More Related Content Similar to A2 thai-history
Similar to A2 thai-history (20) More from ธีรพงศ์ อ่อนอก (9) A2 thai-history2. 1. การตั้งหลักแหล่งสมัยก่อนประวัติศาสตร์
1. การตั้งถิ่นฐานในยุคหิน (ประมาณ 2,000,000-5,500 ปีมาแล้ว)
สันนิษฐานว่าดินแดนในประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านของมนุษย์ในยุคแรกเริ่มจากเขต
ภาคพื้นทวีปลงไปสู่หมู่เกาะทางตอนล่าง เนื่องจากค้นพบเครื่องมือหินกะเทาะยุคแรก ๆ
ภาคเหนือ แหล่งโบราณคดีแม่ทะ จังหวัดลาปาง
ภาคใต้แหล่งโบราณคดีถ้าหลังโรงเรียน จังหวัดกระบี่
ร่องรอยการตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชนในเขตประเทศไทยส่วนใหญ่มีอายุประมาณ
5,000 ปีลงมา พบในบริเวณถ้าและเพิงผาของแนวเขาทั่วทุกภาค โดยเฉพาะทิวเขาด้าน
ตะวันตกจากภาคเหนือทอดยาวต่อเนื่องลงสู่คาบสมุทรภาคใต้คือ มีถ้าและเพิงผาใกล้
แหล่งน้า มีทรัพยากรธรรมชาติที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตอย่างอุดมสมบูรณ์ เช่น น้า
อาหารทั้งพืชและสัตว์แร่ธาตุที่นามาทาเครื่องมือเครื่องใช้และอาวุธ
4. แหล่งภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ค่ายประตูผา อยู่ในเขตอาเภอแม่เมาะ อยู่บริเวณหน้าผาด้านหลัง
ศาลเจ้าพ่อประตูผา พบเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๑ เป็นภาพเขียนสีขนาดใหญ่ ที่ผนังเพิงผา ซึ่งเป็นหน้าผาชันสูง
ประมาณ ๕๐ เมตร ยาวตลอดแนวของเขา พื้นดินมีลักษณะเป็นดินฝุ่นสีน้าตาลแดงเข้ม ถัดจากเพิงผาลงไป
เป็นลาดไหล่เขาค่อนข้างชัน
เครื่องมือหินกะเทาะพบที่เขาป่ าหนาม บ้านแม่ทะ และบ้านดอนมูล จังหวัดลาปางเครื่องมือหินกะเทาะ
ทั้งสองแห่งนี้พบอยู่ใต้ชั้นหินบะซอลต์ซึ่งเป็นการทับถม ของลาวาภูเขาไฟ อายุราว700,000ปีมาแล้ว แต่ไม่มี
การพบร่องรอยของมนุษย์แต่อย่างใด ร่องรอยของมนุษย์เก่าแก่ที่สุดคือ ฟันมนุษย์ที่ถ้าวิมานนาคินทร์ อาเภอ
คอนสาร จังหวัดชัยภูมิกาหนดอายุได้ในราว180,000 ปีมาแล้ว
5. แหล่งโบราณคดีถ้าหลังโรงเรียน
หลักฐานที่พบมีอายุประมาณ ๒๗,๐๐๐ - ๓๗,๐๐๐ ปี นับเป็นแหล่งที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลักฐานทางโบราณคดีที่พบได้แก่ หลุมฝังศพและโครงกระดูก เศษ
ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบ เครื่องมือหิน เครื่องมือทาจากเขาสัตว์และกระดูก กระดูกสัตว์ขนาดใหญ่และ
เปลือกหอย
เครื่องมือในยุคนี้ที่พบในถ้าหลังโรงเรียน ส่วนมากเป็นเครื่องมือหินกะเทาะที่มีการแต่งขอบภายหลัง
ดังเช่นที่พบในจีนและอินโดนีเซีย เครื่องมือหินเหล่านี้คงใช้ในการดารงชีวิตแบบล่าสัตว์และเก็บพืชผลป่า
มาบริโภค
6. 1.1 แหล่งโบราณคดีถ้าผีแมน ลาน้าปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อายุประมาณ 5,000 ปี
