1. ทวีปอเมริกาเหนือ
ที่ตั้ง
ตังอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรทังหมด
้
้
- ละติจูดที่ 7 องศา 15 ลิปดาเหนือ
ถึง 83 องศา 38 ลิปดาเหนือ
- ลองจิจูดที่ 55 องศา 42 ลิปดา
ตะวันตก ถึง 172 องศา 30 ลิปดา
ตะวันออก

2. เขตติดต่อ
ทิศเหนือ : มหาสมุทรอาร์กติก ทะเลโบว์ฟอร์ต ทะเลแลบราดอร์
อ่าวฮัดสัน อ่าวเบฟฟิ น มีเกาะมากมาย เกาะใหญ่ทสุด คือ เกาะกรีน แลนด์
ี่
เป็ นเกาะทีใ่ หญ่ทสุดในโลก
ี่
ทิศตะวันออก : มหาสมุทรแอตแลนติก อ่าวเม็กซิโก อ่าวเซนต์ลอ
เรนช์ ทะเลแคริเบียน มีเกาะนิวฟั นแลนด์ หมู่เกาะบาฮามาส เกาะเบอร์มวดา
ิ

3. เขตติดต่อ
ทิศใต้ : ทวีปอเมริกาใต้ ทีคลองปานามา ทะเลแคลิเบียน อ่าวเม็กซิโก มีหมู่
่
เกาะอินดิสตะวันตก เกาะทีสาคัญ คือ เกาะคิวบา เกาะฮิสแปนิโอลา
่
ทิศตะวันตก : มหาสมุทรแปซิฟิก อ่าวแคลิฟอร์เนีย
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : จดช่องแคบเบริง กันทวีปอเมริกาเหนือกับเอเชีย
้
ทีมลรัฐแอลาสกา สหรัฐอเมริกา อ่าวแอลาสกา มีเกาะแวนคูเวอร์
่

4. ขนาดของทวีป
มีขนาดใหญ่เป็ นอันดับ 3 รองจากทวีปเอเชียและแอฟริกา
ทวีปอเมริกาเหนือ แบ่งออกเป็ น 3 ส่วน คือ
1. เป็ นตัวของทวีป ประกอบด้วยแคนาดา อเมริกา เม็กซิโก
2. เป็ นดินแดน ทีเ่ รียกว่าอเมริกากลาง คือ กัวเตมาลา
เอลซัลวาดอร์ นิการากัว ฮอนดูรส คอสตาริกา ปานามา
ั
3. คือ หมู่เกาะในทะเลแคริเบียน (หมู่เกาะอินดิสตะวันตก)
เกาะทีสาคัญ คือ เกาะคิวบา เกาะฮิสแปนิโอลา
่

5. ่ั
ลักษณะชายฝงทะเล
มีชายฝั่ งทะเลเว้าแหว่งมากมีอ่าวสาคัญ คือ อ่าวฮัดสัน อ่าวเบฟ
ฟิ น อ่าวเซนต์ลอเรนซ์ อ่าวเม็กซิโก อ่าวแคลิฟอร์เนีย อ่าวแอลาสกา

6. ลักษณะภูมิประเทศ
ทวีปอเมริกาเหนือ แบ่งออกเป็ น 4 เขต คือ
1. เขตเทือกเขาและทีราบสูงภาคตะวันตก
่
2. เขตทีราบภาคกลาง
่
3. เขตเทือกเขาภาคตะวันออก
4. เขตหินเก่าแคนาดา

7. 1. เขตเทือกเขาและที่ราบสูงภาคตะวันตก
(เป็ นภูเขาหินใหม่)
- เป็ นแนวเทือกเขาจากเหนือลงมาใต้เกิดจากการโก่งตัวของหินเปลือกโลกที่
อายุนอย
้
- เทือกเขาสาคัญ คือ ภูเขาแอลาสกา (ยอดแมคคินลีย์ 6,194 เมตร
สูงสุดในทวีปอเมริกาเหนือ) เทีอกเขาแมคเคนซีมภูเขาบรูกซ์หรือยอดเขา
่ี
- บรูกซ์ เทือกเขารอกกี้ ยาวตังแต่ประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และ
้
เม็กซิโก ยอดสูงสุดชือ เอลเบิรต์
่

8. 1. เขตเทือกเขาและที่ราบสูงภาคตะวันตก
(เป็ นภูเขาหินใหม่) (ต่อ)
- มีทราบสูงบริตชโคลัมเบีย ในแคนาดา ทีราบสูงเกรทเบซิน ทีราบสูง
ี่
ิ
่
่
โคโลราโด (มี “แกนด์แคนยอน” ในรัฐแอริโซนาของสหรัฐอเมริกา เกิดจาก
การกัดเซาะของแม่น้าโคโลราโด ซึงมีความสวยงามมาก มีอุทยานแห่งชาติท ี่
่
มีชอเสียงมาก คือ“เยลโลสโตน” มีน้าพุ ร้อนกีเซอร์ 120 แห่ง)
ื่
- เป็ นเขตทีมแี ผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดมาก โดยเฉพาะทีแคลิฟอร์เนีย.
่
่
เม็กซิโก และอเมริกากลาง

