More Related Content More from Taweesak Poochai
More from Taweesak Poochai (20) JFEs1. โครงงานสิ่งประดิษฐทางวิทยาศาสตร
แจคเก็ตเพื่อพลังงาน
Jacket for Energy
ระดับชันมัธยมศึกษาตอนตน
้
นายศรัณญ สุนทรศารทูล
นายกฤตณัฐ คุมรักษา
เด็กชายพงศกร บัวผึ่ง
ครูผฝกสอน
ู
นางสาวิตรี สิทธิชัยกานต
นายทวีศักดิ์ ภูชัย
โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ อาเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
ํ
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1
ํ
2. กิตติกรรมประกาศ
ในการทําสิ่งประดิษฐ Jacket For Energy ครั้งนี้จะไมสามารถสําเร็จไดหากไมไดรับความ
อนุเคราะหจากคุณครูนิชาวี เชิดชิด คุณครูแววยูง สุขสถิตย คุณครูศิริวุฒิ บัวสมาน คุณครูนิตยา พูลจันทร
คุณครูเฉลิมชัย โสทามวง พี่ๆนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/1 เด็กชายพงศกร บัวผึ่ง นายกานต บูลยประมุข
คุ ณ แม ส มฤดี ภู ชั ย คุ ณ พ อ พ.ต.อ.สมบู ร ณ คะเลรั ม ย และคุ ณ แม ด ร.สุ ญ าดา สุ น ทรศารทู ล ผู ต อบ
แบบสอบถามทุกทานรวมถึงทานผูอํานวยการสมหมาย มัณยานนท ที่ไดใหโอกาสและกําลังใจในการ
สรางสรรคสิ่งประดิษฐในครั้งนี้
กระผมนายศรั ณ ญ สุ น ทรศารทู ล เด็ ก ชายพงศกร บั ว ผึ่ ง และนายกฤตณั ฐ คุ ม รั ก ษา
ขอขอบพระคุณทุกๆทานที่ชวยเหลือจนพวกกระผมมีวันนี้ได
นายศรัณญ สุนทรศารทูล นายกฤตณัฐ คุมรักษา และเด็กชายพงศกรบัวผึ่ง
3. ชื่อสิ่งประดิษฐ ภาษาไทย : แจ็กเก็ตเพื่อพลังงาน
ภาษาอังกฤษ : Jacket fo Energy
ผูจัดทํา นายศรัณญ สุนทรศารทูล และ
นายกฤตณัฐ คุมรักษา
เด็กชายพงศกร บัวผึ่ง
ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนตน
โรงเรียน อนุราชประสิทธิ์
ครูที่ปรึกษา นางสาวิตรี สิทธิชัยกานต
นายทวีศักดิ์ ภูชัย
บทคัดยอ
แจคเก็ตเพื่อพลังงาน (Jacket for Energy: JFE) ที่กลุมของพวกเราพัฒนาตอเนื่องมาจากสิ่งประดิษฐ
ที่มีชื่อวา Energy Box โดยเริ่มมาจากแนวคิดที่ตองการสรางเครื่องออกกําลังกายที่สามารถสรางพลังงาน
ไฟฟา จากพลังงานกล โดยอาศัยไดนาโมขนาด 3 โวลต จํานวน 3 เครื่อง เปนอุปกรณเปลี่ยนพลังงานกลจาก
การชกลมของ ผู อ อกกํ า ลั ง กายเป น พลั ง งานไฟฟ า ซึ่ ง ค า ความต า งศั ก ย ที่ ไ ด สู ง สุ ด อยู ที่ 25 โวลต
(กระแสสลับ) โดยเราสามารถนําพลังงานที่ไดไปตอเขากับ อุปกรณตางๆ เชน เครื่องวัดไฟฟาเพื่อแสดงผล
และสามารถนํ า ไปต อ กั บ อุ ป กรณ อื่ น ๆ ที่ ส ามารถกั ก เก็ บ หรื อ เปลี่ ย นรู ป พลั ง งานไฟฟ า เพื่ อ นํ า ไปใช
ประโยชนตอไปได
4. คํานํา
สิ่งประดิษฐแจ็กเก็ตเพื่อพลังงานเปนสิ่งประดิษฐที่สรางขึ้น จากแนวคิดที่ตองการสรางเครื่องออก
กําลังกายที่สามารถสรางพลังงานไฟฟา จากพลังงานกลที่เกิดจากการขยับแขน โดยใชกระบวนการคิด
แกปญหา การรวบรวมขอมูล และการพัฒนาสิ่งประดิษฐดวยกระบวนการทางวิทยาศาสตร ทั้งนี้เพื่อมุงหวัง
ใหเกิดสุขอนามัยที่ดีตอประชาชนทุกเพศทุกวัย
สิ่งประดิษฐนี้ยังไมถือวาเปน จุด สิ้น สุดของเครื่องออกกําลังกาย พวกเราหวังเปนอยางยิ่งวาจะ
สามารถพัฒนาสิ่งประดิษ ฐนี้ใ หดี และเหมาะสมกับการออกกําลังกายให สมบูรณ มากยิ่งขึ้นไปอีก หาก
ผูสนใจมีขอเสนอแนะแกพวกเรา พวกเรายินดีเปนอยางยิ่งที่จะไดรับคําแนะนําจากพวกทานไปปรับปรุง
ผลงานของพวกเรา
นายศรัณญ สุนทรศารทูล นายกฤตณัฐ คุมรักษา และเด็กชายพงศกรบัวผึ่ง
5. สารบัญ
หนา
บทที่ 1 บทนํา 1
1. ที่มาและความสําคัญของโครงงาน 1
2. จุดมุงหมายของการศึกษาคนควา 1
3. สมมติฐานในการศึกษาคนควา 2
4. ขอบเขตการศึกษาคนควาหาความรู 2
5. การกําหนดตัวแปรที่ศึกษาจากการทดลอง 2
6. นิยามเชิงปฏิบติการ
ั 2
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ 4
1. การออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ 4
2. การเกิดภาวะเรือนกระจก 6
3. พลังงานกล 8
4. ไดนาโม 8
5. แรงเสียดทาน 9
6. หลอดไดโอดเปลงแสง 11
บทที่ 3 วัสดุอปกรณและวิธการ
ุ ี 12
บทที่ 4 ผลการทดลอง 14
บทที่ 5 อภิปรายและสรุปผล 15
1. ความพึงพอใจของผูใชที่มตอเครื่องออกกําลังกาย Jacket for Energy
ี 15
2. สรุปผลการศึกษา 19
3. ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ 19
4. ขอเสนอแนะ 19
บรรณานุกรม 20
ภาคผนวก
6. 1
บทที่ 1
บทนํา
1.ที่มาและและความสําคัญของโครงงาน
คนชุมชนเมืองในปจจุบันตองทํางานแขงกับเวลา ตื่นเชากลับดึก จึงไมมีเวลาไดออกกําลังกาย
จากผลการสํารวจพฤติกรรมการออกกําลังกายของคนไทยในป 2550 โดยสํานักงานสถิติแหงชาติ
พบบวารอยละ 30 ของประชากรทั้งประเทศที่ออกกําลังกาย โดยใชบริการสวนสาธารณะหรือฟตเนส
(Fitness) (หนังสือพิมพขาวสด : 11 มกราคม 2553) ซึ่งตองเสียคาใชจายคอนขางสูงเพราะเครื่องออกกํา
