More Related Content
Similar to วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา (20)
More from พระอภิชัช ธมฺมโชโต (8)
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
- 3. • เมืองหริภุญไชย คือ ลำาพูนในปัจจุบัน เมืองหริภุญไชย คือ ลำาพูนในปัจจุบัน
๑๑.. ได้ทรงนำาเอาอารยธรรมแบบทวาราวดีขึ้นมา
เผยแผ่ เช่น การสร้างสถูป สุวรรณจังโกฏิเจดีย์
เป็นต้น
๒.ทรงนำาเอาพระพุทธศาสนาเถรวาทมาเผยแผ่
ด้วย ทำาให้พุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง
ในสมัยนี้
๓. ทรงสร้างวัดไว้ ๔ มุมเมือง เรียกว่า เป็นจตุร
พุทธปราการ
๔. เมื่อขอมมีอำานาจทำาให้อิทธิของศิลปะทวาราว
ดีสามารถกั้นวัฒนธรรมของขอมถึงแค่ลำานำ้าปิง
เท่านั้น งานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 6. นักโบราณคดีแบ่งสมัย
พระพุทธรูปทางภาคเหนือ
เป็น ๒ สมัย
• ๑. เชียงแสนยุคต้น พระพุทธรูปเป็นแบบอินเดียสมัย
ราชวงศ์ปาละมหาวิทยาลัย นาลันทากำาลังรุ่งเรืองนัก
ปราชญ์เดินทางไปมาอยู่เนืองๆ
ลักษณะของพระพุทธรูป
พระองค์อวบอ้วน พระรัศมีเป็นต่อมกลม นั่งขัดสมาธิ
เพชร พระหัตถ์มารวิชัย (พระหัตถ์ซ้ายวางบน
พระเพลา พระหัตถ์ขวาวางห้อยลงมาทางพระชานุ
ขวา) พระอุระนูน ชายสังฆาฏิสั้นอยู่เหนือราวพระ
ถัน พระพักตร์กลมสั้น พระโขนงโก่ง พระนาสิกงุ้ม
พระโอษฐ์เล็ก พระหนุเป็นปม เส้นพระศกใหญ่เป็นต่อม
กลม หรือเป็นก้นหอย ไม่มีไรพระศก ฐานมีบัวรองมีทั้งงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 9. เหตุการณ์สำาคัญในสมัยพระ
เจ้ากือนา
• ๑. ทรงบวชกุลบุตรชาวเชียงใหม่ตามแบบลังกาวงศ์
โดยพระอนันทเถระ ขอให้นิมนต์พระจากสุโขทัย(สมัย
พระเจ้าลือไทย)มาเป็นอุปัชฌาย์ คือ พระสุมนเถระ กับ
พระอโนมทัสสีเถระ ส่วนตัวพระอุทุมพร เป็นพระกรรม
วาจาจารย์ ทั้งสองมา จำาพรรษาที่วัดพระยืน ลำาพูน
อุปสมบทชาวลำาพูนเป็นจำานวนมาก เมื่อออกพรรษาจึง
ขึ้นไปเชียงใหม่ จำาพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก
๒. ทรงสถาปนาพระสุมนะเถระ ขึ้นเป็นพระสังฆราช
เป็นองค์แรกแห่งล้านนา
๓. พระเจ้ากือนา ทรงสร้างเจดีย์ที่วัดสวนดอกบรรจุ
พระบรมธาตุส่วนหนึ่ง เป็นศิลปะแบบลังกาองค์
แรก และทรงสร้างพระธาตุดอยสุเทพ
งานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 11. สมัยพระเจ้าติโลกราช
• ราชนัดดาของพระเจ้าแสนเมือง คณะสงฆ์แตกแยก
ออกเป็น ๓ นิกาย คือ
๑. นิกายเดิม
๒. นิกายที่สืบเนื่องมาจากพระสุมนะ
๓. นิกายลังกาวงศ์ใหม่ มีพระเมธังกร เป็น
หัวหน้าตั้งสำานักที่วัดป่ากวางเชิงดอยสุเทพประพฤติ
