Submit Search
Upload
โครงงานคอมพิวเตอร์
•
Download as PPTX, PDF
•
0 likes
•
216 views
C
Cin Pichita
Follow
โครงงานคอมพิวเตอร์ 20 28 29
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 24
Download now
Recommended
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
varatkhimhihi
Commmmm
Commmmm
KUMBELL
Presentation Computer Project
Presentation Computer Project
PrapasiriNiamkamnoet
เบล
เบล
yanee saechoeng
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Ana Thasnapanth
Presentation3 605 no.15&16
Presentation3 605 no.15&16
KrataeBenjarat
Presentation2
Presentation2
KhanathipPhonwathana
Yanisaand prapasiriproject2
Yanisaand prapasiriproject2
YanisaKanya1
Recommended
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
varatkhimhihi
Commmmm
Commmmm
KUMBELL
Presentation Computer Project
Presentation Computer Project
PrapasiriNiamkamnoet
เบล
เบล
yanee saechoeng
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Ana Thasnapanth
Presentation3 605 no.15&16
Presentation3 605 no.15&16
KrataeBenjarat
Presentation2
Presentation2
KhanathipPhonwathana
Yanisaand prapasiriproject2
Yanisaand prapasiriproject2
YanisaKanya1
Project1229
Project1229
L4EManic
Work 3
Work 3
ssuser08841b
3computer
3computer
computer project
Presentation3
Presentation3
noeynymon
Project
Project
ssuserf446af
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
สุชาติ องค์มิ้น
Com
Com
ThanapornChaiboot
ใบงานที่4
ใบงานที่4
juice1414
Com2
Com2
pangrumjantatha1
Presentation (1)
Presentation (1)
ThitipornChaiwong
อะไรก็ได้
อะไรก็ได้
ภคพงษ์ ภุมรินทร์
Com3
Com3
PangrumJantatha2
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Tinnapat Earth
Presentation Activity 3
Presentation Activity 3
Worapon Thitsurin
AP1
AP1
DaiNuttida
Ratchadaporn605
Ratchadaporn605
SoNrio Jung
Comm3
Comm3
kittikarn49981
Workk2
Workk2
Pimmada Ruankaew
Pranpriya605
Pranpriya605
SoNrio Jung
Presentation2
Presentation2
boonrawee rahong
Bees
Bees
Laurel Sobol
How nanotechnology is entering our food supply
How nanotechnology is entering our food supply
Laurel Sobol
More Related Content
What's hot
Project1229
Project1229
L4EManic
Work 3
Work 3
ssuser08841b
3computer
3computer
computer project
Presentation3
Presentation3
noeynymon
Project
Project
ssuserf446af
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
สุชาติ องค์มิ้น
Com
Com
ThanapornChaiboot
ใบงานที่4
ใบงานที่4
juice1414
Com2
Com2
pangrumjantatha1
Presentation (1)
Presentation (1)
ThitipornChaiwong
อะไรก็ได้
อะไรก็ได้
ภคพงษ์ ภุมรินทร์
Com3
Com3
PangrumJantatha2
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Tinnapat Earth
Presentation Activity 3
Presentation Activity 3
Worapon Thitsurin
AP1
AP1
DaiNuttida
Ratchadaporn605
Ratchadaporn605
SoNrio Jung
Comm3
Comm3
kittikarn49981
Workk2
Workk2
Pimmada Ruankaew
Pranpriya605
Pranpriya605
SoNrio Jung
Presentation2
Presentation2
boonrawee rahong
What's hot
(20)
Project1229
Project1229
Work 3
Work 3
3computer
3computer
Presentation3
Presentation3
Project
Project
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
Com
Com
ใบงานที่4
ใบงานที่4
Com2
Com2
Presentation (1)
Presentation (1)
อะไรก็ได้
อะไรก็ได้
Com3
Com3
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
Presentation Activity 3
Presentation Activity 3
AP1
AP1
Ratchadaporn605
Ratchadaporn605
Comm3
Comm3
Workk2
Workk2
Pranpriya605
Pranpriya605
Presentation2
Presentation2
Viewers also liked
Bees
Bees
Laurel Sobol
How nanotechnology is entering our food supply
How nanotechnology is entering our food supply
Laurel Sobol
Baterai
Baterai
bewid
Autism Spectrum Disorder
Autism Spectrum Disorder
Amanda Lozano
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Cin Pichita
Caps STEM Team Training Module Spring 17
Caps STEM Team Training Module Spring 17
capsunm
CAPS STEM Team Training Module Spring 17 part 2
CAPS STEM Team Training Module Spring 17 part 2
capsunm
Viewers also liked
(7)
Bees
Bees
How nanotechnology is entering our food supply
How nanotechnology is entering our food supply
Baterai
Baterai
Autism Spectrum Disorder
Autism Spectrum Disorder
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Caps STEM Team Training Module Spring 17
Caps STEM Team Training Module Spring 17
CAPS STEM Team Training Module Spring 17 part 2
CAPS STEM Team Training Module Spring 17 part 2
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
Mark'k Stk
โครงงานคอม
โครงงานคอม
Chorpaka Sarawat
โครงงานคอม
โครงงานคอม
Chorpaka Sarawat
โครงงานคอม
โครงงานคอม
Aratchaporn Julla
โครงงานคอม
โครงงานคอม
Jid Supharada
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
