Submit Search
Upload
คู่มือครูวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.1 บทที่ 1
•
5 likes
•
13,053 views
ธนกฤต แม่นผล
Follow
คู่มือครูวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.1 บทที่ 1
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 21
Download now
Download to read offline
Recommended
แบบเรียนคณิตศาสตร์ ม.1
แบบเรียนคณิตศาสตร์ ม.1
กอล์ฟ กุยช่ายเอกวิทย์
แบบเรียนคณิตศาสตร์ ม.1
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.1
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.1
อนุชิต ไชยชมพู
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.1, รวมสูตรคณิตศาสตร์, อนุชิต ไชยชมพู,
สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1
krutew Sudarat
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
อนุชิต ไชยชมพู
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3, อนุชิต ไชยชมพู, รวมสูตรคณิต
Matrix53
Matrix53
Aon Narinchoti
คณิตศาสตร์, เมทริกซ์ , ความหมายของเมทริกซ์, การดำเนินการเกี่ยวกับเมทริกซ์
สมบัติของเลขยกกำลัง
สมบัติของเลขยกกำลัง
yingsinee
เรื่อง เลขยกกำลัง
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
krutew Sudarat
จำนวนเต็ม เศษส่วน และทศนิยม
จำนวนเต็ม เศษส่วน และทศนิยม
jinda2512
Recommended
แบบเรียนคณิตศาสตร์ ม.1
แบบเรียนคณิตศาสตร์ ม.1
กอล์ฟ กุยช่ายเอกวิทย์
แบบเรียนคณิตศาสตร์ ม.1
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.1
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.1
อนุชิต ไชยชมพู
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.1, รวมสูตรคณิตศาสตร์, อนุชิต ไชยชมพู,
สรุปสูตร ม.1
สรุปสูตร ม.1
krutew Sudarat
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3
อนุชิต ไชยชมพู
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.3, อนุชิต ไชยชมพู, รวมสูตรคณิต
Matrix53
Matrix53
Aon Narinchoti
คณิตศาสตร์, เมทริกซ์ , ความหมายของเมทริกซ์, การดำเนินการเกี่ยวกับเมทริกซ์
สมบัติของเลขยกกำลัง
สมบัติของเลขยกกำลัง
yingsinee
เรื่อง เลขยกกำลัง
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
krutew Sudarat
จำนวนเต็ม เศษส่วน และทศนิยม
จำนวนเต็ม เศษส่วน และทศนิยม
jinda2512
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
kanjana2536
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
อนุชิต ไชยชมพู
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.2, รวมสูตรคณิตศาสตร์, อนุชิต ไชยชมพู,
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม456 1
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม456 1
kanjana2536
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
PumPui Oranuch
เนื้อหาบทที่1
Expo
Expo
Jiraprapa Suwannajak
ลำดับและอนุกรม
ลำดับและอนุกรม
Patteera Praew
ขอขอบคุณ http://www.tewlek.com/ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลในการทำบล็อกส่งคุณครูในครั้งนี้
Sk7 ma
Sk7 ma
Su Surut
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต
อนุชิต ไชยชมพู
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต อนุชิต ไชยชมพู,
การบวกลบจำนวนเต็ม
การบวกลบจำนวนเต็ม
Jiraprapa Suwannajak
บทที่ 2 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
บทที่ 2 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
sawed kodnara
ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
Chokchai Taveecharoenpun
สถิติการออกข้อสอบ PAT1 เจาะลึกเนื้อหาที่ชอบออกข้อสอบ พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีทุกบทมีครบทุกเนื้อหา สำหรับน้องๆเตรียม admissions
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103
พัน พัน
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103 https://sites.google.com/site/onlineswkj/
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
Thidarat Termphon
Education
ทฤษฎีจำนวน
ทฤษฎีจำนวน
อาเหลิน มีสิทธิ์แค่รักเธอ
สมุดเล่มเล็กเล่มนี้ทำขึ้นให้ทุกคนได้ศึกษาทฤษฎีจำนวนเบื้องต้นนะครับ เชิญทุกคนเข้าไปค้นคว้าได้เลยครับ
Basic m4-1-chapter3
Basic m4-1-chapter3
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
3 25 2(1)
3 25 2(1)
salakjit2554
จำนวนเต็มระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
Realnumbers
Realnumbers
jariya221
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
Thidarat Termphon
Education
ระบบจำนวน
ระบบจำนวน
guest89040d
Square Root
Square Root
KruAm Maths
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
More Related Content
What's hot
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
kanjana2536
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
อนุชิต ไชยชมพู
สรุปสูตรคณิตศาสตร์ ม.2, รวมสูตรคณิตศาสตร์, อนุชิต ไชยชมพู,
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม456 1
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม456 1
kanjana2536
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
PumPui Oranuch
เนื้อหาบทที่1
Expo
Expo
Jiraprapa Suwannajak
ลำดับและอนุกรม
ลำดับและอนุกรม
Patteera Praew
ขอขอบคุณ http://www.tewlek.com/ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลในการทำบล็อกส่งคุณครูในครั้งนี้
Sk7 ma
Sk7 ma
Su Surut
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต
อนุชิต ไชยชมพู
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต อนุชิต ไชยชมพู,
การบวกลบจำนวนเต็ม
การบวกลบจำนวนเต็ม
Jiraprapa Suwannajak
บทที่ 2 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
บทที่ 2 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
sawed kodnara
ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
Chokchai Taveecharoenpun
สถิติการออกข้อสอบ PAT1 เจาะลึกเนื้อหาที่ชอบออกข้อสอบ พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีทุกบทมีครบทุกเนื้อหา สำหรับน้องๆเตรียม admissions
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103
พัน พัน
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103 https://sites.google.com/site/onlineswkj/
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
Thidarat Termphon
Education
ทฤษฎีจำนวน
ทฤษฎีจำนวน
อาเหลิน มีสิทธิ์แค่รักเธอ
สมุดเล่มเล็กเล่มนี้ทำขึ้นให้ทุกคนได้ศึกษาทฤษฎีจำนวนเบื้องต้นนะครับ เชิญทุกคนเข้าไปค้นคว้าได้เลยครับ
Basic m4-1-chapter3
Basic m4-1-chapter3
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
3 25 2(1)
3 25 2(1)
salakjit2554
จำนวนเต็มระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
Realnumbers
Realnumbers
jariya221
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
Thidarat Termphon
Education
ระบบจำนวน
ระบบจำนวน
guest89040d
Square Root
Square Root
KruAm Maths
What's hot