เคร่งครัดกว่าลังกาวงศ์เดิมซึ่งตั้งอยู่ที่วัดสวนดอก พวก
อำามาตย์เลื่อมใสพระสงฆ์ลังกาวงศ์ใหม่ ทรงอุปถัมภ์
นานาประการ ได้ผนวช ในนิกายนี้เป็นเวลา ๗ วัน
เมื่อปี พ.ศ.๑๙๙๕ ทรงสถาปนาพระเมธังกร เป็นพระ
สังฆราชแห่งล้านนา งานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 12. เหตุการณ์สำาคัญในสมัยพระเจ้าติ
โลกราช
• ๑. พ.ศ.๑๙๙๙ โปรดให้สร้างวัดชื่อมหา
โพธาราม ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง
เชียงใหม่ จำาลองแบบวิหารพุทธคยา โลหะ
ปราสาทรัตนมาลีเจดีย์ขึ้น ซึ่งเรียกว่า วัดเจดีย์
เจ็ดยอด มาถึงทุกวันนี้
๒. พ.ศ.๒๐๒๐ โปรดให้มีการทำาสังคายนา พระ
ธรรมวินัยขึ้น ณ วัดมหาโพธาราม
หรือวัดเจ็ดยอด โดยมีพระธรรมทินนาเถระเป็น
ประธาน ทำาการสังคายนาอยู่ ๑ปี จึงแล้ว
เสร็จ
๓. การศึกษาทางเมืองเหนือรุ่งเรืองกว่าทางงานวิจัยและวรรณกรรม
- 16. พระญาณกิตติเถระ
• พระญาณกิตติเถระ เป็นชาวเชียงใหม่ มีอาวุโสกว่าพระ
สิริมังคลาจารย์ จำาพรรษาอยู่วัดปนสาราม (สวนต้น
ขนุน) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของนคร
เชียงใหม่ จากผลงานของท่านที่รจนาไว้ ทำาให้ทราบว่า
ท่านเป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าติโลกราชเชื่อว่าท่าน
เคยไปศึกษาที่ประเทศลังกา ในรัชกาลกษัตริย์
กรุงลังกาปรักกรมพาหุที่ 6 และพระเจ้าภูวเนกพาหุที่ 6
(พ.ศ. 1955-2024) ครั้งนั้นศาสนสัมพันธ์
ระหว่างเชียงใหม่ อยุธยา ลังกา และพม่า ดำาเนินไป
ด้วยดี พระสงฆ์ล้านนาเดินทางไปประเทศเหล่านี้ได้
อย่างเสรี (ลิขิต ลิขิตานนท์, 2523 : 10) ท่านมีชีวิตอยู่ใน
สมัยพระเจ้าติโลกราชและพระเจ้ายอดเชียงราย งานที่งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 17. ผลงานของพระญาณกิตติเถระรจนาคัมภีร์
อธิบาย
เรื่องเกี่ยวกับพระวินัย และพระอภิธรรมและ
บาลีไวยากรณ์• พระวินัย
• 1. สมันตปาสาทิกา อัตถโยชนา อธิบายศัพท์ คำา
ข้อความยากในอรรถกถาวินัยปิฎกชื่อ สมันตปาสาทิกา
ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทบัญญัติ ข้อแนะนำาตักเตือนและบท
ลงโทษ สำาหรับพระภิกษุผู้ผิดวินัย เป็นต้น
• 2. ภิกขุปาฏิโมกขคัณฐีทีปนี มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระปาฏิ
โมกข์ หรือศีลของพระภิกษุโดยเฉพาะ เช่น สงฆ์ควรปฏิบัติ
อย่างไรก่อนพิธีสวดปาฏิโมกข์ และอธิบายขยายความใน
พระปาฏิโมกข์ รจนาเมื่อ พ.ศ. 2035
• 3. สีมาสังกรวินิจฉัย วินัยปิฏกกล่าวถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
