SlideShare a Scribd company logo
กัมมันตภาพรังสีและปฏิกิริยานิวเคลียร

กัมมันตภาพรังสี

             เฮนรี เบ็กเคอเรล (Henri Becquerel) นักฟสิกสชาวฝรั่งเศสพบวาสารประกอบของยูเรเนียมชนิดหนึ่งคือ
สารโพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟตสามารถปลอยรังสีชนิดหนึ่งออกมาไดตลอดเวลา
             เบ็กเคอเรล ยังพบอีกวาสารประกอบของยูเรเนียมทุกชนิดก็ปลอยรังสีดังกลาวเชนกัน และเรียกรังสีนี้วา
รังสียูเรนิก (Uranic ray) การคนพบของเบ็กเคอเรล ทําใหนักวิทยาศาสตรสงสัยวาธาตุอื่นๆ มีการแผรังสีเชนเดียวกับ
ยูเรเนียมหรือไม มารี คูรี (Marie Curie) และสามีไดทดลองกับธาตุหลายชนิดและพบวาธาตุบางชนิด เชน พอโลเนียม
และเรเดียม มีการแผรังสีไดเชนเดียวกับยูเรเนียม เรียกธาตุที่มีการแผรังสีไดเองวา ธาตุกัมมันตรังสี (Radioactive
element) และปรากฏการณการแผรังสีไดเองอยางตอเนื่องเชนนี้ เรียกวา กัมมันตภาพรังสี (Radioactivity)
             การศึกษาพบวา รังสีที่ธาตุกัมมันตรังสีแผออกมามี 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟา (alpha ray) รังสีบีตา (beta ray )
และรังสีแกมมา (gamma ray) นิยมเขียนแทนดวยสัญลักษณ   และ  ตามลําดับ
                                                       4
             รังสีแอลฟา เปนนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม ( 2 He ) สามารถทําใหสารที่ผานเกิดการแตกตัวเปนไอออนได
ดี จึงเสียพลังงานอยางรวดเร็ว ดังนั้นรังสีแอลฟาจึงมีอํานาจทะลุผานนอยมาก สามารถเดินทางผานอากาศไดระยะทาง
เพียง 3 – 5 เซนติเมตร เพียงใชแผนกระดาษบางๆ กั้น รังสีแอลฟาก็ไมอาจทะลุผานได
             รังสีบีตา    เปนอิเล็กตรอน สามารถผาน
อากาศไดประมาณ 1 – 3 เมตร รังสีบีตาจึงมีอํานาจทะลุ                        กระดาษ อะลูมิเนียม          ตะกั่ว
ผานมากกวารังสีแอลฟา
             รังสีแกมมา เปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มี 
ความยาวคลื่ น สั้ น มาก สามารถทะลุ ผ า นแผ น 
อะลูมิเนียมที่หนาหลายเซนติเมตรไดจึงมีอํานาจทะลุ
ผานมากที่สุดในบรรดารังสีทั้งสามชนิด                      
กฎการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี กลาวไววา                             รูป 1. อํานาจทะลุผานของรังสี
           1. จํานวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่
สลายไปในหนึ่งหนวยเวลา (อัตราการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี) จะเปนสัดสวนโดยตรงกับจํานวนนิวเคลียสที่มีอยู
           2. ในการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี โอกาสที่นิวเคลียสแตละตัวจะสลายไปในหนึ่งเวลาเทากันหมดทุก
นิวเคลียส ซึ่งเปนสมบัติเฉพาะตัวของธาตุกัมมันตรังสีแตละชนิด
           3. อัตราการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีไมข้นกับสิ่งแวดลอม เชน อุณหภูมิ หรือความดัน
                                                       ึ




