SlideShare a Scribd company logo
1 of 5
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน โรคอ้วน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
น.ส.ขัตติยาภรณ์ มหัทธนพรรค
เลขที่ 22 ชั้น ม.6 ห้อง 7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.น.ส.ขัตติยาภรณ์ มหัทธนพรรค เลขที่ 22
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
พิชิตเจ้าอ้วน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Conquer the fat
ประเภทโครงงาน สารวจและรวบรวมข้อมูล
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.ขัตติยาภรณ์ มหัทธนพรรค
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เผชิญปัญหาเกี่ยวกับโรคอ้วน อาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
พันธุกรรม สภาพสังคมและวัฒนธรรม และสาเหตุที่สาคัญคือการบริโภคอาหารได้รับอิทธิพลจาก สื่อโฆษณาต่างๆ
การขาดวินัยในการรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่รู้จักเลือกซื้ออาหารที่มีประโยชน์ ขาดวินัยในการใช้เวลา ไม่รู้
คุณค่าของเงิน และ พฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ทั้งการบริโภคอาหารไขมันสูง พฤติกรรมนั่งๆ นอนๆ ขาดการ
ออกกาลังกาย ซึ่งก่อให้เกิดโรคเรื้อรังที่พบบ่อย คนเหล่านี้จึงมีปัญหาโรคอ้วนเพิ่มขึ้น ตามลาดับ อาจส่งผลถึงภาวะ
เสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ โรคเบาหวาน หอบ และความดันโลหิตสูง ทั้งที่ควรจะเป็นโรคในวัยผู้ใหญ่ แต่ใน
ปัจจุบันในวัยเด็กหรือวัยรุ่นก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และความดัน
โลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้นการป้องกันความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วน โดยการส่งเสริมพฤติกรรม
สุขภาพที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจาเป็น จึงทาให้ข้าพเจ้าสนใจที่จะทาโครงงานเรื่องการลดความอ้วนอย่างถูกวิธีเพื่อ
เผยแพร่ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาต่อไป
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับโรคอ้วน
2.เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคอ้วน
3.เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการออกกาลังกาย
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
กลุ่มนักเรียนชั้น ม.6/7 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จานวน 10 คน
3
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
โรคอ้วนเป็นสภาวะทางการแพทย์ที่มีการสะสมไขมันร่างกายมากถึงขนาดที่อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ ทาให้มี
การคาดหมายคงชีพลดลง และมีปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง การพิจารณาว่าบุคคลใดอ้วนนั้น
พิจารณาจากดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งเป็นการวัด มีค่าเท่ากับน้าหนัก (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็น
