SlideShare a Scribd company logo
ใบสมัคร
การประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจาปี 2556
ชื่อโครงการ รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น
(การพัฒนาต่อยอดโครงการ รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น)
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
การศึกษาระดับ มัธยมศึกษา
สถานที่/ที่อยู่ เลขที่ 90 หมู่ที่ 9 ถนน วาริชภูมิ-พังโคน อาเภอวาริชภูมิ
จังหวัดสกลนคร รหัสไปรษณีย์ 47150
โทรศัพท์ 0-4278-1190 โทรสาร 0-4278-1193
ชื่อผู้ประสานงาน นางสุภาภรณ์ ภูดินทราย
โทรศัพท์ 0-4274-2032 โทรศัพท์มือถือ 08-8549-9737
1. หลักการและแนวคิด
ปัจจุบันกระแสโลกาภิวัตน์ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ส่งผลกระทบ
ต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศไทย ทาให้สภาพความเป็นอยู่
คุณภาพชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป ยึดติดกับกระแสวัตถุนิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี
และวัฒนธรรมอันดีงามเริ่มเลือนหายไปกับกาลเวลา เพราะคนยุคใหม่ไม่ให้ความสาคัญในความเป็น
ชาติไทย คิดว่าเป็นเรื่องที่ล้าสมัย สังคมไทยเบี่ยงเบนออกจากเอกลักษณ์ วัฒนธรรมที่ดีงามและ
วิถีชีวิตแบบไทยเดิม มีความหย่อนยานในศีลธรรมและจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและเยาวชน
เกิดความสับสน ขาดจิตสานึกที่ดี ไม่มีเป้าหมายในชีวิตและขาดการควบคุมตนเอง
มักแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ อันส่งผลให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและศีลธรรม ตลอดทั้งค่านิยม
ที่ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรง และมีแนวโน้มที่ทาให้สังคมเสื่อมลง
ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
กระแสโลกาภิวัตน์จึงนับว่าเป็นผลกระทบโดยตรงที่สาคัญ ที่ทาลายกาแพงวัฒนธรรม
ที่ช่วยล้อมรอบเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ จาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปกป้อง ช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนา
ให้เด็ก และเยาวชน รวมทั้งประชาชน สามารถปรับตัวและดารงชีวิตอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่าง
รู้เท่าทัน ปลอดภัยและมีความสุข การศึกษาเป็นทางออกที่สาคัญ เนื่องด้วยการศึกษานั้นนอกจากจะ
เป็นกระบวนการสร้างความรู้แล้ว ยังจะทาให้เกิดแนวคิด ค่านิยมที่ถูกต้อง ดีงาม ในการที่จะดูแล
รับผิดชอบตนเอง ชุมชน สังคม และชาติบ้านเมือง ดังนั้น การที่จะสร้างค่านิยม
2
ให้กับสังคมจึงจาเป็นที่ต้องเริ่มในสถาบันการศึกษาซึ่งจะส่งผลให้เยาวชนที่ผ่านกระบวนการศึกษา
เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง นอกจากนี้แนวทางหนึ่งที่จะช่วย
ธารงรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ได้ ขึ้นอยู่กับการร่วมมือกันอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติ
อย่างจริงจัง คือ การสอนเยาวชนไทยให้ซึมซับเอกลักษณ์ของชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจ
แก่นแท้ของวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตของชาติ โดยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพราะ “ประวัติศาสตร์
ทาให้เราได้รู้ว่าลักษณะเฉพาะของสังคมของเราได้พัฒนามาบนพื้นฐานของอะไร” แม้ว่า
ประสบการณ์ในอดีตจะประสบความสาเร็จ หรือสร้างความเจ็บปวดแก่คนในชาติเท่าใด ก็เป็น
ข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราทุกคนต่างก็เป็นผลผลิตของประสบการณ์ในอดีตของบรรพบุรุษที่ได้เสียสละ
สร้างมา ซึ่งคนในสังคมปัจจุบันควรจะเรียนรู้ความเป็นมาของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจถึง
“ความรู้สึกร่วม” ของทุกคนในสังคม (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. 2553 : 3)
การศึกษาประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องที่เยาวชนไทยไม่ควรมองข้าม
ประวัติศาสตร์มีความสาคัญยิ่งต่อมนุษย์ชาติในหลายประการ ได้แก่ ทาให้รู้จักตนเองชัดเจน
โดยรู้จักตนเองในฐานะที่ตนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และตนเองในฐานะที่เป็นส่วนใหญ่
ของสังคมโลก การไม่รู้จักตนเองจะทาให้เรากลายเป็นคนหลักลอย เป็นคนแปลกหน้าในสังคม
ของตนเอง ไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรที่ทาได้และอะไรที่ทาไม่ได้ ประวัติศาสตร์ จึงช่วยให้ตนเอง
สามารถปรับตัวเข้ากับคนกลุ่มใหญ่ได้อย่างสันติสุขโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ประวัติศาสตร์
สอนให้เราเป็นคนฉลาดทันสมัย มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เนื่องจากมนุษย์เราเป็นสัตว์ที่มีสมอง
ดังนั้นย่อมไม่กระทาผิดในสิ่งที่เคยผิดพลาดมาแล้ว มนุษย์จะคิดหาหนทางใหม่ที่ดีกว่าเสมอ
ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ารอย แต่ประวัติศาสตร์สามารถใช้เป็นประโยชน์ในการคาดการณ์
หรือคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้นประวัติศาสตร์จึงทาให้เฉลียวฉลาด
มีไหวพริบ ทันคน ทันเหตุการณ์ ทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ประวัติศาสตร์
สอนให้เป็นคนขยัน อดทน และมีความวิริยะ อุตสาหะ มนุษย์เราสร้างประวัติศาสตร์ทุก ๆ
นาที นักประวัติศาสตร์จึงมีความจาเป็นต้องติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกเพื่อที่จะ
ไม่เป็นผู้ล้าหลัง การหยุดไปเพียงหนึ่งวินาทีก็อาจทาให้เรากลายเป็นคนแปลกหน้าในสังคมได้
ประวัติศาสตร์จึงเป็นตัวกระตุ้นให้คนต้องขยันติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้
ประวัติศาสตร์ยังแสดงให้เห็นถึงความสาเร็จของบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องกระตุ้นและ
เป็นแบบอย่างที่คนรุ่นหลังจะใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตได้ เป็นรากฐานในศาสตร์สาขา
อื่น ๆ เพราะประวัติศาสตร์จะบอกถึงข้อผิดพลาดในอดีต ซึ่งเราจะต้องนาไปเป็นแนวทางในการ
ปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น เราต้องทราบว่าประชาธิปไตยของคนไทยในอดีตมีจุดอ่อนตรงไหน ซึ่งจะ
ให้เป็นแนวทางในการปรับปรุงระบอบประชาธิปไตยให้มีจุดสมดุลกับคนไทยได้อย่างไร
3
และประวัติศาสตร์ช่วยสร้างคนดี ให้สังคม โดยทาให้คนมีความเห็นแก่ตัวลดลง มีความคิด
กว้างขวางโอบอ้อมอารี มีความยุติธรรม มีใจกว้างขวาง ไม่คับแคบและเป็นคนที่มีเหตุผล
ในการตัดสินปัญหาต่าง ๆ (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. 2553 : 9)
ดังนั้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์จึงมีคุณค่าอย่างมากต่อมนุษย์ เนื่องจากเป็นการเสริม
ปัญญาแก่ผู้เรียนที่ได้ผ่านกระบวนการอ่าน การคิด การเขียน การพินิจ พิจารณา วิเคราะห์
มาอย่างถ่องแท้ จะช่วยกระตุ้นให้เขาได้ตระหนักถึงความสาคัญของแนวโน้มในอนาคตที่ควรดาเนิน
ชีวิตอย่างรอบคอบ สุขุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์ที่สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
แต่สังคมไทยในปัจจุบันคนส่วนใหญ่กาลังดาเนินชีวิตโดยขาดสติ ขาดการคิดวิเคราะห์ในการเลือก
รับวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาในยุคโลกาภิวัตน์ ใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ละทิ้งถิ่นฐาน ขาดความรัก
และผูกพันในบ้านเกิด ไม่รู้คุณค่า ไม่เห็นความสาคัญของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือสิ่งที่
อยู่ใกล้ตัวของชุมชนและท้องถิ่น ทาให้ไม่รู้จักตนเอง กลายเป็นคนหลักลอย เป็นคนแปลกหน้า
ในสังคมของตนเอง ไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรที่ทาได้และอะไรที่ทาไม่ได้ เป็นเหตุให้สังคม
วุ่นวาย ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศตะวันตกและประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน
อังกฤษ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนามและมาเลเซีย ที่ต่างให้ความสาคัญแก่วิชา
ประวัติศาสตร์มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเขามองเห็นว่า “การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เท่ากับเป็น
การทาความรู้จักสังคมของตนเอง และประวัติศาสตร์เป็นตัวช่วยปลูกฝังความรักมาตุภูมิ
ความมุ่งมั่นในปณิธานแห่งชาติและความมั่นใจวัฒนธรรมประจาชาติ” (กระทรวงศึกษาธิการ.
2543 : 3)
โดยเฉพาะการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เป็นการศึกษากิจกรรมหรือประสบการณ์
ทุก ๆ ด้านของสังคมในท้องถิ่นโดยให้ความสาคัญที่ผู้รู้หรือภูมิปัญญาท้องถิ่นในฐานะเป็นผู้สร้าง
ประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษา ทาให้เกิดความเข้าใจถึง
ความเป็นมาของวิถีชีวิตของคนซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่นทั้งด้านภาษา ศาสนา
ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและการดารงชีวิต เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่จะเป็นพลัง
ให้สามารถฟื้นฟูชีวิตและศักดิ์ศรีของแต่ละท้องถิ่น เป็นสื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ก่อให้เกิด
ความเข้าใจ สมานฉันท์ สามัคคีและสันติสุข ซึ่งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่จะนาไปสู่
ความสาเร็จตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้นั้นจาเป็นต้องปรับวิธีการและเทคนิคให้เหมาะสม
และหลากหลาย
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กาหนดแนวการจัดการศึกษาไว้ว่า
การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคน มีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่า
ผู้เรียนมีความสาคัญมากที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา
ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ซึ่งสถานศึกษาจะต้องดาเนินการจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรม
4
ให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้
เพื่อป้ องกันและแก้ไขปัญหา จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติ
ให้ทาได้ คิดเป็น ทาเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์
ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้คู่คุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการ
ดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
การเรียนรู้ด้วยโครงงานจึงเป็นแนวทางเลือกหนึ่งที่มีความสาคัญและจาเป็นที่จะช่วยให้
การปฏิรูปการเรียนรู้สู่ความสาเร็จ เพราะกิจกรรมโครงงานเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความ
สนใจและมีโอกาสได้ศึกษาได้อย่างลุ่มลึกด้วยตัวเอง โดยครูเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุน
และอานวยความสะดวกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและเต็มศักยภาพ (สุรพล วังสินธ์. 2543 :
11–12) ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าและลงมือปฏิบัติตามหัวข้อเรื่องที่ตนสนใจ สงสัย หาคาตอบโดยใช้
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากแหล่งความรู้ ทาให้เด็กได้เรียนอย่างลึกซึ้ง แตกฉาน สามารถคิด
วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและสรุปความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลให้เด็กเป็นผู้ชอบแสวงหาความรู้และ
เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (กรมวิชาการ. 2545 : 19)
โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยให้นักเรียนได้เรียนรู้
ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้พื้นฐาน รายวิชา
ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มาตรฐาน ส4.1 ม.3/2
ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนสนใจโดยให้ผู้เรียนจัดทาโครงงาน
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญา ให้นักเรียนเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้ในชุมชนในสาระ
การเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา ท้องถิ่นของเรา รหัสวิชา ส21201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และในทุก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามบริบทหรือเนื้อหาสาระของสาขาวิชา และเรียนตามความถนัด ความสนใจ
ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชุมนุมเด็กฮักถิ่น กลุ่มสนใจ/ชมรม
โรงเรียนทาหนัง (พัฒนาต่อยอดจากประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สู่หนังสารคดีวัฒนธรรม) ซึ่งเป็น
กิจกรรมที่พัฒนาคุณภาพนักเรียนให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปการเรียนรู้ โดยจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ด้วยโครงงาน ให้นักเรียนเป็นผู้กาหนดหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า สืบเสาะ หาภูมิปัญญา
ท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ วางแผน ดาเนินการปฏิบัติตามแผน สรุปผลการทากิจกรรม
โครงงานและนาเสนอผลงานด้วยตัวนักเรียนเอง ครูผู้สอน มีหน้าที่ในการพัฒนาและส่งเสริม
ให้นักเรียนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในหัวข้อที่หลากหลาย เช่น ตานานหรือประวัติ