(20)
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม456
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
สรุปสูตร คณิตศาสตร์ ม.2
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม456 1
[สรุปสูตร] สรุปสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม456 1
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
Expo
Expo
ลำดับและอนุกรม
ลำดับและอนุกรม
Sk7 ma
Sk7 ma
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต
ข้อสอบ เอกสาร แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ 2011 คณิต
การบวกลบจำนวนเต็ม
การบวกลบจำนวนเต็ม
บทที่ 2 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
บทที่ 2 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
เจาะลึกการออกข้อสอบ Pat1 คณิตศาสตร์พร้อมสรุปสูตรและทฤษฎีครบทุกบท
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103
สื่อเรื่องระบบจำนวนจริง ครูขวัญแก้ว มีเหมือน ค31103
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
ทฤษฎีจำนวน
ทฤษฎีจำนวน
Basic m4-1-chapter3
Basic m4-1-chapter3
3 25 2(1)
3 25 2(1)
Realnumbers
Realnumbers
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
ระบบจำนวน
ระบบจำนวน
Square Root
Square Root
Similar to คู่มือครูวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.1 บทที่ 1
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1
Yoon Yoon
แผน3 4คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
แผน3 4คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
srkschool
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
71 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่6_ความน่าจะเป็น1
71 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่6_ความน่าจะเป็น1
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
Unit2
Unit2
โรงเรียนบ้านสร้างมิ่ง สพปยโสธรเขตสอง
แผน5 คณฺตศาสตร์เพิ่มเติมม3
แผน5 คณฺตศาสตร์เพิ่มเติมม3
srkschool
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
แผน 2คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
แผน 2คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
srkschool
Add m1-1-chapter1
Add m1-1-chapter1
Preecha Yeednoi
72 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่7_ความน่าจะเป็น2
72 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่7_ความน่าจะเป็น2
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
58 ลำดับและอนุกรม บทนำ
58 ลำดับและอนุกรม บทนำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
ครู กรุณา
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
ครู กรุณา
Unit2
Unit2
โรงเรียนบ้านสร้างมิ่ง สพปยโสธรเขตสอง
Unit2
Unit2
โรงเรียนบ้านสร้างมิ่ง สพปยโสธรเขตสอง
61 ลำดับและอนุกรม ตอนที่3_ลิมิตของลำดับ
61 ลำดับและอนุกรม ตอนที่3_ลิมิตของลำดับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์
การบวก
การบวก
Suracha Woenchum
แผน 6 นวัตกรรม
แผน 6 นวัตกรรม
Jirathorn Buenglee
แผน 6 นวัตกรรม
Similar to คู่มือครูวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.1 บทที่ 1
(20)
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1
แผน3 4คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
แผน3 4คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
71 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่6_ความน่าจะเป็น1
71 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่6_ความน่าจะเป็น1
Unit2
Unit2
แผน5 คณฺตศาสตร์เพิ่มเติมม3
แผน5 คณฺตศาสตร์เพิ่มเติมม3
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
แผน 2คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
แผน 2คณิตศาสตร์เพิ่มเติม3
Add m1-1-chapter1
Add m1-1-chapter1
72 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่7_ความน่าจะเป็น2
72 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่7_ความน่าจะเป็น2
58 ลำดับและอนุกรม บทนำ
58 ลำดับและอนุกรม บทนำ
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2551
Unit2
Unit2
Unit2
Unit2
61 ลำดับและอนุกรม ตอนที่3_ลิมิตของลำดับ
61 ลำดับและอนุกรม ตอนที่3_ลิมิตของลำดับ
การบวก
การบวก
แผน 6 นวัตกรรม
แผน 6 นวัตกรรม
คู่มือครูวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.1 บทที่ 1
1.
1 บทที่ 1 สมบัติของจํานวนนับ (6
ชั่วโมง) 1.1 ตัวหารรวมมากและการนําไปใช (4 ชั่วโมง) 1.2 ตัวคูณรวมนอยและการนําไปใช (2 ชั่วโมง) เนื้อหาในบทเรียนนี้ จะเนนเฉพาะเรื่อง ห.ร.ม. และ ค.ร.น. โดยเริ่มทบทวนในเรื่องที่เกี่ยวกับ การหารจํานวนนับที่เปนการหารลงตัว ตัวหารหรือตัวประกอบ ตัวประกอบรวม หรือตัวหารรวม จํานวนเฉพาะ ตัวประกอบเฉพาะและการแยกตัวประกอบ เพื่อนําสมบัติไปใชในการหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนนับตอไป ในบทเรียนนี้เนนการนํา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ไปใชในการแกปญหา จึงจําเปนตองทบทวนวิธี การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ตัวอยางเอกสารแนะนําการจัดกิจกรรมที่จัดไวในแตละหัวขอ มีไวเพื่อนําเขาสูเนื้อหาสาระ เสริมเนื้อหาสาระ ฝกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร ใหมีคุณธรรมจริยธรรมและคานิยมที่ดีงาม ครูสามารถเลือกใชไดตามความเหมาะสมและอาจปรับใชไดตามความตองการ ผลการเรียนรูที่คาดหวังรายป 1. หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนนับที่กําหนดใหได 2. ใชความรูเกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. แกปญหาได
2.
2 แนวทางในการจัดการเรียนรู 1.1 ตัวหารรวมมากและการนําไปใช (4
ชั่วโมง) จุดประสงค นักเรียนสามารถ 1. หา ห.ร.ม. ของจํานวนนับตั้งแตสองจํานวนขึ้นไปได 2. ใชความรูเกี่ยวกับ ห.ร.ม. แกปญหาได 3. ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคําตอบที่ได เอกสารแนะนําการจัดกิจกรรม กิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ก – 1.1 ง ขอเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 1. สําหรับกิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ก ครูอาจใชการถามตอบหรือครูอาจจัดทําเปนใบงานให นักเรียนทํากอน แลวจึงใชการถามตอบตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อนักเรียนมี ความรูพื้นฐานแลวครูอาจใชกิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ข เพื่อทบทวนการแยกตัวประกอบ 2. ในการหาตัวประกอบของจํานวนนับที่กําหนดให นักเรียนอาจหาไดไมครบถวน ครูควร แนะนํานักเรียนใหพิจารณาจากตัวคูณสองจํานวนทุกคูที่มีผลคูณเทากับจํานวนนับนั้น เชน การหา ตัวประกอบของ 18 ทําไดดังนี้ หาจํานวนนับสองจํานวนที่คูณกันแลวได 18 โดยเริ่มจากตัวคูณ 1, 2, 3, … 1 × 18 = 18 2 × 9 = 18 3 × 6 = 18 4 × χ = χ ซึ่งไมมีจํานวนนับที่คูณกับ 4 ได 18 ครูอาจใชแผนภาพการจับคูจํานวนสองจํานวนที่คูณกันได 18 เพื่อชวยในการหาวายังมี จํานวนคูอื่นอีกหรือไมที่คูณกันได 18 ดังนี้ 1 2 3 4 χ 6 9 18 ไมมี
3.
