SlideShare a Scribd company logo
กลุ่มจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis)
        ผูนา คนสําคัญคื อ ซิ กมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิ ต แพทย์ชาวเวียนนา ได้ศึกษา
          ้ ํ
วิเ คราะห์จิต ของมนุ ษ ย์ และอธิ บายว่า พลังงานจิ ต ทํา หน้า ที ควบคุ ม พฤติ กรรมของมนุ ษย์ มี 3
ลักษณะ คือ

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud)
        1. จิตสํานึกหรื อจิตรู ้สานึ ก (Conscious mind) หมายถึงภาวะจิตทีรู ้ตวอยู่ได้แก่ การแสดง
                                  ํ                                             ั
พฤติกรรม เพือให้ สอดคล้องกับหลักแห่งความเป็ นจริ ง
           2. จิตกึงสํานึก (Subconscious mind) หมายถึงภาวะจิตทีระลึกถึงได้ รองศาสตราจารย์ กลม
รัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2528 : 35)ได้กล่าวถึง Subconscious mind ว่าหมายถึงส่ วนของจิตใจ ทีมิได้แสดง
ออกเป็ นพฤติกรรม ในขณะนัน แต่ เป็ นส่ วนทีรู ้ตว สามารถดึ งออกมใช้ได้ทุกเมือทีต้องการ เช่ น
                                                    ั
นางสาว ก. มีนองสาวคือนางสาว ข. ซึ งกําลังตกหลุมรัก นาย ค. แต่นางสาว ข. เกรงว่ามารดาจะ
                    ้
ทราบความจริ งจึงบอกพีสาว มิให้เล่าให้มารดาฟัง นางสาว ก. เก็บเรื องนีไว้เป็ น ความลับ มิได้แพร่ ง
                                                                   ่
พรายให้ผใดทราบโดยเฉพาะมารดาแต่ ในขณะเดียวกันก็ทราบอยูตลอดเวลาว่า นางสาว ข. รักนาย
              ู้
ค. ถ้าเขาต้องการเปิ ดเผย เขาก็จะบอกได้ทนที ลักขณา สริ วฒน์ (2530 : 9) กล่าวถึง Subconscious
                                             ั               ั
mind ว่าผลมันเกิด จากการขัดแย้งกันระหว่าง พฤติกรรมภายใต้อิทธิ พลจิตรู ้สํานึกกับอิทธิ พลของ
จิตใต้สานึกย่อมก่อให้เกิดการหลอกลวงตัวเองขึน ภายในบุคคล
         ํ
                      ํ              ํ                                                 ่
           3. จิตไร้สานึกหรื อจิตใต้สานึก (Unconscious mind) หมายถึงภาวะจิตทีไม่อยูในภาวะทีรู ้ตว ั
                                                                                         ่
ระลึกถึงไม่ได้ กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2524 : 121) กล่าวว่า จิตไร้สานึกเป็ นสิ งทีฝังลึกอยูภายในจิตใจ
                                                                 ํ
มีการเก็บกด (Repression) เอาไว้อาจเป็ นเพราะ ถูกบังคับ หรื อไม่สามารถแสดงอาการโต้ตอบได้ใน
ขณะนันในทีสุ ดก็จะฝังแน่นเข้าไป จนเจ้าตัวลืมไปชัว ขณะจะแสดงออกมาในลักษณะการพลังเผลอ
เช่น พลังปากเอ่ยชือ คนรักเก่าต่อหน้า คนรักใหม่ เป็ นต้น
           คณาจารย์ภาควิชาจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง (2530 : 16) กล่าวว่า
สิ งทีมีอิทธิ พล จูงใจพฤติกรรมและการดําเนิ นชี วิตของคนเรามากทีสุ ดก็คือ ส่ วนทีเป็ นจิตใต้สํานึ ก
และสิ งทีคนเรามัก จะเก็บกดลงไปทีจิตใต้ สํานึ ก ก็คือความต้องการก้าวร้าว กับความต้องการทาง
เพศ ซึงจะมีแรงผลักดัน
       นอกจากนี ฟรอยด์ ยังได้ศึกษาถึงโครงสร้างทางจิตพบว่าโครงสร้างทางจิตประกอบด้วย

       1. อิด (Id)
       2. อีโก้ (Ego)
       3. ซุปเปอร์อีโก้ (Superrgo)