Sornnarin Wuthifuey
Computerproject3418
Computerproject3418
Review Wlp
Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)
mearnfunTamonwan
2 3
2 3
ssusercdc402
กิจกรรมที่ 2-3
กิจกรรมที่ 2-3
Ritthipon Ponjakfa
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
rohanlathel
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
คยูกี้ ขยี้มิน
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Pongpanote Wachirawongwarun
K2
K2
Seew' Pobpon
K02
K02
Visarut Keatnima
K02
K02
กระดาษ ทิชชู่
K02
K02
กระดาษ ทิชชู่
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
(17)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอม
โครงงานคอม
โครงงานคอม
โครงงานคอม
โครงงานคอม
โครงงานคอม
โครงงานคอม
โครงงานคอม
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
Computerproject3418
Computerproject3418
Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)
2 3
2 3
กิจกรรมที่ 2-3
กิจกรรมที่ 2-3
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
K2
K2
K02
K02
K02
K02
K02
K02
โครงงานคอมพิวเตอร์
1.
โครงงาน คอมพิวเตอร์
2.
เสนอ มิสเขมจิรา ปลงไสว
3.
สมาชิก 1.นางสาว วรัชยา แซ่เตียว
ม.5/1 เลขที่ 20 2.นางสาว พิชิตา เพชรประพันธ์ ม.5/1 เลขที่ 28 3.นางสาว รักตปัทมา ปัทมรัตน์ ม.5/1 เลขที่ 29
4.
โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือก ศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการ ดาเนินงาน
ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางเครื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐาน ในการพัฒนาโครงงาน จุดมุ่งหมายสาคัญของการทา โครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนา สื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ตลอดจนการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ
5.
คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ
สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งใน ลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
6.
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือหน่วยการเรียน
ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด คาถามและคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ถือว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบท เรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา ต่าง โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
7.
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์
ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผล ภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้ โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สา หรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่ง ของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D 2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
8.
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment) เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลอง การทดลองของสาขาต่าง
ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ หรือ คาอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลอง ทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงาน ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่อง นั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่อง การไหล ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
9.
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(Application) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็น ต้น จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือ ปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้อง ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ พัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้ ทางด้านคอมพิวเตอร์
10.
5. โครงงานพัฒนาเกม (GameDevelopment) เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้
และ/หรือ ความ เพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่ง เกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมอง เพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบ ลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือ พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่ม ต่าง ๆ
11.
ขั้นตอนการทาโครงงาน คอมพิวเตอร์ 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 3.
จัดทาเค้าโครงของโครงงาน 4. การลงมือทาโครงงาน 5. การเขียนรายงาน 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
12.
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจาก ปัญหา
คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้ 1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่างๆ 2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ 3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการโทรทัศน์ ความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียน หรือบุคคลอื่นๆ 4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน 5. งานอดิเรกของนักเรียน
13.