3 จากแผนภาพจะเห็นวาจํานวนนับที่อยูระหวาง 4 กับ
6 คือ 5 มีเพียงจํานวนเดียวและ 4 × 5 ไมเทากับ 18 ดังนั้นตัวประกอบของ 18 มีทั้งหมด 6 จํานวน ไดแก 1, 2, 3, 6, 9 และ 18 3. สําหรับกิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ค กอนใหนักเรียนทํากิจกรรมนี้ครูควรสนทนากับนักเรียน ถึงเรื่องการตัดไมทําลายปาซึ่งเปนสาเหตุที่ทําใหเกิดอุทกภัยทุกป ทําใหเราตองหาวิธีชวยเหลือผูประสบ อุทกภัยในเบื้องตน เชน แจกถุงยังชีพ 4. ปญหาการลอมรั้วที่ดินของชาวสวนในหนังสือเรียนที่นําเสนอไวนั้น เพื่อใหเกิดแนวคิด เกี่ยวกับ ห.ร.ม. และการนําไปใช ครูอาจจําลองสถานการณใหนักเรียนลงมือปฏิบัติโดยใชฟวเจอรบอรด แทนบริเวณที่ดินและเข็มหมุดแทนเสาเพื่อชวยในการหาคําตอบ นอกจากนี้ครูอาจเลือกใชโจทยปญหา อื่น ๆ จากกิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ง เพิ่มเติมก็ได 5. เมื่อนักเรียนไดเรียนรูวิธีหา ห.ร.ม. ของจํานวนนับตั้งแตสองจํานวนขึ้นไปครบถวนทั้งสามวิธีแลว ควรแนะใหนักเรียนสํารวจตัวเองวาวิธีใดที่ตนเองถนัดและนําไปใชไดดี ในการทําแบบฝกหัด นักเรียน จะเลือกทําโดยวิธีใดก็ได 6. สําหรับตัวอยางที่ 6 – 8 ในหนังสือเรียน ครูควรใชคําถามประกอบการอธิบาย และชี้ให เห็นประโยชนของการนํา ห.ร.ม. มาใชในการแกปญหา เมื่อนักเรียนทําแบบฝกหัด 1.1 ขอ 11 แลว ครูควรชวยใหนักเรียนสรุปไดวา เศษสวนใดเปนเศษสวนอยางต่ําก็ตอเมื่อ ห.ร.ม. ของตัวเศษและตัวสวน เปน 1 ซึ่งเปนบทนิยามของเศษสวนอยางต่ํา 1.2 ตัวคูณรวมนอยและการนําไปใช (2 ชั่วโมง) จุดประสงค นักเรียนสามารถ 1. หา ค.ร.น. ของจํานวนนับตั้งแตสองจํานวนขึ้นไปได 2. บอกความสัมพันธระหวาง ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนนับสองจํานวนที่กําหนดใหได 3. ใชความรูเกี่ยวกับ ค.ร.น. แกปญหาได 4. ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคําตอบที่ได เอกสารแนะนําการจัดกิจกรรม กิจกรรมเสนอแนะ 1.2 ก – 1.2 ค ขอเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 1. ครูทบทวนความรูเดิมเกี่ยวกับตัวประกอบเพื่อใหนักเรียนเขาใจวาตัวประกอบของจํานวนนับใด ยอมหารจํานวนนับนั้นลงตัวดังนี้ 2 เปนตัวประกอบของ 6 หมายความวา 2 หาร 6 ลงตัว หรือกลาวอีกอยางหนึ่งวา 6 หารดวย 2 ลงตัว
4.
4 3 เปนตัวประกอบของ 15
หมายความวา 3 หาร 15 ลงตัว หรือกลาวอีกอยางหนึ่งวา 15 หารดวย 3 ลงตัว 4 เปนตัวประกอบของ 16 หมายความวา 4 หาร 16 ลงตัว หรือกลาวอีกอยางหนึ่งวา 16 หารดวย 4 ลงตัว 2. เพื่อใหนักเรียนเขาใจความหมายของพหุคูณ ครูสามารถใชกิจกรรมเสนอแนะ 1.2 ก ประกอบการเรียนการสอน 3. ครูควรระวังเกี่ยวกับการใหความหมายของตัวประกอบและพหุคูณซึ่งใชถอยคําใกลเคียงกัน ดังนี้ ตัวประกอบของจํานวนนับใด คือ จํานวนนับที่หารจํานวนนับนั้นลงตัว พหุคูณของจํานวนนับใด คือ จํานวนนับที่หารดวยจํานวนนับนั้นลงตัว จะเห็นวาขอความทั้งสองนั้นแตกตางกันที่พหุคูณของจํานวนนับมีคําวา หารดวย ครูตอง อธิบายอยางชัดเจนโดยอาจยกตัวอยางดังนี้ ตัวประกอบของ 12 มี 6 ตัว ไดแก 1, 2, 3, 4, 6 และ 12 แตพหุคูณของ 12 มีมากมาย ไดแก 12, 24, 36, … 4. ปญหาน้ําพุกลางสวนในหนังสือเรียนนําเสนอไวเพื่อใหเห็นตัวอยางของการนํา ค.ร.น. ไปใช ครูควรใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหแนวคิดและหาขอสรุปใหไดวาเวลาที่น้ําพุทั้งสามวงพุงขึ้น พรอมกันคือ ค.ร.น. ของเวลาครบกําหนดที่น้ําพุแตละวงพุงขึ้น 5. เมื่อนักเรียนไดเรียนรูวิธีหา ค.ร.น. ของจํานวนนับตั้งแตสองจํานวนขึ้นไปครบทั้งสามวิธี แลว ควรแนะใหนักเรียนสํารวจตัวเองวาวิธีใดที่ตนเองถนัดและนําไปใชไดดี ในการทําแบบฝกหัด 1.2 นักเรียนจะเลือกใชวิธีใดก็ได ครูอาจชี้ใหนักเรียนเห็นวาวิธีการแยกตัวประกอบและวิธีการตั้งหารเปนวิธีที่สามารถใชหา ไดทั้ง ห.ร.ม. และ ค.ร.น. 6. ครูควรใหนักเรียนทํากิจกรรมชวนคิดในหนังสือเรียนเพื่อใหสังเกตความสัมพันธระหวาง ผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนนับสองจํานวนกับผลคูณของจํานวนนับสองจํานวนนั้น หลาย ๆ คู จากนั้นครูและนักเรียนชวยกันสรุปใหไดวาผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนนับ สองจํานวนใด ๆ เทากับผลคูณของจํานวนนับสองจํานวนนั้น ขอสรุปดังกลาวเขียนในรูปทั่วไปไดดังนี้ ถา a และ b เปนจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ (ห.ร.ม. ของ a และ b) × (ค.ร.น. ของ a และ b) = a × b
5.
5 การพิสูจนความสัมพันธดังกลาวตองใชความรูในระดับสูง ในชั้นนี้ตองการเพียงใหนักเรียน รูจักและนําความสัมพันธดังกลาวนี้ไปใชได ครูควรใหนักเรียนทดลองหาความสัมพันธของจํานวนนับสามจํานวนใดๆ ตามแบบรูปของ ความสัมพันธขางตนแลวตรวจสอบดูวาความสัมพันธนั้นยังคงเปนจริงสําหรับกรณีสามจํานวนเสมอไป หรือไม
นักเรียนควรสรุปไดวาไมเปนจริง 7. สําหรับกิจกรรมเสนอแนะ 1.2 ข และ 1.2 ค นั้น ครูอาจเลือกใชเพื่อชี้ใหนักเรียนเห็น การนําความรูเรื่องสมบัติของจํานวนนับไปเชื่อมโยงกับความรูในกลุมสาระการเรียนรูอื่นๆ คําตอบแบบฝกหัด คําตอบแบบฝกหัด 1.1 1. 1) 17 2) 1 3) 3 4) 1 2. 1 3. 17 4. 27 5. 34 6. 12 กอง ชนิดที่หนึ่งกองละ 4 ผล ชนิดที่สองกองละ 5 ผล ชนิดที่สามกองละ 7 ผล 7. 5 แถว แถวละ 32 คน 8. 120 แผน แตละแผนมีดานยาว 13 เซนติเมตร 9. 176 ตน 10. ตัดไดมากที่สุด 180 ผืน ตัดไดนอยที่สุด 5 ผืน ซึ่งมีแนวคิดดังนี้ หาตัวหารรวมของ 36 และ 180 จะได 2 , 4 , 6 , 8 , 10 , 12 , 18 และ 36 จากเงื่อนไขของ โจทยที่ตองตัดผาเปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาวไมต่ํากวา 5 เซนติเมตร ความยาวที่ใชได คือ 6 , 9 , 12 , 18 หรือ 36 เซนติเมตร ถาตองการตัดใหไดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสจํานวนมากที่สุด ตองตัดใหยาวดานละ 6 เซนติเมตร จะตัดได 180 ผืน และถาตองการตัดใหไดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสนอยที่สุด ตองตัดใหยาวดานละ 36 เซนติเมตร จะตัดได 5 ผืน 11. 18 13 เปนเศษสวนอยางต่ําของ 108 78 เพราะวา ห.ร.ม. ของ 13 และ 18 คือ 1 12. ห.ร.ม. ของจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ ตองมากกวาหรือเทากับ 1 เสมอ เพราะวา
6.