และสำาคัญที่สุดของพระสงฆ์ คือ สีมา ซึ่งคู่กับพระอุโบสถ
หรือโบสถ์เป็นที่ทำาสังฆกรรม กิจกรรมที่ต้องทำาโดยความงานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 18. พระอภิธรรม
• 4.อัฏฐสาลินีอัตถโยชนา คัมภีร์อธิบายอัฏฐสาลินี
อรรถกถาอภิธรรมธัมมสังคณี
• 5. สัมโมหวิโนทนี อัตถโยชนา คัมภีร์อธิบายอรรถกถา
อภิธรรม
• 6. ปัญจกรณัฏฐกถา อัตถโยชนา และเชื่อว่าท่าน
ญาณกิตติเถระคงรจนาคู่มืออธิบายอภิธรรมที่เหลืออีก
5 คัมภีร์ คือ ธาตุกถา ปุคคลปัญญัติ กถาวัตถุ ยมก
และปัฏฐาน รวมเรียกว่า ปัญจปกรณัฏฐกถา
• 7. อภิธัมมัตถวิภาวินี ปัญจิกา อัตถโยชนา คัมภีร์อธิบา
ยอภิธัมมัตถวิภาวินี
งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
•ไวยากรณ์
• 8. มูลกัจจายนอัตถโยชนา คู่มืออธิบายบาลี
ไวยากรณ์สายกัจจนะ ซึ่งพระกัจจายน
เถระ ภิกษุรุ่นหลังท่านพุทธโฆสาจารย์ (พุทธ
ศตวรรษที่ 11-12) รจนามูลกัจจายนวยากรณ
- 19. พระสิริมังคลาจารย์
• เดิมชื่อ ศรีปิงเมือง ต่อมาเมื่อบรรพชาเป็นสามเณรมี
ฉายาว่า สิริมังคละ บิดามีอาชีพ ค้าช้าง ท่านเกิด
ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองอาณาจักรล้านนา
ตรงกับรัชกาลพระเจ้าติโลกราช ระหว่าง
พ.ศ.๒๐๑๐ -๒๐๒๐มรณภาพในรัชกาลพระเจ้าเม
กุฏิสุทธิวงศ์ (พ.ศ.๒๐๙๔-๒๑๑๗) ท่านจำาพรรษา
อยู่ที่วัดสวนขวัญ ปัจจุบัน ชื่อ วัดตำาหนัก ซึ่งตั้งอยู่
ทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ของนครเชียงใหม่
ประมาณ ๔ กิโลเมตร เป็นปราชญ์ทางด้านภาษา
บาลี ผู้แตกฉานในอักขรวิธี วจีวิพาก วากยสัมพันธ์
และฉันทลักษณ์อย่างยากจะหาผู้เสมอเหมือนได้งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 20. พระสิริมังคลาจารย์รจนาผลงานไว้ 4
เรื่อง
ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
• การอธิบายคัมภีร์ที่มีมาแต่เดิม ผลงานประเภทนี้มี
ด้วยกัน 3 เรื่อง ดังนี้
• 1. เวสสันตรทีปนี รจนาสำาเร็จเมื่อ พ.ศ. 2060
ในรัชกาลพระเมืองแก้ว อธิบายอรรถกถาเวสสันดร
ชาดก เกี่ยวกับความเบ็ดเตล็ดเกร็ดเล็กน้อยต่างๆ ที่
น่าสนใจ ตลอดจนวิธีแบ่งคาถาในเวสสันดรชาดก
อีกด้วย คัมภีร์นี้มีความยาวบั้นต้น 40 ผูก บั้นปลาย
10 ผูก
• 2. สัขยาปกาสกฎีกา เป็นหนังสืออธิบายคัมภีร์
สังขยาปกาสกะ ที่พระญาณวิลาสเถระงานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 22. • ส่วนคัมภีร์ที่รจนาขึ้นใหม่ มีเพียงเรื่องเดียว
คือ
• 4. จักกวาฬทีปนี ซึ่งเรื่องนี้ท่านได้ผูกโครงเรื่อง
ขึ้นก่อน โดยแบ่งเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับจักรวาล
ออกเป็นตอนๆ จากนั้นก็อธิบายเรื่องราวตอนนั้นๆ
อย่างละเอียดลออ โดยอ้างหลักฐานจากพระ
ไตรปิฎกและคัมภีร์ต่าง ๆ มาประกอบ รจนา
เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2063 กล่าวถึงเรื่องราวในจักรวาล
หรือโลกธาตุ พรรณนาถึงภูมิที่เกิดของสัตว์ทั้ง
หลาย อาหารของสัตว์ ภูเขา แม่นำ้า เทวดา อสูร
ฯลฯ
งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 23. • จากวิธีการรจนาคัมภีร์ทั้ง 4 เรื่องแล้ว จะเห็นว่าพระสิริมังคลา
จารย์ รจนาคัมภีร์แต่ละเรื่องขึ้นเพื่ออธิบายขยายความที่
ยากหรือค่อนข้างยากให้คนทั่วไปเข้าใจรู้เรื่องอย่าง
แจ่มแจ้ง อันเป็นจุดประสงค์สำาคัญของผลงานกลุ่มแรก ส่วน
ผลงานที่รจนาใหม่คือ การอธิยายเรื่องจักรวาลนั้น ก็เพื่อ
ต้องการให้ชาวล้านนาที่สนใจและมิได้เป็นนักปราชญ์
ที่ต้องการ จะทราบเรื่องจักรวาลอย่างถ่องแท้
ละเอียดพิสดาร ตามแนวของพุทธศาสนาได้ สามารถ
เข้าใจเรื่องราวได้อย่างชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องค้นคว้าหาอ่าน
มากมาย
• นอกจากนี้ผลงานของพระสิริมังคลาจารย์ยังสะท้อนให้เห็น
ความสนใจและการใฝ่หาความรู้ด้านพุทธศาสนาและวิชาการ
แขนงต่างๆ ของชาวล้านนาในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 20-21งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 24. พระรัตนปัญญาเถระ หรือพระสิริรัตน
ปัญญาเถระ
• พระเถระชาวเชียงรายรูปนี้ เป็นพระภิกษุรุ่น
เดียวกันกับพระสิริมังคลาจารย์ เป็นเชื้อพระวงศ์ใน
ราชวงศ์มังราย อุปสมบทและพำานักอยู่ที่วัดป่าแก้ว
เชียงราย ต่อมาได้มาศึกษาต่อที่เชียงใหม่ และ
พำานักอยู่วัดสีหลาราม หรือวัดเจ็ดยอดในปัจจุบัน
ท่านเคยพำานักที่วัดฟ่อนสร้อย (เดินอยู่ใกล้ตลาด
ประตูเชียงใหม่) ก่อนจนได้เป็นเจ้าอาวาส จากนั้น
จึงย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอดในสมัยพระ
เมืองแก้ว ซึ่งเป็นพระอารามหลวง
งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 26. • 3.ชินกาลมาลี หรือชินกาลมาลีปกรณ์
– คัมภีร์นี้เริ่มรจนาเมื่อ พ.ศ. 2060 ในพรรษาที่ 23 ของ
พระรัตนปัญญา รัชสมัยพระเมืองแก้ว เนื้อ
เรื่องกล่าวถึงกาลของพระพุทธเจ้า โดยเรียบเรียงอย่างมี
ระเบียบ จึงได้ชื่อว่า ชินกาลมาลีปกรณ์ รจนาถึงกาล
ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้โดยพิศดาร ว่าด้วยพุทธกิจ
ว่าทรงทำาอะไร ประทับอยู่ที่ไหน จนกระทั่งดับขันธ์
ปรินิพพาน กาทำาสังคายนาครั้งต่างๆ การจำาแนก
พระบรมธาตุ การเผยแพร่ พุทธศาสนาไปยัง
