More Related Content Similar to พระพุทธศาสนา (20) More from Padvee Academy (20) พระพุทธศาสนา5. Distribution of Buddhists Today
Source: http://www.adherents.com/largecom/com_buddhist.html
Country %
Thailand 95
Cambodia 90
Myanmar 88
Bhutan 75
Sri Lanka 70
Tibet 65
Laos 60
Vietnam 55
Japan 50
Macau 45
Taiwan 43
Country Number
of Buddhists
China 102,000,000
Japan 89,650,000
Thailand 55,480,000
Vietnam 49,690,000
Myanmar 41,610,000
Sri Lanka 12,540,000
South Korea 10,920,000
Taiwan 9,150,000
Cambodia 9,130,000
India 7,000,000
8. ตัวอย่างแนวคิดความเชื่อต่างๆ สมัยก่อนพุทธกาล
บางลัทธิเชื่อว่า บุญ บาป ไม่มี ทุกอย่างที่ทาไปแล้วไม่ว่าดีหรือชั่วเมื่อจบสิ้นแล้ว
ย่อมแล้วกันไป ไม่มีผลตอบสนองภายหลัง
บางลัทธิเชื่อว่า สุข ทุกข์ ความดี ความชั่ว เป็นสิ่งที่เกิดเองโดยธรรมชาติ
บางลัทธิเชื่อว่า การทาบุญทาทาน การบูชาไม่มีผล สัตว์ทั้งหลายตายแล้วสูญ
บางลัทธิเชื่อว่า สิ่งทั้งหลายเคยเกิดอย่างไร ก็เป็นไปอย่างนั้น เช่น โลกเที่ยง จิต
เที่ยง สัตว์ทั้งหลายเคยเกิดอย่างไร ก็เป็นไปอย่างนั้นต่อไปตลอกกาล
บางลัทธิมีความเชื่อไม่แน่นอน ซัดส่ายไหลลื่นเหมือนปลาไหล ปฏิเสธว่า อย่างนี้ก็
ไม่ใช่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ ไม่ยอมรับและไม่ยืนยันอะไรทั้งหมด
บางลัทธิเชื่อว่าการทรมานกายว่าเป็ นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ มีความเป็ นอยู่
เข้มงวดกวดขันต่อร่างกาย เช่น อดข้าว อดน้า ตากแดด ตากลม ไม่นุ่งห่มผ้า
11. ความสาคัญของพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนา เป็ นศาสนาประเภท อเทวนิยมเป็ นหนึ่งใน
ศาสนาสาคัญของโลก
พระพุทธศาสนา เป็ น ศาสนาที่มุ่งการพ้นทุกข์หรือสอนให้รู้จัก
ทุกข์และวิธีแก้ทุกข์ ให้พ้นจากความโลภ ความโกรธ ความหลง
และอวิชชา (การไม่รู้ความจริงในธรรมชาติ)
เน้นการปฏิบัติด้วยปัญญา การทาความเข้าใจ และพิสูจน์ทราบ
ข้อเท็จจริง จนมองเห็นเหตุและผล และความเป็ นไปตาม
ธรรมชาติ
12. ลักษณะของพระพุทธศาสนา
• พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประเภท อเทวนิยม
• เกิดจากปัญญาตรัสรู้ หรือ การรู้แจ้งเห็นจริงของพระพุทธเจ้า ....
