Submit Search
Upload
อารยธรรมอินเดีย
•
Download as PPTX, PDF
•
2 likes
•
5,147 views
T
Toey Songwatcharachai
Follow
อ.ปรางค์สุวรรณ ศักดิ์โสภณกุล
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 24
Download now
Recommended
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Gain Gpk
ศาสนาเปรียบเทียบ (Comparative Religion) สังคมศึกษา ม.ปลาย
ศาสนาเปรียบเทียบ (Comparative Religion) สังคมศึกษา ม.ปลาย
Bom Anuchit
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Toey Songwatcharachai
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
พัน พัน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
พัน พัน
2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย
Jitjaree Lertwilaiwittaya
ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น)
ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น)
พัน พัน
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
Padvee Academy
Recommended
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Gain Gpk
ศาสนาเปรียบเทียบ (Comparative Religion) สังคมศึกษา ม.ปลาย
ศาสนาเปรียบเทียบ (Comparative Religion) สังคมศึกษา ม.ปลาย
Bom Anuchit
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Toey Songwatcharachai
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
พัน พัน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
พัน พัน
2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย
Jitjaree Lertwilaiwittaya
ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น)
ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น)
พัน พัน
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
Padvee Academy
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน
Padvee Academy
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Infinity FonFn
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
Kran Sirikran
งานนำเสนอ อารยธรรมจีน
งานนำเสนอ อารยธรรมจีน
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
การสำรวจทางทะเล
การสำรวจทางทะเล
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์
Pannaray Kaewmarueang
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
thnaporn999
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
mintmint2540
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Hercule Poirot
ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลาม
นายวินิตย์ ศรีทวี
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
Santichon Islamic School
อิเหนา
อิเหนา
Warodom Techasrisutee
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พัน พัน
การเข้ามาและพัฒนาการพุทธศาสนาในประเทศไทย
การเข้ามาและพัฒนาการพุทธศาสนาในประเทศไทย
Padvee Academy
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Pannaray Kaewmarueang
ศาสนาสากล
ศาสนาสากล
ThanaponSuwan
ศิลปะไทย
ศิลปะไทย
Tonkao Limsila
#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย
Ppor Elf'ish
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
More Related Content
What's hot
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน
Padvee Academy
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Infinity FonFn
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
Kran Sirikran
งานนำเสนอ อารยธรรมจีน
งานนำเสนอ อารยธรรมจีน
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
การสำรวจทางทะเล
การสำรวจทางทะเล
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์
Pannaray Kaewmarueang
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
thnaporn999
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
mintmint2540
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Hercule Poirot
ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลาม
นายวินิตย์ ศรีทวี
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
Santichon Islamic School
อิเหนา
อิเหนา
Warodom Techasrisutee
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
พัน พัน
การเข้ามาและพัฒนาการพุทธศาสนาในประเทศไทย
การเข้ามาและพัฒนาการพุทธศาสนาในประเทศไทย
Padvee Academy
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Pannaray Kaewmarueang
ศาสนาสากล
ศาสนาสากล
ThanaponSuwan
ศิลปะไทย
ศิลปะไทย
Tonkao Limsila
What's hot
(20)
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
งานนำเสนอ อารยธรรมจีน
งานนำเสนอ อารยธรรมจีน
การสำรวจทางทะเล
การสำรวจทางทะเล
เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลาม
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
งานนำเสนอลิลิตเตลงพ่าย
อิเหนา
อิเหนา
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
การเข้ามาและพัฒนาการพุทธศาสนาในประเทศไทย
การเข้ามาและพัฒนาการพุทธศาสนาในประเทศไทย
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
ศาสนาสากล
ศาสนาสากล
ศิลปะไทย
ศิลปะไทย
Similar to อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย
Ppor Elf'ish
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
นายวินิตย์ ศรีทวี
004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร
Aniwat Suyata
บทที่ ๒ ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
บทที่ ๒ ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
Dnnaree Ny
เฉลยใบงาน 6.1
เฉลยใบงาน 6.1
ครูพงศ์พิชิต เนตรปฐมพร
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
sorrachat keawjam
อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาตร์
อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาตร์
NisachonKhaoprom
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
teacherhistory
จังหวัดปราจีนบุรี
จังหวัดปราจีนบุรี
KKloveyou
Chapter2
Chapter2
Garsiet Creus
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
Indus1
Indus1
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
พระธาตุชเวดากอง
พระธาตุชเวดากอง
Thammasat University
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
เตชะชิน เก้าเดือนยี่
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
mintmint2540
Similar to อารยธรรมอินเดีย
(20)
#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร
บทที่ ๒ ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
บทที่ ๒ ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
เฉลยใบงาน 6.1
เฉลยใบงาน 6.1
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์
อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาตร์
อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาตร์
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน2
จังหวัดปราจีนบุรี
จังหวัดปราจีนบุรี
Chapter2
Chapter2
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Indus1
Indus1
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
พระธาตุชเวดากอง
พระธาตุชเวดากอง
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
อารยธรรมอินเดีย
1.