                                                           -1-
ประโยชนและอันตรายของกัมมันตภาพรังสี

          ประโยชนของกัมมันตภาพรังสี
              1. ดานการเกษตร ไดแก
                  - ควบคุมและกําจัดแมลง
                  - ใชรังสีปรับปรุงพันธุพืช ดวยการดัดแปลงทางพันธุกรรม
                  - ใชในการถนอมผลิตภัณฑทางการเกษตร
              2. ดานอุตสาหกรรม ไดแก
                  - การใชรังสีเปนสารติดตาม
                  - เสริมคุณภาพน้ํายางในธรรมชาติดวยรังสี
                  - เสริมคุณภาพฉนวนไฟฟา
                  - กําจัดแกสพิษออกจากการเผาไหมในอุตสาหกรรม
                  - ควบคุมความหนาของแผนโลหะใหสม่ําเสมอ
                  - การถายภาพดวยรังสีอุตสาหกรรม
              3. การใชกัมมันตภาพรังสีในการหาอายุวัตถุโบราณ
              4. ใชในการแพทย
                  - เพื่อวินิจฉัยโรค
                  - เพื่อบําบัดโรค
          อันตรายจากกัมมันตภาพรังสี
            1. การไดรับปริมาณมากจะมีผลตอรางกาย ทําใหเกิดโรคเรื้อรัง เสียชีวิตดวยโรคตอมา เชน โรคลูคิเมีย
โรคมะเร็ง โรคคีลอยด ตอแกวตา โรคที่เกิดจากเซลลไขกระดูกถูกทําลายเปนตน
            2. การทําเปนอาวุธสงคราม เชนระเบิดนิวเคลียร อํานาจการทําลายลางจะมากมายมหาศาลมาก

ปฏิกิริยานิวเคลียร

          ปฏิกิริยานิวเคลียร คือ กระบวนการที่นิวเคลียสเกิดการเปลี่ยนแปลงองคประกอบ หรือ ระดับพลังงานจาก
การชนระหวางนิวเคลียสกับนิวเคลียส หรือนิวเคลียสกับอนุภาค ดังสมการ
                                          X+a                Y + b + E
                   เมื่อ X แทน นิวเคลียสของธาตุที่ใชเปนเปา
                            a แทน อนุภาคที่วิ่งมาชนเปา
                            Y แทน นิวเคลียสของธาตุใหมหลังการชน
                            b แทน อนุภาคใหมที่เกิดขึ้นภายหลังการชน
                        E แทน พลังงานที่ปลดปลอยจากปฏิกิริยา
               ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะเปนการคายพลังงาน ถา E เปนบวก โดยพลังงานที่ปลดปลอยออกมาจากปฏิกิริยา
นิวเคลียร เรียกวา พลังงานนิวเคลียร และ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะดูดพลังงาน ถา E เปนลบ




                                                     -2-
ปฏิกิริยานิวเคลียรฟชชัน เกิดจากการใหนิวเคลียสหนัก (เลขมวล  230) แยกตัว โดยมีนิวตรอนเปนตัววิ่ง
ชน เปนผลทําใหไดนิวเคลียสที่มีขนาดปานกลาง และมีนิวตรอนที่มีความเร็วสูงเกิดขึ้นประมาณ 2- 3 ตัว ทั้งมีการคาย
พลังงานออกมาดวย ดังตัวอยางปฏิกิริยาตอไปนี้

                235     1    140      94        1
                 92 U + 0 n  54 Xe + 38 Sr + 2 0 n +  + 200 MeV
                                                                             140
                                                                      1       54 Xe
                                                                      0n
                          1                                                            
                          0n                235
                                             92 U
                                                                                       94
                                                                      1                38 Sr
                                                                      0n

                                                                                        200 MeV

         ปฏิกิริยานิวเคลียรฟวชัน เกิดจากนิวเคลียสเบา (เลขมวล  20) หรืออนุภาครวมตัวกันที่อุณหภูมิสูงเปน
นิวเคลียสที่ใหญขึ้นและมีพลังงานปลดปลอยออกมา ดังตัวอยางปฏิกิริยาตอไปนี้