เป็นผลของการปฏิบัติ พิสูจน์ ด้วยตนเองของพระองค์
• พระพุทธศาสนาสอนเน้นเรื่องเดียว คือ “เรื่องทุกข์ และการดับ
ทุกข์ของชีวิต” (อริยสัจ 4)
• พระพุทธศาสนาสอนให้มองโลกและชีวิตตามความเป็นจริง..สอน
เฉพาะเรื่องที่จริงและมีประโยชน์ที่สามารถช่วยดับทุกข์แก่ชีวิตได้
เท่านั้น
15. ความหมาย
ศาสนาพุทธ หมายถึง ศาสนาของท่านผู้รู้
ผู้รู้ในที่นี้ คือ พระโคตมพุทธเจ้า (เจ้าชายสิทธัตถะ)
คาว่า “พุทธะ” มี ความหมาย ๒ นัย คือ
๑. พุทธในฐานะบุคคล หมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คือ บุคคลผู้
ก่อตั้งศาสนาพุทธ
๒. พุทธในฐานะเป็ นปัญญาหรือความรู้ หมายถึง ตัวความรู้หรือ
ปัญญา ใครก็ตามที่สามารถบรรลุหรือเข้าถึงความรู้ ได้ชื่อว่าเป็ น
“พุทธะ”
16. ประวัติศาสนาและพระศาสดา
• พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า
เป็ นศาสนาอเทวนิยม
เป็ น 1 ใน 3 ของศาสนา
โลก เกิดจากการตรัสรู้ของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อ
วันขึ้น 15 ค่า เดือน 6
เมื่ อก่ อน พ.ศ. 45 ปี
ณ แคว้นมคธ ประเทศ
อินเดีย
18. • เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติเมื่อ
วันเพ็ญ 15 ค่า เดือน 6 ก่อน
พ.ศ.80 ปี เป็ นพระราชโอรส
ของพระเจ้าสุทโธทนะแห่ง
กรุงกบิลพัสดุ์
• ท่านทรงได้ รับการเลี้ยงดู
ทนุถนอมอย่างดี ปรนเปรอ
ด้วยความสาราญอย่างเต็มที่
เ พื่ อ ห วั ง จ ะ ใ ห้ เ ป็ น พ ร ะ
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่สืบต่อพระ
บิดา มิใช่เป็ นพระศาสดาตาม
คาทานาย
24. • กระทั่งวันขึ้น 15 ค่า
เ ดื อ น 6 ก่ อ น
พุทธศักราช 45 ปี ท่าน
ประทับนั่งใต้ต้นพระศรี
มหาโพธิ์ แคว้นมคธ
ป . อิ น เ ดี ย แ ล ะ ตั้ง
สัตยาธิษฐานว่า
• “ถ้ายังไม่ได้ตรัสรู้พระ
อนุตรสัมมาสัมโพธิ
ญาณ..จักไม่เสด็จลุกขึ้น
จากบัลลังก์...ถึงแม้ว่า
เนื้อและเลือดในกายจัก
เหือดแห้งไปก็ตามที”
27. • ในวันขึ้น 15 ค่า เดือน 8
พระพุทธเจ้าเสด็จยังป่ า
อิสิปตนมฤคทายวัน
เมืองพาราณสี เพื่อแสดง
ธรรมโปรดปัญจวัคคีย์
ทั้ง 5 ซึ่งเป็ นปฐมเทศนา
ชื่อว่า
• “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร”
28. • “จงละส่วนสุดทั้ง 2 คือ การพัวพันตนให้หมกมุ่นในกาม และการ
ทรมานตนให้ลาบาก ซึ่งไม่ใช่ทางพ้นทุกข์และจงปฏิบัติด้วยทางสาย
กลาง หรือ “อริยมรรคมีองค์ 8” และตรัสสอน “อริยสัจ 4” คือ ทุกข์
สมุทัย นิโรธ มรรค ตามลาดับจนจบ”
• หลังจากแสดงธรรมจบ..พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรม
และทูลขออุปสมบทเป็ นพระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา...
ในวันนั้นเอง เป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบสมบูรณ์
31. • “ภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้วจากบ่วง (โลภะ) ทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์
ทั้งที่เป็นของมนุษย์ แม้พวกเราก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวงทั้งที่เป็นของ
ทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงจาริกไปเพื่อ
ประโยชน์สุขแก่ชนจานวนมาก เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลก เพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ อย่าไปโดย
ทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมมีความงามในเบื้องต้น มีความงาม
ในท่ามกลาง และมีความงามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้ง
อรรถและพยัญชนะบริสุทธิ์ บริบูรณ์ครบถ้วน สัตว์ทั้งหลายที่มีธุลีใน
ดวงตาน้อย มีอยู่ ย่อมเสื่อมเพราะไม่ได้ฟังธรรม จักมีผู้รู้ธรรม ภิกษุ
ทั้งหลาย แม้เราก็จักไปยังตาบลอุรุเวลาเสนานิคม เพื่อแสดงธรรม”
33. • “ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยใดที่เราได้แสดงไว้แล้ว บัญญัติไว้
แล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้นจักเป็นศาสดาของพวกเธอ
ทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา”
• พระพุทธองค์ได้เสด็จไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อแสดงธรรมโปรด
มหาชนให้ถึงซึ่งการพ้นทุกข์ ตั้งแต่พระชนมายุ 35 พรรษา ถึง 80
พรรษาแล้วจึงเสด็จปรินิพพานที่ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา
โดยพระองค์ได้ตรัสปัจฉิมวาจาก่อนปรินิพพานว่า...