อารยธรรมอินเดีย
2.
อารยธรรมอินเดีย อินเดีย เป็นต้นสายธารทางวัฒนธรรมของชาติตะวันออก (ชนชาติในทวีป เอเชีย)
หลายชาติ เป็นแหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก บางทีเรียกว่า “แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ” (Indus Civilization)
3.
4.
อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคโลหะของอินเดียเริ่มเมื่อผู้คนรู้จักใช้ทองแดงและ สาริด เมื่อประมาณ
2,500 ปี ก่อนคริสต์ศักราช และรู้จักใช้เหล็กในเวลาต่อมา พบ หลักฐานเป็นซากเมืองโบราณ 2 แห่ง ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้าสินธุ คือ
5.
Mohenjodaro เมืองโมเฮนโจดาโร ทางตอนใต้ของประเทศปากีสถาน
6.
Harappa เมืองฮารัปปา ในแคว้นปันจาป ประเทศปากีสถานในปัจจุบัน
7.
สมัยอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ สมัยอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ (ประมาณ 2,500-1,500
ปี ก่อนคริสต์ศักราช) ถือว่าเป็น สมัยอารยธรรม “กึ่งก่อนประวัติศาสตร์” เพราะมีการค้นพบหลักฐานจารึกเป็นตัวอักษรโบราณ แล้วแต่ยังไม่มีผู้ใดอ่านออก และไม่แน่ใจว่าเป็นตัวอักษรหรือภาษาเขียนจริงหรือไม่ ศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่เมืองโมเฮนโจดาโร และเมืองฮารัปปา ริมฝั่งแม่น้าสินธุประเทศ ปากีสถานในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าเป็นอารยธรรมของชนพื้นเมืองเดิม ที่เรียกว่า “ทราวิฑ” หรือ พวกดราวิเดียน (Dravidian)
8.
อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาสตร์ สมัยพระเวท (ประมาณ 1,500-600
ปีก่อนคริสต์ศักราช ) เป็นอารยธรรมของชนเผ่าอิน โด-อารยัน ซึ่งอพยพมาจากเอเชียกลาง เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้าสินธุและคงคา โดยขับไล่ชนพื้น เมืองทราวิฑให้ถอยร่นลงไปทางตอนใต้ของอินเดีย สมัยพระเวทแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของศาสนาพราหมณ์ หลักฐานที่ทาให้ทราบ เรื่องราวของยุคสมัยนี้ คือ “คัมภีร์พระเวท” ซึ่งเป็นบทสวดของพวกพราหมณ์ นอกจากนี้ยังมีบท ประพันธ์มหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่อีก 2 เรื่อง คือ มหากาพย์รามายณะและมหาภารตะ บางทีจึงเรียกว่า เป็นยุคมหากาพย์
9.
สมัยจักรวรรดิ สมัยจักรวรรดิมคธ ตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกของลุ่มน้าคงคา กษัตริย์ที่มี ชื่อเสียงของมคธ
2 พระองค์ คือ พระเจ้าพิมพิสาร และพระเจ้าอชาตศัตรู ในระบอบการปกครอง กษัตริย์มีพระราชอานาจสูงสุด มีขุนนางข้าราชการ เป็นผู้ช่วย 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และฝ่ายการทหาร รวมเรียกว่า มหา มาตระ สิ่งที่แสดงถึงอารยธรรมอันรุ่งเรืองของจักรวรรดิมคธคือ พระพุทธศาสนา ซึ่งได้รับการอุปถัมภ์จากพระเจ้าพิมพิสารและพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นอย่างมาก จักรวรรดิมคธกลายเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา ส่งผลให้พระพุทธศาสนา ยิ่งได้รับการเผยแผ่ไปอย่างกว้างไกล ขณะเดียวกันศาสนาพราหมณ์ก็กาลังเสื่อม ลง
10.
