More Related Content
Similar to รายวิชา 000 150 พระอภิธรรมปิฎก แนวข้อสอบ
Similar to รายวิชา 000 150 พระอภิธรรมปิฎก แนวข้อสอบ (20)
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์ (20)
รายวิชา 000 150 พระอภิธรรมปิฎก แนวข้อสอบ
- 1. รายวิช า 000 150 พระอภิธ รรมปิฎ ก (ชุด ที่ 2)
คำา
ชี้แ จง
คำา สั่ง
แบบทดสอบฉบับนี้มี 100 ข้อ
จำานวน 11 หน้า
จงอ่านคำาถามข้างล่างนี้ และเลือ กคำา ตอบที่ถ ูก ที่ส ุด เพีย งคำา ตอบ
เดีย ว แล้วตอบลง
ในกระดาษคำาตอบ โดยการใช้ปากกาหรือดินสอดำา 2B ระบายใน
วงกลมของตัวเลือก
ที่ท่านเลือกให้ด ำา เข้ม เต็ม วง ดังตัวอย่างที่ปรากฏ ด้า นหลัง
กระดาษคำา ตอบ
เพราะเหตุใดอภิธัมมัตถสังคหะ จึง
1. นิยมศึกษา
กันมากในศรีลังกา
ก. มีเนื้อหาละเอียด
ข. มีเนื้อหากะทัดรัดเข้าใจง่าย
ค. มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว
ง. มีเนื้อหาเหมาะสมกับยุคสมัย
พระอนุฎีกาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ
2. ใคร
ก. พระอนุรุทธเถระ
ข. พระอภิธรรมโกศเถระ
ค. พระพุทธทัตตเถระ
ง. พระธัมมปาลเถระ
3. พระพุทธทัตตเถระ แต่งคัมภีร์เล่มใด
คัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะนิยม
5. ศึกษามาก
ในไทย พม่า และศรีลังกา
เพราะเหตุใด
ก. มีเนื้อหาสั้นแต่ครอบคลุม
ข. ใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่าย
ค. มีเนื้อหาละเอียดชัดเจน
ง. มีสาระนำาไปปฏิบัติได้
พระพุทธเจ้าทรงพิจารณา
6. อภิธรรม 7 คัมภีร์
หลังตรัสรู้ที่ใด
ก. อชปาลเจดีย์
ข. มุจลินทเจดีย์
ค. รัตนจงกรมเจดีย์
ง. รัตนฆรเจดีย์
พระเถระรูปใดแต่งคัมภีร์อภิ
7. ธัมมัตถสังคหะ
ก. พระพุทธโฆสาจารย์
ข. พระอนุรุทธาจารย์
ค. พระธัมมปาลเถระ
ก. วิมุตติมรรค
ข. วิสุทธิมรรค
ค. อภิธัมมาวตาร
ง. อภิธัมมัตถสังคหะ
พระอานันทเถระมีความสำาคัญ
4. อย่างไร
ง. พระมหาธัมมปาลเถระ
ก. เป็นอรรถกถาจารย์ ในพุทธ
คัมภีร์ใดที่แต่งขยายความอภิ
ศตวรรษที่ 9
8. ธัมมัตถสังคหะ
ข. เป็นฎีกาจารย์ ในพุทธศตวรรษที่
ก. อภิธรรมโกศ
- 2. 12
ค. เป็นอนุฎีกาจารย์ ในพุทธ
ศตวรรษที่ 13
ง. เป็นเกจิอาจารย์ ในพุทธศตวรรษ
ที่ 15
ภาษิตในสูตรใดที่ระบุว่าพระพุทธพน
9. จน์มีทั้ง
พระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม
ก. อุปาลิเถรวัตถุ
ข. อานันทเถรวัตถุ
ค. ราหุลเถรวัตถุ
ง. สารีปุตตเถรวัตถุ