35. “พระพุทธศาสนา” สอน อะไร ?
• “...โลกตั้งอยู่บนกองทุกข์.....
เรา ตถาคต แสดงแต่เรื่อง ทุกข์
และความดับทุกข์ เท่านั้น”
• “...เรื่องที่เราสอน ก็คือ ทุกข์
สมุทัย นิโรธ มรรค..เพราะ
ประกอบด้วยประโยชน์ เป็น
เบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ เป็นไป
เพื่อความหน่ายคลายกาหนัด
ดับ สงบ รู้ยิ่ง ตรัสรู้ และ
นิพพาน”
36. “พระพุทธศาสนา” สอน อะไร ?
• พระพุทธศาสนามองโลกตามความเป็นจริง
• ...หลักคาสอนในพระพุทธศาสนา เป็นหลักความจริงของกฎ
ธรรมชาติ
• ....สิ่งแรกที่มนุษย์ควรทา คือ การมองความจริงและทาความรู้จัก
กับสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็น และเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ด้วย
ความรอบรู้และเข้าใจ เพื่อให้มีทุกข์น้อยที่สุด หรือ ไม่มีทุกข์เลย
• พระพุทธศาสนาสอนมุ่งให้คนเกิดปัญญา....และเมื่อรู้แล้วก็ควร
นาไปปฏิบัติเพื่อเกิดปร ะโยชน์แก่ชีวิต คือ ดับทุกข์ได้
42. 1.) สัจธรรม - ชีวิต คือ อะไร ?
• “ ชีวิต คือ ขันธ์ 5 ”
• - รูป คือ ร่างกาย
- วิญญาณ คือ การรับรู้ที่เกิดขึ้น
- เวทนา คือ ความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ
- สัญญา คือ ความจาได้หมายรู้
- สังขาร คือ การปรุงแต่งของจิต ความนึกคิด ดี ชั่ว ต่างๆ
• ชีวิต ประกอบด้วย ขันธ์ทั้ง 5 หรือ รูปกับนาม หรือ ร่างกายกับ
จิตใจ และ องค์ประกอบต่างๆ ล้วนมีความสัมพันธ์กัน รูป คือ...
ร่างกาย / เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คือ ....จิตใจ
45. 2.) สัจธรรม - ชีวิตเป็นอย่างไร ?
***ชีวิตและสรรพสิ่งล้วนตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์
•ไตรลักษณ์ คือ ลักษณะที่มีอยู่เป็นปกติ 3 ประการ ได้แก่
•1.อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยงแท้
• 2.ทุกขัง คือ ความเป็นทุกข์ทนอยู่ได้ยาก
• 3.อนัตตา คือ ความไม่ใช่ตัวตน
•***เมื่อชีวิตเป็นเช่นนี้การไปยึดมั่นถือมั่นให้ชีวิตของเราหรือผู้อื่น
เป็นไปอย่างใจเรา ย่อมขัดแย้งกับธรรมชาติ...ผลก็คือ เกิดความทุกข์
51. • (ดูต่อในแผ่นใส ของ อ.สรณีย์)
• ชีวิตเป็นรอย่างไร? (ต่อ) - ปฏิจจสมุปบาท
• จริยธรรม – ชีวิตควรดาเนินไปอย่างไร – อริยสัจ ๔
• ลักษณะคาสอนในพระพุทธศาสนา
• หลักความเชื่อและจุดหมายสูงสุด
• คัมภีร์ในพระพุทธศาสนา
• นิกายในพระพุทธศาสนา
• ประเด็นคาสอนที่สาคัญที่แตกต่างระหว่างพระพุทธศาสนากับ
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
• ฐานะของพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน
56. อริยสัจ ๔ : ความจริงอันประเสริฐ
• ทางแห่งความ
พ้นทุกข์
• มรรค ๘
• ความดับทุกข์
• นิพพาน
• เหตุแห่งทุกข์
• โลภ โกรธ
หลง
• ความทุกข์
• สภาพที่ทนได้ยาก
• เกิด แก่ เจ็บ
ตาย
ทุกข์ สมุทัย
มรรคนิโรธ
59. นิพานคือ สภาวะที่จิตว่างเปล่าปราศจากกิเลสคือ โลภะ ความ