เมตร) ยกกาลังสอง บุคคลที่มีดัชนีมวลกายเกิน 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรถือว่าเป็นโรคอ้วน โดยในช่วง 25-30
กิโลกรัมต่อตารางเมตรนิยามเป็นน้าหนักเกิน
โรคอ้วนเพิ่มโอกาสการป่วยเป็นโรคหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะหยุด
หายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น มะเร็งบางชนิด และโรคข้อเสื่อม โรคอ้วนมีสาเหตุมาจากการรับพลังงานจากอาหารมาก
เกิน การขาดกิจกรรมทางกาย และความเสี่ยงทางพันธุกรรมร่วมกันมากที่สุด แม้ว่าผู้ป่วยน้อยรายจะเกิดจากยีน
ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ยาหรือการป่วยจิตเวชเป็นหลัก สาหรับมุมมองที่ว่าคนอ้วนบางรายกินน้อยแต่น้าหนักเพิ่ม
เพราะเมแทบอลิซึมช้านั้นมีหลักฐานสนับสนุนจากัด โดยเฉลี่ยแล้ว คนอ้วนมีการเสียพลังงานมากกว่าคนผอมเนื่องจาก
ต้องใช้พลังงานมากกว่าในการรักษามวลร่างกายที่เพิ่มขึ้น
3 แหล่งพลังงานของร่างกาย
1. คาร์โบไฮเดรต แหล่งพลังงานแรกที่ร่างกายจะดึงมาใช้
2. โปรตีน เป็นแหล่งพลังงานที่จะถูกดึงมาใช้หากคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอในร่างหาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อหายไปและ
ส่งผลต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายอีกด้วย ทาให้เราอ่อนแอได้ง่าย
3. ไขมัน แหล่งพลังงานสุดท้ายที่ร่างกายจะดึงมาใช้ หากโปรตีนหมด
ยิ่งอด ยิ่งอ้วน
ทฤษฎีที่ว่าอดอาหารเย็นหรือกินน้อยมากๆ ในแต่ละมื้อนั้น มีสาวๆ เลือกปฎิบัติกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดี
นะคะ ในเมื่อร่างกายมีปริมาณจาเป็นของสารอาหารที่เราควรได้รับจากการกินอยู่แล้ว แต่การอดทาให้ร่างกายต้อง
ขาดสารอาหาร ทาให้อวัยวะต้องทางานอย่างหนัก อาจทาให้เกิดการศึกหรอได้ ในสัปดาห์แรกๆ ทาให้น้าหนักเรา
ลดลงก็จริง แต่เราไม่สามารถปฎิบัติเช่นนี้ไปได้ตลอด ทาให้มีความอยากอาหารมากขึ้น ถ้าเรากลับมากิน มันจะกิน
หนักกว่าเดิม ทาให้น้าหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีก
เคล็ดลับการลดน้าหนักที่ถูกวิธี
1. จากัดปริมาณแคลอรี่การกินต่อวัน การลดน้าหนักให้ได้ผลที่ดีนั้น ควรจะให้ร่างกายมีการเผาผลาญประมาณ 3,500
แคลอรี่ต่อสัปดาห์ ประมาณว่าต่อวันคุณควรเผาผลาญแคลอรี่ให้ได้ 500 แคลอรี่ ซึ่งอาจเป็นการยากที่ต้องใช้วิธีการ
ออกกาลังกายเพียงอย่างเดียว ดังนั้น การลดของหวานที่ส่วนใหญ่มีพลังงานประมาณ 250 แคลอรี่ลงนั้น ก็เป็นการ
ช่วยลดการเผาผลาญที่ไม่จาเป็นได้อีกทาง
2. การออกกาลังกายเป็นประจา เพื่อช่วยลดน้าหนักและกระชับสัดส่วนของเรา
– Basal Metabolic Rate คือ อัตราการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจาวัน จะช่วยให้ทราบปริมาณแคลอรี่ที่
ร่างกายต้องลดต่อวัน
– การออกกาลังกายเพื่อลดน้าหนัก เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน ว่ายน้า ร่างกายจะดึงพลังงานไขมันส่วนเกินมา
ใช้ ในสภาวะที่หัวใจเต้น 130-150 ครั้งต่อนาที
4