         1. อิด (Id) หมายถึงตัณหาหรื อความต้องการพืนฐานของมนุษย์เป็ นสิ งทียังไม่ได้ขดเกลา
                                                                                        ั
ซึงทําให้ มนุษย์ทาทุกอย่างเพือความพึงพอใจของตนเองหรื อทําตามหลักของความพอใจ (Pleasure
                   ํ
principle)
         เปรี ยบเหมือนสันดานดิ บของ มนุ ษย์ ซึ งแบ่งออกเป็ น สัญชาติญาณ แห่ งการมี ชีวิต (Life
instinct) เช่ น ความต้องการอาหาร ความต้องการทางเพศ ความต้องการหลีกหนีจากอันตราย กับ
สัญชาติญาณแห่ ง ความตาย (Death instinct) เช่น ความก้าวร้าว หรื อการทําอันตรายต่อตนเองและ
ผูอืน เป็ นต้น บุคคล จะแสดงพฤติกรรมตามความพอใจ ของเขาเป็ นใหญ่ ไม่คานึ งถึงค่านิ ยมของ
  ้                                                                        ํ
สังคม และ ความพอใจของ บุคคลอืนจึงมักเป็ นพฤติกรรมทีไม่เป็ นไปตามครรลองของมาตรฐานใน
สังคม บุคคลทีมีบุคลิกภาพเช่นนี มักได้รับการประนามว่ามีบุคลิกภาพไม่ดี หรื อไม่เหมาะสม
         2. อีโก้ (Ego) หมายถึง ส่ วนทีควบคุมพฤติกรรมทีเกิดจากความต้องการของ Id โดยอาศัย
กฏเกณฑ์ ทางสังคม และหลักแห่ งความจริ ง (Reality principle) มาช่ วยในการตัดสิ นใจ ไม่ใช่
แสดงออกตามความพอใจของตนแต่เพียงอย่างเดียว แต่ตองคิดแสดงออกอย่างมีเหตุผลด้วยนันคือ
                                                      ้
บุคคลจะแสดงพฤติกรรม โดยมีเหตุและผล ทีเหมาะสมกับกาละเทศะใน สังคม จึงเป็ นบุคลิกภาพที
                                                            ่
ได้รับการยอมรับมากในสังคม ในคนปรกติทีสามารถปรับตัวอยูได้ในสังคมอย่างมีความสุ ข ฟรอยด์
เชือว่าเป็ นเพราะมีโครงสร้าง ส่ วนนีแข็งแรง
         3. ซุ ปเปอร์ อีโก้ (Superego) หมายถึ งมโนธรรมหรื อ จิ ตส่ วนที ได้รับการพัฒ นาจาก
ประสบการณ์ การอบรมสังสอน โดยอาศัยหลักของศีลธรรมจรรยา ขนบธรรมเนี ยมประเพณี และ
ค่า นิ ยมต่า ง ๆ ใน สังคมนัน Superego จะเป็ นตัวบังคับ และควบคุ มความคิ ดให้แสดงออกใน
ลักษณะทีเป็ นสมาชิกทีดีของ สังคม โดยยึดหลักค่านิยมของสังคม (Value principle)ทีตัดสิ นว่าสิ ง
ใดเป็ นสิ งทีดีในสังคมกล่าวคือบุคคล จะแสดงพฤติกรรมตาม ขอบเขตทีสังคมวางไว้ แต่บางครังอาจ
ไม่เหมาะ สม เช่น เมือถูกยุงกัดเต็มแขน - ขา ก็ไม่ยอมตบยุง เพราะกลัวบาป หรื อสงสารคนขอทาน
ให้เงินเขาไปจนหมด ในขณะที ตนเองหิวข้าวไม่มีเงินจะ ซืออาหารกินก็ยอมทนหิว เป็ นต้น
         กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2524 : 122 - 123) กล่าวว่าใครก็ตามทีมีบุคลิกภาพ เช่นนีมักได้รับการ
ยกย่อ ง ทังนี เพราะบางครั งพฤติ กรรมที แสดงออกนันอาจเกิ ด ความไม่ พ อใจในตนเอง แต่ เ พื อ
ต้องการให้เป็ นที ยอมรับในสังคม ดังนันแม้เขาแสดงพฤติกรรมบาง อย่างทีขัดต่อ ค่านิยมของสังคม
เขาจะเกิดความรู้สึกผิด (Guilt feeling or Guilty) ทันทีถาไม่มีการ ระบายออกเก็บกดไว้ มาก ๆ อาจ
                                                         ้
ระเบิดออกมากลายเป็ นโรค ผิดปรกติทางจิตได้
         ฟรอยด์ กล่าวว่าในบุคคลทัวไปมักมีโครงสร้างทัง 3 ส่ วนนีแต่ส่วนทีแข็งแรงทีสุ ด มักเป็ นอี
โก้ ซึ งทําหน้าทีคอย ประนีประนอมระหว่างอิดและซุปเปอร์อีโก้ให้แสดงออกตามความ เหมาะสม
ของสถานการณ์ ในขณะนัน เช่น คอยกดอิดมิ ให้แสดงพฤติกรรมทีไม่เหมาะสมออกมา เมือยังไม่
ถึงเวลาหรื อคอยดึงซุปเปอร์ อีโก้ไว้มิให้แสดงพฤติกรรมทีดีงามจนเกินไป จนตนเอง เดือดร้อน ถ้า
คนทีมีจิตผิดปรกติ เช่นเป็ นโรคจิต โรคประสาท คือคนทีอีโก้แตก (Break down) ไม่สามารถคุม อิด
และซุปเปอร์ อีโก้ไว้ได้ มักจะมีพฤติกรรมทีไม่เหมาะสมกับกาละเทศะกับเหตุผล เช่ น เกิดอาการ
คุมดีคุมร้าย คุมดีคือส่ วนของซุปเปอร์ อีโก้แสดงออกมา คุมร้ายคือส่ วนของอิดแสดงออกมา ฯลฯ
  ้ ้           ้                                          ้
         ดร. อารี รังสิ นนท์ (2530 : 15 - 16) กล่าวว่าโครงสร้างจิต 3 ระบบนีมีส่วนสัมพันธ์กน ถ้า
                         ั                                                                     ั
                   ั
ทํางาน สัมพันธ์กนดีการแสดงออกหรื อบุคลิกภาพก็เหมาะสมกับตน แต่ถาโครงสร้างทัง 3 ระบบ
                                                                             ้
ทํา หน้า ที ขัดแย้งกัน บุ คคลก็จะมี พฤติ กรรมหรื อ บุ คลิ กภาพที ไม่ ราบรื นปกติ หรื อไม่ เหมาะสม
แนวความคิดกลุ่มนีเน้น จิตไร้สานึก (Unconscious mind) จิตไร้สานึกนีจะ รวบรวมความคิด ความ
                                 ํ                                ํ
ต้องการ และประสบการณ์ทีผูเ้ ป็ นเจ้าของ จิตไม่ตองการจะจดจํา จึงเก็บกดความรู ้สึกต่าง ๆ เหล่านี
                                                   ้
       ่
ไว้อยูในจิตส่ วนนี และหากความคิด ความต้องการหรื อ เกิดพฤติกรรมบางอย่างโดยไม่รู้ตว       ั
         อนึง ประสบการณ์ในชีวตวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงแรกเกิดถึง 5 ขวบทีเกียวกับการอบรม เลียง
                                   ิ
                           ่
ดู ทีได้รับ จะฝังแน่น อยูในจิตไร้สานึก และอาจจะแสดงออกเมือถูกกระตุน โดยเฉพาะในวัยผูใหญ่
                                     ํ                                     ้                 ้
ฟรอยด์ บอกว่า จิตไร้สานึกเป็ นสาเหตุให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมและพฤติกรรม ทีฝังแน่นใน
                              ํ
อดีต เป็ นเหตุให้แสดง พฤติกรรมออกมาในปั จจุบนและอนาคต อนึ ง พฤติกรรม ทังหลายทีแสดง
                                                  ั
ออกมานัน ท้ายทีสุ ดก็เพือตอบสนองความต้อง การทางเพศ (Sexual need) นันเอง
         ฟรอยด์ เน้นประสบการณ์ชีวิตในวัยเด็กมาก โดยเฉพาะในช่ วงชีวิตตังแต่แรกเกิดจนถึง 5
ขวบ ประสบการณ์ต่างๆทีเด็กได้รับในช่ วงนี โดยเฉพาะสิ งทีประทับใจ วิธีการอบรม เลียงดู มักจะ
ฝังแน่นอยู่ ในจิตไร้สานึก และจะแสดงออกมาเป็ น พฤติกรรมในช่วงชีวต ทีเป็ นผูใหญ่ต่อมาซึ งค้าน
                     ํ                                              ิ       ้
กับความเห็ นของนัก จิ ตวิทยากลุ่มอืนหรื อนักการศึกษา ที เชื อว่าไม่มีผูใด จดจําเหตุ การณ์ ทีเกิ ด
                                                                       ้
ขึนกับตัวเองได้ในช่วงชีวตตังแต่ 5 ขวบลงไปจนถึงแรกเกิดได้ แต่ฟรอยด์บอกว่า สิ งเหล่านีมิได้หาย
                         ิ
ไปไหนแต่กลับฝังลึกลงไป ในส่ วนของจิด ทีเรี ยกว่า จิตไร้สานึก (กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์. 2528 : 36)
                                                         ํ

พัฒนาการของมนุษย์ 5 ขัน ของฟรอยด์
     ผ.ศ. ดร. อารี รังสิ นนท์ (2530 : 15 - 16)
                          ั                          ได้กล่าวถึงการแบ่งขันพัฒนาการของมนุษย์
          ่
ของฟรอยด์วาแบ่งเป็ น 5 ขัน คือ

       1. ขันปาก (Oral Stage) อายุตงแต่แรกเกิด - 2 ขวบ
                                       ั
       2. ขันทวารหนัก (Anal Stage) อายุ 2 - 3 ขวบ
       3. ขันอวัยวะเพศ (Phallic Stage) อายุ 3 - 5 ขวบ
       4. ขันแฝง (Latent Stage) อายุ 6 - 12 ขวบ
       5. ขันวัยรุ่ น (Genital Stage) อายุ 13 - 18 ขวบ