ชุมชนที่อาศัยอยู่ในเขตนี้คงพัฒนาจากยุคหินกลางเข้าสู่ยุคหินใหม่ รู้จักการเพาะปลูก
เนื่องจากได้พบเมล็ดข้าวและเมล็ดพืชบางชนิดในบริเวณหลุมฝังศพ ยังพบโลงศพไม้ที่เป็น
รูปเรือขุดจานวนมาก แสดงถึงการใช้เรือเป็นพาหนะในการติดต่อระหว่างชุมชน
รูปวาดลายเส้นโลงไม้รูปเรือ
9. 1.2 แหล่งโบราณคดีออบหลวง ลาน้าปิง จังหวัดเชียงใหม่ คือ ภาพเขียนสีรูปคนกับช้าง
แสดงการประกอบพิธีกรรมของคนในชุมชน
ขุดค้นพบโบราณวัตถุและหลักฐานทางโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์จานวนมาก เช่น
เครื่องมือหินกระเทาะแกนหินและสะเก็ดหิน ขวานหินขัด ชิ้นส่วน เครื่องประดับและภาชนะสาริด
ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบ ที่สาคัญคือ พบโครงกระดูกของมนุษย์ในสมัยยุคสาริด มีอายุระหว่าง 2,500 -
3,500ปี ก่อนคริสตกา
11. 1.3 แหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้าแควน้อย แควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี มีอายุประมาณ
5,000- 3,000 ปี พบหลักฐานแสดงการเข้ามาอยู่อาศัยของมนุษย์หลายเผ่าพันธุ์ตามบริเวณถ้า
ต่าง ๆ ริมแม่น้าแควทั้ง 2 สาย
เริ่มตั้งแต่สมัยเริ่มกาเนิดมีมนุษย์ขึ้นในโลก จากสภาพภูมิศาสตร์ที่มีภูเขา แม่น้า ป่าไม้สิงสาราสัตว์
มากมาย เหมาะที่จะเป็นที่ตั้งอาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบหลักฐานทางด้าน
โบราณคดีมากมายได้แก่ เครื่องมือหินกะเทาะ เครื่องมือสมัยหินใหม่ เครื่องมือสมัยโลหะ โครงกระดูก
มนุษย์ภาชนะดินเผา เครื่องประดับ ภาพเขียนสีที่ผนังถ้า โลงศพ ฯลฯ ตามถ้าเพิงผา และตามลาน้าแคว
น้อยแควใหญ่ ตลอดไปจนลุ่มแม่น้าแม่กลอง
12. ภาชนะดินเผาทรงคล้ายหม้อ มีขาทรงกรวยสามขา อายุราว 4,000-3,000 ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีบ้านเก่า
ตาบลบ้านเก่า อาเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ตั้งอยู่บริเวณริมห้วยสาขาของแม่น้าแควน้อย ที่แสดงถึงการติดต่อกัน
ของชุมชนภายในผืนแผ่นดินใหญ่ในเอเชีย ขาทั้ง 3 ขา ที่ติดอยู่บนภาชนะมีสัน มีลักษณะทรงกรวยกลวง บริเวณ
ส่วนบนหรือส่วนล่างของขาเจาะรู 1 – 2 รู เข้าใจว่าเป็นรูสาหรับระบายความร้อนในการเผา ซึ่งขาจะถูกทาขึ้นคนละ
ครั้งแล้วนามาติดกับตัวภาชนะ
18. ตารางจาแนกตัวอย่างโครงกระดูกจากแหล่งโบราณโคกพนมดี ตามเพศและค่าประเมินอายุเมื่อตาย
อายุ/ เพศ เพศชาย เพศหญิง
จาแนกเพศ
ไม่ได้
รวม
ทารก (0-2 ปี) 72 72
เด็ก (2-12 ปี) 14 14
วัยรุ่น (12-20 ปี) 5 3 8
วัยหนุ่ม (20-35 ปี) 22 20 42
วัยกลางคน (35-50 ปี) 5 12 17
วัยสูงอายุ (มากกว่า50 ปี) 1 1
รวม 32 36 86 154
ที่มา: ประพิศ พงษ์มาศ ชูศิริ, ผลการวิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์ที่แหล่งโบราณคดีโคกพนมดี.
(กรุงเทพฯ: โครงการสารวจแหล่งโบราณคดี ฝ่ ายวิชาการ กองโบราณคดี, 2534), 40-48.
