พลังผู้นำ สพฐ. 601002
•Download as PPTX, PDF•
2 likes•737 views
ผู้นำโรงเรียนต้นแบบสร้างคุณภาพคนไทย บรรยาย โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ในเวทีถอดบทเรียนโรงเรียนต้นแบบที่เปลี่ยนแปลงโรงเรียนเชิงระบบโดยใช้นวัตกรรม จิตศึกษา PBL และ PLC ระหว่างวันที่ ๓๐ กันยายน - ๓ ตุลาคม ๒๕๖๐
Recommended
More Related Content
Similar to พลังผู้นำ สพฐ. 601002
Similar to พลังผู้นำ สพฐ. 601002 (20)
More from Pattie Pattie
More from Pattie Pattie (20)
Recently uploaded
Recently uploaded (10)
พลังผู้นำ สพฐ. 601002
- 1. สร้างคุณภาพคนไทย วิจารณ์ พานิช ประธานมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ รองประธานมูลนิธิสยามกัมมาจล ผู้นำโรงเรียนต้นแบบ บรรยายในการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ (node) ที่เปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาทั้งระบบโดยใช้นวัตกรรมการศึกษา จิตศึกษา PBL และ PLC จัดโดย สพฐ. วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๐ สู่ศตวรรษที่ ๒๑
- 3. มี “ปัจจัยสี่” เพื่อชีวิตในสามโลก • มีความรู้ (Literacy) : อ่านออกเขียนได,้ คิดเลขเป็น, รูธรรมชาติ , รู ICT, รูการเงิน, รูวัฒนธรรมและความเป็นพลเมือง, รูเรื่องสุขภาพ • มีสมรรถนะ (Competency) : วิจารณญาณ, สรางสรรค์, สื่อสาร, ร่วมมือ • มีบุคลิก/คุณลักษณะ (Character) : ใคร่รู ริเริ่ม มานะอดทน ปรับตัว ภาวะผูนา สังคมวัฒนธรรม เห็นแก่ส่วนรวม • เรียนรู้ตลอดชีวิต (Learning Skils / Affinity) โลกประจาวัน โลกซับซ้อน โลกเปลี่ยนแปลง
- 4. WEF
- 5. ลักษณะนิสัย - Executive Function (EF) ความมุมานะ (เชื่อพรแสวง - Growth Mindset) ความใฝ่รู้ อดทนรอเพื่อสิ่งที่ดีกว่า การควบคุมตนเอง มีวินัย ในตนเอง สานึกผิดชอบชั่วดี ความรับผิดชอบ ความมั่นคงทางอารมณ์ ความมั่นใจในตนเอง (self- esteem) ความขยันหมั่นเพียร ความกระตือรือร้น เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (empathy) Non-cognitive Development Characters สาคัญต่อความสาเร็จในชีวิตยิ่งกว่าความรู http://developingchild.harvard.edu/science/key-concepts/executive-function/
- 6. สร้างความเชื่อในพรแสวง (Growth Mindset) ชมความมานะพยายาม ไม่ชมความเก่ง (Fixed Mindset) ให้คะแนนความก้าวหน้า ความมานะพยายาม เก่งไม่พอ ต้องปรับปรุงตัวเองเป็น
- 7. สมรรถนะ อารมณ์ อิสระ - เกื้อกูลกัน มนุษยสัมพันธ์ เอกลักษณ์ เปาหมาย ชีวิต มั่นคง คุณธรรม พัฒนาตัวตน ๗ ด้าน Chickering’s seven vectors of identity development
- 8. เรียนให้บรรลุ • Transformative Learning Informative -> Formative -> Transformative Leadership / Change Agent • Mastery Learning • Learning Skills Learn, Unlearn, Relearn • มนุษย์ระดับ ๖ Moral Develoment of Lawrence Kohlberg
- 9. บันได ๖ ขั้นของกำรพัฒนำคุณธรรม • ขั้นที่ ๑ ปฏิบัติเพรำะควำมกลัว ไม่อยำกเดือดร้อน • ขั้นที่ ๒ ปฏิบัติเพรำะอยำกได้รำงวัล • ขั้นที่ ๓ ปฏิบัติเพรำะอยำกเอำใจคนบำงคน • ขั้นที่ ๔ ปฏิบัติเพรำะต้องปฏิบัติตำมกฎ • ขั้นที่ ๕ ปฏิบัติเพรำะต้องกำรให้ตนดูดีให้ได้ชื่อว่ำเป็นคนดี ให้ได้ชื่อว่ำมี น้ำใจ • ขั้นที่ ๖ ปฏิบัติตำมหลักกำร หรืออุดมกำรณ์ของตน ไม่ต้องกำรให้มีคน ยกย่องชมเชยหรือให้รำงวัล Lawrence Kohlberg's stages of moral development
