SlideShare a Scribd company logo
1 of 15
ข้อมูลที่จะนำมำใช้ศึกษำสำมำรถแบ่งได้หลำยประเภทที่สำคัญมีดังนี้
1. กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมแหล่งที่มำของข้อมูล
2. กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมระยะเวลำที่จัดเก็บ
3. กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมลักษณะของข้อมูล
1.3.1 กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมแหล่งที่มำของข้อมูล
กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมแหล่งที่มำของข้อมูลเป็นกำรแบ่งประเภทของข้อมูล
โดยคำนึงว่ำ ผู้ใช้ข้อมูลเป็นผู้จัดเก็บข้อมูลเอง หรือเป็นข้อมูลที่บุคคลหรือหน่วยงำน
อื่นเป็นผู้จัดเก็บแล้วผู้ใช้เพียงแค่นำมำใช้ จึงแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) คือข้อมูลที่ผู้ใช้ดำเนินกำรเก็บรวบรวมจำก
เจ้ำของข้อมูลหรือต้นกำเนิดของข้อมูลโดยตรง
ตัวอย่ำงของข้อมูลปฐมภูมิ
1. ข้อมูลควำมพึงพอใจในสินค้ำที่เจ้ำของสินค้ำเก็บรวบรวมจำกผู้ใช้
สินค้ำหรือผู้บริโภคเป็นข้อมูลปฐมภูมิของเจ้ำของสินค้ำ
2. ข้อมูลกำรรักษำพยำบำลที่โรงพยำบำลบันทึกไว้ในประวัติผู้ป่วย
เป็นข้อมูลปฐมของโรงพยำบำล
3. ข้อมูลที่นักเรียนบันทึกจำกกำรทดลองฟิสิกส์ในห้องปฏิบัติกำร
ของโรงเรียน เป็นข้อมูลปฐมภูมิของนักเรียนที่ทำกำรทดลอง
1.3.1 กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมแหล่งที่มำของข้อมูล (ต่อ)
ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) คือข้อมูลที่ผู้ใช้ไม่ได้
ดำเนินกำรเก็บรวบรวมจำกเจ้ำของข้อมูลหรือต้นกำเนิดของข้อมูล
โดยตรง แต่ใช้ข้อมูลที่บุคคลหรือหน่วยงำนอื่นเก็บรวบรวมมำ ซึ่ง
ส่วนใหญ่ผู้ใช้มักจะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยภำครัฐซึ่งเป็นกำรเก็บ
รวบรวมข้อมูลตำมภำรกิจของหน่วยงำน
ตัวอย่ำงของข้อมูลทุติยภูมิ
1. สำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองจัดเก็บข้อมูลนักท่องเที่ยวที่เดินทำงเข้ำมำในประเทศ
ไทยในช่วงไตรมำสหนึ่ง ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลปฐมภูมิของสำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง
แต่เป็นข้อมูลทุติยภูมิสำหรับผู้วิจัยหรือผู้ศึกษำอื่นที่นำข้อมูลนี้มำวิเครำะห์เพื่อหำ
คำตอบที่สนใจ
2. โรงเรียนจัดเก็บข้อมูลทะเบียนประวัติของนักเรียน ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ
ของโรงเรียนเนื่องจำกโรงเรียนเป็นผู้จัดเก็บจำกนักเรียนซึ่งเป็นเจ้ำของข้อมูล แต่
เมื่อโรงเรียนส่งรำยงำนข้อมูลไปยังเขตพื้นที่กำรศึกษำ ข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูล ทุติย
ภูมิของเขตพื้นที่กำรศึกษำ
ตัวอย่ำงของข้อมูลทุติยภูมิ
1. สำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองจัดเก็บข้อมูลนักท่องเที่ยวที่เดินทำงเข้ำมำ
ในประเทศไทยในช่วงไตรมำสหนึ่ง ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลปฐมภูมิของ
สำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง แต่เป็นข้อมูลทุติยภูมิสำหรับผู้วิจัยหรือผู้
ศึกษำอื่นที่นำข้อมูลนี้มำวิเครำะห์เพื่อหำคำตอบที่สนใจ
2. โรงเรียนจัดเก็บข้อมูลทะเบียนประวัติของนักเรียน ข้อมูลนี้เป็นข้อมูล
ปฐมภูมิของโรงเรียนเนื่องจำกโรงเรียนเป็นผู้จัดเก็บจำกนักเรียนซึ่งเป็น
เจ้ำของข้อมูล แต่เมื่อโรงเรียนส่งรำยงำนข้อมูลไปยังเขตพื้นที่กำรศึกษำ
ข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูล ทุติยภูมิของเขตพื้นที่กำรศึกษำ
ข้อดีของข้อมูลทุติยภูมิคือผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลำและค่ำใช้จ่ำยในกำรเก็บรวบรวม
ข้อมูลเองสำมำรถนำข้อมูลที่มีผู้อื่นเก็บรวบรวมไว้แล้วมำใช้ได้เลย แต่อย่ำงไรก็
ตำมผู้ใช้จะต้องระมัดระวังในกำรนำข้อมูลประเภทนี้มำใช้ เนื่องจำกมีโอกำส
ผิดพลำดได้ง่ำย ดังนั้น กำรนำข้อมูลทุติยภูมิมำใช้จึงมีสิ่งสำคัญที่ควรจะพิจำรณำ
ดังต่อไปนี้
1. บุคคลหรือหน่วยงำนที่จัดทำรำยงำน บทควำม หรือเอกสำร มีควำมรู้
ควำมเชี่ยวชำญในเรื่องนั้น และมีควำมน่ำเชื่อถือหรือไม่ กำรเขียนอำศัยเหตุผล
และหลักวิชำกำรมำกน้อยเพียงใด และข้อมูลที่นำมำใช้ควรเป็นข้อมูลที่ผู้เขียน
เก็บรวบรวมมำเองโดยตรง
2. ควรเก็บรวบรวมข้อมูลจำกหลำยๆแหล่ง ถ้ำสำมำรถทำได้ เพื่อใช้ในกำร
ตรวจสอบว่ำข้อมูลที่ต้องกำรมีควำมผิดพลำดจำกกำรคัดลอกหรือเข้ำใจผิดหรือไม่
นอกจำกนี้ ผู้เก็บรวบรวมข้อมูลควรใช้ควำมรู้ควำมชำนำญของตนเองในเรื่องนั้นเพื่อ
พิจำรณำว่ำข้อมูลที่ได้มำมีควำมใกล้เคียงกับควำมเป็นจริงหรือไม่
3. พิจำรณำจำกลักษณะของข้อมูล ถ้ำเป็นข้อมูลที่เป็นข้อควำมจริง ข้อมูลที่ได้จำก
ทะเบียนหรือข้อมูลที่เป็นควำมคิดเห็นหรือเจตคติ ส่วนใหญ่มักจะมีควำมถูกต้องและ
เชื่อถือได้มำกแต่ถ้ำเป็นข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวหรือข้อมูลซึ่งผู้ตอบอำจต้องเสีย
ประโยชน์จำกกำรตอบข้อมูลอำจจะไม่ถูกต้องและเชื่อถือได้น้อย