– การออกกาลังกายเพื่อกระชับสัดส่วน คือการออกกาลังกายเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายหลายๆครั้ง เพื่อให้
เกิดอาการล้าของกล้ามเนื้อ เช่น เวทเทรนนิ่ง (Weight Training)
– การออกกาลังกายเพื่อลดความอ้วนและกระชับสัดส่วนไปพร้อมกัน เช่น การออกกาลังกายประยุกต์การชกมวย
(Boxing) โยคะร้อน (Hot Yoga)
ทั้งนี้ วิธีการออกกาลังกายที่เหมาะกับแต่ละคนก็ต่างกัน ทั้งอายุ เพศ และความต้องการ สิ่งสาคัญคือการทาเป็น
ประจา 35 วันต่อสัปดาห์
3. ดื่มน้าเยอะๆ การดื่มน้าก่อนมื้ออาหารทุกมื้อจะช่วยให้คุณกินอาหารได้น้อยลง หรือเลือกกินอาหารที่มี
ส่วนประกอบของน้าเยอะ การดื่มน้าจะช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณทางานได้ไวขึ้น
4. รับประทานมื้อเช้า เป็นสิ่งที่จาเป็นและควรทาให้เป็นกิจวัตรในทุกวัน เพราะการรับประทานในตอนเช้าจะช่วยให้
ร่างกายคงระดับฮอร์โมนที่ใช้ในการเผาผลาญไว้
5. รับประทานผักและผลไม้ เป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่า ควรบริโภคให้ได้อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยขับสารพิษออก
จากร่างกาย
6. งด Junk foods เช่น เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์แอลกอฮอล์ต่างๆ เป็นอาหารที่มีไขมันและน้าตาลสูง ทา
ให้คุณโมโหง่ายและเฉื่อยชา เป็นศัตรูหลักอย่างหนึ่งต่อการลดน้าหนัก ควรงดน้าตาล นม คาเฟอีน
7. จัดเตรียมมื้ออาหารด้วยตัวเอง เสียเวลาสักนิดมาจัดเตรียมอาหารที่เราสามารถจากัดแคลอรี่ได้เอง ดีกว่าการเลือก
กินตามร้านค้าที่เราควบคุมไม่ได้ และจะลาบากในการจัดการการเผาผลาญเข้าไปอีก
8. มีความสุขกับการกิน อย่าพยายามอดอาหาร หรือยัดอาหารเข้าไปถ้าหากว่าคุณอิ่มแล้วจริงๆ ควรกินแต่พอดี ไม่
ต้องฝืนมาก เพราะจะทาให้หิวโหยหรือจุกเสียดจากอาหารได้ เน้นมื้อเช้า และเบาในมื้อเย็น
9. หาเพื่อนลดน้าหนัก หาคนที่มีเป้าหมายเช่นเดียวกับคุณ ดูแลกระบวนการลดไปพร้อมๆกัน ช่วยกันคิดและออก
กาลังกายร่วมกัน สร้างแรงจูงใจจากกันและกันเพี่อให้ไปถึงเป้าหมาย
10. ให้รางวัลกับตัวเอง หมั่นสร้างแรงจูงใจให้ลดน้าหนักได้ เช่น ถ้าหากลดได้ 3 กิโลกรัม จะได้ไปเที่ยวโตเกียว ทั้งนี้ไม่
ควรให้รางวัลตัวเองด้วยอาหาร
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกษาการลดน้าหนักอย่างถูกวิธีและนามาใช้กับกลุ่มนักเรียนตัวอย่าง
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.เครื่องชั่งน้าหนัก 2.ที่วัดส่วนสูง 3.อินเตอร์เน็ต 4.คอมพิวเตอร์ 5.โทรศัพท์มือถือ
งบประมาณ
-
5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ได้รู้จักการลดน้าหนักที่ถูกวิธี
2.ได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2.กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขะศึกษาและพละศึกษา
3.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์(ชีววิทยา)
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
https://www.sominserum.com
https://www.pobpad.com