- 10. เป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ • คิดตามแบบแผน • มีความรู้ตามที่รับ ถ่ายทอด • รู้วิชา สอบได้คะแนนดี ตามหลักสูตร • Informative learning • มีความคิดของตนเอง • มีความรู้ตามที่ตนปฏิบัติ และสะท้อนคิด • มีทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ • Transformative learning 20 21ศตวรรษที่
- 11. การเรียนรู้ • การเรียนรู้เป็นผลของการกระทาและการคิดของ นักเรียน • เกิดจากการกระทาและการคิดของนักเรียนเอง เท่านั้น • ครูช่วยทาให้เกิดการเรียนรู้ได้โดยเข้าไปจัดการ สิ่งที่นักเรียนทา (ปฏิบัติ และคิด) เพื่อการ เรียนรู้ Herbert A. Simon https://www.scbfoundation.com/publishing.php?project_id=292#publishing/292/5462
- 12. วิเชียร ไชยบัง
- 13. โรงเรียน node • เป็น Change agent • ใช้Growth mindset ของครู • โดยครูร่วมกันทา PLC
- 14. ทำอย่ำงไร
- 16. ทำอย่ำงไร ทำโรงเรียน ให้เป็น “โรงเรียน” ของ นักเรียน ครู ผูบริหาร พ่อแม่ ครอบครัว ผูนาชุมชน ผูทามาหากิน ทาธุรกิจ
- 17. ทำอย่ำงไร ทำโรงเรียน ให้เป็น “โรงเรียน” เพื่อ นักเรียน ครู ผูบริหาร พ่อแม่ ครอบครัว ผูนาชุมชน ผูทามาหากิน ทาธุรกิจ เตรียมพร้อมสู่ชีวิตที่ดี มีงานทา บาเพ็ญประโยชน์ เป็น “พลเมือง”
- 21. พลังสำมเพื่อกำรเรียนรู้ 1. ลงมือทา (action) 2. คิด (reflection) 3. ทาและคิดร่วมกัน (collaboration)
- 22. พลังสำมเพื่อกำรเรียนรู้ 1. ลงมือทา (action) 2. คิด (reflection) 3. ทาและคิดร่วมกัน (collaboration) กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงสมอง โดยการ ชักใยและ เชื่อมต่อ ใยประสาท
- 23. พลังสำมเพื่อกำรเรียนรู้ 1. ลงมือทา (action) 2. คิด (reflection) 3. ทาและคิดร่วมกัน (collaboration) กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงสมอง โดยการ ชักใยและ เชื่อมต่อ ใย ประสาท สู่ deep learning Mastery learning
- 25. ปฏิบัติ เก็บขอมูล reflect ความรูใหม่ ตั้งเปา วำงแผน วงจร PLC ครู และ ผู้บริหาร โรงเรียน แห่ง ศต. ๒๑
- 26. ปฏิบัติ เก็บขอมูล reflect ความรูใหม่ ตั้งเปา วำงแผน แยกกัน ร่วมกันร่วมกัน วงจร PLC ครู และ ผู้บริหาร โรงเรียน แห่ง ศต. ๒๑ ร่วมกัน ใช้เครื่องมือ Effect Size
- 27. ใช้พลังของกำรวัด Effect Size • เป็นข้อมูล feedback สู่กำรเสวนำกัน • สู่กำรเรียนรู้ • สู่กำรปรับปรุง ของ & เพื่อ นักเรียนทั้งชั้น และ นักเรียนรายคน
- 28. Effect Size คืออะไร • ดัชนีบอกความกาวหนา • ไม่ใช่เปรียบเทียบ • (คะแนนเฉลี่ยก่อน - คะแนนเฉลี่ยหลัง) / SD เฉลี่ย • แปลผล : ไม่ควรต่ากว่า d = 0.40 คณิตศำสตร์ ชั้น ป. ๔ ก ทั้งชั้น
- 29. Effect Size ของ นร. รำยคน (ผลสอบก่อน - ผลสอบหลัง) / SD ทั้งชั้น • แปลผล : ทาไม นร. ก ได ES ต่ามาก ทาไม นร. ช ได ES สูงมาก ใช้พัฒนาวิธีจัดการชั้นเรียน บทเรียน บรรยายกาศในโรงเรียน ฯลฯ