4. ถ้ำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มำจำกกำรสำรวจตัวอย่ำง ควรจะต้องตรวจสอบวิธีกำร
ที่ใช้ในกำรเลือกตัวอย่ำง ขนำดตัวอย่ำง และวิธีกำรวิเครำะห์ข้อมูลว่ำเหมำะสม
หรือไม่
1.3.2 กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมระยะเวลำที่จัดเก็บ
กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมระยะเวลำที่จัดเก็บเป็นกำรแบ่งประเภทของข้อมูลโดย
พิจำรณำจำกช่วงเวลำที่มีข้อมูลเกิดขึ้นและมีกำรจัดเก็บ โดยแบ่งประเภทของข้อมูล
ออกเป็นข้อมูลอนุกรมเวลำและข้อมูลตัดขวำง
ข้อมูลอนุกรมเวลำ (Time series data) คือชุดข้อมูลที่เกิดขึ้นละจัดเก็บ
ตำมลำดับเวลำต่อเนื่องกันไปตลอดช่วง ๆ หนึ่ง
ข้อมูลอนุกรมเวลำสำมำรถแสดงกำรเปลี่ยนแปลงหรือกำรเคลื่อนไหวของ
ข้อมูลที่สนใจเมื่อเวลำเปลี่ยนไป ข้อมูลประเภทนี้จึงเป็นประโยชน์สำหรับกำรทำวิจัย
ระยะยำว เนื่องจำกทำให้ผู้วิจัยเห็นแนวโน้มของเรื่องนั้นได้ ตัวอย่ำงเช่น ยอดขำย
สินค้ำรำยเดือนตั้งแต่เดือนมกรำคม พ.ศ. 2558 ถึงเดือนธันวำคม พ.ศ. 2561 คือ
ยอดขำยสินค้ำที่เกิดขึ้นและมีกำรบันทึกในแต่ละเดือนว่ำเป็นเท่ำใดตลอดช่วงเวลำนั้น
ซึ่งเมื่อนำข้อมูลรำยเดือนมำเรียงต่อกันตำมลำดับเวลำ จะแสดงกำรเคลื่อนไหวขึ้นลง
ของยอดขำยสินค้ำรำยเดือนในช่วงนั้นว่ำเป็นอย่ำงไรเดือนใดมียอดขำยสูงสุดและ
เดือนใดมียอดขำยต่ำสุด ลักษณะกำรเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนไหวเมื่อเวลำ
เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่ำงไร
ข้อมูลตัดขวำง (Cross-sectional data) คือข้อมูลที่บอกสถำนะหรือสภำพ
ของสิ่งที่สนใจ ณ จุดหนึ่งของเวลำ
ตัวอย่ำงของข้อมูลตัดขวำง
1. จำนวนประชำกรของประเทศไทย ณ วันที่ 13 เมษำยน พ.ศ. 2562 โดยอำจแสดง
ว่ำมีประชำกรรวมทั้งสิ้นกี่คน เป็นเพศชำยและเพศหญิงกี่คน เป็นประชำกรอำยุน้อย
กว่ำ 1 ปี กี่คน เป็นประชำกรอำยุ 1-5 ปี กี่คน เป็นประชำกรสูงอำยุคือตั้งแต่ 65 ปี
ขึ้นไปกี่คน อำศัยอยู่ในแต่ละจังหวัดจำนวนเท่ำใด
2.รำยงำนผลกำรศึกษำของนักเรียนเมื่อสิ้นภำคกำรศึกษำ เนื่องจำกเป็นกำรแสดง
สถำนภำพทำงกำรเรียนของนักเรียน ณ วันประกำศผลเมื่อสิ้นภำคกำรศึกษำ
1.3.2 กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมระยะเวลำที่จัดเก็บ (ต่อ)
1.3.3 กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมลักษณะของข้อมูล
กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมลักษณะของข้อมูลเป็นกำรแบ่งประเภทข้อมูลโดย