            2     2     3     1
            1 H + 1 H  1 H + 1 H + 4 MeV

            2     2     3      1
            1 H + 1 H  2 He + 0 n + 3.3 MeV




          จากการศึกษาพบวา กอนเกิดปฏิกิริยา มวลรวมของนิวเคลียสของเปาและอนุภาคที่วิ่งมาชนเปา มีคามากกวา
มวลรวมของนิวเคลียสของธาตุใหมและอนุภาคที่ไดจากการชน แสดงวาหลังเกิดปฏิกิริยา มีมวลที่หายไป แลวถูก
เปลี่ยนเปนพลังงาน ตามความสัมพันธระหวางมวล (m) และพลังงาน (E) ของไอนสไตนที่วา E = mc2 เมื่อ c เปน
                                                          235     1              140           94     1
อัตราเร็วของแสง ผลการคํานวณพบวา ปฏิกิริยานิวเคลียรของ 92 U + 0 n               54 Xe + 38 Sr + 2 0 n +
 + 200 MeV จะเกิดพลังงานนิวเคลียร 200 MeV เมื่อเกิดตอเนื่องเปนปฏิกิริยาลูกโซ จะไดพลังงานมหาศาล
เชนเดียวกับระเบิดนิวเคลียร
          มนุษยนําพลังงานนิวเคลียรไปใชประโยชนหลายอยาง เชน ผลิตพลังงานไฟฟา ใชขับเคลื่อนเรือเดินสมุทร
เปนตน




                                                    -3-

More Related Content

What's hot

เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็กเรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็กApinya Phuadsing
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
Chakkrawut Mueangkhon
 
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอมแบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
เอเอ็นโอเอ็นซีเอดี ซีทีอาร์แอลเอแอลทีดีอีแอล
 
Ch 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistryCh 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistrykruannchem
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าwongteamjan
 
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2Apinya Phuadsing
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
Chakkrawut Mueangkhon
 
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอมฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
Chakkrawut Mueangkhon
 
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
ณรรตธร คงเจริญ
 
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าApinya Phuadsing
 
กัมมันตรังสี
กัมมันตรังสีกัมมันตรังสี
กัมมันตรังสีพัน พัน
 
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
Chakkrawut Mueangkhon
 
สมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบ
สมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบสมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบ
สมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบพัน พัน
 
Atomic model ruth & bohr
Atomic model ruth & bohrAtomic model ruth & bohr
Atomic model ruth & bohr
Saipanya school
 
กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า
กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า
กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า
noksaak
 

What's hot (16)

เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็กเรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
 
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอมแบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
แบบทดสอบเก็บคะแนนก่อนกลางภาค เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม
 
Ch 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistryCh 03 nuclear chemistry
Ch 03 nuclear chemistry
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
 
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
 
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอมฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
 
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
แม่เหล็กแบบเรียน บ้านเติมเต็ม ฟิสิกส์ครูนัด
 
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
กัมมันตรังสี
กัมมันตรังสีกัมมันตรังสี
กัมมันตรังสี
 
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
 
สมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบ
สมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบสมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบ
สมบัติของธาตุตามหมู่และตามคาบ
 
Physics atom part 1
Physics atom part 1Physics atom part 1
Physics atom part 1
 
Atomic model ruth & bohr
Atomic model ruth & bohrAtomic model ruth & bohr
Atomic model ruth & bohr
 
กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า
กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า
กฏของโอห์มและวงจรไฟฟ้า
 

Viewers also liked

เรื่องที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์
เรื่องที่ 20  ฟิสิกส์นิวเคลียร์เรื่องที่ 20  ฟิสิกส์นิวเคลียร์
เรื่องที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์thanakit553
 
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
Wijitta DevilTeacher
 
คลื่นและเสียง
คลื่นและเสียงคลื่นและเสียง
คลื่นและเสียง
โรงเรียนเทพลีลา
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียง
เอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียงเอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียง
เอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียง
Tom Vipguest
 
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่นแบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
Chakkrawut Mueangkhon
 

Viewers also liked (6)

Phy
PhyPhy
Phy
 
เรื่องที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์
เรื่องที่ 20  ฟิสิกส์นิวเคลียร์เรื่องที่ 20  ฟิสิกส์นิวเคลียร์
เรื่องที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์
 