ลงกายราคาแพงเนื่องจากตองใชพลังงานไฟฟาเปนจํานวนมาก คนในชุมชนเมืองหันมาใสใจสุขภาพกัน
มากขึ้นโดยเฉพาะการรับประทานอาหารกันสวนใหญ เปนอาหารฟาสฟูด (fast food) เปนหลัก ทําให
คนจํานวนไมนอยนําเงินหลายพันบาทมาใชบริการกับศูนยออกกําลังกาย (ฟสเนส) เพื่อใหสุขภาพที่
แข็งแรง ไมวาจะเปนคนหนุมสาว คนวัยกลางคนแมกระทั้งผูสูงอายุ
ดั้งนั้นจึงมีการคิดสิ่งประดิษฐ เครื่องออกกําลังกาย ที่ชวยใหคนในสังคม หันมาออกกําลังกาย
และยั ง ได รั บ ประโยชน จ ากการออกกํ า ลั ง กายด ว ย โดยมี สุ ข ภาพร า งกายที่ แ ข็ ง แรงแล ว ยั ง ได รั บ
ประโยชนจากการ ออกกําลังกายควบคูกันไป แตเครื่องออกกําลังกายสวนใหญ ตองใชกระแสไฟฟา ทํา
ใหสิ้นเปลืองพลังงานไปเพื่อแลกประโยชนจากการออกกําลังกาย พลังงานเปนของมีคา ที่ใชแลวหมด
สิ้นไป แตมีพลังงานที่เกิดขึ้นขณะออกกําลังกายที่ทุกคนมองขามกันไป ไมสามารถนําพลังงานสวนนั้น
มาใชประโยชนไดอยางคุมคา พลังงานที่ไดจากการออกกําลังสามารถนํามาผลิตเปนพลังงานไฟฟาได
สิ่งประดิษฐดังกลาวคือ Energy box จากการใช Energy box ยังมีปญหาเกี่ยวกับลักษณะของ
สิ่งประดิษฐที่ไมเหมาะสมกับสรีระของผูใช
คณะผูจัดทําจึงคิดพัฒนารูปแบบใหมีความเหมาะสมกับการใชงานมากขึ้น โดยใชชื่อวา Jacket
for energy ซึ่งเปนเครื่องออกกําลังกายที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟาโดยใชพลังงานกลจาก การออกแรง
ดึงเครื่องออกกําลังกาย
2.จุดมุงหมายของการศึกษาคนควา
1.เพื่อพัฒนาและสรางตนแบบของเครื่องออกกําลังกายผลิตกระแสไฟฟาJacket for energy
2.เพื่ อสํ า รวจความพึ ง พอใจของผูใ ช ที่มีตอ เครื่อ งออกกําลัง กายผลิต พลั ง งานกระแสไฟฟ า
Jacket for energy
7. 2
3.สมมุติฐานในการศึกษาคนควา
สมมุติฐานที่ 1 ถาออกกําลังกายดวยเครื่องออกกําลังกายผลิตกระแสไฟฟา Jacket for energy
แลวการปลอยแก็สเรือนกระจกเนื่องจากการใชพลังงานไฟฟาลดลง
สมมุติฐานที่ 2 ถาเครื่องออกกังกายผลิตกระแสไฟฟาจาก Jacket for energy ทําใหกลุม
ตัวอยางที่ทดลองใชแลวมีความพึงพอใจแลว ประชากรจะสนใจการออกกําลังกายมากขึ้น
4.ขอบเขตการศึกษาหาความรู
การทําโครงงานวิทยาศาสตรเรื่องและเทคโนโลยีเรื่อง Jacket for energy ครั้งนี้ไดทดลองกับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 – 6 โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ ครูและผูปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุราช
ประสิทธิ์ สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนนทบุรี เขต 1 จังหวัดนนทบุรี
จํานวน 40 คน
5. การกําหนดตัวแปรที่ศึกษาจากการทดลอง
5.1 ตัวแปรตน
ตัวแปรของสมติฐานที่ 1 การออกกําลังกายดวยเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
ตัวแปรของสมติฐานที่ 2 เครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
5.2 ตัวแปรตาม
ตัวแปรขอมสมติฐานที่ 1 การปลอยแกสเรือนกระจกเนื่องจากการใชพลังงานไฟฟาลดลง
ตัวแปรของสมติฐานที่ 2 เครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy ชวยลดภาวะโลกรอน
5.3 ตัวแปรควบคุม
1. เครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
2. ระยะเวลาในการใช
3. นักเรียน ครูและผูปกครอง
8. 3
6. นิยามเชิงปฏิบัติ
6.1 เครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy คือ เครื่องออกกําลังกายที่สามารถผลิตพลังงาน
ไฟฟา โดยใชพลังงานจลจากการออกแรงดึงเครื่องออกกําลังกาย
6.2 พลังงานสะอาด (green energy) คือ คําที่ใชอธิบายความคิดที่เกี่ยวกับแหลงพลังงานที่เปน
มิ ต รกั บ สิ่ ง แวดล อ ม โดยทั่ ว ไปจะหมายถึ ง พลั ง งานที่ ไ ม มี วั น หมดและเป น พลั ง งานที่ ไ ม มี ม ลพิ ษ
พลังงานสะอาดประกอบดวยกระบวนการที่ใชพลังงานจากธรรมชาติและเปนกระบวนการที่สามารถ
ควบคุม ให มีม ลพิษ เพี ย งเล็ ก น อย ได แ ก พลั ง งานชี ว มวล พลัง งานความรอ นใตพิ ภ พ พลัง งานลม
พลังงานน้ํา พลังงานแสงอาทิตย พลังงานจากปรากฏการณน้ําขึ้นน้ําลง พลังงานคลื่น พลังงานจากพืช
และสัตว ซึ่งพลังงานเหลานี้จัดอยูในหมวดหมูเดียวกัน
6.3 ความพึงพอใจ คือ ความพึงพอใจของผูใชทมีตอ Jacket for energy
่ี
6.4 ความตระหนัก คือ การที่บุคคลแสดงวา มีความสํานึกและยอมรับถึงภาวการณ เหตุการณใด
เหตุการณหนึ่ง ซึ่งสภาพแวดลอมในสังคมเปนชวยในการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมนั้น
6.5 แกสเรือนกระจก คือ แกสที่มีอยูในบรรยากาศที่ทําใหสูญเสียความรอนสูหวงอวกาศลดลงจึง
มีผลตออุณหภูมิในบรรยากาศผานปรากฏการณเรือนกระจก ไดแก ไอน้ํา มีเทนคารบอนไดออกไซด ไน
