห ลักสู ต รไ ปใ ช้นั้ น เ ป็ น ง าน ห รื อ กิจ กร ร ม ที่เ กี่ยว ข้อง กับ บุ ค คล ห ล า ย ฝ่ า ย
  • 6. นับแต่ผู้บริหารระดับกระทรวง กรมกอง ผู้บริหารระดับโรงเรียน ครูผู้สอน ศึกษานิเทศก์ และบุคคลอื่นๆ ข อ บ เ ข ต แ ล ะ ง า น ข อ ง ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้เ ป็ น ง า น ที่ มีข อ บ เ ข ต ก ว้า ง ข ว า ง เพราะฉะนั้นการนาหลักสูตรไปใช้จึงเป็นสิ่งที่ต้องทาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง 3. หลักการที่สาคัญในการนาหลักสูตรไปใช้ จากแนวคิดดังกล่าว สรุปเป็นหลักการสาคัญในการนาหลักสูตรไปใช้ได้ดังนี้ 1. จ ะ ต้อ ง มีก า ร ว า ง แ ผ น แ ล ะ เ ต รี ย ม ก า ร ใ น ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ทั้ ง นี้ บุ ค ล า ก ร ผู้ มี ส่ ว น เ กี่ ย ว ข้ อ ง ค ว ร จ ะ ไ ด้ ศึ ก ษ า วิ เ ค ร า ะ ห์ ทาความเข้าใจหลักสูตรที่จะนาไปใช้ให้มีความเข้าใจตรงกัน เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทานองเดียวกัน และสอดคล้องต่อเนื่องกัน 2. จะต้องมีองค์คณะบุคคลทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นที่จะต้องทาหน้าที่ประสานงานกันเป็นอย่างดีในแต่ละ ขั้นตอนของการนาหลักสูตรไปใช้ นับแต่การเตรียมการนาหลักสูตรไปใช้ในด้านวิธีการ สื่อ การประเมินผล การจัดอบรมผู้ที่จะไปพัฒนาครู การอบรมผู้ใช้หลักสูตรในท้องถิ่น การนาหลักสูตรไปใช้ของครู และการติดตามผลประเมินการใช้หลักสูตรของครู ฯลฯ 3. การนาหลักสูตรไปใช้จะต้องดาเนินการอย่างเป็นระบบเป็นไปตามขั้นตอนที่วางแผนและเตรียมการไว้ 4. การนาหลักสูตรไปใช้จะต้องคานึงถึงปัจจัยสาคัญที่จะช่วยให้การนาหลักสูตรไปใช้ประสบความสาเร็จได้ ปัจจัยต่างๆ เหล่านั้นคือ งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ เอกสารหลักสูตรต่างๆ ตลอดจนสถานที่ต่างๆ ที่จะเป็นแหล่งให้ความรู้ประสบการณ์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับการจัดเตรียมไว้เป็นอย่าง ดี และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนได้เมื่อได้รับการร้องขอ 5. ค รู เ ป็ น บุ ค ล า ก ร ที่ ส า คั ญ ที่ สุ ด ใ น ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ดังนั้นครูจะต้องได้รับการพัฒน าอย่างเ ต็มที่และ จริง จัง เริ่มตั้งแต่การอบรมให้ค วา ม รู้ ความเข้าใจทักษะและเจตคติเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรอย่างเข้มแข็ง การให้การสนับสนุนด้านปัจจัยต่างๆ แก่ครู ได้แก่ การติดตามประ เ มิน ผล กา รป ฏิบัติ การ สอน ข อง ค รู อ ย่าง เ ป็ น ร ะ บ บ และการพัฒนาตัวครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน เช่น การจัดอบรมสัมมนาเป็นระ ยะๆ การเผยแพร่เอกสารที่เป็ นประโยชน์ การพาไปทัศนศึกษา การเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ และการสร้างขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน ฯลฯ 6. การน าห ลักสู ตรไปใ ช้ ควรจัดตั้ง ใ ห้มีห น่วยง าน ที่มีผู้เ ชี่ยวช าญการพิเศษ เพื่อให้การสนับสนุนและพัฒนาครู โดยทาหน้าที่นิเทศ ติดตามผลการนาหลักสูตรไ ปใ ช้ และควรปฏิบัติงานร่วมกับครูอย่างใกล้ชิด
  • 7. 7. ห น่ ว ย ง า น แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ใ น ฝ่ า ย ต่ า ง ๆ ที่ เ กี่ย ว ข้อ ง กับ ก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้ไ ม่ว่า จ ะ เ ป็ น ส่ว น ก ล า ง ห รื อ ส่ว น ท้อง ถิ่น ต้องปฏิบัติงานในบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถในส่วนที่รับผิดชอบ ซึ่ ง จ ะ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ โ ด ย ต ร ง ต่ อ ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ข อ ง ค รู ลักษณะเช่นนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าการนาหลักสูตรไปใช้จะประสบความสาเร็จหรือล้มเหลว 8. ก า ร น า ห ลั ก สู ต ร ไ ป ใ ช้ ส า ห รั บ ผู้ ที่ มี บ ท บ า ท เ กี่ ย ว ข้ อ ง ทุ ก ฝ่ า ย ทุกหน่วยงานจะต้องมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ ซึ่งจะต้องกาหนดไว้ในแผนปฏิบัติการ ทั้ ง นี้ เ พื่ อ จ ะ ไ ด้ น า ข้ อ มู ล ต่ า ง ๆ ม า ป ร ะ เ มิ น วิ เ ค ร า ะ ห์ เพื่อพัฒนาทั้งในแง่ของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและการวางแนวทางในการนาหลักสูตรไปใช้ให้มีประสิท ธิภาพดียิ่งขึ้น 4. กิจกรรม/งานที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้ กิ จ ก ร ร ม ห รื อ ง า น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร นั้ น นักพัฒนาหลักสูตรและนักการศึกษาได้เสนอแนะไว้ดังนี้ สุ มิ ต ร คุ ณ า นุ ก ร ( 2520 : 130- 132) ได้เสนอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้ว่าประกอบด้วยกิจกรรม 3ประเภท คือ 1. ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ห ลั ก สู ต ร ไ ป สู่ ก า ร ส อ น คื อ ก า ร ตี ค ว า ม ห ม า ย และการกาหนดรายละเอียดของหลักสูตร โดยจะดาเนินการในรูปแบบเอกสารประกอบหลักสู ตร และวัสดุอุปกรณ์การสอน เช่น โครงการสอน ประมวลการสอน คู่มือครู เป็นต้น 2. ก า ร จั ด ปั จ จั ย แ ล ะ ส ภ า พ ต่ า ง ๆ ภ า ย ใ น โ ร ง เ รี ย น เพื่อให้หลักสูตรบรรลุเ ป้าหมายผู้บริหารโรงเรี ยน ควรสารวจดูปั จจัยและสภาพ ต่าง ๆ ของโรงเรียนว่าเหมาะสมกับสภาพการนาหลักสูตรมาปฏิบัติหรือไม่ 3. การสอน ซึ่งเป็นหน้าที่ของครูประจาการ ถือว่าเป็นหัวใจสาคัญของการนาหลักสูตรไปใช้ ค รู จึ ง เ ป็ น ตั ว จั ก ร ที่ ส า คั ญ ที่ สุ ด ครู ต้อง สอน ใ ห้สอดคล้อง กับ จุด มุ่ง ห มาย ของ หลักสู ตรเ ลือ กวิธี สอน ใ ห้เ หมา ะ ส ม โดยผู้บริหารคอยให้ความสะดวกให้คาแนะนา และให้กาลังใจ วิ ชั ย ว ง ษ์ ใ ห ญ่ ( 2537 : 198) ก ล่ า ว ว่ า เอกสารหลักสูตรเมื่อได้จัดทาเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะนาไปใช้ควรจะได้ทบทวนตรวจสอบอีกครั้ง ดังนั้น ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้มีดังนี้ 1. ตรวจสอบทบทวนหลักสูตรตามหลักการของทฤษฎีหลักสูตร 2. ทาโครงการและวางแผนการศึกษานาร่องเพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสูตร 3. ประเมินโครงการศึกษาทดลอง
  • 8. 4. ประชาสัมพันธ์หลักสูตร 5. การอบรมครูผู้บริหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร 6. นาหลักสูตรไปปฏิบัติจริงหรือเรียกว่าขั้นดาเนินการใช้หลักสูตรเต็มรูป 7. การอบรมครูเพิ่มเติมในส่วนที่จาเป็นในระหว่างการใช้หลักสูตร 8. การติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตร ภาพประกอบ 29 แสดงขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ของวิชัย วงษ์ใหญ่(2537: 175) สงัด อุทรานันท์ (2532: 263-271) กล่าวว่า การนาหลักสูตรไปใช้มีงานหลัก 3 ประการ คือ 1. ง าน บริ หารและ บริ กา รห ลักสู ต ร จะ เ กี่ยวข้อง กับ ง าน เ ตรี ยมบุค ล า ก ร การจัดครูเข้าสอนตามหลักสูตร การบริหารและบริการวัสดุหลักสูตร การบริการหลักสูตรภายในโรงเรียน การตรวจสอบหลักสูตร ปรับแก้ ยอมรับ ใช้ไม่ได้ โครงการ ศึกษานาร่อง ปรับแก้ ยอมรับ ใช้ไม่ได้ การฝึกอบรม เพิ่มเติม นาไปปฏิบัติจริง การฝึกอบรมครู บริการสนับสนุน การติดตามและประเมิล ผล
  • 9. 2. ง า น ด า เ นิ น ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ต า ม ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย การปรับ ป รุ ง ห ลัก สู ต รใ ห้ ส อ ดค ล้อง กับ สภ าพ ท้อง ถิ่น การจัดท าแ ผน ก า ร ส อ น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 3. ง า น ส นั บ ส นุ น แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย การนิเทศและติดตามผลการใช้หลักสูตร และการตั้งศูนย์บริการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร จะเห็นได้ว่ากิจกรรมหรื องาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้มีมาก นับแต่งานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเพื่อการเตรียมการใช้หลักสูตร เช่น การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน งานที่เกี่ยวข้องกับการนาหลักสูตรไปใช้จริง เช่น การจัดการเรี ยน การสอน หรือ งานที่ต้องกระ ทาหลังการนาหลักสู ตรไปใช้แล้ว เช่น การนิเทศและติดตามผลการใช้หลักสูตร การประเมินผลการใช้หลักสูตร ลักษณะงานต่างๆ นี้จะเห็นได้ชัดเจนตามขั้นตอนของการนาหลักสูตรไปใช้ซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ 5. ขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ จากลักษณะงานและกิจกรรมของการนาหลักสูตรไปใช้ดังกล่าวสามารถสรุปขั้นตอนของ การนาหลักสูตรไปใช้ดังนี้ 1. ขั้นการเตรียมการใช้หลักสูตร 2. ขั้นดาเนินการใช้หลักสูตร 3. ขั้นติดตามและประเมินผล 5.1 ขั้นเตรียมการใช้หลักสูตร ใ น ก า ร เ ต รี ย ม ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ขั้ น ต อ น ที่ ส า คั ญ เพราะการนาเอาหลักสูตรใหม่เข้ามาแทนที่หลักสูตรเดิมจะสาเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็ต่อเมื่อได้มีการเตรียมการเ ป็ น อย่าง ดีนับแต่การตรวจสอบทบทวน หลักสู ตรตามหลักการทฤษฎีข อง หลัก สู ต ร การทาโครงการและวางแผนการศึกษานาร่องเพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสูตรหรือการทดลองใช้หลักสูตร ก า ร ป ร ะ เ มิ น โ ค ร ง ก า ร ศึ ก ษ า ท ด ล อ ง การประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร 1.การตรวจสอบลักษณะหลักสูตร จุดประสงค์ของการตรวจสอบหรือทบทวนหลักสูตรเพื่อต้องการทราบว่าหลักสูตรที่พัฒนาเสร็จเรี ย บ ร้ อ ย แ ล้ ว นั้ น มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ม า ก น้ อ ย เ พี ย ง ใ ด เพื่อศึกษาหาวิธี การที่จะน าหลักสู ตรไปใช้ปฏิบัติได้จริง ตามเ จตนารม ณ์ของ หลัก สู ตร รวมทั้งศึกษาองค์ประกอบ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรและบริบททางสังคมอื่นๆ ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร
  • 10. การตรวจสอบลักษณะ หลักสู ตรเ พื่อดู ความชัดเ จน ของ หลักสู ตร ซึ่ ง ได้แก่ ความกระจ่างชัดของคาชี้แจง คาอธิบายสาระสาคัญแนะปฏิบัติต่างๆ ของหลักสูตร นอกจากนั้น จะดูความสอดคล้องขององค์ประกอบหลักสูตร ได้แก่จุดประสงค์การเรียน เนื้อหาสาระ กิจกรรมประสบการณ์การเรียน และการประเมินผลมีความสอดคล้องสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด มีค ว า มเ ห มา ะ ส มกับ พัฒ น า ก า ร ข อ ง ผู้เ รี ย น ที่ เ ป็ น ก ลุ่มเ ป้ า ห มา ย จ ริ ง ห รื อ ไ ม่ ร ว ม ทั้ ง ค ว า ม ห วัง ข อ ง สั ง ค ม ไ ด้ส ะ ท้อ น เ ข้า มา อ ยู่ใ น ส่ว น ใ ด ข อ ง ตัว ห ลัก สู ต ร ความซับซ้อนของเนื้อหามีมากน้อยเพียงใด สิ่งสาคัญอีกประการณ์หนึ่งคือรายละเอียดต่าง ๆ ที่ปรากฏในหลักสูตรนั้นสามารถที่จะนาไปปฏิบัติได้จริงตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรื อไม่ รวมทั้ง บุคลากรและ สิ่ ง อื่น ๆ โดยเ ฉพ าะ อย่าง ยิ่ง ครู ผู้สอน ผู้บริ หาร ง บประ มา ณ การบริหารสนับสนุนการใช้หลักสูตรได้ตามจุดประสงค์ คณะบุคคลที่ทาการตรวจสอบหลักสูตร ได้แก่คณะกรรมการยกร่างหลักสูตรผู้บริหาร ครู ศึ ก ษ า นิ เ ท ศ ก์ นั ก วิ ช า ก า ร ผู้ เ รี ย น แ ล ะ ผู้ ป ก ค ร อ ง ซึ่งควรจะได้มีบทบาทในการประชุมสัมมนาเพื่อหาประสิทธิภาพของหลักสู ตร เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน เห็นคุณค่า เกิดการยอมรับ และมีทัศนคติที่ดีต่อหลักสูตรซึ่งเป็นสิ่งที่สาคัญในการจะนาหลักสูตรไปใช้ต่อไป 2. การวางแผนและทาโครงการศึกษานาร่อง การวางแผนและทาโครงการศึกษานาร่องเป็นสิ่งที่จาเป็นจะตรวจสอบคุณภาพความเป็นไปได้ของ ห ลั ก สู ต ร ก่ อ น ที่ จ ะ น า ไ ป ใ ช้ ป ฏิ บั ติ จ ริ ง วิธีการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติประการแรกคือเลือกตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะทาการใช้หลักสูต ร จ า ก นั้ น แ ป ล ง ห ลัก สู ต ร สู่ก ร ะ บ ว น ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น พัฒ น า วัส ดุ ห ลัก สู ต ร เตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมในการใช้หลักสูตร จัดหาแหล่งบริการที่สนับสนุนการใช้หลักสูตร งบประมาณ จัดสิ่งแวดล้อมที่จะสนับสนุนการสอนติดตามผลการทดลองทั้งระยะสั้นและ ระยะยาว รวมทั้งศึกษาระบบการบริหารของโรงเรียนในปัจจุบันว่าระบบหลักสูตรจะเข้าไปปรับใช้ให้เข้ากับระบบบริ หารที่มีอยู่เดิมให้ผสมผสานกันได้อย่างไร โดยไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบเดิม 3. การประเมินโครงการศึกษานาร่อง การประ เ มิน โ ครง กา รศึ ก ษาน าร่อง อา จ จะ ก ระ ทา ได้หล าย รู ปแ บ บ เ ช่น การประเมินผลการเรียนจากผู้เรียน โดยการประเมินแบบย่อย และการปร ะเมินรวมยอด การประเมินหลักสูตรหรือการประเมินทั้งระบบการใช้หลักสูตร และปรับแก้จากข้อค้นพบ โ ด ย ป ร ะ ชุ ม สั ม ม น า กับ ผู้ เ ชี่ ย ว ช า ญ แ ล ะ ผู้ ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กับ ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร เพื่อนาความคิดเห็นบางส่วนมาปรับปรุงหลักสูตรให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 4. การประชาสัมพันธ์หลักสูตร การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามย่อมมีผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเสมอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ ง การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรก็เช่นเดียวกัน ผู้ที่เกี่ยวข้องนับตั้งแต่ผู้บริหารการศึกษา ศึกษาธิการจังหวัด