ของหมู่บ้าน สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ (ดิน แหล่งน้า ประชากร แร่ธาตุ) การอพยพ การตั้ง
ถิ่นฐาน ชาติพันธุ์วิทยา บุคคลสาคัญ ศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ (การปลูกหวาย การทาสวน
ยางพารา การทอผ้าไหม การทาฟาร์มโคนม การจักสาน การทาข้าวฮาง ฯลฯ) วิถีการดาเนินชีวิต
5
ภูมิปัญญาชาวบ้าน วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน ภาษาและอักษร การละเล่น ดนตรีนาฏศิลป์ กีฬา
พื้นบ้าน โบราณวัตถุโบราณสถาน และแหล่งชุมชนโบราณ พาหนะพื้นบ้าน เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ประเพณี ความเชื่อ ความเปลี่ยนแปลงที่สาคัญของเมือง (วิถีชีวิตชาวบ้านเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง) ฯลฯ
จัดประสบการณ์ในการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนเหมือนกับการทางานในชีวิตจริง เพื่อให้นักเรียนได้มี
ประสบการณ์ตรง ได้พิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง รู้จักวางแผนในการทางาน ฝึกการเป็นผู้นาผู้ตาม
ฝึกการคิดวิเคราะห์ เรียนรู้วิธีแก้ปัญหา วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทางานอย่างมีระบบขั้นตอน ซึ่งใน
การเรียนรู้นั้นครูจะสร้างความตระหนักโดยการตั้งคาถามให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์ก่อนจัดทา
โครงงาน เช่น ประเด็นที่นักเรียนสนใจศึกษามีความสาคัญต่อนักเรียนอย่างไร ทาไมจึงอยากศึกษา
เรื่องนี้ เมื่อศึกษาแล้วเกิดผลดีอย่างไร ใครคือผู้ที่จะให้ข้อมูลหรือแหล่งค้นคว้าที่ดี นักเรียนมีวิธี
การศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร จะนาเสนอผลการศึกษาอย่างไร เป็นต้น
ฉะนั้นการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ในสาระการเรียนรู้พื้นฐาน รายวิชา
ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส4.1 ม.3/2 ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตน
สนใจ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา ท้องถิ่นของเรา จัดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญา ให้นักเรียน
เป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้ในชุมชนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามบริบทหรือเนื้อหาสาระ
ของสาขาวิชา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของชุมนุมยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชุมนุมเด็กฮักถิ่น
กลุ่มสนใจ/ชมรมโรงเรียนทาหนัง ของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ แล้วพัฒนาต่อยอดจากปีที่ผ่านมา
โดยได้รับคัดเลือกจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบัน
รามจิตติ ให้เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ)
ในโครงการวิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ
ของเยาวชน ซึ่งใช้ยุววิจัยเป็นฐานในการเรียนรู้และการสืบค้นข้อมูลบูรณาการสู่สาระการเรียนรู้
อื่นๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้นักเรียนโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิได้รู้จักตัวตน รู้จักความเป็นมา
ของท้องถิ่น นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองในสิ่งที่ใกล้ตัวในท้องถิ่นโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เกิดจิตสานึก
รักบ้านเกิด หวงแหน ภาคภูมิใจ สืบสานภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้นักเรียน
ยังได้สืบค้น เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศชาติ ภูมิภาคและสังคมโลกผ่านสื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่
เพื่อเตรียมตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงและความเป็นไปของโลกในยุคปัจจุบัน นักเรียนมีความรู้
ความเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์และกระบวนการวิจัย สืบค้น
ข้อมูลทาหนังสารคดี เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบอย่างหลากหลายในสาระการเรียนรู้อื่นๆ และ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสู่สาธารณชน ผ่านสื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนองต่อการเรียนรู้
ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีความสามารถ
ในการคิด การสื่อสาร มีทักษะชีวิต สามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ นักเรียนมีคุณภาพ
ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
6
2. วัตถุประสงค์ของโครงการ
2.1 นักเรียนมีความรู้ ความข้าใจ กระบวนการเรียนรู้ วิธีการทางประวัติศาสตร์
สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์และกระบวนการวิจัย สืบค้นข้อมูลประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น
2.2 นักเรียนเห็นความสาคัญของขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม
ในท้องถิ่น เกิดจิตสานึกรักบ้านเกิด หวงแหน ภาคภูมิใจในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
2.3 นักเรียนร่วมกันอนุรักษ์สืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม
ของท้องถิ่นไว้โดยชุมชนมีส่วนร่วม
2.4 ครอบครัว ศาสนา และชุมชน ให้ความร่วมมือในการปลูกฝังให้นักเรียน
เกิดความสานึกที่จะเป็นคนดีของท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติสืบไป
2.5 ครูและนักเรียนต้นแบบสามารถสร้างเครือข่ายทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน
พัฒนาการเรียนรู้โดยใช้ยุววิจัยเป็นฐานในการสืบค้นข้อมูลบูรณาการสู่สาระการเรียนรู้อื่นๆ
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สามารถผลิตสื่อหรือนาเสนอผลงานการศึกษาค้นคว้าที่ตอบสนอง
ต่อความต้องการของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21
3. วิธีการดาเนินการ
ในปีการศึกษา 2555 โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ได้พัฒนาต่อยอดจากการดาเนินงาน
ในปีการศึกษา 2552-2554 ดังนี้
3.1 จัดกิจกรรมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ สืบทอดองค์ความรู้และ
วิธีปฏิบัติจากผู้รู้ /ภูมิปัญญาในท้องถิ่น ในโครงการ/กิจกรรม “ศูนย์การเรียนรู้พระราชกรณียกิจ
และขยายผลพระราชดาริในสถานศึกษา” โดยน้อมนาพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยศิลปากร ณ วังท่าพระ วันที่ 12 ตุลาคม 2513 ความว่า
“...งานด้านการศึกษาศิลปวัฒนธรรมนั้น คือ งานสร้างสรรค์ความเจริญทางปัญญา
และทางจิตใจ ซึ่งเป็นทั้งต้นเหตุ ทั้งองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของความเจริญด้านอื่นๆ ทั้งหมด
และเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เรารักษาและดารงความเป็นไทย ได้สืบไป...”
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม เรียนรู้วิถีการดารงชีวิตชุมชน
ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีมาช้านาน บนพื้นฐานของธรรมชาติที่เกี่ยวพันสอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน
รักษาและดารงความเป็นไทย ได้สืบไป โดยจัดนิทรรศการและกิจกรรมที่ส่งเสริม ปลูกจิตสานึก
ให้นักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสนา รักท้องถิ่น รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
7
3.2 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ พัฒนาสื่อและทักษะปฏิบัติแก่ครูผู้สอน นักเรียน
โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิและโรงเรียนเครือข่ายในสหวิทยาเขตลุ่มน้าอูน จานวน 4 โรงเรียน คือ
โรงเรียนกุดบากพัฒนาศึกษา โรงเรียนวาริชวิทยา โรงเรียนธรรมบวรวิทยา และโรงเรียนนิคมน้าอูน
เจริญวิทยา โดยการผลิตสื่อทาหนังสารคดี ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบสู่สาธารณชนด้วยเทคโนโลยี
สมัยใหม่ที่ตอบสนองต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21
3.3 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่
4. ขั้นตอนการดาเนินการ
เป็นการพัฒนาต่อยอดโครงการ รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น ซึ่งดาเนินการต่อเนื่องจากปีการศึกษา
2552 - 2554
4.1 ขั้นเตรียมการ
1) กาหนดเนื้อหาสาระเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้
ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้พื้นฐาน รายวิชา
ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มาตรฐาน ส4.1 ม.3/2
ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนสนใจโดยให้ผู้เรียนจัดทาโครงงาน
สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา ท้องถิ่นของเรา รหัสวิชา ส21201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 1 และเรียนตามความถนัด ความสนใจ ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมยุววิจัย
ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชุมนุมเด็กฮักถิ่น กลุ่มสนใจ/ชมรมโรงเรียนทาหนัง (พัฒนาต่อยอด
จากประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สู่หนังสารคดีวัฒนธรรม) ของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ตลอดจน
บูรณาการหรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญา ให้นักเรียนเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้
ในชุมชนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยครูเตรียมบทเรียนเนื้อหาสาระตามหลักสูตร สื่อ
อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ฯลฯ
2) เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ)
ในโครงการ “วิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ
ของเยาวชน” ของสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบัน
รามจิตติ ดาเนินการจัดอบรมให้ครูผู้สอน นักเรียนของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิและโรงเรียนเครือข่าย
ในสหวิทยาเขตลุ่มน้าอูน ทั้ง 4 โรงเรียน เพื่อผลิตสื่อทาหนังสารคดี ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบ
สู่สาธารณชนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนองต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่
ในศตวรรษที่ 21
8
3) พัฒนานวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้ในสาระประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยการ
ผลิตหนังสารคดีวัฒนธรรม และขยายผลการเรียนรู้ผ่านกระบวนการผลิตสื่อของเยาวชน
สู่สาระการเรียนรู้อื่น ๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิทยาศาสตร์
ภาษาต่างประเทศ สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นต้น
4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่
4.2 ขั้นดาเนินการ
กิจกรรม /วิธีการในการพัฒนา ปีการศึกษา 2555 มีดังนี้
1) จัดกิจกรรมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ สืบทอดองค์ความรู้และ
วิธีปฏิบัติจากผู้รู้ /ภูมิปัญญาในท้องถิ่น เพื่อให้เข้าใจรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม เรียนรู้วิถี
การดารงชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีมาช้านาน บนพื้นฐานของธรรมชาติที่เกี่ยวพันสอดคล้อง
กับวิถีชีวิตชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ต้องการอนุรักษ์สิ่งดี ๆ ที่เรามีอยู่ ฟื้นฟูสิ่งที่กาลังจะสูญหาย
และสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากรากฐานที่มั่นคง สืบสานวัฒนธรรมภูไท ซึ่งถือ
เป็นอัตลักษณ์ของเรา ให้คงอยู่สืบไปภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์
โดยการจัดนิทรรศการผลงานการเรียนรู้จากผู้รู้ /ภูมิปัญญาในท้องถิ่น ของทุก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อปลูกจิตสานึกให้นักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสนา รักท้องถิ่น รักและเทิดทูน
สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้โครงการ/กิจกรรม “ศูนย์การเรียนรู้พระราชกรณียกิจและขยายผล
พระราชดาริในสถานศึกษา” ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม ดังต่อไปนี้
1.1) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นาเสนอประวัติ
ความเป็นมา รากเหง้า ของภูไทกะป๋ องวาริชภูมิ ว่าเป็นใคร มาจากไหน มีประเพณีวัฒนธรรม
อะไรบ้าง เอกลักษณ์ของชาวภูไทในด้านต่าง ๆ ตามจารีตประเพณี ฮีต 12 คอง 14 ทั้งงานมงคล
และอวมงคล โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการและหนังสารคดีวัฒนธรรม
1.2) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นาเสนอการเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น
ด้านภาษา เช่น นาผญามาใช้ได้เหมาะสมกับเหตุการณ์เฉพาะหน้า การพูดให้ข้อคิด คาอวยพร
ผญาหนุ่มจีบสาวของชาวภูไทในอดีต หรือที่เรียกว่า “ลงข่วง” ซึ่งเป็นประเพณีที่หาชมได้ยาก
ในปัจจุบัน โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการหนังสือเล่มเล็ก แผ่นพับ และหนังสารคดี
วัฒนธรรม
1.3) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ นาเสนอการเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น
ด้านจิตรกรรม โดยการนาเสนอภาพวาดเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
โดยภูมิปัญญา /ศิลปินในท้องถิ่น
9