พิจำรณำว่ำข้อมูลนั้นแสดงถึงปริมำณของสิ่งๆหนึ่งหรือไม่ โดยแบ่งออกได้เป็นข้อมูลเชิง
ปริมำณและข้อมูลเชิงคุณภำพ
ข้อมูลเชิงปริมำณ (Quantitative data) คือข้อมูลที่ได้จำกกำรวัดหรือกำรนับค่ำ
โดยแสดงเป็นตัวเลขหรือปริมำณที่สำมำรถนำไปบวก ลบ คูณ หรือหำร และ
เปรียบเทียบกันได้
ตัวอย่ำงของข้อมูลเชิงปริมำณ เช่น คะแนนสอบวิชำคณิตศำสตร์ของนักเรียน
ห้องหนึ่ง จำนวนนักเรียนที่ใช้บริกำรห้องสมุดของโรงเรียนในแต่ละวันในภำคกำรศึกษำ
ปีที่แล้ว ยอดขำยรถยนต์รำยเดือน
1.3.3 กำรแบ่งประเภทของข้อมูลตำมลักษณะของข้อมูล (ต่อ)
ข้อมูลเชิงคุณภำพ (Qualitative data) คือข้อมูลที่แสดงลักษณะ ประเภท
สมบัติ ในเชิงคุณภำพ และอื่นๆ ที่ไม่สำมำรถวัดค่ำเป็นตัวเลขที่นำมำบวก ลบ คูณ หรือ
หำรกันได้
ตัวอย่ำงของข้อมูลเชิงคุณภำพ เช่น อำชีพของผู้ปกครองนักเรียนห้องหนึ่ง หมำยเลข
โทรศัพท์ของนักเรียนห้องหนึ่ง ควำมคิดเห็นที่ประชำชนในท้องถิ่นมีต่อเรื่องหนึ่งๆ
ควำมพึงพอใจในกำรใช้บริกำรห้องสมุดของนักเรียนว่ำพอใจมำกน้อยเพียงไร (พอใจมำก
ที่สุด พอใจมำก พอใจปำนกลำง พอใจน้อย พอใจน้อยที่สุด)
ข้อมูลเชิงคุณภำพโดยทั่วไปจะใช้วิธีกำรวิเครำะห์ข้อมูลที่แตกต่ำงไปจำกข้อมูลเชิงปริมำณ
อย่ำงไรก็ตำม สำหรับข้อมูลเชิงปริมำณ อำจจัดกลุ่มหรือช่วงของค่ำเพื่อให้ตีควำมเป็นข้อมูลเชิง
คุณภำพได้ ตัวอย่ำงเช่น ผลผลิตข้ำวต่อไร่ในพื้นที่บริเวณหนึ่งมีค่ำที่เป็นไปได้ตั้งแต่ 295 ถึง 560
กิโลกรัม โดยมีค่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 400 กิโลกรัม อำจเปลี่ยนข้อมูลปริมำณผลผลิตข้ำวต่อไร่เป็นข้อมูลเชิง
คุณภำพที่บอกเพียงระดับผลผลิตว่ำต่ำ ปำนกลำง หรือสูงได้ โดยกำหนดให้ผลผลิตต่ำคือผลผลิตตั้งแต่
295 กิโลกรัม แต่น้อยกว่ำ 375 กิโลกรัม ผลผลิตปำนกลำงคือผลผลิตตั้งแต่ 375 กิโลกรัม แต่น้อย
กว่ำ 450 กิโลกรัม และผลผลิตสูงคือผลผลิตตั้งแต่ 450 ถึง 560 กิโลกรัม แต่ข้อมูลที่บันทึกใหม่จะ
ไม่มีรำยละเอียดของข้อมูลมำกเท่ำกับข้อมูลเดิมและต้องใช้วิธีกำรวิเครำะห์ที่แตกต่ำงออกไปด้วย
ข้อมูลที่นำมำประมวลผลหรือวิเครำะห์เพื่อตอบคำถำมหรือโจทย์ที่ตั้งไว้ อำจแบ่ง
ตำมประเภทต่ำง ๆ ข้ำงต้นได้มำกกว่ำหนึ่งประเภท เช่น ข้อมูลหนึ่งอำจเป็นทั้งข้อมูลเชิง
ปริมำณและข้อมูลอนุกรมเวลำ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวชำวต่ำงประเทศที่เดินทำงเข้ำมำที่
สนำมบินสุวรรณภูมิในแต่ละวันในเดือนมกรำคม พ.ศ. 2560

