เป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร บทเรียนจาก Jack Welch จะเป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร ในอาชีพที่ยาวนาน Welch ทำตนเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้นำในอนาคต และนี่คือกฏที่เขาใช้โดยย่อ How to Be a Good Leader By Jack Welch with Suzy Welch From the book WINNING by Jack Welch with Suzy Welch. © 2005 by Jack Welch, LLC. Published by arrangement with HarperBusiness, an imprint of HarperCollins Publishers, Inc.

1. บทเรียนจาก Jack Welch
พ.อ. มารวย ส่งทานินทร์
ที่ปรึกษาศูนย์อานวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า
2 มี.ค. 2556

2. By Jack Welch with Suzy Welch
From the book WINNING by Jack Welch with Suzy Welch. © 2005 by Jack Welch, LLC.
Published by arrangement with HarperBusiness, an imprint of HarperCollins Publishers, Inc.

3. 


จะเป็ นผูนาทีดีได้อย่างไร
้ ่
ในอาชีพที่ยาวนาน Welch ทาตนเป็ นพี่เลี้ยงให้กบผูนาในอนาคต
ั ้
และนี่คือกฏที่เขาใช้โดยย่อ

4. วันหนึ่ง เมื่อคุณได้เป็ นผูนา
้
 วันก่อน คุณยังคุยเล่นกับเพื่อน นินทาการบริหารของเจ้านาย
วันรุงขึ้นคุณได้รบการแต่งตั้งให้เป็ นผูบริหาร ทุกสิ่งทุกอย่างดู
่
ั
้
เปลี่ยนไป
 แน่นอน เมื่อเป็ นผูนา ทัศนคติและพฤติกรรมย่อมต่างออกไป
้
 ก่อนเป็ นผูนา ความสาเร็จคือ ตัวคุณเองได้เจริญขึ้น เมื่อเป็ นผูนา
้
้
ความสาเร็จคือ การสร้างผูอื่นให้เจริญขึ้น
้

5. การเป็ นผูนามีได้หลายทาง
้
 ตัวอย่างเช่น Herb Kelleher ผูบริหารสายการบิน Southwest
้
Airlines กว่า 30 ปี และผูก่อตั้ง Microsoft คือ Bill Gates ที่มี
้
ลักษณะต่างกัน หรือทางการเมืองคือ Churchill และ Gandhi หรือ
อย่างอเมริกนฟุตบอลที่มีโค้ชอย่าง Lombardi กับ Belichick
ั
 ที่ตางคนต่างมีกฏของตนเอง
่

6. ผูนาต้องทาอะไร?
้
 จากการพูดคุยกับบุคคลต่าง ๆ Welch มักได้รบคาถามบ่อย ๆ ว่า
ั
ผูนาต้องทาอะไร การเป็ นผูนาที่ดีจะต้องทาอย่างไร
้
้
 ปั ญหาเหล่านี้ทาให้เขาต้องมาใคร่ครวญจากประสบการณ์การ
ทางานกว่า 40 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เขาจึงสรุป กฏการ
เป็ นผูนาที่ดีได้ 8 ข้อ ดังจะได้นาเสนอในลาดับต่อไป
้

7. ยินดีตอนรับสูการเป็ นผูนา
้
่
้
 คาพูดที่ดขดแย้งกัน ที่ผนาชอบถามคือ จะทาอย่างไรให้ผลงาน
ู ั
ู้
ระยะสั้นออกมาดี และให้ผลงานในระยะยาวออกมาดีดวย
้
 การทาให้เกิดความสมดุลของผลงานระยะสั้นและระยะยาว คือ
หน้าที่ของผูนานั ่นเอง
้

