More Related Content
Similar to นวัตกรรมบทที่ 7
Similar to นวัตกรรมบทที่ 7 (20)
More from Setthawut Ruangbun
More from Setthawut Ruangbun (17)
นวัตกรรมบทที่ 7
- 2. สถานการณ์ปัญหา
สถานการณ์ปัญหา
(Problem-based learning)
(Problem-based learning)
กระทรวงศึกษาธิการต้องการให้ท่านเลือกและสร้างนวัตกรรมการเรียน
รู้ ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนทั้ง 3 แห่งคือ โรงเรียนเปรม
สวัสดิ์ โรงเรียนมหาชัย โรงเรียนเทศบาลวัดธาตุ
โรงเรียนเปรมสวัสดิ์ เป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล
ความเจริญ ไม่มีการเชื่อมโยงเครอืข่ายอินเตอร์เน็ต แต่พอจะมี
คอมพิวเตอร์ใช้บ้าง ซึ่งเป็นห้องคอมพิวเตอร์ สำาหรับนักเรียนความ
ต้องการของโรงเรียน คืออยากจะได้สื่อทมี่าแก้ปัญหาการเรียนการ
สอนที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กมีความสนใจในการเรียนมากขนึ้ สื่อนี้
สามารถทำาให้เด็กเห็นสภาพเสมือนจริง(Realistic) และเหมาะสมกับ
การศึกษารายบุคคล โดยผู้เรียนมีปฏิสัมพันธก์ับสื่อโดยตรงอาจจะมี
ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือ วีดิทัศน์ ประกอบอยู่ในสื่อนั้น เพื่อ
สร้างความตื่นเต้นน่าสนใจ และสามารถย้อนทบทวนส่วนที่ต้องการได้
โดยไม่มีข้อจำากัด มีการประเมินเพอื่แก้ไขข้อบกพร่องของตนเองได้
- 3. สถานการณ์ปัญหา
(Problem-based
สถานการณ์ปัญหา
(Problem-based
learning)
learning)
โรงเรียนมหาชัย ต้องการนวัตกรรมที่สามารถแก้ไข
ข้อจำากัดด้านสถานที่และเวลา โดยประยุกต์ใช้คุณสมบัติเวิล์ดไวด์เว็บ
ที่โรงเรียนมีอยู่ในการจัดสภาพแวดล้อมและสนับสนุนการเรียนการ
สอน สิ่งแรกที่ต้องมีคือการลงทะเบียนเพื่อขอรหัสผ่านเข้าเรียน หลัง
จากนั้นผู้เรียนศึกษาเนื้อหาอาจเป็นการอ่านบนจอหรือโหลดเนื้อหาลง
มาที่เครื่องของตนหรือสั่งพิมพ์ ทางเครื่องพิมพ์ เพอื่ศึกษาภายหลังกไ็ด้
ผู้เรียนสามารถกำาหนดการเรียนได้ด้วยตนเอง (Self-directed) เปิด
โอกาสให้เลือกเรียนได้ตามสะดวก สามารถกำาหนดกรอบเวลาในการ
เรียนรู้ได้เหมาะสมกับความสามารถในการเรียนรู้ของตนเอง คลอบ
คลุมทั้งการเรียนแบบประสานเวลา (Synchronous Learning) และ
ไม่ประสานเวลา (Asynchronous Learning) และสามารถถาม
คำาถาม ทำาแบบฝึกหัด ทำารายงานกลุ่ม อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิด
เห็นแกผู่้เรยีนคนอนื่ ๆ ได้ และยังสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ทุกที่ทุก
- 4. สถานการณ์ปัญหา
สถานการณ์ปัญหา
(Problem-based learning)
(Problem-based learning)
โรงเรียนเทศบาลวัดธาตุ ต้องการออกแบบ
นวัตกรรมการเรียนรู้ ที่เน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ด้วยตนเอง
โดยการเผชิญสถานการณป์ัญหา มีแหล่งเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้สืบค้น
เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็มีฐานความช่วยเหลือ พร้อมทั้งมีเครื่องมือ
ที่สนับสนุนการรว่มมือกันแก้ปัญหา สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ระหว่างกันได้ตลอดเวลา นอกจากนี้นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นต้องสามารถ
นำามาใช้ได้ ในหลายบริบทเนื่องจากผู้เรียนมีความแตกต่างกัน บาง
กลุ่มชอบที่จะเรียนบนเครือข่าย บางกลุ่มชอบที่จะเรียนแบบมัลติมีเดีย
และบางกลุ่มชอบที่จะสามารถนำาไปใช้เรียนได้ทุกสถานที่ไม่ว่าจะเป็น
ใต้ร่มไม้ หรือสถานที่ที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้เรียนรู้เพื่อให้เกิด
ประสิทธิภาพได้
- 5. ภภาารกกิจิจ
11 อธธิิบบาายคววาามหมมาายแแลละะจจำาำาแแนนก
ปรระะเเภภทของสงิ่แแววดลล้้อมททาางกกาาร
เคคเรรววีียยาามนหรมมูู้้าายของสงิ่แแววดลล้อ้อมททาางกกาารเเรรีียนรรูู้้
ตตาามแแนนวคอนสตรรัคัคตติวิสิสตต์์
สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่พัฒนาตามแนว
คอนสตรัคติวิสต์ เป็นการออกแบบที่ประสาน
รวมกันระหว่าง “สื่อ (Media)” กับ “วิธีการ
(Methods)” โดยการนำาทฤษฎีคอนสตรัคติ
วิสต์ มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบรวมกับสอื่
ซึ่งมีคุณลักษณะของสื่อและระบบสัญลักษณ์
- 7. 22 วิเคราะห์เลือ กใใชช้น้นววัตัตกรรมกกาารเเรรียียนรรูู้้
ใใหห้้สอดคลล้้องกกัับบรริบิบทของโโรรงเเรรียียนททั้งั้ง
33 แแหหโ่ง่งรนงเีี้้รียนเปรมสวัสดิ์
สื่อที่ควรใช้ คือ มัลติมีเดีย เพราะ
มัลติมีเดีย คือ ระบบการสอื่สาร ประกอบด้วย
ข้อความ กราฟิก(Graphic) ภาพเคลื่อนไหว
(Animation) เสียง (Sound) และวิดีทัศน์ (Video)
เป็นต้น การใช้มัลติมีเดียในลักษณะปฏิสัมพันธก์็เพื่อ
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้หรือทำากิจกรรม รวมถึงดู
สื่อต่าง ๆ ด้วยตนเอง สื่อต่าง ๆ ที่นำามารวมไว้ใน
มัลติมีเดีย เช่น ภาพ เสียง วิดีทัศน์ จะช่วยให้เกิด
- 8. โโรรงเเรรียียน
สื่อที่ควรใชเเทท้ คศศือบ สาางิ่แลลววดัดัดลธธ้อมาาทตตาุุงการเรียนรู้ตาม
แนวคอนสตรัคติวิสต์ เพราะเน้นการสร้างความรู้ด้วย
ตนเอง ด้วยการลงมือกระทำาที่ผ่านกระบวนการคิด
และอาศัยประสบการณ์เดิมเชื่อมโยงกับประสบการณ์
ใหม่ เพื่อขยายโครงสร้างทางปัญญา มี
ปฏิสมัพันธ์กับสิ่งแวดโโลรร้องมทเเรรี่เอียียื้อนต่อการเรียนรู้
มหหาาชชััย สอื่ที่ควรใช้คือ E-learning เพราะเป็นนวัตกรรมที่
ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เช่น อินเตอร์เน็ต
ดาวเทียม การเรียนทางไกล การเรียนผ่านเว็บ
- 9. 33 จากประเภทของนววัตัตกรรมกกาารเเรรียียนรรูู้้
ใในนบทททีี่่ 77 ใใหห้น้นักักศศึึกษษาาเเสสนอนววัตัตกรรม
กกาารเเรรียียนรรู้ทู้ที่สี่สอดคลล้้องกกัับลลักักษณณะะววิชิชาา
เเออกทที่นี่นักักศศึกึกษษาาจจะะปฏฏิบิบัตัติหิหนน้้าาทสี่อน พรร้อ้อม
ททั้งั้งอธธิิบบาายเเหหตตุผุผล คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพราะคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เป็นการเรียนการสอนแบบรายบุคคลที่นำาเอาหลัก
การของบทเรียนโปรแกรมและเครื่องช่วยสอนมา
ผสมผสานกัน โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะตอบสนองใน
เรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนเพื่อให้
บรรลุวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเป็นรายบุคคล
- 10. และคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีลักษณะการเรียนที่
เป็นขั้นเป็นตอน ดังนี้
1. ขั้นนำาเข้าสู่บทเรียน
2. ขั้นการเสนอเนื้อหา
3. ขั้นคำาถามและคำาตอบ
4. ขั้นการตรวจคำาตอบ
5. ขั้นของการปิดบทเรียน
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตาม
ขั้นตอนจากง่ายไปยาก หรือเลือกบทเรียนได้ และ
ทำาให้ผู้เรียนไม่เบื่อหน่ายการเรียน เพราะมีภาพ
ภาพเคลื่อนไหว สี เสยีง และที่สำาคัญคือฝึกให้ผู้เรียน
คิดอย่างมีเหตุผล ซึ่งก็เป็นหลักของวิชาคณิตศาสตร์
- 11. เสนอ
อ.ดร.อนุชา
โสมาบุตร
จัดทำา
โดย
นางสาวณัฐฐาพร บา
อุ้ย 563050087-4
นางสาวศศิธร แซ่จิว
563050139-1
นายเสฏฐวุฒิ เรืองบุญ
563050152-9