More Related Content
Similar to พระไตรปิฎก (20)
พระไตรปิฎก
- 2. พระไตรปิฎก
พระไตรปิ ฎก เป็ นคัมภีร์หลักของพระพุทธศาสนา
ที่รวบรวมคาสอนของพระพุทธเจ้า
คาว่าไตร แปลว่า สาม และคาว่าปิ ฎก
แปลว่า ตระกร้า
พระไตรปิ ฎก หมายถึง คัมภีร์ที่บรรจุหลักคา
สอนของพระพุทธศาสนา แบ่งเป็ น ๓ ส่วน คือ พระ
วินัยปิ ฎก พระสุตตันตปิ ฎก และพระอภิธรรมปิ ฎก
ความหมายของพระไตรปิ ฎก
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 3. ความสาคัญของพระไตรปิ ฎก
ความสาคัญของ พระไตรปิ ฎก คือ
เป็ นมาตรฐานในการตัดสินความรู้ที่ถูกต้อง
ทางพระพุทธศาสนา
จึงถือว่าคัมภีร์พระไตรปิ ฎกเป็ น“ธรรมเจดีย์”
เป็ นปูชนียวัตถุบรรจุธรรมของชาวพุทธ
จึงทาให้พระพุทธศาสนามีหลักและมาตรฐาน
ในการศึกษาและปฏิบัติอย่างเป็ นระบบและมี
เอกภาพมาจนถึงปัจจุบัน
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 5. คัมภีร์และโครงสร้างพระไตรปิฎก
• วิภังค์ คือ คัมภีร์ที่จาแนกศีลของภิกษุ-ภิกษุณีที่
มีโทษหนัก-โทษเบา มารยาทอันดีงาม และวิธี
ระงับปัญหาความยุ่งยากในหมู่ภิกษุ แบ่งเป็ น
มหาวิภังค์(ภิกขุวิภังค์) และภิกขุนีวิภังค์
• ขันธกะ คือ คัมภีร์ที่รวบรวมวินัยบัญญัติและ
สิกขาบทที่ปรากฏนอกปาฎิโมกข์ แบ่งเป็ น
มหาวรรคและจูฬวรรค
• ปริวาร คือ ส่วนที่สรุปข้อความ หรือคู่มือที่
ซักซ้อมความรู้ความเข้าใจในพระวินัยปิ ฎก
พระไตรปิ ฎก แบ่งเป็ น ๓ หมวด ดังนี้
๑. พระวินัยปิ ฎก คือ ส่วนที่ว่าด้วย
ศีลของภิกษุ ภิกษุณี รวบรวมขนบธรรมเนียม
ประเพณีและข้อปฏิบัติที่ดีงามในการอยู่ร่วมกัน
เป็ นหมู่คณะ แบ่งเป็ น ๓ หมวดย่อย ดังนี้
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 6. ๒. พระสุตตันตปิฎก คือ ส่วน
ที่ ว่าด้วยพระธรรมเทศนาของ
พระพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงแก่บุคคลต่างๆ
แบ่งเป็น ๕ นิกาย ดังนี้
• ทีฆนิกาย คือ หมวดที่ประมูลสูตรขนาด
ยาว
• มัชฌิมนิกาย คือ หมวดที่ประมูลสูตร
ขนาดปานกลาง
• สังยุตตนิกาย คือ หมวดที่ประมูลสูตรโดย
จัดกลุ่มตามเนื้อหา
• อังคุตตรนิกาย คือ หมวดที่ประมวลหมวด
ธรรมจากน้อยไปหามาก
• ขุททกนิกาย คือ หมวดที่ประมวลเรื่อง
เบ็ดเตล็ดต่างๆ ที่มิได้รวบรวมไว้ใน ๔
นิกายข้างต้น
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 7. ๓. พระอภิธรรมปิ ฎก คือ ส่วนที่
ว่าด้วยการอธิบายหลักธรรมในรูปวิชาการ
ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลและเหตุการณ์ แบ่งเป็น ๗
๗ คัมภีร์ ดังนี้
• ธัมมสังคณี คือ คัมภีร์ที่รวมข้อธรรมเป็น
หมวดๆ แล้วแยกอธิบายเป็นประเภทๆ
• วิภังค์ คือ คัมภีร์ที่แยกข้อธรรมในสังคณี
• ธาตุกถา คือ คัมภีร์ที่จัดข้อธรรมลงในขันธ์
ธาตุ อายตนะ
• ปุคคลบัญญัติ คือ คัมภีร์บัญญัติเรียก
บุคคล
• กถาวัตถุ คือ คัมภีร์ที่อธิบายทรรศนะที่
ขัดแย้งกัน โดยเน้นทรรศนะของเถรวาทที่
ถูกต้อง
• ยมก คือ คัมภีร์ที่ยกธรรมเป็นคู่ๆ
• ปัฏฐาน คือ คัมภีร์ที่อธิบายปัจจัยหรือเงื่อนไข
