More Related Content
PDF
PDF
คู่มือ ลดพุง ลดโรค ฉบับประชาชน PPT
PDF
PPT
PPTX
PDF
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภค PPT
What's hot
PPTX
แนวทางการบริโภคอาหารสำหรับผู้สูงอายุ PPTX
แผ่นสไลด์ - ความหมายและความสำคัญของอาหารและโภชนาการ PPT
PDF
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน PPTX
PDF
สมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ PDF
PPTX
PPT
PPTX
PDF
PPTX
PDF
PDF
PPT
PDF
PDF
โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง PPTX
PDF
อาการที่สําคัญในผู้สูงอายุ PPTX
Similar to ลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วนลดโรค.ppt
PDF
PDF
รู้ทันอาหารกับหัวใจของเรา PPT
อาหารแลกเปลี่ยนและอาหารเพื่อสุขภาพ PPT
อาหารแลกเปลี่ยนและอาหารเพื่อสุขภาพ PPT
อาหารแลกเปลี่ยนและอาหารเพื่อสุขภาพ PDF
PPTX
PDF
PPT
PPT
DOC
PPT
อาหารแลกเปลี่ยนและอาหารเพื่อสุขภาพ PPT
อาหารแลกเปลี่ยนและอาหารเพื่อสุขภาพ PPTX
Behavior change by Nonthachai Boonruan PDF
PDF
7 เคล็ดลับกินอาหารอย่างไรไม่ให้อ้วน PDF
The influence of obesity by a diet high in saturated fats. PPT
เรื่องการหลีกเลี้ยงการกินอาหารที่ PPT
เรื่องการหลีกเลี้ยงการกินอาหารที่ PDF
ลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วนลดโรค.ppt
- 1.
- 2.
- 3.
- 4.
กินผักลดอ้วน ลดโรค (ต่อ)
กินผักให้ได้วันละ 4 ทัพพีในเด็กวัยเรียน (4 ช้อนกินข้าวต่อมื้อ)
ผู้ใหญ่ 6 ทัพพีต่อวัน (6ช้อนกินข้าวต่อมื้อ)
- 5.
- 6.
- 7.
- 8.
- 9.
- 10.
กิน ไขมัน แค่พอดีไม่มีอ้วน
เนื้อสัตว์ต่างๆ ที่ใช้ปรุงอาหาร ควรเลือกใช้เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน
หรือติดมันน้อย เช่น เนื้อไก่ ควรเลือกใช้ส่วนที่เป็นส่วนอกหรือ
สันในไก่ และหลีกเลี่ยงการใช้หนังไก่ หนังหมูในการปรุงอาหาร
ควรจากัดการบริโภคเครื่องในสัตว์ต่างๆ และไข่แดงในผู้ที่มี
ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดค่อนข้างสูง การบริโภคเนื้อปลา
ต่างๆ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เนื่องจากเนื้อปลาส่วนใหญ่จะให้
โปรตีนคุณภาพดีและไขมันต่า
- 11.
กิน ไขมัน แค่พอดีไม่มีอ้วน (ต่อ)
ปรับเปลี่ยนวิธีปรุงอาหารจากการทอดหรือผัดโดยใช้น้ามันมา
เป็นวิธีการต้ม นึ่ง หรือย่าง ก็จะเป็นวิธีการที่ช่วยจากัดปริมาณ
ไขมันในอาหาร
- 12.
กิน ไขมัน แค่พอดีไม่มีอ้วน (ต่อ)
ผู้ที่ดื่มนมเป็นประจาอาจเลือกดื่มนมพร่องหรือขาดไขมันได้ เพื่อ
ช่วยจากัดมิให้ระดับไขมันในเลือดสูงเกินปกติ ไม่แนะนาให้งด
ดื่มนมเนื่องจากนมให้โปรตีน แคลเซียมและวิตามินบี 2 ที่เป็น
ประโยชน์ต่อร่างกาย
- 13.
กิน ไขมัน แค่พอดีไม่มีอ้วน (ต่อ)
ลดการกินอาหารแปรรูปพวกแฮม ไส้กรอก หมูยอ เบคอน กุนเชียง
ซึ่งมีไขมันสูง
- 14.
หมูแฮม
หมูแฮม 1ขีด (100กรัม)มี 163 กิโลแคลอรี่ เป็นโปรตีน
16.6 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.83 กรัม
ไขมัน 8.6 กรัม โซเดียม 1.3 กรัม
แคลอรี่จากไขมันจะได้ 77 กิโลแคลอรี่ คิดเป็นพลังงาน
จากไขมัน 47% ของแคลอรี่ทั้งหมด
- 15.