        รองศาสตราจารย์ กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2528 : 37 - 39) ได้กล่าวถึงการแบ่งพัฒนาการของ
มนุษย์ของฟรอยด์ว่า ฟรอยด์ได้แบ่งพัฒนาการของมนุษย์ แตกต่างจากนักจิตวิทยาท่านอืนกล่าวคือ
ฟรอยด์ เชือว่า มนุษย์มีอวัยวะทีไวต่อ ความรู้สึกในแต่ละช่วงชีวตแตกต่างกัน ซึ งฟรอยด์เรี ยกว่าอีโร
                                                             ิ
จีนสโซน (Erogenus zone) จึงได้แบ่งขันพัฒนาการตามอวัยวะทีไวต่อความรู ้สึกออกเป็ น 5 ขัน และ
   ั
ได้กล่าวถึงแต่ละขันไว้ ดังนี
1. ขันปาก (Oral Stage) ขันนีเด็กต้องการการตอบสนองทางปากมากทีสุ ดเนืองจากปากเป็ น
อวัยวะทีไวต่ อความรู ้สึกมากทีสุ ดในช่ วงชี วิตนี ความสุ ข ความพอใจของเด็กอยู่ทีการได้รับการ
ตอบสนองทางปาก เช่ น การดู ด นม การสั ม ผัส สิ งแปลกใหม่ ด ้ว ยปาก ฯลฯ ถ้า เด็ ก ได้รั บ การ
ตอบสนองเต็มที เมือโตขึนจะมีบุคลิกภาพทีเหมาะสมไม่พยายามใช้ปากมากเกิน ไป รู้จกพูดหรื อใช้
                                                                                      ั
ปากได้เหมาะกับกาละเทศะ หากเด็กได้รับการขัดขวางต่อการตอบสนองทางปากในวัยนี เช่ น การ
หย่านมเร็วเกินไป ถูกตีเมือนําของเข้าปากทําให้เด็กรู ้สึกกระวนกระวายและเรี ยกร้องทีจะชดเชยการ
ตอบสนองทางปากนัน เมือ มีโอกาส เรี ยกว่าเกิดการหยุดยังพัฒนาการทางปาก (Oral Fixation) เมือ
มีโอกาสหรื อโตเป็ นผูใหญ่มกมีบุคลิกภาพทีชอบใช้ ปาก เช่ น ชอบนิ นทาว่าร้าย ชอบสู บบุหรี รับ
                      ้       ั
ประทางอาหารบ่อย ๆ เกินความจําเป็ น เป็ นต้น
         2. ขันทวารหนัก (Anal Stage) ขันนี เด็กต้องการตอบสนองทางทวารหนักมากทีสุ ดมากกว่า
ทางปาก เช่ น พัฒนาการขันแรกเด็กวัยนี จึงไม่ชอบรับประทานมากเท่ากับการเล่น โดยเฉพาะการ
เล่นทีสัมผัสทางทวารหนัก ตลอดจนความสุ ขในการขับถ่ ายซึ งตรงกับการฝึ กหัดขับถ่าย (Toilet
Training) ของเด็กวัยนี ถ้าผูใหญ่ทีเข้าใจจะรู ้จกผ่อนปรน ค่อย ๆ ฝึ กเด็กให้รู้จกขับถ่ายได้ดวยวิธีที
                            ้                  ั                              ั           ้
นุ่มนวล การพัฒนาการขันนีก็ไม่มีปัญหาเด็กโตขึนจะมีบุคลิกภาพทีเหมาะสม แต่ถาเกิดการหยุดยัง
                                                                                  ้
พัฒนาการขันนี (Anal Fixation) เนืองจากผูใหญ่บงคับเด็กในการฝึ กหัดขับถ่ายมากเกินไป เช่น ต้อง
                                            ้     ั
ขับถ่ายเป็ นเวลา ถ้าไม่ทาตามจะถูกลงโทษจะทําให้เกิดความไม่พอใจฝั งแน่ นเข้าไปสู่ จิตไร้สํานึ ก
                         ํ
โดยไม่รู้ตวและแสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็นชัด 2 ลักษณะทีตรงกันข้าม คือ อาจจะมีลกษณะใด
            ั                                                                           ั
ลักษณะหนึงแล้วแต่ความเข้มทางบุคลิกภาพของเด็ก นันๆ คือ
        ก. บุคลิกภาพแบบสมบูรณ์ (Perfectionist) คือเป็ นคนเจ้าระเบียบ จูจี ยําคิดยําทํา กังวลมาก
                                                                          ้
เกินไป โดยเฉพาะเรื องความสะอาด ลักษณะนีมักเกิดกับเด็กทีมีบุคลิกภาพอ่อนแอ
        ข. บุคลิกภาพแบบอันธพาล (Anti social) คือเป็ นคนไม่ยอมคนชอบคัดค้านค่านิ ยมหรื อ
ระเบียบแบบแผนทีวางไว้ ลักษณะนีมักเกิดกับเด็กทีมีบุคลิกภาพเข้มแข็งนอกจากนียังพบว่า คนทีมี
Anal Fixation นียังเป็ นนักสะสมสิ งของต่าง ๆ ตลอดจนมีพฤติกรรมอ่านหนังสื อพิมพ์บนโถส้วม
นานๆ ชอบนังทีใดทีหนึงนาน ๆ ด้วย
        3. ขันอวัยวะเพศ หรื อขันความรู ้สึกทางเพศแบบแฝง (Phallic Stage)ขันนี เด็กเริ มเกิด
ความรู ้สึกทางเพศแต่เป็ นแบบแฝง กล่าวคือมิได้หมายความว่าเด็กวัยนีเกิดความรู ้สึกทางเพศโดยตรง
ได้แก่ อยากมีคู่ครองแต่หมายถึงความรู้สึก ผูกพัน ทีเกิดขึนต่อบิดามารดาทีมีเพศตรงข้ามกับเด็ก
เช่นเด็กหญิงรักและติดพ่อ หวงแหนพ่อแทนแม่ ฟรอยด์อธิ บายว่าในขณะเดียวกัน เด็กจะรู้สึกอิจฉา
แม่ เพราะเรี ยนรู ้ว่า พ่อรักแม่ เกิดปมอิจฉา (Oedipus Complex) ขึนเห็นแม่เป็ นคู่แข่งและพยายาม
เลียนแบบพฤติกรรมของแม่ ซึงเป็ นแบบฉบับของสตรี เพศ ทําให้เด็กหญิง มีลกษณะเป็ นหญิงเมือโต
                                                                                   ั
ขึน ในทํานองเดียวกัน เด็กชายก็จะรักและติดแม่หวงแหนและเป็ นห่ วงแม่ ฟรอยด์อธิ บายว่าเด็กชาย
จะรู ้สึกอิจฉาพ่อ เพราะเรี ยนรู ้ว่าแม่รักพ่อ เกิดปมอิจฉา (Oedipus Complax) พ่อ เห็นพ่อเป็ นคู่แข่ง
พยายามเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อ ซึงเป็ นแบบฉบับของบุรุษเพศ ทําให้เด็กชายมีลกษณะเป็ นชาย      ั
อย่างสมบูรณ์เมือโตเป็ นผูใหญ่ ดังนัน Oedipus Complax จึงเป็ นสิ งทีดีเพราะจะส่ งเสริ มให้เด็กมี
                             ้
พัฒนาการได้เหมาะสมกับเพศของเขา ตามที กล่ า วมาแล้ว ข้า งต้นนี เป็ นการพัฒนาการเป็ นไป
ตามลําดับขันอย่างดียงแต่ถาเกิดการหยุดยังพัฒนาการของ ขันนี (Phallic Fixation) จะเกิดพฤติกรรม
                        ิ      ้
ดังนี เด็กหญิงขณะทีเลียนแบบแม่ ซึ งเป็ นแบบฉบับถ้าแม่เป็ นแบบฉบับไม่ดี เด็กไม่ศรัทธาในทีสุ ด
เด็กก็จะหันไปเลียน แบบพ่อ เนื องจากมีความนิ ยมศรัทธาอยูเ่ ป็ นทุนเดิมแล้วพฤติกรรมทีปรากฏก็
คือ เด็กผูหญิงเป็ นลักเพศ (Lesbian) คือมี พฤติกรรมและความรู ้ สึกเยียงชายในทํานองเดี ยวกัน
             ้
เด็กชายขณะทีเลียนแบบพ่อซึ งเป็ นแบบฉบับ ถ้าพ่อเป็ นแบบฉบับไม่ดี เด็กไม่ศรัทธาในทีสุ ดเด็กก็
                                                                           ่
จะหันไปเลียนแบบแม่โดยตรง เพราะรักและศรัทธาแม่เป็ นทุนเดิมอยูแล้วพฤติกรรมทีปรากฏก็คือ
เด็กชายเป็ นลักเพศ (Homosexual)
         4. ขันแฝง (Latent Stage) เป็ นระยะก่อนทีเด็กจะเปลียนแปลงเข้าสู่ วยรุ่ น กิติกร มีทรัพย์
                                                                                     ั
(2530 : 70 - 71) กล่าวถึงเด็กวัยรุ่ นซ่อนเร้นหรื อลาเทนซี (Latency) ว่า การเติบโตทางกาย ค่อย ๆ ช้า
ลง แต่การเติบโตทางจิตใจ (Memtal awarenss) ไปเร็ วมาก เด็ก ๆ มักถูกมองว่า "แสนรู ้" หรื อ "แก่
แดด" เด็กจะรู ้จกพิพากษ์วิจารณ์สนใจไปในทางค้นหา ค้น คว้าต่าง ๆ สนใจสิ งนันสิ งนีอยูมิได้ขาด
                 ั                                                                               ่
เด็กบางคนอาจพูดในสิ งทีแหลมคมทีทําให้ผใหญ่คิดและน่าทึง หรื อพูดอะไรเชยๆ นักจิตวิทยาชาว
                                                     ู้
สวีเ ดนผูห นึ ง ชื อ เดวิด บี ยอร์ กลุน ด์ เป็ นศาสตราจารย์ วิช าจิ ต วิทยามหาวิทยาลัย ฟลอริ ดา ใน
           ้
อเมริ กากล่าวว่า เมือเด็กวัย Latency มีความคิดใคร่ ครวญ ผูใหญ่ ไม่ควรละเลย ดูดวยทีจะให้เด็กได้
                                                                   ้                   ้
คิดเรื องหนัก ๆ บ้างตามความสนใจของเขาตังแต่การวางแผนงานบ้าน การบ้าน หรื อสร้างวินยใน                 ั
บ้า นให้เขาได้มี โอกาส รั บรู ้ ห รื อ มี ส่ ว นร่ ว มกับ ปั ญ หารายรั บ - รายจ่ า ยในครั วเรื อน ปั ญ หา
คณิ ตศาสตร์ ง่าย ๆ หรื อปั ญหาประสบการณ์ ชี วิตบางประการซึ งผูใหญ่เคยคิดว่าเขาไม่รู้ หรื อไม่
                                                                   ้
ควรรู ้
        5. ขันวัยรุ่ น (Genital Stage) เด็กหญิงจะเริ มสนใจเด็กชายและเด็กชายจะเริ มสนใจเด็กหญิง
เป็ นระยะทีเด็ก จะมีความสัมพันธ์ระหว่างเพศอย่างแท้จริ งพฤติกรรมทางเพศของบุคคลในวัยนี จึงมี
ลักษณะทีบ่งถึงวุฒิภาวะทาง อารมณ์หรื อความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ งแวดล้อมได้อย่าง
เต็มทีพัฒนาการทางเพศทีเกิดขึนในระยะนี เรี ยกว่า ขันวุฒิภาวะทางเพศอันมิได้หมายถึงอวัยวะเพศ
อย่างเดียวรวมถึงพฤติกรรมทีแสดงถึงวุฒิภาวะทางด้าน อารมณ์และสติปัญญาเด็กชายจะเปลียนจาก
การหลงรักแม่ตนเองไปและเด็กหญิงก็จะหันจากหลงรักพ่อไปรักเพศ ชายทัวไป