8. 1. ผูนามีความเพียรในการยกระดับความสามารถของทีม
้
 ทีมกีฬาที่มีนกกีฬาที่เก่งมักประสบชัยชนะ เช่นเดียวกัน ผูนามีหน้าที่ 3
ั
้
อย่างในการจัดการทีมคือ
 1.1 การประเมิน ต้องแน่ใจว่าจัดบุคคลให้ตรงกับงาน ช่วยเหลือ
เกื้อกูลให้เกิดความก้าวหน้า ส่วนผูที่ไม่ใช่ กาจัดออกไป
้
 1.2 การฝึ กสอน แนะนา วิจารณ์ เพื่อช่วยเหลือเขาทุกวิถีทาง
 1.3 การสร้างความมั ่นใจ ให้กาลังใจ ให้การดูแลเอาใจใส่และยกย่อง
ชื่นชม
 การพัฒนาบุคลากรไม่ใช่กระทาปี ละครั้ง แต่ควรกระทาทุกวันที่มี
โอกาส ให้ทาตนเสมือนเป็ นคนดูแลสวน มือหนึ่งรดน้ า อีกมือหนึ่งก็ให้
ปุย บางครั้งต้องกาจัดวัชพืช ใช้เวลาส่วนใหญ่ประคบประหงมดูแล
๋
แล้วเฝ้ ารอชมผลงาน

9. 2.ทาให้วิสยทัศน์อยูในทุกลมหายใจเข้าออก
ั
่
 ผูนาสร้างวิสยทัศน์และพยายามทาให้เป็ นจริง นั ่นคือต้องมี
้
ั
เปาหมายที่ชดเจน พูดคุยกับบุคลากรทุกครั้งทุกคนที่มีโอกาส
้
ั
เพราะปั ญหาที่พบคือ บุคลากรระดับล่างไม่ได้รบรูดวย
ั ้ ้
 ถ้าต้องการให้บุคลากรรูซ้ ึงในวิสยทัศน์ ให้ผกกับรางวัล เช่น การ
้
ั
ู
เพิ่มเงินเดือน โบนัส การยกย่องชื่นชม

10. 3.ผูนาที่มีพลังและมองในแง่บวก
้
 ผูจดการที่มีความกระตือรือร้น จะทาให้ทีมเกิดความ
้ั
กระตือรือร้นไปด้วย ทีมที่มีความสุข มองในแง่บวก มักประสบ
ความสาเร็จ
 การทางานเป็ นเรื่องยาก ผูนาต้องสร้างแรงกระตุนให้ทีมฟั นฝ่ า
้
้
อุปสรรค ด้วยการมีทศนคติที่ดีว่า ร่วมมือกันเราทาได้
ั

11. 4. ผูนาต้องสร้างศรัทธา ด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และความ
้
ไว้วางใจ
 บุคลากรต้องการทราบข่าวขององค์กร ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เพื่อ
สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
 ผูนาต้องสร้างศรัทธา โดยการให้เกียรติกบผูที่สมควรได้รบ เช่น
้
ั ้
ั
เป็ นผูสร้างผลงานนั้น ไม่แย่งชิงชื่อเสียงจากลูกน้อง เมื่อเกิดเรือง
้
่
ที่ไม่ดี ผูนาต้องก้าวออกมารับผิดชอบ เมื่อได้รบคาชื่นชม ให้
้
ั
กล่าวยกย่องทีมงาน

12. 5. ผูนาต้องมีความกล้าหาญ
้
 บางครั้งเป็ นเรืองทาใจลาบาก เช่น ให้คนออกจากงาน ตัด
่
งบประมาณของโครงการต่าง ๆ ปิ ดโรงงาน ผูนาต้องกล้าหาญที่
้
จะกระทาในเรืองเหล่านี้ เพราะเป็ นหน้าที่ของผูนา
่
้
 บางคราการตัดสินใจของผูนาไม่ได้ทาเพื่อต้องการคาสรรเสริญ
้
เยินยอ บางทีอาจจะดูขดกับเหตุผลทางเทคนิค แต่ผนาจะมีกึ๋น
ั
ู้
ถึงแม้ว่ายังได้ขอมูลที่ไม่ครบสมบูรณ์ ก็สามารถรูว่าใน
้
้
สถานการณ์เช่นนี้ เรืองนี้ควรตัดสินใจอย่างไร
่