More Related Content

What's hot

ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์kunanya12
 
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืนวิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืนSrion Janeprapapong
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)Srion Janeprapapong
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลYongyut Nintakan
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3nunzaza
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1nunzaza
 
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศNuttaput Suriyakamonphat
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5miwmilk
 
บทที่7
บทที่7บทที่7
บทที่7nunzaza
 
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุลงานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุลchanoot29
 
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลLecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลskiats
 
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2Hitsuji12
 

What's hot (18)

ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
 
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
 
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืนวิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
วิธีการสืบค้นและเทคนิคการค้นคืน
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
 
it-06-50
it-06-50it-06-50
it-06-50
 
แนวการสอบ ม.4
แนวการสอบ ม.4แนวการสอบ ม.4
แนวการสอบ ม.4
 
Database
DatabaseDatabase
Database
 
การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ
การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ
การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ
 
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูลการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
ระบบการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
 
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5นางสาวมลทิรา   เอกกุล ม.5
นางสาวมลทิรา เอกกุล ม.5
 
บทที่7
บทที่7บทที่7
บทที่7
 
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุลงานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
 
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูลLecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
 
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2
 

More from Somporn Amornwech

การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือการแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือSomporn Amornwech
 
การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม Somporn Amornwech
 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม Somporn Amornwech
 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือSomporn Amornwech
 
5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์
5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์
5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์Somporn Amornwech
 
4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์
4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์
4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์Somporn Amornwech
 
3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์
3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์
3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์Somporn Amornwech
 
2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์
2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์
2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์Somporn Amornwech
 
1.ความหมายของโครงงาน
1.ความหมายของโครงงาน1.ความหมายของโครงงาน
1.ความหมายของโครงงานSomporn Amornwech
 
2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ
2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ
2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพSomporn Amornwech
 
2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่
2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่
2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่Somporn Amornwech
 
1.4 สถิติเชิงอนุมาน
1.4 สถิติเชิงอนุมาน1.4 สถิติเชิงอนุมาน
1.4 สถิติเชิงอนุมานSomporn Amornwech
 
1.1 สถิติศาสตร์
1.1 สถิติศาสตร์1.1 สถิติศาสตร์
1.1 สถิติศาสตร์Somporn Amornwech
 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว Somporn Amornwech
 
3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียวSomporn Amornwech
 
3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียวSomporn Amornwech
 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสามSomporn Amornwech
 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม Somporn Amornwech
 
1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวSomporn Amornwech
 

More from Somporn Amornwech (20)

การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือการแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
 
การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม 
 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
 
5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์
5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์
5.การประเมินและประโยชน์โครงงานคณิตศาสตร์
 
4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์
4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์
4.ความสำคัญและขั้นตอนการทำของโครงงานคณิตศาสตร์
 
3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์
3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์
3.ประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์
 
2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์
2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์
2.หลักการและจุดมุ่งหมายของโครงงานคณิตศาสตร์
 
1.ความหมายของโครงงาน
1.ความหมายของโครงงาน1.ความหมายของโครงงาน
1.ความหมายของโครงงาน
 
2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ
2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ
2.2 การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ
 
2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่
2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่
2.1การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยตารางความถี่
 
1.4 สถิติเชิงอนุมาน
1.4 สถิติเชิงอนุมาน1.4 สถิติเชิงอนุมาน
1.4 สถิติเชิงอนุมาน
 
1.2 คำสำคัญ
1.2 คำสำคัญ1.2 คำสำคัญ
1.2 คำสำคัญ
 
1.1 สถิติศาสตร์
1.1 สถิติศาสตร์1.1 สถิติศาสตร์
1.1 สถิติศาสตร์
 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
 
3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.1 แนะนำสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
 
3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลังสองตัวแปรเดียว
 
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม
2.1 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยู่ในรูปผลบวกและผลต่างของกำลังสาม
 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 
2.2 การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีดีกรีสูงกว่าสาม 
 
1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
1.2 คำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
 

1.3 ประเภทข้อมูล