- 30. สัมมำทิฐิ ๘ ของครูและผู้บริหาำร • ตองวัดผลกระทบ (effect) ที่ตนทาใหแก่ นร. • ตนเป็น change agent แก่ นร. ผลการ เรียนของ นร. ขึ้นกับสิ่งที่ตนทา/ไม่ทา • คุยกันเรื่องการเรียน มากกว่าเรื่องการ สอน • ใชการประเมินเป็น feedback ต่อ impact ของตน เพื่อกำรเรียนที่ เห็นผลชัดเจน https://www.gotoknow.org/posts/tags/ครูผูมีผลงานกระจ่างชัด
- 31. สัมมำทิฐิ ๘ ของครูและผู้บริหาำร • เสวนา (dialogue) กัน ไม่ใช่สั่งการ (monologue) • สนุกกับความทาทาย ไม่ใช่อางว่า “ทาดีที่สุดแลว” • สรางความสัมพันธ์เชิงบวก ในชั้น และในหองพักครู • สื่อสารเรื่องการเรียนรู กับทุกกลุ่ม เพื่อกำรเรียนที่ เห็นผลชัดเจน https://www.gotoknow.org/posts/tags/ครูผูมีผลงานกระจ่างชัด
- 34. 4.0 ……………… 3.5 ……………… 3.0 ……………… 2.5 ……………… 2.0 …………….. 1.5 ……………. 1.0 …………… 0.5 ……………. Proficiency Scale ของวิชา .... นร. แต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน
- 35. ควำมจริง • ระบบการศึกษาไม่ได้ลอยอยู่ในอวกาศ • แต่อยู่ในระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศ และท้องถิ่น ใช้ “ความจริง” เป็นปัจจัยเชิงบวก
- 36. ควำมจริง(๒) • ผลลัพธ์ทางการศึกษาขึ้นกับโรงเรียน และครูเพียง 1/3 • อีก 2/3 ขึ้นกับครอบครัว ชุมชน สังคม และสื่อมวลชน • เด็กต้องการ การเรียนรู้ ฝึกฝน กล่อม เกลา “ตามความพอใจของตน”
- 37. หาลักกำรสำคัญที่สุด • ไม่สอนแบบเน้นถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนจา • เน้นสอนแบบให้ทากิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ (action) ตามด้วยการไตร่ตรองสะท้อนคิด (reflection) ร่วมกัน และเขียนรายงานเป็นราย คน (เรียนรู้ขาออก)
- 38. หาลักกำรสำคัญที่สุด(๒) • นักเรียนเป็นเจ้าของการเรียนของตนเอง • นักเรียนตั้งเป้าการเรียนรู้ • นักเรียนประเมินผลการเรียนรู้ • ครูเป็น “คุณอานวย” https://www.gotoknow.org/posts/tags/ศาสตร์และศิลป์ของการสอน
- 39. หาลักกำรสำคัญที่สุด(๓) • โรงเรียนเป็นดินแดนแห่งความ คาดหวังสูง (high expectation) • และการสนับสนุนสูง (high support) https://www.gotoknow.org/posts/tags/ศาสตร์และศิลป์ของการสอน
- 42. LPM Model • จิตศึกษา … ปญญาภายใน สมองซีกขวา • PBL ... ทาแลวคิด เป็นทีม ฝึกประยุกต์ความรูที่ ซับซอน • PLC ... การเรียนรูของครู เรียนจากการตั้งเปา ปฏิบัติ สังเกต ไตร่ตรองสะทอนคิด สรางความรูใหม่จากการ ปฏิบัติ
- 43. กำรเรียนรู้ • เป็น journey (การเดินทาง) มากกว่าเป็น destination (เปาหมาย) • เป็นวงจร ไม่ใช่เสนตรง • เป็นพลวัต ไม่ใช่หยุดนิ่ง มี 3 phase (learn, unlearn, relearn) • เป็นทั้งกิจกรรมทางสังคม(socialization) และ กิจกรรมส่วนตัว (personal) • เป็นกิจกรรมตลอดชีวิต ไม่ใช่เฉพาะตอนเขาเรียน • เป็นกระบวนการเชื่อมโยงใยประสาท ในสมอง
- 44. สรุป ระบบกำรศึกษำไทย • ตองการการเปลี่ยนแปลงระดับ transformation • เพื่อสรางคุณภาพพลเมืองแห่งศตวรรษที่ ๒๑ • การเปลี่ยนแปลงทาไดไม่ยาก มีตัวอย่าง มีรูปแบบ • มีกลไกเพื่อการเรียนรู ครู/ผูบริหารเรียนรูจาก นร. • ตองการ leadership team ภายในระบบ ร่วมมือกับ ภาคีที่หลากหลาย ฟื้นศักดิ์ศรีของครู