More Related Content

What's hot

ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์
Habsoh Noitabtim
 
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพ
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพ
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพ
guest83238e
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
Jariya Jaiyot
 
ไตรลักษณ์
ไตรลักษณ์ไตรลักษณ์
ไตรลักษณ์
Padvee Academy
 
ตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนว
ตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนวตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนว
ตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนว
ทับทิม เจริญตา
 
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
 
เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553
เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553
เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553Krumai Kjna
 
วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์
Anusara Sensai
 
ใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียน
ใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียนใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียน
ใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียนสำเร็จ นางสีคุณ
 
แนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaard
แนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaardแนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaard
แนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaard
Padvee Academy
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์
6Phepho
 
จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้
Aoun หมูอ้วน
 
Lessonplan 4animalreproduce
Lessonplan 4animalreproduceLessonplan 4animalreproduce
Lessonplan 4animalreproduce
Wichai Likitponrak
 
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัยแนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
khanidthakpt
 
4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย
4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย
4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วยkaimmikar123
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 5
สุขฯ ม.2 หน่วย 5สุขฯ ม.2 หน่วย 5
สุขฯ ม.2 หน่วย 5supap6259
 
แรง (Force)
แรง (Force)แรง (Force)

What's hot (20)

ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการบรูเนอร์
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
 
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพ
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพ
บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกายและสุขภาพ
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
 
ไตรลักษณ์
ไตรลักษณ์ไตรลักษณ์
ไตรลักษณ์
 
ตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนว
ตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนวตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนว
ตัวอย่างแผนการสอนวิชาแนะแนว
 
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
 
เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553
เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553
เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จตามแผนปฏิบัติการ ปี2553
 
วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียน วิทยาศาสตร์
 
ใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียน
ใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียนใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียน
ใบงาน พฤติกรรม สิ่งมีชีวิต นักเรียน
 
แนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaard
แนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaardแนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaard
แนวคิดสำคัญของนักปรัชญาอัตถิภาวนิยม Soren kierkegaard
 
แผนBioม.5 1
แผนBioม.5 1แผนBioม.5 1
แผนBioม.5 1
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ บรูเนอร์
 
จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้
 
Lessonplan 4animalreproduce
Lessonplan 4animalreproduceLessonplan 4animalreproduce
Lessonplan 4animalreproduce
 
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัยแนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัย
 
4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย
4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย
4แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย
 
สุขฯ ม.2 หน่วย 5
สุขฯ ม.2 หน่วย 5สุขฯ ม.2 หน่วย 5
สุขฯ ม.2 หน่วย 5
 
แผนBioม.6 2
แผนBioม.6 2แผนBioม.6 2
แผนBioม.6 2
 
แรง (Force)
แรง (Force)แรง (Force)
แรง (Force)
 

Viewers also liked

tic diseño paginas web
tic diseño paginas webtic diseño paginas web
tic diseño paginas web
Kata Johanna
 
Cata(bd)
Cata(bd)Cata(bd)
Cata(bd)
yummyhealth
 
สถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย
สถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทยสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย
สถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย
Mickey Toon Luffy
 
ปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาสุขภาพจิตปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาสุขภาพจิต
geekan
 
เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์
เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์
เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์
Mickey Toon Luffy
 
ปัญหาท้องในวัยเรียน
ปัญหาท้องในวัยเรียนปัญหาท้องในวัยเรียน
ปัญหาท้องในวัยเรียน
Kornnicha Wonglai
 
9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรbo2536
 
Teenage pregnancy
Teenage pregnancyTeenage pregnancy
Teenage pregnancy
Prachaya Sriswang
 
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นwunnapa
 
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
Aor-Thanapol Kanhasing
 
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
Auntika11
 
Why hardware accelerator matters
Why hardware accelerator mattersWhy hardware accelerator matters
Why hardware accelerator matters
Lman Chu
 
poverty by Armghan Arshad
poverty by Armghan Arshadpoverty by Armghan Arshad
poverty by Armghan Arshad
kaka ptaka
 
Social Media for Artistic People
Social Media for Artistic PeopleSocial Media for Artistic People
Social Media for Artistic People
Tim Vahsholtz, Quartzlight Marketing
 
Dealing with large code bases. cd ams meetup
Dealing with large code bases. cd ams meetupDealing with large code bases. cd ams meetup
Dealing with large code bases. cd ams meetup
Viktor Sadovnikov
 
Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...
Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...
Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...
Sarah Page
 
Beepi and Digital Dealer
Beepi and Digital DealerBeepi and Digital Dealer
Beepi and Digital Dealer
Go Between Conseil
 
Responsive design in ten minutes
Responsive design in ten minutesResponsive design in ten minutes
Responsive design in ten minutes
Dotkumo
 

Viewers also liked (20)

tic diseño paginas web
tic diseño paginas webtic diseño paginas web
tic diseño paginas web
 
Cata(bd)
Cata(bd)Cata(bd)
Cata(bd)
 
สถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย
สถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทยสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย
สถานการณ์ด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย
 
ปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาสุขภาพจิตปัญหาสุขภาพจิต
ปัญหาสุขภาพจิต
 
เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์
เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์
เรียนรู้เรื่องรัก...รู้จักเรื่องเซ็กซ์
 
ปัญหาท้องในวัยเรียน
ปัญหาท้องในวัยเรียนปัญหาท้องในวัยเรียน
ปัญหาท้องในวัยเรียน
 
9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
9 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
 
Teenage pregnancy
Teenage pregnancyTeenage pregnancy
Teenage pregnancy
 
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
 
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
 
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
 
Why hardware accelerator matters
Why hardware accelerator mattersWhy hardware accelerator matters
Why hardware accelerator matters
 
9a Promoció IWE/IWT
9a Promoció IWE/IWT9a Promoció IWE/IWT
9a Promoció IWE/IWT
 
poverty by Armghan Arshad
poverty by Armghan Arshadpoverty by Armghan Arshad
poverty by Armghan Arshad
 
Social Media for Artistic People
Social Media for Artistic PeopleSocial Media for Artistic People
Social Media for Artistic People
 
Dealing with large code bases. cd ams meetup
Dealing with large code bases. cd ams meetupDealing with large code bases. cd ams meetup
Dealing with large code bases. cd ams meetup
 
Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...
Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...
Social Media for Arts Service Organizations: No Strategy? No Time? No Staff? ...
 