สมัยจักรวรรดิ สมัยจักรวรรดิเมารยะ (Maurya) ประมาณ 321-184
ปี ก่อนคริสต์ศักราช พระเจ้าจันทรคุปต์ปฐม กษัตริย์ราชวงศ์เมารยะได้รวบรวมแว่นแคว้นใน ดินแดนชมพูทวีปให้เป็นปึกแผ่นภายใต้จักรวรรดิที่ ยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกของอินเดีย สมัยราชวงศ์เมารยะ พระพุทธศาสนาได้รับการ อุปถัมภ์ให้เจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้า อโศกมหาราช(Asoka) ได้เผยแพร่พระพุทธศาสนา ไปยังดินแดนทั้งใกล้และไกลรวมทั้งดินแดนใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเผยแพร่เข้าสู่ แผ่นดินไทยในยุคสมัยที่ยังเป็นอาณาจักรทวารวดี
11.
สมัยจักรวรรดิ สมัยราชวงศ์กุษาณะ (ประมาณ 200
ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ.320) พวกกุษาณะ (Kushana) เป็น ชนต่างชาติที่เข้ามารุกรานและตั้งอาณาจักรปกครองอินเดียทางตอนเหนือ กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ คือ พระเจ้ากนิษกะ รัชสมัยของพระองค์อินเดียมีความเจริญรุ่งเรืองทางด้าน ศิลปวิทยาการแขนงต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการแพทย์ นอกจากนั้นยังทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา (นิกายมหายาน) ให้เจริญรุ่งเรือง โดยจัดส่ง สมณทูตไปเผยแพร่พระศาสนายังจีนและทิเบต มีการสร้างพระพุทธรูปที่มีศิลปะงดงาม และ สร้างเจดีย์ใหญ่ที่เมืองเปชะวาร์
12.
สมัยจักรวรรดิ สมัยจักรวรรดิคุปตะ (Gupta) ประมาณ
ค.ศ.320-550 พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 1 ต้น ราชวงศ์คุปตะได้ทรงรวบรวมอินเดียให้เป็นจักรวรรดิอีกครั้งหนึ่ง ได้ชื่อว่าเป็นยุคทอง ของอินเดีย มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม การเมือง การ ปกครอง ปรัชญาและศาสนา ตลอดจนการค้าขายกับต่างประเทศ สมัยหลังราชวงศ์คุปตะ หรือยุคกลางของอินเดีย (ค.ศ.550 – 1206) เป็นยุคที่ จักรวรรดิแตกแยกเป็นแคว้นหรืออาณาจักรจานวนมากต่างมีราชวงศ์แยกปกครองกันเอง สมัยสุลต่านแห่งเดลฮี หรืออาณาจักรเดลฮี (ค.ศ.1206-1526) เป็นยุคที่พวกมุสลิม เข้ามาปกครองอินเดีย มีสุลต่านเป็นผู้ปกครองที่เมืองเดลฮี
13.
สมัยจักรวรรดิ สมัยจักรวรรดิโมกุล (Mughul) ประมาณ
ค.ศ.1526 – 1858 พระเจ้าบาบูร์ ผู้ก่อตั้ง ราชวงศ์โมกุลได้รวบรวมอินเดียให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้งหนึ่ง ได้ชื่อว่าเป็นจักรวรรดิอิสลามและ เป็นราชวงศ์สุดท้ายของอินเดีย โดยอินเดียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี ค.ศ. 1858 กษัตริย์ราชวงศ์โมกุลที่ยิ่งใหญ่ คือ พระเจ้าอักบาร์มหาราช (Akbar) ทรงทะนุบารุง อินเดียให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน และในสมัยของชาห์ เจฮัน (Shah Jahan) ทรง สร้าง “ทัชมาฮัล” (Taj Mahal) ซึ่งเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ ผสมผสานศิลปะอินเดียและเปอร์เซียที่มีความงดงามยิ่ง
14.
Taj Mahal
15.