9. 2. เขตที่ราบภาคกลาง
ตังแต่ชายฝั่ งมหาสมุทรอาร์กติก ลงมาทางใต้ถงอ่าวเม็กซิโก มีท ี่
้
ึ
ราบลุมแม่น้าทีสาคัญ คือ
่
่
2.1 ทีราบลุมแม่น้าแมกเคนซี อยู่ในประเทศแคนาดา เป็ นทีราบแคบๆ
่ ่
่
บริเวณลุมแม่น้า เขตหินเก่า อากาศหนาวเย็น มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง
่
2.2 ทีราบลุมแม่น้าซัลเคตเซวัน เกิดทีราบแพร์รี่ ในแคนาดา และเป็ น
่ ่
่
บริเวณทีปลูกข้าวสาลีมากแห่งหนึงของโลก
่
่

10. 2. เขตที่ราบภาคกลาง (ต่อ)
2.3 ทีราบลุมแม่น้าเซนต์ลอเรนซ์ เป็ นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้า
่ ่
ระหว่างทะเลสาบทัง 5(เกรทเลกส์) กับมหาสมุทรแอตแลนด์ตก กัน
้
ิ ้
พรมแดนระหว่างประเทแคนาดากับสหรัฐอเมริกา ทะเลสาบเกรทเลกส์
เกิดจากธารน้าแข็ง มีทะเลสาบสุพเี รีย เป็ นทะเลสาบน้าจืดขนาด ใหญ่
ทีสุดในโลก ประกอบด้วย 5 ทะเลสาบ คือ ทะเลสาบมิชแกน(เหมาะแก่
่
ิ
การเพาะปลูก) ทะเลสาบฮู รอน ทะเลสาบอีรี และทะเลสาบออนแตริโอ ซึง
่
มีน้าตกไนแอการา ใช้ผลิตกระแสไฟฟาและการท่องเทียว
้
่

11. 2. เขตที่ราบภาคกลาง (ต่อ)
2.4 แม่น้ามิสซิสซิปปี เป็ นทีราบดินตะกอนกว้างใหญ่มประชากร
่
ี
อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็ นแม่น้าทียาวทีสุดในอเมริกาเหนือ (3,757
่ ่
กม.) มีแควมากมาย ได้แก่แม่น้า มิสซูรี่ โอไฮโอ เทนเนสซี่ อาร์คนซัส
ั
เรด ไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก

12. 2. เขตที่ราบภาคกลาง (ต่อ)
2.5 ทีราบชายฝั่ งอ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติก ได้แก่
่
บริเวณทางด้านตะวันออก ของเทือกเขาแอปปาเลเชียน ลงไปทางใต้
จนถึงชายฝั่ งอ่าวเม็กซิโก เหมาะแก่การปลูกพืชเมืองร้อน
2.6 ทีราบบนทีสูง ได้แก่ บริเวณด้านตะวันออกของเทือกเขารอกกี
่
่
เป็ นเขต เงาฝน ไม่เหมาะทีจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมประเภททีใ่ ช้น้า
่
มาก แต่เหมาะอย่างยิงทีจะปลูกข้าวสาลี
่ ่

13. 3. เขตเทือกเขาภาคตะวันออก
เป็ นเขตภูเขาหินเก่าและทีราบสูง ตังแต่เกาะนิวฟั นด์แลนด์ ทาง
่
้
ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา ลงมาถึงภาคตะวันออกเฉียงใต้
ของสหรัฐอเมริกาได้แก่ เทือกเขาแอปปาเลเซียน

14. 4. เขตหินเก่าแคนาดา
บริเวณอ่าวฮัดสัน ถึง ทะเลสาปทัง 5 เป็ นหินเก่า อายุเก่าแก่ ผ่าน
้
การสึกกร่อนมาหลายร้อยล้านปี เป็ นแหล่งแร่ธาตุหลายชนิด เรียกว่า
“ทีราบสูงลอเรนเชียน”
่

15. ลักษณะภูมิอากาศ
ปัจจัยทีมผลต่อภูมอากาศของอเมริกาเหนือ คือ
่ี
ิ
1. ที่ตั้ง ละติจูด มีภูมอากาศทุกประเภท เนืองจากอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรไป
ิ
่
ถึงขัวโลก
้
2. ทิศทางลมประจา
- ชายฝั่ งด้านตะวันออก มีลมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดจากมหาสมุทร
แอตแลนติก เข้าสู่ ทวีป นาฝนมาตกและชุ่มชืน
้
- ด้านชายฝั่ งตะวันตก มีลมตะวันตกเฉียงใต้ พัดจาก มหาสมุทร
แปซิฟิกเข้าสู่แคนาดาและแอลาสกา

