More Related Content
PPTX
PPT
แปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี PPT
PDF
PPSX
เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น PDF
อาณาจักรละโว้+566+54his p04 f18-1page PDF
PDF
What's hot
PPTX
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ PPTX
ประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย PDF
PDF
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ PDF
PPTX
PPTX
PDF
3. กัณฑ์ที่ ๓ ทานกัณฑ์ ๒๐๙ พระคาถา PDF
PDF
PPTX
การเมืองการปกครองสมัยกรุงศรีอยุธยา PDF
เปรียบเทียบพุทธปรัชญาและปรัชญาลัทธิครูทั้ง ๖ PDF
สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น 4 ภาค PPT
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์ PPTX
PDF
6การปกครองประเทศสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น PPTX
สมัยล้านนา หรือ เชียงแสน, สุโขทัย, อยุธยา PPTX
ประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ ประถมศึกษาปีที่6 PDF
PDF
Similar to ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้)
PPT
PPT
PDF
PPTX
PDF
PDF
PPTX
PPTX
004 ancient indian พัชรพร PPTX
PDF
PPT
บทที่ ๒ ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู PDF
พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย PDF
PDF
PDF
PPT
PPT
PPT
PPTX
PDF
More from Heritagecivil Kasetsart
PPT
PDF
PDF
Introduction of philosophy PPT
PDF
Introduction of philosophy PPT
DOCX
DOCX
PPT
PPT
มรดกอารยธรรมโลก(อ.ไพรินทร์) PDF
PDF
01999031 western music romantic PPT
PDF
01999031 western music baroque. PPT
มรดกอารยธรรมโลกเพิ่มเติม ปี 2557 PDF
PPT
The heritages of world civilization PDF
PDF
01999031 western music classical. PPTX
ศิลปะตะวันออก (ของวันนี้)
- 1.
- 2.
- 3.
การแบ่ง ยุค สมัยในศิล ปะอิน เดีย
สมัย
อิน เดีย N
สมัยที่ 1
สมัยที่ 2
สมัยที่ 3
สมัยที่ 4
อิน เดีย S
ศ. อินเดียโบราณ
(พศว. 3 -6)
ศ. คัน
ธาระ
(พศว. 6 9)
ศ. มถุรา
(พศว. 6
-9)
ศ. อมราวดี
(พศว. 7 - 10)
ศ. คุปตะ (พศว. 9 - 11)
ศ. หลังคุปตะ (พศว. 11 - 13)
•ศ.อินเดีย N
•ศ. อินเดีย S
- 4.
- 5.
ปูพื้นฐานศาสนาฮินดู
ประวัต ิศ าสนาฮินดู
ระ ศาสนา คัม ภี
พัฒ นาการ
ยะ
ร์
1 พระเวท
พระเ นับถือเทพเจ้าธรรมชาติ
วท (พระอินทร์,พระวรุณ,พระอัคนี)
2 เกิดศาสนา คนหันไปนับถือพุทธศาสนามาก
พุทธ
3 ฮินดู
ปุรา ยกตรีมรติขึ้นเป็นพระเจ้าสูงสุด
ู
ณะ (พระพรหม,พระวิษณุ,พระศิวะ)
กดเทพเจ้าเดิมเป็นเทพชั้นรอง
เกิด 2 นิกาย (แต่ไม่มนิกายของ
ี
- 6.
ปูพื้นฐานความรู้พุทธศาสนา
นิก า
ย
เถรว
าท
มหา
ยาน
นิก ายในพุทธศาสนา
ลัก ษณะสำา คัญ
ศิล ปะที่
เจริญ
นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียว อินเดีย
โบราณ
อมราวดี
นับถือพระพุทธเจ้าหลาย
คันธาระ
องค์
+มถุรา
นับถือพระโพธิสัตว์หลาย
คุปตะ
องค์
ตันต นับถือพระพุทธเจ้า+ พระ
ปาละ
ระยะที่
เจริญ
พศว.
1-10
พศว.
6-13
พศว.
- 7.