More Related Content

What's hot

Paper Journal [Team-Based Learning]
Paper Journal [Team-Based Learning]Paper Journal [Team-Based Learning]
Paper Journal [Team-Based Learning]Jang EN
 
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพgrit_1
 
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายการดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายPatitta Sitti
 
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายการดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายPatitta Sitti
 

What's hot (8)

Obesity
ObesityObesity
Obesity
 
Mook
MookMook
Mook
 
Paper Journal [Team-Based Learning]
Paper Journal [Team-Based Learning]Paper Journal [Team-Based Learning]
Paper Journal [Team-Based Learning]
 
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายการดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
 
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายการดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
 

Similar to 2561 project 22..

bubble milk tea
bubble milk teabubble milk tea
bubble milk teayyokky
 
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์pantida44027
 
โครงงานร่าง
โครงงานร่างโครงงานร่าง
โครงงานร่างAom Nachanok
 
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Guy Prp
 
ตัวอย่างโครงร่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงร่างโครงงานตัวอย่างโครงร่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงร่างโครงงานPloy Purr
 
2562 final-project computer
2562 final-project computer2562 final-project computer
2562 final-project computertataaaz
 
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08pantida44027
 
โครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาโครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาBream Mie
 
Bubble milk tea
Bubble milk teaBubble milk tea
Bubble milk teayyokky
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Benya Chaiwan
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Benya Chaiwan
 
Bubble milk tea
Bubble milk teaBubble milk tea
Bubble milk teayyokky
 

Similar to 2561 project 22.. (20)

2560 project 9,22
2560 project 9,222560 project 9,22
2560 project 9,22
 
bubble milk tea
bubble milk teabubble milk tea
bubble milk tea
 
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Kannika1
Kannika1Kannika1
Kannika1
 
โครงงานร่าง
โครงงานร่างโครงงานร่าง
โครงงานร่าง
 
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Mook
MookMook
Mook
 
Mook
MookMook
Mook
 
ตัวอย่างโครงร่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงร่างโครงงานตัวอย่างโครงร่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงร่างโครงงาน
 
Mook
MookMook
Mook
 
2562 final-project computer
2562 final-project computer2562 final-project computer
2562 final-project computer
 
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 08
 
โครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาโครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษา
 
2559 project -1
2559 project -12559 project -1
2559 project -1
 
2559 project -1
2559 project -12559 project -1
2559 project -1
 
Bubble milk tea
Bubble milk teaBubble milk tea
Bubble milk tea
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Bubble milk tea
Bubble milk teaBubble milk tea
Bubble milk tea
 

2561 project 22..