ตรัสออกไซด โอโซน และคลอโรฟลูโอโรคารบอน (Chlorofluorocarbon)
9. 4
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวของ
สิ่งประดิษฐทางวิทยาศาสตร Jacket for energy ของนักเรียนโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 จังหวัดนนทบุรี คณะผูจัดทําไดศึกษาเอกสาร
เกี่ยวของ ตามหัวขอตอไปนี้
1. การออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ
2. การเกิดภาวะเรือนกระจก
3. พลังงานกล
4. ไดนาโม
5. แรงเสียดทาน
6. หลอดไดโอดแปรงแสง
1. การออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ
การออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ คือ การออกกําลังเพื่อเพิ่ม หรือคงไวซึ่งความทนทานของระบบ
ไหลเวียนโลหิตและปอด โดยมีขบวนการใชออกซิเจน ในขบวนการเผาผลาญ เพื่อใหเกิดพลังงาน
สําหรับการออกกําลังอยางตอเนื่อง จึงมีชื่อเรียกการออกกําลังกายชนิดนี้วา AEROBIC EXERCISE
ประโยชนตอสุขภาพ
1. ระบบไหลเวียนโลหิต
1.1 ทําใหกลามเนื้อหัวใจแข็งแรงมากขึ้น สามารถสูบฉีดโลหิตไดปริมาณมากขึ้น
1.2 เพิ่มหลอดโลหิตฝอยมาเลี้ยงกลามเนื้อหัวใจมากขึ้น
1.3 ลดอัตราการเตนของหัวใจ ทั้งในขณะพัก และออกกําลังกาย ทําใหไมเหนื่อยงาย
1.4 ลดแรงตานทานสวนปลายของหลอกโลหิตฝอยทําใหความดันโลหิตลดลงขณะพัก และออก
กําลังกายลดความเสี่ยงตอการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
2. ระบบหายใจ
2.1 ความจุปอดเพิ่มขึ้น ทําใหการแลกเปลี่ยนออกซิเจนมากขึ้น
2.2 เพิ่มปริมาณโลหิตไปสูปอด ทําใหการไหลเวียนของปอดดีขึ้น
2.3 เพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนแกสที่ปอด ทําใหประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น
3. ระบบชีวเคมีในเลือด
3.1 ลดปริมาณคอแลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกีเซอไรด (Triglyceride) จึงลดอัตราเสี่ยงตอโรค
หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และหลอดเลือดสมองอุดตัน
3.2 เพิ่ม HDL Cholesterol ซึ่งชวยลดการเปนโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
10. 5
3.3 ลดน้ําตาลสวนเกินในเลือด เปนการชวยปองกันโรคเบาหวาน
4. ระบบประสาทและจิตใจ
4.1 ลดความวิตกกังวลและคลายเครียด
4.2 มีความสุขและรูสึกสบายใจจากสารแอนดอรฟน Endorphin ที่หลั่งออกมาจากสมองขณะออก
กําลังกาย
ขั้นตอนและหลักการในการปฎิบติ ั
ถามีอายุมากกวา 35 ป ควรตรวจสุขภาพ วามีโรคหัวใจหรือไมกอนการออกกําลังกายชนิดนี้
ควรรูวิธีเหยียดและยืดกลามเนื้อ รวมทั้งอุนเครื่อง (Warm up) และเบาเครื่อง (Cool down) หลักในการ
ปฎิบัติเปนการใชกลามเนื้อมัดใหญอยางนอย 1ใน 6สวนของรางกาย ออกกําลังกายอยางสม่ําเสมอ
รูปแบบการออกกําลังกาย
มีหลากหลายชนิด เชน วิ่งเหยาะ, เดินเร็ว, ขี่จักรยาน, วายน้ํา, เตนแอโรบิค, ฟุตบอล, บาสเก็ต
แทนนิส, แบตมินตัน, ขามตาขาย, วอลเลยบอล เปนตน
ขอควรระวัง
ควรงดออกกําลังกาย ในขณะเจ็บปวย มีไข พักผอนไมพอควรออกกําลังกายกอนอาหารหรือ
หลังอาหารหนักผานไป3-4ชั่วโมง และดื่มน้ําอยางเพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่รอนจัด หนาว
จัด ฝนฟาคะนอง มลภาวะมากสวมเสื้อผาที่เหมาะสมควรพักหากมีอาการแนนหนาอก คลื่นไส อาเจียน
และไปพบแพทย
อุปสรรคที่ทําใหคุณไมออกกําลังกาย
คนสวนใหญทราบดีวาการออกกําลังกายเปนสิ่งที่ดี และออกกําลังกาย แตมักจะมีอุปสรรคนาๆ
นับประการที่มีขัดขวาง คุณเคยพบอุปสรรคเหลานี้กับตัวคุณเองหรือไม “ฉันมีธุระมาก ไมมีเวลา” ใน
สังคมที่รีบเรงในปจจุบัน ทุกคนมีภาระสวนตัวที่จะทํากันทั้งนั้น ยิ่งคุณธุระมาก คุณยิ่งตองออกกําลังกาย
เพื่อเตรียมรางกายใหพรอมที่จะเผชิญกับปญหาตางๆ “ ฉันไมชอบออกกําลังกาย” อยาทําอะไรฝนใจ
ตัวเอง ถาคุณไมชอบออกกําลังกาย ลองสํารวจตัวเองวาชอบทําอะไรที่ใชพลังงานบาง แลวลองทําสิ่งนั้น
ใหบอยขึ้นคุณไมจําเปนตองออกไปวิ่งเพื่อลดน้ําหนักถาคุณไมชอบกิจกรรมอื่นๆ ที่ใชพลังงานเชน ขี่
จักรยาน ทําสวน เตนรํา เลนโบริ่ง เลนสเก็ต หรือตีปงปอง ถาตอนนี้คุณไมไดทํากิจกรรมเหลานี้เลย ลอง
นึกถึงอดีตและหาสิ่งที่คุณเคยทําและสนุกกับมัน ลองกลับมาทําสิ่งนั้นใหม “ ฉันแกเกินไปแลว” ไมมี
เวลาแกเกินไปสําหรับการออกกําลัง เพียงแตเลือกวิธีการออกกําลังกายที่เหมาะสมกับวัยของคุณเทานั้น
จากการวิจัยพบวา ไมวาจะอยูในกลุมอายุใด จะไดประโยชนจากการออกกําลังเหมือนกัน “ฉันไมมีเวลา
มากพอสําหรับการออกกําลัง” คุณไมจําเปนตองใชเวลามากขนาดนั้น เพียงคุณใชเวลาวาง เล็กๆนอย ที่มี
อยูออกกําลัง เชนคุณอาจใชเวลาเลนกับสัตวเลี้ยงของคุณใหมากขึ้นหนอยหรือเดินมากขึ้นอีกหนอย
ขณะที่คุณกําลังทํางาน “ฉันดูเหมือนตัวตลกที่ฉันพยามออกกําลังกาย” คุณไมไดดูเหมือนตัวตลก แตคุณ
