SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
นโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class
More Knowledge)" มี 4 เรื่องหลักที่จะต้องดำาเนินการเพื่อ
ให้โครงการมีความสมบูรณ์ ดังนี้
1. หลักสูตร
ยืนยันกับผู้ปกครอง นักเรียน และครู ว่าจะไม่มีการเปลี่ยน
หลักสูตร แต่จะใช้วิธีปรับปรุงใน 2 ส่วน คือ
- เนื้อหาภายในแต่ละวิชาที่มีความซ้ำ้าซ้้อนจะต้องตัด
ออกไป โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตัวชี้วัด ซ้ึ่งได้มีการ
หารือร่วมกับสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(สพฐ.) และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ (สทศ.) ใน
ฐานะผู้จัดการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ หรือ NT
(National Test) และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้น
พื้นฐาน หรือ O-NET (Ordinary National Educational Test)
แล้ว
- การปรับโครงสร้างเวลาเรียนทั้งในระดับประถมศึกษา
และมัธยมศึกษาใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระดับประถมศึกษา เดิมกำาหนดเวลาเรียนไว้ไม่น้อยกว่า
1,000 ชั่วโมงต่อปี แต่ในความเป็นจริงใช้เวลาเรียนจริง 1,200-
1,400 ชั่วโมงต่อปี จึงจะปรับโครงสร้างเวลาเรียนในห้องเรียน
ใหม่ ไม่เกิน 1,000 ชั่วโมงต่อปี หรือ 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อ
ให้มีการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะผู้เรียนในชั่วโมงที่เหลือ 8-13
ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เดิมกำาหนดเวลาเรียนไว้ไม่น้อย
กว่า 1,200 ชั่วโมงต่อปี แต่ในความเป็นจริงใช้เวลาเรียน 1,400
ชั่วโมงต่อปี จึงจะปรับโครงสร้างเวลาเรียนในห้องเรียนใหม่ ไม่
เกิน 1,200 ชั่วโมงต่อปี หรือ 27 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อให้
สามารถจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะผู้เรียนในชั่วโมงที่เหลือ 8
ชั่วโมงต่อสัปดาห์
2. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ซ้ึ่งจะแบ่งการดำาเนินงาน ออกเป็น 3 ส่วน คือ
- จำานวนสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ โดยในขณะนี้มี
โรงเรียนในสังกัดสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
(สพป.) และสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ที่
มีความพร้อมสมัครเข้าร่วมโครงการหลากหลายระดับ (ข้อมูล ณ
วันที่ 22 กันยายน 2558 พบว่า มีโรงเรียนสมัครเข้าร่วม
โครงการ จำานวนรวมทั้งสิ้น 2,948 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียน
สังกัด สพป. 2,602 โรงเรียนจาก 137 เขตพื้นที่การศึกษา และ
โรงเรียนสังกัด สพม. 346 โรงเรียนจาก 32 เขตพื้นที่การศึกษา)
คือ โรงเรียนอนุบาลจังหวัด โรงเรียนอนุบาลอำาเภอ โรงเรียน
ขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ตลอดจน
โรงเรียนขยายโอกาสและโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ
- ครู ขณะนี้ สพฐ.ได้เตรียมการที่จะเตรียมความพร้อมให้กับ
ครูใน 2 ส่วน คือ 1) การอบรม (Workshop) โรงเรียนนำาร่อง
จัดการเรียนรู้สู่ “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ภาคเรียนที่
2/2558 ใน 6 พื้นที่ เป็นเวลา 2 วัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร
พิษณุโลก อุดรธานี สงขลา อุบลราชธานี และเชียงใหม่ เพื่อ
สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้