ประเทศต่างๆ ให้เวลาและสถานที่อย่างชัดเจน บอก
กำาหนดปี โดยครบถ้วน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงประวัติ
ของบุคคลและสถานที่ของเมืองสำาคัญ คือ เชียงแสน
เชียงราย ลำาพูน และเชียงใหม่ รจนาเสร็จสมบูรณ์ เมื่อ
พ.ศ. 2071 มีความยาว 14 ผูก กับ 14 ลาน
วรรณกรรมบาลีเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นวรรณกรรมงานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 27. • ชินกาลมาลีปกรณ์ นับเป็นผลงานชิ้นเอกของนัก
ปราชญ์ชาวล้านนา ที่ได้รับการแปล
เป็นภาษาอื่นๆ มากมายหลายภาษา รัชกาลที่ 1
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ ให้ราชบัณฑิตถึง 5 ท่าน ช่วยกันแปลเป็น
ภาษาไทยกลาง ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 จึงโปรด
เกล้าฯ ให้พิมพ์แจกเป็นครั้งแรกในงานพระศพ
ของพระราชวงศ์ เมื่อ พ.ศ. 2451
• ต่อมาเสฐียร พันธรังษี ได้แปลเป็นภาษาไทยเป็น
ครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2474 ใช้ชื่อว่า ชินกาลมาลินี
• และในราว พ.ศ. 2500 แสง มนวิทูร ได้แปลเป็น
ภาษาไทยขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 มีเชิงอรรถ อธิบายงานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 28. • การแปลเป็นภาษาต่างประเทศเริ่มด้วย ยอร์ช เซเดส์
แปลเป็นภาษาฝรั่งเศส โดยตีพิมพ์คู่กับภาษาบาลี
ลงในวารสารวิชาการของฝรั่งเศสติดต่อกัน 6 ฉบับ
เมื่อ พ.ศ. 2468 สมาคมบาลีปกรณ์ ลอนดอน ประเทศ
อังกฤษ ได้พิมพ์เป็นภาษาบาลีด้วยอักษรโรมัน ต่อมา
ก็ได้พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษด้วย
• ในประเทศลังกา พระภิกษุชื่อพุทธทัตก็ได้แปลเป็นภาษา
สิงหล พิมพ์คู่กับภาษาบาลี เมื่อ พ.ศ. 2498
• นับได้ว่าเป็นวรรณคดีล้านนาที่ได้รับการแปลและพิมพ์
เผยแพร่มากที่สุด ชินกาลมาลีปกรณ์ จึง
เสมือนเป็นคู่มือที่นักศึกษาชาวต่างประเทศได้ใช้เป็น
หลัก ในการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีของ
ไทย มานานแล้ว งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 29. พระพุทธพุกาม และพระพุทธญานเจ้า
ผลงานของท่านที่ปรากฏคือ มูลศาสนา ได้ระบุชื่อผู้
รจนาไว้ในตอนท้ายของเรื่องนี้ ระยะเวลาที่รจนาก็
ไม่ทราบแน่นอน เป็นหนังสือที่เก็บความรู้ ประวัติ
ทางศาสนาจากที่มาหลายคัมภีร์ นำามารจนาไว้โดย
ละเอียด รวมทั้งแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์ และ
ความเป็นไปของประชาชนในแหลมสุวรรณภูมิสมัย
โบราณด้วย นับเป็นหนังสือคู่กับ จามเทวีวงศ์
