ประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ ประถมศึกษาปีที่6
- 5. สมัยที่ ๑ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
กรม หังหน้ากรม
กรมกลาโหม สมุหกลาโหม
กรมมหาดไทย สมุหนายก
การเวียง เจ้าพระยากรมราช
กรมวง เจ้าพระยาธรมมาธิกรณ์
กรมคลัง เจ้าพระยาโกษาธิบดี
กรมนา เจ้าพระยาพรมเทพ
- 16. สมัยที่ ๓ สมัยปฏิรูปการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย
การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 (หรือเรียกว่าเป็น รัฐประหาร หรือ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง) เป็นจุดเปลี่ยน
สาคัญในประวัติศาสตร์ไทยในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ซึ่งมีผลทาให้
ราชอาณาจักรสยามเปลี่ยนรูปแบบประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และเปลี่ยน
รูปแบบการปกครองไปเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เกิดขึ้นจากคณะนายทหารและพลเรือนที่ประกอบกันขึ้นเป็นพรรค
การเมืองพรรคแรกของสยาม ที่เรียกตัวเองว่า "คณะราษฎร" โดยเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์โลก
ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองภายในประเทศ การปฏิวัติดังกล่าวยังทาให้ประชาชนชาวสยามได้รับรัฐธรรมนูญ
ฉบับแรกอีกด้วย
- 17. 1. จังกอบ หรือ จากอบ เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากการชักส่วนสินค้า ที่นาเข้ามาจาหน่ายตามที่ได้อธิบายข้างต้น
2. อากร หมายถึง ส่วนที่เก็บจากผลประโยชน์ที่ราษฎรทามาหาได้ในการประกอบการต่างๆเช่น ทานา ทาไร่ ทาสวน
ฯลฯ หรือการได้รับสิทธิจากรัฐบาลไปกระทาการ เช่น ต้มกลั่นสุรา เก็บของในป่า จับปลาในน้า ฯลฯ เช่น อากรค่านา อากร
สวน อากรสุรา อากรค่าน้า เป็นต้น การเก็บอากรอาจจัดเก็บเป็นตัวเงินหรือเป็นสิ่งของ ถือเป็นภาษีที่จัดเก็บตามหลัก
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากรัฐไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
3. ส่วย ความหมายของส่วย สมเด็จฯกรมพระยาดารงราชานุภาพได้ทรงสันนิษฐานว่า คาว่า ส่วย
4. ฤชา คือค่าธรรมเนียมที่ทางราชการเรียกเก็บจากราษฎรซึ่งได้รับประโยชน์จากรัฐเป็นการเฉพาะตัว เช่น ผู้ใดจะขอ
โฉนดตราสาร เพื่อมิให้ผู้อื่นบุกรุกแย่งชิงที่เรือกสวนไร่นา จักต้องเสียฤชาแก่รัฐ เป็นต้น ฤชาที่สาคัญได้แก่ ค่าธรรมเนียม
และค่าปรับทางการศาล
- 19. 1. ก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นสมัยของกษัตริย์พระองค์ใด
ก. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ข. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ค. สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
ง. สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
2. บุคคลใดที่ทาให้การจลาจลในกรุงธนบุรีสงบลง
ก. สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ข. สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
ค. เจ้าพระยามหาสุรสิงหนาท
ง. พระยาพิชัย
3. ข้อใด ไม่ใช่สาเหตุการย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรี
ไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้าเจ้าพระยา
ก. ฝั่งตะวันออกมีพื้นที่กว้าง
ข. กรุงธนบุรีมีความคับแคบ
ค. เป็นชัยภูมิที่ป้ องกันข้าศึกได้
ง. ฝั่งตะวันออกมีความงดงามมาก
- 20. 4. เพราะเหตุใด รัชกาลที่ 1 จึงทรงเห็นว่ากรุงธนบุรีคับแคบ
ไม่สามารถขยายออกไปได้อีก
ก. มีน้าเซาะตลิ่งพัง ข. ตั้งอยู่ริมแม่น้า
ค. มีวัดขนาบสองด้าน ง. มีแม่น้าไหลผ่าน
5. ข้อใดไม่ใช่เหตุผลในการเลือกกรุงเทพเป็นราชธานี
ก. พระราชวังเดิมคับแคบ
ข. ทาเลที่ตั้งมีความอุดมสมบูรณ์
ค. กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอกแตก
ง. เป็นชัยภูมิที่ดีในการป้ องกันข้าศึก
6. ข้อใดไม่ใช่ชนชั้นปกครอง
ก. สามัญชน ข. ขุนนาง
ค. เชื้อพระวงศ์ ง. พระมหากษัตริย์
7. การปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเป็นการ
ปกครองแบบใด
ก. แบบประชาธิปไตย
ข. แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
ค. แบบประธานาธิบดี
ง. แบบเผด็จการทหาร