• ระบบวรรณะ คัมภีร์พระเวทแบ่งคนออกเป็น
4 วรรณะ ได้แก่ 1.วรรณะพราหมณ์ คือ ผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เชื่อว่ากาเนิดมาจากปากของพระพรหม 2.วรรณะกษัตริย์ทาหน้าที่ปกป้องประชาชนและเป็นผู้นารัฐ เชื่อว่ากาเนิดมาจากหน้าอกของพระ พรหม 3.วรรณะแพศย์คือ ผู้ประกอบพาณิชกรรม เกษตรกรรม ซึ่งเป็นวรรณะของคนส่วนใหญ่ในสังคม เชื่อว่ากาเนิดมาจากมือของพระพรหม 4.วรรณะศูทร คือ กรรมกร เชื่อว่ากาเนิดมาจากเท้าของพระพรหม - ถ้ามีการแต่งงานข้ามวรรณะ บุตรที่เกิดมาจะกลายเป็น“จัณฑาล”ซึ่งเป็นที่รังเกียจของทุกวรรณะ
16.
• ปรัชญาและลัทธิของสังคมอินเดีย อินเดียเป็นแหล่งกาเนิดศาสนาสาคัญ ได้แก่
พระพุทธศาสนา และศาสนาเชน ซึ่ง หลักคาสอนเป็นผลมาจากการไตร่ตรองเพื่อหาแนวทางการดาเนินชีวิตส่วนศาสนา พราหมณ์-ฮินดู หลักคาสอนมาจากการสร้างปรัชญาสนับสนุนความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า ชาวอินเดียมีความเชื่อและปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด จึงมีวิถีชีวิต ค่านิยม และแนวคิดสัมพันธ์กับศาสนาอย่างใกล้ชิด
17.
• เทพเจ้าของอินเดีย ในตอนต้นชาวอารยันนับถือเทพเจ้าที่มีอิทธิพลต่อ ชีวิตมนุษย์เช่น ดวงอาทิตย์ฝน
พายุภายหลังเกิดระบบ ชน ชั้นขึ้นได้มีการนับถือเทพเจ้า3 องค์หรือพระตรีมูรติ ได้แก่ 1.พระพรหม เชื่อว่าเป็นผู้สร้างโลกและทุกสรรพสิ่ง 2.พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ เป็นเทพผู้รักษาคุ้มครองโลก 3.พระอิศวร หรือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุดและเป็นเทพผู้ ทาลาย ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในบางนิกายมีความเชื่อเรื่อง การทารุณโหดร้ายเช่น การบูชายัญ
18.
• สถาปัตยกรรม - ซากเมืองฮารับปาและโมเฮนโจดาโร
สมัยอารยธรรมลุ่ม แม่น้าสินธุ แสดงถึงการวางผังเมืองอย่างดีและ สาธารณูปโภคซึ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความ สวยงาม - ในสมัยราชวงศ์เมารยะ มีการสร้างสถูป เสาหิน เช่น พระสถูปที่สาญจี - สมัยราชวงศ์กุษาณะ เกิดศิลปะขึ้น 3 แบบ คือ คันธา ระ มถุรา และอมราวดี - ในสมัยมุสลิม ศิลปะอินเดียจะผสมกับเปอร์เซีย เช่น ทัช มาฮาล
19.
• ประติมากรรม - รุ่นแรกๆอยู่ในสมัยเมารยะ
เป็นประติมากรรมลอยตัวขนาดใหญ่ แข็ง กระด้าง และมีภาพสลักนูนต่าพุทธประวัติ - พระพุทธรูปสมัยแรก คือ แบบคันธาระ ได้รับอิทธิพลจากกรีก - พระพุทธรูปของศิลปะมถุรา ได้อิทธิพลจากคันธาระผสมกับศิลปะ พื้นเมือง คล้ายแบบคันธาระ แต่จะมีพระเศียรเกลี้ยง พระ พักตร์กลม จีวรบางกว่าแบบคันธาระและแนบสนิทกับลาตัว - พระพุทธรูปในศิลปะอมราวดี เป็นแบบผสมอิทธิพลกรีก พระพักตร์ยาว มีพระเกตุมาลาชัดเจน มีขมวดพระเกศา ครองจีวรหนาและมักห่มเฉียง - สมัยคุปตะ เป็นศิลปะที่แสดงถึงอินเดียอย่างแท้จริง เช่น พระพุทธรูป ปางปรินิพพานในถ้าอชันตะ แต่ในสมัยหลังคุปตะ ประติมากรรมถูก สร้างตามกฎเกณฑ์มากขึ้น และไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
20.