. ข้อใดมิใช่อารมณ์วิปัสสนา
1
0. ก. รูปขันธ์
ข. นามขันธ์
ค. อายตนะ
ง. กสิณบัญญัติ
1 พระอภิธรรมมีความพิเศษจากพระ
1. วินัย
และพระสูตรอย่างไร
ก. แสดงโลกุตตรธรรม
ข. แสดงอิทธิปาฏิหาริย์
ค. แสดงแต่ปรมัตถธรรม
ง. แสดงธรรมไม่ระบุบุคคล
กาลเทศะ
1 ถ้าต้องการศึกษาสมมติสัจจะ ควร
2. ศึกษา
จากคัมภีร์เล่มใด
ข. อภิธัมมาวตาร
ค. อภิธัมมภาวิณี
ง. อภิธัมมทีปนี
1 กัณฑ์ที่แสดงทั้งติกะและทุกะ
4. รวมกัน
ด้วยวิธีการที่ไม่ย่อ ไม่พิสดาร
คือกัณฑ์อะไร
ก. อัฏฐกถากัณฑ์
ข. รูปกัณฑ์
ค. จิตตุปปาทกัณฑ์
ง. นิกเขปกัณฑ์
1 กัณฑ์ที่แสดงเพื่อเก็บองค์ธรรม
5. ของอภิธัมม
มาติกาคือข้อใด
ก. นิกเขปกัณฑ์
ข. อัฏฐกถากัณฑ์
ค. จิตตุปปาทกัณฑ์
ง. รูปกัณฑ์
1 ข้อใดเป็นมาติกาในคัมภีร์ธัมม
6. สังคณี
ก. อัชฌัตติกมาติกา
ข. สัตตันตมาติกา
ค. นยมุขมาติกา
ง. ลักขณมาติกา
1 ลำาดับการแสดงจิตในจิตตุปปาท
7. กัณฑ์ขอใด
้
ไม่ถูกต้อง
- 3. ก.
ข.
ค.
ง.
ธาตุกถา
ปุคคลบัญญัติ
กถาวัตถุ
ปัฏฐาน
1
3. คัมภีร์เล่มใดที่รวบรวมปรมัตถธรรม
เป็นหมวดหมู่
ก. สังคณี
ข. วิภังค์
ค. ธาตุกถา
ง. กถาวัตถุ
1 เพราะเหตุใดจึงมีการแสดงอกุศล
9. ธรรม
ต่อจากกุศลธรรม
ก. ชื่อใกล้เคียงกับกุศลธรรม
ข. เกิดต่อจากกุศลธรรมเสมอ
ค. กุศลธรรมและอกุศลธรรมเกิดได้
กับ
ทุกคน
ง. เปรียบเทียบสภาพตรงข้าม
กับกุศลธรรม
2
0. การแสดงกุศล อกุศล และอัพยากตะ
ตามลำาดับ มีลักษณะสัมพันธ์กันตาม
ข้อใด
ก. ละบาป บำาเพ็ญบุญ ทำาใจให้
บริสุทธิ์
ก. กามกุศลจิต กามวิปากจิต
กามกริยาจิต
ข. กุศลจิต อกุศลจิต วิปากจิต
ค. อกุศลจิต กุศลจิต วิปากจิต
ง. อกุศลจิต กุศลจิต กริยาจิต
1 ข้อใดเป็นลำาดับการแสดงอัพ
8. ยากตจิต
ในจิตตุปปาทภัณฑ์
ก. กริยาจิต กุศลวิปากจิต
อกุศลวิปากจิต
ข. กุศลวิปากจิต กริยาจิต
อกุศลวิปากจิต
ค. อกุศลวิปากจิต กริยาจิต
กุศลวิปากจิต
ง. กุศลวิปากจิต อกุศลวิปาก
จิต กริยาจิต
2 การแสดงจำานวนจิตที่เจตสิก
4. ประกอบได้
หรือยกเจตสิกขึ้นเป็นประธาน
สภาวะอย่างนี้
เรียกว่าอะไร
ก. สัมปโยคนัย
ข. สังคหนัย
ค. ตทุภยมิสสกนัย
ง. สหชาตนัย
2 ข้อใดเป็นลักษณะสงบของพระ
5. นิพพาน
ก. สงบจากการเบียดเบียน
ข. สงบจากขันธ์ 5
ค. สงบจากสงคราม
- 4. ข. น่ายินดี มีโทษ หลุดพ้น
ค. ชอบใจ ไม่ชอบ เฉย ๆ
ง. ทำาง่าย ทำายาก ไม่ต้องทำา
2
1. ข้อใดเป็นเหตุใกล้ให้เกิดอกุศลจิต
ก. ปาปมิตร
ข. กาลวิบัติ
ค. ทุคติภูมิ
2
2.