16. ลักษณะภูมิอากาศ
3. ระยะห่างจากทะเล ตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีพนที่
้ื
กว้างใหญ่ ห่างจากทะเลมากทาให้ได้รบความชืนน้อย เป็ นทุ่งหญ้าหรือทุ่ง
ั
้
หญ้ากึงทะเลทรายทีกว้างใหญ่
่
่
4. ทิศทางของเทือกเขา ทอดยาวจากทิศเหนือไปทางทิศใต้ อยู่ทาง
ตะวันตกของทวีป กันความชืนจากมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ด้านตะวันออก
้
ส่วนใหญ่เป็ นทีราบมีลุมนาความชืนเข้ามาได้ ทาให้ฝนตกชุก
่
่
้

17. ลักษณะภูมิอากาศ
5. พายุเฮอร์รเิ คนและพายุทอร์นาโด
พายุเฮอร์รเิ คน เกิดในทะเลแคริเบียนและอ่าวเม็กซิโก เคลือนตัวเข้า
่
เม็กซิโกและอเมริกา ทาให้ฝนตกและมีลมแรงมาก
พายุทอร์นาโด เกิดในบริเวณทีราบภาคกลางของสหรัฐอเมริกา มีลม
่
แรงมาก สามารถทาให้บานเมืองพังทลายได้ เกิดขึนปี ละ 140 –
้
้
150 ครัง (รัฐแคนซัส โอคลาโฮมา และรัฐเทกซัส)
้

18. ลักษณะภูมิอากาศ
กระแสน้าอุ่นและกระแสน้าเย็น
กระแสน้าอุ่นแอลาสกา ไหลผ่านบริเวณฝั่ งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทาให้อากาศไม่หนาวมาก
กระแสน้าอุ่นกัลฟ์ สตรีม ไหลผ่านบริเวณฝั่ งทิศตะวันออก
กระแสน้าเย็นแลบราดอร์ ไหลผ่านบริเวณฝั่ งทิศ
ตะวันออกเฉียงเหนือ
กระแสน้าเย็นแค่ลฟอร์ เนีย ไหลผ่านบริเวณฝั่ งทิศตะวันตก
ิ

19. การแบ่งเขตภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ
แบ่งออกเป็ น 12 เขต ดังนี้
1. เขตภูมอากาศร้อนชืน (แบบป่าไม้เขตร้อน)
ิ
้
2. เขตภูมอากาศแบบร้อนชืนสลับแห้งแล้ง (แบบทุ่งหญ้าเขต
ิ
้
ร้อน)
3. เขตภูมอากาศแบบทะเลทราย
ิ
4. เขตภูมอากาศแบบทุ่งหญ้ากึงทะเลทราย(
ิ
่
5. เขตภูมอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
ิ
6. เขตภูมอากาศแบบอบอุ่นชืน
ิ
้

20. การแบ่งเขตภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ (ต่อ)
7. เขตภูมอากาศแบบภาคพืนสมุทร ชายฝั่ งตะวันตก
ิ
้
8. เขตภูมอากาศชืนภาคพืนทวีป
ิ
้
้
9. เขตภูมอากาศแบบไทก้า
ิ
10. เขตภูมอากาศแบบทุนดรา (แบบขัวโลก)
ิ
้
11. เขตภูมอากาศแบบทุ่งน้าแข็ง
ิ
12. เขตภูมอากาศแบบภูเขาสูง
ิ

21. 1. เขตภูมิอากาศร้อนชื้น (แบบปาไม้เขตร้อน)
่
- มีอุณหภูมสูงและฝนตกชุกตลอดปี
ิ
- พืชพรรณธรรมชาติแบบป่าไม้เขตร้อน
- พบในบริเวณภาคตะวันออกของอเมริกากลาง หมู่เกาะอินดิส
ตะวันตกด้านเหนือ

22. 2. เขตภูมิอากาศแบบร้อนชื้นสลับแห้งแล้ง
(แบบทุ่งหญ้าเขตร้อน)
- อุ ณหภูมสูงตลอดปี ฝนตกชุกในฤดูร้อน มีอากาศแห้งแล้ง
ิ
ประมาณครึงปี
่
- พืชพรรณธรรมชาติเป็ นทุ่งหญ้าเมืองร้อน
- พบในบริเวณด้านทิศตะวันตกของอเมริกากลาง และด้านทิศใต้
ของหมู่เกาะอินดิสตะวันตก

23. 3. เขตภูมิอากาศแบบทะเลทราย
- พบทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและตอนเหนือของ
เม็กซิโก (ทะเลทรายโซโนราน)
- พืชพรรณธรรมชาติ คือ ไม้พุม กระบองเพชร
่

24. 4. เขตภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย
(อยู่ระหว่างเขตร้อนชืนและทะเลทราย)
้
- พืชพรรณธรรมชาติ คือ หญ้าทีขนอย่างเบาบาง
่ ้ึ
- พบบริเวณด้านตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
(ลองจิจูด 100–115 ° w)

25. 5. เขตภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
- อากาศอบอุ่น ฝนตกในฤดูหนาว
- บริเวณชายฝั่ งตอนกลางของแคลิฟอร์เนีย

26. 6. เขตภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น
- อากาศอบอุ่น ฝนตกในฤดูร้อน
- บริเวณทีราบลุมแม่น้ามิสซิสซิปปี และชายฝั่ งตะวันออกของ
่ ่
อเมริกา
- เป็ นป่าไม้ผลัดใบแบบอบอุ่น