1.4) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา นาเสนอการเรียนรู้จากภูมิปัญญา
ท้องถิ่นด้านการละเล่นของเด็กภูไทในอดีต ที่ไม่มีเทคโนโลยีนั้น เขาเรียนและเล่นกันอย่างไร
โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการ และหนังสารคดีวัฒนธรรม
1.5) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี นาเสนอการเรียนรู้
จากภูมิปัญญาเกี่ยวกับวิถีการกิน การอยู่ อาหารพื้นบ้านที่มีลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจ เช่น การทา
แจ่วบองปลาร้า การนาหวายมาปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวาน การทาพานบายศรีสู่ขวัญ
โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการสาธิตการทา และผลงานที่สาเร็จ
1.6) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นาเสนอ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย”
โดยจัดนิทรรศการและผลงานการประดิษฐ์ “ตามรอยพ่อ” ของนักเรียน
1.7) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นาเสนอเกี่ยวกับการน้อมนา “หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง” สู่การปฏิบัติ โดยนาเสนอป้ ายนิทรรศการและกิจกรรมฝึกทักษะการคิด
ความมีเหตุผล
1.8) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ นาเสนอภาพพระราชกรณียกิจ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และจัดนิทรรศการพืชผักผลไม้ในท้องถิ่น พร้อมบรรยาย
เป็นภาษาอังกฤษ
1.9) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (เพื่อนที่ปรึกษา YC) นาเสนอนิทรรศการเกี่ยวกับ
ขั้นตอนการบริการให้คาปรึกษา และผลการดาเนินงานที่ผ่านมา (ทาดีเพื่อพ่อ) เกี่ยวกับการมี
ส่วนร่วมในการพัฒนาทั้งการให้ทุนการศึกษา การให้คาปรึกษา และการแนะแนวอาชีพ
1.10) การมีส่วนร่วมขององค์กรในท้องถิ่น โดยนาเสนอเกี่ยวกับการน้อมนา
“หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” สู่การปฏิบัติ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน โครงการ
ในพระราชดาริ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาวาริชภูมิ
2) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ พัฒนาสื่อและทักษะปฏิบัติแก่ครูผู้สอนและ
นักเรียน และโรงเรียนเครือข่ายในสหวิทยาเขตลุ่มน้าอูน ทั้ง 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนกุดบากพัฒนา
ศึกษา โรงเรียนวาริชวิทยา โรงเรียนธรรมบวรวิทยา และโรงเรียนนิคมน้าอูนเจริญวิทยา เพื่อผลิต
สื่อทาหนังสารคดี ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบ สู่สาธารณชนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนอง
ต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555
โดยโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิได้รับคัดเลือกให้เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕
ภูมิภาค ระดับประเทศ) ในโครงการ “วิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียน
ผ่านกระบวนการผลิตสื่อของเยาวชน” ของสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ
โรงเรียนทาหนัง สถาบันรามจิตติ
10
3) พัฒนานวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้ในสาระประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยการ
ผลิตหนังสารคดีวัฒนธรรม และขยายผลการเรียนรู้ผ่านกระบวนการผลิตสื่อของเยาวชน
สู่สาระการเรียนรู้อื่น ๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิทยาศาสตร์
ภาษาต่างประเทศ สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นต้น
3.1) ความลับของมะละกอ
3.2) ติบติบ ติบ ติบ
3.3) ตามรอยพ่อ สานต่อพอเพียง
3.4) ของขวัญวันจากไป
3.5) ข้าวฮาง
3.6) แสงทองส่องธรรม วัดถ้าพระพุทธไสยาสน์
3.7) แกงหวายกับสายลับ
3.8) ตะไคร้
3.9) ฮีตเก่าคองหลัง สังคมภูไท
3.10) ต้นบุญ...แห่งศรัทธา
3.11) โครงการในพระราชดาริ การเลี้ยงโคนม
3.12) ขยะจอมกวน
3.13) หมอลา...ศิลปะอีสาน
3.14) ตามะละกอ
(เอกสารประกอบ DVD & VCD แผ่นที่ ๔, ๕ และ ๖)
4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่
4.1) เข้าร่วมนาเสนอผลงานวิจัยในนิทรรศการ “ก้าวเรียนรู้...สู่ศตวรรษใหม่”
ในงานมหกรรมวิชาการ สกว. วิจัยตามรอยพระยุคลบาท : สร้างสรรค์ปัญญา เพื่อพัฒนาประเทศ
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม-
พรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ “๙ บันดาลสู่งานวิจัย” สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
(สกว.) ใน วันที่ ๒๐-๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร
4.2) การเข้าร่วมนาเสนอผลงานทางวิชาการ ในการสัมมนาทางวิชาการระดับชาติ
เรื่อง “ท้องถิ่นข้ามแดน ข้ามแดนท้องถิ่น : ข้ามพรมแดนความคิด ความรู้จากท้องถิ่นอีสานสู่สากล”
วันที่ ๖-๗ กันยายน ๒๕๕๕ ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
11
4.3) คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ร่วมกับ
คณะผู้บริหารโรงเรียน รับรางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
สยามบรมราชกุมารี ในโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจาปี 2555
จากสานักงาน ป.ป.ช. ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555
4.4) ร่วมจัดนิทรรศการจังหวัดเคลื่อนที่ ณ โรงเรียนธรรมบวรวิทยา วันที่ 26
กุมภาพันธ์ 2556
4.5) ร่วมพิธีถวายราชสดุดี กับหน่วยงานและส่วนราชการต่าง ๆ ของอาเภอ
วาริชภูมิ ณ ที่ว่าการอาเภอวาริชภูมิ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556
4.6) ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนทาหนังของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ เข้าร่วม
การแข่งขันในการจัดโครงการประกวดหนังสั้น “พลังหนังสั้น พลังเพื่อการเปลี่ยนแปลง”
ในหัวข้อ “ยาเสพติด แค่คิด ก็ผิดแล้ว” เข้ารอบ ๑ ใน ๑๐ ทีมสุดท้าย ระดับประเทศ ของเครือข่าย
ยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงวัฒนธรรม
4.7) นักเรียนโรงเรียนทาหนังและนักยุววิจัยประวัติศาสตร์ของโรงเรียนมัธยม
วาริชภูมิ ได้รับคัดเลือกจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง
สถาบันรามจิตติ ให้เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ)
ในโครงการวิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ
ของเยาวชน
4.8) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ผลงานทางสถานีวิทยุชุมชนคนมัธยม
โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล/ข่าวสาร ของโรงเรียน
โดยเฉพาะ ที่คลื่นความถี่ FM 99.30 MHz
4.9) การร่วมงานประเพณี “วันภูไทราลึก” ของอาเภอวาริชภูมิ
(เอกสารประกอบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ ในภาคผนวก)
4.3 ขั้นติดตาม ประเมินผล
นาเสนอรายงานความก้าวหน้าของการดาเนินงานตามโครงการ/กิจกรรมเป็นระยะ ๆ
4.4 ขั้นรายงานผล
รายงานผลการดาเนินงานต่อผู้บริหาร ครู อาจารย์ ในสถานศึกษา กรมต้นสังกัด
และต่อชุมชน ตลอดจนเผยแพร่ผลงานโดยจัดนิทรรศการในการประชุม อบรม สัมมนา หรือการศึกษา
ดูงานของโรงเรียนต่างๆ
12
5. คุณค่า/คุณประโยชน์ที่ได้รับ
จากการดาเนินงานทั้งก่อนดาเนินโครงการและหลังการดาเนินโครงการศูนย์พัฒนา
การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านค่ายเยาวชนต้นแบบยุววิจัยประวัติศาสตร์
ท้องถิ่น เกิดคุณประโยชน์ทั้งต่อผู้เรียน ครู โรงเรียน และชุมชน ดังนี้
5.1 ผลที่เกิดกับผู้เรียน
5.1.1 ด้านความสามารถ ทักษะ
1) แสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหา
2) ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
3) มีทักษะการคิดขั้นสูง
4) มีทักษะชีวิต
5) มีทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย
5.1.2 ด้านคุณลักษณะ
1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
1.1) รู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตนเองและชาติไทย รักบ้านเกิด
1.2) เป็นพลเมืองดีของชาติ
1.3) ภาคภูมิใจ และธารงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย
1.4) ศรัทธา และยึดมั่นในศาสนา
1.5) ปฏิบัติศาสนพิธีตามความเชื่อของบรรพบุรุษที่สืบทอดต่อกันมา
1.6) ภูมิใจที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1.7) เคารพ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
1.8) น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้
ในการดาเนินงาน
2) ซื่อสัตย์สุจริต
2.1) เขียนรายงานผลการศึกษาตามความเป็นจริงจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้
2.2) อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
2.3) ยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเอง
และผู้อื่นทั้งกาย วาจา ใจ
3) มีวินัย
3.1) ดาเนินงานตามระยะเวลาที่กาหนด (ตรงต่อเวลา)
3.2) ยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบข้อบังคับของครอบครัว
โรงเรียน และสังคม
13
4) ใฝ่เรียนรู้
4.1) หมั่นสืบเสาะแสวงหาความรู้
4.2) มีนิสัยรักการอ่าน
4.3) ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการสืบค้นคว้า
4.4) มีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้
ภายในและภายนอกของโรงเรียน
5) อยู่อย่างพอเพียง
มีการดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผลรอบคอบ มีคุณธรรม
มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
มีเหตุผล
 ใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ข้อมูล
 ใช้ข้อมูล / หลักฐานในการสืบค้น ติดตาม
มีภูมิคุ้มกัน
 ปลูกจิตสานึกรัก บ้านเกิด
 รักและหวงแหนในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
พอประมาณ
 เวลาในการสืบค้น
 การบริหาร/ งบประมาณค่าใช้จ่าย
 การกาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างที่ให้ข้อมูล
 ใช้วัสดุให้คุ้มค่า
6) มุ่งมั่นในการศึกษาและการทางาน
6.1) มีความตั้งใจ และรับผิดชอบในการทาหน้าที่การงานด้วยความเพียร
พยายาม อดทน เพื่อให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย
6.2) เอาใจใส่ เสียสละเวลา/อุทิศตน
7) รักความเป็นไทย
7.1) เข้าร่วมประเพณี/วัฒนธรรมของท้องถิ่น
7.2) มีเอกลักษณ์ทางภาษา การแต่งกาย อาหารพื้นบ้าน ยารักษาโรค
/สมุนไพร
7.3) ให้ความรู้/เผยแพร่ผลงานจากการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
7.4) สืบทอดภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม
7.5) ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
14
8) มีจิตสาธารณะ
8.1) อุทิศเวลาในการศึกษาค้นคว้า เพื่อเผยแพร่ข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
ของตนสู่สาธารณชน
8.2) ร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น
ให้ดารงอยู่สืบไป
8.3) มีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น
ชุมชน และสังคม ด้วยความเต็มใจ กระตือรือร้นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
5.1.3 นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการทากิจกรรมกลุ่ม และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อน
ในกลุ่มนักเรียน
5.1.4 นักเรียนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์
5.1.5 นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติการทาโครงงาน สามารถพัฒนาตนเอง
บาเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคม
5.1.6 นักเรียนได้รับการยอมรับและชื่นชมจากผู้ปกครอง ชุมชน
5.2 ผลที่เกิดกับครู
5.2.1 ครูเข้าใจและเห็นความสาคัญในการสอนโดยใช้นวัตกรรมและคิดสร้างนวัตกรรม
ขึ้นใช้ในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน
5.2.2 ครูมีสื่อนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสถานศึกษาอื่น
5.2.3 ครูได้รับความเชื่อมั่นและศรัทธาในการจัดการเรียนการสอนจากนักเรียน ผู้ปกครอง
และชุมชน
5.3 ผลที่เกิดกับโรงเรียน
5.3.1 โรงเรียนได้รับการยอมรับจากชุมชน สังคม ในการพัฒนานักเรียนให้มี
คุณภาพ เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมได้
5.3.2 นักเรียนนาชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน
5.4 ผลที่เกิดกับชุมชน
ชุมชนมีความภาคภูมิใจในตัวนักเรียน และบุคลากรในโรงเรียน
15
6. งบประมาณ (ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ)
ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้องสนับสนุนในการดาเนินงาน
ตามโครงการ ดังนี้คือ
6.1 สานักงาน ป.ป.ช. มอบเงินรางวัล จานวน 35,000 บาท ในโครงการรักชาติถูกทาง
สร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจาปี 2555
6.2 สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบันรามจิตติ
มอบเงิน จานวน 40,000 บาท ให้เป็นต้นแบบในการอบรมขยายผลการเรียนรู้สู่โรงเรียนเครือข่าย
ในโครงการวิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ
ของเยาวชน
7. ผู้รับผิดชอบและร่วมดาเนินโครงการ
7.1 นางสุภาภรณ์ ภูดินทราย ผู้รับผิดชอบ/ครูที่ปรึกษาโครงการ
7.2 ผู้บริหาร คณะครูโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ผู้ร่วมดาเนินโครงการ
(นายพนมพันธ์ ไชยเพชร)
ผู้อานวยการโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
พฤษภาคม 2556