2
3.
ง. สงบจากภัยธรรมชาติ
2 ข้อใดเป็นลักษณะการเข้าถึง
6. นิพพาน
โดยอาศัยอนิจจานุปัสสนา
ก. สุญญตนิพพาน
ข. อนิมิตตนิพพาน
ค. อัปปณิหิตนิพพาน
ง. สัมปยุตตนิพพาน
2 ข้อใดชี้ให้เห็นความแตกต่าง
ง. อโยนิโสมนสิการ
7. ของการแสดง
มาติกาในคัมภีร์ธัมมสังคณีได้
การจำาแนกจิตโดยชาติเภทนัย อาศัย
ถูกต้อง
ก. อภิธัมมมาติกาแสดงเฉพาะ
หลักการใดเป็นสำาคัญ
ในนิกเขป
ก. สถานที่เกิด
กัณฑ์
ข. อภิธัมมมาติกาแสดงเฉพาะ
ข. เหตุใกล้ให้เกิด
ในอัฏฐกถา
ค. ภพภูมิที่เกิด
กัณฑ์
ค. สุตตันตมาติกาแสดงเฉพาะ
ง. ชนชั้นวรรณะที่เกิด
ในนิกเขป
ข้อใดเป็นการจำาแนกจิตตามชาติเภท
นัย
กัณฑ์
ง. สุตตันตมาติกาแสดงเฉพาะ
ก. สัมปยุตตจิต วิปปยุตตจิต
ในอัฏฐกถา
ข. โลกียจิต โลกุตตรจิต
กัณฑ์
ค. กุศลจิต อกุศลจิต วิปากจิต
กิริยาจิต
ง. กามาวจรจิต รูปาวจรจิต อรูปาว
จรจิต
โลกุตตรจิต
2 วิภังค์มีความหมายสอดคล้องกับ
8. พุทธคุณ
ข้อ
ใด
ก. อรหโต
3 ข้อใดมิใช่นัยการแสดงในคัมภีร์
3. วิภังค์
ก. อภิธัมมภาชนียนัย
ข. สุตตันตภาชนียนัย
- 5. ข. สัมมาสัมพุทโธ
ค. สุคโต
ง. ภควา
2 การจำาแนกแจกแจงธรรมเป็นความ
9. หมาย
ของคัมภีร์ใด
ก. ธัมมสังคณี
ข. วิภังค์
ค. ยมก
ง. ปัฏฐาน
3
0. ข้อใดเป็นหมวดธรรมในคัมภีร์วิภังค์
ก. สิกขาบท
ข. กิเลส
ค. นิวรณ์
ง. สังโยชน์
3
1. ถ้าต้องการศึกษาพละ 5 ควรศึกษา
จากวิภังค์หมวดใด
ก. ขันธวิภังค์
ข. อินทริยวิภังค์
ค. โพชฌังควิภังค์
ง. มัคควิภังค์
3 การจำาแนกธรรมตามสถานการณ์คือ
2. ข้อใด
ก. ปัญหาปุจฉกนัย
ข. วินยภาชนียนัย
ค. สุตตันตภาชนียนัย
ง. อภิธัมมภาชนียนัย
ค. วินยภาชนียนัย
ง. ปัญหาปุจฉกนัย
3 ข้อใดมิใช่ลักษณะการแสดงตาม
4. แนว
สุตตันตนัย
ก. ง่ายต่อการศึกษา
ข. เหมาะแก่จติตบุคคล
ค. ใช้ได้เฉพาะบาง
สถานการณ์
ง. ครบถ้วนสมบูรณ์
3 การศึกษาวิภังค์ นัยใดที่แสดง
5. โพธิปักขิยธรรม
3
6.
3
7.
