6. 2. การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เป็นกระบวนการแบ่งเซลล์สืบพันธุ์ แบ่งเป็น 2 ระยะใหญ่ คือ ไมโอซิส I และไมโอซิส II
ไมโอซิส I
ระยะอินเตอร์เฟส I เตรียมความพร้อมเหมือนการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ระยะโพรเฟส I โครโมโซมหดสั้นและมีการเข้าคู่ฮอมอโลกัส และเกิดการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนเกิดความหลากหลาย
ระยะเมทาเฟส I โครโมโซมจะเรียงอยู่กลางเแบบคู่ฮอมอโลกัส โดยมีเส้นใยสปินเดิลจับอยู่ตรงเซนโทรเมีย
ระยะแอนาเฟส I โครโมโซมที่เป็นคู่ฮอมอโลกัส แยกจากกันไปคนละขั้วของเซลล์ และมีจานวนครึ่งหนึ่ง
ระยะเทโลเฟส I สร้างเยื่อหุ้มนิวเคลียสล้อมรอบ ได้นิวเคลียสใหม่ 2 นิวเคลียสและแบ่งไซโทพลาซึม แต่อาจจะไม่เกิดก็ได้
ไมโอซิส II
ระยะอินเตอร์เฟส II ไม่มีการจาลองตัวเอง เนื่องจากแต่ละโครโมโซมมี 2 โครมาทิดแล้ว ส่วนระยะโพรเฟส II แอนาเฟส
II เทโลเฟส II จะคล้ายการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส + แบ่งไซโทพลาซึมในระยะนี้อีกครั้ง ในที่สุดจะได้ 4 เซลล์
20. การถ่ายทอดลักษณะที่พบบนโครโมโซมเพศ มี 1 คู่ 2 แบบ XX เป็ นหญิง XY เป็ นชาย ยีนที่พบอยู่
บนโครโมโซม X มักพบเป็ นยีนด้อย เช่น ยีนตาบอดสี ยีนโรคภาวะบกพร่องเอนไซม์ กลูโคส-6-
ฟอสเฟต ยีนโรคเลือดไหลไม่หยุด ลักษณะดังกล่าวจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เนื่องจากเพศชาย
มีโครโมโซม X เพียง 1 แท่ง แต่เพศหญิงมี X 2 แท่ง โอกาสเกิดในเพศชายจึงสูงกว่า เช่นยีนตาบอดสี
แทนด้วยยีนด้อย c ยีนตาปกติ C
21.
22. การถ่ายทอดลักษณะที่มีหลายแอลลีล ลักษณะโดยทั่วไปมียีน 2 แอลลีล คือ แอลลีลเด่น และแอลลี
ลด้อย แต่ลักษณะที่มีแอลลีลมากกว่า 2 แอลลีล เช่น ลักษณะหมู่เลือด A B O ของคนมี 3 แอลลีล คือ IA,
IB, i แอลลีล A สร้างแอนติเจนที่ผิวเม็ดเลือดแดง แบบ A แอลลีล B สร้างแอนติเจนที่ผิวเม็ดเลือดแดง
แบบ B ส่วนแอลลีล i เป็ นแอลลีลที่ไม่สร้างแอนติเจนที่ผิว เม็ดเลือดแดง จึงพบจีโนไทป์ และฟีโนไทป์ ได้ดัง
ตาราง
35. เกิดในผู้ชาย
ที่มีโครโมโซม y เกินมา 1 แท่ง
มีจีโนไทป์ เป็น x y y เรียกว่า Super Male
ลักษณะจะเป็นผู้ชายที่มีร่างกายปกติ มี
อารมณ์ฉุนเฉียว สูงมากกว่า 6 ฟุต มีระดับ
ฮอร์โมนเพศชายในเลือดสูงกว่าปกติ
เป็นหมัน ไม่สามารถมีบุตรได้