กับครู 2) จัด Smart Trainer จำานวน 300 ทีม เพื่อเป็นทีมพิเศษ
ลงไปดูแลให้ความช่วยเหลือครูในแต่ละโรงเรียนในสัดส่วน 1
ทีมต่อ 10 โรงเรียน ซึ่งทีมนี้เปรียบเสมือนศึกษานิเทศก์ที่จะคอย
ให้ความดูแล ติดตาม ให้คำาแนะนำาอย่างใกล้ชิด
- รูปแบบ/วิธีการจัดการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการได้ใช้
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเบนจามิน บลูม (Bloom et al, 1956) และ
คณะ ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียน ซึ่งได้จำาแนก
จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ออกเป็น 3 ด้าน คือ
1) ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) หรือสมอง ที่จะต้องฝึกให้เด็ก
รู้จักคิดตามหลักการการพัฒนาสมองของเด็กแต่ละช่วงวัย
2) ด้านเจตพิสัย (Affective Domain) หรือหัวใจ ที่จะต้องปลูกฝัง
คุณธรรมจริยธรรม ความมีวินัย ความเป็นชาติไทย รักสถาบันพระมหา
กษัตริย์ รู้จักสิทธิและหน้าที่ ฝึกให้มีทัศนคติที่ถูกที่ควร
3) ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) หรือมือ ก็คือการฝึกให้มี
ทักษะจากการปฏิบัติ
Head - Heart - Hand
สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการจะผลิต
กำาลังสายอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น ทำาให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้นที่อาจจะไปเรียนต่อสายอาชีวะ มีกระบวนการได้เรียน
รู้ตัวเอง นอกจากนี้ทฤษฎีดังกล่าวยังสอดคล้องกับพระราชดำารัส
ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับ
องค์ 4 แห่งการจัดการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย
1.พุทธิศึกษา
2.จริยศึกษา
3.หัตถศึกษา
4.พลศึกษา
โดยมีรูปแบบ/วิธีการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมนอก
ห้องเรียน แบ่งเป็น 3 หมวด คือ
1. สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ ซึ่งมีกลุ่มกิจกรรม
พัฒนาด้านการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี
การเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ อาทิ กิจกรรมสนุกกับภาษาไทย
หุ่นยนต์วิเศษ กลคณิตศาสตร์ เที่ยวไกลไร้พรมแดน นิทาน
หรรษา เป็นต้น
2. สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม ซึ่งมีกลุ่มกิจกรรม
ปลูกฝังค่านิยมและจิตสำานึกการทำาประโยชน์ต่อสังคม ปลูกฝัง
ความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม
จริยธรรม ปลูกฝังและสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
อาทิ กิจกรรมมือปราบขยะ ตามรอยพ่อ ลูกเสือเนตรนารี ยุว
กาชาด ผู้บำาเพ็ญประโยชน์ ภูมิใจในบ้านเกิด เป็นต้น
3. สร้างเสริมทักษะการทำางาน การดำารงชีพ และทักษะ
ชีวิต ซึ่งมีกลุ่มกิจกรรมตอบสนองความสนใจ ความถนัด และ
ความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึก
การทำางาน ทักษะทางอาชีพ และอยู่อย่างพอเพียง พัฒนาความ
สามารถด้านการใช้ทักษะชีวิต สร้างเสริมสมรรถนะทางกาย
อาทิ กิจกรรมร้องได้ ร้องดี ชีวีมีสุข ร้อยลูกปัด คู่ Buddy พี่รหัส
วันกีฬาครอบครัว เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการเตรียมจะจัดประชุมสัมมนาผู้แทน
หน่วยงานและองค์กร ที่จะร่วมจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับ
เด็กนักเรียนและสถานศึกษา ในวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2558
เวลา 10.00 น. ซึ่งประกอบด้วยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวง
ยุติธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนคณะ
กรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กลุ่มศิลปินดารา ศูนย์พัฒนา
ฝีมือแรงงาน คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนา
กำาลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) บริษัทเอกชนที่จัดทำาโครงการรับผิดชอบต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการประชุมร่วมกับหน่วย
งานและครูแล้ว จะทำาให้มีกิจกรรมเรียนรู้เพิ่มขึ้นจากที่
กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเชื่อว่าทุกกิจกรรมจะตอบโจทย์
Head (สมอง) Heart (หัวใจ) และ Hand (มือ) ตาม
แต่ละช่วงวัยของผู้เรียนทั้งสิ้น
3) การวัดและประเมินผล
แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การประเมินทางวิชาการต่างๆ ซึ่งได้หารือ
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน ส่วน
การประเมินความสำาเร็จของโครงการ จะมีการประเมินระหว่าง
เทอม 2 ครั้ง และประเมินหลังปิดเทอม 1 ครั้ง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวยำ้าว่า ในเรื่องของการประเมินผลเป็น
เรื่องใหญ่ที่ให้ความสำาคัญมาก เพราะเป็นตัวชี้ให้เห็นว่าส่วนใด
สำาเร็จ และมีส่วนใดที่ยังล้มเหลว จึงได้มอบให้ สพฐ. รวบรวม
หัวข้อในการประเมินทั้งหมดมานำาเสนอ ทั้งในส่วนการประเมิน
ด้านวิชาการ และการประเมินความสุขของนักเรียน ผู้ปกครอง
และครู เพื่อจะได้นำามาเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
พร้อมทั้งต้องตอบโจทย์ปัญหาด้านการศึกษาด้วย เช่น เด็กไทย
เรียนมากและมีการบ้านจำานวนมาก ทำาให้พ่อแม่และเด็กมี
ความเครียด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กไทยไม่ดีขึ้น เด็ก
ไทยขาดทักษะชีวิต ขาดระเบียบวินัย เป็นต้น
ทั้งนี้ หากจำาเป็นที่จะต้องนำาบุคคลที่สามหรือหน่วยงานที่มีความ
เชี่ยวชาญมาเป็นผู้ประเมิน ก็ต้องทำา เพื่อให้ได้คำาตอบของการ
ดำาเนินงานที่ชัดเจน แต่จะต้องพิจารณาถึงรายละเอียดของวิธี
การประเมินก่อนว่า เป็นการสร้างภาระให้กับครูหรือไม่อย่างไร
ซึ่งในความเป็นจริงก็คงจะต้องมีภาระอยู่บ้าง แต่ไม่ควรจะมาก
เกินไป
ในส่วนการประเมินของครู ให้ความสำาคัญและมีความ
เห็นใจมาก เพราะครูจะต้องได้รับการประเมินต่างๆ ที่
ล้วนเป็นภาระกับครูทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีครูบางคนที่เป็นครู
ที่เก่ง ครูดีในพื้นที่ห่างไกล และเป็นที่รักของลูกศิษย์
แต่อาจจะสอบไม่เป็น จึงจำาเป็นที่กระทรวงศึกษาธิการ
จะต้องพัฒนาวิธีการประเมินครูในรูปแบบอื่นๆ นอก
เหนือจากการสอบที่ไม่ควรสร้างภาระให้กับครูมากจน
เกินไป โดยเตรียมที่จะพัฒนาการประเมินครูทั้งระบบ
อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่ "ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน" เป็น
ส่วนสำาคัญของการประเมินด้วย
4) การทบทวนหลังการปฏิบัติ (AAR)
โดยจะดำาเนินการทันทีหลังปิดเทอม เพื่อประมวลและรวบรวม
ปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ จากการดำาเนินโครงการ ของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสีย (Stakeholder) ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะครูและสถานศึกษา
เพื่อนำามาทบทวน ปรับปรุง แก้ไขในการวางแผนดำาเนิน
โครงการในปีการศึกษา 2559 ตลอดจนมีการศึกษารูปแบบการ
จัดการของโรงเรียนที่ประสบความสำาเร็จ เพื่อขยายไปยัง
โรงเรียนที่เหลือต่อไปด้วย
แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

