2. การเล็งเห็นปัญหาเกิดขึนได้ ทกเวลา..
้ ุ
เมื่อใดก็ตามที่ผู้บริโภครู้ สึกถึงความแตกต่ างเป็ น
จานวนมากพอระหว่ างสภาวะที่ปรารถนากับสภาพที่
เป็ นจริง ผู้บริโภคจะรับรู้ ว่ามีปัญหาที่จะต้ องแก้ ไข
เกิดขึน
้

3. 1. อิทธิพลของสถานการณ์ (Situation Influences)
 สถานการณ์ การบริโภค
 สถานการณ์ การซื้อผลิตภัณฑ์
2. อิทธิพลของผ้บริโภค (Consumer Influences)
ู
3. อิทธิพลทางการตลาด (Marketing Influences)

4. 1. ความรู้จากการเล็งเห็นปัญหาจะช่ วยให้ นักการตลาด
แบ่ งส่ วนตลาด โดยใช้ แรงจูงใจในการซื้อเป็ นเกณฑ์ การแบ่ ง
ส่ วนตลาด
2. การเล็งเห็นปัญหาสามารถประยุกต์ ใช้ ได้ ในการส่ งเสริมการ
จาหน่ ายสู่ กลุ่มเป้ าหมาย
3. การใช้ ความรู้ด้านการเล็งเห็นปัญหาสร้ างให้ ผ้ ูบริโภคตระหนัก
ถึงความต้ องการสิ นค้ าหรือบริการใหม่ ๆได้

5. 4. การทราบถึงการเล็งเห็นปัญหาของลูกค้ าทาให้ นักตลาดสามารถ
หาทางช่ วยผู้บริโภคให้ เปลี่ยนจากสภาวะที่เป็ นจริงไปสู่ สภาวะที่
ปรารถนา
5. การเล็งเห็นปัญหาทาให้ ทราบถึงสถานการณ์ ท่ผ้ ูบริโภคมี
ี
แนวโน้ มจะซื้อ
6. ในกรณีที่ผ้ บริโภคไม่ เกิดการเล็งเห็นปัญหา นักการตลาดสามารถ
ู
ใช้ การจัดการกับองค์ ประกอบของส่ วนประสมทางการตลาด เพื่อ
ส่ งเสริมให้ เกิดการเล็งเห็นปัญหา

6. 1. การเปลียนแปลงในครอบครัว
่ 5. การเปลียนแปลงกลุ่มอ้างอิง
่
2. การเปลียนแปลงฐานะการเงิน
่ 6. ความพยายามทางการตลาด
3. ความคาดหวังทางการเงินและ 7. การตืนตัวของสิ่งจูงใจ
่
รายได้ 8. ความต้องการการเปลียนแปลง
่
4. การเล็งเห็นปัญหาอืนๆ
่ 9. สถานการณ์ต่างๆ

7. 1. การเสื่ อมสภาพและคุณค่ าของตัวแก้ ปัญหา
2. ความไม่ พอใจในตัวแก้ ปัญหาปัจจุบัน
3. ความพยายามทางการตลาด
4. การตัดสิ นใจที่ผ่านมา
5. สถานการณ์ ต่างๆ

8. 1. ให้ นักศึกษาบอกผลของการเล็งเห็นปัญหากับการ
ประยุกต์ ใช้ ทางการตลาด

9. •3