Burnette - Building a culture of trust
Burnette - Building a culture of trust Burnette - Building a culture of trust
Burnette - Building a culture of trust
 
Beepi and Digital Dealer
Beepi and Digital DealerBeepi and Digital Dealer
Beepi and Digital Dealer
 
Responsive design in ten minutes
Responsive design in ten minutesResponsive design in ten minutes
Responsive design in ten minutes
 

Similar to กลุ่มจิตวิเคราะห์

พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์
พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์
พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์
Wuttipong Tubkrathok
 
Part 31
Part 31Part 31
Part 31Aaesah
 
กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์shedah6381
 
Psychology1
Psychology1Psychology1
Psychology1New Born
 
กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์shedah6381
 
กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์shedah6381
 
บทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Present
บทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Presentบทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Present
บทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา PresentKobchai Khamboonruang
 
พลังจากภายใน
พลังจากภายในพลังจากภายใน
พลังจากภายใน
Pattie Pattie
 
แนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชน
แนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชนแนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชน
แนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชนTongsamut vorasan
 
บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการบทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการขวัญ ฤทัย
 
บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการบทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการขวัญ ฤทัย
 
152010010020
152010010020152010010020
152010010020Aaesah
 
02 พัฒนาการ
02 พัฒนาการ02 พัฒนาการ
02 พัฒนาการaaesahasmat
 
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดNote Na-ngam
 

Similar to กลุ่มจิตวิเคราะห์ (20)

พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์
พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์
พัฒนาการทางบุคลิกภาพตามแนวคิดซิกมันฟรอยด์
 
Part 31
Part 31Part 31
Part 31
 
กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์
 
Psychology1
Psychology1Psychology1
Psychology1
 
Psychology1
Psychology1Psychology1
Psychology1
 
กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์
 
กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์กลุ่มที่1ฟรอยด์
กลุ่มที่1ฟรอยด์
 
1051202 จิตวิทยาการเรียนรู้ ชุด 1
1051202 จิตวิทยาการเรียนรู้ ชุด 11051202 จิตวิทยาการเรียนรู้ ชุด 1
1051202 จิตวิทยาการเรียนรู้ ชุด 1
 
บทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Present
บทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Presentบทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Present
บทนำเกี่ยวกับจิตวิทยา Present
 
Emotion604
Emotion604Emotion604
Emotion604
 
พลังจากภายใน
พลังจากภายในพลังจากภายใน
พลังจากภายใน
 
แนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชน
แนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชนแนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชน
แนวคิดเรื่องกรรมและความจริงสูงสุดของศาสนาเชน
 
บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการบทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการ
 
บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการบทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการ
 
152010010020
152010010020152010010020
152010010020
 
Original psychoanalysis
Original psychoanalysisOriginal psychoanalysis
Original psychoanalysis
 
Original psychoanalysis
Original psychoanalysisOriginal psychoanalysis
Original psychoanalysis
 
04 develop2
04 develop204 develop2
04 develop2
 
02 พัฒนาการ
02 พัฒนาการ02 พัฒนาการ
02 พัฒนาการ
 
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิดทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
ทฤษฎีหลักการแนวคิดเกี่ยวกับการคิดและพัฒนาการคิด
 

More from Sarid Tojaroon

การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่นการสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่นSarid Tojaroon
 
การวางแผนเลือกคู่ชีวิต
การวางแผนเลือกคู่ชีวิตการวางแผนเลือกคู่ชีวิต
การวางแผนเลือกคู่ชีวิตSarid Tojaroon
 
การถูกปฎิเสธ
การถูกปฎิเสธการถูกปฎิเสธ
การถูกปฎิเสธSarid Tojaroon
 
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักการจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักSarid Tojaroon
 
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอการจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอSarid Tojaroon
 
การแข่งขัน กับ การพักผ่อน
การแข่งขัน กับ การพักผ่อนการแข่งขัน กับ การพักผ่อน
การแข่งขัน กับ การพักผ่อนSarid Tojaroon
 
กลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจ
กลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจกลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจ
กลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจSarid Tojaroon
 
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสีSarid Tojaroon
 
วทบ ๕๖ Award
วทบ ๕๖ Awardวทบ ๕๖ Award
วทบ ๕๖ AwardSarid Tojaroon
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนSarid Tojaroon
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนSarid Tojaroon
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนSarid Tojaroon
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนSarid Tojaroon
 
ชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆ
ชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆ
ชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆSarid Tojaroon
 
Who1
Who1Who1
วัดบางประทุนนอก
วัดบางประทุนนอกวัดบางประทุนนอก
วัดบางประทุนนอกSarid Tojaroon
 
ผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสาน
ผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสานผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสาน
ผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสานSarid Tojaroon
 

More from Sarid Tojaroon (20)

การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่นการสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
 
การวางแผนเลือกคู่ชีวิต
การวางแผนเลือกคู่ชีวิตการวางแผนเลือกคู่ชีวิต
การวางแผนเลือกคู่ชีวิต
 
การถูกปฎิเสธ
การถูกปฎิเสธการถูกปฎิเสธ
การถูกปฎิเสธ
 
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักการจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
 
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอการจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ
การจะมีคู่แท้สักคน... จึงต้องใช้เวลาในการแสวงหาเสมอ
 
การแข่งขัน กับ การพักผ่อน
การแข่งขัน กับ การพักผ่อนการแข่งขัน กับ การพักผ่อน
การแข่งขัน กับ การพักผ่อน
 
กลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจ
กลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจกลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจ
กลเม็ด 6 วิธีเพื่อควานหาคนถูกใจ
 
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสี
 
วทบ ๕๖ Award
วทบ ๕๖ Awardวทบ ๕๖ Award
วทบ ๕๖ Award
 
Like
LikeLike
Like
 
Email awc56
Email awc56Email awc56
Email awc56
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
 
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหนกระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
กระตุ้นต่อ​มฮา.....ไป​ถึงไหน
 
ชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆ
ชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆ
ชีวิตที่น่าสงสาร ของคนทำงานอย่างเราๆ
 
Who1
Who1Who1
Who1
 
Bangpratun
BangpratunBangpratun
Bangpratun
 
วัดบางประทุนนอก
วัดบางประทุนนอกวัดบางประทุนนอก
วัดบางประทุนนอก
 
ผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสาน
ผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสานผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสาน
ผู้แทนมอบโล่ ภาคอิสาน
 