  • 11. ศึกษาธิ การอ าเ ภ อ ผู้อาน วยกา รป ระ ถ มศึก ษ าจัง ห วัด แ ละ อ าเ ภ อ ศึกษานิ เ ท ศ ก์ ผู้ อ า น ว ย ก า ร โ ร ง เ รี ย น อ า จ า ร ย์ ใ ห ญ่ ค รู ใ ห ญ่ ค รู ผู้ ส อ น ซึ่ ง จะ ต้อง ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้ง สิ้น มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่กรณี ที่ ก ล่ า ว เ ช่ น นี้ ก็ เ พ ร า ะ ห ลั ก สู ต ร เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ สิ่ ง ต่ า ง ๆ หลายอย่างไม่เฉพาะเรื่องการเรียนการสอนเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวพันไปถึงวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อาคารสถานที่ และงบประมาณค่าใช้จ่าย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งจะต้องปรับตัวแก้ไขวิธีการทางานและปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้การใช้หลักสูตรผลสาเร็จตามจุ ดหมายที่ได้กาหนดไว้ด้วยเหตุนี้เขาเหล่านั้นจึงจาต้องทราบว่ากาลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น อัน ที่จริ ง การประ ชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ว่าจะมาเ ริ่ มตอนจัดทาห ลักสู ตรต้นแบบเสร็ จแล้ว แต่ควรเริ่มต้นตั้งแต่มีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลักสูตรโดยให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบเป็นระยะๆ ว่า ได้มีการดาเนินการไปแล้วแค่ไหนเพียงใด การประชาสัมพันธ์อาจได้หลายรูปแบบ เช่น การออกเอกสารสิ่งพิมพ์ การใช้สื่อมวลชน เช่น วิทยุ โ ท ร ทั ศ น์ ห นั ง สื อ พิ ม พ์ เ ป็ น ต้ น นอกจากนี้การประชุมและการประชุมและการสัมมนากี่ครั้งเป็ นเรื่องที่จะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป อย่างไรก็ตามสิ่ง ที่ควรให้ผู้เกี่ยวข้อง ทราบก็คือสิ่งสาคัญที่เปลี่ยน แปลง ไปนั้น คืออะ ไร จะมีประโยชน์แก่ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องอย่างไร และจะมีผลต่อบทบาท 5. การเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง การอบรมผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตรต้องคานึงและต้องกระทาอย่างรอบคอบ นับแต่ขั้นเตรียมการสารวจข้อมูลเบื้องต้นที่นามาใช้ในการวางแผน และวิธีการฝึกบุคลากร เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการใช้หลักสูตรซึ่งจะมีความแตกต่างของความพร้อมของใช้หลักโรงเรียนในตัวเมือง ขนาดใหญ่ย่อมมีความพร้อมหลายๆ ด้านมากกว่าโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท และบุคลากรฝ่ายต่างๆ เช่น ผู้บ ริ ห า ร ศึ ก ษ า นิ เ ท ศ ก์ ค รู ก ลุ่ม ผู้ส นั บ ส นุ น ร ว ม ทั้ ง ผู้ป ก ค ร อ ง วิธี ก า ร อ บ ร ม ระยะเวลาที่ใช้ในการอบรมและงบประมาณที่ใช้ในแผนนี้ วิธีการฝึ กอบรมจะ แตกต่าง กัน ไปตามกลุ่มเ ป้าหมายของการใช้หลักสู ตร เช่น ผู้ บ ริ ห า ร แ ล ะ ผู้ ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง วิ ธี ก า ร อ บ ร ม จ ะ มุ่ง เ น้ น เ กี่ ย ว กั บ น โ ย บ า ย เจตนารมณ์ของหลักสูตรการจัดงบประมาณและบริการสนับสนุนการใช้หลักสูตรและการสอน วิธีการที่ใช้ส่วนมากจะเป็ นการประชุมชี้แจงสาระสาคัญและ แนวทางการปฏิบัติ เป็ นต้น วิ ธี ก า ร ที่ ใ ช้ ส่ ว น ม า ก จ ะ เ ป็ น มุ่ ง เ น้ น ก า ร ป ร ะ ชุ ม เ ชิ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร เพราะการที่จะเข้าใจหลักสูตรจนสามารถปฏิบัติการสอนได้นั้นต้องลงมือฝึกปฏิบัติจริงครูจึงจะเห็นภาพรวม แ ล ะ เ กิ ด ค ว า ม มั่ น ใ จ ใ น ก า ร ส อ น วิธีการฝึกอบรมแบบนี้จะสิ้นเปลืองงบประมาณและต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ดังนั้นทรัพยากรต่างๆ ก า ร เ ต รี ย ม วั ส ดุ ส า ห รั บ ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม
  • 12. จะต้องมีการวางแผนอย่างดีเพื่อไม่ให้ครูเกิดความสับสนและไม่แน่ใจซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่ยอมรับหลักสูตรใ หม่ตามมา นอกจากนั้นครูให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อให้ทราบผลของการฝึกอบรมปัญหาและแนวทางแก้ไข โ ด ย ใ ห้ ผู้ อ บ ร ม ไ ด้ มี ส่ ว น ว า ง แ ผ น ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า แ ล ะ ตั ด สิ น ใ จ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผลของการพัฒนาหลักสูตรดาเนินไปสู่การปฏิวัติจริงได้มากขึ้น 5.2 ขั้นดาเนินการใช้หลักสูตร การนาหลักสูตรไปใช้เป็นการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน การใช้หลักสูตรจะมีงานหลัก 3 ลักษณะ คือ 1. การบริหารและบริการหลักสูตร 2. การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร 3. การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร 1. ก า ร บ ริ ห า ร แ ล ะ บ ริ ก า ร ห ลั ก สู ต ร หน่วยงานบริการหลักสูตรส่วนกลางของคณะพัฒนาหลักสูตรจะมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเตรียมบุคลา ก ร เ พื่ อ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ก า ร บ ริ ห า ร แ ล ะ บ ริ ก า ร ห ลั ก สู ต ร ส่วนงานบริหารและบริการหลักสูตรในระดับท้องถิ่นซึ่งได้แก่โรงเรียนก็จะเกี่ยวข้องกับการจัดบุคลากรเข้าส อนตามความถนัดและความเหมาะสม การบริหารและการบริการหลักสูตรในโรงเรียนได้แก่ 1. 