More Related Content
Similar to อารยธรรมจีน (20)
More from Pannaray Kaewmarueang
More from Pannaray Kaewmarueang (15)
อารยธรรมจีน
- 5. อารยธรรมจีนสมัยก่ อนประวัติศาสตร์
ยุคหินใหม่ ชุ มชนทีต้งถินฐานอยู่ในทีราบลุ่มแม่ นาฮวงเหอ
่ ั ่
่
้
ได้ สร้ างสรรค์ วัฒนธรรม หยางเซา และอีกชุ มชนหนึ่งอยู่ในบริเวณ
ทีราบลุ่มแม่ นาทางตะวันออกเฉียงเหนือลงมาตามชายฝั่งทะเลจนถึง
่
้
แม่ นาแยงซี ได้ สร้ างสรรค์ วฒนธรรมทีเ่ รียกว่า วัฒนธรรมหลงซาน
้
ั
กาหนดอายุได้ ประมาณ 5,000 ปี ถึง 2,000 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช
- 6. อารยธรรมจีนสมัยก่ อนประวัติศาสตร์
ลุ่มแม่ นาฮวงโห พบความเจริญทีเ่ รียกว่ า
้
วัฒนธรรมหยางเชา ( Yang Shao Culture )
พบหลักฐานทีเ่ ป็ นเครื่องปั้นดินเผามีลกษณะสาคัญ
ั
คือ เครื่องปั้นดินเผาเป็ นลายเขียนสี มักเป็ นลาย
เรขาคณิต พืช นก สั ตว์ ต่างๆ และพบใบหน้ ามนุษย์
สี ทใช้ เป็ นสี ดาหรือสี ม่วงเข้ ม นอกจากนียงมีการ
ี่
้ั
พิมพ์ลายหรือขูดสลักลายเป็ นรู ปลายจักสาน ลาย
เชือกทาบ
- 7. อารยธรรมจีนสมัยก่ อนประวัติศาสตร์
ลุ่มนาแยงซี ( Yangtze ) บริเวณ
้
มณฑลชานตุงพบ วัฒนธรรมหลงซาน
( Lung Shan Culture ) พบหลักฐานที่
เป็ นเครื่องปั้นดินเผามีลกษณะสาคัญคือ
ั
เครื่องปั้นดินเผามีเนือละเอียดสี ดาขัดมันเงา
้
คุณภาพดีเนือบางและแกร่ ง เป็ นภาชนะ 3 ขา
้
- 11. อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์
สมัยฟิ วดัล
โจวตะวันตก
(ปกครองตั้งแต่ 1,045 - 771 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช)
เริ่มต้ นยุคศักดินาของจีน
เทียนหมิง หรือ “อาณัติแห่ งสวรรค์ ” มอบอานาจให้ กษัตริย์ราชวงศ์
โจวปกครอง กษัตริย์มีฐานะเป็ นโอรสสวรรค์ ถ้ าปกครองด้ วยความ
ยุตธรรม หากปกครองโดยไร้ คุณธรรมจะถูกเพิกถอน
ิ
รับอารยธรรมของชาวชางมาใช้ ในการดาเนินชีวต นิยมบันทึกข้ อความ
ิ
ลงบนกระดูกสั ตว์ หรือกระดองเต่ าแล้ วนามาทานายโชคชะตา
- 16. อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์
สมัยฟิ วดัล
มีการขุดคลองทดนา เพือใช้ ในการเพาะปลูก
้ ่
มีการแลกเปลียนผลผลิตกัน ทาให้ เกิดอาชีพค้ าขายขึน โดยมีเงินตราที่
่
้
หลอมมาจากเหล็กเป็ นสื่ อกลางในการแลกเปลียน
่
เกิดลัทธินิติธรรมหรือฟาเฉียซึ่งเชื่อว่ าโดยธรรมชาติของมนุษย์ เป็ นคน
เลว จึงควบคุมโดยการลงโทษผู้กระทาผิด
เกิดลัทธิขงจือทีเ่ น้ นความสั มพันธ์ และการทาหน้ าที่
้
เกิดลัทธิเต๋ าทีมีแนวทางดาเนินชีวตเรียบง่ าย
่
ิ
ไม่ ต้องมีระเบียบแบบแผน
เงินตราทีหลอมมาจากเหล็ก
่
- 18. อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์
สมัยสมบูรณาญาสิ ทธิราชย์ หรือสมัยจักรวรรดิจีน
มีการทาหุ่นดินเผาเป็ นทหารรู ปขนาดเท่ าคนจริงจานวนหลาย
พันตัวในสุ สานของจักรพรรดิจิ๋นซี มณฑลซีอาน
ยึดหลักนิติธรรม(ฟาเฉีย) ทีเ่ ห็นว่ ามนุษย์ ชั่วร้ ายมี กิเลส ตัณหา
ต้ องใช้ อานาจและกฎหมายเป็ นเครื่องควบคุม เป็ นหลักในการ
ปกครองประเทศ
เผาตาราขงจือ และทาลายลัทธิต่างๆทีขดกับหลักนิตธรรม
้
่ ั
ิ
มีการก่อสร้ างกาแพงเมืองจีน เพือป้ องกันการรุกรานของพวก
่
ป่ าเถือนทางเหนือของจีน
่
- 21. อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์
สมัยสมบูรณาญาสิ ทธิราชย์ หรือสมัยจักรวรรดิจีน
ราชวงศ์ ฮั่น
(206 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช-ค.ศ. 220)
นักปราชญ์ ราชบัณฑิตรื้อฟื้ นปรัชญาของขงจือทีถูกลายไป คา
้ ่
สอนของลัทธิขงจือถูกนามาใช้ เป็ นหลักในการปกครองประเทศ
้
กาหนดให้ ใช้ ตาราของขงจือเป็ นตาราสาหรับผู้ทจะเข้ าสอบ
้
ี่
เข้ ารับราชการ เรียกว่ า จอหงวน ทาให้ เกิดระบบการสอบไล่ เข้ ารับ
ราชการเป็ นครั้งแรก
นับเป็ นสมัยของความเจริญทางอารยธรรมของชาวจีน
- 29. อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์
สมัยสมบูรณาญาสิ ทธิราชย์ หรือสมัยจักรวรรดิจีน
มีการแบ่ งชนชั้นพลเมืองเป็ น 4 ชนชั้น ได้ แก่
1) ชาวมองโกล
: มีฐานะทางสั งคมทีสูงทีสุด
่ ่
2) ชาวเสื้อมู่
: ชาวต่ างชาติ
3) ชาวฮั่น
: อยู่ทางเหนือ
4) ชนกลุ่มน้ อยทางใต้ : ชาวฮั่นจากซ่ งใต้ ทถูกรวบเข้ ามาอยู่
ี่
ในอาณัตปกครองหลังสุ ด
ิ
ชาวมองโกลมีอารยธรรมทีด้อยกว่าชาวจีนจึงได้ ยอมรับอารย
่
ธรรมและประเพณีต่างๆของชาวจีนไปปฏิบติ เช่ น ผู้คนยังคงนับถือนับ
ั
ลัทธิขงจื๊อ