27. 7. เขตภูมิอากาศแบบภาคพื้นสมุทร
่ั
ชายฝงตะวันตก
- อากาศอบอุ่น ฝนตกชุกตลอดปี ได้รบอิทธิพลจากลมตะวันตก
ั
- บริเวณชายฝั่ งตะวันตกของแคนาดาและทีตะวันตกฉียงเหนือของ
่
สหรัฐอเมริกา

28. 8. เขตภูมิอากาศชื้นภาคพื้นทวีป
- มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว อุ ณหภูมแิ ตกต่างมากระหว่างร้อน
กับหนาว เพราะอยู่ไกลทะเล ได้แก่ ตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาและตอนใต้
แคนาดา

29. 9. เขตภูมิอากาศแบบไทก้า
- อากาศหนาวเย็นนาน อยู่ในบริเวณของประเทศแคนาดา

30. 10. เขตภูมิอากาศแบบทุนดรา (แบบขั้วโลก)
- อุ ณหภูมต่าทังปี มีตะไคร่น้า อยู่ในบริเวณตอนเหนือของแคนาดา
ิ ้
และรอบๆ มหาสมุทรอาร์ตก
ิ

31. 11. เขตภูมิอากาศแบบทุ่งน้าแข็ง
- มีอุณหภูมทต่ากว่าจุดเยือกแข็งทุกเดือน ไม่มพช อยู่ในบริเวณตอนใน
ิ ี่
ี ื
ของเกาะกรีนแลนด์

32. 12. เขตภูมิอากาศแบบภูเขาสูง
- อุ ณหภูมแิ ตกต่างตามระดับความสูงของภูเขา หนาวเย็น แบบขัว
้
โลกได้แก่บริเวณเทือกเขาตะวันตก

33. ทรัพยากรทางธรรมชาติ
1. ดิน : มีทรัพยากรและดินทีอุดมสมบูรณ์กว่าทวีปอืน เหมาะแก่
่
่
การเกษตรทังภาคใต้ของประเทศแคนาดา และภาคกลางของประเทศ
้
สหรัฐอเมริกา

34. ทรัพยากรทางธรรมชาติ
2. น้า : มีแหล่งน้าทีอุดมสมบูรณ์ในตอนกลางของทวีป
่
- แม่น้าทีสาคัญ ได้แก่ แม่น้าซัลเคตเซวัน แม่น้ามิสซิสซิปปี แม่น้ามิสซูรี
่
แม่น้าเซนต์ลอเรนซ์ แม่น้าโคโลราโด แม่น้าโคลัมเบีย แม่น้าริโอแกรนด์
- ทะเลสาบทีสาคัญ ได้แก่ ทะเลสาบเกรทเลก
่
- เขือนใหญ่ ได้แก่ เขือนฮู เวอร์ เขือนแกรนด์แคนยอน ชายฝั่ งทะเลด้าน
่
่
่
ตะวันออก มีความชืนเพียงพอ ฝนตกตลอด ยกเว้นทางด้านตะวันตก
้
เฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา และตอนเหนือของเม็กซิโก

35. ทรัพยากรทางธรรมชาติ
3. ปาไม้ : มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ได้แก่
่
- ป่าสน บริเวณประเทศแคนาดาตามแนวภูเขาทิศเหนือและทิศตะวันตก
ตังแต่อ่าวอัดสันไปทางตะวันตกถึงชายฝั่ งมหาสมุทรแปซิฟิก และบริเวณ
้
ประเทศสหรัฐอเมริกา เทือกเขาเซียราเนวาดา ทางเหนือของสหรัฐอเมริกา
- ป่าไม้ผลัดใบ ตอนเหนือของสหรัฐอเมริการวมทังทะเลสาบทัง 5
้
้
เทือกเขาแอปปาเลเชียน
- ป่าไม้เมืองร้อน ในเม็กซิโกและอเมริกากลาง

36. ทรัพยากรทางธรรมชาติ
: ได้แก่ เงิน ทองคา ตะกัว ยูเรเนียม ฟลูออไรต์
่
พลวง สังกะสี เหล็ก ทองแดง ปิ โตรเลียม ซึงมีการใช้อย่างประหยัด
่
4. แร่ธาตุ

37. ทรัพยากรทางธรรมชาติ
: ทีสาคัญหลายแห่ง เช่น ดิสนีย์แลนด์
่
พิพธภัณฑ์ กาสิโน ทิวทัศน์ทสวยสดงดงาม แกรนด์แคนยอน น้าตกไนแอ
ิ
ี่
การา หาดไวกิกเิ กาะฮาวาย ฯ
5. แหล่งนันทนาการ

38. สภาพแวดล้อมสังคมและวัฒนธรรม
ประวัตศาสตร์
ิ
อาณาจักรของชนพืนเมือง ได้แก่
้
1. อาณาจักรแอซเต็ก (เม็กซิโกปัจจุบน)
ั
2. อาณาจักรมายา (อเมริกากลาง และตอนใต้ของอาณาจักร
แอซเต็กเจริญมาก่อนแอซเต็กเสือมลง แอซเต็กมายึดครอง)
่