ดูเหมือนคนที่กําลังเดินไปถูกทาง และกําลังจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในไมชา “ดูเหมือนรางกายของฉันไมดีขึ้น
11. 6
เลย” อันที่จริงถาคุณลองบันทึกขอมูลตางๆ คุณกําลังจะพบวารางกายของคุณกําลังจะดีข้ึนเรื่อยๆ เชน
ลองบันทึกจํานวนชั้นที่คุณสามารถเดินขึ้นลงในแตละวัน หรือเวลาที่คุณใชในการเดินในแตละวัน คุณ
จะพบวาคุณกําลังพัฒนาไปเรื่อย “ในยุคเศรษฐกิจฝดเคืองแบบนี้ ฉันไมมีเงินที่จะไปออกกําลังกายตาม
สถานบริหารรางกาย หรือไมมีเงินซื้อเครื่องมือที่ใชในการออกกําลังกายหรอก” คุณไมจําเปนที่ตองใช
เงิน การทํางานบาน เปนการออกกําลังกายที่ดีเชนเดียวกัน การเดินเปนการออกกําลังกายที่ดี คุณอาจไป
เดินตามสวนสาธารณะ หรือไปเดินเลนตามศูนยการคา “ฉันมักจะออกกําลังไดพักหนึ่งก็เลิก” ไมใชเพียง
ตึคุณที่เปนอยางนี้ พบวาครึ่งหนึ่งของผูที่ออกกําลังกายหยุดออกกําลังกายใน 6 เดือน วิธีที่จะชวยไดคือ
ลองคิดถึงการออกกําลังที่สม่ําเสมอจะทําใหน้ําหนักคุณลดไดตอเนื่อง แตถาคุณหยุด
ออกกําลังกายน้ําหนักคุณจะเพิ่มกลับมาใหม คุณตองเริ่มใหมตั้งแตตนอีก
- ออกกําลังกายเพิ่มขึ้นทีละนอย ใหรางกายของคุณคอยๆปรับตัว คุณอาจเพิ่มเวลาออกกําลังมากขึ้น
เพียง 5 นาทีในแตละเดือน
- ทําสิ่งที่ทําแลวรูสึกสนุกและไดออกกําลังกายดวย ลองหาเพื่อนมาออกกําลังกายดวยกัน
- เปลี่ยนแปลงกิจวัตรของคุณบาง อยางทําอะไรซ้ําซากที่อาจทําใหคุณเบื่อ “ฉันมีโรคประจําตัวจะ
ออกกําลังกายอยางไร” ถาคุณอวนมาก ตั้งครรภสูบบุหรี่จัด เปนโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง
เบาหวาน หอบหืด หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ คุณอาจจะตองปรึกษาแพทยกอนเลือกวิธีการออกกําลังที่
เหมาะกับคุณ
2.การเกิดภาวะเรือนกระจก
ภาวะเรือนกระจกคือ ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทบตัวเสมือนกระจกที่ยอมใหรังสีคลื่น
สั้นผานลงมายังผิวโลกได แตจะดูดกลืนรังสีคลื่น ยาวชวงอินฟราเรดที่ผานออกจากพื้นผิวโลกเอาไว
จากนั้นก็คายพลังงานความรอนใหกระจายอยูภายในชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลกจึงเปรียบเสมือน
กระจกปกคุมผิวโลกใหมีภาวะสมดุลทางอุณหภูมิ และเหมาะสมตอสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก แตในปจจุบัน
มีแกสบางชนิดสะสมอยูในชั้นบรรยากาศมากเกินสมดุล ซึ่งแกสเหลานี้สามารถดูกลืนรังสีคลื่นยาว
ชวงอินฟราเรด และคายพลังความรอนไดดี พื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นสงผล
กระทบตอสภาพภูมิอากาศของโลก และสิ่งมีชีวิตพื้นผิวโลกอยางมากมาย ในภาวะปกติชั้นบรรยากาศ
ของโลกจะประกอบดวย โอโซน ไอน้ํา และแกสชนิดตางๆ ซึ่งทําหนาที่กรองรังสีคลื่นสั้นบางชนิดให
ผา นมาตกกระทบพื้ น ผิ ว โลก รั งสี คลื่ น สั้น ที่ต กกระทบพื้ น ผิ ว โลกนี้จ ะสะท อ นกลับ ออกนอกชั้ น
บรรยากาศไปสวนหนึ่ง ที่เหลือพื้นผิวโลกที่ประกอบดวยพื้นน้ํา พื้นดินและ สิ่งมีชีวิตจะดูดกลืนไว
หลั ง จากนั้ น ก็ จ ะคายพลั ง งานออกมาในรู ป แบบรั ง สี ค ลื่ น ยาวช ว งอิ น ฟราเรดแผ ก ระจายขึ้ น สู ชั้ น
บรรยากาศและแผกระจายออกนอกชั้นบรรยากาศไปบางสวน อีกสวนหนึ่งนั้นชั้นบรรยากาศจะดูกลืน
ไวและคายพลังงานความรอนออกมา ผลที่เกิดขึ้นคือทําใหโลกสามารถรักษาสภาพสมดุลทางอุณหภูมิ
12. 7
ไวไดจึงมีวฏจักรน้ํา อากาศ และฤดูตางๆ ดําเนินไปอยางสมดุลเอื้ออํานวยตอการดํารงชีวิตพืชและสัตว
ั
โลกจึงเปรียบเสมือนเรือนปลูกพืชขนาดใหญที่มีไอน้ําและแกสตางๆ ชั้นบรรยากาศเปนเสมือนกรอบ
กระจกที่คอยควบคุมอุณหภูมิ และวัฏจักรตางๆใหเปนไปอยางสมดุลแตในปจจุบันชั้นบรรยากาศของ
โลกมี ปริ ม าณแกส บางชนิ ด มากเกิน สมดุล ของธรรมชาติอั น เป น ผลมาจากฝ มือ มนุษ ย เช น แก ส
คารบอนไดออกไซด (CO2) แกสมีเทน (CH4) แกสคลอโรฟลูออโรคารบอน (CFC8) และแกสไนตรัส
ออกไซด (N2O) เปนตน แกสเหลานี้มีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถดูดกลืนและคายรังสีคลื่นยาวชวง
อินฟราเรดไดดีมาก ดังนั้นเมื่อพื้นผิวโลกคายรังสีอินฟราเรดขึ้นสูชั้นบรรยากาศ แกสเหลานี้จะดูดกลืน
รังสีอินฟราเรดเอาไว ตอจากนั้นมันก็จะคายความรอนสะสมอยูบริเวณพื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศ
เพิ่มมากขึ้นพื้นผิวโลกจึงมีอุณหภูมิเราเรียกแกสที่ทําใหเกิดภาวะนี้วา “แกสเรือนกระจก (greenhouse
gases)” แกสเรือนกระจกนอกจากจะสงผลตอการเพิ่มอุณหภูมิของพื้นผิวโลกโดยตรงแลว มันยังสงผล
กระทบโดยทางออมดวยกลาวคือมันจะไปทําปฏิกิริยาเคมีกับแกสอื่นๆ และเกิดเปนแกสเรือนกระจก
ชนิดใหมขึ้นมา หรือแกสเรือนกระจกบางชนิดอาจรวมตัวกับโอโซนทําใหโอโซนในชั้นบรรยากาศลด