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6 ปีการศึกษา 2561 ชื่อโครงงาน โรคอ้วน ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.ขัตติยาภรณ์ มหัทธนพรรค เลขที่ 22 ชั้น ม.6 ห้อง 7 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1.น.ส.ขัตติยาภรณ์ มหัทธนพรรค เลขที่ 22 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) พิชิตเจ้าอ้วน ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Conquer the fat ประเภทโครงงาน สารวจและรวบรวมข้อมูล ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.ขัตติยาภรณ์ มหัทธนพรรค ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม - ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) เนื่องจากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เผชิญปัญหาเกี่ยวกับโรคอ้วน อาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น พันธุกรรม สภาพสังคมและวัฒนธรรม และสาเหตุที่สาคัญคือการบริโภคอาหารได้รับอิทธิพลจาก สื่อโฆษณาต่างๆ การขาดวินัยในการรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่รู้จักเลือกซื้ออาหารที่มีประโยชน์ ขาดวินัยในการใช้เวลา ไม่รู้ คุณค่าของเงิน และ พฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ทั้งการบริโภคอาหารไขมันสูง พฤติกรรมนั่งๆ นอนๆ ขาดการ ออกกาลังกาย ซึ่งก่อให้เกิดโรคเรื้อรังที่พบบ่อย คนเหล่านี้จึงมีปัญหาโรคอ้วนเพิ่มขึ้น ตามลาดับ อาจส่งผลถึงภาวะ เสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ โรคเบาหวาน หอบ และความดันโลหิตสูง ทั้งที่ควรจะเป็นโรคในวัยผู้ใหญ่ แต่ใน ปัจจุบันในวัยเด็กหรือวัยรุ่นก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และความดัน โลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้นการป้องกันความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วน โดยการส่งเสริมพฤติกรรม สุขภาพที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจาเป็น จึงทาให้ข้าพเจ้าสนใจที่จะทาโครงงานเรื่องการลดความอ้วนอย่างถูกวิธีเพื่อ เผยแพร่ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาต่อไป วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับโรคอ้วน 2.เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคอ้วน 3.เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการออกกาลังกาย ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) กลุ่มนักเรียนชั้น ม.6/7 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จานวน 10 คน
  • 3. 3 หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) โรคอ้วนเป็นสภาวะทางการแพทย์ที่มีการสะสมไขมันร่างกายมากถึงขนาดที่อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ ทาให้มี การคาดหมายคงชีพลดลง และมีปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง การพิจารณาว่าบุคคลใดอ้วนนั้น พิจารณาจากดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งเป็นการวัด มีค่าเท่ากับน้าหนัก (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็น เมตร) ยกกาลังสอง บุคคลที่มีดัชนีมวลกายเกิน 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรถือว่าเป็นโรคอ้วน โดยในช่วง 25-30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรนิยามเป็นน้าหนักเกิน โรคอ้วนเพิ่มโอกาสการป่วยเป็นโรคหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะหยุด หายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น มะเร็งบางชนิด และโรคข้อเสื่อม โรคอ้วนมีสาเหตุมาจากการรับพลังงานจากอาหารมาก เกิน การขาดกิจกรรมทางกาย และความเสี่ยงทางพันธุกรรมร่วมกันมากที่สุด แม้ว่าผู้ป่วยน้อยรายจะเกิดจากยีน ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ยาหรือการป่วยจิตเวชเป็นหลัก สาหรับมุมมองที่ว่าคนอ้วนบางรายกินน้อยแต่น้าหนักเพิ่ม เพราะเมแทบอลิซึมช้านั้นมีหลักฐานสนับสนุนจากัด โดยเฉลี่ยแล้ว คนอ้วนมีการเสียพลังงานมากกว่าคนผอมเนื่องจาก ต้องใช้พลังงานมากกว่าในการรักษามวลร่างกายที่เพิ่มขึ้น 3 แหล่งพลังงานของร่างกาย 1. คาร์โบไฮเดรต แหล่งพลังงานแรกที่ร่างกายจะดึงมาใช้ 2. โปรตีน เป็นแหล่งพลังงานที่จะถูกดึงมาใช้หากคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอในร่างหาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อหายไปและ ส่งผลต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายอีกด้วย ทาให้เราอ่อนแอได้ง่าย 3. ไขมัน แหล่งพลังงานสุดท้ายที่ร่างกายจะดึงมาใช้ หากโปรตีนหมด