ได้อย่างพิสดารและสมบูรณ์ที่สุด
ก. ปัญหาปุจฉกนัย
ข. ปรมัตถนัย
ค. อภิธัมมนัย
ง. สุตตันตนัย
สภาวธรรมที่ประกอบกันได้
ทั้งหมดคือ
ข้อใด
ก. รูป เวทนา วิญญาณ
ข. รูป สังขาร วิญญาณ
ค. เวทนา สังขาร วิญญาณ
ง. รูป เวทนา สังขาร
ข้อใดมิใช่ความแตกต่างของรูป
ขันธ์
ก. โอฬาริกะและสุขุมะ
ข. รูปปรมัตถ์และรูปสมมติ
ค. ทูระและสันติกะ
ง. อัชฌัตตะและพหิทธะ
- 6. 3
8. พาหิรรูป คู่กับรูปประเภทใด
ก. อัชฌัตตรูป
ข. อัชฌัตติกรูป
ค. อินทริยรูป
ง. อุปาทินนรูป
3
9. ข้อใดเป็นเหตุผลของการแสดง
รูปภายในและรูปภายนอก
ก. สถานที่เกิด
ข. หน้าที่ของรูป
ค. เวลาที่เกิด
ง. ขนาดของรูป
4 รูปขันธ์สงเคราะห์เข้าในธรรมหมวด
0. ใด
ก. โลกียธรรม
ข. โลกุตตรธรรม
ค. รูปาวจรธรรม
ง. อรูปาวจรธรรม
4 ข้อใดเป็นความหมายของธาตุ ใน
1. คัมภีร์
ธาตุกถา
ก. สิ่งที่ควรพิจารณาเนืองนิจ
ข. สิ่งที่ควรเคารพสักการะ
ค. พลังงานสสารต่าง ๆ
ง. สิ่งที่มีสภาวะลักษณะเฉพาะตน
4 เพราะเหตุใดจึงสงเคราะห์หมวด
2. ปรมัตถ
4 ข้อใดมิใช่หมวดธรรมในอัพภัน
3. ตรมาติกา
ก. สติปัฏฐาน 4
ข. อัปปมัญญา 4
ค. อาหาร 4
ง. อิทธิบาท 4
4 รูป - จิต เมื่อเปรียบเทียบโดย
4. ความเป็นขันธ์
อายตนะ ธาตุ แล้วมีลักษณะ
อย่างไร
ก. เหมือนกันทุกประการ
ข. ต่างกันทุกประการ
ค. มีขันธ์ต่างกัน แต่อายตนะ
ธาตุ
เหมือนกัน
ง. มีขันธ์เหมือนกัน แต่
อายตนะ ธาตุ
ต่างกัน
4 นิพพานสงเคราะห์เข้าขันธ์ 5
5. ไม่ได้
เพราะอะไร
ก. นิพพานไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
ข. นิพพาน เป็นอสภาวะ
ค. นิพพาน เป็นอนัตตา
ง. นิพพาน เป็นโลกุตตระ
4 มาติกาที่นำาหมวดธรรมจาก
6. คัมภีร์วิภังค์
มาสงเคราะห์ในคัมภีร์ธาตุกถา
ตรงกับ
ข้อใด
ก. พาหิรมาติกา
- 7. ธรรม เข้าในขันธ์ อายตนะ ธาตุ
ก. ความเป็นอนัตตธรรม
ข. ความเป็นสัจจธรรม
ค. ความเป็นโลกิยธรรม
ง. ความเป็นสภาวธรรม
4 รูปขันธ์สงเคราะห์ได้ด้วยอายตนะและ
7. ธาตุ
เท่า
ไร
ก. อายตนะ 4 ธาตุ 4
ข. อายตนะ 6 ธาตุ 6
ค. อายตนะ 10 ธาตุ 10
ง. อายตนะ 11 ธาตุ 11
4 ข้อใดที่จัดเป็นขันธ์เหมือนกัน แต่
8. อายตนะ
และธาตุต่างกัน
ก. การเห็นกับการได้ยิน
ข. กลิ่นกับรส
ค. ผู้หญิงกับผู้ชาย
ง. ขาวกับดำา
4 ข้อใดเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว มีความ
9. เป็น
ขันธ์เหมือนกัน แต่เป็นอายตนะ ธาตุ
ต่างกัน
ก. จิตและเจตสิก
ข. สีและเสียง
ค. รูปและนาม
ง. เวทนาและสัญญา
5 เมื่อสงเคราะห์โดยขันธ์ อายตนะ
ข. อัพภันตรมาติกา
ค. นยมุขมาติกา
ง. นยมาติกา
5 นิพพานโดยความเป็นอายตนะ
1. ธาตุ
5
2.