ความรู้เ บื้อ งต้นเกี่ย วกับ
พระพุท ธรูป (อาสนะ -มุท รา )
พระพุทธรูป → ประกอบไปด้วย”อาสนะ” และ
“มุทรา”
อาสนะ = ท่าประทับนั่ง, มุทรา อาสนะ
= การแสดง
พระหัตถ์
ขัดสมาธิราบ (วีรา
อาสนะ = ท่า
สนะ)
ประทับนัง → ใน
่
ศิลปะอินเดียมี 3
ขัดสมาธิเพชร (วัช
อาสนะสำาคัญ
ราสนะ)
ประทับนั่งห้อย
- 8.
- 9.
- 10.
ความรู้เ บื้อ งต้นเกีย วกับ มุท รา
่
มุทรา = การแสดงพระหัตถ์ → ในศิลปะอินเดีย
มี 6 มุทราสำาคัญ
ปางประทานอภัย
ปางประทานพร
ปางประทานอภัย
(อภัยมุทรา)
ปางสมาธิ
(ธยานมุทรา)
ปางประทาน
ธรรม/สังสอน
่
(วิตรรกมุทรา)
ปางประทานพร
(วรทมุทรา)
ปางมารวิชย
ั
(ภูมิศปรรศมุทรา)
ปางปฐมเทศนา
(ธรรมจักรมุทรา)
- 11.
- 12.
- 13.
เสริม
พระนาคปรก =
อินเดีย Sเสมอ
พระหัตถ์ขวา
จีบเป็นวง
นิยมเฉพาะอินดีย S
วิตรรก
พระหัตถ์ขวา
จีบเป็นวง
พระหัตถ์ซ้ายชี้ไป
ยังพระหัตถ์ขวา
นิยมเฉพาะอินดีย N
ธรรมจักร
- 14.
- 15.
ระบบอาทิพุทธ-ธยานิพุทธ (พุทธ
ตันตระ)
1. อาทิพทธ
ุ
สร้างโลก+ สร้างธยานิพุทธ
ไม่มีรูป
2. ธยานิพทธ (มี 5 องค์)
ุ
พระพุทธเจ้าประจำาทิศ (CESWN) + ผู้ดูแลแต่ละกัปป์
ประทับบนสวรรค์ + มีกายทิพย์
3. มานุษิพุทธ (มี 5 องค์)
พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้+สั่งสอนบนโลก
ประทับบนโลก กายเนื้อ
4. ธยานิโพธิสัตว์ (มี 5 องค์)
พระโพธิสัตว์ประจำากัปป์
ดูแลโลกในระหว่างที่มนุษิพุทธปรินิพพานไปแล้ว
- 16.
- 17.
- 18.
- 19.
- 20.
ศิลปะอินเดียโบราณ
พศว. 3-6
เป็นศิลปะของพวกอารยัน→ ลุ่มนำ้าคงคา-ยมุนา(ต่อมาขยายไปแคว้นมหาษฏร์)
ราชวงศ์เมารยะ-ศุงคะ
สมัย
ศาสนา
สมัยอารยันระยะแรก
ศาสนาพระเวท
พุทธกาล
เกิดศาสนาพุทธ
พระเจ้าอโศก
เดิม = ขยายอาณาจักร
ด้วยสงคราม
K สำาคัญสุดของ ร.เมา
รยะ
อินเดียโบราณตอนต้น
พศว.3
ยังไม่มการสร้างสถาปัตยก
ี
รม+ประติมากรรมด้วยถาวรวัตถุ
-
ต่อมา = ศรัทธา + อุปถัมป์
พุทธเถรวาท
ศาสนาพราหมณ์ แต่ก็อุป
อินเดียโบราณตอนปลาย ถัมป์ศาสนาพุทธ
พศว.5-6
ร.ศุงคะ
ศิล ปกรรม
สถูป+ประตู(โตรณะ)+
รั้วรอบ(เวทิกา)
ทีภารหุต +สาญจี
่
- 21.
- 22.
- 23.
- 24.
- 25.
- 26.