6 กรณีที่ 1 ถาจํานวนนับสองจํานวนนั้นมีตัวประกอบรวมเปน
1 เทานั้น ห.ร.ม. ของสองจํานวนนั้นตองเทากับ 1 กรณีที่ 2 ถาจํานวนนับสองจํานวนนั้นมีตัวประกอบรวมมากกวา 1 แลว ห.ร.ม. ของสองจํานวนนั้น ตองมากกวา 1 หรืออาจใหเหตุผลดังนี้ 1 เปนตัวหารรวมของจํานวนนับทุกจํานวน และ 1 เปนจํานวนนับที่นอยที่สุด ดังนั้น ห.ร.ม. หรือตัวหารรวมที่มากที่สุดของจํานวนนับสองจํานวนที่กําหนดใหจึงตองมากกวาหรือ เทากับ 1 คําตอบแบบฝกหัด 1.2 1. 1) 114 2) 377 3) 3657 4) 120 5) 2499 6) 1551 2. 1) 6 7 หรือ 1 6 1 2) 120 89 3) 48 11 3. 149 4. 180 ผล 5. เวลา 17.30 น. 6. ครั้งตอไปที่แมจะพบลูกพรอมกันสองคนดังนี้ แมพบสวยกับขําอีก 12 วันตอมา ซึ่งตรงกับวันที่ 25 เมษายน แมพบสวยกับคมอีก 20 วันตอมา ซึ่งตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม แมพบคมกับขําอีก 30 วันตอมา ซึ่งตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคม และพบลูกพรอมกันทั้งสามคนในวันที่ 12 มิถุนายน 7. ค.ร.น. ของจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ ตองมากกวาหรือเทากับจํานวนใดจํานวนหนึ่งในสองจํานวน นั้นเสมอ เพราะวาแตละจํานวนตองหาร ค.ร.น. ไดลงตัว 8. เพราะวา ห.ร.ม. ของจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ ตองหารสองจํานวนนั้นลงตัวและสองจํานวนนั้น ตองหาร ค.ร.น. ของสองจํานวนนั้นลงตัวดวย ดังนั้น ห.ร.ม. ของจํานวนนับสองจํานวนใด ๆ หาร ค.ร.น. ของจํานวนนับสองจํานวนนั้นไดลงตัวเสมอ
7.
7 คําตอบปญหาชวนคิด 1. ห.ร.ม. ของ
6 และ 10 คือ 2 ค.ร.น. ของ 6 และ 10 คือ 30 2. 1) ผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. คือ 2 × 30 = 60 2) ผลคูณของ 6 และ 10 คือ 6 × 10 = 60 3. ผลลัพธที่ไดในขอ 2 จากขอ 1) และ 2) เทากัน 4. ห.ร.ม. ของ 8 และ 28 คือ 4 ค.ร.น. ของ 8 และ 28 คือ 56 ผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. คือ 8 × 28 = 224 ผลคูณของ 8 และ 28 คือ 8 × 28 = 224 5. กําหนด 15 และ 27 ห.ร.ม. ของ 15 และ 27 คือ 3 ค.ร.น. ของ 15 และ 27 คือ 135 ผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. คือ 3 × 135 = 405 ผลคูณของ 15 และ 27 คือ 15 × 27 = 405 6. ผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนนับสองจํานวนเทากับผลคูณของจํานวนนับ สองจํานวนนั้น หรือ เมื่อ a และ b เปนจํานวนนับ (ห.ร.ม. ของ a และ b) × (ค.ร.น. ของ a และ b) = a × b 7. จํานวนสองจํานวนมี ห.ร.ม. เปน 6 ค.ร.น. เปน 72 จํานวนหนึ่งคือ 18 อีกจํานวนหนึ่ง คือ 24 8. 18 และ 24 มี ห.ร.ม. คือ 6 และ ค.ร.น. คือ 72 จริง
8.
8 กิจกรรมเสนอแนะ
9.
9 กิจกรรมนี้ครูอาจใชการถามตอบ เพื่อทบทวนความรูเกี่ยวกับตัวประกอบ ตัวประกอบรวม จํานวนคู
จํานวนคี่ และจํานวนเฉพาะ กิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ก 1. ใหนักเรียนหาตัวประกอบทั้งหมดของจํานวนตอไปนี้ 1) 17 [1, 17] 2) 24 [1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24] 3) 36 [1, 2, 3, 4, 6, 9, 12, 18, 36] 4) 125 [1, 5, 25, 125] 2. จํานวนนับทุกจํานวนมี 1 เปนตัวประกอบใชหรือไม เพราะเหตุใด [ใช เพราะ 1 หารจํานวนนับทุกจํานวนลงตัว] 3. จํานวนนับทุกจํานวนมี 2 เปนตัวประกอบใชหรือไม เพราะเหตุใด [ไมใช เพราะมีตัวอยาง เชน 3 เปนจํานวนนับซึ่งไมมี 2 เปนตัวประกอบ] 4. จํานวนนับใดบางที่เปนตัวประกอบรวมของ 16 และ 20 [1, 2, 4] 5. ขอความตอไปนี้เปนจริงหรือเท็จ 1) 8 เปนตัวประกอบของ 72 [จริง] 2) 7 เปนตัวประกอบของ 91 [จริง] 3) 3 ไมเปนตัวประกอบของ 45 [เท็จ] 4) ตัวประกอบของ 13 มีเพียง 2 ตัวเทานั้น [จริง] 5) 28 มีตัวประกอบทั้งหมด 7 ตัว [เท็จ] 6) 2 และ 3 เปนตัวประกอบของ 15 [เท็จ] 6. จงหาจํานวนนับที่นอยที่สุดที่มีจํานวนทุกจํานวนในแตละขอตอไปนี้เปนตัวประกอบ 1) 1, 3, 4, 8 [24] 2) 1, 5, 7 [35] 7. จงหาวาขอความในขอใดเปนจริงหรือเปนเท็จ ถาเปนเท็จใหบอกเหตุผลหรือยกตัวอยางคาน 1) จํานวนนับที่ลงทายดวย 0, 2, 4, 6 และ 8 ทุกจํานวนเปนจํานวนคู [จริง] 2) จํานวนนับที่ลงทายดวย 1, 3, 5, 7 และ 9 ทุกจํานวนเปนจํานวนคี่ [จริง]
10.
