ติวข้อสอบ Is จากอาจารย์กลุ่ม3

1. หน้า 1 จาก 6
แนวข้อสอบวิชาการค้นคว้าอิสระ IS มี 2 ส่วน (30 คะแนน)
โดย อ.จากกลุ่ม 3 (รศ.ดร.ศรุดา สมพอง)
ส่วนที่ 1 : ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงานวิจัย (15 คะแนน)
คาถาม
1. การวิจัยคืออะไร แบ่งเป็นกี่ประเภท
2. ความแตกต่างของการวิจัยเชิงปริมาณ กับการวิจัยเชิงคุณภาพ
(ให้ตอบตามตารางเปรียบเทียบความแตกต่างได้เลย)
3. ตัวแปรอิสระ กับตัวแปรตาม
4. การเขียนเค้าโครงวิจัย (Research Proposal) ประกอบด้วยอะไรบ้าง
1. ชื่อเรื่อง
2. ความสาคัญของปัญหา
3. วัตถุประสงค์
4. สมมติฐาน (การวิจัยเชิงปริมาณ) ,คาถามการวิจัย (การวิจัยเชิงคุณภาพ)
5. ขอบเขตการศึกษา ได้แก่ พื้นที่, ประชากร, เนื้อหา, เวลา
6. นิยามศัพท์เฉพาะ ใช้เฉพาะศัพท์ที่เกี่ยวกับการวิจัยของเราเท่านั้น
7. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ proposal (ต้องสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์)
8. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
9. วิธีดาเนินการวิจัย
ประชากรและกลุ่ มตัวอย่าง หมายความว่ายังไง?, เช่นจะศึกษาความพึงพอใจ
มีผู้สูงอายุ 6,000 คน (นี่คือประชากร) การสุ่มตัวอย่างถ้าในเชิงปริมาณ การสุ่มตัวอย่าง เช่น แบบง่าย,
แบบจัดชั้น, แบบจับฉลาก, การหาค่า n มีวิธีการหากลุ่มตัวอย่างแบบไหน ใช้แนวคิดของใคร
แต่ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้คาว่ากลุ่มเป้าหมาย เช่น กรณีวิจัยเรื่องยายไฮ (ตัวเอกของเรื่อง)
ก า ห น ด ก ลุ่ ม เป้ า ห ม า ย แ ค่ 1 ห มู่ บ้ า น จ า ก ห ล า ย ๆ ห มู่ บ้ า น ใ น ห นึ่ ง ต า บ ล
ไม่จาเป็นต้องไปสัมภาษณ์ผู้สูงอายุทุกคน จาก 30 คน แบ่ง แต่อาจจะสัมภาษณ์ผู้ที่มีอายุระหว่าง 60-
70 ปี, 70-80 ปี, 80 ปีขึ้นไป สัมภาษณ์แค่อย่างละคนก็ได้

2. หน้า 2 จาก 6
- การวิจัยเชิงคุณภาพ การให้ความหมายของ ผู้ให้ข้อมูลหลักของวิจัยคุณภาพ (Key
Informant) ซึ่งให้ทุกคนจาศัพท์ภาษาอังกฤษไว้ เพราะอาจารย์อาจจะถามเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษว่า
Key Informant คือ...
- การวิจัยเชิงปริมาณ ถ้าใช้ สเกล(scales) ของการจัดตัวแปร หรือระดับ NOIR (นัวร์)
ซึ่งเป็นระดับการวัด 4 ระดับของตัวแปร ย่อมาจาก
Nominal Scale: มาตรการวัดระดับนามบัญญัติ
เป็นระดับที่ใช้จาแนกความแตกต่างของสิ่งที่ต้องการวัดออกเป็นกลุ่ม ๆ
โดยใช้ตัวเลข เช่น ตัวแปรเพศ แบ่งออกเป็นกลุ่มเพศชายและกลุ่มเพศหญิง
ในการกาหนดตัวเลขอาจจะใช้เลข 1 แทนเพศชาย และเลข 2 แทนเพศหญิง
เป็นการวัดหยาบสุด แบ่งกลุ่มตามลักษณะที่เหมือนกัน ไม่สามารถนามาบวก
ลบ คูณ หาร หรือหาสัดส่วนได้
Ordinal Scale: เป็นระดับที่ใช้สาหรับจัดอันดับที่หรือตาแหน่งของสิ่งที่ต้องการวัด
ตัวเลขในมาตราการวัดระดับนี้เป็นตัวเลขที่บอกความหมายในลักษณะมาก-
น้อย สูง-ต่า เก่ง-อ่อน กว่ากัน เช่น ด.ช.ดาสอบได้ที่ 1 ด.ช.แดงสอบได้ที่ 2
ด.ญ.เขียวสอบได้ที่ 3 หรือ การประกวดร้องเพลง นางสาวเขียวได้รางวัลที่ 1
นางสาวชมพูได้รางวัลที่ 2 นางสาวเหลืองได้รางวัลที่ 3 เป็นต้น
เรียงอันดับกลุ่มได้( เช่น จากน้อยไปมาก)
Interval Scale: เป็นระดับที่สามารถกาหนดค่าตัวเลขโดยมีช่วงห่างระหว่างตัวเลขเท่า ๆ
กัน สามารถนาตัวเลขมาเปรียบเทียบกันได้ว่าว่ามีปริมาณมากน้อยเท่าใด
แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกี่เท่าของกันและกัน
เพราะมาตราการวัดระดับนี้ไม่มี 0 (ศูนย์) แท้ มีแต่ 0 (ศูนย์) สมมติ เช่น
นายวิชัยสอบได้ 0 คะแนน มิได้หมายความว่าเขาไม่มีความรู้
เพียงแต่เขาไม่สามารถทาข้อสอบซึ่งเป็นตัวแทนของความรู้ทั้งหมดได้ หรือ
อุณหภูมิ 0 องศา มิได้หมายความว่าจะไม่มีความร้อน เพียงแต่มีความร้อนเป็น
0 องศาเท่านั้น จุดที่ไม่มีความร้อนอยู่เลยก็คือที่ -273องศา ดังนั้นอุณหภูมิ 40