19. 1.5 แหล่งโบราณคดีบริเวณลุ่มน้าป่ าสัก-ลพบุรี เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่เติบโตขึ้นมา
ในยุคหินใหม่ประมาณ 4,000 ปีลงมา มีทั้งการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์และหาของป่า มี
พัฒนาการขึ้นเป็นเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองทางการค้าในยุคโลหะ
ภาชนะดินเผาลวดลายจักสาน พบเป็นจานวนมาก เป็นภาชนะเด่นในกลุ่ม แหล่ง
โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในบริเวณลุ่มน้าลพบุรี - ป่าสัก
21. แหล่งโบราณคดี ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.โนนสูง 5 จุด คือ จุดที่ 1 บ้านหลุมข้าว ต.หลุมข้าว, จุดที่ 2 บ้านปราสาท ต.ธารปราสาท,
จุดที่ 3 โนนเมืองเก่า บ้านดงพลอง ต.หลุมข้าว, จุดที่ 4 เนินอุโลก บ้านหนองนาตูม ต.พลสงคราม ซึ่งทั้ง 4 จุดนี้ ได้มีการขุดพบ
โบราณวัตถุก่อนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ อายุกว่า 2,500-3,000 ปี และจุดที่ 5 คือ จุดบ้านโนนวัด ต.พลสงคราม เป็นจุดที่ค้นพบ
โบราณวัตถุ และโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุกว่า 4,500 ปี ที่แขน 2 ข้างของโครงกระดูกใส่กาไลเปลือกหอยทะเลเต็มทั้ง 2 แขน
24. 2. การตั้งหลักแหล่งในยุคโลหะ (ประมาณ 4,000-1,500 ปีมาแล้ว)
มีการพัฒนาการขึ้นเป็นสังคมเมืองที่เป็นระเบียบ จัดรูปแบบการปกครอง แบ่งชน
ชั้นในสังคมตามบทบาทหน้าที่และเผ่าพันธุ์ ยุคโลหะในประเทศไทยแบ่งย่อยเป็น 2 ระยะ
คือ ยุคสาริด โดยการนาแร่ทองแดงและดีบุกมาหลอมรวมกันเป็นสาริด ใช้ผลิตเครื่องมือ
เครื่องใช้และเครื่องประดับ ในระยะต่อมาจึงมีการนาแร่เหล็กที่มีความแข็งแกร่งกว่ามาใช้
แทนสาริด
25. 2.1 แหล่งโบราณคดีลุ่มน้าป่ าสัก-ลพบุรี คือ เขตชุมชนเก่าในยุคหินใหม่ที่มีความอุดม
สมบูรณ์ในฐานะแหล่งเกษตรกรรม เป็นแหล่งถลุงโลหะและสินค้าของป่าเพื่อการค้า รวมทั้ง
มีทาเลอยู่ริมลาน้าใหญ่ใกล้ปากอ่าว สามารถเป็นสื่อกลางในการติดต่อระหว่างชุมชนชายฝั่ง
ทะเลกับชุมชนที่อยู่ลึกเข้าไปภายในได้สะดวก แหล่งโบราณคดีสาคัญ ได้แก่ ท่าแค พุน้อย
โนนป่าหวาย ห้วยใหญ่ ห้วยโป่ง และซับจาปา
ระฆังรูปไก่ เป็นเทคโนโลยีการหล่อสาริดรูปสัตว์ที่สวยงาม
อายุในราว 2,000 ปี จากลุ่มน้าป่าสัก ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
26. 2.1.1 บ้านท่าแค ผลจากขุดค้นทางโบราณคดีได้พบชั้นวัฒนธรรมหลายสมัย โดย
สมัยที่เก่าที่สุดกาหนดอายุได้ราว 3,000 – 2,500 ปี มีการพบหลุมฝังศพ เศษภาชนะดินเผาซึ่ง
ส่วนใหญ่มีเนื้อดินสีแดงทาเป็นลายขูดขีดและลายเชือกทาบ ขวานหินขัด กาไล ลูกปัดหิน
รวมทั้งเศษกาไลสาริด และกระดูกสัตว์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งหลักฐานที่พบที่บ้านท่าแคนี้เป็น
หลักฐานทางโบราณคดีที่มักพบทั่วไปในประเทศไทยที่เป็นวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์
ระดับหมู่บ้านเกษตรกรรม สมัยต่อมาพบภาชนะดินเผาที่มีวิวัฒนาการในด้านรูปทรง เช่น
ภาชนะก้นกลมสีน้าตาลปนแดงจนถึงน้าตาลเข้ม มีทั้งผิวขัดมันและลายกดประทับ รวมทั้ง