พุท ธประวัต ิ
ตอนสุบิน นิม ต
ิ
(ฝัน ของพระนาง
มหามายา )
พระนาง
มหามายา
กำาลังบรรทม
“ช้าง” =พระโพธิสัตว์
เสด็จลงสู่พระครรภ์
สมัย อิน เดีย โบราณ
Perspective อย่า งง่า ยๆ
บุคคล/สิ่งอื่น = วางซ้อนอยู่
ด้านบนโดยที่ไม่ได้มีขนาด
เล็กลง
- 27.
- 28.
พุท ธประวัต ิตอนตรัส รู้
ต้นโพธิ์ตรัสรู้
อาคารคลุมต้นโพธิ์
“โพธิฆระ”
เทวดาแสดง
ความยินดี
บัลลังก์ตรัสรู้
“โพธิบัลังก์”
มารพ่ายหนี
- 29.
ตัว อย่า งพุทธ
ประวัต ิต อนอื่น ๆ
พระพุทธบาท
ด้านบน
= เริมเสด็จลง
่
แทนด้วยธรรมจักร
(ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร)
1
ปฐมเทศนา
“เสด็จลงจากดาวดึงส์”
แทนด้วยบันไดเปล่า
3
บัลลังก์เปล่า =
ประทับ+เทศน์
บนโลกมนุษย์
2
พระพุทธบาทด้านล่าง =
เสด็จถึงโลกมนุษย์
พระบาทหลายพระบาท
= แสดงการเคลื่อนไหว
แทนด้วยสถูป
ปรินิพพาน
- 30.
- 31.
- 32.
ยักษิณเหนียวกิงไม้
ี
่
่
เหนี่ยวกิ่งไม้
ยักษิณี =เทวีประจำาต้นไม้
มักแสดงการเหนี่ยวกิ่งไม้
ประดับอยู่
บนเวทิกา
เท้ากระแทกต้นไม้ = ทำาให้
ต้นไม้ออกผล
ใส่กำาไล
ผ้านุ่งอินเดียโบราณ
ผ้าหนา → มอง
ไม่เห็นองคเพศ
ข้อมือ+ข้อเท้า
จำานวนมาก
เดิม → คนนับถือ
ยักษ์ + ยักษิณี (เทพพื้นเมือง)
ต่อมา → เกิดศาสนาพุทธ →
ต้องการที่จะผนวกลัทธิ
นับถือยักษ์ + ยักษิณี
เหยียบสัตว์พาหนะ
ยักษ์ + ยักษิณี ถูกนำามาสลักไว้ที่
เวทิกา ≈ เป็นบริวารของ
พระพุทธเจ้า
- 33.
- 34.
ศิลปะอินเดียสมัยที่ 2 กับการ
ประดิษฐ์พระพุทธรูป
ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูปมนุษย์ทั้ง3 ศิลปะ
เกิดข้อถกเถียงว่า ระหว่าง ศิลปะคันธาระ vs ศิลปะมถุรา →
ศิลปะใดเกิดพระพุทธรูปก่อนกัน (ใน Class นี้ เราจะเรียน
เฉพาะทฤษฎีคันธาระเกิดพระพุทธรูปก่อน)
ศิลปะอมราวดี = sure ว่าเกิดพระพุทธรูปทีหลังสุด เพราะ
อมราวดีตอนต้น = ไม่
กล้าสร้างพระพุทธรูป
= อิทธิพลอินเดีย
โบราณ
อมราวดีตอนปลาย = เริ่ม
เกิดพระพุทธรูป = อิทธิพล
คันธาระ-มถุรา
- 35.
- 36.
- 37.
- 38.
- 39.
- 40.
- 41.
- 42.
- 43.
ศิลปะอมราวดี (พศว.7-10)
ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก =อมราวดี + นาคาร
ชุนโกณฑะ (อานธรประเทศ)
เดิม = ราชวงศ์ศาตวาหนะ (ศูนย์กลางศิลปกรรม
หลัก = อมราวดี) ต่อมา = ราชวงศ์อิกษวากุ
(ศูนย์กลางศิลปกรรมหลัก = นาคารชุนโกณฑะ)
สืบมาจากศิลปะอินเดียโบราณ
อมราวดีตอนต้น = ใช้สัญลักษณ์แทน
พระพุทธเจ้า (สืบมาจากอินเดียโบราณ)→
อมราวดีตอนปลาย = ปรากฏพระพุทธรูปเป็นรูป
มนุษย์ แต่บางครั้งก็ยังใช้สญลักษณ์ควบคูอยู่
ั
่
- 44.