3. หน้า 3 จาก 6
องศาจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีความร้อนเป็น 2 เท่าของอุณหภูมิ 20 องศา
เป็นต้น ตัวเลขในระดับนี้สามารถนามาบวก ลบ คูณ หรือหารกันได้
มีหน่วยมาตรฐานบอกความแตกต่างระหว่างกลุ่ม
Ratio Scale: เป็นระดับที่สามารถกาหนดค่าตัวเลขให้กับสิ่งที่ต้องการวัด มี 0 (ศูนย์)
แท้ เช่น น้าหนัก ความสูง อายุ เป็นต้น ระดับนี้สามารถนาตัวเลขมาบวก ลบ
คูณ หาร หรือหาอัตราส่วนกันได้ คือสามารถบอกได้ว่า ถนนสายหนึ่งยาว 50
กิโลเมตร ยาวเป็น 2 เท่าของถนนอีกสายหนึ่งที่ยาวเพียง 25 กิโลเมตร
ดังนั้น ผู้วิจัยจึงต้องมีความรู้ในเรื่องของมาตราการวัดระดับต่าง ๆ เป็นอย่างดี
เพื่อใช้ในการวินิจฉัยตัวแปรในงานวิจัยว่าอยู่ในมาตราการวัดระดับใด
เพื่อประโยชน์ในการเลือกใช้วิธีการทางสถิติให้มีความถูกต้องเหมาะสม
- ตัวแปรต้น, ตัวแปรตาม ถ้ามีการถาม ไม่ต้องอธิบาย ให้ยกตัวอย่างเลยเช่น
ตัวแปรต้น คือ เพศ อายุ อาชีพ มีผลต่อ การเรียน ป.โท ซึ่งคือ ตัวแปรตาม
(จะเป็นการแสดงออกว่าเราเข้าใจ)
10.การวิจัยมี 3 แบบ บอกสาเหตุว่าทาไมนักวิจัยจึงเลือกการวิจัยแต่ละแบบ
- การวิจัยเชิงปริมาณ = ต้องการประชากรเยอะ
- การวิจัยเชิงคุณภาพ = ต้องการที่จะเจาะลึก,สัมภาษณ์เล็กๆ
- การวิจัยแบบผสม(เชิงคุณภาพ+ปริมาณ) =
ต้องการเอาข้อมูลของปริมาณกับคุณภาพไป match กัน หรือไปเสริมกัน เช่น ถ้าทานโยบายผู้สูงอายุ
ไปสัมภาษณ์นายก, ปลัด(นั่นคือเชิงคุณภาพ), ซึ่งข้อมูลจะไม่ตรงตามจริงแต่ถ้าเราไปสอบถามประชาชน
(ก็เป็นเชิงปริมาณ) ทาให้สิ่งที่นายกกับปลัดตอบมามันจะไม่ใช่เลย
ดังนั้นจึงต้องนาการวิจัยมาผสมกันเพื่อจะได้รู้ข้อมูลความเป็นจริง
11.งานวิจัยเชิงคุณภาพ มีข้อจากัดอย่างไรบ้าง
เพราะการวิจัยเชิงคุณภาพ
ส่วนมากการวิจัยคุณภาพเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของพฤติกรรมของมนุษย์ (สาคัญที่สุด คือ ตัวนักวิจัย