10 3) จํานวนนับทุกจํานวนที่ 2
หารลงตัวเปนจํานวนคู [จริง] 4) จํานวนนับทุกจํานวนที่ 3 หารลงตัวเปนจํานวนคี่ [เท็จ เพราะมีตัวอยาง เชน 12 ซึ่ง 3 หารลงตัว แต 12 ไมเปนจํานวนคี่] 5) จํานวนคี่ทุกจํานวนมี 1 และตัวมันเองเทานั้นหารลงตัว [เท็จ เพราะมีตัวอยาง เชน 27 มี 1, 3, 9 และ 27 หารลงตัว] 6) ผลบวกของจํานวนคูสองจํานวนเปนจํานวนคู [จริง] 7) ผลคูณของจํานวนคูกับจํานวนคี่เปนจํานวนคู [จริง] 8) 48, 112, 215 เปนจํานวนคูทุกจํานวน [เท็จ เพราะ 215 เปนจํานวนคี่] 9) 302, 247, 121 มีจํานวนคี่สองจํานวน [จริง] 8. จงหาวาขอความในขอใดเปนจริงหรือเปนเท็จ ถาเปนเท็จใหบอกเหตุผลหรือยกตัวอยางคาน 1) 3 เปนจํานวนเฉพาะที่นอยที่สุด [เท็จ เพราะยังมีจํานวนเฉพาะที่นอยกวา คือ 2] 2) จํานวนคี่ทุกจํานวนเปนจํานวนเฉพาะ [เท็จ เพราะมีจํานวนคี่ที่ไมเปนจํานวนเฉพาะ เชน 9] 3) 1 ไมใชจํานวนเฉพาะ [จริง] 4) ไมมีจํานวนคูจํานวนใดเปนจํานวนเฉพาะ [เท็จ เพราะ 2 เปนจํานวนคู และ 2 เปนจํานวนเฉพาะ] 5) จํานวนเฉพาะที่มากที่สุดแตนอยกวา 30 คือ 29 [จริง] 6) 5 × 7 เปนจํานวนเฉพาะ [เท็จ เพราะ 5 × 7 ยังมีตัวประกอบที่ไมใช 1 และไมใชตัวของมันเอง คือ 5 และ 7] 9. จงหาจํานวนที่มีสองหลักและเปนจํานวนเฉพาะที่มากที่สุด [97] 10. จงหาจํานวนที่มีสามหลักและเปนจํานวนเฉพาะที่นอยที่สุด [101] 11. จงหาจํานวนเฉพาะที่อยูระหวาง 40 ถึง 60 [41, 43, 47, 53 และ 59] 12. จงหาจํานวนเฉพาะสามจํานวนแรกที่มากกวา 200 [211, 223 และ 227] 13. ถา a และ b เปนจํานวนเฉพาะที่ a ≠ b จํานวนนับที่หารทั้ง a และ b ไดลงตัว คือจํานวนใด [1]
11.
11 กิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ข 1.
จงหาจํานวนนับที่นอยที่สุดที่มีตัวประกอบเฉพาะไมซ้ํากัน 4 ตัว [จํานวนนับที่นอยที่สุดที่มีตัวประกอบเฉพาะไมซ้ํากัน 4 ตัว คือ 210 210 ไดจาก 2 × 3 × 5 × 7] 2. จงแยกตัวประกอบของจํานวนตอไปนี้ 1) 189 [189 = 3 × 3 × 3 × 7] 2) 333 [333 = 3 × 3 × 37] 3) 735 [735 = 3 × 5 × 7 × 7] 4) 1,155 [1155 = 3 × 5 × 7 × 11] 5) 1,350 [1350 = 2 × 3 × 3 × 3 × 5 × 5] 6) 9,009 [9009 = 3 × 3 × 7 × 11 × 13] กิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ค สื่อการเรียนรู ใบกิจกรรมเพื่อนชวยเพื่อน แนวการจัดกิจกรรม 1. ครูสนทนากับนักเรียนถึงการจัดสิ่งของเปนถุงหรือเปนกองเพื่อใหนักเรียนเห็นแนวคิดใน การใชตัวประกอบรวม เชน มีมะมวง 12 ผล และมังคุด 18 ผล จะจัดใสจานไดอยางไรบางโดยให แตละจานมีจํานวนผลไมแตละชนิดเทากัน และไมมีผลไมเหลืออยู กิจกรรมนี้เสนอไวเพื่อใหนักเรียนเห็นการใชความรูเกี่ยวกับตัวประกอบรวมและใหเห็น สถานการณของปญหาที่เชื่อมโยงถึงเรื่องที่จะสรางเสริมคุณธรรมใหแกนักเรียน กิจกรรมนี้ครูอาจใชเพื่อทบทวนการแยกตัวประกอบ
12.
12 2. ครูแจกใบกิจกรรมเพื่อนชวยเพื่อน ใหนักเรียนทําเปนงานกลุม
กอนใหทํากิจกรรมนี้ ครูควรสนทนาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชวยเหลือสังคมในเรื่องอื่น ๆ เพื่อกระตุนใหนักเรียนรูสึกถึงการมี น้ําใจทํางานเพื่อสังคม 3. หลังจากนักเรียนทํากิจกรรมแลว ควรใหมีการนําเสนอแนวคิดและวิธีการแกปญหาของ แตละกลุมและอภิปรายถึงความเหมาะสมของการจัดสิ่งของมอบใหหมูบาน 4. หลังจากนักเรียนนําเสนอแลวใหครูใชคําถามเพิ่มเติมวา ถาในการจัดของไปบริจาคครั้งนี้ ตองการจัดใหไดจํานวนหมูบานมากที่สุด จะจัดไดกี่หมูบาน นักเรียนของโรงเรียนแหงหนึ่งชวยครูจัดสิ่งของที่ไดรับบริจาคเพื่อนําไปชวยเหลือหมูบานที่ ประสบอุทกภัยในจังหวัดหนึ่ง รายการสิ่งของที่ไดรับบริจาคมีดังนี้ ผาหม จํานวน 120 ผืน ปลากระปอง จํานวน 150 โหล ผักกาดดองกระปอง จํานวน 840 กระปอง บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป จํานวน 600 กลอง ขาวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จํานวน 480 ถุง ถาตองการจัดสิ่งของเหลานี้เปนกองเพื่อมอบใหแตละหมูบาน แตละกองมีของครบทุกชนิดและ แตละชนิดมีจํานวนเทากันโดยไมมีสิ่งของเหลืออยู นักเรียนจะมีวิธีการจัดสิ่งของไดกี่วิธี คําตอบกิจกรรม เพื่อนชวยเพื่อน เนื่องจากตัวประกอบของ 120, 150, 840, 600 และ 480 ไดแก 1, 2, 3, 5, 6, 10, 15 และ 30 ดังนั้นนักเรียนจะมีวิธีการจัดสิ่งของ ใหแตละหมูบานไดของครบทุกชนิดและแตละชนิดมีจํานวน เทากันโดยไมมีสิ่งของเหลืออยูไดทั้งหมด 8 วิธีดังนี้ เพื่อนชวยเพื่อน
13.