อยากได้, โทสะ ความโกรธ, โมหะ ความหลง (นิพพาน ปรม สุญญ)
นิพพานคือ สภาวะที่จิตเต็มไปด้วยความสุขที่แท้จริง อันเป็นสุขไม่
แปรเปลี่ยนไปเป็นทุกข์ (นิพพาน ปรม สุข)
นิพพานคือ สภาวะที่จิตมีอิสรภาพอย่างสมบูรณ์ เพราะหลุดพ้น
จากความชั่วคือกิเลสทั้งปวง จึงเป็นจิตที่หมดความเห็นแก่ตัว ชีวิตที่
เหลืออยู่จึงเป็นชีวิตที่เป็นประโยชน์แก่มหาชน ในจิตจึงมีแต่กุศลความ
ดี ที่จะทาประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยที่ไม่ต้องคานึงถึงตนเอง เพราะการถึง
นิพพานชื่อว่าทาประโยชน์ของตนให้บริบูรณ์ได้แล้ว
60. 1. กามสุข สุขอันเกิดจากรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เป็นสุขทาง
ประสาทสัมผัส เป็นสุขทางกาย
2. ฌานสุข เป็นสุขทางใจ อันเกิดจากจิตได้สมาธิชั้นสูง
3. นิพพานสุข สุขทางใจจากการหมดกิเลส
พระพุทธศาสนาแบ่งความสุขออกเป็น 3 ประการ คือ
( มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสกะ พระไตรปิฎกเล่ม 13
ข้อ 100 – 102 หน้า 96 – 99 )
65. ๒. เชื่อผลแห่งกรรม
พระพุทธศาสนาสอนว่า การกระทาทุกอย่างไม่ว่าทางกาย ทาง
วาจา หรือทางใจ ย่อมมีผลติดตามมา ทาดีได้ผลดี ทาชั่วได้ผล
ชั่ว คนจะได้ดีหรือได้ชั่วเป็นเพราะตัวเป็นผู้กระทา คนจะมีเกียรติ
สูงต่า ก็เป็ นเพราะเราทาตัว กรรมดีให้ผลดี กรรมชั่วให้ผลชั่ว
กรรมใหญ่ให้ผลใหญ่ กรรมเล็กน้อยให้ผลเล็กน้อย การให้ผล
แห่งกรรม จะมีความเที่ยงธรรมที่สุด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่
เกรงกลัวอานาจต่อใครๆ ให้กับคนต่าต้อยอย่างไร ก็จะให้กับคน
ที่มีอานาจวาสนาเช่นนั้น ถ้าคนทั้งสองกระทากรรมไว้เหมือนกัน
71. คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา
• เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ ๓ เดือน ได้มีการประชุมทาสังคายนา
ประมวลคาสอนของพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก เรียกว่า “พระธรรมวินัย”
มีพระเถระผู้ร่วมสังคายนาช่วยกันจัดเป็นหมวดหมู่ แบ่งกันท่องจาจน
มั่นใจว่าท่องได้แม่นยาตรงกันทั้งหมด จึงแยกย้ายกันไปเผยแผ่ศาสนา
• การทาสังคายนาแรกๆ ยังไม่มีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร ใช้
วิธีมุขปาฐะ >> มาปรากฎในรูปลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรกในการ
ทาสังคายนาในประเทศศรีลังกา ประมาณปี พ.ศ. ๔๓๓ โดยมีพระ
รักขิตมหาเถระเป็นประธาน ใช้ภาษาบาลี อักษรสิงหลบันทึกลง
ในใบลาน จึงเกิดเป็นคัมภีร์พระไตรปิฎก
72. คัมภีร์
คัมภีร์ที่สาคัญ คือ พระไตรปิฎก ติปิฏก แปลว่า ตะกร้า
สามใบ ประกอบไปด้วย
1. พระวินัยปิฎก ว่าด้วยวินัยของภิกษุและภิกษุณี ตลอดจน
พิธีกรรมทางศาสนาและพุทธประวัติ มี ๘ เล่ม ตั่งเล่มที่ ๑-๘
2. พระสุตตันตปิฎก ว่าด้วยพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า