กลุ่มจิตวิเคราะห์

  • 1. กลุ่มจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) ผูนา คนสําคัญคื อ ซิ กมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิ ต แพทย์ชาวเวียนนา ได้ศึกษา ้ ํ วิเ คราะห์จิต ของมนุ ษ ย์ และอธิ บายว่า พลังงานจิ ต ทํา หน้า ที ควบคุ ม พฤติ กรรมของมนุ ษย์ มี 3 ลักษณะ คือ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) 1. จิตสํานึกหรื อจิตรู ้สานึ ก (Conscious mind) หมายถึงภาวะจิตทีรู ้ตวอยู่ได้แก่ การแสดง ํ ั พฤติกรรม เพือให้ สอดคล้องกับหลักแห่งความเป็ นจริ ง 2. จิตกึงสํานึก (Subconscious mind) หมายถึงภาวะจิตทีระลึกถึงได้ รองศาสตราจารย์ กลม รัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2528 : 35)ได้กล่าวถึง Subconscious mind ว่าหมายถึงส่ วนของจิตใจ ทีมิได้แสดง ออกเป็ นพฤติกรรม ในขณะนัน แต่ เป็ นส่ วนทีรู ้ตว สามารถดึ งออกมใช้ได้ทุกเมือทีต้องการ เช่ น ั นางสาว ก. มีนองสาวคือนางสาว ข. ซึ งกําลังตกหลุมรัก นาย ค. แต่นางสาว ข. เกรงว่ามารดาจะ ้ ทราบความจริ งจึงบอกพีสาว มิให้เล่าให้มารดาฟัง นางสาว ก. เก็บเรื องนีไว้เป็ น ความลับ มิได้แพร่ ง ่ พรายให้ผใดทราบโดยเฉพาะมารดาแต่ ในขณะเดียวกันก็ทราบอยูตลอดเวลาว่า นางสาว ข. รักนาย ู้ ค. ถ้าเขาต้องการเปิ ดเผย เขาก็จะบอกได้ทนที ลักขณา สริ วฒน์ (2530 : 9) กล่าวถึง Subconscious ั ั mind ว่าผลมันเกิด จากการขัดแย้งกันระหว่าง พฤติกรรมภายใต้อิทธิ พลจิตรู ้สํานึกกับอิทธิ พลของ จิตใต้สานึกย่อมก่อให้เกิดการหลอกลวงตัวเองขึน ภายในบุคคล ํ ํ ํ ่ 3. จิตไร้สานึกหรื อจิตใต้สานึก (Unconscious mind) หมายถึงภาวะจิตทีไม่อยูในภาวะทีรู ้ตว ั ่ ระลึกถึงไม่ได้ กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2524 : 121) กล่าวว่า จิตไร้สานึกเป็ นสิ งทีฝังลึกอยูภายในจิตใจ ํ มีการเก็บกด (Repression) เอาไว้อาจเป็ นเพราะ ถูกบังคับ หรื อไม่สามารถแสดงอาการโต้ตอบได้ใน ขณะนันในทีสุ ดก็จะฝังแน่นเข้าไป จนเจ้าตัวลืมไปชัว ขณะจะแสดงออกมาในลักษณะการพลังเผลอ เช่น พลังปากเอ่ยชือ คนรักเก่าต่อหน้า คนรักใหม่ เป็ นต้น คณาจารย์ภาควิชาจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง (2530 : 16) กล่าวว่า สิ งทีมีอิทธิ พล จูงใจพฤติกรรมและการดําเนิ นชี วิตของคนเรามากทีสุ ดก็คือ ส่ วนทีเป็ นจิตใต้สํานึ ก
  • 2. และสิ งทีคนเรามัก จะเก็บกดลงไปทีจิตใต้ สํานึ ก ก็คือความต้องการก้าวร้าว กับความต้องการทาง เพศ ซึงจะมีแรงผลักดัน นอกจากนี ฟรอยด์ ยังได้ศึกษาถึงโครงสร้างทางจิตพบว่าโครงสร้างทางจิตประกอบด้วย 1. อิด (Id) 2. อีโก้ (Ego) 3. ซุปเปอร์อีโก้ (Superrgo) 1. อิด (Id) หมายถึงตัณหาหรื อความต้องการพืนฐานของมนุษย์เป็ นสิ งทียังไม่ได้ขดเกลา ั ซึงทําให้ มนุษย์ทาทุกอย่างเพือความพึงพอใจของตนเองหรื อทําตามหลักของความพอใจ (Pleasure ํ principle) เปรี ยบเหมือนสันดานดิ บของ มนุ ษย์ ซึ งแบ่งออกเป็ น สัญชาติญาณ แห่ งการมี ชีวิต (Life instinct) เช่ น ความต้องการอาหาร ความต้องการทางเพศ ความต้องการหลีกหนีจากอันตราย กับ สัญชาติญาณแห่ ง ความตาย (Death instinct) เช่น ความก้าวร้าว หรื อการทําอันตรายต่อตนเองและ ผูอืน เป็ นต้น บุคคล จะแสดงพฤติกรรมตามความพอใจ ของเขาเป็ นใหญ่ ไม่คานึ งถึงค่านิ ยมของ ้ ํ สังคม และ ความพอใจของ บุคคลอืนจึงมักเป็ นพฤติกรรมทีไม่เป็ นไปตามครรลองของมาตรฐานใน สังคม บุคคลทีมีบุคลิกภาพเช่นนี มักได้รับการประนามว่ามีบุคลิกภาพไม่ดี หรื อไม่เหมาะสม 2. อีโก้ (Ego) หมายถึง ส่ วนทีควบคุมพฤติกรรมทีเกิดจากความต้องการของ Id โดยอาศัย กฏเกณฑ์ ทางสังคม และหลักแห่ งความจริ ง (Reality principle) มาช่ วยในการตัดสิ นใจ ไม่ใช่ แสดงออกตามความพอใจของตนแต่เพียงอย่างเดียว แต่ตองคิดแสดงออกอย่างมีเหตุผลด้วยนันคือ ้ บุคคลจะแสดงพฤติกรรม โดยมีเหตุและผล ทีเหมาะสมกับกาละเทศะใน สังคม จึงเป็ นบุคลิกภาพที ่ ได้รับการยอมรับมากในสังคม ในคนปรกติทีสามารถปรับตัวอยูได้ในสังคมอย่างมีความสุ ข ฟรอยด์ เชือว่าเป็ นเพราะมีโครงสร้าง ส่ วนนีแข็งแรง 3. ซุ ปเปอร์ อีโก้ (Superego) หมายถึ งมโนธรรมหรื อ จิ ตส่ วนที ได้รับการพัฒ นาจาก ประสบการณ์ การอบรมสังสอน โดยอาศัยหลักของศีลธรรมจรรยา ขนบธรรมเนี ยมประเพณี และ ค่า นิ ยมต่า ง ๆ ใน สังคมนัน Superego จะเป็ นตัวบังคับ และควบคุ มความคิ ดให้แสดงออกใน