More Related Content

What's hot

บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณบทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
 
เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22
เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22
เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22
pnmn2122
 
พุทธสาวก : พระราธะ ส16101 ป.6
พุทธสาวก :  พระราธะ  ส16101 ป.6พุทธสาวก :  พระราธะ  ส16101 ป.6
พุทธสาวก : พระราธะ ส16101 ป.6
Thanawut Rattanadon
 
BDC412 เอเชียตะวันออก
BDC412 เอเชียตะวันออกBDC412 เอเชียตะวันออก
BDC412 เอเชียตะวันออก
Papanan Kraimate
 
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
Mint NutniCha
 
6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์
6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์
6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์
Gawewat Dechaapinun
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
Gain Gpk
 
รายงานการศึกษาค้นคว้า
รายงานการศึกษาค้นคว้ารายงานการศึกษาค้นคว้า
รายงานการศึกษาค้นคว้าtanakit pintong
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
Infinity FonFn
 
ทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือ
ทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือ
ทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือ
Anusaraphon B.
 
ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือrungnapa4523
 
เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์Pannaray Kaewmarueang
 
ประวัติประเทศกัมพูชา
ประวัติประเทศกัมพูชาประวัติประเทศกัมพูชา
ประวัติประเทศกัมพูชา
Nobpakao Kantawong
 
Se Ed Book Slide
Se Ed Book SlideSe Ed Book Slide
Se Ed Book Slide
DrDanai Thienphut
 

What's hot (20)

บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณบทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
 
007
007007
007
 
เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22
เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22
เอเชียไมเนอร์และกรีก 6.7 21-22
 
พุทธสาวก : พระราธะ ส16101 ป.6
พุทธสาวก :  พระราธะ  ส16101 ป.6พุทธสาวก :  พระราธะ  ส16101 ป.6
พุทธสาวก : พระราธะ ส16101 ป.6
 
BDC412 เอเชียตะวันออก
BDC412 เอเชียตะวันออกBDC412 เอเชียตะวันออก
BDC412 เอเชียตะวันออก
 
อเมริกาเหนือ2
อเมริกาเหนือ2อเมริกาเหนือ2
อเมริกาเหนือ2
 
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
 
6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์
6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์
6 ทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์
 
Resume2
Resume2Resume2
Resume2
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
รายงานการศึกษาค้นคว้า
รายงานการศึกษาค้นคว้ารายงานการศึกษาค้นคว้า
รายงานการศึกษาค้นคว้า
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
 
ทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือ
ทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือ
ทรัพยากรป่าไม้ในภาคเหนือ
 
ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
 
swot
swotswot
swot
 
A2 thai-history
A2 thai-historyA2 thai-history
A2 thai-history
 
2
22
2
 
เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์เอเชียไมเนอร์
เอเชียไมเนอร์
 
ประวัติประเทศกัมพูชา
ประวัติประเทศกัมพูชาประวัติประเทศกัมพูชา
ประวัติประเทศกัมพูชา
 
Se Ed Book Slide
Se Ed Book SlideSe Ed Book Slide
Se Ed Book Slide
 

Similar to โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556

โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
โครงการรักชาติ ประจำปี 2554
โครงการรักชาติ ประจำปี 2554โครงการรักชาติ ประจำปี 2554
โครงการรักชาติ ประจำปี 2554
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557 โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย
04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย
04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย
KruBeeKa
 
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน
Sircom Smarnbua
 
แบบรายงานประกวดสื่อปี2564
แบบรายงานประกวดสื่อปี2564แบบรายงานประกวดสื่อปี2564
แบบรายงานประกวดสื่อปี2564
PornpenInta
 
Tsmt vol16
Tsmt vol16Tsmt vol16
Tsmt vol16
MonSci Physics
 
โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10
โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10
โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10
นิรุทธิ์ อุทาทิพย์
 
03 แบบ ว-1ด-วณิชชาv3
03 แบบ ว-1ด-วณิชชาv303 แบบ ว-1ด-วณิชชาv3
03 แบบ ว-1ด-วณิชชาv3
KruBeeKa
 
หลักสูตรสังคม
หลักสูตรสังคมหลักสูตรสังคม
หลักสูตรสังคมkorakate
 
Exhibition NAC 2009
Exhibition NAC 2009Exhibition NAC 2009
Book Exhibition NAC 2009 Full
Book Exhibition NAC 2009 FullBook Exhibition NAC 2009 Full
ICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural Society
ICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural SocietyICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural Society
ICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural Society
Nikma Hj
 
โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน ประชาสัมพันธ์
โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน  ประชาสัมพันธ์โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน  ประชาสัมพันธ์
โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน ประชาสัมพันธ์
pyopyo
 
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
SAKANAN ANANTASOOK
 
profile :นฤมล ศรีจันทร์งาม
profile :นฤมล ศรีจันทร์งามprofile :นฤมล ศรีจันทร์งาม
profile :นฤมล ศรีจันทร์งาม
์ืNarumon Srijungam
 
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
Manoonpong Srivirat
 
จุดเน้นที่ 2
จุดเน้นที่  2จุดเน้นที่  2

Similar to โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556 (20)

โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
 
โครงการรักชาติ ประจำปี 2554
โครงการรักชาติ ประจำปี 2554โครงการรักชาติ ประจำปี 2554
โครงการรักชาติ ประจำปี 2554
 
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557 โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2557
 
04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย
04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย
04 แบบ ว-1ย-1ด-วณิชชา-แผนย่อย
 
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเยาวชน
 
แบบรายงานประกวดสื่อปี2564
แบบรายงานประกวดสื่อปี2564แบบรายงานประกวดสื่อปี2564
แบบรายงานประกวดสื่อปี2564
 
โครงการ Aj.kung
โครงการ Aj.kungโครงการ Aj.kung
โครงการ Aj.kung
 
Tsmt vol16
Tsmt vol16Tsmt vol16
Tsmt vol16
 
โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10
โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10
โครงการสืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 10
 
03 แบบ ว-1ด-วณิชชาv3
03 แบบ ว-1ด-วณิชชาv303 แบบ ว-1ด-วณิชชาv3
03 แบบ ว-1ด-วณิชชาv3
 
หลักสูตรสังคม
หลักสูตรสังคมหลักสูตรสังคม
หลักสูตรสังคม
 
Exhibition NAC 2009
Exhibition NAC 2009Exhibition NAC 2009
Exhibition NAC 2009
 
Book Exhibition NAC 2009 Full
Book Exhibition NAC 2009 FullBook Exhibition NAC 2009 Full
Book Exhibition NAC 2009 Full
 
ICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural Society
ICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural SocietyICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural Society
ICT to Enhance Non-formal Education in Multicultural Society
 
โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน ประชาสัมพันธ์
โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน  ประชาสัมพันธ์โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน  ประชาสัมพันธ์
โครงการวรรณกรรมอาเซียนกับคติชน ประชาสัมพันธ์
 
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
 
Assignment 4
Assignment 4Assignment 4
Assignment 4
 
profile :นฤมล ศรีจันทร์งาม
profile :นฤมล ศรีจันทร์งามprofile :นฤมล ศรีจันทร์งาม
profile :นฤมล ศรีจันทร์งาม
 
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
รายงานโครงการกฐิน ๒๕๕๖
 
จุดเน้นที่ 2
จุดเน้นที่  2จุดเน้นที่  2
จุดเน้นที่ 2
 

More from พงษ์ขจร บุญพงษ์

Reward love ๒๕๕๖
Reward love ๒๕๕๖Reward love ๒๕๕๖
Reward love ๒๕๕๕
Reward love ๒๕๕๕Reward love ๒๕๕๕
Reward love ๒๕๕๔
Reward love ๒๕๕๔Reward love ๒๕๕๔
ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...
ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...
ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้
คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้
คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
ปกคู่มือการดำเนินกิจกรรม
ปกคู่มือการดำเนินกิจกรรมปกคู่มือการดำเนินกิจกรรม
ปกคู่มือการดำเนินกิจกรรม
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557
กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557
กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
วารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
วารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิวารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
วารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...
โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...
โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
Gumnodkarn
GumnodkarnGumnodkarn
รายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
พงษ์ขจร บุญพงษ์
 

More from พงษ์ขจร บุญพงษ์ (20)

Reward love ๒๕๕๖
Reward love ๒๕๕๖Reward love ๒๕๕๖
Reward love ๒๕๕๖
 
Reward love ๒๕๕๕
Reward love ๒๕๕๕Reward love ๒๕๕๕
Reward love ๒๕๕๕
 
Reward love ๒๕๕๔
Reward love ๒๕๕๔Reward love ๒๕๕๔
Reward love ๒๕๕๔
 
ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...
ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...
ประกาศผลการตัดสินการประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ป...
 
คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
คำสั่งส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
 
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
 
คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้
คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้
คู่มือการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้
 
ปกคู่มือการดำเนินกิจกรรม
ปกคู่มือการดำเนินกิจกรรมปกคู่มือการดำเนินกิจกรรม
ปกคู่มือการดำเนินกิจกรรม
 
กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557
กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557
กิจกรรมเปิดบ้านอาเซียนและสิทธฺเด็ก 2557
 
วารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
วารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิวารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
วารสารโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ
 
โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...
โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...
โครงการรักษ์ไทยรักษ์ถิ่น โรงเรียนต้นแบบโครงการรักชาติถูกทางเสริมสร้างความซื่อ...
 
Gumnodkarn
GumnodkarnGumnodkarn
Gumnodkarn
 
Name for jura
Name for juraName for jura
Name for jura
 
รายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายชื่อนักเรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมค่ายนิสิตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
 
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
รายชื่อนนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการติวความรู้กับค่ายนิสิตแพทย์ จุฬาลงกรณ์...
 
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
 
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
การพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ “First Model”
 

โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556

  • 1. ใบสมัคร การประกวดโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจาปี 2556 ชื่อโครงการ รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น (การพัฒนาต่อยอดโครงการ รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น) ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ การศึกษาระดับ มัธยมศึกษา สถานที่/ที่อยู่ เลขที่ 90 หมู่ที่ 9 ถนน วาริชภูมิ-พังโคน อาเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร รหัสไปรษณีย์ 47150 โทรศัพท์ 0-4278-1190 โทรสาร 0-4278-1193 ชื่อผู้ประสานงาน นางสุภาภรณ์ ภูดินทราย โทรศัพท์ 0-4274-2032 โทรศัพท์มือถือ 08-8549-9737 1. หลักการและแนวคิด ปัจจุบันกระแสโลกาภิวัตน์ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ส่งผลกระทบ ต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศไทย ทาให้สภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป ยึดติดกับกระแสวัตถุนิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามเริ่มเลือนหายไปกับกาลเวลา เพราะคนยุคใหม่ไม่ให้ความสาคัญในความเป็น ชาติไทย คิดว่าเป็นเรื่องที่ล้าสมัย สังคมไทยเบี่ยงเบนออกจากเอกลักษณ์ วัฒนธรรมที่ดีงามและ วิถีชีวิตแบบไทยเดิม มีความหย่อนยานในศีลธรรมและจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและเยาวชน เกิดความสับสน ขาดจิตสานึกที่ดี ไม่มีเป้าหมายในชีวิตและขาดการควบคุมตนเอง มักแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ อันส่งผลให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและศีลธรรม ตลอดทั้งค่านิยม ที่ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรง และมีแนวโน้มที่ทาให้สังคมเสื่อมลง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ กระแสโลกาภิวัตน์จึงนับว่าเป็นผลกระทบโดยตรงที่สาคัญ ที่ทาลายกาแพงวัฒนธรรม ที่ช่วยล้อมรอบเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ จาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปกป้อง ช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนา ให้เด็ก และเยาวชน รวมทั้งประชาชน สามารถปรับตัวและดารงชีวิตอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่าง รู้เท่าทัน ปลอดภัยและมีความสุข การศึกษาเป็นทางออกที่สาคัญ เนื่องด้วยการศึกษานั้นนอกจากจะ เป็นกระบวนการสร้างความรู้แล้ว ยังจะทาให้เกิดแนวคิด ค่านิยมที่ถูกต้อง ดีงาม ในการที่จะดูแล รับผิดชอบตนเอง ชุมชน สังคม และชาติบ้านเมือง ดังนั้น การที่จะสร้างค่านิยม
  • 2. 2 ให้กับสังคมจึงจาเป็นที่ต้องเริ่มในสถาบันการศึกษาซึ่งจะส่งผลให้เยาวชนที่ผ่านกระบวนการศึกษา เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง นอกจากนี้แนวทางหนึ่งที่จะช่วย ธารงรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ได้ ขึ้นอยู่กับการร่วมมือกันอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติ อย่างจริงจัง คือ การสอนเยาวชนไทยให้ซึมซับเอกลักษณ์ของชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจ แก่นแท้ของวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตของชาติ โดยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพราะ “ประวัติศาสตร์ ทาให้เราได้รู้ว่าลักษณะเฉพาะของสังคมของเราได้พัฒนามาบนพื้นฐานของอะไร” แม้ว่า ประสบการณ์ในอดีตจะประสบความสาเร็จ หรือสร้างความเจ็บปวดแก่คนในชาติเท่าใด ก็เป็น ข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราทุกคนต่างก็เป็นผลผลิตของประสบการณ์ในอดีตของบรรพบุรุษที่ได้เสียสละ สร้างมา ซึ่งคนในสังคมปัจจุบันควรจะเรียนรู้ความเป็นมาของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจถึง “ความรู้สึกร่วม” ของทุกคนในสังคม (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. 2553 : 3) การศึกษาประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องที่เยาวชนไทยไม่ควรมองข้าม ประวัติศาสตร์มีความสาคัญยิ่งต่อมนุษย์ชาติในหลายประการ ได้แก่ ทาให้รู้จักตนเองชัดเจน โดยรู้จักตนเองในฐานะที่ตนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และตนเองในฐานะที่เป็นส่วนใหญ่ ของสังคมโลก การไม่รู้จักตนเองจะทาให้เรากลายเป็นคนหลักลอย เป็นคนแปลกหน้าในสังคม ของตนเอง ไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรที่ทาได้และอะไรที่ทาไม่ได้ ประวัติศาสตร์ จึงช่วยให้ตนเอง สามารถปรับตัวเข้ากับคนกลุ่มใหญ่ได้อย่างสันติสุขโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ประวัติศาสตร์ สอนให้เราเป็นคนฉลาดทันสมัย มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เนื่องจากมนุษย์เราเป็นสัตว์ที่มีสมอง ดังนั้นย่อมไม่กระทาผิดในสิ่งที่เคยผิดพลาดมาแล้ว มนุษย์จะคิดหาหนทางใหม่ที่ดีกว่าเสมอ ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ารอย แต่ประวัติศาสตร์สามารถใช้เป็นประโยชน์ในการคาดการณ์ หรือคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้นประวัติศาสตร์จึงทาให้เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ ทันคน ทันเหตุการณ์ ทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ประวัติศาสตร์ สอนให้เป็นคนขยัน อดทน และมีความวิริยะ อุตสาหะ มนุษย์เราสร้างประวัติศาสตร์ทุก ๆ นาที นักประวัติศาสตร์จึงมีความจาเป็นต้องติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกเพื่อที่จะ ไม่เป็นผู้ล้าหลัง การหยุดไปเพียงหนึ่งวินาทีก็อาจทาให้เรากลายเป็นคนแปลกหน้าในสังคมได้ ประวัติศาสตร์จึงเป็นตัวกระตุ้นให้คนต้องขยันติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์ยังแสดงให้เห็นถึงความสาเร็จของบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องกระตุ้นและ เป็นแบบอย่างที่คนรุ่นหลังจะใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตได้ เป็นรากฐานในศาสตร์สาขา อื่น ๆ เพราะประวัติศาสตร์จะบอกถึงข้อผิดพลาดในอดีต ซึ่งเราจะต้องนาไปเป็นแนวทางในการ ปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น เราต้องทราบว่าประชาธิปไตยของคนไทยในอดีตมีจุดอ่อนตรงไหน ซึ่งจะ ให้เป็นแนวทางในการปรับปรุงระบอบประชาธิปไตยให้มีจุดสมดุลกับคนไทยได้อย่างไร
  • 3. 3 และประวัติศาสตร์ช่วยสร้างคนดี ให้สังคม โดยทาให้คนมีความเห็นแก่ตัวลดลง มีความคิด กว้างขวางโอบอ้อมอารี มีความยุติธรรม มีใจกว้างขวาง ไม่คับแคบและเป็นคนที่มีเหตุผล ในการตัดสินปัญหาต่าง ๆ (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. 2553 : 9) ดังนั้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์จึงมีคุณค่าอย่างมากต่อมนุษย์ เนื่องจากเป็นการเสริม ปัญญาแก่ผู้เรียนที่ได้ผ่านกระบวนการอ่าน การคิด การเขียน การพินิจ พิจารณา วิเคราะห์ มาอย่างถ่องแท้ จะช่วยกระตุ้นให้เขาได้ตระหนักถึงความสาคัญของแนวโน้มในอนาคตที่ควรดาเนิน ชีวิตอย่างรอบคอบ สุขุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์ที่สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่สังคมไทยในปัจจุบันคนส่วนใหญ่กาลังดาเนินชีวิตโดยขาดสติ ขาดการคิดวิเคราะห์ในการเลือก รับวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาในยุคโลกาภิวัตน์ ใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ละทิ้งถิ่นฐาน ขาดความรัก และผูกพันในบ้านเกิด ไม่รู้คุณค่า ไม่เห็นความสาคัญของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือสิ่งที่ อยู่ใกล้ตัวของชุมชนและท้องถิ่น ทาให้ไม่รู้จักตนเอง กลายเป็นคนหลักลอย เป็นคนแปลกหน้า ในสังคมของตนเอง ไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรที่ทาได้และอะไรที่ทาไม่ได้ เป็นเหตุให้สังคม วุ่นวาย ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศตะวันตกและประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนามและมาเลเซีย ที่ต่างให้ความสาคัญแก่วิชา ประวัติศาสตร์มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเขามองเห็นว่า “การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เท่ากับเป็น การทาความรู้จักสังคมของตนเอง และประวัติศาสตร์เป็นตัวช่วยปลูกฝังความรักมาตุภูมิ ความมุ่งมั่นในปณิธานแห่งชาติและความมั่นใจวัฒนธรรมประจาชาติ” (กระทรวงศึกษาธิการ. 2543 : 3) โดยเฉพาะการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เป็นการศึกษากิจกรรมหรือประสบการณ์ ทุก ๆ ด้านของสังคมในท้องถิ่นโดยให้ความสาคัญที่ผู้รู้หรือภูมิปัญญาท้องถิ่นในฐานะเป็นผู้สร้าง ประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษา ทาให้เกิดความเข้าใจถึง ความเป็นมาของวิถีชีวิตของคนซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่นทั้งด้านภาษา ศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและการดารงชีวิต เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่จะเป็นพลัง ให้สามารถฟื้นฟูชีวิตและศักดิ์ศรีของแต่ละท้องถิ่น เป็นสื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ก่อให้เกิด ความเข้าใจ สมานฉันท์ สามัคคีและสันติสุข ซึ่งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่จะนาไปสู่ ความสาเร็จตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้นั้นจาเป็นต้องปรับวิธีการและเทคนิคให้เหมาะสม และหลากหลาย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กาหนดแนวการจัดการศึกษาไว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคน มีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่า ผู้เรียนมีความสาคัญมากที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ซึ่งสถานศึกษาจะต้องดาเนินการจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรม
  • 4. 4 ให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้ เพื่อป้ องกันและแก้ไขปัญหา จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติ ให้ทาได้ คิดเป็น ทาเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้คู่คุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการ ดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข การเรียนรู้ด้วยโครงงานจึงเป็นแนวทางเลือกหนึ่งที่มีความสาคัญและจาเป็นที่จะช่วยให้ การปฏิรูปการเรียนรู้สู่ความสาเร็จ เพราะกิจกรรมโครงงานเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความ สนใจและมีโอกาสได้ศึกษาได้อย่างลุ่มลึกด้วยตัวเอง โดยครูเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุน และอานวยความสะดวกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและเต็มศักยภาพ (สุรพล วังสินธ์. 2543 : 11–12) ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าและลงมือปฏิบัติตามหัวข้อเรื่องที่ตนสนใจ สงสัย หาคาตอบโดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากแหล่งความรู้ ทาให้เด็กได้เรียนอย่างลึกซึ้ง แตกฉาน สามารถคิด วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและสรุปความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลให้เด็กเป็นผู้ชอบแสวงหาความรู้และ เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (กรมวิชาการ. 2545 : 19) โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยให้นักเรียนได้เรียนรู้ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้พื้นฐาน รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มาตรฐาน ส4.1 ม.3/2 ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนสนใจโดยให้ผู้เรียนจัดทาโครงงาน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญา ให้นักเรียนเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้ในชุมชนในสาระ การเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา ท้องถิ่นของเรา รหัสวิชา ส21201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และในทุก กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามบริบทหรือเนื้อหาสาระของสาขาวิชา และเรียนตามความถนัด ความสนใจ ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชุมนุมเด็กฮักถิ่น กลุ่มสนใจ/ชมรม โรงเรียนทาหนัง (พัฒนาต่อยอดจากประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สู่หนังสารคดีวัฒนธรรม) ซึ่งเป็น กิจกรรมที่พัฒนาคุณภาพนักเรียนให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปการเรียนรู้ โดยจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ด้วยโครงงาน ให้นักเรียนเป็นผู้กาหนดหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า สืบเสาะ หาภูมิปัญญา ท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ วางแผน ดาเนินการปฏิบัติตามแผน สรุปผลการทากิจกรรม โครงงานและนาเสนอผลงานด้วยตัวนักเรียนเอง ครูผู้สอน มีหน้าที่ในการพัฒนาและส่งเสริม ให้นักเรียนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในหัวข้อที่หลากหลาย เช่น ตานานหรือประวัติ ของหมู่บ้าน สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ (ดิน แหล่งน้า ประชากร แร่ธาตุ) การอพยพ การตั้ง ถิ่นฐาน ชาติพันธุ์วิทยา บุคคลสาคัญ ศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ (การปลูกหวาย การทาสวน ยางพารา การทอผ้าไหม การทาฟาร์มโคนม การจักสาน การทาข้าวฮาง ฯลฯ) วิถีการดาเนินชีวิต
  • 5. 5 ภูมิปัญญาชาวบ้าน วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน ภาษาและอักษร การละเล่น ดนตรีนาฏศิลป์ กีฬา พื้นบ้าน โบราณวัตถุโบราณสถาน และแหล่งชุมชนโบราณ พาหนะพื้นบ้าน เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ประเพณี ความเชื่อ ความเปลี่ยนแปลงที่สาคัญของเมือง (วิถีชีวิตชาวบ้านเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง) ฯลฯ จัดประสบการณ์ในการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนเหมือนกับการทางานในชีวิตจริง เพื่อให้นักเรียนได้มี ประสบการณ์ตรง ได้พิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง รู้จักวางแผนในการทางาน ฝึกการเป็นผู้นาผู้ตาม ฝึกการคิดวิเคราะห์ เรียนรู้วิธีแก้ปัญหา วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทางานอย่างมีระบบขั้นตอน ซึ่งใน การเรียนรู้นั้นครูจะสร้างความตระหนักโดยการตั้งคาถามให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์ก่อนจัดทา โครงงาน เช่น ประเด็นที่นักเรียนสนใจศึกษามีความสาคัญต่อนักเรียนอย่างไร ทาไมจึงอยากศึกษา เรื่องนี้ เมื่อศึกษาแล้วเกิดผลดีอย่างไร ใครคือผู้ที่จะให้ข้อมูลหรือแหล่งค้นคว้าที่ดี นักเรียนมีวิธี การศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร จะนาเสนอผลการศึกษาอย่างไร เป็นต้น ฉะนั้นการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ในสาระการเรียนรู้พื้นฐาน รายวิชา ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส4.1 ม.3/2 ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตน สนใจ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา ท้องถิ่นของเรา จัดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญา ให้นักเรียน เป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้ในชุมชนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามบริบทหรือเนื้อหาสาระ ของสาขาวิชา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของชุมนุมยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชุมนุมเด็กฮักถิ่น กลุ่มสนใจ/ชมรมโรงเรียนทาหนัง ของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ แล้วพัฒนาต่อยอดจากปีที่ผ่านมา โดยได้รับคัดเลือกจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบัน รามจิตติ ให้เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ) ในโครงการวิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ ของเยาวชน ซึ่งใช้ยุววิจัยเป็นฐานในการเรียนรู้และการสืบค้นข้อมูลบูรณาการสู่สาระการเรียนรู้ อื่นๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้นักเรียนโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิได้รู้จักตัวตน รู้จักความเป็นมา ของท้องถิ่น นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองในสิ่งที่ใกล้ตัวในท้องถิ่นโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เกิดจิตสานึก รักบ้านเกิด หวงแหน ภาคภูมิใจ สืบสานภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้นักเรียน ยังได้สืบค้น เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศชาติ ภูมิภาคและสังคมโลกผ่านสื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเตรียมตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงและความเป็นไปของโลกในยุคปัจจุบัน นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์และกระบวนการวิจัย สืบค้น ข้อมูลทาหนังสารคดี เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบอย่างหลากหลายในสาระการเรียนรู้อื่นๆ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสู่สาธารณชน ผ่านสื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนองต่อการเรียนรู้ ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีความสามารถ ในการคิด การสื่อสาร มีทักษะชีวิต สามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ นักเรียนมีคุณภาพ ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
  • 6. 6 2. วัตถุประสงค์ของโครงการ 2.1 นักเรียนมีความรู้ ความข้าใจ กระบวนการเรียนรู้ วิธีการทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์และกระบวนการวิจัย สืบค้นข้อมูลประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น 2.2 นักเรียนเห็นความสาคัญของขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ในท้องถิ่น เกิดจิตสานึกรักบ้านเกิด หวงแหน ภาคภูมิใจในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น 2.3 นักเรียนร่วมกันอนุรักษ์สืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ของท้องถิ่นไว้โดยชุมชนมีส่วนร่วม 2.4 ครอบครัว ศาสนา และชุมชน ให้ความร่วมมือในการปลูกฝังให้นักเรียน เกิดความสานึกที่จะเป็นคนดีของท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติสืบไป 2.5 ครูและนักเรียนต้นแบบสามารถสร้างเครือข่ายทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน พัฒนาการเรียนรู้โดยใช้ยุววิจัยเป็นฐานในการสืบค้นข้อมูลบูรณาการสู่สาระการเรียนรู้อื่นๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สามารถผลิตสื่อหรือนาเสนอผลงานการศึกษาค้นคว้าที่ตอบสนอง ต่อความต้องการของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 3. วิธีการดาเนินการ ในปีการศึกษา 2555 โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ได้พัฒนาต่อยอดจากการดาเนินงาน ในปีการศึกษา 2552-2554 ดังนี้ 3.1 จัดกิจกรรมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ สืบทอดองค์ความรู้และ วิธีปฏิบัติจากผู้รู้ /ภูมิปัญญาในท้องถิ่น ในโครงการ/กิจกรรม “ศูนย์การเรียนรู้พระราชกรณียกิจ และขยายผลพระราชดาริในสถานศึกษา” โดยน้อมนาพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทาน ปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยศิลปากร ณ วังท่าพระ วันที่ 12 ตุลาคม 2513 ความว่า “...งานด้านการศึกษาศิลปวัฒนธรรมนั้น คือ งานสร้างสรรค์ความเจริญทางปัญญา และทางจิตใจ ซึ่งเป็นทั้งต้นเหตุ ทั้งองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของความเจริญด้านอื่นๆ ทั้งหมด และเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เรารักษาและดารงความเป็นไทย ได้สืบไป...” เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม เรียนรู้วิถีการดารงชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีมาช้านาน บนพื้นฐานของธรรมชาติที่เกี่ยวพันสอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน รักษาและดารงความเป็นไทย ได้สืบไป โดยจัดนิทรรศการและกิจกรรมที่ส่งเสริม ปลูกจิตสานึก ให้นักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสนา รักท้องถิ่น รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
  • 7. 7 3.2 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ พัฒนาสื่อและทักษะปฏิบัติแก่ครูผู้สอน นักเรียน โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิและโรงเรียนเครือข่ายในสหวิทยาเขตลุ่มน้าอูน จานวน 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนกุดบากพัฒนาศึกษา โรงเรียนวาริชวิทยา โรงเรียนธรรมบวรวิทยา และโรงเรียนนิคมน้าอูน เจริญวิทยา โดยการผลิตสื่อทาหนังสารคดี ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบสู่สาธารณชนด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ที่ตอบสนองต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 3.3 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ 4. ขั้นตอนการดาเนินการ เป็นการพัฒนาต่อยอดโครงการ รักษ์ไทย รักษ์ถิ่น ซึ่งดาเนินการต่อเนื่องจากปีการศึกษา 2552 - 2554 4.1 ขั้นเตรียมการ 1) กาหนดเนื้อหาสาระเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้พื้นฐาน รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 มาตรฐาน ส4.1 ม.3/2 ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนสนใจโดยให้ผู้เรียนจัดทาโครงงาน สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา ท้องถิ่นของเรา รหัสวิชา ส21201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 และเรียนตามความถนัด ความสนใจ ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุมยุววิจัย ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชุมนุมเด็กฮักถิ่น กลุ่มสนใจ/ชมรมโรงเรียนทาหนัง (พัฒนาต่อยอด จากประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สู่หนังสารคดีวัฒนธรรม) ของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ตลอดจน บูรณาการหรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญา ให้นักเรียนเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้ ในชุมชนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยครูเตรียมบทเรียนเนื้อหาสาระตามหลักสูตร สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ฯลฯ 2) เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ) ในโครงการ “วิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ ของเยาวชน” ของสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบัน รามจิตติ ดาเนินการจัดอบรมให้ครูผู้สอน นักเรียนของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิและโรงเรียนเครือข่าย ในสหวิทยาเขตลุ่มน้าอูน ทั้ง 4 โรงเรียน เพื่อผลิตสื่อทาหนังสารคดี ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบ สู่สาธารณชนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนองต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ ในศตวรรษที่ 21
  • 8. 8 3) พัฒนานวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้ในสาระประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยการ ผลิตหนังสารคดีวัฒนธรรม และขยายผลการเรียนรู้ผ่านกระบวนการผลิตสื่อของเยาวชน สู่สาระการเรียนรู้อื่น ๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นต้น 4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ 4.2 ขั้นดาเนินการ กิจกรรม /วิธีการในการพัฒนา ปีการศึกษา 2555 มีดังนี้ 1) จัดกิจกรรมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ สืบทอดองค์ความรู้และ วิธีปฏิบัติจากผู้รู้ /ภูมิปัญญาในท้องถิ่น เพื่อให้เข้าใจรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม เรียนรู้วิถี การดารงชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีมาช้านาน บนพื้นฐานของธรรมชาติที่เกี่ยวพันสอดคล้อง กับวิถีชีวิตชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ต้องการอนุรักษ์สิ่งดี ๆ ที่เรามีอยู่ ฟื้นฟูสิ่งที่กาลังจะสูญหาย และสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากรากฐานที่มั่นคง สืบสานวัฒนธรรมภูไท ซึ่งถือ เป็นอัตลักษณ์ของเรา ให้คงอยู่สืบไปภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ โดยการจัดนิทรรศการผลงานการเรียนรู้จากผู้รู้ /ภูมิปัญญาในท้องถิ่น ของทุก กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อปลูกจิตสานึกให้นักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสนา รักท้องถิ่น รักและเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้โครงการ/กิจกรรม “ศูนย์การเรียนรู้พระราชกรณียกิจและขยายผล พระราชดาริในสถานศึกษา” ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม ดังต่อไปนี้ 1.1) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นาเสนอประวัติ ความเป็นมา รากเหง้า ของภูไทกะป๋ องวาริชภูมิ ว่าเป็นใคร มาจากไหน มีประเพณีวัฒนธรรม อะไรบ้าง เอกลักษณ์ของชาวภูไทในด้านต่าง ๆ ตามจารีตประเพณี ฮีต 12 คอง 14 ทั้งงานมงคล และอวมงคล โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการและหนังสารคดีวัฒนธรรม 1.2) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นาเสนอการเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านภาษา เช่น นาผญามาใช้ได้เหมาะสมกับเหตุการณ์เฉพาะหน้า การพูดให้ข้อคิด คาอวยพร ผญาหนุ่มจีบสาวของชาวภูไทในอดีต หรือที่เรียกว่า “ลงข่วง” ซึ่งเป็นประเพณีที่หาชมได้ยาก ในปัจจุบัน โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการหนังสือเล่มเล็ก แผ่นพับ และหนังสารคดี วัฒนธรรม 1.3) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ นาเสนอการเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านจิตรกรรม โดยการนาเสนอภาพวาดเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยภูมิปัญญา /ศิลปินในท้องถิ่น