1 ก า ร จัด ค รู เ ข้า ส อ น ต า มห ลัก สู ต ร ก า ร จัด ค รู เ ข้า ส อ น ห มา ย ถึ ง การจัดและดาเนินการเกี่ยวกับการสรรหาและกลวิธีการใช้บุคลากรอย่างเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ ค ว า ม ส น ใ จ ค ว า ม ถ นั ด แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ร ว ม ทั้ ง ส า ม า ร ถ พัฒ น า บุ ค ล า ก ร เ พื่ อ ใ ห้ มีค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ และมีความรับผิดชอบต่อการงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดครูเข้าสอนโดยหลักสูตรทั่วไปจะเป็นงานของหัวหน้าสถานศึกษาแต่ละแห่ง การรับครูเ ข้าสอน จาเ ป็ น ต้อง คานึง ถึง ความรู้ ความสามารถ ความสนใ จ ค วามถนั ด แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ต ล อ ด จ น ค ว า ม ส มั ค ร ใ จ ข อ ง ค รู แ ต่ ล ะ ค น ด้ ว ย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้หลักสูตรแต่ละคนมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพของตนให้เป็นประโยชน์ต่อการใช้หลักสูตรให้มา กที่สุด 1. 2 บ ริ ก า ร พั ส ดุ ห ลั ก สู ต ร วัส ดุ ห ลั ก สู ต ร ที่ ก ล่ า ว ถึ ง นี้ ไ ด้ แ ก่ เ อกสารห ลักสู ตรและ สื่ อการเ รี ยน การสอน ทุกช นิ ดที่จัดทาขึ้ น เ พื่อใ ห้ ความสะ ดวก แ ล ะ ช่ ว ย เ ห ลื อ ค รู ใ ห้ ส า ม า ร ถ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ไ ด้ อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง งานบริการหลักสูตรจึงเป็นภารกิจของหน่วยงานส่วนกลางซึ่งมีหน้าที่ในการพัฒนาหลักสูตรจึงเป็นหน้าที่ข
  • 13. องหน่วยงานส่วนกลางซึ่งผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องดาเนินการบริหารและบริการสื่อหลักสูตรให้มีประสิทธิภ าพเพื่อให้ถึงมือผู้ใช้ในโรงเรียนแต่ละแห่งอย่างครบถ้วนและทันกาหนด 1.3 การบริหารหลักสูตรภายในโรงเรียน การจัดบริการหลักสูตรภายในโรงเรียนได้แก่ ก า ร จั ด สิ่ ง อ า น ว ย ค ว า ม ส ะ ด ว ก ต่ า ง ๆ แ ก่ ผู้ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ช่ น การบริ หารห้อง สอน วิช าเ ฉ พ าะ บ ริ การเ กี่ย ว กับ ห้อง ส มุด สื่ อการเ รี ยน กา ร ส อ น บริ การเ กี่ยวกับเ ครื่ อง มือใ น การ วัด ผลแ ละ ประ เ มิน ผลแ ละ การแน ะ แน ว เ ป็ น ต้น ผู้บริหารโรงเรียน ควรอานวยความสะดวกใน การจัดทาหรื อจัดหาแหล่ง วิชาการ ต่าง ๆ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ภายนอกโรงเรียนอีกด้วย 2. การดาเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตร 2. 1 ก า ร ป รั บ ป รุ ง ห ลั ก สู ต ร ใ ห้ ส อ ด ค ล้ อ ง กับ ส ภ า พ ข อ ง ท้ อ ง ถิ่ น เนื่องจากหลักสูตรที่ร่างขึ้นมาเพื่อใช้กับประชากรโดยส่วนรวมในพื้นที่กว้างขวางทั่วประเทศนั้น มัก จ ะ ไ ม่ส อ ด ค ล้ อ ง กับ ส ภ า พ ปั ญ ห า แ ล ะ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ท้อ ง ถิ่ น ดัง นั้ น เพื่อให้หลักสูตรมีความสอดคล้องกับสภาพของสังคมในท้องถิ่น และสามารถสนองความต้องการของผู้เรียน ควรจะได้มีการปรับหลักสูตรกลางให้มีความเหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นที่ใช้หลักสูตรนั้นๆ 2. 2 การจัดทาแผนการสอนอการจัดทาแผนการสอนเป็นการขยายรายละเอียดของหลักสูตรให้ไปสู่ภาคปฏิบัติโด ยการกาหนดกิจกรรมและเวลาไว้อย่างชัดเจน สามารถนาไปปฏิบัติได้ แผนการสอนควรจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. แผนการสอนระยะยาว จัดทาเป็นรายภาคหรือรายปี 2. แ ผ น ก า ร ส อ น ร ะ ย ะ สั้ น นาแผนการสอนระยะยาวมาขยายเป็นรายละเอียดสาหรับการสอนในแต่ละครั้ง 1. ว า ง เ ป็ น แ น ว ท า ง ใ น ก า ร ส อ น ซึ่งจะช่วยให้ความสะดวกแก่ครูผู้ใช้หลักสูตรสามารถดาเนินการสอนให้ได้ตามความมุ่งหมายของหลักสูตร 2. ใ ห้ ค ว า ม ส ะ ด ว ก แ ก่ ผู้ บ ริ ห า ร แ ล ะ ศึ ก ษ า นิ เ ท ศ ก์ ในการช่วยเหลือแนะนาและติดตามผลการเรียนการสอน 3. เป็นแนวทางในการสร้างข้อทดสอบเพื่อประเมินผลการเรียนการสอนเพื่อให้มีการ ครอบคลุมกับเนื้อหาสาระที่ได้สอนไปแล้ว จะ เ ห็ น ได้ว่าแผน กา รส อน จะ เ ป็ น แ น ว ทาง ใ น กา รใ ช้หลัก สู ต ร ข อ ง ค รู ถ้ า ห า ก ไ ม่ มี ก า ร จั ด ท า แ ผ น ก า ร ส อ น การใช้หลักสูตรก็จะเป็นไปอย่างไม่มีจุดหมายทาให้เสียเวลาหรือมีข้อบกพร่องในการใช้หลักสูตรเป็นอย่างม ากอันจะส่งผลให้การบริหารหลักสูตรเกิดความล้มเหลว