  • 3. ลักษณะทีเป็ นสมาชิกทีดีของ สังคม โดยยึดหลักค่านิยมของสังคม (Value principle)ทีตัดสิ นว่าสิ ง ใดเป็ นสิ งทีดีในสังคมกล่าวคือบุคคล จะแสดงพฤติกรรมตาม ขอบเขตทีสังคมวางไว้ แต่บางครังอาจ ไม่เหมาะ สม เช่น เมือถูกยุงกัดเต็มแขน - ขา ก็ไม่ยอมตบยุง เพราะกลัวบาป หรื อสงสารคนขอทาน ให้เงินเขาไปจนหมด ในขณะที ตนเองหิวข้าวไม่มีเงินจะ ซืออาหารกินก็ยอมทนหิว เป็ นต้น กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2524 : 122 - 123) กล่าวว่าใครก็ตามทีมีบุคลิกภาพ เช่นนีมักได้รับการ ยกย่อ ง ทังนี เพราะบางครั งพฤติ กรรมที แสดงออกนันอาจเกิ ด ความไม่ พ อใจในตนเอง แต่ เ พื อ ต้องการให้เป็ นที ยอมรับในสังคม ดังนันแม้เขาแสดงพฤติกรรมบาง อย่างทีขัดต่อ ค่านิยมของสังคม เขาจะเกิดความรู้สึกผิด (Guilt feeling or Guilty) ทันทีถาไม่มีการ ระบายออกเก็บกดไว้ มาก ๆ อาจ ้ ระเบิดออกมากลายเป็ นโรค ผิดปรกติทางจิตได้ ฟรอยด์ กล่าวว่าในบุคคลทัวไปมักมีโครงสร้างทัง 3 ส่ วนนีแต่ส่วนทีแข็งแรงทีสุ ด มักเป็ นอี โก้ ซึ งทําหน้าทีคอย ประนีประนอมระหว่างอิดและซุปเปอร์อีโก้ให้แสดงออกตามความ เหมาะสม ของสถานการณ์ ในขณะนัน เช่น คอยกดอิดมิ ให้แสดงพฤติกรรมทีไม่เหมาะสมออกมา เมือยังไม่ ถึงเวลาหรื อคอยดึงซุปเปอร์ อีโก้ไว้มิให้แสดงพฤติกรรมทีดีงามจนเกินไป จนตนเอง เดือดร้อน ถ้า คนทีมีจิตผิดปรกติ เช่นเป็ นโรคจิต โรคประสาท คือคนทีอีโก้แตก (Break down) ไม่สามารถคุม อิด และซุปเปอร์ อีโก้ไว้ได้ มักจะมีพฤติกรรมทีไม่เหมาะสมกับกาละเทศะกับเหตุผล เช่ น เกิดอาการ คุมดีคุมร้าย คุมดีคือส่ วนของซุปเปอร์ อีโก้แสดงออกมา คุมร้ายคือส่ วนของอิดแสดงออกมา ฯลฯ ้ ้ ้ ้ ดร. อารี รังสิ นนท์ (2530 : 15 - 16) กล่าวว่าโครงสร้างจิต 3 ระบบนีมีส่วนสัมพันธ์กน ถ้า ั ั ั ทํางาน สัมพันธ์กนดีการแสดงออกหรื อบุคลิกภาพก็เหมาะสมกับตน แต่ถาโครงสร้างทัง 3 ระบบ ้ ทํา หน้า ที ขัดแย้งกัน บุ คคลก็จะมี พฤติ กรรมหรื อ บุ คลิ กภาพที ไม่ ราบรื นปกติ หรื อไม่ เหมาะสม แนวความคิดกลุ่มนีเน้น จิตไร้สานึก (Unconscious mind) จิตไร้สานึกนีจะ รวบรวมความคิด ความ ํ ํ ต้องการ และประสบการณ์ทีผูเ้ ป็ นเจ้าของ จิตไม่ตองการจะจดจํา จึงเก็บกดความรู ้สึกต่าง ๆ เหล่านี ้ ่ ไว้อยูในจิตส่ วนนี และหากความคิด ความต้องการหรื อ เกิดพฤติกรรมบางอย่างโดยไม่รู้ตว ั อนึง ประสบการณ์ในชีวตวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงแรกเกิดถึง 5 ขวบทีเกียวกับการอบรม เลียง ิ ่ ดู ทีได้รับ จะฝังแน่น อยูในจิตไร้สานึก และอาจจะแสดงออกเมือถูกกระตุน โดยเฉพาะในวัยผูใหญ่ ํ ้ ้
  • 4. ฟรอยด์ บอกว่า จิตไร้สานึกเป็ นสาเหตุให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมและพฤติกรรม ทีฝังแน่นใน ํ อดีต เป็ นเหตุให้แสดง พฤติกรรมออกมาในปั จจุบนและอนาคต อนึ ง พฤติกรรม ทังหลายทีแสดง ั ออกมานัน ท้ายทีสุ ดก็เพือตอบสนองความต้อง การทางเพศ (Sexual need) นันเอง ฟรอยด์ เน้นประสบการณ์ชีวิตในวัยเด็กมาก โดยเฉพาะในช่ วงชีวิตตังแต่แรกเกิดจนถึง 5 ขวบ ประสบการณ์ต่างๆทีเด็กได้รับในช่ วงนี โดยเฉพาะสิ งทีประทับใจ วิธีการอบรม เลียงดู มักจะ ฝังแน่นอยู่ ในจิตไร้สานึก และจะแสดงออกมาเป็ น พฤติกรรมในช่วงชีวต ทีเป็ นผูใหญ่ต่อมาซึ งค้าน ํ ิ ้ กับความเห็ นของนัก จิ ตวิทยากลุ่มอืนหรื อนักการศึกษา ที เชื อว่าไม่มีผูใด จดจําเหตุ การณ์ ทีเกิ ด ้ ขึนกับตัวเองได้ในช่วงชีวตตังแต่ 5 ขวบลงไปจนถึงแรกเกิดได้ แต่ฟรอยด์บอกว่า สิ งเหล่านีมิได้หาย ิ ไปไหนแต่กลับฝังลึกลงไป ในส่ วนของจิด ทีเรี ยกว่า จิตไร้สานึก (กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์. 2528 : 36) ํ พัฒนาการของมนุษย์ 5 ขัน ของฟรอยด์ ผ.ศ. ดร. อารี รังสิ นนท์ (2530 : 15 - 16) ั ได้กล่าวถึงการแบ่งขันพัฒนาการของมนุษย์ ่ ของฟรอยด์วาแบ่งเป็ น 5 ขัน คือ 1. ขันปาก (Oral Stage) อายุตงแต่แรกเกิด - 2 ขวบ ั 2. ขันทวารหนัก (Anal Stage) อายุ 2 - 3 ขวบ 3. ขันอวัยวะเพศ (Phallic Stage) อายุ 3 - 5 ขวบ 4. ขันแฝง (Latent Stage) อายุ 6 - 12 ขวบ 5. ขันวัยรุ่ น (Genital Stage) อายุ 13 - 18 ขวบ รองศาสตราจารย์ กมลรัตน์ หล้าสุ วงษ์ (2528 : 37 - 39) ได้กล่าวถึงการแบ่งพัฒนาการของ มนุษย์ของฟรอยด์ว่า ฟรอยด์ได้แบ่งพัฒนาการของมนุษย์ แตกต่างจากนักจิตวิทยาท่านอืนกล่าวคือ ฟรอยด์ เชือว่า มนุษย์มีอวัยวะทีไวต่อ ความรู้สึกในแต่ละช่วงชีวตแตกต่างกัน ซึ งฟรอยด์เรี ยกว่าอีโร ิ จีนสโซน (Erogenus zone) จึงได้แบ่งขันพัฒนาการตามอวัยวะทีไวต่อความรู ้สึกออกเป็ น 5 ขัน และ ั ได้กล่าวถึงแต่ละขันไว้ ดังนี
  • 5. 1. ขันปาก (Oral Stage) ขันนีเด็กต้องการการตอบสนองทางปากมากทีสุ ดเนืองจากปากเป็ น อวัยวะทีไวต่ อความรู ้สึกมากทีสุ ดในช่ วงชี วิตนี ความสุ ข ความพอใจของเด็กอยู่ทีการได้รับการ ตอบสนองทางปาก เช่ น การดู ด นม การสั ม ผัส สิ งแปลกใหม่ ด ้ว ยปาก ฯลฯ ถ้า เด็ ก ได้รั บ การ ตอบสนองเต็มที เมือโตขึนจะมีบุคลิกภาพทีเหมาะสมไม่พยายามใช้ปากมากเกิน ไป รู้จกพูดหรื อใช้ ั ปากได้เหมาะกับกาละเทศะ หากเด็กได้รับการขัดขวางต่อการตอบสนองทางปากในวัยนี เช่ น การ หย่านมเร็วเกินไป ถูกตีเมือนําของเข้าปากทําให้เด็กรู ้สึกกระวนกระวายและเรี ยกร้องทีจะชดเชยการ ตอบสนองทางปากนัน เมือ มีโอกาส เรี ยกว่าเกิดการหยุดยังพัฒนาการทางปาก (Oral Fixation) เมือ มีโอกาสหรื อโตเป็ นผูใหญ่มกมีบุคลิกภาพทีชอบใช้ ปาก เช่ น ชอบนิ นทาว่าร้าย ชอบสู บบุหรี รับ ้ ั ประทางอาหารบ่อย ๆ เกินความจําเป็ น เป็ นต้น 2. ขันทวารหนัก (Anal Stage) ขันนี เด็กต้องการตอบสนองทางทวารหนักมากทีสุ ดมากกว่า ทางปาก เช่ น พัฒนาการขันแรกเด็กวัยนี จึงไม่ชอบรับประทานมากเท่ากับการเล่น โดยเฉพาะการ เล่นทีสัมผัสทางทวารหนัก