นอยลง สงผลใหรังสีคลื่นสั้นที่สองผานชั้นโอโซนลงมายังพื้นผิวโลกไดมากขึ้นรวมทั้งปลอยใหรังสีที่
ทําอันตรายตอมนุษยและสิ่งมีชีวิต สองผานลงมาทําอันตรายกับสิ่งมีชีวิตบนโลกไดดวยแกสเรือน
กระจก ในชั้นบรรยากาศของโลกประกอบดวนแกสตางๆหลายชนิดแตละชนิดมีการเปลี่ยนแปลง
เพิ่มขึ้น และลดลงตามคุณสมบัติตามเคมีของแกสแตละชนิด ดังนั้นแกสที่มีมากเกินสมดุลของชั้น
บรรยากาศจะสะสมอยูในชั้นบรรยากาศ แกสบางชนิดสามารถสะสมอยูในชั้นบรรยากาศไดนานหลาย
รอ ยป บางชนิ ด สะสมอยู ไ ด ใ นเวลาเพี ย งไม กี่ ปก็ ส ลายไป แกส เรือ นกระจกที่ ก ล า วถึ ง นี้ก็ เ ชน กั น
เนื่องจากมันมีปริมาณที่มากเกินสมดุลในชั้นบรรยากาศ มันจึงสะสมอยูในชั้นบรรยากาศและสะสมอยู
ไดเปนเวลานานหลายป เราอาจแบงแกสเรือนกระจกไดเปนสองพวกตามอายุ การสะสมอยูในชั้น
บรรยากาศ คือ พวกที่มีอายุการสะสมอยูในชั้นบรรยากาศไมนาน เนื่องจากแก็สเหลานี้สามารถทํา
ปฏิกิริยาไดดีกับไอน้ํา หรือแก็สอื่นๆจึงทําใหมันมีอายุสะสมเฉลี่ยสั้น สวนอีกพวกหนึ่งเปนแกสเรือน
กระจกซึ่งมีอายุสะสมเฉลี่ยนานหลายป เชน แกสเรือนกระจก แกสมีเทน แกสไนตรัสออกไซด และ
แกสคลอโรฟลูออโรคารบอน เปนตน แกสเหลานี้นับเปนแกสที่เปนตัวการหลักของการเกิดภาวะเรือน
กระจก เนื่องจากการมีอายุสะสมเฉลี่ยยาวนานและสามารถดูดกลืนรังสีอินฟราเรด ไดดีกวาแกสเรือน
กระจกอื่นๆ ทั้งยังสงผลกระทบใหผิวโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยทางออมไดดวย แมวาจะมีการรณรงค
เพื่อลดการปลดปลอยแกสเรือนกระจกกันอยางกวางขวาง แตอันตราการเพิ่มปริมาณแกสเรือนกระจก
ก็ยังมีมากขึ้นซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้เปนผลมาจากฝมือมนุษยทั้งนั้น
13. 8
3.พลังงานกล
เครื่องกล หมายถึง อุปกรณที่ชวยผอนแรงหรืออํานวยความสะดวก หรือทั้งชวยผอนแรงอํานวย
ความสะดวก
พลังงานกล เปนพลังงานที่อยูในรูปที่มีการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนไหวไปมา โดยอยูในรูปของ
พลังงานจลน นอกจากนี้พลังงานนี่สะสมอยูในตัววัตถุเอง ที่พรอมจะเคลื่อนที่ก็เปนพลังงานกลใน
รูปแบบของพลังงานศักย ดังนั้นพลังงานกลจึงสามารถอยูทั้งรูปแบบพลังงานจลนและพลังงานศักย
พลังกลจึงเปนผลรวมของพลังงานทั้งสองเขาดวยกัน เชน น้ําที่อยูเหนือเขื่อนมีพลังงานกลอยูในรูป
พลังงานศักย เมื่อเปดประตูนํ้าใหนํ้าไหลลงมาทายเขื่อน น้ําที่ไหลจะอยูในรูปพลังงานจลน คือการ
เคลื่อนที่ลงอยางรวดเร็ว ขณะที่น้ําไหลมาใกลพื้นที่ทายเขื่อน พลังงานศักยที่มีอยูเดิมจะลดลงแต
พลังงานจลนจะเพิ่มขึ้น
4.ไดนาโม
เปนอุปกรณที่ทําหนาที่เปลี่ยนพลังงานกลใหเปนพลังงานไฟฟา มีสวนประกอบสําคัญ ไดแก
ขดลวดที่พันอยูรอบแกนเรียกวา อาเมเจอร (Armature) แมเหล็กสองแทง หันขั้วตางกันเขาหากัน
เพื่อใหเกิดสนามแมเหล็กโดยจะมีแรงแมเหล็กพุงจากขั้วเหนือไปยังขั้วใต และบริเวณขั้วจะมีความ
เขมขนของสนามแมเหล็กมากกวาบริเวณอื่นๆ
หลักการเหนี่ยวนําใหเกิดกระแสไฟฟา
หลักการเหนี่ยวนําใหเกิดกระแสไฟฟาไดนาโม อาจทําไดดังนี้
การหมุนขดลวดตัวสนามแมเหล็ก จะทําใหสนามแมเหล็กเปลี่ยนแปลง จึงเกิดกระแสไฟฟา ไม
เคิล ฟาราเดย (Michael Faraday) นักวิทยาศาสตรอังกฤษ (พ.ศ.2334-2410)เปนผูคนพบหลักการที่วา
“กระแสไฟฟาเหนี่ยวนําเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสนามแมเหล็กที่ผานขดลวด”
ถาตองการสรางไดนาโมใหสามารถผลิตกระแสไฟฟาไดมากขึ้นสามารถทําไดโดย เพิ่มจํานวน
ของรอบขดลวดหมุนขดลวดใหเร็วขึ้นเพิ่มแรงขั้วแมเหล็ก
ไดนาโมแบงออกเปน 2 ชนิด
1. ไดนาโมไฟฟากระแสสลับ AC Dynamo
ประกอบดวยแทงแมเหล็ก 2 แทง ขดลวด และแหวนลื่นโดยแหวนลื่น 2 วง สัมผัสกับแปรง
ตัวนําไฟฟาซึ่งจะรับกระแสไฟฟาจากขดลวดออกสูวงจรภายนอก
2. ไดนาโมไฟฟากระแสตรง DC Dynamo
ประกอบดวยแทงแมเหล็ก 2 แทง ขดลวด และแหวนแยกแตละอันสัมผัสกับแปรงตัวนําไฟฟา
ซึ่งรับกระแสไฟฟาจากขดลวดออกลงสูวงจรภายนอก
ไดนาโมกระแสตรง (Direct current dynamo) หมายถึง ไดนาโมที่ผลิตไฟกระแสตรง (D.C.)
สวนประกอบเหมือนกับไดนาโมกระแสสลับทุกอยางตางกันแตวงแหวนเทานั้น
14. 9
ไดนาโมกระแสตรงใชวงแหวนผาซีก (Split ring) ซึ่งเรียกวา คอมมิวเตเตอร (Commutate) แต
ละซีกมีลักญณะเปนครึ่งวงกลมติดตอกันอยูกับปลายของขดลวดปลายละซีก ครึ่งวงกลมแตละซีกอยู
กับแปรง แปรงละซีก แปรงทั้งสองติดตอกับวงจรภายนอกเพื่อนํากระไฟฟาไปใชประโยชน จากการ
ดัดแปลงแหวนใหเปนคอมมิวเตเตอร เมื่อใชพลังงานกลมาหมุนขดลวดใหตัดเสนแรงแมเหล็กจะได
กระแสไฟฟ า เหนี่ ย วนํ า เข า สู ว งจรภายนอก โดยมี ทิ ศ ทางการไหลเพี ย งทิ ศ ทางเดี ย วตลอดเวลา
กระแสไฟฟาที่ไดจึงเปนไฟฟากระแสตรง (D.C.)