13. ้
6.ผูนากล้าตังคาถาม เพื่อหาคาตอบที่เป็ นรูปธรรม
้
 หน้าที่ของผูนาคือตั้งคาถามในประเด็นต่าง ๆ ให้ครอบคลุมทุก
้
ๆ ด้าน แล้วให้ทีมช่วยกันหาคาตอบหรือหาทางออก ที่เป็ นแนว
ทางการแก้ปัญหาได้อย่างเป็ นรูปธรรม เช่น อะไรจะเกิดขึ้นถ้า...
ทาไมจึงไม่เป็ นเช่นนั้น เรืองนี้เป็ นไปได้อย่างไร ("What if?"
่
"Why not?" and "How come?“)
 ผูนาต้องแน่ใจว่าได้ต้งคาถามทุกมุมมอง ให้บุคลากรได้ถกแถลง
้
ั
แล้วช่วยกันหาหนทางแก้ไขที่เป็ นรูปธรรม

14. 7.ผูนาส่งเสริมให้บุคลากรกล้าเสี่ยงและทาตนเป็ นแบบอย่าง
้
 เรืองนี้เป็ นสิงที่มกทาตรงกันข้ามกัน เช่นปากบอกว่าให้ทดลองทา
่
่ ั
ดู แต่เมื่อเกิดข้อผิดพลาดกลับถูกตาหนิหรือลงโทษ
 ผูนาควรเป็ นแบบอย่างทีดี ในกรณีทบุคลากรทดลองพัฒนา
้
่
ี่
กระบวนการใหม่ ๆ แล้วเกิดผิดพลาดขึ้นมา ควรถือเป็ น
กรณีศึกษาว่าบุคลากรได้เรียนรูอะไรจากกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ถือว่า
้
เป็ นเรืองคอขาดบาดตาย เพื่อทาให้บุคลากรเกิดความรูสึกที่ดี
่
้
กล้าทดลอง กล้าพัฒนางานให้ดีข้ ึน

15. 8. ฉลองความสาเร็จ
 เหตุใดผูจดการจึงไม่นิยมฉลองความสาเร็จ หรือว่ากลัวจะไม่เป็ น
้ั
มืออาชีพ กลัวว่าความน่าเกรงขามจะลดลง หรือกลัวว่าพนักงาน
จะเหลิงจนไม่ทางานอย่างจริงจัง
 เป็ นที่น่าเสียดายอย่างยิง เพราะการฉลองเป็ นการยกย่องและให้
่
ความรูสึกด้านบวก ลองนึกดู ทีมกีฬาเข้าแข่งขันได้รางวัล
้
ชนะเลิศแล้วไม่มีการฉลอง นักกีฬาจะรูสึกอย่างไร
้
 ผูนาควรใส่ใจกับความสาคัญของการฉลองความสาเร็จ
้

16. ผูนาเป็ นมาแต่กาเนิดหรือเกิดจากการฝึ กฝน
้
 คาตอบคือทั้งสองอย่าง คุณสมบัตบางประการเช่น ความฉลาด
ิ
พลังงาน อาจมีตดตัวมา ทักษะผูนาบางอย่างก็เกิดจากการเรียนรู ้
ิ
้
เช่นการสร้างความมั ่นใจในตนเอง การเรียนรูจากมารดาตั้งแต่
้
เด็ก เรียนรูจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือการกีฬา
้
 การเรียนรูบางสิ่ง ได้มาจากการทางาน เกิดจากการลองผิดลอง
้
ถูก กรณีที่ผิดพลาดทาให้เกิดการเรียนรู ้ ไม่ทาผิดพลาดซ้ า กรณีที่
สาเร็จก็จะเป็ นการสร้างความมั ่นใจ ในการทาให้ดข้ ึนต่อไป
ี