4. หน้า 4 จาก 6
เพราะนักวิจัยคือเครื่องมือในการวิจัยคุณภาพ แต่ถ้าวิจัยปริมาณ เครื่องมือคือตัวเลข spss เข้าไป)
เน้นความเข้าใจ ความหมาย ไม่ใช่ความถูกต้อง โดยไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทดสอบสมมติฐาน
และนัยสาคัญทางสถิติ
ข้อจากัด (แล้วแต่หัวข้อที่เราทา) อ.ยกตัวอย่าง เช่น
- การหมดวาระของผู้บริหาร เปลี่ยนผู้บริหารใหม่ วิกฤติทางการเมือง
- ภูมิอากาศ เช่น ฝนตก หมอกลงจัด
- เวลา (Timing สาคัญที่สุด) เช่น การสัมภาษณ์เชิงลึก
หากต้องการไปสัมภาษณ์ครอบครัว แต่ไปเจอว่ากาลังมีการทะเลาะกัน
ก็จะไม่สามารถสัมภาษณ์ได้
- บริบทของพื้นที่ แต่ละภาคจะไม่เหมือนกัน เช่น ถามว่าโตขึ้นมาจะมีอาชีพอะไร
ถามได้ทุกภาค แต่บางพื้นที่จะตอบว่า ถามได้ยังไง
พระเจ้าเท่านั้นจะเป็นคนกาหนดว่าโตขึ้นมาฉันจะเป็นอะไร
การวิจัยเชิงคุณภาพก็มีข้อจากัด ประการแรกขนาดตัวอย่างโดยทั่วไปมักจะเล็ก
(บางครั้งก็มีคนเดียว) ดังนั้น ผู้ วิจัยจึงไม่สามารถสรุปข้อมูลไปกว้างกว่ากลุ่มตัวอย่างได้
ด้วยเหตุนี้จึงมักจะนาการวิจัยเชิงคุณภาพมาใช้ในขั้นตอนแรกของโครงการเพื่อสารวจข้อมูลต่อไป
แ ท น ที่ จ ะ น า ม า ใ ช้ ใ น ช่ ว ง ท้ า ย ทั้ ง นี้ ข้ อ มู ล ที่ ร ว บ ร ว ม จ า ก วิ ธี ก า ร
คุ ณ ภ า พ จ ะ น า ไ ป ใ ช้ ใ น ก า ร เ ต รี ย ม ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ชิ ง ป ริ ม า ณ
ถึงแม้ว่าข้อมูลเชิงคุณภาพอาจจะครอบคลุมข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการในการศึกษาครั้งนั้น
- เป็นงานที่เกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะ
- ความแม่นตรงเชื่อถือได้ของเทคนิคการเก็บรวบรวมยากจะทดสอบ
- ต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักวิจัยและประชากรที่ศึกษา
- ไม่มีโครงสร้างการเก็บข้อมูลที่แน่นอน จึงยากต่อการนาไปใช้ซ้า
12.องค์ประกอบรายงานการวิจัย

5. หน้า 5 จาก 6
- คานา, เนื้อเรื่อง, บรรณานุกรม
- บทสรุป = บทคัดย่อ ซึ่งประกอบด้วยความเป็นมา, วัตถุประสงค์,ประชากร, เครื่องมือ,
ผลการศึกษา
ส่วนที่ 2 : การค้นคว้าอิสระ IS (มาจากงานวิจัยที่เราทาส่ง) (15 คะแนน)
1. งานวิจัยของนักศึกษามีชื่อเรื่องว่าอะไร
2. การค้นคว้าอิสระ สาเหตุที่ทาวิจัยเชิงคุณภาพ หรือวิจัยเชิงปริมาณ
(ห้ามตอบว่าเพราะอาจารย์ให้ทา)
3. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล (tolls) (ตอบของเรา ที่เราทาวิจัย)
3.1 เชิงปริมาณ = แบบสอบถาม, กล้องถ่ายรูป
3.2 เชิงคุณภาพ = แบบสัมภาษณ์, แบบสังเกต,แบบสนทนากลุ่ม(ข้อสอบคอมฯ
มักจะออกข้อนี้โดยถามว่าให้อธิบายคาว่าการสนทนากลุ่มคือ..),เครื่องบันทึกเสียง,
กล้องถ่ายรูป
เครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณของนักศึกษามีอะไรบ้าง (ตอบให้ครบ)
1. การเก็บจากเอกสาร,งาน, งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2. เก็บจากแบบสอบถาม
เครื่องมือในการวิจัยเชิงคุณภาพ มีอะไรบ้าง
1. การเก็บจากการสัมภาษณ์
2. จากการสังเกต
3. จากการสนทนากลุ่ม
4. จากเครื่องบันทึกเสียง
5. จากกล้องถ่ายรูป
การวิเคราะห์ข้อมูล

6. หน้า 6 จาก 6
เชิงปริมาณ = เชิงสถิติใช้การหาค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย,ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และการวิเคราะห์โดยการพิสูจน์สมมติฐาน(ถ้ามี)
เชิงคุณภาพ = ใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนา
กรอบแนวคิด
ให้นักศึกษาเขียนกรอบแนวคิด นากรอบแนวคิดของเราไปใส่ได้เลย ท้ายบทที่ 2
4. งานวิจัยของท่าน ท่านคิดว่านาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
5. วัตถุประสงค์ ตอบเป็ นข้อๆ ตามงานวิจัยของเรา
** อ.เน้นว่าอย่าขาดสอบเพราะหากท่านติด I (ไอ) จะไม่มีสิทธิสอบคอม (Comprehensive) โชค Aทุกคนค่ะเพื่อนๆ **