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสาคัญ ดังนี้ 1.
ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่ จะศึกษา 2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา 4. มีเวลาเพียงพอ 5. มีงบประมาณเพียงพอ 6. มีความปลอดภัย
14.
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอ คาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ
จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการ กาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง ได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผน ดาเนิน การทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คาตอบว่า1. จะทา อะไร 2. ทาไมต้องทา 3. ต้องการให้เกิดอะไร 4. ทาอย่างไร 5. ใช้ทรัพยากรอะไร 6. ทากับใคร 7. เสนอผลอย่างไร
15.
3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน 1. ชื่อโครงงาน 2.
ชื่อ สกุล ผู้ทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน 4. ระยะเวลาดาเนินงาน ให้ระบุเวลาเป็นจานวนวัน เป็นต้น 5. แนวคิด ที่มา และความสาคัญ อธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทาโครงงานนี้ โครงงานนี้มีความสาคัญอย่างไร 6. วัตถุประสงค์ หลักการเขียนต้องเขียนเป็นข้อๆ และสัมพันธ์มาจาก ชื่อเรื่องของโครงงาน 7. หลักการและทฤษฎี อธิบายถึงหลักการและทฤษฎีที่เกี่ยว ข้องกับโครงงาน เช่น โครงงานพัฒนาเว็บไซต์ ควรจะกล่าวถึงองค์ประกอบในการออกแบบ เว็บไซต์และข้อผิดพลาดในการสร้างเว็บไซ ต์ เป็นต้น 8. วิธีดาเนินงาน 9. งบประมาณที่ใช้ 10. แผนปฏิบัติงาน 11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 12. เอกสารอ้างอิง
16.
4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็ เสมือนว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง
ขั้นตอนต่อไปจะ เป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้ 4.1 การเตรียมการ การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุ อื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือ บันทึกในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทากิจกรรม ต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผล อย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกต ต่างๆ ที่พบ
17.
4.2 การลงมือพัฒนา 1.ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือ เพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดีขึ้น 2.จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญๆ
ให้แล้วเสร็จ ก่อน จึงค่อยทา ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมี ความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้ตกลงรายละเอียด ในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย 3.พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้ อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
18.
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจาเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า ผลงานที่พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ
ที่ระบุไว้ ในเป้ าหมาย 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้น กะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและ สิ่งที่ควรจะศึกษาแลหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
19.
5. การเขียนรายงาน การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้
ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้ 5.1ส่วนนา ส่วนนา เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้ทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาขอบคุณ เป็นคากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทาให้ โครงงานสาเร็จ 5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสาคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดาเนินการ และผล ที่ได้โดยย่อ
20.
5.2 บทนา บทนาเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย 1. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน 2.
เป้ าหมายของการศึกษาค้นคว้า 3. ขอบเขตของโครงงาน 5.3 หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษา หาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนามาเปรียบเทียบหรือพัฒนา เพิ่มเติมด้วย 5.4 วิธีดาเนินการ วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้ง ระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทางาน
21.
5.5 ผลการศึกษา ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้
โดยอาจแสดง เป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึงความเข้าใจ ของผู้อ่านเป็นหลัก 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทา งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับ- สนุนหรืคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่ นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
22.
5.8 บรรณานุกรม บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ
วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช้ ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นามาใช้ประโยชน์ในการทา โครงงาน นี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย 5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน หาโครงงานที่นักเรียนจัดทา เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียน จัดทาคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อผลงาน 2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้อง มีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้ 3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทางานได้อย่างสมบูรณ์ 4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทา หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไร เป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก 5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคาสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทางานในฟังก์ชันหนึ่งๆ
23.
6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของ การทาโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด
ความพยายามในการทางานที่ ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน 5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ 6. การสาธิตผลงาน 7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
24.
บรรณานุกรม http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E- Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUT ER/M4/ComputerProject/content1.html
Download now