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
 
คลื่นและเสียง
คลื่นและเสียงคลื่นและเสียง
คลื่นและเสียง
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียง
เอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียงเอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียง
เอกสารประกอบการเรียนวิชาคลื่นเสียงแสง เรื่อง เสียง
 
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่นแบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
 

Similar to Nuclear

แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์
แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์
แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์
เอเอ็นโอเอ็นซีเอดี ซีทีอาร์แอลเอแอลทีดีอีแอล
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Thaweekoon Intharachai
 
ปฏิกิริยานิวเคลียร์
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ปฏิกิริยานิวเคลียร์
ปฏิกิริยานิวเคลียร์girapong
 
ไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมีไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมีPhasitta Chem
 
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]numpueng
 
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1thanakit553
 
เซลล์อิเล็กโทรไลต์
เซลล์อิเล็กโทรไลต์เซลล์อิเล็กโทรไลต์
เซลล์อิเล็กโทรไลต์Jariya Jaiyot
 
Electro magnetic Waves Group 2 6/1 BM
Electro magnetic Waves Group 2 6/1 BMElectro magnetic Waves Group 2 6/1 BM
Electro magnetic Waves Group 2 6/1 BM
Dechatorn Devaphalin
 
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2
GanKotchawet
 
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
Dr.Woravith Chansuvarn
 
Physics atom part 3
Physics atom part 3Physics atom part 3
Physics atom part 3
Wijitta DevilTeacher
 
ฟิสิกส์.pdf
ฟิสิกส์.pdfฟิสิกส์.pdf
ฟิสิกส์.pdf
nipatboonkong2
 
Applications of infrared ray for drying agricultural products
Applications of infrared ray for drying agricultural productsApplications of infrared ray for drying agricultural products
Applications of infrared ray for drying agricultural products
Postharvest Technology Innovation Center
 
9789740327752
97897403277529789740327752
9789740327752
CUPress
 

Similar to Nuclear (20)

มิ่ง111
มิ่ง111มิ่ง111
มิ่ง111
 
มิ่ง111
มิ่ง111มิ่ง111
มิ่ง111
 
แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์
แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์
แบบเรียน เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์
 
Atom 3
Atom 3Atom 3
Atom 3
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
ปฏิกิริยานิวเคลียร์
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ปฏิกิริยานิวเคลียร์
ปฏิกิริยานิวเคลียร์
 
Electrochem 1
Electrochem 1Electrochem 1
Electrochem 1
 
ไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมีไฟฟ้าเคมี
ไฟฟ้าเคมี
 
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
Ch13 mp2 atom&nucleus[2]
 
Electric chem8
Electric chem8Electric chem8
Electric chem8
 
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1เรื่องที่ 16  แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
 
เซลล์อิเล็กโทรไลต์
เซลล์อิเล็กโทรไลต์เซลล์อิเล็กโทรไลต์
เซลล์อิเล็กโทรไลต์
 
Electro magnetic Waves Group 2 6/1 BM
Electro magnetic Waves Group 2 6/1 BMElectro magnetic Waves Group 2 6/1 BM
Electro magnetic Waves Group 2 6/1 BM
 
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า กลุ่มที่ 1 ม.6/2
 
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
 
Physics atom part 3
Physics atom part 3Physics atom part 3
Physics atom part 3
 
Physics atom part 3
Physics atom part 3Physics atom part 3
Physics atom part 3
 
ฟิสิกส์.pdf
ฟิสิกส์.pdfฟิสิกส์.pdf
ฟิสิกส์.pdf
 
Applications of infrared ray for drying agricultural products
Applications of infrared ray for drying agricultural productsApplications of infrared ray for drying agricultural products
Applications of infrared ray for drying agricultural products
 
9789740327752
97897403277529789740327752
9789740327752
 

More from Taweesak Poochai

ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63
ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63
ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63
Taweesak Poochai
 
