More Related Content
Similar to แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Similar to แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 (20)
More from โรงเรียนชุมชนโนนแดง
More from โรงเรียนชุมชนโนนแดง (12)
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
- 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ที่
1
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รหัสวิชา ง
31101
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4
เรื่อง การทางานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ เวลาเรียน 2
ชั่วโมง
1. สาระสาคัญ
ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ เ ป็ น เ ค รื่ อ ง อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ แ บ บ อัต โ น มั ติ
ส ร้ า ง ขึ้ น เ พื่ อ ใ ช้ แ ก้ ปั ญ ห า ต่ า ง ๆ
ทั้ ง ใ น รู ป แ บ บ ที่ ง่ า ย แ ล ะ ซั บ ซ้ อ น โ ด ย วิ ธี ท า ง ค ณิ ต ศ า ส ต ร์
การทางานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์มี 4 ขั้นตอน มีการทางานประสานกัน
โ ด ย เ ริ่ม จ า ก ก า ร รับ ข้อ มู ล แ ล ะ ค า สั่ ง เ ข้า สู่เ ค รื่ อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์
จากนั้นข้อมูลและคาสั่งซึ่งอยู่ในรูปแบบที่มนุษย์เข้าใจจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปแบบ
ที่ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ เ ข้ า ใ จ แ ล ะ ส่ ง ไ ป จั ด เ ก็ บ ข้ อ มู ล ไ ว้ ชั่ ว ค ร า ว
จากนั้นเมื่อมีคาสั่งให้ประมวลผล ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บชั่วคราวจะถูกส่งไปประมวลผล
เ ป็ น ผ ล ลั พ ธ์ ห รื อ ส า ร ส น เ ท ศ
ซึ่งผลลัพธ์หรือสารสนเทศจะถูกส่งไปแสดงผลลัพธ์ตามที่ผู้ใช้ต้องการ
2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 ตัวชี้วัด
ง 3.1 ม . 4 - 6 / 2
อธิบายองค์ประกอบและหลักการทางานของคอมพิวเตอร์
2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธิบายหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 การทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสาคัญ 5 หน่วย
ได้แก่ หน่วยรับเข้า หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจาหลัก หน่วยความจารอง
และหน่วยส่งออก
-หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วย หน่วยควบคุม
และหน่วยคานวณและตรรกะ
-การรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยต่างๆ
จะผ่านระบบทางขนส่งข้อมูลหรือบัส
- 2. 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มีความรับผิดชอบ
5. การบูรณาการกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
5.1 มีเหตุผล ในการที่จะอธิบายหลักการทางานของคอมพิวเตอร์
5.2 มีภูมิคุ้มกัน
นักเรียนเรียนรู้แล้วสามารถนาไปปฏิบัติในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้อง
5.3 เงื่อนไขความรู้
นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทางานของคอมพิวเตอร์
5.4 เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีความรับผิดชอบ
ตรงต่อเวลาและมีวินัยในตัวเอง
6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนที่เกิดขึ้นเมื่อเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้นี้
6.1 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการระบุ
- ทักษะการนาความรู้ไปใช้
6.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ การทางาน
การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
7. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1
1. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ขั้นที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน
2.ค รูแบ่งนักเรีย นเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 ค น ต ามค วามสมัค รใจ
ครูแนะนาวิธีการเรียนรู้และการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกในกลุ่ม
3.
ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับบทบาทสาคัญของคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกั
บชีวิตประจาวันของนักเรียน
4.นั ก เ รี ย น ต อ บ ค า ถ า ม ก ร ะ ตุ้ น ค ว า ม คิ ด
ว่าคอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการดาเนินชีวิตประจาวันอย่างไรบ้าง(คอมพิวเตอร์มั
กถูกนามาใช้ในระบบงานต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้ า
หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์)
- 3. ขั้นที่ 2 จัดการเรียนรู้
5.ค รู อ ธิ บ า ย ใ ห้ นั ก เ รี ย น ท ร า บ ว่ า
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อช่วยอานวยความสะดวกในด้
า น ต่ า ง ๆ
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาและนาไปประยุกต์ใช้งานในหน่วยงานต่างๆ
มากมาย เช่น งานราชการ ธุรกิจ การแพทย์ การบันเทิง การทหาร เป็ นต้น
ก า ร ท า ง า น ข อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ จ ะ เ ป็ น ไ ป ต า ม เ งื่ อ น ไ ข ต่ า ง ๆ
ตามที่ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมกาหนดไว้
6.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาใบความรู้เรื่อง ประวัติคอมพิวเตอร์
และศึกษาความรู้เรื่อง การทางานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ จากหนังสือเรียน
เสร็จแล้วให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และตอบคาถามตามประเด็นต่อไปนี้
- อุปกรณ์ที่เป็นหน่วยรับเข้า ได้แก่อะไรบ้าง
- อุปกรณ์ที่เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ได้แก่อะไรบ้าง
- อุปกรณ์ที่เป็นหน่วยความจาหลัก ได้แก่อะไรบ้าง
- อุปกรณ์ที่เป็นหน่วยความจารอง ได้แก่อะไรบ้าง
- อุปกรณ์ที่เป็นหน่วยส่งออก ได้แก่อะไรบ้าง
7.
นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกนาเสนอผลการสรุปและเฉลยคาตอบตาม
ป ร ะ เ ด็ น ที่ ค รู ตั้ ง ค า ถ า ม
โดยมีครูคอยอธิบายและเพิ่มเติมในส่วนที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่
8.
ครูนาแผนภาพแสดงวงจรการทางานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์มาแสดง
หน้าชั้นเรียน พร้อมทั้งอธิบายประกอบ
9.นั ก เ รี ย น ต อ บ ค า ถ า ม ก ร ะ ตุ้ น ค ว า ม คิ ด
ว่าคอมพิวเตอร์มีประวัติความเป็ นมาอย่างไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน
โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ชั่วโมงที่ 2
ขั้นที่ 3 สรุปและนาไปประยุกต์ใช้
10.
นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการทางานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
โดยครูเป็นผู้แนะนาและสรุปเพิ่มเติมในส่วนที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่
11.
ครูยกตัวอย่างการนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานในด้าน
ต่างๆ เช่น การทางานของเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ (Automatics Teller
Machine : ATM)
- 4. 12.
ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันยกตัวอย่างการนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเต
อร์ไปประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง
ขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล
13.
ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากการตอบคาถามและสรุปความรู้ที่ผ่านมา
8. สื่อ/แหล่งเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสือเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.4
2) ใบความรู้เรื่อง ประวัติคอมพิวเตอร์
3) แผนภาพแสดงวงจรการทางานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
-
9. การวัดผล/ประเมินผล
วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
แบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
(ประเมินตามส
ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ
ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ
ผ่านเกณฑ์
สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้
และมุ่งมั่นในการทางาน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ
ผ่านเกณฑ์
- 6. ลงชื่อ
(นางบัวแก้ว มงคลมะไฟ)
ตาแหน่ง ครู อันดับ คศ.3
ความเห็นของรองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ
ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ
(นายชาญ สิ่วไธสง)
ตาแหน่ง
รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ
ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียนกู่สวนแตงพิทยาคม
ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ
(นายมานัส เวียงวิเศษ)
ตาแหน่ง
ผู้อานวยการโรงเรียนกู่สวนแตงพิทยาคม
- 7. ประวัติคอมพิวเตอร์
ปี พ.ศ.2336 นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ชื่อ ชาลส์
แบบเบจ (Charles Babbage)
ได้ประดิษฐ์เครื่องผลต่าง (Difference Engine)
ที่มีฟังก์ชันทางตรีโกณมิติต่างๆ
โดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์