5
3.
5
4.
ชนิดเดียวกันกับสภาวธรรมใด
ก. โอฬาริกรูป
ข. มหาภูตรูป
ค. เจตสิก
ง. วิญญาณ
คำาสอนที่เป็นสมมติสัจจะมี
ปรากฏใน
พระอภิธรรมคัมภีร์ใด
ก. ปัฏฐาน
ข. กถาวัตถุ
ค. ธาตุกถา
ง. ปุคคลบัญญัติ
คำาว่า "บุคคล" ในวงวิชาการ
มุ่งถึงใคร
ก. คนสามัญ
ข. คนมีศีล
ค. ปัจเจกบุคคล
ง. อริยบุคคล
ในปุคคลบัญญัตินี้ พระพุทธ
องค์ตรัสปุจฉา
และวิสัชชนาไว้ เรียกว่าอะไร
ก. ปฏิวจนปุจฉา
- 8. 0. ธาตุแล้ว
นิพพานกับเจตสิก มีความแตกต่าง
กัน
ในด้านใด
ก. สัจจะ
ข. ธาตุ
ค. อายตนะ
ง. ขันธ์
5 บุคคลที่พร้อมเพรียงด้วยมรรค 4 ชื่อ
6. ว่า
อะไ
ร
ก. ภยตูปรตบุคคล
ข. อภัพพาคมนบุคคล
ค. นิยตบุคคล
ง. ปฏิปันนกบุคคล
5
7. อสมยวิมุตตบุคคล หมายถึงบุคคล
จำาพวกใด
ก. ผู้ได้ฌานและสำาเร็จเป็นพระอริยะ
ได้
ข. ผู้ไม่ได้ฌานและสำาเร็จเป็นพระ
อริยะได้
ค. ผู้มีปัญญาน้อย มากด้วยวิริยะ
ง. ผู้มีวิริยะน้อย มากด้วยปัญญา
5 บุคคลที่ฆ่าบิดามารดามีลักษณะตรง
8. กับ
ข้อ
ข. ปริปุณณปุจฉา
ค. วิสัชชนาปุจฉา
ง. กเถตุกัมยตาปุจฉา
5 การบัญญัติสภาวธรรมที่จัดเป็น
5. หมวดหมู่
เรียกว่าอะไร
ก. ไตรลักษณ์
ข. อินทรีย์
ค. ขันธ์
ง. ธาตุ
6 ในปุคคลบัญญัติ ทรงวางกฎ
1. เกณฑ์
ของปุถุชนไว้อย่างไร
ก. ต้องมีศีล 5
ข. เป็นสัตบุรุษ
ค. ประพฤติสุจริต
ง. ถูกทุกข้อ
6 บุคคลผู้โผล่ขึ้นมาแล้วข้ามไป
2. เปรียบเทียบ
กับบุคคลเช่นไร
ก. โสดาบันบุคคล
ข. สกทาคามีบุคคล
ค. อนาคามีบุคคล
ง. พระอรหันตบุคคล
6 พระอนาคามี เปรียบเหมือนคน
3. ตกนำ้า
ประเภทใด
- 9. ใด
ก. ภยตูปรตบุคคล
ข. อภัพพาคมนบุคคล
ค. ภัพพาคมนบุคคล
ง. อนิยตบุคคล
5 ปฏิปันนกบุคคล มีลักษณะเข้ากันได้
9. กับ
ข้อ
ใด
ก. โคตรภูบุคคล
ข. มัคคบุคคล
ค. ผลบุคคล
ง. กัลยาณบุคคล
6
0. บุคคลใดชื่อว่ามีเครื่องกั้นคือกิเลส
ก. ผู้เป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
ข. ผู้ทำาอนันตริยกรรม
ค. ผู้เป็นฌานลาภีบุคคล
ง. ผู้เป็นปุถุชน
ก. บุคคลผู้โผล่ขึ้นแล้วเหลียวดู
ข. บุคคลผู้โผล่ขึ้นแล้วข้ามไป
ค. บุคคลผู้โผล่ขึ้นแล้วได้ที่พึ่ง
ง. บุคคลที่โผล่ขึ้นแล้วข้ามไป
ถึงฝั่ง
6 บุคคลมีศรัทธาต่อมาเสื่อมไป
4. ทำาบาป
เปรียบเหมือนบุคคลเช่นไร
ก. ทำาบาปอย่างเดียว
ข. ทำาบุญ ต่อมาทำาบาป
ค. ทำาบุญเรื่อยไป
ง. ไม่ทำาทั้งบุญและบาป
6 การศึกษาปุคคลบัญญัติให้
5. ประโยชน์
ด้านใดมากที่สุด
ก. ความเข้าใจประเภทของคน
ดี
ข. ความเข้าใจหลักการครอง
ชีวิต
ค. ความเข้าใจธรรมชาติของ
มนุษย์และ
ชีวิต
ง. ความเข้าใจสภาวปรมัตถ์
6 พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระใช้หลัก
7 ข้อใดมิใช่เรื่องราวปัญหาใน
6. การใด
1. คัมภีร์กถาวัตถุ
เป็นพื้นฐานในการแต่งคัมภีร์กถาวัตถุ
ก. อภิญญา
ก. วินัยมุข
ข. กาลเวลา
ข. มุขปาฐะ
ค. คณะสงฆ์
ค. อัฏฐมุข
ง. เศรษฐกิจ
7 ปัญหา "พระโสดาบันยังทำา
ง. อบายมุข
2. ปาณาติบาต"
6 คณะสงฆ์กลุ่มใดที่มีความหมายเป็น
จัดเป็นเรื่องราวประเภทใด
- 10. 7. ฝ่าย
เดียวกันกับปรวาที
ก. เถรวาท
ข. อาจริยวาท
ค. สุตวาท
ง. พาหิรวาท
ก. สภาวธรรม
ข. อริยบุคคล
ค. กรรม
ง. คุณธรรม
7 ภิกษุบางพวกไม่มีศรัทธา
3. แน่นอนย่อม
6
8. วิธีถามปัญหาแบบอนุโลมปัญจกะคือ
ประพฤติเช่นไร
อย่างไร
ก. สำารวมในปาติโมกข์
ก. ปัญหาที่ฝ่ายสกวาทีเป็นผู้ถาม
ข. ตีความพระธรรมให้เข้ากับ
ก่อน
ทิฐิของตน
ข. ปัญหาที่ฝ่ายปรวาทีเป็นผู้ถาม
ค. สมาทานศึกษาอยู่ใน
ก่อน
สิกขาบททั้งหลาย
ค. ปัญหาที่ฝ่ายเดียรถีย์เป็นผู้ถาม
ง. ยินดีประพฤติพรหมจรรย์
ก่อน
บวชเพื่อทำา
ง. ปัญหาที่ฝ่ายพราหมณ์เป็นผู้ถาม
ก่อน
ทุกข์ให้สิ้นไป
6 ในกถาวัตถุชื่อใดต่อไปนี้ใช้เรียกฝ่าย 7 การที่ภิกษุบางพวกในสมัยหลัง
9. ธรรม
4. พุทธกาล
วา
มิได้บวชด้วยศรัทธา ทำาให้เกิด
ที
ผลเป็น
ก. ปรวาที
อย่างไร
ข. วิจิตรวาที
ก. ปฏิบัติตนอย่างสันโดษ
ค. สัจจวาที