More Related Content

What's hot

รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณีรูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณีParichart Ampon
 
การจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนananphar
 
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนwannaphakdee
 
วิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรวิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรnakkee
 
หลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้น
หลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้นหลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้น
หลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้นAon Narinchoti
 
เอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศว
เอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศวเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศว
เอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศวkomjankong
 
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง Proud N. Boonrak
 
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์  ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์  ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษKobwit Piriyawat
 

What's hot (10)

รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณีรูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
 
การจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอน
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอน
 
วิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตรวิสัยทัศน์ของหลักสูตร
วิสัยทัศน์ของหลักสูตร
 
แผนเศรษฐกิจพอเพียง
แผนเศรษฐกิจพอเพียงแผนเศรษฐกิจพอเพียง
แผนเศรษฐกิจพอเพียง
 
หลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้น
หลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้นหลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้น
หลักสูตรกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปรับปรุง ม.ต้น
 
เอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศว
เอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศวเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศว
เอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ สพฐ มศว
 
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
 
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์  ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์  ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย ครูศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
 

Viewers also liked

พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อโทษฐาน ที่รู้จักกัน
 

Viewers also liked (20)

เศรษฐี อช
เศรษฐี อชเศรษฐี อช
เศรษฐี อช
 
รวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษ
รวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษรวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษ
รวมแนวข้อสอบทีเคยออกชุดพิเศษ
 
ตารางกฎหมายการศึกษา
ตารางกฎหมายการศึกษาตารางกฎหมายการศึกษา
ตารางกฎหมายการศึกษา
 
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51  ฉบับปรับปรุง ระบบ HDหลักสูตร 51  ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
 
ย่อ กข.คจ.
ย่อ กข.คจ.ย่อ กข.คจ.
ย่อ กข.คจ.
 
ยุทธศาสตร์ พช 60 64
ยุทธศาสตร์ พช 60 64ยุทธศาสตร์ พช 60 64
ยุทธศาสตร์ พช 60 64
 
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HDหลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
หลักสูตร 51 ฉบับปรับปรุง ระบบ HD
 
ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1
ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1
ความรู้ทั่วไป +วิทยฐานะ + จรรยาบรรณ V1
 
ความรู้ทั่วไป
ความรู้ทั่วไปความรู้ทั่วไป
ความรู้ทั่วไป
 
รวมฮิตตัวเลข จำ พรบ คุ้มครองเด็ก 2546
รวมฮิตตัวเลข จำ  พรบ คุ้มครองเด็ก 2546รวมฮิตตัวเลข จำ  พรบ คุ้มครองเด็ก 2546
รวมฮิตตัวเลข จำ พรบ คุ้มครองเด็ก 2546
 
ลำยอง 2
ลำยอง 2 ลำยอง 2
ลำยอง 2
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2547 ย่อ
 
ย่อ สัมมาชีพชุมชน
ย่อ สัมมาชีพชุมชนย่อ สัมมาชีพชุมชน
ย่อ สัมมาชีพชุมชน
 
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้วสูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
 
สมรรถนะหลัก และ ประจำสายงาน
สมรรถนะหลัก และ ประจำสายงานสมรรถนะหลัก และ ประจำสายงาน
สมรรถนะหลัก และ ประจำสายงาน
 
คุณธรรม
คุณธรรมคุณธรรม
คุณธรรม
 
ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)
ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)
ย่อ Cdd-agenda-2017 (1)
 
สูตรคณิต
สูตรคณิตสูตรคณิต
สูตรคณิต
 
สุรินทร์
สุรินทร์สุรินทร์
สุรินทร์
 
คุณธรรม วินัย
คุณธรรม  วินัยคุณธรรม  วินัย
คุณธรรม วินัย
 

Similar to แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7benty2443
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7nattawad147
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524gam030
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7wanneemayss
 
บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55
บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55
บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55Decode Ac
 
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมPrasert Boon
 
มาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต 15 มาตรฐาน
มาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต  15 มาตรฐานมาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต  15 มาตรฐาน
มาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต 15 มาตรฐานtassanee chaicharoen
 

Similar to แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (20)

7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
7 170819173524
7 1708191735247 170819173524
7 170819173524
 
จุดเน้นที่ 7
จุดเน้นที่  7 จุดเน้นที่  7
จุดเน้นที่ 7
 
บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55
บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55
บทที่ 6 การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบัน 55
 
สรุป E 734
สรุป    E  734สรุป    E  734
สรุป E 734
 
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 7
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
ตัวอย่าง Sar
ตัวอย่าง Sarตัวอย่าง Sar
ตัวอย่าง Sar
 
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม
 
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 3
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 3ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 3
ผลการดำเนินงานตามจุดเน้นที่ 3
 
มาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต 15 มาตรฐาน
มาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต  15 มาตรฐานมาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต  15 มาตรฐาน
มาตรฐานโรงเรียนวัดพวงนิมิต 15 มาตรฐาน
 

More from โทษฐาน ที่รู้จักกัน

คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...โทษฐาน ที่รู้จักกัน
 
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557โทษฐาน ที่รู้จักกัน
 
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษการบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษโทษฐาน ที่รู้จักกัน
 

More from โทษฐาน ที่รู้จักกัน (14)

ย่อ บริษัทประชารัฐ
ย่อ บริษัทประชารัฐย่อ บริษัทประชารัฐ
ย่อ บริษัทประชารัฐ
 
ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)
ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)
ย่อกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (1)
 
จปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคี
จปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคีจปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคี
จปฐ 2560-2564 ฉบับ นาคี
 
คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...คณะกรรมการ   เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
คณะกรรมการ เรื่องของครู - การลา 11 - จรรยาบรรณ 9 - ตารางกฎหมาย - ตัวย่อ - ร...
 
แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 ok
แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 okแนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 ok
แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมุลข่าวสาร 2540 ok
 
ความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณ
ความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณ
ความรู้ทั่วไป+วิทยฐานะ+จรรยาบรรณ
 
เพิ่มเติม รวมมิตร
เพิ่มเติม รวมมิตรเพิ่มเติม รวมมิตร
เพิ่มเติม รวมมิตร
 
คณะกรรมการต่างๆ
คณะกรรมการต่างๆคณะกรรมการต่างๆ
คณะกรรมการต่างๆ
 
หลักสูตร 51
หลักสูตร 51หลักสูตร 51
หลักสูตร 51
 
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชั่วคราว 2557
 
ชื่อคณะกรรมการต่างๆ
ชื่อคณะกรรมการต่างๆชื่อคณะกรรมการต่างๆ
ชื่อคณะกรรมการต่างๆ
 
อักษรย่อ
อักษรย่ออักษรย่อ
อักษรย่อ
 
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษการบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
การบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทาง กศษ
 
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้วสูตรคณิต เสร็จแล้ว
สูตรคณิต เสร็จแล้ว
 

แนวทางลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

  • 1. นโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge)" มี 4 เรื่องหลักที่จะต้องดำาเนินการเพื่อ ให้โครงการมีความสมบูรณ์ ดังนี้ 1. หลักสูตร ยืนยันกับผู้ปกครอง นักเรียน และครู ว่าจะไม่มีการเปลี่ยน หลักสูตร แต่จะใช้วิธีปรับปรุงใน 2 ส่วน คือ - เนื้อหาภายในแต่ละวิชาที่มีความซ้ำ้าซ้้อนจะต้องตัด ออกไป โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตัวชี้วัด ซ้ึ่งได้มีการ หารือร่วมกับสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ (สทศ.) ใน ฐานะผู้จัดการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ หรือ NT (National Test) และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้น พื้นฐาน หรือ O-NET (Ordinary National Educational Test) แล้ว - การปรับโครงสร้างเวลาเรียนทั้งในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
  • 2. ระดับประถมศึกษา เดิมกำาหนดเวลาเรียนไว้ไม่น้อยกว่า 1,000 ชั่วโมงต่อปี แต่ในความเป็นจริงใช้เวลาเรียนจริง 1,200- 1,400 ชั่วโมงต่อปี จึงจะปรับโครงสร้างเวลาเรียนในห้องเรียน ใหม่ ไม่เกิน 1,000 ชั่วโมงต่อปี หรือ 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อ ให้มีการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะผู้เรียนในชั่วโมงที่เหลือ 8-13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
  • 3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เดิมกำาหนดเวลาเรียนไว้ไม่น้อย กว่า 1,200 ชั่วโมงต่อปี แต่ในความเป็นจริงใช้เวลาเรียน 1,400 ชั่วโมงต่อปี จึงจะปรับโครงสร้างเวลาเรียนในห้องเรียนใหม่ ไม่ เกิน 1,200 ชั่วโมงต่อปี หรือ 27 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อให้
  • 5. ซ้ึ่งจะแบ่งการดำาเนินงาน ออกเป็น 3 ส่วน คือ - จำานวนสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ โดยในขณะนี้มี โรงเรียนในสังกัดสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ที่ มีความพร้อมสมัครเข้าร่วมโครงการหลากหลายระดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กันยายน 2558 พบว่า มีโรงเรียนสมัครเข้าร่วม โครงการ จำานวนรวมทั้งสิ้น 2,948 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียน สังกัด สพป. 2,602 โรงเรียนจาก 137 เขตพื้นที่การศึกษา และ โรงเรียนสังกัด สพม. 346 โรงเรียนจาก 32 เขตพื้นที่การศึกษา) คือ โรงเรียนอนุบาลจังหวัด โรงเรียนอนุบาลอำาเภอ โรงเรียน ขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ตลอดจน โรงเรียนขยายโอกาสและโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ - ครู ขณะนี้ สพฐ.