ต่อมาในปี พ.ศ.2376 ได้ออกแบบเครื่องวิเคราะห์
(Analytical Engine)
ซึ่งมีหลักการทางานคล้ายคอมพิวเตอร์ทั่วไปในปัจจุบัน
การทางานของเครื่องนี้แบ่งเป็ น 3 ส่วน คือ
ส่วนเก็บข้อมูล ส่วนคานวณ และส่วนควบคุม
ใช้ระบบพลังเครื่องยนต์ไอน้าหมุนฟันเฟือง
มีข้อมูลอยู่ในบัตรเจาะรู คานวณได้โดยอัตโนมัติ
และเก็บข้อมูลในหน่วยความจาก่อนจะพิมพ์
ออกมาทางกระดาษ
จากแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างเครื่องผลต่างและออก
แบบเครื่องวิเคราะห์
นับเป็ นประโยชน์ต่อวงการคอมพิวเตอร์ในยุคต่อมาเป็ น
อย่างมาก ชาลส์ แบบเบจ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็ น
“บิดาแห่งคอมพิวเตอร์”
ใบควา
มรู้
ชาลส์ แบบเบจ
“บิดาแห่งคอมพิวเตอร์”
เครื่องผลต่าง
(difference engine)
เครื่องวิเคราะห์
(analytical engine)
- 9. แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน
ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กาหนด แล้วขีด
ลงในช่อง
ที่ตรงกับระดับคะแนน
ลาดับที่ รายการประเมิน
ระดับคะแนน
4 3 2 1
1 นาเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง
2 การลาดับขั้นตอนของเนื้อเรื่อง
3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ
4 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../........
........
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรับปรุง
- 10. คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน
สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด
ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน
ลาดั
บ ที่
ชื่อ-
สกุล
ของ
ผู้รับ
การ
ประ
เมิน
ความร่วมมือกั
นทากิจกรรม
การแสดงคว
ามคิดเห็น
การรับฟังคว
ามคิดเห็น
การตั้งใจ
ทางาน
การแก้ไขปัญหา/ห
รือปรับปรุงผลงานก
ลุ่ม
รวม
20
คะ
แน
น
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../........
........
เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้ อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรับปรุง
- 11. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน
สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด
ลงในช่อง
ที่ตรงกับระดับคะแนน
ด้านที่ รายการประเมิน
ระดับคะแน
น
4 3 2 1
1.รักชาติ
ศาสน์
กษัตริย์
1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ
ร้องเพลงชาติได้ และอธิบาย
ความหมายของเพลงชาติ
1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน
1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ
ในการทางานกับสมาชิกในโรงเรียน
1.4
เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจก
รรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง
และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน
1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ
ปฏิบัติตนตามหลักของ
ศาสนาตามโอกาส
1.6
เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษั
ตริย์ตามที่โรงเรียน
และชุมชนจัดขึ้น
2. ซื่อสัตย์
สุจริต
2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง
ทาตามสัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่
หรือผู้ปกครอง และครู
2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง
ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้อง
3.มีวินัย
รับผิดชอบ
3.1
จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามข้อตกลง
กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
โรงเรียน
ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
- 12. ในชีวิตประจาวัน
และรับผิดชอบในการทางาน
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ
4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล
5.
อยู่อย่างพอเ
พียง
5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ
เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า
และเก็บรักษาดูแลอย่างดี
และใช้เวลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด
คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อย่างดี
5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ
มีเหตุผล
ด้านที่ รายการประเมิน
ระดับคะแน
น
4 3 2 1
5.
อยู่อย่างพอเ
พียง (ต่อ)
5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
และไม่ทาให้ผู้อื่นเดือดร้อน
พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่นกระทาผิดพลาด
5.5 วางแผนการเรียน
การทางานและการใช้ชีวิตประจาวันบนพื้นฐา
นของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร
5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตัว
อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
6.
มุ่งมั่นในกา
ร
ทางาน
6.1
เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
6.2
ตั้งใจและรับผิดชอบในการทางานให้สาเร็จ
6.3
ปรับปรุงและพัฒนาการทางานอย่างรอบคอบ
6.4 ทุ่มเท ทางาน อดทน
ไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค