การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง 
การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง เป็นการหาค่ากลางของ 
คะแนนชุดนั้น หรือหาค่าที่เป็นตัวแทนของคะแนนชุดนั้น สถิติที่ 
นิยมใช้วัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง ได้แก่ 
1. ตัวกลางเลขคณิต (Arithmetic mean) หรือ ค่าเฉลี่ย 
ใช้สัญลักษณ์ X 
วิธีคำานวณ หาค่า X มีดังนี้ 
SX ; ใช้ในกรณีที่ข้อมูล 
สูตรที่ 1 X = N 
ไม่ได้แจกแจงความถี่ 
เมื่อ X แทน ตัวกลางคณิตศาสตร์ 
SX แทนผลบวกของคะแนนทั้งหมด (SX = X1 + X2 
+ X3 + Xn) 
N แทนจำานวนคะแนนทั้งหมด 
ตัวอย่า ง ผลการสอบวิชาหนึ่งของนักเรียน 10 คนได้คะแนน 
ดังนี้ 
5 7 9 12 20 8 3 7 11 15 จงหาค่าตัวกลางเลขคณิต 
ของข้อมูลชุดนี้ 
SX 
X = N 
[5 + 7 + 9 +12 + 20 + 8 + 3 + 7 +11+15] = 
= 9.7 
10 
SX ; ใช้ในกรณีที่ข้อมูลมี 
สูตรที่ 2 X = N 
การแจกแจงความถี่ 
เมื่อ X แทน ตัวกลางเลขคณิต 
åfx แทน ผลบวกของผลคุณระหว่างคะแนนกับ 
ความถี่ของคะแนนตัวนั้น 
N แทน จำานวนคะแนนทั้งหมด (N = åf)
ตัวอย่าง จงหาตัวกลางเลขคณิตของคะแนนจากผลการสอบวิชา 
หนึ่ง ดังนี้ 
คะแนน 
(X) 
2 
4 
2 
3 
2 
2 
2 
1 
2 
0 
1 
9 
1 
8 
1 
7 
1 
6 
1 
5 
1 
4 
ความถี่ 
(f) 
3 3 2 3 6 4 1 2 8 4 4 
SfX 
จากสูตร X = N 
N = åf = 40 
åfx = 740 
X = 740/40 = 18.5 
คะแนน 
(X) 
ค ว า ม 
ถี่ (f) 
fX 
24 
23 
22 
21 
20 
19 
18 
17 
16 
15 
14 
3 
3 
2 
3 
6 
4 
1 
2 
8 
4 
4 
72 
69 
44 
63 
120 
76 
18 
34 
128 
60 
56 
åf 
= 40 
å fx 
=740
การใช้ค่าตัวกลางเลขคณิต 
1. บรรยายลักษณะรวม ๆ ของกลุ่มว่ามีความสามารถทั่ว 
ๆ ไปอยู่ระดับใดของกลุ่ม (Norm) เช่น สูง ปานกลาง หรือตำ่า 
2. นำาไปใช้ในการเปรียบเทียบความสามารถระหว่างกลุ่ม 
ต่าง ๆ ที่ต้องการ เช่น 
เปรียบเทียบระหว่างห้องเรียน ระหว่างโรงเรียน หรือระหว่าง 
จังหวัด ฯลฯ 
3. ใช้บอกระดับความยากง่ายของข้อสอบทั้งฉบับ 
2. มัธยฐาน (Median) หมายถึงคะแนนตัวที่อยู่ตรงตำ่าแหน่ 
งกึ่งกลางของกลุ่มใช้สัญลักษณ์ Med หรือ Mdn เป็นค่าสถิติอีก 
ตัวหนึ่งที่บอกสภาพโดยส่วนรวมของกลุ่ม นิยมใช้กับข้อมูล หรือ 
คะแนนที่มีกระจายกว้าง และช่วงที่ห่างกันมาก ๆ วิธีคำานวณหาค่า 
มัธยฐานมีดังนี้ 
กรณีที่ 1 ข้อมูลไม่ได้แจกแจงความถี่ หรือข้อมูลมีจำานวน 
น้อย มีวิธีทำาดังนี้ 
1. เรียงคะแนนจากน้อยไปมาก 
2. หาคะแนนที่อยู่ตำาแหน่งตรงกลาง 2 
(N +1) ซึ่งก็คือ 
ค่ามัธยฐาน 
ตัวอย่าง คะแนนชุดหนึ่งมี 7 ตัวดังนี้ 14 13 18 16 15 19 20 
เรียงคะแนน 13 14 15 16 18 19 20 
หาตำาแหน่งมัธยฐาน = (N +1)/2 = (7+1)/2 = 4 
ตำาแหน่งที่ 4 ตรงกับคะแนน 16 
ค่ามัธยฐาน เท่ากับคะแนน 16
ตัวอย่าง คะแนนชุดหนึ่งมี 6 ตัวดังนี้8 2 4 9 3 5 
เรียงคะแนน 2 3 4 5 8 9 
หาตำาแหน่งมัธยฐาน = (N +1)/2 = (6+1)/2 = 3.5 
ตำาแหน่งที่ 3.5 เป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนตำาแหน่งที่ 3 กับ 4 
ค่ามัธยฐาน = (4+5)/2 = 4.5 
กรณีที่ 2 ถ้าข้อมูลอยู่ในรุปการแจกแจงความถี่ คำานวณต่า 
มัธยฐานได้จากสูตร 
Mdn = 
L +i[(N / 2 - f )] 
o C 
m 
f 
เมื่อ Mdnแทน ค่ามัธยฐาน 
LO แทน ขีดจำากัดล่างที่แท้จริงของชั้นมัธยฐาน 
N แทน จำานวนข้อมูลทั้งหมด 
I แทน อัตรภาคชั้น 
fC แทน ความถี่สะสมของชั้นที่ตำากว่าชั้นมัธยฐาน 
fm แทน ความถี่ของชั้นมัธยฐาน 
ตัวอย่าง จากผลการสอบของนักเรียน 30 คน ในตารางข้าง 
ล่างนี้ จงหาค่ามัธยฐาน 
X 2 
5 
2 
4 
2 
6 
2 
3 
2 
1 
2 
0 
1 
9 
1 
8 
1 
7 
1 
6 
1 
5 
1 1 2 4 - 6 3 4 4 2 3
วิธีทำำ 
1. สร้ำงตำรำงแจกจำงควำมถี่สะสม 
2. หำค่ำชั้นมัธยฐำน = N/2 คือชั้นที่ควำมถี่ 
สะสม 
ตกอยู่ 
3. แทนค่ำสูตร 
Mdn = 
L +i[(N / 2 - f )] 
O C 
M 
f 
ในที่นี้ LO = 18.5 
i = 1 
N/2 = 15 
fC = 13 
X F C 
f 
2 
5 
2 
4 
2 
3 
2 
2 
2 
1 
2 
0 
1 
1 
2 
4 
- 
6 
3 
0 
2 
9 
2 
8 
2 
6 
- 
2 
2 
1 
9 
3 1 
6 
1 
8 
1 
7 
1 
6 
1 
5 
4 
4 
2 
3 
1 
3 
9 
5 
3 
15
fM = 3 
1[(15-13)] 
Mdn = 18.5 + 3 
= 18.5 + .67 
มัธยฐำน = 19.17 
กำรใช้ค่ำมัธยฐำน 
1. ใช้บรรยำยลักษณะรวม ๆ ของกลุ่มคล้ำยตัวกลำง 
เลขคณิต สำำหรับข้อมูลที่มีกำรกระจำยกว้ำงมำก ๆ และในกรณีที่ 
มีข้อมูลบ้ำงตัวกระจำยห่ำงไปจำกกลุ่ม 
2. ใช้ในกำรแบ่งกลุ่มผู้สอบออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้ 
คะแนนมัธยฐำนเป็นจุดแบ่ง 
3. ฐำนนิยม (Mode) หมำยถึง คะแนนตัวที่มีควำมถี่สูงสุด 
ใช้สัญลักษณ์ Mo จะใช้เมื่อต้องกำรทรำบค่ำกลำงของข้อมูลอย่ำง 
คร่ำว ๆ รวดเร็ว เช่น กำรสำำรวจควำมนิยมของกลุ่มคนในเรื่อง 
ต่ำง ๆ 
ตัวอย่ำ ง ข้อมูลชุดหนึ่งมีคะแนนดังนี้ 12 15 13 14 14 13 
13 18ฐ 
ำนนิยมของข้อมูลนี้คือ 13 เพรำะคะแนน 13 มีควำมถี่ 
มำกที่สุด 
ข้อสัง เกต ข้อมูลบำงชุดอำจมีฐำนนิยม 2 ค่ำ (Bimodel) 
เช่น 
2 1 4 8 5 8 3 5 7 5 8 15 
มัธยฐำนของชุดข้อมูลชุดนี้ คือ 5 กับ 8 
ข้อแนะนำำในหำรเลือกใช้สถิติที่ใช้วัดแนวโน้มเข้สู่ส่วนกลำง 
ตัวกลำงเลขคณิต 
1. ระดับของกำรวัด เป็นข้อมูลที่อยู่ในมำตรำอันตรภำค 
2. กำรแจกแจง เป็นโค้งปกติ 
3. จุดมุ่งหมำย ต้องกำรค่ำกลำงที่ละเอียดและถูกต้อง 
แน่นอน หรือต้องกำรค่ำกลำงที่นำำไปใช้คำำนวณในสถิติขั้นสูงต่อ 
ไป 
มัธยฐำน 
1. ระดับของกำรวัด เป็นข้อมูลที่อยู่ในมำตรำจัดอันดับ 
หรืออัตรภำค 
2. กำรแจกแจงควำมถี่ ไม่เป็นโค้งปกติมีลักษณะเบ้
3. จุดมุ่งหมาย ต้องการค่ากลางที่ถูกต้องแน่นอน หรือ 
ต้องการแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มเก่ง และกลุ่มอ่อน 
หรือใช้ในสถิติขั้นสูง 
ฐานนิยม 
1. ระดับของการวัด เป็นข้อมูลอยู่ในมาตราจัดประเภท 
จัดอันดับ หรืออันตรภาค 
2. การแจกแจงความถี่ ไม่เป็นโค้งปกติมีลักษณะเบ้ไปใน 
ทิศทางหนึ่งมาก ๆ 
3. จุดมุ่งหมาย ต้องการค่ากลางโดยประมาณอย่าง 
รวดเร็ว หรือเมื่อต้องการทราบค่าความนิยมของคนส่วนมาก

สถิติ

  • 1.
    การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง เป็นการหาค่ากลางของ คะแนนชุดนั้น หรือหาค่าที่เป็นตัวแทนของคะแนนชุดนั้น สถิติที่ นิยมใช้วัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง ได้แก่ 1. ตัวกลางเลขคณิต (Arithmetic mean) หรือ ค่าเฉลี่ย ใช้สัญลักษณ์ X วิธีคำานวณ หาค่า X มีดังนี้ SX ; ใช้ในกรณีที่ข้อมูล สูตรที่ 1 X = N ไม่ได้แจกแจงความถี่ เมื่อ X แทน ตัวกลางคณิตศาสตร์ SX แทนผลบวกของคะแนนทั้งหมด (SX = X1 + X2 + X3 + Xn) N แทนจำานวนคะแนนทั้งหมด ตัวอย่า ง ผลการสอบวิชาหนึ่งของนักเรียน 10 คนได้คะแนน ดังนี้ 5 7 9 12 20 8 3 7 11 15 จงหาค่าตัวกลางเลขคณิต ของข้อมูลชุดนี้ SX X = N [5 + 7 + 9 +12 + 20 + 8 + 3 + 7 +11+15] = = 9.7 10 SX ; ใช้ในกรณีที่ข้อมูลมี สูตรที่ 2 X = N การแจกแจงความถี่ เมื่อ X แทน ตัวกลางเลขคณิต åfx แทน ผลบวกของผลคุณระหว่างคะแนนกับ ความถี่ของคะแนนตัวนั้น N แทน จำานวนคะแนนทั้งหมด (N = åf)
  • 2.
    ตัวอย่าง จงหาตัวกลางเลขคณิตของคะแนนจากผลการสอบวิชา หนึ่งดังนี้ คะแนน (X) 2 4 2 3 2 2 2 1 2 0 1 9 1 8 1 7 1 6 1 5 1 4 ความถี่ (f) 3 3 2 3 6 4 1 2 8 4 4 SfX จากสูตร X = N N = åf = 40 åfx = 740 X = 740/40 = 18.5 คะแนน (X) ค ว า ม ถี่ (f) fX 24 23 22 21 20 19 18 17 16 15 14 3 3 2 3 6 4 1 2 8 4 4 72 69 44 63 120 76 18 34 128 60 56 åf = 40 å fx =740
  • 3.
    การใช้ค่าตัวกลางเลขคณิต 1. บรรยายลักษณะรวมๆ ของกลุ่มว่ามีความสามารถทั่ว ๆ ไปอยู่ระดับใดของกลุ่ม (Norm) เช่น สูง ปานกลาง หรือตำ่า 2. นำาไปใช้ในการเปรียบเทียบความสามารถระหว่างกลุ่ม ต่าง ๆ ที่ต้องการ เช่น เปรียบเทียบระหว่างห้องเรียน ระหว่างโรงเรียน หรือระหว่าง จังหวัด ฯลฯ 3. ใช้บอกระดับความยากง่ายของข้อสอบทั้งฉบับ 2. มัธยฐาน (Median) หมายถึงคะแนนตัวที่อยู่ตรงตำ่าแหน่ งกึ่งกลางของกลุ่มใช้สัญลักษณ์ Med หรือ Mdn เป็นค่าสถิติอีก ตัวหนึ่งที่บอกสภาพโดยส่วนรวมของกลุ่ม นิยมใช้กับข้อมูล หรือ คะแนนที่มีกระจายกว้าง และช่วงที่ห่างกันมาก ๆ วิธีคำานวณหาค่า มัธยฐานมีดังนี้ กรณีที่ 1 ข้อมูลไม่ได้แจกแจงความถี่ หรือข้อมูลมีจำานวน น้อย มีวิธีทำาดังนี้ 1. เรียงคะแนนจากน้อยไปมาก 2. หาคะแนนที่อยู่ตำาแหน่งตรงกลาง 2 (N +1) ซึ่งก็คือ ค่ามัธยฐาน ตัวอย่าง คะแนนชุดหนึ่งมี 7 ตัวดังนี้ 14 13 18 16 15 19 20 เรียงคะแนน 13 14 15 16 18 19 20 หาตำาแหน่งมัธยฐาน = (N +1)/2 = (7+1)/2 = 4 ตำาแหน่งที่ 4 ตรงกับคะแนน 16 ค่ามัธยฐาน เท่ากับคะแนน 16
  • 4.
    ตัวอย่าง คะแนนชุดหนึ่งมี 6ตัวดังนี้8 2 4 9 3 5 เรียงคะแนน 2 3 4 5 8 9 หาตำาแหน่งมัธยฐาน = (N +1)/2 = (6+1)/2 = 3.5 ตำาแหน่งที่ 3.5 เป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนตำาแหน่งที่ 3 กับ 4 ค่ามัธยฐาน = (4+5)/2 = 4.5 กรณีที่ 2 ถ้าข้อมูลอยู่ในรุปการแจกแจงความถี่ คำานวณต่า มัธยฐานได้จากสูตร Mdn = L +i[(N / 2 - f )] o C m f เมื่อ Mdnแทน ค่ามัธยฐาน LO แทน ขีดจำากัดล่างที่แท้จริงของชั้นมัธยฐาน N แทน จำานวนข้อมูลทั้งหมด I แทน อัตรภาคชั้น fC แทน ความถี่สะสมของชั้นที่ตำากว่าชั้นมัธยฐาน fm แทน ความถี่ของชั้นมัธยฐาน ตัวอย่าง จากผลการสอบของนักเรียน 30 คน ในตารางข้าง ล่างนี้ จงหาค่ามัธยฐาน X 2 5 2 4 2 6 2 3 2 1 2 0 1 9 1 8 1 7 1 6 1 5 1 1 2 4 - 6 3 4 4 2 3
  • 5.