39. สมัยสารวจและตั้งอาณานิคม
- ผู บุกเบิก เป็ นสเปนและโปรตุเกส
้
- บุคคลสาคัญ คือ
1. คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (อิตาลี) ออกเดินทางจากสเปน
(พ.ศ.2035) ใช้เวลา 2 เดือน เดินทางถึงหมู่เกาะอินดิสตะวันตก
2. อเมริโก เวสปุคซี (อิตาลี) สารวจอเมริกาเหนือใต้ โดยการ
สนับสนุนของกษัตริย์ของสเปนและโปรตุเกสถึง 4 ครัง และได้เขียนบันทึก
้
ออกเผยแพร่ ทาให้ได้รบการยกย่องโยการใช้ชอเป็ นชือทวีป
ั
ื่ ่

40. การก่อตั้งอาณานิคมของสเปน
เป็ นชาติแรกทีไ่ ปก่อตังอาณานิคม สเปนมีความสนใจในภาคใต้ของ
้
ทวีป คือ เม็กซิโก อเมริกากลาง และหมู่เกาะอินดิสตะวันตก เมือสเปนยก
่
ทัพขึนบก ก็ปราบอาณาจักณแอซเต็ก และตังชืออาณานิคมว่า นิวสเปน
้
้ ่
ยึดตอนใต้ของอเมริกาและลงมาทางใต้ ถึงอเมริกาใต้
ชาวอินเดียนนันปลูก ข้าวโพด มันสาปะหลัง ยาสูบ
้
ชาวสเปนนันปลูก ข้าวสาลี ฝ้ าย อ้อย ข้าวเจ้า เลียงม้า วัว ลา ล่อ
้
้

41. การก่อตั้งอาณานิคมของฝรั่งเศส
ฝรังเศสจับจองภาคตะวันออกแคนาดาตังแต่ แม่น้าเซนต์ลอเรนซ์
่
้
จนถึงทะเลสาบเกรทเลกส์ และเรียกอาณานิคมนีว่า นิวฟรานซ์ และขยาย
้
อาณานิคมลงมาทางใต้จนถึงอ่าวเม็กซิโก แต่ต่อมาฝรังเศสต้องเสีย นิวฟ
่
รานซ์ ให้แก่องกฤษ ซึงมีกาบังเรือทีเ่ ข้มแข็งกว่า
ั
่

42. การก่อตั้งอาณานิคมของอั งกฤษ
จากการสารวจของ จอห์น แคบอด อังกฤษจับจ้องดินแดนบริเวณ
ชายฝั่ งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา เรียกว่า เวอร์จิเนีย เป็ นแห่งแรก และ
เพิมขึนเป็ น 13 แห่ง การตังถินฐานของอังกฤษนัน ต้องการตังถินฐาน
่ ้
้ ่
้
้ ่
ถาวรด้วยกาลังกายของพวกตน ซึงต่างจากฝรังเศสและสเปน ทีเ่ ข้ามา
่
่
เพือแสวงโชค
่

43. การก่อตั้งอาณานิคมของฮอลันดา
โดยการสารวจของ เฮนรี ฮัดสัน ไปจับจองบริเวณปากแม่น้าฮัดสัน
อ่าวฮัดสัน เรียกว่า นิวฮอลแลนด์ ต่อมาได้ถูกอังกฤษยึดไป

44. ประชากร
ทวีปอเมริกาเหนือมีประชากรประมาณ 503.50 ล้านคน โดย
ประเทศทีมประชากรหนาแน่นตามลาดับได้แก่
่ี
อันดับที่ 1 สหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 2 เม็กซิโก
อันดับที่ 3 แคนาดา
ส่วนอเมริกากลางและหมู่เกาะจะมีประชากรน้อย เพราะเป็ นประเทศทีม ี
่
ขนาดเล็ก

45. ประชากร
แหล่งทีมประชากรอาศัยกันอยู่หนาแน่น คือ
่ี
- ภาคตะวันออกสหรัฐอเมริกาและแคนาดา (นิวยอร์ก ชิคาโก ฟิ ลาเดล
เฟี ย)
- ชายฝั่ งตะวันตกของแคนาดา (รัฐบริตชโคลัมเบีย เมืองแวนคูเวอร์ )
ิ
และสหรัฐอเมริกา (รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซานฟานซิสโกและลอสแองเจลิส)
- ทีราบสูงเม็กซิโก เม็กซิโกซิต้มประชากรมากทีสุดของทวีปอเมริกา
่
ีี
่
เหนือ
- หมูเ่ กาะอินดิสตะวันตก เมืองฮาวานา ของคิวบา มีประชากรมากทีสุด
่

46. เชื้อชาติ
1.กลุ่มคนพืนเมืองเดิม ได้แก่ พวกอินเดียน พวกเอสกิโม อยู่
้
ในแคนาดาและแอลาสกา
2. กลุ่มเชือสายยุโรป ได้แก่ สเปน อังกฤษ ฝรังเศส
้
่
เยอรมนี โปรตุเกส
3. กลุ่มเชือสายชาวแอฟริกานิโก คือ พวกทาสเดิมเป็ น
้
อเมริกนนิโก
ั
4. กลุ่มเชือสายเอเชีย ได้แก่ จีน ญีปุ่น อินเดีย ฟิ ลปปิ นส์
้
่
ิ