ตลอดจนความสุ ขในการขับถ่ ายซึ งตรงกับการฝึ กหัดขับถ่าย (Toilet Training) ของเด็กวัยนี ถ้าผูใหญ่ทีเข้าใจจะรู ้จกผ่อนปรน ค่อย ๆ ฝึ กเด็กให้รู้จกขับถ่ายได้ดวยวิธีที ้ ั ั ้ นุ่มนวล การพัฒนาการขันนีก็ไม่มีปัญหาเด็กโตขึนจะมีบุคลิกภาพทีเหมาะสม แต่ถาเกิดการหยุดยัง ้ พัฒนาการขันนี (Anal Fixation) เนืองจากผูใหญ่บงคับเด็กในการฝึ กหัดขับถ่ายมากเกินไป เช่น ต้อง ้ ั ขับถ่ายเป็ นเวลา ถ้าไม่ทาตามจะถูกลงโทษจะทําให้เกิดความไม่พอใจฝั งแน่ นเข้าไปสู่ จิตไร้สํานึ ก ํ โดยไม่รู้ตวและแสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็นชัด 2 ลักษณะทีตรงกันข้าม คือ อาจจะมีลกษณะใด ั ั ลักษณะหนึงแล้วแต่ความเข้มทางบุคลิกภาพของเด็ก นันๆ คือ ก. บุคลิกภาพแบบสมบูรณ์ (Perfectionist) คือเป็ นคนเจ้าระเบียบ จูจี ยําคิดยําทํา กังวลมาก ้ เกินไป โดยเฉพาะเรื องความสะอาด ลักษณะนีมักเกิดกับเด็กทีมีบุคลิกภาพอ่อนแอ ข. บุคลิกภาพแบบอันธพาล (Anti social) คือเป็ นคนไม่ยอมคนชอบคัดค้านค่านิ ยมหรื อ ระเบียบแบบแผนทีวางไว้ ลักษณะนีมักเกิดกับเด็กทีมีบุคลิกภาพเข้มแข็งนอกจากนียังพบว่า คนทีมี Anal Fixation นียังเป็ นนักสะสมสิ งของต่าง ๆ ตลอดจนมีพฤติกรรมอ่านหนังสื อพิมพ์บนโถส้วม นานๆ ชอบนังทีใดทีหนึงนาน ๆ ด้วย 3. ขันอวัยวะเพศ หรื อขันความรู ้สึกทางเพศแบบแฝง (Phallic Stage)ขันนี เด็กเริ มเกิด ความรู ้สึกทางเพศแต่เป็ นแบบแฝง กล่าวคือมิได้หมายความว่าเด็กวัยนีเกิดความรู ้สึกทางเพศโดยตรง
  • 6. ได้แก่ อยากมีคู่ครองแต่หมายถึงความรู้สึก ผูกพัน ทีเกิดขึนต่อบิดามารดาทีมีเพศตรงข้ามกับเด็ก เช่นเด็กหญิงรักและติดพ่อ หวงแหนพ่อแทนแม่ ฟรอยด์อธิ บายว่าในขณะเดียวกัน เด็กจะรู้สึกอิจฉา แม่ เพราะเรี ยนรู ้ว่า พ่อรักแม่ เกิดปมอิจฉา (Oedipus Complex) ขึนเห็นแม่เป็ นคู่แข่งและพยายาม เลียนแบบพฤติกรรมของแม่ ซึงเป็ นแบบฉบับของสตรี เพศ ทําให้เด็กหญิง มีลกษณะเป็ นหญิงเมือโต ั ขึน ในทํานองเดียวกัน เด็กชายก็จะรักและติดแม่หวงแหนและเป็ นห่ วงแม่ ฟรอยด์อธิ บายว่าเด็กชาย จะรู ้สึกอิจฉาพ่อ เพราะเรี ยนรู ้ว่าแม่รักพ่อ เกิดปมอิจฉา (Oedipus Complax) พ่อ เห็นพ่อเป็ นคู่แข่ง พยายามเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อ ซึงเป็ นแบบฉบับของบุรุษเพศ ทําให้เด็กชายมีลกษณะเป็ นชาย ั อย่างสมบูรณ์เมือโตเป็ นผูใหญ่ ดังนัน Oedipus Complax จึงเป็ นสิ งทีดีเพราะจะส่ งเสริ มให้เด็กมี ้ พัฒนาการได้เหมาะสมกับเพศของเขา ตามที กล่ า วมาแล้ว ข้า งต้นนี เป็ นการพัฒนาการเป็ นไป ตามลําดับขันอย่างดียงแต่ถาเกิดการหยุดยังพัฒนาการของ ขันนี (Phallic Fixation) จะเกิดพฤติกรรม ิ ้ ดังนี เด็กหญิงขณะทีเลียนแบบแม่ ซึ งเป็ นแบบฉบับถ้าแม่เป็ นแบบฉบับไม่ดี เด็กไม่ศรัทธาในทีสุ ด เด็กก็จะหันไปเลียน แบบพ่อ เนื องจากมีความนิ ยมศรัทธาอยูเ่ ป็ นทุนเดิมแล้วพฤติกรรมทีปรากฏก็ คือ เด็กผูหญิงเป็ นลักเพศ (Lesbian) คือมี พฤติกรรมและความรู ้ สึกเยียงชายในทํานองเดี ยวกัน ้ เด็กชายขณะทีเลียนแบบพ่อซึ งเป็ นแบบฉบับ ถ้าพ่อเป็ นแบบฉบับไม่ดี เด็กไม่ศรัทธาในทีสุ ดเด็กก็ ่ จะหันไปเลียนแบบแม่โดยตรง เพราะรักและศรัทธาแม่เป็ นทุนเดิมอยูแล้วพฤติกรรมทีปรากฏก็คือ เด็กชายเป็ นลักเพศ (Homosexual) 4. ขันแฝง (Latent Stage) เป็ นระยะก่อนทีเด็กจะเปลียนแปลงเข้าสู่ วยรุ่ น กิติกร มีทรัพย์ ั (2530 : 70 - 71) กล่าวถึงเด็กวัยรุ่ นซ่อนเร้นหรื อลาเทนซี (Latency) ว่า การเติบโตทางกาย ค่อย ๆ ช้า ลง แต่การเติบโตทางจิตใจ (Memtal awarenss) ไปเร็ วมาก เด็ก ๆ มักถูกมองว่า "แสนรู ้" หรื อ "แก่ แดด" เด็กจะรู ้จกพิพากษ์วิจารณ์สนใจไปในทางค้นหา ค้น คว้าต่าง ๆ สนใจสิ งนันสิ งนีอยูมิได้ขาด ั ่ เด็กบางคนอาจพูดในสิ งทีแหลมคมทีทําให้ผใหญ่คิดและน่าทึง หรื อพูดอะไรเชยๆ นักจิตวิทยาชาว ู้ สวีเ ดนผูห นึ ง ชื อ เดวิด บี ยอร์ กลุน ด์ เป็ นศาสตราจารย์ วิช าจิ ต วิทยามหาวิทยาลัย ฟลอริ ดา ใน ้ อเมริ กากล่าวว่า เมือเด็กวัย Latency มีความคิดใคร่ ครวญ ผูใหญ่ ไม่ควรละเลย ดูดวยทีจะให้เด็กได้ ้ ้ คิดเรื องหนัก ๆ บ้างตามความสนใจของเขาตังแต่การวางแผนงานบ้าน การบ้าน หรื อสร้างวินยใน ั บ้า นให้เขาได้มี โอกาส รั บรู ้ ห รื อ มี ส่ ว นร่ ว มกับ ปั ญ หารายรั บ - รายจ่ า ยในครั วเรื อน ปั ญ หา
  • 7. คณิ ตศาสตร์ ง่าย ๆ หรื อปั ญหาประสบการณ์ ชี วิตบางประการซึ งผูใหญ่เคยคิดว่าเขาไม่รู้ หรื อไม่ ้ ควรรู ้ 5. ขันวัยรุ่ น (Genital Stage) เด็กหญิงจะเริ มสนใจเด็กชายและเด็กชายจะเริ มสนใจเด็กหญิง เป็ นระยะทีเด็ก จะมีความสัมพันธ์ระหว่างเพศอย่างแท้จริ งพฤติกรรมทางเพศของบุคคลในวัยนี จึงมี ลักษณะทีบ่งถึงวุฒิภาวะทาง อารมณ์หรื อความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ งแวดล้อมได้อย่าง เต็มทีพัฒนาการทางเพศทีเกิดขึนในระยะนี เรี ยกว่า ขันวุฒิภาวะทางเพศอันมิได้หมายถึงอวัยวะเพศ อย่างเดียวรวมถึงพฤติกรรมทีแสดงถึงวุฒิภาวะทางด้าน อารมณ์และสติปัญญาเด็กชายจะเปลียนจาก การหลงรักแม่ตนเองไปและเด็กหญิงก็จะหันจากหลงรักพ่อไปรักเพศ ชายทัวไป