  • 14. 2. 3 ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น มีนั ก ป ร า ช ญ์ ท า ง ด้า ง ห ลั ก สู ต ร ห ล า ย ค น ไ ด้ใ ห้ ค ว า มห มา ย ข อ ง ห ลัก สู ต ร ว่า เ ป็ น กิจ ก ร ร มก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ช นิ ด ต่าง ๆ ที่ จัด โ ด ย โ ร ง เ รี ย น ดัง นั้ น จึ ง ถื อว่า กิจกรรมการเรียนการสอนซึ่งจัดขึ้นโดยครูเพื่อให้สนองต่อเจตนารมณ์ของหลักสูตรจึงเป็นส่วนของการนา หลักสูตรไปสู่ภาคปฏิบัติโดยแท้จริง ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละครั้งจาเป็นจะต้องเริ่มจากการพิจารณาถึงจุดมุ่งหมายขอ งการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเรื่ องใดเรื่องหนึ่ งอาจจะทาได้หลายๆชนิด ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปอย่างมากในเรื่องการใช้เวลา การใช้แรงงาน การใช้ทรัพยากร ต ล อ ด จ น ก า ร ใ ช้ ง บ ป ร ะ ม า ณ โดยเหตุนี้ครูผู้สอนในฐานะเป็นผู้จัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนควรพิจารณาคัดเลือกกิจกรรมที่เห็นว่าจะก่อให้เกิ ดความรู้ หรือประสบการณ์ และสามารถทาให้บรรลุจุดมุ่งหมายได้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด ประหยัดเวลาที่สุด ประหยัดแรงงานและค่าใช่จ่ายมากที่สุด การสอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ ง อาจจะ เ ลือกใ ช้เ ฉพ าะกิจกรรมที่เ ห็ น ว่ามีประ สิ ทธิ ภ าพ มากที่สุ ดเ พียง 1- 2 กิจกรรม ก็ เ พี ย ง พ อ แ ล้ ว ไ ม่ จ า เ ป็ น จ ะ ต้ อ ง ท า ทุ ก ๆ กิจกรรมเพราะการทาเช่นนี้นั้นนอกจากไม่เป็นการประหยัดด้วยประการทั้งปวงแล้วอาจจะก่อให้เกิดความเบื่ อหน่ายอีกด้วย 2.4 การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน ในการนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น มี ขั้ น ต อ น ห นึ่ ง ที่ จ ะ ข า ด เ สี ย มิ ไ ด้ คื อ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล เพราะการวัดและประเมินผลจะได้ข้อมูลย้อนกลับที่สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความก้าวหน้าในการเรี ยน รู้ว่าบรรลุตามจุดประ สง ค์ของ การสอน และ ความมุ่ง หมายของ หลักสู ตรหรื อไม่ การวัดและประเมินผลการศึกษาเป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพของนักการศึกษาในระดับการ ศึ ก ษ า ต่ า ง ๆ เพราะผลจากการวัดจะเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจของครูและนักการศึกษาเพื่อใช้ปรับปรุงวิธีการสอน ก า ร แ น ะ แ น ว การประเมินหลักสูตรแบบเรียนการใช้อุปกรณ์การสอนตลอดจนการจัดระบบบริหารทั่วไปของโรงเรียน และ น อกจากนี้ ยัง ไม่ช่วยปรับปรุ ง การเ รี ยน ของ นักเ รี ยน ใ ห้เ รี ยน ถูกวิธี ยิ่ง ขึ้ น เ ช่น ผลการสอบของนักเรียนที่ไม่ดี ไม่เพียงแต่แสดงความอ่อนของนักเรียนแต่ละ คนเท่านั้ น เพราะถ้าพิจารณาผลการสอบรวมทั้งโรงเรียนก็จะแสดงถึงความบกพร่องในการสอนไม่ดีของครูด้วย และถ้าพิจารณาผลการสอบรวมทั้งโรงเรียนก็จะแสดงถึงความบกพร่องในด้านการบริหารโรงเรียนของครูใ หญ่ และคณะผู้บริหาร ยิ่งกว่านั้นถ้าเราพิจารณาผลสอบรวมทั้งประเทศอีกด้วย ดังนั้น การวัดและประเมินผลการเรียนการสอนจึงนับว่ามีความสาคัญยิ่งในการพัฒนาคุณภาพของการศึกษา
  • 15. การวัดและประเมินผลเป็นส่วนที่จะใช้พิจารณาตัดสินว่าผู้เรียนบรรลุจุดมุ่งหมายของการสอนตาม ที่ ก า ห น ด ไ ว้ ห รื อ ไ ม่ เ พี ย ง ใ ด การวัดและประเมินผลจึงเป็นกระบวนการต่อเนื่องสัมพันธ์กับกระบวนการการเรียนการสอนซึ่งจาเป็นต้องจั ดให้เป็ นระบบที่ชัดเจนเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการเรียนการสอน อันเป็นส่วนสาคัญของการนาหลักสูตรไปใช้ 3. การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตร 3. 1 การจัดงบประมาณเพื่อการเรียนการสอนนั้นเป็นสิ่งจาเป็นและมีความสาคัญมากสาหรับสถานศึกษาทุกระดั บ ผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องบริหารงานงบประมาณของโรงเรียนประจาปีการศึกษาหนึ่งๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงและยังประสิทธิ ผลตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ หรืออีกนัยหนึ่ งก็คือ ผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินของโรงเรียนจะต้องมีสมรรถภาพในการจัดงบประมาณ ข อ ง โ ร ง เ รี ย น ไ ด้ ดี ไ ม่ มี ผิ ด พ ล า ด จึงจะสามารถจัดงบประมาณของโรงเรียนให้สอดคล้องกับแผนการเรียนการสอนของแต่ละกลุ่มวิชาได้เป็น อย่างดี 3.2 การใช้อาคารสถานที่ เป็นสิ่งสนับสนุนการใช้หลักสูตรซึ่งผู้บริหารการศึกษา พึ ง ต ร ะ ห นั ก อ ยู่ เ ส ม อ ว่า อ า ค า ร ส ถ า น ที่ แ ล ะ สิ่ ง ป ลู ก ส ร้ า ง ต่ า ง ๆ ใ น ส ถ า น ศึ ก ษ า ย่ อ ม เ ป็ น ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ส า คั ญ ต่ อ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น และการอบรมบ่มเพราะนิสัยแก่ผู้เรียนได้ทั้งสิ้นแต่เนื่องจากสถานศึกษาแต่ละแห่งอาจมีปริมาณและคุณภาพ ข อ ง อ า ค า ร ส ถ า น ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น ฉะนั้นผู้บริหารจาเป็นจะต้องวางโครงการและแผนการใช้อาคารสถานที่ทุกแห่งให้เหมาะ สม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะสามารถกระทาได้ โดยจะต้องสารวจศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบ แ ล้ ว จึ ง ว า ง แ ผ น ว่า ค ว ร ด า เ นิ น ก า ร อ ย่า ง ไ ร จึ ง จ ะ บ ร ร ลุ ต า ม เ จ ต น า ร มณ์ หรืออุดมการณ์ของหลักสูตรที่กาหนดไว้ 3. 