- 45.
- 46.
ภาพเล่า เรื่อ งในศิลปะอมราวดี
อมราวดีตอนต้น = ใช้สัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า (สืบ
มาจากอินเดียโบราณ)
เมืองกบิล
เมื
อมราวดีตอนปลาย = ปรากฏพระพุทธเจ้าเป็นรูป องกบิล
ม้า + ฉัตร
พัสดุ์
พัสดุ์
= สืบมา
มนุษย์
ม้า + ฉัตร
ม้าเปล่า
การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดีตอนต้น)
ม้ามีคนขี่
การแสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์
(อมราวดีตอนปลาย)
- 47.
- 48.
- 49.
- 50.
- 51.
- 52.
อุษณีษะ & พระเกศา=
คันธาระ + อมราวดี
(ต่อมาปูพื้นฐานให้ทุก
ศิลปะ)
“มวย
ณีษะแบบ
อุษ
ว
ขม
้นห
ดก
พระเนตรเหลือบตำ่า
→ ดูสงบ
ลักษณะเฉพาะคุปตะ
า
กศ
ะเ
พร
อุณาโลมหายไป
ลักษณะเฉพาะคุปตะ
ผม”
พระพุทธรูปคัน
ธาระ
อย
เศียรพระพุทธรูป
คุปตะ (ทั้ง 2
พระพุทธรูปอมราว
- 53.
- 54.
- 55.
- 56.
- 57.
ปรินิพพาน ที่กสินารา
ุ
(ด้านบนสุดเสมอ)
พระแปดปาง
ในศิลปะปาละ
เสด็จลง
จากดาวดึงส์
สังกัสสะ
ศิลปะปาละ→ ปรากฏการทำา
ปราบช้างนาฬาคีรี
พุทธประวัติ 8 ตอน ในแผ่น
เมืองราชคฤห์
เดียวกัน
8 ตอน เรียกว่า อัษฏมหาปาฏิหาริย์ (สังเวชนียสถาน 4 +
แสดงยมก- มหาปาฏิหาริย์ 4)
ปาฏิหาริย์
สาวัตถี สังเวชนียสถาน 4 →
ประสูติ,ตรัสรู้,ปฐมเทศนา,ปรินิ
พพาน
ปฐมเทศนา
สารนาถ
ประสูติ
สวนลุมพินี
ตรัสรู้ ที่พทธคยา
ุ
(เป็นประธานเสมอ)
มหาปาฏิหาริย์ 4 → ปราบ
ช้างนาฬาคีรี,แสดงยมก
ปาฏิหาริย์,เสด็จลงจาก
ดาวดึงส์,รับบาตรจากพญา
วานร
รับบาตรจาก
พญาวานร
ป่าเลไลยก์
- 58.
- 59.
- 60.
- 61.
- 63.
มีอุณาโลม
= ปาละ
≠ หลังคุปตะ
ธรรมจักรมุทรา
=อินเดีย N
่
แต
ง
ี
เฉีย ยจวร
่
หม ีชา
ย
ซ้า ละ
่ม
ไม อังสา ปา
ะ
ี่พร ุปตะ ≠
ท ค
ัง
หล
=
ไม่มีอุณาโลม
คุปตะ+หลังคุปตะ
ธรรมจักรมุทรา
= อินเดีย N
นั่งห้อยพระบาท
= อินเดีย N
ชายจีวร
ด้านล่างเป็น
เขี้ยวตะขาบ
= ปาละ
≠ หลังคุปตะ
พระพุทธรูป
ภายในจันทิ
เมนดุต
่
แต
ง
ี
เฉีย ยจวร
่
หม ีชา
้าย
่
ม
าซ
ไม อังส
ะ
ี่พร
ท
นั่งพระชานุแยก
แต่พระบาทชิด
เช่นกัน
พระพุท ธรูป ประธานที่
จัน ทิเ มนดุต = พระพุท ธ
รูป แสดงธรรมจัก รมุท รา
นั่งห้อยพระบาท
= อินเดีย N
พระพุท ธรูป ที่ถ ำ้า เอลโลร่า
- 64.