ยิ่งอด ยิ่งอ้วน ทฤษฎีที่ว่าอดอาหารเย็นหรือกินน้อยมากๆ ในแต่ละมื้อนั้น มีสาวๆ เลือกปฎิบัติกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดี นะคะ ในเมื่อร่างกายมีปริมาณจาเป็นของสารอาหารที่เราควรได้รับจากการกินอยู่แล้ว แต่การอดทาให้ร่างกายต้อง ขาดสารอาหาร ทาให้อวัยวะต้องทางานอย่างหนัก อาจทาให้เกิดการศึกหรอได้ ในสัปดาห์แรกๆ ทาให้น้าหนักเรา ลดลงก็จริง แต่เราไม่สามารถปฎิบัติเช่นนี้ไปได้ตลอด ทาให้มีความอยากอาหารมากขึ้น ถ้าเรากลับมากิน มันจะกิน หนักกว่าเดิม ทาให้น้าหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีก เคล็ดลับการลดน้าหนักที่ถูกวิธี 1. จากัดปริมาณแคลอรี่การกินต่อวัน การลดน้าหนักให้ได้ผลที่ดีนั้น ควรจะให้ร่างกายมีการเผาผลาญประมาณ 3,500 แคลอรี่ต่อสัปดาห์ ประมาณว่าต่อวันคุณควรเผาผลาญแคลอรี่ให้ได้ 500 แคลอรี่ ซึ่งอาจเป็นการยากที่ต้องใช้วิธีการ ออกกาลังกายเพียงอย่างเดียว ดังนั้น การลดของหวานที่ส่วนใหญ่มีพลังงานประมาณ 250 แคลอรี่ลงนั้น ก็เป็นการ ช่วยลดการเผาผลาญที่ไม่จาเป็นได้อีกทาง 2. การออกกาลังกายเป็นประจา เพื่อช่วยลดน้าหนักและกระชับสัดส่วนของเรา – Basal Metabolic Rate คือ อัตราการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจาวัน จะช่วยให้ทราบปริมาณแคลอรี่ที่ ร่างกายต้องลดต่อวัน – การออกกาลังกายเพื่อลดน้าหนัก เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน ว่ายน้า ร่างกายจะดึงพลังงานไขมันส่วนเกินมา ใช้ ในสภาวะที่หัวใจเต้น 130-150 ครั้งต่อนาที
  • 4. 4 – การออกกาลังกายเพื่อกระชับสัดส่วน คือการออกกาลังกายเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายหลายๆครั้ง เพื่อให้ เกิดอาการล้าของกล้ามเนื้อ เช่น เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) – การออกกาลังกายเพื่อลดความอ้วนและกระชับสัดส่วนไปพร้อมกัน เช่น การออกกาลังกายประยุกต์การชกมวย (Boxing) โยคะร้อน (Hot Yoga) ทั้งนี้ วิธีการออกกาลังกายที่เหมาะกับแต่ละคนก็ต่างกัน ทั้งอายุ เพศ และความต้องการ สิ่งสาคัญคือการทาเป็น ประจา 35 วันต่อสัปดาห์ 3. ดื่มน้าเยอะๆ การดื่มน้าก่อนมื้ออาหารทุกมื้อจะช่วยให้คุณกินอาหารได้น้อยลง หรือเลือกกินอาหารที่มี ส่วนประกอบของน้าเยอะ การดื่มน้าจะช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณทางานได้ไวขึ้น 4. รับประทานมื้อเช้า เป็นสิ่งที่จาเป็นและควรทาให้เป็นกิจวัตรในทุกวัน เพราะการรับประทานในตอนเช้าจะช่วยให้ ร่างกายคงระดับฮอร์โมนที่ใช้ในการเผาผลาญไว้ 5. รับประทานผักและผลไม้ เป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่า ควรบริโภคให้ได้อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยขับสารพิษออก จากร่างกาย 6. งด Junk foods เช่น เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์แอลกอฮอล์ต่างๆ เป็นอาหารที่มีไขมันและน้าตาลสูง ทา ให้คุณโมโหง่ายและเฉื่อยชา เป็นศัตรูหลักอย่างหนึ่งต่อการลดน้าหนัก ควรงดน้าตาล นม คาเฟอีน 7. จัดเตรียมมื้ออาหารด้วยตัวเอง เสียเวลาสักนิดมาจัดเตรียมอาหารที่เราสามารถจากัดแคลอรี่ได้เอง ดีกว่าการเลือก กินตามร้านค้าที่เราควบคุมไม่ได้ และจะลาบากในการจัดการการเผาผลาญเข้าไปอีก 8. มีความสุขกับการกิน อย่าพยายามอดอาหาร หรือยัดอาหารเข้าไปถ้าหากว่าคุณอิ่มแล้วจริงๆ ควรกินแต่พอดี ไม่ ต้องฝืนมาก เพราะจะทาให้หิวโหยหรือจุกเสียดจากอาหารได้ เน้นมื้อเช้า และเบาในมื้อเย็น 9. หาเพื่อนลดน้าหนัก หาคนที่มีเป้าหมายเช่นเดียวกับคุณ ดูแลกระบวนการลดไปพร้อมๆกัน ช่วยกันคิดและออก กาลังกายร่วมกัน สร้างแรงจูงใจจากกันและกันเพี่อให้ไปถึงเป้าหมาย 10. ให้รางวัลกับตัวเอง หมั่นสร้างแรงจูงใจให้ลดน้าหนักได้ เช่น ถ้าหากลดได้ 3 กิโลกรัม จะได้ไปเที่ยวโตเกียว ทั้งนี้ไม่ ควรให้รางวัลตัวเองด้วยอาหาร วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน ศึกษาการลดน้าหนักอย่างถูกวิธีและนามาใช้กับกลุ่มนักเรียนตัวอย่าง เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1.เครื่องชั่งน้าหนัก 2.ที่วัดส่วนสูง 3.อินเตอร์เน็ต 4.คอมพิวเตอร์ 5.โทรศัพท์มือถือ งบประมาณ -
  • 5. 5 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1.ได้รู้จักการลดน้าหนักที่ถูกวิธี 2.ได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2.กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขะศึกษาและพละศึกษา 3.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์(ชีววิทยา) แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) https://www.sominserum.com https://www.pobpad.com