ไดนาโมที่ผลิตกระแสไฟฟาสลับ (A.C.) ออกมาใชงาน กระแสสลับ คือ กระแสไฟฟาที่มีทิศ
ทางการไหลสลับไปกลับมาอยางรวดเร็วมากอยูตลอดเวลา ในไดนานโมที่ใชงานจริงๆ ใชขดลวด
ตัวนําหลายขดใหเคลื่อนที่ตัดเสนแรงแมเหล็กเราเรียกขดลวดตัวนําที่เคลื่อนที่ในสนามแมเหล็กนี้วา”
อาร เ มเจอร ” (Armture) สํ า หรั บ การศึ ก ษาเบื้ อ งต น จะพิ จ ารณาขดลวดเพี ย งขดเดี ย ว ไดนาโม
กระแสสลับประกอบดวย แทงเหล็ก 2 แทง วางขั้วตางกันเขาหากัน และมีขวดลวดตัวนําอยูตรงกลาง
ปลายดสนหนึ่งของขดลวดติดกับวงแหวนลื่น (Slip ring) (R) อีกปลายหนึ่งของขดลวดติดอยูกับวง
แหวนลื่น R’ วงแหวน Rเตะอยูกับแปรง B สวนวงแหวน R’ เตะอยูกับแปรง B’ เมื่อขดลวดหมุนวง
แหวนทั้งสองจะหมุนตามไปดวยโดยเตะกับแปรงอยูตลอดเวลา แปรงทั้งสองติดอยูกับวงจรภายนอก
เพื่อนํากระแสไฟฟาออกไปใชประโยชน เมื่อใชพลังงานกลมาหมุนขดลวด ขดลวดเคลื่อนที่ตัดเสน
แรงแมเหล็ก กอใหเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนําขึ้นในขดลวด เมื่อขดลวดนี้ตอครบวงจรกับความ
ตานทานภายนอกแลว ยอมไดกระแสไฟฟาเหนี่ยวนําไหลในวงจรเหนี่ยวนํา
5. แรงเสียดทาน
แรงเสียดทาน (friction) เปนแรงที่เกิดขึ้นมื่อวัตถุหนึ่งพยายามเคลื่อนที่ หรือกําลังเคลื่อนที่ไป
บนผิวของอีกวัตถุ เนื่องจากผิวสัมผัสกระทํา มีลักษณะที่สําคัญ ดังนี้
1.เกิดขึ้นระหวางผิวสัมผัสของวัตถุ
2.มีทิศทางตรงกันขามกับทิศทางที่วัตถุเคลื่อนที่หรือตรงกันขามทิศทางของแรงที่พยายามกระทําใหวตถุ ั
เคลื่อนที่
ประเภทของแรงเสียดทาน
แรงเสียดทานมี 2 ประเภท คือ
1.แรงเสียดทานสถิต (static friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึนระหวางผิวสัมผัสของวัตถุ ใน
้
สภาวะทีวัตถุไดรับแรงกระทําแลวหยุดนิง
่ ่
2.แรงเสียดทานจลน (kinetic friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึนระหวางผิวสัมผัสของวัตถุใน
้
สภาวะทีวตถุไดรับแรงกระทําที่เกิดจากการเคลื่อนที่ดวยความเร็วคงที่
่ั
ปจจัยที่มีผลตอแรงเสียดทาน
แรงเสียดทานระหวางผิวสัมผัสจะมีคามากหรือนอยขึ้นยูกับ
15. 10
1.แรงกดตั้งฉากกับผิวสัมผัส ถาแรงกดตังฉากกับผิวสัมผัสมากจะเกิดแรงเสียดทานมาก ถาแรง
กดตั้งฉากกับผิวสัมผัสนอยจะเกิดแรงเสียดทานนอย
2.ลักษณะของผิวสัมผัส ถาผิวสัมผัสหยาบ ขรุขระจะเกิดแรงเสียดทานมาก ดังรูป ก สวน
ผิวสัมผัสเรียบลื่นจะเกิดแรงเสียดทานนอย
3.ชนิดของผิวสัมผัส เชน คอนกรีตกับเหล็ก เหล็กกับไม จะเห็นวาผิวสัมผัสแตละคู มีความ
หยาบ ขรุขระ หรือ เรียบลื่น เปนมันแตกตางกัน ทําใหเกิดแรงเสียดทานไมเทากัน
การลดแรงเสียดทาน
การลดแรงเสียดทานสามารถทําไดหลายวิธดังนี้ ี
1.การใชนํามันหลอลื่นหรือจาระบี
้
2.การใชระบบลูกปน
3.การใชอุปกรณตาง ๆ เชน ตลับลูกปน
4.การออกแบบรูปรางของยานพาหนะใหเพรียวลมทําใหลดแรงเสียดทาน
การเพิ่มแรงเสียดทาน
การเพิ่มแรงเสียดทานในดานความปลอดภัยของมนุษย เชน
1.ยางรถยนตมีดอกยางเปนลวดลาย มีวัตถุประสงคเพื่อเพิ่มแรงเสียดทานระหวางลอกับถนน
2.การหยุดรถตองเพิ่มแรงเสียดทานที่เบรก เพื่อหยุดหรือทําใหลดแลนชาลง
3.รองเทาบริเวณพื้นที่ตองมีลวดลาย เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานทําใหเวลาเดินไมลื่นหกลมไดงาย
4.การปูพ้นหองน้ําใชกระเบื้องที่มีผิวขรุขระ เพื่อชวยเพิ่มแรงเสียดทาน เวลาเปยกน้ําจะไดไมลื่น
ื
สมบัตของแรงเสียดทาน
ิ
1.แรงเสียดทานมีคาเปนศูนย เมื่อไมมีแรงภายนอกมากรํา
2.ขณะที่มแรงภายนอกมาระทําตอวัตถุ และวัตถุยังไมเคลื่อนที่ แรงเสียดทานที่มีขนมีขนาดตาง
ี ึ้
ๆ กัน ตามมาขนาดของแรงที่มากระทํา และแรงเสียดทานที่มีคามากที่สุดคือ แรงเสียดทานสถิต เปนแรง
เสียดทานทีวัตถุเริ่มเคลื่อนที่
่
3.แรงเสียดทานมีทิศทางตรงกันขามกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ
4.แรงเสียดทานสถิดมีคาสูงกวาแรงเสียดทานจลนเล็กนอย
5.แรงเสียดทานจะมีคามากหรือนอยขึ้นอยูกบลักษณะของผิวสัมผัส ผิวสัมผัสหยาบหรือขรุขระ
ั
จะมีแรงเสียดทานมากกวาผิวเรียบและลื่น
6.แรงเสียดทานขึ้นอยูกับน้ําหนักหรือแรงกดของวัตถุที่กดของลงบนพื้น ถาน้ําหนักหรือแรงกด
มากแรงเสียดทานก็จะมากขึนดวย้
7.แรงเสียดทานไมขึ้นอยูกับขนาดหรือพื้นที่ของผิวสัมผัส
16. 11
6.หลอดไดโอดเปลงแสง
ไดโอดเปลงแสง ( Light-emitting diode) หรือที่เรามักจะเรียกวา ไดโอดเปลงแสง การที่เราจะ
สามารถมองเห็นแสงของ ไดโอดเปลงแสง นั้นเปนเพราะภายในตัว ไอโอดเปลงแสง เมิ่อไดรับความตาง
ศักยไฟฟาจะปลอยคลื่นแสงออกม โดยความถี่ของคลื่นแสงที่ความถี่ตางๆกัน จะทําใหเรามองเห็นสี
ตางๆกันไปดวย หลอดไดโอดเปลงแสงที่เราเห็นมีขายกันตามรานอุปกรณอิเล็กทรอนิกสนั้นมีหลาย
แบบ แตละแบบนั้นจะมีหลักการทํางานเหมือนกัน
ไดโอดเปลงแสงแบบหลอดกลมสีแบบตางๆ จะมีสีเคลือบมองเห็นไดชัดเจน สีที่นิยมใชคือ สี