47. เชื้อชาติ
4. กลุมเชือสายเอเชีย ได้แก่ จีน ญีปุ่น อินเดีย ฟิ ลปปิ นส์
่ ้
่
ิ
5. กลุมคนเลือดผสม ได้แก่
่
- พวกมูแลตโต ผสมระหว่างผิวขาวกับนิโก
- พวกเมสติโซ ผสมระหว่างผิวขาวกับอินเดียน
- พวกแซมโป ผสมระหว่างนิโกกับอินเดียน

48. ลักษณะเศรษฐกิจ
เกษตรกรรม
1. เกษตรแบบผสม พืชทีปลูก คือ ข้าวโพด ข้าวสาลี สัตว์ท ี่
่
เลียงคือ โคเนือ โคนม สุกร แกะ เขตนีครอบคลุมตังแต่ตะวันออก
้
้
้
้
ของแคนาดา ถึงสหรัฐอเมริกา (แอตแลนติกถึงแม่น้ามิสซีสซิปปี่
เกตเลกต์)
2. เขตปลูกผักผลไม้ ชายฝั่ งแอตแลนติก และภาคใต้ของ
แคลิฟอร์เนีย ยาสูบรัฐเวอร์จเิ นีย จอเจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

49. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
เกษตรกรรม
3. เขตปลูกข้าวสาลี ภาคภาคกลางของแคนาดา(เขตแพรี)และ
่
อเมริกา สาคัญทีสุดในโลก
่
4. เขตปลูกฝ้ าย บริเวณภาคใต้ (เทกซัส) และตะวันตก (แอริโซนา)
ของสหรัฐอเมริกา
5. เขตทาไร่ปศุสตว์ ทีราบสูงด้านตะวันตกของแคนาดาและ
ั ่
สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก ส่วนใหญ่เลียงวัว
้
6. เขตปลูกพืชเมืองร้อน อเมริกากลางและหมู่เกาะอินดิสตะวันตก
ปลูกกล้วย อ้อย ยาสูบ ฝ้ าย โกโก้

50. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
ปาไม้
่
- อเมริกาเหนือผลิตไม้ได้มากเป็ นอันดับ 2 รองจากยุโรป ไม้มมาก
ี
ทีแคนาดา อลาสกา และตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
่
- ไม้สนเป็ นไม้สาคัญทีสุด ผลิตกระดาษ (แคนาดา)
่

51. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
การประมง
แหล่งประมงทีสาคัญทีสุดของอเมริกาเหนือ คือ เกาะนิวฟั นต์แลนด์
่
่
เรียกว่า แกรนด์ แบงก์ (กระแสน้าอุ่นกัลฟ์ สตรีม–เย็นแลบราดอร์)

52. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
เหมืองแร่
1. แร่ถ่านหิน ทีเ่ ทือกเขาแอปปาเลเซียนภาคกลางของสหรัฐอเมริกา
คิวเบกในแคนาดา โนวาสโกเซียและรอกกี้
2. น้ามันดิบ ทีภูเขาแอปปาเลเซียน แม่น้ามิสซิสซิปปี อ่าวเม็กซิโก
่
แคลิฟอร์เนีย และแอลาสกาบริเวณภาคกลางของสหรัฐอเมริกา และอ่าว
เม็กซิโก
3. เหล็ก บริเวณเกรทเลก(สุพเี รีย) ควิเบก (แคนาดา)
4. ทองคา เงิน พบมากในแคลิฟอร์เนีย ร๊อกกี่ แอลาสกา

53. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
อุตสาหกรรม
1. ศูนย์กลางอุ ตสาหกรรมอุ ตสาหกรรมใหญ่ทสุด คือ
ี่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของสหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก ฟิ ลาเดล
เฟี ย บัลติมอร์ ครีฟแลนด์ ดีทรอยด์ ชิคาโก)เช่น อุ ตสาหกรรมถลุงเหล็ก
เหล็กกล้า รถยนต์ เครืองใช้ไฟฟา เครืองจักรทางการเกษตร กลันน้ามัน
่
้
่
่
ภาคตะวันตก คือ ลอสแองเจลิส ศูนย์กลางกลันน้ามัน เครืองบิน
่
่
เครืองอีเล็กทรอนิกส์
่

54. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
2. ศูนย์กลางอุ ตสาหกรรมของแคนาดา อยู่ทบริเวณ แม่น้าเซต์
ี่
ลอเรนซ์และทีทะเลสาบเกรทเลก เมืองคิวเบก มอนตริออล โตรอนโต เช่น
่
อุ ตสาหกรรมกระดาษ ถลุงเหล็ก เครืองจักร การเกษตร
่

55. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
การค้าขาย
เป็ นตลาดการค้าสาคัญของโลก ประเทศสหรัฐอเมริกาทาการ
ค้าขายกับประเทศแคนาดา เม็กซิโก โดยในกลุมอเมริกากลางจะค้าขาย
่
วัตถุดบ และนาเข้าสินค้าอุ ตสาหกรรมจากกลุมประเทศอุ ตสาหกรรม
ิ
่
อเมริกา แคนาดา และทาการค้าขายกับทวีปอืน ๆ ทัวโลก
่
่

56. ลักษณะเศรษฐกิจ (ต่อ)
- สินค้าออกทีสาคัญ คือ เครืองจักรกล ยานยนต์ เครืองบิน
่
่
่
ยุทโธปกรณ์ เคมีภณฑ์ ผลิตภัณฑ์อาหาร ไม้ ยาสูบ
ั
- สินค้าเข้า คือ วัตถุดบสาหรับโรงงานอุ ตสาหกรรม ผู นาใน
ิ
้
ทวีปอเมริกาเหนือทัง 3 ชาติ คือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก
้
รวมกลุมกัน จัดตังเป็ น เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา
่
้
(NAFTA) เพือต่อรองและถ่วงดุลอานาจกับประชาคมยุโรป
่

57. การปกครอง
1. ดินแดนทีเ่ ป็ นอาณานิคม คือ เกาะกรีนแลนด์ (เดนมาร์ก)
เกาะเปอร์โตริโก (สหรัฐอเมริกา)
2. รูปแบบการปกครอง คือ รัฐบาลรวม และรัฐเดียว
่
มีรฐบาลรวมอยู่ 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา 50 มลรัฐ
ั
แคนาดา 10 มณฑล
เม็กซิโก 31 รัฐ

58. ตาแหน่งประมุข
1. แบบประธานาธิบดี ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก กัวเตมาลา
ปานามา คิวบา ฮอนดูรส เอลซัลวาดอร์
ั
2. แบบมีกษัตริย์เป็ นประมุข ได้แก่ ประเทศทีเ่ คยตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษมาก่อน เมือได้รบเอกราชแล้วยังคงอยู่ในเครือจักรภพอังกฤษ
่ ั
ยอมรับกษัตริย์ของอังกฤษเป็ นประมุข กษัตริย์จะแต่งตังคนในท้องถินเป็ น
้
่
ข้าหลวงใหญ่ ปฏิบตงานแทน ได้แก่ แคนาดา แบลีซบาฮามาส จาไมกา
ัิ
บาร์เบโดส เกนาดา เป็ นต้น

59. ตาแหน่งประมุข
2. แบบมีกษัตริย์เป็ นประมุข ได้แก่ ประเทศทีเ่ คยตกเป็ นอาณานิคม
ของอังกฤษมาก่อน เมือได้รบเอกราชแล้วยังคงอยู่ในเครือจักรภพอังกฤษ
่ ั
ยอมรับกษัตริย์ของอังกฤษเป็ นประมุข กษัตริย์จะแต่งตังคนในท้องถินเป็ น
้
่
ข้าหลวงใหญ่ ปฏิบตงานแทน ได้แก่ แคนาดา แบลีซบาฮามาส จาไมกา
ัิ
บาร์เบโดส เกนาดา เป็ นต้น

60. ลักษณะทางวัฒนธรรม
แบ่งออกเป็ น 2 เขตวัฒนธรรม คือ
1. แองโกลอเมริกา (อเมริกาและแคนาดา) รับวัฒนธรรมมาจาก
อังกฤษ
2. ลาตินอเมริการับวัฒนธรรมจากสเปนและโปรตุเกส

61. ลักษณะทางวัฒนธรรม (ต่อ)
ภาษา
- แองโกลอเมริกา (อเมริกาและแคนาดา) ใช้ภาษาอังกฤษและ
ฝรังเศส รับวัฒนธรรมมาจากอังกฤษ
่
- ลาตินอเมริกา รับวัฒนธรรมมาจากสเปนและโปรตุเกส โดยใช้
ภาษาลาติน

62. ลักษณะทางวัฒนธรรม (ต่อ)
ศาสนา
- ในเขตแองโกลอเมริกา (สหรัฐอเมริกาและแคนาดา) จะนับถือ
ศาสนาคริสต์นกายโปแตสแตนซ์มากกว่าโรมันคาทอลิค
ิ
- ส่วนในลาตินอเมริกาจะนับถือโรมันคาทอลิคมากกว่า

63. ลักษณะทางสังคมของกลุ่มแองโกล - อเมริกา
1. เป็ นสังคมของประเทศทีมงคัง มีมาตรฐานการครองชีพสูง
่ ั่ ่
2. เป็ นสังคมประชาธิปไตย ประชากรมีอสรภาพ เสรีภาพ ให้
ิ
ความสาคัญกับสิทธิมนุษยชนสูง
3. เป็ นสังคมเมืองมากกว่าสังคมชนบท
4. เป็ นสังคมอุ ตสาหกรรม และพาณิชยกรรม
5. ประชากรได้รบความสะดวกสบาย
ั