พบเศษเครื่องมือที่ทาจากโลหะกระจายอยู่ทั่วไป
28. 2.1.2 เมืองโบราณซับจาปา ปรากฏการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อน
ประวัติศาสตร์ จากการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น กาไลหิน แกนกาไลหิน กระดูกมนุษย์และภาชนะ
ดินเผาก่อนประวัติศาสตร์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีอายุประมาณ 3,000 – 2,500ปีมาแล้ว อีกทั้งโบราณวัตถุ
ประเภทศิลาจารึกประติมากรรมรูปต่าง ๆ สันนิฐานว่าในราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 13ชุมชนโบราณแห่งนี้
ได้รับวัฒนธรรมอินเดีย เช่น ศาสนา ความเชื่อ อักษร ภาษาศิลปกรรม และพัฒนาขึ้นเป็นเมือง พื้นที่บริเวณ
รอบๆ มีการขุดคูน้าเพื่อสร้างคันดินเป็นกาแพงเมืองล้อมรอบชุมชน และมีกษัตริย์ปกครองเมือง
30. กระบี่จอมยุทธ์ ด้ามสาริด ดาบเหล็ก ฝักกระบี่เป็นไม้ผุพังไปมากพบในแห่งโบราณคดียุคหิน- ทองแดง
เขตลุ่มน้าป่าสัก อาเภอลานารายณ์ อายุในราว 3,000 ปี
กระดิ่งหน้าคน จากลุ่มน้าป่าสัก
อายุประมาณ 2,000 ปี
ภาชนะสาริด ภายในมีร่องรอยของลูกปัดแก้ว
จากลุ่มน้าป่าสัก อายุประมาณ 2,000 ปี
.
39. เมืองโบราณคูบัว เป็นเมืองโบราณสมัยทวาราวดี ที่พัฒนาจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ เป็น
ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของชุมชนลุ่มแม่น้าแม่กลอง โดยมีฐานะเป็น
เมืองท่าทางการค้าริมแม่น้าสาคัญและชายฝั่งทะเลในยุคประวัติ ศาสตร์ มีการรับเอาแบบอย่าง
การดาเนินชีวิตในรูปแบบสังคมเมือง การนับถือพุทธศาสนา และการรู้จักใช้ตัวอักษรและ
หนังสือ
พบซากฐานเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐและฉาบปูนไว้พบพระพุทธรูปดินเผารูปพระโพธิสัตว์รูป
มนุษย์ยักษ์มาร สัตว์ต่าง ๆ และลวดลายประดับองค์เจดีย์ซึ่งทาด้วยดินเผา
ปูนชั้นชิ้นเอกของเมืองคูบัวภาพ "ปัญจดุริยสตรี" อันเป็นเอกลักษณ์ของทวารวดี
ที่นักดนตรีชั้นสูงกลับเป็น"หญิง"ในขณะที่ในอินเดียนักดนตรีจะเป็น"ชาย
43. 2.5 แหล่งโบราณคดีในแอ่งสกลนคร ประกอบด้วยกลุ่มบ้านเชียง อยู่บริเวณที่ราบ
ตอนบนของลาน้าสงครามซึ่งไหลลงลาน้าโขง และกลุ่มโพนชัยบริเวณที่ราบตอนบนของลาน้า
ชีซึ่งจะไหลลงไปสมทบกับลาน้ามูล
วัฒนธรรมบ้านเชียง (ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดอุดรธานี) ชุมชนวัฒนธรรมบ้านเชียงมี
พัฒนาการต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคหินกลาง เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก
ความสาคัญโดดเด่นอยู่ที่ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีโลหะกรรมระดับสูงในการผลิต
เครื่องสาริดเป็นเครื่องใช้อาวุธ และเครื่องประดับ รวมทั้งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีลักษณะ
เฉพาะตัว คือ เขียนลวดลายก้นหอยสีแดงบนพื้นผิวภาชนะสีนวล
เครื่องมือประเภทขวานปล่องและ
เครื่องประดับ เบ้าหลอม จาก
วัฒนธรรมลุ่มน้าสงคราม แหล่ง
โบราณคดีบ้านเชียง อุดรธานี และ
ภูมิภาคในเขตจังหวัดสกลนคร อายุ
ในราว 4,500 ปี - 2,000 ปี