และ ชินกาลมาลีปกรณ์
(ประคอง นิมมานเหมินท์, 2517 : 52-56)
หนังสือเล่มนี้รจนาเป็นภาษาล้านนา
งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 30. พระสุวัณณรังสีเถระ
• พระภิกษุชาวเชียงใหม่รูปนี้ ต่อมาได้ไปจำาพรรษา
อยู่ที่วัดวิชยาราม นครเวียงจันทน์ประเทศลาว และ
ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราช
• ท่านได้รจนาคัมภีร์ ๒ เรื่อง คือ
– ๑ คันถาภรณฎีกา ซึ่งเป็นหนังสืออธิบายคัมภีร์ชื่อ
คันถาภรณะ ของชาวพม่า อันว่าด้วยหลักเกณฑ์ทาง
ภาษาบาลี รจนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๑๒๘
– ๒.ปฐมสัมโพธิกถา ซึ่งต่อมาใน พ.ศ. ๒๓๘๘ สมเด็จ
พระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส ได้ทรง
นิพนธ์เรื่อง ปฐมสมโพธิกถา โดยถือเอาปฐมสัมโพธิกถา
เป็นฉบับภาษาบาลีของพระสุวัณณรังสี เป็นหลักในการงานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 33. มงคล ๓๘ ประการ
• ๑. การไม่คบคนพาล ๒. การ
คบบัณฑิต
• ๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๔. การอยู่
ในถิ่นอันสมควร
• ๕. เคยทำาบุญมาก่อน ๖. การ
ตั้งตนชอบ
• ๗. ความเป็นพหูสูต ๘. การ
รอบรู้ในศิลปะ
• ๙. มีวินัยดี ๑๐.
กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต
• ๑๑. การบำารุงบิดามารดา ๑๒. การ
สงเคราะห์บุตร งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 35. คุณค่าของวรรณกรรม
• ๑. คุณค่าทางศาสนา
– ให้คณะสงฆ์ได้เรียนรู้และนำาไปเผยแผ่
– ใช้เป็นหลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์แผนกบาลี ภาคหนึ่ง
ใช้สำาหรับชั้นเปรียญธรรม ๔ ประโยค และภาค ๒ เป็น
หลักสูตรบาลีชั้นเปรียญธรรม ๕ ประโยค
• ๒. คุณค่าทางวรรณคดี
– ถือเป็นวรรณกรรมหรือวรรณคดีชั้นยอด ลักษณะการแต่ง
เป็นแบบร้อยแก้วผสมด้วยคาถา
– เป็นคัมภีร์ตัวอย่างที่อธิบายธรรมะให้เข้าใจง่าย ผู้อ่าน อ่าน
แล้วสนุกสนานเพลิดเพลินในรสพระธรรม มีนิทานนำามา
ประกอบได้เหมาะสมกลมกลืนกับหัวข้อธรรมนั้น
– เป็นวิทยานิพนธ์ชั้นบรมครู ถือว่ามีคุณค่าทางวรรณกรรมสูงงานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 36. • ๓. คุณค่าต่อวิถีชีวิต
– เนื้อหาสาระเน้นแนวทางการดำาเนินชีวิตของผู้คนที่
ต้องการความเป็นมงคล ดำาเนินชีวิตอย่างมีความสุข
ด้วยมงคล ๓๘ ประการ
– เป็นขอบเขตของการดำาเนินชีวิตมิให้ผิดพลาด ถ้าหาก
บุคคลในชุมชน สังคม และประเทศชาติปฏิบัติตามหลัก
มงคลสูตรนี้ สังคมชุมชนอยู่อย่างมีสันติสุข ประเทศ
ชาติเจริญเต็มไปด้วยผู้คนที่มีคุณธรรมและจริยธรรม