13 ตัดเชือก กิจกรรมตอไปนี้นําเสนอใหนักเรียนไดลงมือปฏิบัติเพื่อใหเกิดแนวคิดเกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ นําความรูเรื่อง
ห.ร.ม. ไปแกปญหาหรือสถานการณตาง ๆ ครูอาจใหนักเรียนทําทั้งหมดหรือ ทําบางกิจกรรมก็ได ผาหม (ผืน) ปลากระปอง (โหล) ผักกาดดอง กระปอง (กระปอง) บะหมี่ กึ่งสําเร็จรูป (กลอง) ขาวสารถุงละ 5 กิโลกรัม (ถุง) 1. จัดให 1 หมูบาน 2. จัดให 2 หมูบาน 3. จัดให 3 หมูบาน 4. จัดให 5 หมูบาน 5. จัดให 6 หมูบาน 6. จัดให 10 หมูบาน 7. จัดให 15 หมูบาน 8. จัดให 30 หมูบาน 120 60 40 24 20 12 8 4 150 75 50 30 25 15 10 5 840 420 280 168 140 84 56 28 600 300 200 120 100 60 40 20 480 240 160 96 80 48 32 16 กิจกรรมเสนอแนะ 1.1 ง สื่อการเรียนรู เชือกฟางสามเสนยาว 28 เซนติเมตร 36 เซนติเมตร และ 48 เซนติเมตร กรรไกร และไมบรรทัด คําสั่ง ใหนักเรียนชวยกันหาวิธีตัดเชือกทั้งสามเสนออกเปนทอนสั้นๆ โดยใหทุกทอนยาวเทากัน เปนจํานวนเต็มเซนติเมตรและไมเหลือเศษ จงหาวา 1. จะตัดเชือกไดอยางไรบาง 2. ถาตองการใหเชือกแตละทอนยาวที่สุดจะไดเชือกกี่ทอน แตละทอนยาว กี่เซนติเมตร วิธีที่ สิ่งของที่แตละหมูบาน จะไดรับ
14.
14 ตัดกระดาษ คําตอบกิจกรรม ตัดเชือก 1. ตัดเชือกได
3 แบบ 1) ถาตัดใหเชือกแตละทอนยาว 1 เซนติเมตร จะตัดได 112 ทอน 2) ถาตัดใหเชือกแตละทอนยาว 2 เซนติเมตร จะตัดได 56 ทอน 3) ถาตัดใหเชือกแตละทอนยาว 4 เซนติเมตร จะตัดได 28 ทอน 2. ถาตองการใหเชือกแตละทอนยาวที่สุดจะตัดเชือกไดทั้งหมด 28 ทอน แตละทอนยาว 4 เซนติเมตร สื่อการเรียนรู กระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผาขนาดกวาง 32 เซนติเมตร ยาว 56 เซนติเมตร คําสั่ง ใหนักเรียนชวยกันหาวิธีตัดกระดาษออกเปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเทาๆ กันดวยความยาว ของดานเปนจํานวนเต็มเซนติเมตรโดยไมเหลือเศษ จงหาวา 1. จะตัดกระดาษรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสไดขนาดเทาใดบาง 2. ถาตองการตัดใหเปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดใหญที่สุด โดยไมใหเหลือเศษ จะไดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั้งหมดกี่รูป แตละรูปมีดานยาวกี่เซนติเมตร คําตอบกิจกรรม ตัดกระดาษ 1. ตัดกระดาษรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสได 4 แบบ 1) ถาตัดใหมีดานยาว 1 เซนติเมตร จะตัดได 1,792 รูป 2) ถาตัดใหมีดานยาว 2 เซนติเมตร จะตัดได 448 รูป 3) ถาตัดใหมีดานยาว 4 เซนติเมตร จะตัดได 112 รูป 4) ถาตัดใหมีดานยาว 8 เซนติเมตร จะตัดได 28 รูป 2. ถาตองการตัดใหเปนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดใหญที่สุด จะตองตัดใหมีดานยาวดานละ 8 เซนติเมตร และตัดได 28 รูป
15.
15 จัดยางรัดใสถุง สื่อการเรียนรู ยางรัดสีเขียว 48
เสน ยางรัดสีแดง 72 เสน และยางรัดสีเนื้อ 192 เสน คําสั่ง ใหนักเรียนชวยกันจัดยางรัดใสถุง ถุงละเทาๆ กันโดยไมใหเหลือเศษ ใหแตละถุงมียางรัด ครบทุกสีและแตละสีมีจํานวนเทากันดวย จงหาวา 1. ถาตองการใหไดจํานวนถุงมากที่สุดจะจัดไดกี่ถุง แตละถุงจะมียางรัดทั้งหมดกี่เสน และแตละสีมีอยางละกี่เสน 2. ถาตองการใหในแตละถุงมีจํานวนยางรัดมากที่สุด จะจัดไดกี่ถุง และแตละ ถุงจะมียางรัดกี่เสน คําตอบกิจกรรม จัดยางรัดใสถุง 1. ถาตองการใหไดจํานวนถุงมากที่สุดจะจัดได 24 ถุง แตละถุงมียางรัดทั้งหมด 13 เสน มี สีเขียว 2 เสน สีแดง 3 เสน และสีเนื้อ 8 เสน 2. ถาตองการใหในแตละถุงมีจํานวนยางรัดมากที่สุดจะจัดได 1 ถุง และในถุงมียางรัด 312 เสน กิจกรรมเสนอแนะ 1.2 ก แนวการจัดกิจกรรม 1. ครูอาจใหนักเรียนทองสูตรคูณแม 2, 3, 4 และ 5 พรอมกันหนึ่งรอบ จากนั้นครูเขียน สูตรคูณดังกลาวบนกระดานตามแบบรูปดังนี้ 2 × 1 2 × 2 2 × 3 2 × 4 2 × 5 … 3 × 1 3 × 2 3 × 3 3 × 4 3 × 5 … 4 × 1 4 × 2 4 × 3 4 × 4 4 × 5 … 5 × 1 5 × 2 5 × 3 5 × 4 5 × 5 … กิจกรรมนี้นําเสนอไวเพื่อใหนักเรียนเขาใจเกี่ยวกับพหุคูณของจํานวนนับ โดยสังเกตจาก แบบรูปของสูตรคูณที่นักเรียนคุนเคยมาแลว พหุคูณ
16.