• จิตรกรรม - จิตรกรรมสมัยเมารยะส่วนใหญ่สูญหายหมดแล้ว
และ ศิลปะอมราวดี ซึ่งเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงให้ เห็นถึงความงดงามอ่อนช้อย แต่ก็มีการลบเลือนไปมาก - ยุครุ่งเรืองที่สุดของจิตรกรรมอินเดีย คือ สมัยคุปตะ และหลังสมัยคุปตะ พบงานจิตรกรรมที่ ผนังถ้าอชันตะ เป็นภาพเขียนในพระพุทธศาสนาแสดงถึงชาดกต่างๆ ที่งดงามมาก ความสามารถในการวาดเส้นและการอาศัย เงามืดบริเวณขอบภาพ ทาให้ภาพแลดูเคลื่อนไหวให้ ความรู้สึกสมจริง
21.
• นาฏศิลป์และสังคีตศิลป์ เป็นศิลปะชั้นสูง
และเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมเพื่อบูชาพระเจ้า - นาฏศิลป์เกี่ยวกับการฟ้อนรามีต้นกาเนิดจากวัดราชสานัก และท้องถิ่น เช่น ภารตนาฏยัม - สังคีตศิลป์หรือการดนตรี มีบทสวดสรรเสริญเทพเจ้าเป็นแบบแผนการร้องที่เก่าแก่ที่สุด ในสังคีตศิลป์ของอินเดียแบ่งเป็นดนตรีศาสนา ดนตรีในราชสานัก และดนตรีท้องถิ่น เครื่องดนตรีสาคัญ คือ วีณาหรือพิณ ใช้สาหรับดีด เวณุหรือขลุ่ย และกลอง
22.
• วรรณกรรมเริ่มจากเป็นบทสวดและท่องจาสืบต่อกันมา โดยวรรณกรรมอินเดียจะเน้นไปทาง ศาสนา
แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.วรรณกรรมภาษาพระเวท ประกอบด้วย ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท และอาถรรพเวท 2.วรรณกรรมตันติสันสกฤต มักเป็นร้อยกรองที่เรียกว่า โศลก เรื่องสาคัญคือ มหาภารตะ และ รามายณะ และยังมีบทละครที่มีชื่อเสียง เรื่องศกุนตลา 3.วรรณกรรมสันสกฤตฺผสม ใช้เขียนหลักธรรมทางพุทธศาสนา งานที่มีชื่อเสียงคือ พุทธจริต 4.วรรณกรรมภาษาอื่นๆ ได้แก่ ภาษาบาลี ใช้เขียนหลักธรรมทางศาสนาพุทธนิกายเถรวาท เช่น พระไตรปิฎก
23.
• ภาษาศาสตร์ ชาวอินเดียให้ความสนใจด้านภาษามาก
มีการ แต่งหนังสือศัพทานุกรม(โกศะ)ขึ้นหลายเล่ม เมื่อมุสลิมเติร์กเข้า ปกครอง ได้นาเอาภาษาสันสกฤต ภาษาอารบิก และภาษาเปอร์ เชีย มาผสมกันเป็นภาษาใหม่ เรียกว่า ภาษาอูรดู ซึ่งเป็นภาษาที่ มุสลิมในอินเดียใช้พูดกันในปัจจุบัน • ธรรมศาสตร์และนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์มีพื้นฐานมาจาก ธรรมสูตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์พระเวท โดยมีหนังสือเล่ม แรกที่รวบรวมกฎและหน้าที่เกี่ยวกับฆราวาส คือ มานวธรรมศาสตร์ หรือ มนูสมฤติ ส่วนนิติศาสตร์หรือ อรรถศาสตร์ ว่าด้วยการเมืองการปกครอง และการบริหาร บ้านเมืองให้มั่งคั่ง โดยมีอรรถศาสตร์ของเกาฎิลยะ เป็นงาน เขียนที่เกี่ยวกับการเมืองการปกครองที่สาคัญ
24.
• แพทยศาสตร์ หลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งบอกว่าการแพทย์ของอินเดียมีมานานแล้ว
และยังมี หนังสือหลายเล่มกล่าวถึงวิชาการแพทย์เช่น อรรถศาสตร์ ระบุถึงการใช้ยาพิษต่างๆ • ชโยติษ (ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ คณิตศาสตร์)เป็นศาสตร์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรม โดยฤกษ์ยาม เป็นสิ่งสาคัญมาก จึงต้องอาศัยในเรื่องของดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพื่อ คานวณหาตาแหน่งของดวงดาวต่างๆ นอกจากนี้ชาวอินเดียยังเป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์เลขศูนย์ ทาให้เกิดหลักหน่วย สิบ ร้อย พัน ใช้ในการคานวณอีกด้วย
Download now