    วิธีทำำ 1. สร้ำงตำรำงแจกจำงควำมถี่สะสม 2. หำค่ำชั้นมัธยฐำน = N/2 คือชั้นที่ควำมถี่ สะสม ตกอยู่ 3. แทนค่ำสูตร Mdn = L +i[(N / 2 - f )] O C M f ในที่นี้ LO = 18.5 i = 1 N/2 = 15 fC = 13 X F C f 2 5 2 4 2 3 2 2 2 1 2 0 1 1 2 4 - 6 3 0 2 9 2 8 2 6 - 2 2 1 9 3 1 6 1 8 1 7 1 6 1 5 4 4 2 3 1 3 9 5 3 15
  • 6.
    fM = 3 1[(15-13)] Mdn = 18.5 + 3 = 18.5 + .67 มัธยฐำน = 19.17 กำรใช้ค่ำมัธยฐำน 1. ใช้บรรยำยลักษณะรวม ๆ ของกลุ่มคล้ำยตัวกลำง เลขคณิต สำำหรับข้อมูลที่มีกำรกระจำยกว้ำงมำก ๆ และในกรณีที่ มีข้อมูลบ้ำงตัวกระจำยห่ำงไปจำกกลุ่ม 2. ใช้ในกำรแบ่งกลุ่มผู้สอบออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้ คะแนนมัธยฐำนเป็นจุดแบ่ง 3. ฐำนนิยม (Mode) หมำยถึง คะแนนตัวที่มีควำมถี่สูงสุด ใช้สัญลักษณ์ Mo จะใช้เมื่อต้องกำรทรำบค่ำกลำงของข้อมูลอย่ำง คร่ำว ๆ รวดเร็ว เช่น กำรสำำรวจควำมนิยมของกลุ่มคนในเรื่อง ต่ำง ๆ ตัวอย่ำ ง ข้อมูลชุดหนึ่งมีคะแนนดังนี้ 12 15 13 14 14 13 13 18ฐ ำนนิยมของข้อมูลนี้คือ 13 เพรำะคะแนน 13 มีควำมถี่ มำกที่สุด ข้อสัง เกต ข้อมูลบำงชุดอำจมีฐำนนิยม 2 ค่ำ (Bimodel) เช่น 2 1 4 8 5 8 3 5 7 5 8 15 มัธยฐำนของชุดข้อมูลชุดนี้ คือ 5 กับ 8 ข้อแนะนำำในหำรเลือกใช้สถิติที่ใช้วัดแนวโน้มเข้สู่ส่วนกลำง ตัวกลำงเลขคณิต 1. ระดับของกำรวัด เป็นข้อมูลที่อยู่ในมำตรำอันตรภำค 2. กำรแจกแจง เป็นโค้งปกติ 3. จุดมุ่งหมำย ต้องกำรค่ำกลำงที่ละเอียดและถูกต้อง แน่นอน หรือต้องกำรค่ำกลำงที่นำำไปใช้คำำนวณในสถิติขั้นสูงต่อ ไป มัธยฐำน 1. ระดับของกำรวัด เป็นข้อมูลที่อยู่ในมำตรำจัดอันดับ หรืออัตรภำค 2. กำรแจกแจงควำมถี่ ไม่เป็นโค้งปกติมีลักษณะเบ้
  • 7.
    3. จุดมุ่งหมาย ต้องการค่ากลางที่ถูกต้องแน่นอนหรือ ต้องการแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มเก่ง และกลุ่มอ่อน หรือใช้ในสถิติขั้นสูง ฐานนิยม 1. ระดับของการวัด เป็นข้อมูลอยู่ในมาตราจัดประเภท จัดอันดับ หรืออันตรภาค 2. การแจกแจงความถี่ ไม่เป็นโค้งปกติมีลักษณะเบ้ไปใน ทิศทางหนึ่งมาก ๆ 3. จุดมุ่งหมาย ต้องการค่ากลางโดยประมาณอย่าง รวดเร็ว หรือเมื่อต้องการทราบค่าความนิยมของคนส่วนมาก