  • 9. 9 1.4) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา นาเสนอการเรียนรู้จากภูมิปัญญา ท้องถิ่นด้านการละเล่นของเด็กภูไทในอดีต ที่ไม่มีเทคโนโลยีนั้น เขาเรียนและเล่นกันอย่างไร โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการ และหนังสารคดีวัฒนธรรม 1.5) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี นาเสนอการเรียนรู้ จากภูมิปัญญาเกี่ยวกับวิถีการกิน การอยู่ อาหารพื้นบ้านที่มีลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจ เช่น การทา แจ่วบองปลาร้า การนาหวายมาปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวาน การทาพานบายศรีสู่ขวัญ โดยนาเสนอผลการศึกษาเป็นนิทรรศการสาธิตการทา และผลงานที่สาเร็จ 1.6) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นาเสนอ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” โดยจัดนิทรรศการและผลงานการประดิษฐ์ “ตามรอยพ่อ” ของนักเรียน 1.7) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นาเสนอเกี่ยวกับการน้อมนา “หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง” สู่การปฏิบัติ โดยนาเสนอป้ ายนิทรรศการและกิจกรรมฝึกทักษะการคิด ความมีเหตุผล 1.8) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ นาเสนอภาพพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และจัดนิทรรศการพืชผักผลไม้ในท้องถิ่น พร้อมบรรยาย เป็นภาษาอังกฤษ 1.9) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (เพื่อนที่ปรึกษา YC) นาเสนอนิทรรศการเกี่ยวกับ ขั้นตอนการบริการให้คาปรึกษา และผลการดาเนินงานที่ผ่านมา (ทาดีเพื่อพ่อ) เกี่ยวกับการมี ส่วนร่วมในการพัฒนาทั้งการให้ทุนการศึกษา การให้คาปรึกษา และการแนะแนวอาชีพ 1.10) การมีส่วนร่วมขององค์กรในท้องถิ่น โดยนาเสนอเกี่ยวกับการน้อมนา “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” สู่การปฏิบัติ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน โครงการ ในพระราชดาริ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาวาริชภูมิ 2) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ พัฒนาสื่อและทักษะปฏิบัติแก่ครูผู้สอนและ นักเรียน และโรงเรียนเครือข่ายในสหวิทยาเขตลุ่มน้าอูน ทั้ง 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนกุดบากพัฒนา ศึกษา โรงเรียนวาริชวิทยา โรงเรียนธรรมบวรวิทยา และโรงเรียนนิคมน้าอูนเจริญวิทยา เพื่อผลิต สื่อทาหนังสารคดี ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ค้นพบ สู่สาธารณชนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนอง ต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 โดยโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิได้รับคัดเลือกให้เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ) ในโครงการ “วิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียน ผ่านกระบวนการผลิตสื่อของเยาวชน” ของสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ โรงเรียนทาหนัง สถาบันรามจิตติ
  • 10. 10 3) พัฒนานวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้ในสาระประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยการ ผลิตหนังสารคดีวัฒนธรรม และขยายผลการเรียนรู้ผ่านกระบวนการผลิตสื่อของเยาวชน สู่สาระการเรียนรู้อื่น ๆ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นต้น 3.1) ความลับของมะละกอ 3.2) ติบติบ ติบ ติบ 3.3) ตามรอยพ่อ สานต่อพอเพียง 3.4) ของขวัญวันจากไป 3.5) ข้าวฮาง 3.6) แสงทองส่องธรรม วัดถ้าพระพุทธไสยาสน์ 3.7) แกงหวายกับสายลับ 3.8) ตะไคร้ 3.9) ฮีตเก่าคองหลัง สังคมภูไท 3.10) ต้นบุญ...แห่งศรัทธา 3.11) โครงการในพระราชดาริ การเลี้ยงโคนม 3.12) ขยะจอมกวน 3.13) หมอลา...ศิลปะอีสาน 3.14) ตามะละกอ (เอกสารประกอบ DVD & VCD แผ่นที่ ๔, ๕ และ ๖) 4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ 4.1) เข้าร่วมนาเสนอผลงานวิจัยในนิทรรศการ “ก้าวเรียนรู้...สู่ศตวรรษใหม่” ในงานมหกรรมวิชาการ สกว. วิจัยตามรอยพระยุคลบาท : สร้างสรรค์ปัญญา เพื่อพัฒนาประเทศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม- พรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ “๙ บันดาลสู่งานวิจัย” สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ใน วันที่ ๒๐-๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร 4.2) การเข้าร่วมนาเสนอผลงานทางวิชาการ ในการสัมมนาทางวิชาการระดับชาติ เรื่อง “ท้องถิ่นข้ามแดน ข้ามแดนท้องถิ่น : ข้ามพรมแดนความคิด ความรู้จากท้องถิ่นอีสานสู่สากล” วันที่ ๖-๗ กันยายน ๒๕๕๕ ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • 11. 11 4.3) คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ร่วมกับ คณะผู้บริหารโรงเรียน รับรางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในโครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจาปี 2555 จากสานักงาน ป.ป.ช. ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 4.4) ร่วมจัดนิทรรศการจังหวัดเคลื่อนที่ ณ โรงเรียนธรรมบวรวิทยา วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 4.5) ร่วมพิธีถวายราชสดุดี กับหน่วยงานและส่วนราชการต่าง ๆ ของอาเภอ วาริชภูมิ ณ ที่ว่าการอาเภอวาริชภูมิ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 4.6) ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนทาหนังของโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ เข้าร่วม การแข่งขันในการจัดโครงการประกวดหนังสั้น “พลังหนังสั้น พลังเพื่อการเปลี่ยนแปลง” ในหัวข้อ “ยาเสพติด แค่คิด ก็ผิดแล้ว” เข้ารอบ ๑ ใน ๑๐ ทีมสุดท้าย ระดับประเทศ ของเครือข่าย ยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงวัฒนธรรม 4.7) นักเรียนโรงเรียนทาหนังและนักยุววิจัยประวัติศาสตร์ของโรงเรียนมัธยม วาริชภูมิ ได้รับคัดเลือกจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบันรามจิตติ ให้เป็นต้นแบบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (๑ ใน ๕ ภูมิภาค ระดับประเทศ) ในโครงการวิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ ของเยาวชน 4.8) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ผลงานทางสถานีวิทยุชุมชนคนมัธยม โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล/ข่าวสาร ของโรงเรียน โดยเฉพาะ ที่คลื่นความถี่ FM 99.30 MHz 4.9) การร่วมงานประเพณี “วันภูไทราลึก” ของอาเภอวาริชภูมิ (เอกสารประกอบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ ในภาคผนวก) 4.3 ขั้นติดตาม ประเมินผล นาเสนอรายงานความก้าวหน้าของการดาเนินงานตามโครงการ/กิจกรรมเป็นระยะ ๆ 4.4 ขั้นรายงานผล รายงานผลการดาเนินงานต่อผู้บริหาร ครู อาจารย์ ในสถานศึกษา กรมต้นสังกัด และต่อชุมชน ตลอดจนเผยแพร่ผลงานโดยจัดนิทรรศการในการประชุม อบรม สัมมนา หรือการศึกษา ดูงานของโรงเรียนต่างๆ
  • 12. 12 5. คุณค่า/คุณประโยชน์ที่ได้รับ จากการดาเนินงานทั้งก่อนดาเนินโครงการและหลังการดาเนินโครงการศูนย์พัฒนา การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านค่ายเยาวชนต้นแบบยุววิจัยประวัติศาสตร์ ท้องถิ่น เกิดคุณประโยชน์ทั้งต่อผู้เรียน ครู โรงเรียน และชุมชน ดังนี้ 5.1 ผลที่เกิดกับผู้เรียน 5.1.1 ด้านความสามารถ ทักษะ 1) แสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหา 2) ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ 3) มีทักษะการคิดขั้นสูง 4) มีทักษะชีวิต 5) มีทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย 5.1.2 ด้านคุณลักษณะ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1) รู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตนเองและชาติไทย รักบ้านเกิด 1.2) เป็นพลเมืองดีของชาติ 1.3) ภาคภูมิใจ และธารงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย 1.4) ศรัทธา และยึดมั่นในศาสนา 1.5) ปฏิบัติศาสนพิธีตามความเชื่อของบรรพบุรุษที่สืบทอดต่อกันมา 1.6) ภูมิใจที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 1.7) เคารพ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ 1.8) น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการดาเนินงาน 2) ซื่อสัตย์สุจริต 2.1) เขียนรายงานผลการศึกษาตามความเป็นจริงจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ 2.2) อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล 2.3) ยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเอง และผู้อื่นทั้งกาย วาจา ใจ 3) มีวินัย 3.1) ดาเนินงานตามระยะเวลาที่กาหนด (ตรงต่อเวลา) 3.2) ยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม
  • 13. 13 4) ใฝ่เรียนรู้ 4.1) หมั่นสืบเสาะแสวงหาความรู้ 4.2) มีนิสัยรักการอ่าน 4.3) ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการสืบค้นคว้า 4.4) มีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ ภายในและภายนอกของโรงเรียน 5) อยู่อย่างพอเพียง มีการดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผลรอบคอบ มีคุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีเหตุผล  ใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ข้อมูล  ใช้ข้อมูล / หลักฐานในการสืบค้น ติดตาม มีภูมิคุ้มกัน  ปลูกจิตสานึกรัก บ้านเกิด  รักและหวงแหนในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น พอประมาณ  เวลาในการสืบค้น  การบริหาร/ งบประมาณค่าใช้จ่าย  การกาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างที่ให้ข้อมูล  ใช้วัสดุให้คุ้มค่า 6) มุ่งมั่นในการศึกษาและการทางาน 6.1) มีความตั้งใจ และรับผิดชอบในการทาหน้าที่การงานด้วยความเพียร พยายาม อดทน เพื่อให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย 6.2) เอาใจใส่ เสียสละเวลา/อุทิศตน 7) รักความเป็นไทย 7.1) เข้าร่วมประเพณี/วัฒนธรรมของท้องถิ่น 7.2) มีเอกลักษณ์ทางภาษา การแต่งกาย อาหารพื้นบ้าน ยารักษาโรค /สมุนไพร 7.3) ให้ความรู้/เผยแพร่ผลงานจากการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น 7.4) สืบทอดภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม 7.5) ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
  • 14. 14 8) มีจิตสาธารณะ 8.1) อุทิศเวลาในการศึกษาค้นคว้า เพื่อเผยแพร่ข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ของตนสู่สาธารณชน 8.2) ร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น ให้ดารงอยู่สืบไป 8.3) มีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น ชุมชน และสังคม ด้วยความเต็มใจ กระตือรือร้นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน 5.1.3 นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการทากิจกรรมกลุ่ม และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อน ในกลุ่มนักเรียน 5.1.4 นักเรียนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ 5.1.5 นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติการทาโครงงาน สามารถพัฒนาตนเอง บาเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคม 5.1.6 นักเรียนได้รับการยอมรับและชื่นชมจากผู้ปกครอง ชุมชน 5.2 ผลที่เกิดกับครู 5.2.1 ครูเข้าใจและเห็นความสาคัญในการสอนโดยใช้นวัตกรรมและคิดสร้างนวัตกรรม ขึ้นใช้ในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน 5.2.2 ครูมีสื่อนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสถานศึกษาอื่น 5.2.3 ครูได้รับความเชื่อมั่นและศรัทธาในการจัดการเรียนการสอนจากนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน 5.3 ผลที่เกิดกับโรงเรียน 5.3.1 โรงเรียนได้รับการยอมรับจากชุมชน สังคม ในการพัฒนานักเรียนให้มี คุณภาพ เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมได้ 5.3.2 นักเรียนนาชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน 5.4 ผลที่เกิดกับชุมชน ชุมชนมีความภาคภูมิใจในตัวนักเรียน และบุคลากรในโรงเรียน
  • 15. 15 6. งบประมาณ (ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ) ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้องสนับสนุนในการดาเนินงาน ตามโครงการ ดังนี้คือ 6.1 สานักงาน ป.ป.ช. มอบเงินรางวัล จานวน 35,000 บาท ในโครงการรักชาติถูกทาง สร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจาปี 2555 6.2 สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโรงเรียนทาหนัง สถาบันรามจิตติ มอบเงิน จานวน 40,000 บาท ให้เป็นต้นแบบในการอบรมขยายผลการเรียนรู้สู่โรงเรียนเครือข่าย ในโครงการวิจัยและพัฒนาตัวแบบการเรียนรู้นอกรูปแบบโรงเรียนผ่านกระบวนการผลิตสื่อ ของเยาวชน 7. ผู้รับผิดชอบและร่วมดาเนินโครงการ 7.1 นางสุภาภรณ์ ภูดินทราย ผู้รับผิดชอบ/ครูที่ปรึกษาโครงการ 7.2 ผู้บริหาร คณะครูโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ ผู้ร่วมดาเนินโครงการ (นายพนมพันธ์ ไชยเพชร) ผู้อานวยการโรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ พฤษภาคม 2556