3 ก า ร อ บ ร ม เ พิ่ ม เ ติ ม ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ข ณ ะ ที่ ด า เ นิ น ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร จ ะ ต้ อ ง ศึ ก ษ า ปั ญ ห า แ ล ะ ป รั บ แ ก้สิ่ ง ต่า ง ๆ ใ ห้ เ ข้ า กับ ส ภ า พ จ ริ ง แ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ไ ป ไ ด้ ใ ห้ ม า ก ที่ สุ ด เ ท่า ที่ จ ะ ม า ก ไ ด้ ทั้งนี้โดยไม่ให้เสียหลักการใหญ่ของหลักสูตรสิ่งที่ครู ต้องการมากที่สุดคือการฝึกอบรมเพิ่มเติม เ พื่ อ ส ร้ า ง ค ว า ม พ ร้ อ ม ใ น ก า ร ส อ น ข อ ง ค รู ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม มั่ น ใ จ ม า ก ขึ้ น การฝึกอบรมจะกระทาจากการวิเคราะห์ส่วนที่ขาดในบทบาทหน้าที่ของครู เกี่ยวกับการใช้หลักสูตร
  • 16. เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของสังคมและที่สาคัญที่สุดคือการเพิ่มพูนประสิทธิภาพขอ งกระบวนการเรียนการสอน 3.4 การจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตรภารกิจเกี่ยวกับ การจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้หลักสูตรที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนกลางซึ่งเ ป็ น ผู้ พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร หน่วยงานนี้ควรหาทางสนับสนุนและส่งเสริมหน่วยงานผู้ใช้หลักสูตรให้สามารถดาเนินการใช้หลักสูตรด้ว ยความมั่นใจ การจัดตั้งศูนย์วิชาการ อาจจะทาในลักษณะของศูนย์ให้บริการแนะนาช่วยเห ลือ หรือจัดตั้งโรงเรียนตัวอย่าง หรือดังที่กรมวิชาการได้จัดตั้ง “โรงเรียนผู้นาการใช้หลักสูตร” ที่ศูน ย์พัฒน าห ลักสู ตรก็ได้ โรง เ รี ยน ผู้น าการใ ช้ห ลักสู ตรที่กรมวิช าการจัด ตั้ ง ขึ้ น จะเป็นโรงเรียนที่สามารถดาเนินการใช้หลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพในลักษณะใดลักษณะหนึ่งซึ่งพอจะเ ป็ น แ บ บ อ ย่ า ง ใ ห้ แ ก่ โ ร ง เ รี ย น อื่ น ๆ ไ ด้ วิธีการเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นให้โรงเรียนผู้ใช้หลักสูตรได้มีความกระตือรือร้นในการพัฒนาประสิทธิภาพใ น ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ใ น โ ร ง เ รี ย น ข อ ง ต น และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการใช้หลักสูตรระหว่างโรงเรียนต่างๆ ด้วย 5.3 ขั้นติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตร 1. ก า ร นิ เ ท ศ แ ล ะ ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ใ น โ ร ง เ รี ย น การนิเทศมีความจาเป็ น อย่างยิ่งในหน่วยงานทุกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการศึก ษา เพื่อเป็ นการช่วยปรับปรุง การเรี ยนการสอน สงัด อุทรานันท์ (2532 : 268-269) กล่าวว่า ก า ร นิ เ ท ศ แ ล ะ ติ ด ต า ม ผ ล ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร ใ น ร ะ ห ว่า ง ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร นั้ น หน่วยงานส่วนกลางในฐานะผู้พัฒนาหลักสูตรควรจัดส่งเสริมเจ้าหน้าที่ไปให้คาแนะนาเกี่ยวกับการใช้หลัก สูตรเพิ่มเติม และติดตามผลการใช้หลักสูตรในโรงเรียนว่าได้ดาเนินการด้วยความถูกต้องหรื อไม่ มีปัญหาใดเกิดขึ้นหรือไม่หากไม่มีปัญหาก็จะได้แก้ไขให้ลุล่วงไปสาหรับหน่วยงานในระดับท้องถิ่นอาจดาเ นินการให้คาปรึกษาแนะนาและช่วยเหลือแก่ครูผู้ใช้หลักสูตรให้ดาเนินการใช้หลักสูตรอย่างถูกต้อง ก า ร นิ เ ท ศ ก า ร ใ ช้ห ลั ก สู ต ร ห รื อ นิ เ ท ศ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ต้ อ ง ค า นึ ง ถึ ง ห ลั ก ส า คั ญ ข อ ง ก า ร นิ เ ท ศ คื อ การให้คาแนะนาช่วยเหลือไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อจับผิดแต่ประการใด โดยลักษณะเช่นนี้ ผู้นิ เ ทศจาเ ป็ น จะ ต้อง สร้าง ค วา มสั ม พัน ธ์ แ ละ ค วา มเ ข้าใ จอัน ดี กับ ผู้รั บ การ นิ เ ท ศ การดาเนินการนิเทศจะต้องดาเนินไปด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นประชาธิปไตยและร่วมมือกัน 2. ก า ร ติ ด ต า ม แ ล ะ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร จ ะ ต้อ ง มีก า ร ว า ง แ ผ น ไ ว้ใ ห้ชัด เ จ น ว่า จ ะ ท า ก า ร ป ร ะ เ มิน ส่ว น ใ ด ข อ ง ห ลักสู ตร ถ้าการวางแผนเกี่ยวกับการประเมินไม่ชัดเจนเมื่อมีความต้องการจะทาการประเมินในหัวข้อนั้นหรือส่วนนั้น บางครั้งอาจจะกระทาไม่ได้ต่อเนื่อง ดังนั้น การวางแผนเพื่อการประเมินหลักสูตรจะต้องชัดเจน