แดง สีเขียว สีเหลือง สีสม เปนตนโดยขนาดของไดโอดเปลงแสง จะมีขนาดตั้งแต 3 มิลลิเมตร, 5
มิลลิเมตร, 8 มิลลิเมตร, 10 มิลลิเมตร เปนตน
ไดโอดเปลงแสงแบบหลอดกลมแบบหลอดใส หรือที่เรามักจะเรียกวา ไดโอดเปลงแสงแบบ
ซุปเปอรไบท โดยที่ตัวหลอดเองจะเปนแบบใสเราจะไมมีทางรูเลยวา จะเปนสีอะไรจนกวาจะลองปอน
ไฟเขาไป ขนาดของไดโอดเปลงแสงแบบนี้จะมีเหมือนกับ หลอดสีตางๆและมีสีใหเลือก เชน สีแดง สี
เขียว สีนํ้าเงิน สีเหลือง สีสม สีขาว เปนตน นอกจากนี้ยังไดโอดเปลงแสงแบบตัวถังเปนรูปสี่เหลี่ยม จะ
มี 4 ขา และมีสใหเลือกใชมากมาย เชน สีแดง สีน้ําเงิน สีเขียว สีสม สีขาว เปนตน
ี
17. 12
บทที่ 3
วัสดุอุปกรณและวิธีการ
วัสดุอุปกรณ
1. ไมอัด ขนาด 10 x 20 Cm
2. ไดนาโม ขนาด 3 โวลต จํานวน 3 ตัว
3. เชือก
4. รางเชือก
5. ตะปู 1 นิ้ว
6. เลื่อย
7. คอน
8. สายไฟ
9. ปนยิงกาว
10. เชือกกระโดดพรอมดามจับ
11. ดิจิตอลมัลติมิเตอร
วิธีการประดิษฐเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
1. ประชุม วางแผนการดําเนินงาน และแบงหนาที่การทํางาน
2. ออกแบบเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
3. จัดหาวัสดุอุปกรณ
4. ประกอบเครื่องตนแบบเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
4.1 นําไมอัดมาเจาะรูใหมขนาดพอใสไดนาโนได แลวขันนอตเพื่อยืดไดนาโม
ี
4.2นํารางเชือกมาใสตรงกลางเฟองของไดนาโมใชปนกาวบุตรงกลางรางเชือกใหเต็มเพื่อใหราง
เชือกไมหลุดออกจากไดนาโมขณะใชเครื่อง
4.3 นําฟวเจอรบอรดมาประกอบเปดเครื่องปองกันไดนาโม
4.4 นําทอสายยางมารอยเชือก เพื่อลดการเสียดสีระหวางเชือกกับตัวเครื่อง
4.5 นําเชือกทีรอยออกมาแลวไปรอยเขากับดามจับของเชือกกระโดดทั้งสองดาน
่
4.6 นําเชือกกระโดมารอยเปนสะพานคลองหลัง
4.7 นํากระเปาผามาเย็บติดกับสายรัดหนาอก และตีนตุกแก
4.8 นําตัวเครืองที่ประกอบเสร็จแลวใสลงในกระเปาผา
่
4.9 เย็บตีนตุกแกอีกดานที่ดานในของเสื้อ
4.10 เจาะรูเสื้อแจคเก็ต เพื่อรอยสายไฟขาออกจากไดนาโม
18. 13
4.11 ติดกระเปาผากับดานในของเสื้อ รอยสายไฟขาไปในตัวเสื้อ
4.12 ตอสายไฟเขากับเครื่องวัดความตางศักยเพื่อแสดงผล
5. ทดสอบเครื่องตนแบบเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
6. จัดทําแบบทดสอบถามความพึงพอใจของผูใชที่มตอเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
ี
7. ทดลองเครื่องตนแบบกับกลุมตัวอยาง
8. กลุมตัวอยางทําแบบถามความพึงพอใจของผูใชที่มตอเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
ี
9. วิเคราะหผลความพึงพอใจของผูใชทมตอเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
ี่ ี
10. สรุปการประดิษฐเครืองออกกําลังกาย Jacket for energy
่
19. 14
บทที่ 4
ผลการทดลอง
เครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy
จากการทดลองประดิษฐเครื่องออกกําลังกาย Jacket for energy พบวาเมื่อออกแรงดึงเชือก
ไปมาอานคาความตางศักยไดสูงสุด 25 โวลต (ความตางศักยกระแสสลับ)
20. 15
บทที่ 5
อภิปรายและสรุปผล
อภิปรายผลการศึกษา
5.1ความพึงพอใจของผูใชทมีตอเครื่องออกกําลังกาย Jacket For Energy
ี่
ในการสํารวจความพึงพอใจของผูใชที่มีตอเครื่องออกกําลังกาย Jacket For Energyใชการสุม
ตัวอยางจากนักเรียนอนุราชประสิทธิ์จํานวน 23 คน ครูโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์จํานวน 11 คน และ
ผูปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์จํานวน 6 คน และการแปลผลแบบสํารวจในครั้ งนี้ไ ด
พิจารณาระดับความพึงพอใจใน 5 ระดับ ตามมาตรวัดลิเคิรท (Likert’s Scale) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
รายละเอียด จํานวน เปอรเซ็นต
ประชากร 40 100
นักเรียน 23 57.50
ผูปกครอง 6 15.00
ครู 11 27.50
ตารางที่ 1สถิตวิเคราะหเกี่ยวกับผูทําแบบสอบถามแยกประเภทตามสถานะทางสังคม ไดแก นักเรียน ครู
ิ
และผูปกครอง
จากตางรางที่ 1 พบวา ผูตอบแบบสอบถาม ประกอบดวยนักเรียนจํานวน 23 คน คิดเปนรอยละ 57.50
ผูปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์จํานวน 6 คน คิดเปนรอยละ 15.00 และครูโรงเรียนอนุราช
ประสิทธิ์ จํานวน 11 คน คิดเปนรอยละ 27.50
21. 16
รายละเอียด จํานวน เปอรเซ็นต
กิจกรรมที่ปฏิบัตหากไมไดออกกําลังกาย 100
ิ 100
ดูภาพยนตรหรือโทรทัศน 12 30.00
นักเรียน 7 17.50
ครู 2 5.00
ผูปกครอง 3 7.50
อานหนังสือ 10 25.00
นักเรียน 6 15.00
ครู 3 7.50
ผูปกครอง 2 2.50
นอน 6 15.00
นักเรียน 4 10.00
ครู 2 5.00
ผูปกครอง 0 0.00
งานอดิเรกอื่นๆ 12 30.00
นักเรียน 6 15.00
ครู 4 10.00
ผูปกครอง 2 5.00
ตารางที่ 2 สถิติวิเคราะหเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผูทําแบบสอบถามจัดทําเมื่อไมไดออกกําลังกาย
22. 17
จากขอมูลขางตนพบวากิจกรรมที่ผูทดลองใชเครื่องออกกําลังกาย Jacket For Energy ทําเมื่อ