ไส้กรอก
ไส้กรอกหมู 1ขีด (100 กรัม) มี 339 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 19.43
กรัม คาร์โบไฮเดรต กรัม ไขมัน 28.36 กรัม โซเดียม 0.75 กรัม
ไขมันสูงกว่าโบโลนาอีก คิดแคลอรี่จากไขมันได้255.24 กิโลแคลอรี่ คิด
เป็นพลังงานจากไขมัน 75% ของแคลอรี่ทั้งหมด
- 16.
เบคอน
เบคอน 1 ขีด(100 กรัม) มี 517 กิโลแคลอรี่ครับ โปรตีน
29.1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0.8 กรัม ไขมัน 44.2 กรัม โซเดียม
1.42 กรัม
ไขมันมากที่สุด คิดแคลอรี่จากไขมันได้ 397.8 กิโลแคลอรี่ คิดเป็น
พลังงานจากไขมัน 77% ของพลังงานทั้งหมด
- 17.
- 18.
กิน ไขมัน แค่พอดีไม่มีอ้วน (ต่อ)
หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง เช่น อาหาร เบเกอรี่ที่
ทาจากเนยเทียม เนยขาว และอาหารที่ใช้น้ามันทอดซ้า ได้แก่ ไก่
ทอด คุกกี้ เวเฟอร์ ขนมปัง มันฝรั่งทอด หรือเลือกกินในปริมาณ
น้อยและไม่ซ้าบ่อยๆ และในหนึ่งวันควรรับประทานอาหารพวก
ทอด ผัด หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันไม่เกิน 1 มื้อ
- 19.
- 20.
กิน ไขมัน แค่พอดีไม่มีอ้วน (ต่อ)
อ่านฉลากก่อนซื้ออาหารทุกครั้งและถ้าเห็นคาว่า มาการีน ครีม
เนย ชีส ชีสซอส ซอสเนย ทอดกรอบ ทาน้ามันระหว่างอบ ให้
หลีกเลี่ยงอย่าซื้อ เพราะนี่แหละคือของแถมที่มากับความอ้วน
- 21.
- 22.
• กิน เกลือเกิน
วันละ1 ช้อนชา
เสี่ยงต่อภาวะ
ความดันโลหิตสูง
* ลดการ เติมเครื่องปรุงรส
- 23.
- 24.
โซเดียมปานกลาง ปริมาณโซเดียม
(มก.)
ขนมปัง 1แผ่น (30 กรัม) 120-150
ปลา กุ้ง ปลาหมึก2 ช้อนกินข้าว 120-140
นมสด 1 แก้ว (240 ซี.ซี.) 120-130
เนย/เนยเทียมชนิดเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ 120-130
ถั่วอบกรอบ 2 ช้อนกินข้าว 120
ไข่เป็ด/ไข่ไก่ 1 ฟอง 110-120
- 25.
- 26.
โซเดียมสูง ปริมาณโซเดียม
(มก.)
ซอสปรุงรส 1ช้อนโต๊ะ 1,150
น้าพริกแกงเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ 750
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ 420-490
ข้าวคลุกกะปิ 1 จาน 1,745
บะหมี่สาเร็จรูป
พร้อมเครื่องปรุง 1 ซอง 1,320
ขนมจีนน้ายา 1 จาน 1,750
- 27.
- 28.
- 29.
ลดเค็ม ลดโซเดียม ลดโรค(ต่อ)
เลือกกินอาหารสดหรืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อย
ที่สุด เช่น กินเนื้อหมูดีกว่า กินไส้กรอก แฮม หมูยอ กุนเชียง
- 30.
ลดเค็ม ลดโซเดียม ลดโรค(ต่อ)
ลดความถี่และปริมาณการกินอาหารที่ใช้น้าจิ้ม เช่น น้าจิ้มสุกี้ หมู
กะทะ และลดการกินน้าพริกและอาหารที่ใส่เครื่องแกงต่างๆ ที่ใส่
เกลือ
- 31.
ลดเค็ม ลดโซเดียม ลดโรค(ต่อ)
ลดการกินขนมหวานที่มีเกลือ เช่นข้าวเหนียวกะทิ ข้าวหลาม
ขนมจาก ผลไม้แช่อิ่ม ขนมอบทุกชนิดที่ใส่ผงฟู เช่น เค้ก คุกกี้
โดนัท เป็นต้น
- 32.