64. ลักษณะทางสังคมของกลุ่มละตินอเมริกา
1. เป็ นสังคมของประเทศยากจน ประชากรมีรายได้ต่า
2. เป็ นสังคมกึงประชาธิปไตย กึงเผด็จการ มีการปฏิวต ิ
่
่
ั
รัฐประหารบ่อย บางประเทศ เช่น คิวบาเป็ นคอมมิวนิสต์ เป็ นต้น
3. เป็ นสังคมชนบทมากกว่าสังคมเมือง
4. ส่วนใหญ่เป็ นประเทศเกษตรกรรม
5. เป็ นสังคมทีนบถือสิงศักดิสทธิ์
่ั ่ ์ิ

65. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
ความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศไทย และทวีปอเมริกาเหนือด้านต่างๆ ดังนี้
1. ความสัมพันธ์ ด้านการค้า
2. ความสัมพันธ์ ด้านการฑูต
3. ความสัมพันธ์ ด้านการศึกษา และการกีฬา
4. ความสัมพันธ์ ด้านวัฒนธรรม

66. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความสัมพันธ์ กบประเทศไทยทางด้านต่างๆดังนี้
ั
- มีความสัมพันธ์ ทางการค้าและการฑูตตังแต่สมัยรัชกาลที่ 3
้
ทาสนธิสญญาทางไมตรีและการค้า และแก้ไขสนธิสญญาทีไ่ ทยเสียเปรียบ
ั
ั
ต่างประเทศ มีการแลกเปลียนฑูตซึงกันและกัน
่
่
- มีมชชันนารีอเมริกน นาวิทยาการใหม่ๆเข้ามาเผยแพร่ในประเทศ
ิ
ั
ไทย เช่นการศึกษาศาสนา และการแพทย์ เป็ นต้น

67. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
- มีชาวอเมริกนเข้ามารับราชการในประเทศไทยหลายคนช่วยพัฒนาระบบ
ั
ราชการไทยให้ก้าวหน้า
- พระราชวงศ์ไทยหลายพระองค์เคยเสด็จไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา
เช่น พระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนี เสด็จไปศึกษาวิชาแพทย์
และพยาบาล เป็ นต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ทรงประสูตทประเทศ
ั
ิ ี่
สหรัฐอเมริกา

68. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
- ประเทศไทยได้รบความร่วมมือและช่วยเหลือทังในภาครัฐบาล และ
ั
้
ภาค เอกชนในด้านเศรษฐกิจ วิชาการ การเมือง การทหาร การกีฬา
- สหรัฐอเมริกาและไทยได้ร่วมกันปรับปรุงการคมนาคมและการ
สือสารให้ขยายไปตามภูมภาคต่างๆ ส่งเสริมด้านเกษตรกรรม
่
ิ
อุ ตสาหกรรม การบินพาณิชย์ ช่วยเหลือในการฝึ กอบรมด้านวิชาชีพมาก
ขึน
้

69. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
- ประเทศไทยได้รบความช่วยเหลือ จากองค์กรต่างๆของเอกชน ใน
ั
รูปของ มูลนิธิ และสถาบันต่างๆ เช่น มูลนิธรอกกีเฟลเลอร์ มูลนิธฟอร์ด
ิ็
ิ
มูลนิธิ เอเชีย โครงการแลกเปลียนนักเรียน AFS เป็ นต้น
่
- มีนกศึกษา และประชากรไทย เดินทางไปศึกษาต่อ และตังถินฐานใน
ั
้ ่
ประเทศสหรัฐอเมริกา จานวนมาก และมีนกท่องเทียว และชาวอเมริกนเดินทาง
ั
่
ั
มาดาเนินธุรกิจในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

70. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
ประเทศแคนาดา
มีความสัมพันธ์ กบประเทศไทยทางด้านเศรษฐกิจเป็ นส่วนใหญ่ มี
ั
การซื้อขาย แลกเปลียนสินค้า และวัตถุดบ โดยมีแนวโน้มเพิมขึนเรือยๆ
่
ิ
่ ้ ่
สินค้าทีไ่ ทยส่งไปจาหน่ายในแคนาดา ได้แก่ แป้ งมันสัมปะหลัง นุ่น อัญมณี
ผ้าไหม เครืองถม ดีบุก สินค้าแคนาดาทีส่งมาจาหน่ายในประเทศไทย คือ
่
่
กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ แร่อะลูมเิ นียม เครืองจักรกล และเครือง
่
่
เคมีภณฑ์
ั

71. ความสัมพันธ์ ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับ
ประเทศไทย
- ประเทศไทย และแคนาดา เป็ นสมาชิกองค์การแผนการโคลัมโบ
(Columbo Plan) มีการให้ความร่วมมือ และช่วยเหลือประเทศไทยใน
ด้านเศรษฐกิจ และวิชาการ
- ประเทศเม็กซิโก มีความสัมพันธ์ ในด้านการฑูต และการค้า การ
กีฬา และการท่องเทียว ส่วนใหญ่จะเป็ นการติดต่อในภาคเอกชน
่

72. ภาพประกอบ
อะแลสกา
น้าตกไนแองการ่า
ภูเขารัชมอร์
เกาะฮาวาย