โรคอ้วน 1/13 โรงเรียนสตรีวิทยา2

2. …โรคอ้วน…

3. สาเหตุของการเกิดโรคอ้วน
การรับประทานอาหาร หากรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงเป็นประจำา จะให้นำาหนักเกิน
โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมัน และแป้งสูงซึ่งมักจะพบในอาหารจานด่วน
ประเภทของอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มีนำาตาล ไม่ว่าจะเป็นกลูโคส
sugars, fructose,นำำาหวาน เครื่องดื่ม ไวน์ เบียร์ อาหารเหล่านีจะดูดซึมอย่างรวดเร็ว และ
ำ
ทำาให้ร่างกายหลั่งอินซูลินเป็นปริมาณมาก ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นสาเหตุของโรคอ้วน
ภาวะที่ร่างกายเผาพลาญพลังงานน้อย ผู้ชายจะมีกล้ามเนือมากว่าผู้หญิง กล้ามเนือจะเผา
ำ ำ
พลังงานได้มากดังนัำนผู้หญิงจึงอ้วนง่ายกว่าผู้ชายและลดนำำาหนักยาก
จากยา ยาบางชนิดทำาให้ความอยากอาหารเพิ่ม เช่นยาคุมกำาเนิด ยาแก้โรคซึมเศร้า
tricyclic antidepressant,phenothiazine ยาลดความดัน beta-block ยารักษาเบาหวาน
ยาคุมกำาเนิด ยา steroid
กรรมพันธุ์ จะพบว่าบางครอบครัวจะอ้วนทัำงหมดซึ่งส่วนหนึงเกิดจากพันธุกรรม เช่นคนที่
่
เป็นโรคขาด leptin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งไปยังสมองทำาให้เรารับอาหารน้อยลง แต่อกส่วน
ี
หนึงอาจจะเกิดจากวัฒนธรรมการรับประทานอาหารและความเป็นอยู่
่

4. วิธีป้องกันการเกิดโรคอ้วน
่่งเสริมให้ประชาชนออกกำาลังกายเพิ่ม แต่ก็มีประชาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งจำาเป็นต้องได้รับ
ความรู้ปฏิบัติเพื่อให้ลดนำำาหนักลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ หากท่านมีดัชนีมวลกายอยู่ในกลุ่มนีำ
หรือมีโรคประจำาครอบครัวดังในตารางข้างล่างท่านต้องป้องกันมิให้นำาหนักเกิน

5. สถิติในคนอ้วน
ความชุกของภาวะนำำาหนักเกินและโรคอ้วนมีเพิ่มขึำนอย่างต่อเนื่องกว่าปีที่ผ่านมาในหมู่เพศทุกวัยทุก
กลุ่มเชืำอชาติ / ชาติพันธุ์และทุกระดับการศึกษา ประมาณ 19% ของเด็ก (อายุ 6-11) และ 17%
ของวัยรุ่น (อายุ 12-19) มีนำาหนักตัวมากเกินในปี 2000 เพิ่มเติม 15% ของเด็กและวัยรุ่นมีความ
เสี่ยงสำาหรับการมีนำาหนักเกิน (BMI อยู่บนพืำนฐานของมาตรการ / body ดัชนีมวล) ประมาณร้อยละ
70 ของความเสี่ยงโรคเบาหวานในสหรัฐอเมริกาสามารถประกอบกับนำำาหนักส่วนเกิน เกี่ยวกับร้อย
ละ 25 ของคนหนุ่มสาว (อายุ 12-21 ปี) มีส่วนร่วมในกิจกรรมแสงปานกลาง (เช่นการเดินการปั่น
จักรยาน) เกือบทุกวัน ประมาณร้อยละ 50 เป็นประจำามีส่วนร่วมในการออกกำาลังกายร้อยละของเด็ก
และวัยรุ่นที่มีการกำาหนดเป็นที่มีนำาหนักเกินมีเพิ่มขึำนกว่าเท่าตัวนับตัำงแต่ต้นปี 1970 ใน
1999-2000 มากกว่าร้อยละ 10 ของเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุน้อยกว่าอายุระหว่าง 2 และ 5 มีนำา
หนักเกินเพิ่มขึำนจากร้อยละ 7 ในปี 1994

6. บรรณานุกรม
1.Bodymassindex. http://en.Wikipedia.Org/wiki/body_mass_index [2011, june28].
2.Kantachuvessiri, A. (2005). Obesity in thailand. J med assoc thai. 88, 554-562.
3.Obesity and overweight http://www.Who.Int/mediacentre/factsheets/fs311/en/index.Html
[2011. June 28].
4.The Asia-Pacific Perspective: Redefining Obesity and its Treatment. February 2000