มีเรื่องราวประกอบ มี ๒๔ เล่ม ตั้งแต่เล่มที่ ๙-๓๓
3 พระอภิธรรมปิฎก ว่าด้วยหลักธรรมขั้นสูง
มี ๑๒ เล่ม ตั้งแต่เล่มที่ ๓๔-๔๕
74. ลาดับความสาคัญของคัมภีร์พระพุทธศาสนา
• ก. พระไตรปิฎก >> รวบรวมพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์
เป็นส่วนใหญ่
• ข. อรรถกถา >> คาอธิบายพระไตรปิฎก จัดเป็นหลักฐานลาดับที่สอง
• ค. ฎีกา >> อธิบายเพิ่มเติมจากอรรถกถา
• ง. อนุฎีกา >> เป็นคาอธิบายเพิ่มเติมจากฎีกา
• จ. คัมภีร์พิเศษ >> อาจริยวาท หรือ ปกรณ์พิเศษ ได้แก่
• - คัมภีร์วิสุทธิมรรค โดย พระพุทธโฆษาจารย์
• - คัมภีร์มิลินทปัญหา / ในไทย > ไตรภูมิพระร่วง,มงคลทีปนี,
76. นิกายในพระพุทธศาสนา
นิกายเถรวาท (หีนยาน)
• เป็นนิกายดั้งเดิม ยึดถือหลักพระธรรมวินัยที่ได้สังคายนาไว้เมื่อ
พุทธปรินิพพาน ได้ ๓ เดือน เจริญอยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย ได้
แพร่หลายไปยังประเทศเอเชียใต้ เช่น ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว
และเขมร เป็นต้น
นิกายมหายาน
• เป็นนิกายที่แยกออกมาใหม่ ยึดถือหลักธรรมตามการตีความใหม่
และการปฏิบัติของอาจารย์ตน เจริญอยู่ตอนเหนือของอินเดีย ได้
แพร่เข้าไปสู่ประเทศธิเบต จีน เกาหลี เวียดนามและญี่ปุ่น
77. เหตุที่เกิดนิกาย มี 2 เหตุ
ใหญ่คือ
1. สีลสามัญญตา ความ
ประพฤติไม่เสมอกัน
2. ทิฎฐิสามัญญตา
ความเห็นแตกต่างกัน
หินยาน หรือ เถรวาท
มหายาน หรืออาจารยวาท
78. เถรวาท มหายาน
๑. เชื่อว่าพระวินัยและพระธรรมแก้ไข
ไม่ได้
๒. อุดมคติสูงสุด คือ การเป็นพระ
อรหันต์
๓. เน้นการพึ่งตนเองในการพ้นจาก
ความทุกข์
๔. เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามี ๒ กาย คือ
กายธรรม และกายเนื้อ
๑. ถือว่า พระวินัยและพระธรรม
สามารถปรับเปลี่ยนหรืออธิบาย
เพิ่มเติมได้
๒. อุดมคติ คือ การเป็นพระโพธิสัตว์
เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์
๓. อนุญาตให้มีการสวดอ้อนวอน
พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์เพื่อพ้น
จากทุกข์
๔. พระพุทธเจ้ามี กายธรรม กายเนื้อ
และกายทิพย์ (มีสภาวะเป็นนิรันดร์)
80. ฐานะของพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน
• ปัจจุบันพระพุทธศาสนา ได้เจริญอยู่ในประเทศแถบเอเชีย จนได้
นามว่า “ประทีปแห่งทวีปเอเชีย” เช่น ไทย พม่า ลาว เขมร ศรีลังกา
จีน เป็นต้น โดยเฉพาะใน ประเทศไทย ซึ่งมีพระพุทธศาสนาเป็น
ศาสนาประจาชาติและมีประชาชนนับถือ 90 %
• ต่างประเทศ จะมีสมาคมพุทธ, ออกวารสาร หรือตั้งสานักสงฆ์เผย
แผ่ เพื่อเป็นศูนย์ศึกษาและปฏิบัติธรรม มากกว่า 1,000 แห่ง
• ปัจจุบัน ทั่วโลก มีจานวนพุทธศาสนิกชน มากกว่า 400 ล้านคน
Editor's Notes Prior to the religion’s emergence, Hinduism was the dominant religion in northern India, the region of Siddhartha’s birth (1)