ลดเค็ม ลดโซเดียม ลดโรค(ต่อ)
หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารสาเร็จรูป
อาหารกระป๋ อง ผงปรุงบะหมี่กึ่งสาเร็จรูปและขนมขบเคี้ยวและควร
อ่านฉลากโภชนาการทุกครั้ง ถ้าจาเป็นเลือกก็เลือกชนิดที่มีโซเดียม
น้อยที่สุด
- 33.
- 34.
- 35.
การบริโภคน้าตาลของคนไทย
๏ คนไทยกินหวานมากเฉลี่ยคนละ 22ช้อนชาต่อวัน
ตามมาตรฐานโภชนาการไม่ควรเกิน คนละ 6 ช้อนชา
ต่อวัน
๏ น้าตาล 42 % มาจากเครื่องดื่มประเภทน้าอัดลม
รองลงมา ได้แก่ อาหารและขนม 27%
ผลิตภัณฑ์นม21%
๏ ดื่มน้าอัดลม 1 กระป
๋ อง ขนาดบรรจุ 325 มล.
ได้รับน้าตาลประมาณ 32.5-45.5 กรัม
หรือ 8.1-11.4 ช้อนชา
- 36.
- 37.
- 38.
- 39.
- 40.
อาหารที่มีค่าดัชนีน้าตาลปานกลาง 55 –70
อาหารที่มีค่าดัชนีน้าตาลสูง > 70
น้าอัดลม 63
ข้าวขัดสี 64
ก๋วยเตี๋ยว 61
น้าผึ้ง 55
บะหมี่ 57
ไอศครีม 61
น้าตาลกลูโคส 100
มันฝรั่งบด 85
ข้าวเหนียว 92
โดนัท 76
มันเทศ 61
น้าตาลทราย 68
ขนมปังขาว 70
- 41.
- 42.
- 43.
- 44.
- 45.
- 46.
10 วิธีลดความหวาน
1. หยุดเติมน้าตาลเป็นวิธีง่ายที่สุดและเห็นผลในการลดน้าหนักและพลังงาน
เพราะคนเป็นจานวนมากชอบเติมน้าตาลในกาแฟ ชา นมถั่วเหลือง
ก๋วยเตี๋ยว
2. อย่าหลงคารมกับคาว่า “น้าตาลสุขภาพ” เช่น น้าตาลทรายแดง น้าตาลกรวด
ไม่ว่าจะเป็นน้าตาลชนิดใดก็ล้วนแต่ให้พลังงานที่ว่างเปล่า
3. ใช้ความพยายามอย่างจริงจังที่จะลดหรือกาจัดคาร์โบไฮเดรตแปรรูป
จาพวกขนมปังขาวและเบเกอรี และของว่าง-ขบเคี้ยว เพราะส่วนใหญ่ทามา
จากแป้ง ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นน้าตาลในเลือดได้เร็วพอๆ กับการกิน
กลูโคส นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตที่เหลือใช้จะถูกเก็บสะสมเป็นไตรกลีเซอ
ไรด์ซึ่งเป็นไขมันที่ร่างกายเก็บเป็นเสบียงและทาให้อ้วน
- 47.
4. ระวังของว่างไร้ไขมัน จากความเชื่อผิดๆที่ว่า ถ้าอาหารไร้ไขมันจะไม่ทาให้
อ้วนจริงๆ แล้วก็คืออาหารไร้ไขมันไม่ได้หมายความว่าไร้แคลอรี นอกจากนี้
ส่วนใหญ่ยังมักจะมีน้าตาลมากด้วย
5. เลือกซื้อผักผลไม้ให้หลากหลายสี เพราะสีผักผลไม้จะบ่งบอกถึงสาร
ธรรมชาติที่ให้ผลในการป้องกันโรค
6. ทาตัวเป็นนักสืบอาหาร จงอ่านฉลากอาหารเพื่อค้นหาน้าตาลและไขมันไม่ดี
7. ระวังสารให้ความหวานเทียมหรือสารทดแทนความหวาน ซึ่งอาจทาให้
ร่างกายมีความอยากน้าตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจลด
ระดับโครเมียมที่สะสมในร่างกาย และโครเมี่ยมเป็นแร่ธาตุสาคัญที่เกี่ยวข้อง
กับการรักษาระดับน้าตาลในเลือด
- 48.
- 49.