16 2. ครูใชคําถามใหนักเรียนสังเกตวาจํานวนในแถวที่ 1
ซึ่งเปนสูตรคูณของแม 2 แตละ จํานวนไดมาอยางไร (นักเรียนควรตอบไดวา ไดมาจากการคูณของ 2 กับจํานวนนับตั้งแต 1 ขึ้นไป) ครูแนะนําวาแตละจํานวนนั้นคือ พหุคูณของ 2 พรอมทั้งเขียนคําวา “เปนพหุคูณของ 2” หลังแถวที่ 1 ดังนี้ 2 × 1 2 × 2 2 × 3 2 × 4 2 × 5 … เปนพหุคูณของ 2 3. ครูใหนักเรียนสังเกตจํานวนในแถวตอไปวามีลักษณะเชนเดียวกับจํานวนในแถวที่ 1 หรือไม และควรเรียกจํานวนในแตละแถววาอยางไร (นักเรียนควรตอบไดวา แถวที่ 2, 3 และ 4 เปน พหุคูณของ 3 พหุคูณของ 4 และพหุคูณของ 5 ตามลําดับ) ใหครูเขียนคําวา เปนพหุคูณของ 3, 4 และ 5 ตามคําบอกของนักเรียนไวหลังแถวเชนเดียวกับแถวที่ 1 4. ครูใชการถามตอบ ใหนักเรียนไดสังเกตเห็นวาจํานวนที่เปนพหุคูณของจํานวนนับจะตอง หารดวยจํานวนนับนั้นไดลงตัว โดยใชคําถามในทํานองตอไปนี้ 1) 2 หารจํานวนทุกจํานวนที่เปนพหุคูณของ 2 ลงตัวหรือไม 2) 2 เปนตัวประกอบของจํานวนทุกจํานวนที่เปนพหุคูณของ 2 ใชหรือไม 3) จํานวนทุกจํานวนที่หารดวย 2 ลงตัวเปนพหุคูณของ 2 ใชหรือไม ครูใชคําถามในทํานองเดียวกันนี้กับพหุคูณของจํานวนนับอื่น ๆ อีก 2 – 3 คําถาม เพื่อให นักเรียนสรุปไดวา จํานวนนับที่หารดวยจํานวนนับที่กําหนดใหลงตัว เรียกวาพหุคูณของจํานวนนับ ที่กําหนดใหนั้น ในทางคณิตศาสตรมีบทนิยามสําหรับพหุคูณของ a เมื่อ a แทนจํานวนเต็มใด ๆ ดังนี้ บทนิยาม พหุคูณของ a เมื่อ a แทนจํานวนเต็มใด ๆ คือ จํานวนในรูป ma เมื่อ m เปนจํานวนเต็ม ดังนั้นถาใชบทนิยามโดยตรง พหุคูณของ a คือ 0 × a, 1 × a, 2 × a, … และ -1 × a, -2 × a, -3 × a … เมื่อ a แทนจํานวนเต็มใด ๆ แตในบทเรียนระดับนี้ เราจํากัดขอบเขตไวเฉพาะจํานวนนับ ดังนั้นพหุคูณของ 2 คือ 1 × 2, 2 × 2, 3 × 2, 4 × 2, … และเมื่อใชสมบัติการสลับที่จะไดสูตรคูณ ในแบบรูปของกิจกรรมนี้เปน 2 × 1, 2 × 2, 2 × 3, 2 × 4, … ความรูเกี่ยวกับบทนิยามขางตนนี้ ครูไมจําเปนตองใหนักเรียนรู ในที่นี้เพิ่มเติมไวสําหรับครู
17.
17 กิจกรรมเสนอแนะ 1.2 ข กิจกรรมนี้ครูอาจใชเพื่อใหนักเรียนไดเห็นการนําสมบัติของจํานวนนับมาประยุกตเปนกิจกรรม และไดเชื่อมโยงความรูคณิตศาสตรกับความรูในกลุมสาระการเรียนรูอื่น พรรณไมบานเรา สื่อการเรียนรู บัตรสีตาง
ๆ 4 สี ในตัวอยางนี้สมมติในหองเรียนมีนักเรียน 50 คน จัดเตรียมบัตรสีตาง ๆ 50 ใบ ดังนี้ บัตรสีแดงมีจํานวน 14 ใบ แตละใบเขียนหมายเลข 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 22, 24, 26 และ 28 บัตรสีเขียวมีจํานวน 12 ใบ แตละใบเขียนหมายเลข 1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19, 21 และ 23 บัตรสีน้ําเงินมีจํานวน 10 ใบ แตละใบเขียนหมายเลข 5, 10, 15, 20, 25, 30, 35, 40, 45 และ 50 บัตรสีชมพูมีจํานวน 14 ใบ แตละใบเขียนหมายเลข 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36, 39 และ 42 แนวการจัดกิจกรรม 1. ครูแจกบัตรสี 1 ใบใหนักเรียนแตละคนโดยไมเจาะจงสีและหมายเลขบัตร 2. ใหนักเรียนแยกเขากลุมตามสีของบัตร อาจใหยืนเปนกลุมก็ได 3. ใหนักเรียนในแตละกลุมอภิปรายกันถึงจํานวนบนบัตรที่แตละคนไดรับวาครูแบงกลุมโดย ใชความรูหรือหลักเกณฑอยางไร ซึ่งนักเรียนควรสรุปไดวา บนบัตรสีแดงเปนจํานวนคูหรือเปนจํานวน ซึ่งเปนพหุคูณของ 2 บนบัตรสีเขียวเปนจํานวนคี่ บนบัตรสีน้ําเงินเปนจํานวนซึ่งเปนพหุคูณของ 5 บนบัตรสีชมพูเปนจํานวนซึ่งเปนพหุคูณของ 3 จากนั้นใหนักเรียนพิจารณาวา 1) ระหวางกลุมบัตรสีตาง ๆ มีบัตรซึ่งแสดงจํานวนเดียวกันอยางนอย 1 จํานวนบาง หรือไม
18.
18 [กลุมบัตรสีแดงกับกลุมบัตรสีน้ําเงิน มีจํานวนซ้ํากันคือ 10
และ 20 กลุมบัตรสีแดงกับกลุมบัตรสีชมพู มีจํานวนซ้ํากันคือ 6, 12, 18 และ 24 กลุมบัตรสีเขียวกับกลุมบัตรสีน้ําเงิน มีจํานวนซ้ํากันคือ 5 และ 15 กลุมบัตรสีเขียวกับกลุมบัตรสีชมพู มีจํานวนซ้ํากันคือ 3, 9, 15 และ 21 กลุมบัตรสีน้ําเงินกับกลุมบัตรสีชมพู มีจํานวนซ้ํากันคือ 15 และ 30 กลุมบัตรสีเขียว บัตรสีน้ําเงิน และบัตรสีชมพู มีจํานวนซ้ํากันคือ 15 ] 2) กลุมบัตรสีใดบางที่มีจํานวนบนบัตรไมซ้ํากับกลุมสีอื่น [กลุมบัตรสีแดงกับกลุมบัตรสีเขียว] คําตอบของทั้งสองขอนี้จะนําไปใชในกิจกรรมตอนตอไป 4. ใหนักเรียนในแตละกลุมบัตรสีชวยกันรวบรวมรายชื่อพรรณไมบานเรา ดังนี้ บัตรสีแดง รวบรวมชื่อ ไมดอก บัตรสีเขียว รวบรวมชื่อ ไมผล บัตรสีน้ําเงิน รวบรวมชื่อ ไมเลื้อย บัตรสีชมพู รวบรวมชื่อ ไมประดับ ถาครูเห็นวานักเรียนหาชื่อพรรณไมไดชาเกินไป ครูอาจแจกใบรายชื่อพรรณไมบานเรา ดังตัวอยางขางลางนี้ ใหนักเรียนเลือกชื่อและบันทึกเปนของกลุม แลวใหแตละกลุมนําเสนอรายชื่อ พรรณไมบนกระดานดําในเวลา 10 นาที รายชื่อพรรณไมบานเรา กุหลาบ มะมวง องุน ปาริชาต ฟกทอง โกสน แตงโม พวงผกา ไทร เสนหจันทน เล็บมือนาง เสาวรส ทุเรียน กระดุมทอง เล็บครุฑ ชมพู กลวย อัญชัน สุพรรณิการ จําปา จําป ตําลึง สลิด (ขจร) ฤๅษีผสม มะดัน เฟองฟา นอยหนา พลูฉีก พลูดาง มังคุด มะขวิด มะเฟอง ลดาวัลย ถั่วฝกยาว มะเขือ พวงแสด มะปราง บัวหลวง เข็ม ตีนตุกแก โมก มะไฟ มะยม เข็ม พลับพลึง บานบุรี พวงชมพู แตงไทย พวงคราม มะตูม ปบ พุทรา ผักบุงไทย บานเชา ผักบุงทะเล บานชื่น มะลิ ลําไย กระทอน รางเงิน บอน ตีนเปด สมจี๊ด บวบ พุทธรักษา ละมุด ไมยราบ มะกอก ราชาวดี วานสี่ทิศ เศรษฐีเรือนนอก ปรง พริกไทย มะพราว เงาะ เฟรน บานชื่น
19.
19 5. จากนั้นใหนักเรียนสังเกตรายชื่อที่รวบรวมไดของทุกกลุมแลวพิจารณาวา 1) กลุมบัตรสีใดบางที่มีรายชื่อพรรณไมซ้ํากัน 2)
กลุมบัตรสีใดบางที่ไมมีรายชื่อพรรณไมซ้ํากันเลย ครูใหนักเรียนอภิปรายและเปรียบเทียบดูวา จํานวนบนบัตรของกลุมสีที่มีจํานวนซ้ํากัน มีความสัมพันธกับชื่อพรรณไมที่กลุมเหลานั้นรวบรวมมาอยางไร เชน เมื่อพิจารณาจํานวนบนบัตรสี แดงและจํานวนบนบัตรสีน้ําเงินจะเห็นวามีจํานวนที่ซ้ํากันคือ 10 และ 20 และเมื่อพิจารณารายชื่อ พรรณไมที่สองกลุมนี้รวบรวมมาจะพบวามีชื่อพรรณไมที่ซ้ํากัน เชน อัญชัน เล็บมือนาง พลับพลึง ฯลฯ เชนกัน ระหวางกลุมบัตรสีที่ไมมีจํานวนซ้ํากันก็จะไมมีชื่อพรรณไมซ้ํากันดวยเชนกัน คําตอบกิจกรรม พรรณไมบานเรา ตัวอยางคําตอบของแตละกลุมที่จะนําเสนออาจมีดังนี้ ไมดอก ไมผล ไมเลื้อย ไมประดับ กุหลาบ ปาริชาต พวงผกา เล็บมือนาง จําปา จําป สุพรรณิการ โมก ราชาวดี อัญชัน ลดาวัลย เฟองฟา บัวหลวง พวงแสด พลับพลึง เข็ม ปบ มะมวง องุน แตงโม มังคุด เสาวรส ทุเรียน นอยหนา กลวย ชมพู มะขวิด มะตูม มะดัน มะกอก มะเฟอง มะไฟ มะยม มะปราง ฟกทอง องุน แตงโม เล็บมือนาง เสาวรส กระดุมทอง พลูดาง พลูฉีก ถั่วฝกยาว อัญชัน ลดาวัลย เฟองฟา สลิด (ขจร) พวงแสด ตําลึง ไมยราบ ตีนตุกแก กุหลาบ โกสน เสนหจันทน เล็บมือนาง ไทร กระดุมทอง พลูดาง พลูฉีก เล็บครุฑ อัญชัน ฤๅษีผสม เฟองฟา บัวหลวง พวงแสด พลับพลึง เข็ม ตีนตุกแก
20.
20 แจกแลวแจกอีก ไมดอก ไมผล ไมเลื้อย
ไมประดับ บานบุรี วานสี่ทิศ มะลิ พวงคราม บานเชา บานชื่น พวงชมพู พุทธรักษา พุทรา เงาะ แตงไทย กระทอน ละมุด ลําไย มะพราว สมจี๊ด บานบุรี พวงชมพู แตงไทย พวงคราม ผักบุงไทย ผักบุงทะเล พริกไทย บวบ รางเงิน วานสี่ทิศ บอน เศรษฐีเรือนนอก ปรง เฟรน ตีนเปด สมจี๊ด กิจกรรมเสนอแนะ 1.2 ค ใหนักเรียนศึกษาปญหาตอไปนี้แลวตอบคําถามและแสดงแนวคิดในชองวางที่กําหนดให กิจกรรมนี้นําเสนอไวเพื่อใหนักเรียนไดฝกการสังเกต คนหาความสัมพันธ และนําความรู เกี่ยวกับ ค.ร.น. ไปใชในการแกปญหา ในชวงเทศกาลปใหม หางสรรพสินคาแหงหนึ่งตองการแจกของขวัญสําหรับลูกคาที่ เขาหาง 300 คนแรกในแตละวัน โดยมีกติกาการแจกของขวัญดังนี้ แจกคูปองสวนลด 10% สําหรับลูกคาที่เขาหางซื้อสินคาเปนลําดับที่ 7, 14, 21, … หรืออยูในลําดับที่ 8, 16, 24 , … แจกเสื้อยืด 1 ตัว แกลูกคาที่เขาหางเปนลําดับที่ 10, 20, 30, …
21.
21 1. ลูกคาเขาหางเปนลําดับที่เทาใดจึงจะไดรับทั้งคูปองสวนลดและเสื้อยืดเปนคนแรกและคนสุดทาย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. ลูกคาเขาหางเปนลําดับที่เทาใดจึงจะไดรับคูปองสวนลดเปนคนสุดทาย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3.
ถานักเรียนเขาหางเปนคนที่ 295 นักเรียนจะไดรับแจกของขวัญอะไรหรือไม เพราะเหตุใด ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… คําตอบกิจกรรม แจกแลวแจกอีก 1. เนื่องจากลูกคาที่จะไดรับคูปองสวนลด 10% ไดแก ลูกคาที่อยูในลําดับที่ 7, 14, 21, … , 280, 287, 294 หรือลูกคาที่อยูในลําดับที่ 8, 16, 24, … , 280, 288, 296 ลูกคาที่จะไดรับเสื้อยืด ไดแก ลูกคาที่อยูในลําดับที่ 10, 20, 30, … , 280, 290, 300 แนวคิด 1) หาลูกคาที่จะไดรับทั้งคูปองสวนลด 10% และเสื้อยืด หา ค.ร.น.ของ 7 และ 10 จะได 70 หา ค.ร.น.ของ 8 และ 10 จะได 2× 4× 5 = 40 ดังนั้นลูกคาคนแรกที่จะไดรับทั้งคูปองสวนลด 10% และเสื้อยืด คือลูกคาคนที่ 40 2) หาลูกคาที่จะไดรับทั้งคูปองสวนลด 10% และเสื้อยืด จํานวนนับที่นอยกวา 300 ที่ 70 หารลงตัวไดแก 70, 140, 210, และ 280 จํานวนนับที่นอยกวา 300 ที่ 40 หารลงตัวไดแก 40, 80, 120, 160, 200, 240 และ 280 ดังนั้นลูกคาคนสุดทายที่จะไดรับทั้งคูปองสวนลด 10% และเสื้อยืด คือลูกคาคนที่ 280 2. ลูกคาที่ไดรับคูปองสวนลดเปนคนสุดทาย คือคนที่ 296 3. ลูกคาคนที่เขาหางเปนลําดับที่ 295 จะไมไดรับแจกของขวัญ เพราะไมเปนลูกคาที่ไดรับแจกคูปอง สวนลดในชุดของลําดับที่ 7, 14, 21, … หรือชุดของลําดับที่ 8, 16, 24, … และไมเปนลูกคาที่ ไดรับแจกเสื้อยืดซึ่งเขาหางเปนลําดับที่ 10, 20, 30, …
Download now