  • 17. และจะต้องใช้วิธีการประเมินอย่างไรจึงจะได้ผลเป็ นภาพรวมที่สามารถนามาอธิบายได้ว่า สิ่ ง ใ ด เ ป็ น บ ร ร ย า ก า ศ หรือสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออานวยเท่าที่ดาเนินการใช้หลักสูตรไปแล้วบรรลุถึงสิ่งที่กาหนดไว้มากน้อยเพียงใ ด สามารถตอบสนองความมุ่งหมายหลักที่กาหนดไว้หรือไม่ การประเมินหลักสูตรว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่ การออกแบบประเมินที่กว้างและลึก คือการมองภาพรวมทั้งหมดของการใช้หลักสูตรการหาตัวบ่งชี้สาคัญๆ นั้นจะต้องระมัดระวังเรื่องตัวแปรทางด้านวัฒนธรรมสังคมและทางเศรษฐกิจด้วยเพราะบางอย่างผู้ประเมินอ า จ จ ะ ม อ ง ข้ า ม ไ ป เ ช่ น โรงเรียนขนาดใหญ่ย่อมได้เปรียบกว่าโรงเรียนขนาดเล็กองค์ประกอบที่ตั้งของโรงเ รี ยน ถ้าชุมชนให้ความสนับสนุนอย่างดีก็มีผลต่อการใช้หลักสูตร หรือโรงเรียนเล็กมากเกินไป เช่นมีนักเรียน 40- 50 ค น มี ค รู 2- 3 คนบางครั้งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทาให้ไม่สามารถที่จะพัฒนาได้มากเท่าที่ควรหลักการจะร่างให้ดี ส มบู ร ณ์ สั ก เ ท่า ใ ด ก็ต า มก า ร น า ห ลัก สู ต ร ไ ป ใ ช้ก็ค ว ร จ ะ พิ จ า ณ า ใ ห้ ร อ บ ค อ บ ถึ ง แ ม้ว่า ปั จ จุ บั น นี้ จ ะ มีร ะ บ บ ก ลุ่มโ ร ง เ รี ย น ช่ว ย เ ห ลื อ ก็ต า ม บ ริ บ ท ท า ง สั ง ค ม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมจะเป็นสิ่งที่มาช่วยเสริมให้สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่าเหตุใดการนาหลักสูตรไปใช้ ไ ด้ ผ ล ห รื อ ไ ม่ ไ ด้ ผ ล เ พ ร า ะ มี ปั จ จั ย แ ท ร ก ซ้ อ น ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ สังคมและค่านิยมของบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยข้อพิจารณาในการประเมินหลักสูตรสรุปได้ดังนี้ การประเมินหลักสูตร การบรรลุเป้าหมาย ด้านสังคม วัฒนธรรม ด้านงบประมาณ ด้านระบบบริหาร ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง ด้านเทคนิค ด้านบรรยากาศในการทางาน
  • 18. ภาพประกอบ 30 แสดงข้อพิจารณาในการประเมินหลักสูตร ก ร ะ บ ว น ก า ร ใ น ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล เ พื่ อ ค ว บ คุ ม ภ า พ ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ในแง่ของการปฏิบัติการกระบวนการของการประเมินผลเพื่อควบคุมคุณภาพของหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3 ขั้น ตอน คือ การตรวจสอบห าประ สิ ทธิ ผลและ ความตกต่าของคุณภ าพ ของห ลักสูตร การตรว จส อ บ หา สาเ ห ตุ ของ ค ว า มต ก ต่า ข อง คุณภ าพ และ การน าวิธี ก า ร ต่า ง ๆ มาแก้ไขพร้อมทั้งตรวจสอบประสิทธิผลของวิธีการเหล่านั้น รายละเอียดของแต่ละขั้นตอน มีดังนี้ 1. การต รว จสอบประสิ ทธิผ ล แล ะค ว ามต กต่าข องคุณภาพข องหลักสูตร วิ ธี ก า ร ต ร ว จ ส อ บ เ ริ่ ม ด้ ว ย ก า ร ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล พื้ น ฐ า น ( Basic Data) เ พื่ อ ใ ช้ เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ ข้ อ มู ล ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ด า เ นิ น ก า ร ข้อมูลพื้น ฐาน นี้ ควรเ ก็บรวบรวมใ น ระ หว่าง ที่น าหลักสู ตรไปทดลอง ใ น ภ าคสน าม ค ว ร เ ก็ บ ใ ห้ ไ ด้ ม า ก แ ล ะ ห ล า ก ห ล า ย เ ราจะ สรุ ปว่าคุณภ าพ ของ ห ลัก สู ตร ต่าลง ก็ต่อเ มื่อข้อ มูล ผล สั มฤท ธิ์ ใ น ด้าน ต่า ง ๆ ที่ ร ว บ ร ว ม ไ ด้ ห ลั ง จ า ก ก า ร ท ด ล อ ง ใ ช้ ใ น ภ า ค ส น า ม มีค่าต่ากว่าข้อมูลที่รวบรวมได้จากการทดลองใช้ในภาคสนาม อย่างไรก็ตามสิ่งที่พึงระมัดระวังก็คือ ใ น ก า ร เ ก็ บ ข้ อ มู ล ทั้ ง ส อ ง ค รั้ ง นั้ น จ ะ ก ร ะ ท า ใ น ส ภ า พ ที่ ใ ก ล้ เ คี ย ง กัน ที่ สุ ด มิฉะนั้นแล้วจะนาข้อมูลทั้งสองครั้งมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ สาหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลหลังจากการนาเอาหลักสูตรมาใช้ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว มีข้อมูลที่ ควรรวบรวม 3 รายการ คือ ผลการทดสอบขั้น สุดท้าย (ผลการสอบปลา ยปี ) ผลการสอบแต่ละวิชาในแต่ละภาคเรียนและข้อมูลจากพฤติกรรมของเรียนและจากการเครื่องมือวัด เช่น แ บ บ ท ด ส อ บ ค ว า ม ส น ใ จ แ ล ะ เ จ ต ค ติ น อ ก จ า ก 3 รายการนี้ เ ราอาจเ ก็บข้อมูลอื่น ที่มีผลพ าดพิง ถึง คุณภ าพ ของ หลักสู ตรด้วยก็ได้ เช่น สถิติการยืมหนังสือของห้องสมุดการเลือกเรียนวิชาที่ไม่ได้บังคับ และบันทึกเรื่องราวการกระทาต่างๆ ของผู้เรียน เป็นต้น ด้านการบริหารสนับสนุน ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อทราบ - การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย - ปัญหาและแนวทางแก้ไข