ได้เตรียมการที่จะเตรียมความพร้อมให้กับ ครูใน 2 ส่วน คือ 1) การอบรม (Workshop) โรงเรียนนำาร่อง จัดการเรียนรู้สู่ “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ภาคเรียนที่ 2/2558 ใน 6 พื้นที่ เป็นเวลา 2 วัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พิษณุโลก อุดรธานี สงขลา อุบลราชธานี และเชียงใหม่ เพื่อ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ กับครู 2) จัด Smart Trainer จำานวน 300 ทีม เพื่อเป็นทีมพิเศษ ลงไปดูแลให้ความช่วยเหลือครูในแต่ละโรงเรียนในสัดส่วน 1
  • 6. ทีมต่อ 10 โรงเรียน ซึ่งทีมนี้เปรียบเสมือนศึกษานิเทศก์ที่จะคอย ให้ความดูแล ติดตาม ให้คำาแนะนำาอย่างใกล้ชิด - รูปแบบ/วิธีการจัดการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการได้ใช้ ทฤษฎีการเรียนรู้ของเบนจามิน บลูม (Bloom et al, 1956) และ คณะ ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียน ซึ่งได้จำาแนก จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ออกเป็น 3 ด้าน คือ 1) ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) หรือสมอง ที่จะต้องฝึกให้เด็ก รู้จักคิดตามหลักการการพัฒนาสมองของเด็กแต่ละช่วงวัย
  • 7. 2) ด้านเจตพิสัย (Affective Domain) หรือหัวใจ ที่จะต้องปลูกฝัง คุณธรรมจริยธรรม ความมีวินัย ความเป็นชาติไทย รักสถาบันพระมหา กษัตริย์ รู้จักสิทธิและหน้าที่ ฝึกให้มีทัศนคติที่ถูกที่ควร 3) ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) หรือมือ ก็คือการฝึกให้มี ทักษะจากการปฏิบัติ Head - Heart - Hand สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการจะผลิต กำาลังสายอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น ทำาให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนต้นที่อาจจะไปเรียนต่อสายอาชีวะ มีกระบวนการได้เรียน รู้ตัวเอง นอกจากนี้ทฤษฎีดังกล่าวยังสอดคล้องกับพระราชดำารัส ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับ องค์ 4 แห่งการจัดการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย 1.พุทธิศึกษา 2.จริยศึกษา 3.หัตถศึกษา 4.พลศึกษา
  • 8. โดยมีรูปแบบ/วิธีการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมนอก ห้องเรียน แบ่งเป็น 3 หมวด คือ 1. สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ ซึ่งมีกลุ่มกิจกรรม พัฒนาด้านการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ อาทิ กิจกรรมสนุกกับภาษาไทย หุ่นยนต์วิเศษ กลคณิตศาสตร์ เที่ยวไกลไร้พรมแดน นิทาน หรรษา เป็นต้น
  • 9. 2. สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม ซึ่งมีกลุ่มกิจกรรม ปลูกฝังค่านิยมและจิตสำานึกการทำาประโยชน์ต่อสังคม ปลูกฝัง ความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ปลูกฝังและสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย อาทิ กิจกรรมมือปราบขยะ ตามรอยพ่อ ลูกเสือเนตรนารี ยุว กาชาด ผู้บำาเพ็ญประโยชน์ ภูมิใจในบ้านเกิด เป็นต้น
  • 10. 3. สร้างเสริมทักษะการทำางาน การดำารงชีพ และทักษะ ชีวิต ซึ่งมีกลุ่มกิจกรรมตอบสนองความสนใจ ความถนัด และ ความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึก
  • 11. การทำางาน ทักษะทางอาชีพ และอยู่อย่างพอเพียง พัฒนาความ สามารถด้านการใช้ทักษะชีวิต สร้างเสริมสมรรถนะทางกาย อาทิ กิจกรรมร้องได้ ร้องดี ชีวีมีสุข ร้อยลูกปัด คู่ Buddy พี่รหัส วันกีฬาครอบครัว เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการเตรียมจะจัดประชุมสัมมนาผู้แทน หน่วยงานและองค์กร ที่จะร่วมจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับ เด็กนักเรียนและสถานศึกษา ในวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2558 เวลา 10.00 น. ซึ่งประกอบด้วยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  • 12. กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวง ยุติธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนคณะ กรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กลุ่มศิลปินดารา ศูนย์พัฒนา ฝีมือแรงงาน คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนา กำาลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) บริษัทเอกชนที่จัดทำาโครงการรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR) ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการประชุมร่วมกับหน่วย งานและครูแล้ว จะทำาให้มีกิจกรรมเรียนรู้เพิ่มขึ้นจากที่ กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเชื่อว่าทุกกิจกรรมจะตอบโจทย์ Head (สมอง) Heart (หัวใจ) และ Hand (มือ) ตาม แต่ละช่วงวัยของผู้เรียนทั้งสิ้น 3) การวัดและประเมินผล แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การประเมินทางวิชาการต่างๆ ซึ่งได้หารือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน ส่วน การประเมินความสำาเร็จของโครงการ จะมีการประเมินระหว่าง เทอม 2 ครั้ง และประเมินหลังปิดเทอม 1 ครั้ง
  • 13. รมว.ศึกษาธิการ กล่าวยำ้าว่า ในเรื่องของการประเมินผลเป็น เรื่องใหญ่ที่ให้ความสำาคัญมาก เพราะเป็นตัวชี้ให้เห็นว่าส่วนใด สำาเร็จ และมีส่วนใดที่ยังล้มเหลว จึงได้มอบให้ สพฐ. รวบรวม หัวข้อในการประเมินทั้งหมดมานำาเสนอ ทั้งในส่วนการประเมิน ด้านวิชาการ และการประเมินความสุขของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู เพื่อจะได้นำามาเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมทั้งต้องตอบโจทย์ปัญหาด้านการศึกษาด้วย เช่น เด็กไทย เรียนมากและมีการบ้านจำานวนมาก ทำาให้พ่อแม่และเด็กมี ความเครียด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กไทยไม่ดีขึ้น เด็ก ไทยขาดทักษะชีวิต ขาดระเบียบวินัย เป็นต้น ทั้งนี้ หากจำาเป็นที่จะต้องนำาบุคคลที่สามหรือหน่วยงานที่มีความ เชี่ยวชาญมาเป็นผู้ประเมิน ก็ต้องทำา เพื่อให้ได้คำาตอบของการ ดำาเนินงานที่ชัดเจน แต่จะต้องพิจารณาถึงรายละเอียดของวิธี การประเมินก่อนว่า เป็นการสร้างภาระให้กับครูหรือไม่อย่างไร ซึ่งในความเป็นจริงก็คงจะต้องมีภาระอยู่บ้าง แต่ไม่ควรจะมาก เกินไป ในส่วนการประเมินของครู ให้ความสำาคัญและมีความ เห็นใจมาก เพราะครูจะต้องได้รับการประเมินต่างๆ ที่ ล้วนเป็นภาระกับครูทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีครูบางคนที่เป็นครู ที่เก่ง ครูดีในพื้นที่ห่างไกล และเป็นที่รักของลูกศิษย์ แต่อาจจะสอบไม่เป็น จึงจำาเป็นที่กระทรวงศึกษาธิการ
  • 14. จะต้องพัฒนาวิธีการประเมินครูในรูปแบบอื่นๆ นอก เหนือจากการสอบที่ไม่ควรสร้างภาระให้กับครูมากจน เกินไป โดยเตรียมที่จะพัฒนาการประเมินครูทั้งระบบ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่ "ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน" เป็น ส่วนสำาคัญของการประเมินด้วย 4) การทบทวนหลังการปฏิบัติ (AAR) โดยจะดำาเนินการทันทีหลังปิดเทอม เพื่อประมวลและรวบรวม ปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ จากการดำาเนินโครงการ ของผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย (Stakeholder) ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะครูและสถานศึกษา เพื่อนำามาทบทวน ปรับปรุง แก้ไขในการวางแผนดำาเนิน โครงการในปีการศึกษา 2559 ตลอดจนมีการศึกษารูปแบบการ จัดการของโรงเรียนที่ประสบความสำาเร็จ เพื่อขยายไปยัง โรงเรียนที่เหลือต่อไปด้วย