ว่าด้วยเหตุที่ยังไม่ให้ลูกสาว พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้มีภัณฑะมากรูปหนึ่ง จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. เรื่องเป็นเช่นกับเรื่องที่กล่าวไว้ในเทวธรรมชาดก ในหนหลังนั่นแหละ. พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่า เธอเป็นผู้มีภัณฑะมากจริงหรือ? ภิกษุนั้นกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ. พระศาสดาตรัสถามว่า เพราะเหตุไร เธอจึงเป็นผู้มีภัณฑะมาก? ภิกษุนั้นพอได้ฟังพระดำรัสมีประมาณเท่านี้ ก็โกรธจึงทิ้งผ้านุ่งผ้าห่ม คิดว่า บัดนี้ เราจักเที่ยวไปโดยทำนองนี้แล แล้วได้ยืนเป็นคนเปลือยอยู่ ณ เบื้องพระพักตร์. คนทั้งหลายพากันกล่าวว่า น่าตำหนิ น่าตำหนิ. ภิกษุนั้นหลบไปจากที่นั้นแหละ แล้วเวียนมาเพื่อความเป็นคนเลว (คือสึก). ภิกษุทั้งหลายนั่งประชุมกันในโรงธรรมสภา พากันกล่าวโทษของภิกษุนั้นว่า กระทำกรรมเห็นปานนี้ เบื้องพระพักตร์ชื่อของพระศาสดา. พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งสนทนากันเรื่องอะไรหนอ? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ชื่อภิกษุนั้นละหิริและโอตตัปปะ เป็นคนเปลือยเหมือนเด็กชาวบ้านในท่ามกลางบริษัท ๔ เบื้องหน้าพระองค์ ผู้อันคนทั้งหลายรังเกียจอยู่ จึงเวียนมาเพื่อความเป็นคนเลว เสื่อมจากพระศาสนา ดังนั้น ข้าพระองค์ทั้งหลายจึงนั่งประชุมกัน ด้วยการกล่าวโทษมิใช่คุณของภิกษุนั้น. พระศาสดาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นเสื่อมจากศาสนาคือพระรัตนะ ในบัดนี้เท่านั้นหามิได้ แม้ในกาลก่อนก็เป็นผู้เสื่อมแล้วจากอิตถีรัตนะเหมือนกัน. แล้วทรงนำอดีตนิทานมาว่า