ข. ชอบจับกลุ่มคลุกคลีกัน
ค. ประพฤติย่อหย่อนในพระ
ง. สกวาที
ธรรมวินัย
7 ข้อใดเป็นจุดประสงค์ของการตั้ง
ง. ปฏิบัติตามอาจารย์ของตน
0. ปัญหา
อย่าง
ในหมวดแรกของอนุโลมปัญจกะ
เคร่งครัด
ก. ตอบคำาถาม 2 ชุด ขัดแย้งกันเอง
ข. ตอบคำาถามอย่างอิสระเต็มที่
ค. ตอบคำาถามอย่างละเอียดพิสดาร
ง. ตอบคำาถามตามความรู้สึกของ
ตนเอง
- 11. 7 ที่ได้ชื่อว่า "คัมภีร์ยมก" เพราะ
9. เหตุใด
ก. เพราะมีการอธิบายความเป็น
ลำาดับ
ข. เพราะมีการแสดงธรรมไว้
ก. ปรับให้เข้ากับยุคสมัยสถานการณ์
เป็นคู่ ๆ
ข. ตีความพระธรรมวินัยให้เข้ากับ
ค. เพราะมีการชี้แจงธรรมอย่าง
ทิฐิ
ละเอียด
ของตน
ง. เพราะเป็นคัมภีร์พระอภิธรรม
8 การแสดงหมวดธรรมที่เป็นคู่ที่
ค. คณะสงฆ์ผู้ปกครองดูแลควบคุม
0. เกี่ยวกับ
ไม่ทั่วถึง
อกุศลล้วน ๆ คือข้อใด
ง. มีคฤหัสถ์คอยสนับสนุนให้มีการ
ก. นีวรณยมก
เปลี่ยนแปลง
ข. กิเลสยมก
ปัจจุบันมีผู้เข้าใจผิดว่านิพพานเป็น
อัตตา
ค. อนุสสยยมก
ควรทำาความเข้าใจโดยอ้างสัจธรรม
ข้อใด
ง. สังโยชนยกม
8 การแสดงสภาวธรรมในคัมภีร์
ประกอบ
1. ยมกมี 10 หมวด
มีความพิเศษกว่าหมวดอื่น
ก. ปรมัตถธรรม 4
อย่างไร
ข. อนัตตา
ก. แสดงได้สะดวกกว่า
ค. โพธิปักขิยธรรม
ข. แสดงได้ยากกว่า
ง. วิมุตติมรรค
ค. แสดงได้ละเอียดกว่า
คำาถามที่ว่า "ถ้าความดีมอบให้กันได้
แน่
ง. แสดงได้สมบูรณ์กว่า
แท้" ข้อใดกล่าวคำาตอบได้ถูกต้อง
8
ที่สด
ุ
2. อนุโลมนัย หมายถึงนัยเช่นใด
ก. ความชั่วมอบให้กันได้
ก. นัยที่มีการปฏิเสธ
ข. ความสุขก็มอบให้กันได้
ข. นัยที่ไม่มีการปฏิเสธ
ค. ความทุกข์ก็มอบให้กันได้
ค. นัยที่มีการตั้งคำาถาม
ง. ความไม่ชอบธรรมก็มอบให้กันได้
ง. นัยที่มีการตอบคำาถาม
8
ที่ว่า "นิพพานเป็นภูมิ" จัดว่าผู้กล่าว 3. ปริญญาวาระ ว่าด้วยเรื่องอะไร
7
5. สาเหตุที่มีสัทธรรมปฏิรูปคลาดเคลื่อน
จากพุทธพจน์ในสมัยพุทธกาลคือข้อ
ใด
7
6.
7
7.
7
8.