ทางธรรม ๒๔ ประการ
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 8. ๒. เรื่องน่ารู้ในพระไตรปิฎก : จูฬกัมมวิภังคสูตร
จูฬกัมมวิภังคสูตร เป็นพระสูตรที่ว่า
ด้วย กฎแห่งกรรม คนเรามีความแตกต่าง
แตกต่างกัน เพราะกรรม คือผลของการ
กระทาของตนนั่นเอง เป็นเครื่องจาแนก
ไม่ว่าจะเป็นกรรมในอดีตหรือปัจจุบันก็ดี
ดี ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ก็ดี กรรม
ย่อมจาแนกให้แตกต่างกันไป
ที่มา: จูฬกัมมวิภังคสูตร ๑๔[๕๗๙-๕๘๐]๒๘๗
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 9. สุภมาณพ โตเทยยบุตร ได้กราบทูลถาม
พระพุทธเจ้า ซึ่งประะทับอยู่ ณ พระวิหารเชตะวัน ว่า
ว่า เหตุใด มนุษย์ที่เกิดมาจึงแตกต่างกันไป คือ มี
อายุสั้น มีอายุยืน มีโรคมาก มีโรคน้อย มี
ผิวพรรณทราม มีผิวพรรณงาม มีศักดาน้อย มี
ศักดามาก มีโภคะน้อย มีโภคะมาก เกิดในสกุลต่า
ต่า เกิดในสกุลสูง มีปัญญาทราม มีปัญญามาก
มาก ดังนี้
พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบว่า
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาท
แห่งกรรม ฯ กรรมย่อมจาแนกสัตว์ให้แตกต่างกันไป
ไป ทรงอธิบายในรายละเอียดดังนี้
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม
- 11. ๓. พุทธศาสนสุภาษิต
• กมฺมุนา วตฺตตี โลโก : สัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม
กรรม แปลว่า การกระทา และมักหมายรวมถึง
ผลแห่งการกระทา พระพุทธศาสนาสอนว่า คนเราจะมีชีวิต
เป็นไปอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมหรือการกระทาของเรา ดัง
พุทธดารัสที่ว่า
“ ควรพิจารณาโดยเนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของ
ตน เป็นผู้รับผลแห่งกรรม มีกรรมเป็นกาเนิด มีกรรม
เป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทากรรมอันใดไว้ดีก็
ตาม ชั่วก็ตาม เราจักเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น”
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 12. • กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ : ทําดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว
พระพุทธศาสนามีหลักคาสอนที่สาคัญยิ่งข้อหนึ่งเรียกว่า “กฎแห่งกรรม”
มีความหมายว่า ทาดีได้ดี ทาชั่วได้ชั่ว
กรรม แปลว่า การกระทา และวิบาก แปลว่า ผล กรรมวิบาก จึงแปลว่า ผลแห่ง
กรรม มี ๓ ระดับ ดังนี้
๑. ระดับภายในจิตใจหรือคุณภาพของจิต
๒. ระดับบุคลิกภาพและอุปนิสัย
๓. ระดับภายนอกหรือผลทางสังคม
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 13. • สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย : การสั่งสมบุญนาสุขมาให้
บุญ แปลว่า ความดีงาม การทาบุญทาได้๑๐ วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ มีดังนี้
ดังนี้
โดยทั่วไปคนมักให้ความสาคัญกับ ๓ ข้อแรก คือ การให้ทาน การรักษาศีล และการเจริญ
ภาวนาเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๓