- 65.
อุณาโลม
= ปาละ
อุษณีษะ+พระเกศา
= คุปตะ-ปาละ
มีอุณาโลม= ปาละ
พระยืนห่มคลุม
แต่พระนั่งห่มเฉียง
อิทธิพลปาละ
จีวรเรียบไม่มริ้ว
ี
เหมือนทังคุปตะ,หลังคุปตะ
้
& ปาละกลุ่มหนึ่ง
ชายจีวรด้านล่าง
เขียวตะขาบ
้
= ปาละ
ขัดสมาธิเพชร
อินเดีย N
ั้น
ั่ง
ะน จวรส
พร าย ี า
ี
ช
ส
ม่ม ระอัง ตะ
ไ
ถ้า ที่พ คุป ะ)
ัง
ล
หล = ปา
= ี
ม
(ถ้า
- 66.
- 67.
ยุค สมัย ในศิลปะขอม
สมัย
ก่อนเมืองพระนคร
(พศว. 12 - 14)
ชื่อ ศิล ปะ
พนมดา, ถาลาบริวัติ,
สมโบร์ไพรกุก,ไพรเกมง,
กำาพงพระ
หัวเลี้ยวหัวต่อ
(พศว. 14 - 15)
กุเลน, พระโค
เมืองพระนคร
(พศว. 14 - 18)
บาแค็ง, เกาะแกร์, แปรรูป,
บันทายสรี, คลัง, นครวัด, บายน
- 68.
- 69.
- 70.
- 71.
สมัย
มิเซิน E1
มิเซิน (ภัทเรศวร)
ดงเดือง
อมราวดี/อินทรปุระ
ป.ฮุงถาญ
วิชัย
อาณาจักรจามปา
แบ่งได้3 แคว้น
โพกลวงการาย,โพโรเม
ปาณฑุรังค์
พศว.
13
หัวล่าย
14
ดงเดือง
(อินทรปุ
ระ
มิเซิน)A1
15
ต้น
(อินทรปุ
ระ)
บิญดิ่น
(วิชัย)
สมัยหลัง
15
ปลาย
– 16
17-18
อิทธิพ
ล
อินเดี
ย
ชวา
จีน
พืน
้
เมือง
ชวา
ประวัติศาสตร์
ศิวลึงค์ประจำา
อาณาจักรทีมิเซิน
่
(ภักเรศวร)
ชวาบุทรุก (พร้อม
ขอม) ิ
เมืองหลวงที่อนทร
ปุระ
พุทปะเจริญสูงสุด
ศิลธมหายานจาก
จีน
จีน
เวียดนามเริ่ม
บายน โจมตี→ ย้ายเมือง
หลวงไปวิชัย
บุกรุกขอม + ขอม
บุกรุกกลับ
19 ลง จีน
เวียดนามโจมตี →
มา
ถอยไปปาณฑุรังค์
→ ต่อมาเวียดนาม
กลืน
- 72.
- 73.
- 74.
อังวะ
พม่า
ปยู
ตองอู
หงสาว
ดี
มอญ
ศิล ปะพม่า แบ่งได้ 4 สมัย
สมัยที่
พม่า N
พม่า S
1
ศรีเกษตร (ปยู) สุธรรมวดี /
(12 สะเทิม
16)
(มอญ)
2
(16 19)
พุกาม (พม่า)
พระเจ้าอโนรธาตีมอญ + รับ
พุทธเถรวาท
3
(19 23)
อังวะ (พม่า)
ตองอู (พม่า)
หงสาวดี
(มอญ)
พระเจ้า
ธรรมเจดีย์
4
(23 25)
ราชวงศ์คองบอง (พม่า)
อังวะ – อมรปุระ – มัณฑเล
พระเจ้าอลองพญา + มังระ
พระเจ้ามินดง
- 75.
- 76.
- 77.