ไมไดออกกําลังกายจะเกี่ยวของกับการใชพลังงานไฟฟาเสมอ ดังนั้นเมื่อคํานวณการลดปริมาณการ
ปลอยกาซเรือนกระจกเมื่อใช Jacket For Energyในการออกกําลังกาย 1 ชั่วโมง/วัน โดยใชผลการ
คํานวณจากเว็บไซต http://thaicfcalculator.tgo.or.th ภายใตเงื่อนไขผูอยูอาศัยเพียง 1 คน ในเวลา 1 ป
ไดผลดังนี้
เครื่องใชไฟฟาที่เราไมตองเปดเมื่อใช Jacket For Energy ตันคารบอนไดออกไซดเทียบเทาตอป
หลอดไฟฟาแบบหลอดไสขนาด 25 วัตต จํานวน 1 ดวง 0.01
หลอดไฟฟาแบบหลอดไสขนาด 40 วัตต จํานวน 1 ดวง 0.01
หลอดไฟฟาแบบหลอดไสขนาด 60 วัตต จํานวน 1 ดวง 0.01
หลอดไฟฟาแบบหลอดไสขนาด 100 วัตต จํานวน 1 ดวง 0.02
หลอดไฟฟาแบบหลอดฟลูออเรสเซนต ขนาด 18 วัตต 0.01
จํานวน 1 ดวง
หลอดไฟฟาแบบหลอดฟลูออเรสเซนต ขนาด 36 วัตต 0.02
จํานวน 1 ดวง
หลอดไฟฟาแบบหลอดตะเกียบ ขนาด 20 วัตต จํานวน 1 ดวง 0.01
หลอดไฟฟาแบบหลอดคอมแพ็คฟลูออเรสเซนต 0.01
ขนาด 25 วัตต จํานวน 1 ดวง
พัดลมตั้งพื้นขนาด 16 นิ้ว จํานวน 1 ตัว 0.01
โทรทัศนสีจอ CRT ขนาด 14 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง 0.01
โทรทัศนสีจอ CRT ขนาด 20 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง 0.02
โทรทัศนสีจอ CRT ขนาด 21 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง 0.02
คอมพิวเตอรแบบตั้งโตะ ขนาดจอ 14 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง 0.01
คอมพิวเตอรแบบตั้งโตะ ขนาดจอ 15 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง 0.01
คอมพิวเตอรแบบตั้งโตะ ขนาดจอ 17 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง 0.02
เครื่องปรับอากาศ ขนาด 9,000 btu จํานวน 1 เครื่อง 0.11
เครื่องปรับอากาศ ขนาด 12,000 btu จํานวน 1 เครื่อง 0.13
เครื่องปรับอากาศ ขนาด 12,500 btu จํานวน 1 เครื่อง 0.16
23. 18
ระดับความพึงพอใจ
ไมเห็นดวยอยางยิง
รายการ
่
เห็นดวยอยางยิ่ง
ไมเห็นดวย
รวม (%)
เห็นดวย
ไมแนใจ
รูปลักษณของ Jacket For Energy
1.ความสวยงาม 7.50 70.00 20.00 2.50 0.00 100
2.ความแข็งแรง 12.50 55.00 30.00 2.50 0.00 100
3.ความสะดวกในการใช 32.50 52.50 15.00 0.00 0.00 100
4.ความคิดสรางสรรค 55.00 45.00 0.00 0.00 0.00 100
5.น้ําหนักตัวเครื่อง 17.50 57.50 25.00 0.00 0.00 100
การใชงาน Jacket For Energy
1. Jacket for energy มีประสิทธิภาพเทียบเคียงเครื่องออก 15.00 30.00 55.00 0.00 0.00 100
กําลังกายในฟตเนส
2. Jacket for energy ทําใหเราสามารถใชเวลาวางใหเกิด 42.50 50.00 7.50 0.00 0.00 100
ประโยชนได
3. Jacket for energy ชวยชวยลดภาวะโลกรอนได 50.00 32.50 17.50 0.00 0.00 100
4. หลังจากทดลองใช Jacket for energy แลวทานรูสึก 17.50 50.00 25.00 7.50 0.00 100
อยากออกกําลังกาย
5. Jacket for energy ตองมีการพัฒนาตอ 72.50 22.50 5.00 0.00 0.00 100
6. หากมีการพัฒนา Jacket for energy ในรุนสมบูรณทาน 37.50 50.00 12.50 0.00 0.00 100
จะเลือกใช Jacket for energy เปนสวนหนึ่งในการออก
กําลังกาย
7. Jacket for energy จะชวยใหทานลดการใชพลังงาน เชน 45.00 55.00 0.00 0.00 0.00 100
การใชเครื่องใชไฟฟา การใชน้ํามัน และตระหนักถึง
คุณคาของการออกกําลังกาย
ตารางที่ 3 สถิติวิเคราะหความพึงพอใจของผูใชท่มีตอเครื่องออกกําลังกาย
ี
Jacket For Energy ในรูปรอยละ
24. 19
สรุปผลการศึกษา
จากการทดลอง เครื่องออกกําลังกายผลิตพลังงานไฟฟาจาก Jacket For Energy ดวยการออก
กําลังกายไมวาจะเปนการเตนแอโรบิกหรือการวิ่ง สามารถนําพลังงานที่ไดจากการออกกําลังกายมาผลิต
เปนพลังงานไฟฟา สามารถชวยประหยัดพลังงาน และทําใหมีสุขภาพที่แข็งแรง
ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ
1. ไดตนแบบเครื่องออกกําลังกายผลิตพลังงานไฟฟา Jacket For Energy
2. ชวยประหยัดพลังงาน
3. ทําใหผูใชมสุขภาพแข็งแรง
ี
ขอเสนอแนะ
1. ควรทําฝากลองแบบเปด-ปดได เพื่องายตอการซอมแซม
2. ควรออกแบบใหมีรูปแบบใหเหมาะสมตอการใชงานมากขึ้น
3. ควรนําไปพัฒนาตอโดยการใชอุปกรณ ทีมีคุณภาพ หางายและเหมาะสม
่
4. ควรนําไปตอกับเครื่องใชไฟฟาที่รองรับความตางศักยสูงๆ แตกินกระแสไฟนอย
5. ควรพัฒนาตอเพื่อเพิ่มปริมาณกระแสไฟฟา
6. ควรพัฒนาใหเหมาะสมกับการออกกําลังกายประเภทอื่นใหผลิตไฟฟาไดอีก
25. 20
บรรณานุกรม
[1] ทวีศักดิ์ ภูชัย และคณะ . ไฟฟาเพื่อชีวิต.
http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type1/science03/11/Electrity-web/index.html. 26
ตุลาคม 2554
[2] ประดับ นาคแกว. หนังสือเรียนวิทยาสาสตร ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3. กรุงเทพฯ:แม็ค, 2553.
[3] สุนทร โคตรบรรเทา. สารานุกรมวิทยาศาสตร. ไฟฟาและอิเล็กทรอนิกส. กรุงเทพฯ:เดอะ มาสเตอร
กรุป. 2549.