โครงสร้างโลก
โครงสร้างโลกโครงสร้างโลก
โครงสร้างโลก
Taweesak Poochai
 
การทดลองภูเขาไฟระเบิด
การทดลองภูเขาไฟระเบิดการทดลองภูเขาไฟระเบิด
การทดลองภูเขาไฟระเบิด
Taweesak Poochai
 
เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์
เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์
เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์
Taweesak Poochai
 
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒
Taweesak Poochai
 
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑
Taweesak Poochai
 
ถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพ
ถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพ
ถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพ
Taweesak Poochai
 
เอกสารประกอบการบรรยาย
เอกสารประกอบการบรรยายเอกสารประกอบการบรรยาย
เอกสารประกอบการบรรยาย
Taweesak Poochai
 
สหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยี
สหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยีสหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยี
สหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยี
Taweesak Poochai
 
nano safety short
nano safety shortnano safety short
nano safety short
Taweesak Poochai
 
Nano safety-e-book
Nano safety-e-bookNano safety-e-book
Nano safety-e-book
Taweesak Poochai
 
Hydroelectric power
Hydroelectric powerHydroelectric power
Hydroelectric power
Taweesak Poochai
 
คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
Taweesak Poochai
 
JfePresent
JfePresentJfePresent
JfePresent
Taweesak Poochai
 
JFEs
JFEsJFEs
Sunny ars report
Sunny ars reportSunny ars report
Sunny ars report
Taweesak Poochai
 

More from Taweesak Poochai (20)

ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63
ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63
ความพร้อมการเรียนทางไกล 1/63
 
โครงสร้างโลก
โครงสร้างโลกโครงสร้างโลก
โครงสร้างโลก
 
การทดลองภูเขาไฟระเบิด
การทดลองภูเขาไฟระเบิดการทดลองภูเขาไฟระเบิด
การทดลองภูเขาไฟระเบิด
 
เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์
เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์
เอกสารการสัมมนาวิชาการฯ ทิศทางการผลิตครูวิทยาศาสตร์
 
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๒
 
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑
สารานุกรมลูกเสือเล่ม ๑
 
ถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพ
ถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพ
ถามตอบเชื้อเพลิงชีวภาพ
 
เอกสารประกอบการบรรยาย
เอกสารประกอบการบรรยายเอกสารประกอบการบรรยาย
เอกสารประกอบการบรรยาย
 
สหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยี
สหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยีสหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยี
สหวิทยาการของนาโนเทคโนโลยี
 
nano safety short
nano safety shortnano safety short
nano safety short
 
Nano safety-e-book
Nano safety-e-bookNano safety-e-book
Nano safety-e-book
 
Hydroelectric power
Hydroelectric powerHydroelectric power
Hydroelectric power
 
คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
คู่มือ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
 
Sound
SoundSound
Sound
 
Em wave
Em waveEm wave
Em wave
 
Ictoutdoor2012
Ictoutdoor2012Ictoutdoor2012
Ictoutdoor2012
 
JfePresent
JfePresentJfePresent
JfePresent
 
JFEs
JFEsJFEs
JFEs
 
GYI3rpt1
GYI3rpt1GYI3rpt1
GYI3rpt1
 
Sunny ars report
Sunny ars reportSunny ars report
Sunny ars report
 

Nuclear

  • 1. กัมมันตภาพรังสีและปฏิกิริยานิวเคลียร กัมมันตภาพรังสี เฮนรี เบ็กเคอเรล (Henri Becquerel) นักฟสิกสชาวฝรั่งเศสพบวาสารประกอบของยูเรเนียมชนิดหนึ่งคือ สารโพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟตสามารถปลอยรังสีชนิดหนึ่งออกมาไดตลอดเวลา เบ็กเคอเรล ยังพบอีกวาสารประกอบของยูเรเนียมทุกชนิดก็ปลอยรังสีดังกลาวเชนกัน และเรียกรังสีนี้วา รังสียูเรนิก (Uranic ray) การคนพบของเบ็กเคอเรล ทําใหนักวิทยาศาสตรสงสัยวาธาตุอื่นๆ มีการแผรังสีเชนเดียวกับ ยูเรเนียมหรือไม มารี คูรี (Marie Curie) และสามีไดทดลองกับธาตุหลายชนิดและพบวาธาตุบางชนิด เชน พอโลเนียม และเรเดียม มีการแผรังสีไดเชนเดียวกับยูเรเนียม เรียกธาตุที่มีการแผรังสีไดเองวา ธาตุกัมมันตรังสี (Radioactive element) และปรากฏการณการแผรังสีไดเองอยางตอเนื่องเชนนี้ เรียกวา กัมมันตภาพรังสี (Radioactivity) การศึกษาพบวา รังสีที่ธาตุกัมมันตรังสีแผออกมามี 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟา (alpha ray) รังสีบีตา (beta ray ) และรังสีแกมมา (gamma ray) นิยมเขียนแทนดวยสัญลักษณ   และ  ตามลําดับ 4 รังสีแอลฟา เปนนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม ( 2 He ) สามารถทําใหสารที่ผานเกิดการแตกตัวเปนไอออนได ดี จึงเสียพลังงานอยางรวดเร็ว ดังนั้นรังสีแอลฟาจึงมีอํานาจทะลุผานนอยมาก สามารถเดินทางผานอากาศไดระยะทาง เพียง 3 – 5 เซนติเมตร เพียงใชแผนกระดาษบางๆ กั้น รังสีแอลฟาก็ไมอาจทะลุผานได รังสีบีตา เปนอิเล็กตรอน สามารถผาน อากาศไดประมาณ 1 – 3 เมตร รังสีบีตาจึงมีอํานาจทะลุ กระดาษ อะลูมิเนียม ตะกั่ว ผานมากกวารังสีแอลฟา รังสีแกมมา เปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มี  ความยาวคลื่ น สั้ น มาก สามารถทะลุ ผ า นแผ น  อะลูมิเนียมที่หนาหลายเซนติเมตรไดจึงมีอํานาจทะลุ ผานมากที่สุดในบรรดารังสีทั้งสามชนิด  กฎการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี กลาวไววา รูป 1. อํานาจทะลุผานของรังสี 1. จํานวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่ สลายไปในหนึ่งหนวยเวลา (อัตราการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี) จะเปนสัดสวนโดยตรงกับจํานวนนิวเคลียสที่มีอยู 2. ในการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี โอกาสที่นิวเคลียสแตละตัวจะสลายไปในหนึ่งเวลาเทากันหมดทุก นิวเคลียส ซึ่งเปนสมบัติเฉพาะตัวของธาตุกัมมันตรังสีแตละชนิด 3. อัตราการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีไมข้นกับสิ่งแวดลอม เชน อุณหภูมิ หรือความดัน ึ -1-
  • 2. ประโยชนและอันตรายของกัมมันตภาพรังสี ประโยชนของกัมมันตภาพรังสี 1. ดานการเกษตร ไดแก - ควบคุมและกําจัดแมลง - ใชรังสีปรับปรุงพันธุพืช ดวยการดัดแปลงทางพันธุกรรม - ใชในการถนอมผลิตภัณฑทางการเกษตร 2. ดานอุตสาหกรรม ไดแก - การใชรังสีเปนสารติดตาม - เสริมคุณภาพน้ํายางในธรรมชาติดวยรังสี - เสริมคุณภาพฉนวนไฟฟา - กําจัดแกสพิษออกจากการเผาไหมในอุตสาหกรรม - ควบคุมความหนาของแผนโลหะใหสม่ําเสมอ - การถายภาพดวยรังสีอุตสาหกรรม 3. การใชกัมมันตภาพรังสีในการหาอายุวัตถุโบราณ 4. ใชในการแพทย - เพื่อวินิจฉัยโรค - เพื่อบําบัดโรค อันตรายจากกัมมันตภาพรังสี 1. การไดรับปริมาณมากจะมีผลตอรางกาย ทําใหเกิดโรคเรื้อรัง เสียชีวิตดวยโรคตอมา เชน โรคลูคิเมีย โรคมะเร็ง โรคคีลอยด ตอแกวตา โรคที่เกิดจากเซลลไขกระดูกถูกทําลายเปนตน 2. การทําเปนอาวุธสงคราม เชนระเบิดนิวเคลียร อํานาจการทําลายลางจะมากมายมหาศาลมาก ปฏิกิริยานิวเคลียร ปฏิกิริยานิวเคลียร คือ กระบวนการที่นิวเคลียสเกิดการเปลี่ยนแปลงองคประกอบ หรือ ระดับพลังงานจาก การชนระหวางนิวเคลียสกับนิวเคลียส หรือนิวเคลียสกับอนุภาค ดังสมการ X+a  Y + b + E เมื่อ X แทน นิวเคลียสของธาตุที่ใชเปนเปา a แทน อนุภาคที่วิ่งมาชนเปา Y แทน นิวเคลียสของธาตุใหมหลังการชน b แทน อนุภาคใหมที่เกิดขึ้นภายหลังการชน E แทน พลังงานที่ปลดปลอยจากปฏิกิริยา ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะเปนการคายพลังงาน ถา E เปนบวก โดยพลังงานที่ปลดปลอยออกมาจากปฏิกิริยา นิวเคลียร เรียกวา พลังงานนิวเคลียร และ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะดูดพลังงาน ถา E เปนลบ -2-
  • 3. ปฏิกิริยานิวเคลียรฟชชัน เกิดจากการใหนิวเคลียสหนัก (เลขมวล  230) แยกตัว โดยมีนิวตรอนเปนตัววิ่ง ชน เปนผลทําใหไดนิวเคลียสที่มีขนาดปานกลาง และมีนิวตรอนที่มีความเร็วสูงเกิดขึ้นประมาณ 2- 3 ตัว ทั้งมีการคาย พลังงานออกมาดวย ดังตัวอยางปฏิกิริยาตอไปนี้ 235 1 140 94 1 92 U + 0 n  54 Xe + 38 Sr + 2 0 n +  + 200 MeV 140 1 54 Xe 0n 1  0n 235 92 U 94 1 38 Sr 0n 200 MeV ปฏิกิริยานิวเคลียรฟวชัน เกิดจากนิวเคลียสเบา (เลขมวล  20) หรืออนุภาครวมตัวกันที่อุณหภูมิสูงเปน นิวเคลียสที่ใหญขึ้นและมีพลังงานปลดปลอยออกมา ดังตัวอยางปฏิกิริยาตอไปนี้ 2 2 3 1 1 H + 1 H  1 H + 1 H + 4 MeV 2 2 3 1 1 H + 1 H  2 He + 0 n + 3.3 MeV จากการศึกษาพบวา กอนเกิดปฏิกิริยา มวลรวมของนิวเคลียสของเปาและอนุภาคที่วิ่งมาชนเปา มีคามากกวา มวลรวมของนิวเคลียสของธาตุใหมและอนุภาคที่ไดจากการชน แสดงวาหลังเกิดปฏิกิริยา มีมวลที่หายไป แลวถูก เปลี่ยนเปนพลังงาน ตามความสัมพันธระหวางมวล (m) และพลังงาน (E) ของไอนสไตนที่วา E = mc2 เมื่อ c เปน 235 1 140 94 1 อัตราเร็วของแสง ผลการคํานวณพบวา ปฏิกิริยานิวเคลียรของ 92 U + 0 n  54 Xe + 38 Sr + 2 0 n +  + 200 MeV จะเกิดพลังงานนิวเคลียร 200 MeV เมื่อเกิดตอเนื่องเปนปฏิกิริยาลูกโซ จะไดพลังงานมหาศาล เชนเดียวกับระเบิดนิวเคลียร มนุษยนําพลังงานนิวเคลียรไปใชประโยชนหลายอยาง เชน ผลิตพลังงานไฟฟา ใชขับเคลื่อนเรือเดินสมุทร เปนตน -3-