๔. คุณค่าทางภาษา
- เป็นคัมภีร์มีคุณค่าทางภาษาอย่างสูง โดยเฉพาะภาษา
บาลี
- เป็นแบบร้อยแก้วผสมด้วยคาถา การแต่งใช้ประโยคง่าย
ๆ ไม่ยากจนเกินไป
งานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 37. อิทธิพลของคัมภีร์มังคลัตถทีปนี
•๑. ด้านเศรษฐกิจ ไม่มีผลโดยตรงแต่มีผล
ทางอ้อม
– ประเทศชาติจะเจริญเพราะมีเศรษฐกิจเป็นตัวชี้
วัดความเจริญของประเทศ
– การที่ประเทศจะเจริญหรือมีเศรษฐกิจดีขึ้นอยู่กับ
คนในประเทศ การพัฒนาคนที่ถูกต้อง
ทำาให้คนมีการกินดีอยู่ดี ประกอบสัมมาชีพ
ไม่เบียดเบียนคนอื่น ทำางานที่สุจริต เศรษฐกิจดี
ประเทศเจริญ ดังในมงคลข้อที่ ๒๘ การ
ทำางานที่ไม่มีโทษ การทำางานสุจริต ไม่งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 39. ๓. ด้านการศึกษา ถือว่ามีอิทธิพลมาก
•๑. มีผลต่อการจัดการศึกษามังคลัตถทีป
นี
–เป็นคัมภีร์ที่พระสงฆ์ไทยแต่งขึ้น
–มีคุณค่าทางศาสนาให้คณะสงฆ์ได้ศึกษาเรียนรู้
และนำาไปเผยแผ่แก่ประชาชนทั่วไป
–คณะสงฆ์ไทยนำามาใช้เป็นหลักสูตรการศึกษา
ภาษาบาลีแก่พระภิกษุสามเณร
–เป็นหลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์แผนกบาลี
ชั้นเปรียญธรรม ๔ ประโยค และเปรียญธรรม ๕
ประโยค งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 40. • ๒. มีอิทธิพลต่อบุคคลที่ศึกษาเล่าเรียนทั้งที่
เป็นพระสงฆ์และประชาชนทั่วไป
– ผู้ที่จะศึกษาเล่าเรียนสิ่งใดก็ตาม ถ้าหากปฏิบัติตาม
มงคลที่เกี่ยวข้องกับ การศึกษา จะประสบผลสำาเร็จใน
การศึกษาเล่าเรียน
– มงคลข้อที่ ๗ เป็นพหูสูต การศึกษาคือการเรียนรู้ สิ่งที่
บุคคลจะต้องเรียนรู้ มีทั้งวิชาการทางโลก ซึ่งเป็นสิ่ง
จำาเป็นที่บุคคลจะต้องเรียนรู้ เพื่อเป็นหลักในการดำารง
ชีวิต และการเรียนรู้ในทางศาสนา แสดงถึงทางเสื่อม
และทางเจริญ ทั้งทางด้านร่างกายและด้าน
จิตใจ
– มงคลข้อที่ ๘ มีศิลปะ คือความเป็นผู้ฉลาดในวิชาชีพ
ต่าง ๆ ได้แก่ งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง
- 42. •๒. ด้านค่านิยมทางสังคม
– มงคลข้อที่ ๑๕ บำาเพ็ญทาน เป็นค่านิยมด้านความ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
– มงคลข้อที่ ๑๘ ทำางานที่ไม่มีโทษ เป็นค่านิยมด้าน
การประกอบอาชีพสุจริต
• ๓. ด้านวัฒนธรรมประเพณี
– มงคลข้อที่ ๑ ไม่คบคนพาล เป็นวัฒนธรรมด้าน
ความเชื่อในการคบเพื่อนหรือมิตร
– มงคลข้อที่ ๒ การคบบัณฑิต เป็นความเชื่อด้านการ
คบเพื่อน คบเพื่อนดีถือเป็นมงคล เป็นความดี เป็น
ความเจริญ
งานวิจัยและวรรณกรรมทางงานวิจัยและวรรณกรรมทาง