- 12. อยู่ในนิกายใด
ก. เอกัจจสัสสตทิฏฐิวาทะ
ข. เนวสัญญีนาสัญญีวาทะ
ค. ทิฏฐธรรมนิพพานวาทะ
ง. อมราวิกเขปิกาทิฏฐิวาทะ
8
4. อุทเทสวาระ หมายถึงข้อใด
ก. ภาคตั้งคำาถาม
ข. ภาคแยกคำาถาม
ค. ภาครวมคำาถาม
ง. ภาคห้ามคำาถาม
8 คำาตอบที่เป็นวิภัชชะ คือคำาตอบเช่น
5. ไร
ก. การตอบปฏิเสธ
ข. การแยกตอบ
ค. การตอบรับ
ง. การตอบที่มีลักษณะสวนทาง
8 สรุปทัสสนาวิสัชชนา คือวิสัชชนา
6. เช่นใด
ก. วิสัชชนาที่แสดงสรุปองค์ธรรม
แรก
ข. วิสัชชนาที่แสดงสรุปองค์ธรรมที่
2
ค. วิสัชชนาที่แสดงสรุปองค์ธรรมที่
3
ง. วิสัชชนาที่แสดงองค์ธรรมสุดท้าย
8
7. ปฏิกเขปวิสัชชนาคือคำาตอบแบบใด
ก. กล่าวรับรองคำาถาม
ก.
ข.
ค.
ง.
นามบัญญัติ
นามสมมติ
การเกิดการดับ
การกำาหนดรู้
8 ข้อดำาไม่จัดอยู่ในมูลวารนิทเทส
9. ในกุศลบท
มูลที่ 1
ก. มูลยมก
ข. เอกมูลยมก
ค. อัญญปัญญมูลยมก
ง. สหชาตมูลมก
9 ข้อใดเป็นกุศลธรรม แต่ไม่เป็น
0. กุศลมูล
ก. กามาวจรกุศลจิต
ข. โลกุตตรจิต
ค. ปัญญาในมัคคจิต
ง. ปัญญาในผลจิต
9 อโลภะในผลจิต มีลักษณะ
1. อย่างไร
ก. กุศลมูล
ข. อัพยากตมูล
ค. กริยามูล
ง. กัมมมูล
9 พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระ
2. อภิธรรมโปรด
- 13. ข. กล่าวคำาตอบตรงข้ามกับคำาถาม
ค. กล่าวเสริมคำาถาม
ง. กล่าวห้ามคำาถาม
8
8. ในมูลยมกเปรียบกุศลมูลเหมือนอะไร
ก. แม่ทัพผู้ปราบจลาจล
ข. พลทหาร
ค. พระราชา
ง. อำามาตย์
9 ข้อใดเป็นลำาดับการแสดงในคัมภีร์ปัฏ
4. ฐาน
ก. ปุจฉาวาระและวิสัชชนาวาระ
ข. อุทเทสวาระและนิทเทสวาระ
ค. มาติกาวาระและอธิปายวาระ
ง. สังเขปวาระและนิกเขปวาระ
9 สภาวธรรมใดที่เป็นปัจจัยธรรม แต่
5. ไม่เป็น
ปัจจยุปบันนธรรม
ก. จิต
ข. เจตสิก
ค. รูป
ง. นิพพาน
9 ข้อใดมิใช่องค์ประกอบของปัฏฐาน
พุทธมารดา คัมภีร์ใดเป็นลำาดับ
สุดท้าย
ก. ปุคคลบัญญัติ
ข. ปัฏฐาน
ค. ปัจจัย
ง. ปัจจยุปบัน
9 ข้อใดมิใช่ความหมายของคัมภีร์
3. ปัฏฐาน
ก. หมวดหมู่แห่งปรมัตถธรรม
ข. ปัจจัยธรรมมีประการต่าง ๆ
ค. จำาแนกข้อธรรมด้วยปัจจัย
ต่าง ๆ
ง. ที่ดำาเนินไปแห่งสัพพัญญุต
ญาณ
9 นิพพานไม่เป็นปัจจยุปบันน
8. ธรรม
เพราะเหตุใด
ก. ไม่มีการเกิด – ดับ
ข. มีเฉพาะในสุคติภูมิ
ค. ไม่มีสภาวลักษณะ
ง. มีเฉพาะในกาลที่มีพุทธ
ศาสนา
9
9. อนันตรปัจจัยทำาหน้าที่อะไร
ก. ทำาให้รูปเกิด
ข. ทำาให้นามขันธ์เกิด
ค. อุปถัมภ์รูปขันธ์
ง. อุปถัมภ์นามขันธ์
1 ปัจจัยที่ทำาหน้าที่ชนกสัตติอย่าง