การทาบุญย่อมให้ความสุข การให้ (หรือทาน) เป็นการขัดเกลากิเลส ทาให้จิตผ่องใส การรักษา
รักษา
ศีลทาให้เป็นคนดีมีศีลธรรม มีคนรักใคร่นับถือ และไว้วางใจ การเจริญภาวนาช่วยให้จิตใจแน่วแน่
มีสติ
๑. ทาบุญด้วยการให้ ๖. ทาบุญด้วยการเกลี่ยความดีให้ผู้อื่น
๒. ทาบุญด้วยการรักษาศีล ๗. ทาบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น
๓. ทาบุญด้วยการเจริญภาวนา ๘. ทาบุญด้วยการฟังธรรมหาความรู้
๔. ทาบุญด้วยการอ่อนน้อม ๙. ทาบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้
๕. ทาบุญด้วยการรับใช้ ๑๐. ทาบุญด้วยการทาความเห็นให้ตรง
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 14. • ปูชโก ลภเต ปูชํ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ : ผู้บูชาย่อมได้รับการบุชาตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการ
ไหว้ตอบ
บูชา หมายถึง การแสดงความเคารพบุคคลหรือสิ่งที่นับถือ รวมตลอดไปถึงการยกย่อง
เทิดทูนด้วยความเคารพนับถือ อย่างไรก็ตาม การให้เกียรติ การยอมรับ การนับถือนี้เราควร
เดินสายกลาง ไม่แสดงอาการพินอบพิเทาจนเกินควร ไม่กล่าววาจายกย่องสรรเสริญ
เกินงาม จนกลายเป็นการประจบสอพลอ
การบูชาเป็นการแสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม
การบูชาด้วยวิธีต่างๆ ถือเป็นการแสดงออกซึ่งไมตรีจิต เป็นการเปิด
โอกาสความรู้สึกที่ดี นาไปสู่ความสาเร็จในหน้าที่การงานได้
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 15. ๔. ศัพท์ทางพระพุทธศาสนา: ฌาน-ญาณ
ฌาน หมายถึง ภาวะจิตที่สงบแน่วแน่เนื่องมาจากการเพ่งอารมณ์ ฌานมี ๒ ประเภท
คือ รูปฌาน(ผู้ปฏิบัติกาหนดจิตเพ่งสิ่งที่มีรูปร่างลักษณะ เช่น ไฟ) และอรูปฌาน(ผู้ปฏิบัติ
กาหนดจิตเพ่งสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง เช่น อากาศ)
ฌาน แบ่งย่อยออกเป็นอีก ๔ ระดับ เรียกกันว่า ฌาน ๔ คือ
๑. ปฐมฌาน มีองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
๒. ทุติยฌาน มีองค์ ๓ ปีติ สุข เอกัคคตา
๓. ตติยฌาน มีองค์ ๒ สุข เอกัคคตา
๔. จตุตถฌาน มีองค์ ๒ อุเบกขา เอกัคคตา
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- 16. ญาณ หมายถึง การหยั่งรู้หรือกาหนดรู้ คือ การเห็นแจ้ง รู้ชัดในสิ่งทั้งหลายตรงตามความเป็น
จริง เป็นความรู้ความสามารถพิเศษ ญาณ ๓ ได้แก่
๑. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือ หยั่งรู้อดีต (ระลึกชาติได้)
๒. จุตูปปาตญาณ คือ หยั่งรู้ปัจจุบัน (เห็นการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลาย)
๓. อาสวักขยญาฌ คือ หยั่งรู้อนาคต (รู้สูงสุด เป็นความรู้ที่ทาให้สิ้นไปแห่งอาสวกิเลสทั้งหลาย)
ฌาน เป็ นเพียงสมถะกรรมฐาน คือ ทาจิตให้เป็ นสมาธิ
ญาณ จัดเป็ นวิปัสสนา คือ การเห็นแจ้ง รู้จริงตรงตามสภาวะของสิ่งต่างๆ
นางสาวพจีกานต์ หว่านพืช กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม