More Related Content
Similar to 2560 project (20)
More from Paphatsara Rueancome
More from Paphatsara Rueancome (13)
2560 project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน สุดยอดประโยชน์ ! จากผักผลไม้ 5 สี
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว ปภัสรา เรือนคา เลขที่ 22 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาว ปภัสรา เรือนคา เลขที่ 22 ชั้น ม.6 ห้อง 4
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สุดยอดประโยชน์ ! จากผักผลไม้ 5 สี
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Phytonutrients
ประเภทโครงงาน ให้ความรู้เชิงสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ปภัสรา เรือนคา เลขที่ 22 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากในยุปัจจุบันนี้ ประชาชนจานวนมากมีการหันมาสนใจการรักษาสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการ
ออกกาลังกาย การพักผ่อน หรือแม้กระทั่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อร่างกาย ซึ่งใครๆก็
ทราบว่าผักและผลไม้นั้นมีประโยชน์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมาย ซึ่งนอกจากแร่ธาตุที่กล่าวไปแล้ว ผัก
และผลไม้ยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารในกลุ่ม ไฟโตนิวเทรียนท์สูง ซึ่งไฟโตนิวเทรียนท์ หรือในภาษาไทยเรียกว่า
สารพฤกษาเคมี คือ สารอาหารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น โดยเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยชะลอความเสื่อม กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคต่างๆได้มากมาย ปกติการ
รับประทานผัก และผลไม้เป็นประจาทุกวันนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว เพราะทาให้เราได้รับทั้งวิตามิน และแร่
ธาตุต่างๆ แต่ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักกับไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีประโยชน์อย่างมาก ในยุคปัจจุบันนี้มีผักผลไม้
มากมายหลายชนิด ซึ่งก็มีประโยชน์และคุณค่าแตกต่างกันไป จึงทาให้เกิดโครงงาน สุดยอดประโยชน์ ! จากผัก
ผลไม้ 5 สี ขึ้นมาเพื่อ ศึกษาประโยชน์จากผักผลไม้ทั้ง 5 สีชนิดต่างๆซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปตามท้องตลาด
ห้างสรรพสินค้า หรือโดยในเฉพาะอาหารที่เรารับประทานไปในแต่ละวัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวของเรามาก ดังนั้น
จึงทาให้ผู้จัดทาสนใจในเรื่องของ ประโยชน์จากผักผลไม้ 5 สี เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงได้เกิดให้เกิดจากจัดทา
โครงงานนี้ขึ้นมา
- 3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อต้องการทราบถึงประโยชน์ของผักและผลไม้ 5 สี
2. เพื่อต้องการศึกษาความหมายของคาว่า Phytonutrients
3. เพื่อต้องการทราบถึงวิธีการเลือกรับประทานอาหารจากผักและผลไม้ให้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด
4. เพื่อต้องการศึกษา คุณค่าและสารอาหารที่ประกอบอยู่ในผักและผลไม้ ทั้ง 5 สี
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของผักและผลไม้ 5 สี และเนื้อหาที่เกี่ยวกับผักและผลไม้ทั้ง 5 สี
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
1. ไฟโตนิวเทรียนท์ หรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phytochemicals หรือ Phytonutrients ในภาษาไทยเรียก
"อินทรียสารจากพืช" ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrient) หรือจะเข้าใจอีกอย่างว่าเป็นพฤษเคมี ที่เป็น
สารอาหารธรรมชาติที่มีอยู่มากในผักและผลไม้ ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะคุณสมบัติใน
เรื่องของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จากธรรมชาติ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคได้หลายชนิด
เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ต้อกระจก โรคทางภูมิคุ้มกัน ช่วยบารุงผิวพรรณ ทาให้เซลไม่เสื่อมสภาพเร็ว เป็น
ต้น
2. ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี
เมื่อพูดถึงสีสันของผักและผลไม้ สีสันเหล่านั้นเป็นสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นเม็ดสีที่พืชสร้างขึ้น ตามแต่ละ
ลักษณะและชนิดของผักผลไม้นั้นๆ ซึ่งสีเป็นตัวบ่งบอกสารอาหารที่มีแตกต่างกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 5 สี 5
กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
o ผักผลไม้สีเขียว
สีเขียวในผักและผลไม้มาจากเม็ดสีของสารที่มีชื่อว่า คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) โดยจะมีตั้งแต่เขียวเข้มจัด
ได้แก่ คะน้า สาหร่ายบางชนิด ตาลึง ผักใบเขียวต่างๆ และสีเขียวแบบทั่วไป เช่น แอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง ผักกาด
ซึ่งในผักสีเขียวที่มี คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) นี้ เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต่อต้าน
โรคมะเร็ง ทาให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้การทานผักใบเขียวเป็นประจา
จะช่วยให้การขับถ่ายดี ลดอากาท้องผูก เนื่องจากผักเหล่านี้มีกากใยสูงมีส่วนช่วยในการลดน้าหนัก เนื่องจาก
ให้พลังงานต่า
o ผักผลไม้สีแดง
สารสีแดงในผักและผลไม้ที่มีสีแดงคือ ไลโคปีน (Cycopene) และ เบตาไซซีน (Betacycin) เป็นสารต้าน
อนุมูลอิสระ มีส่วนสาคัญในการช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตามอวัยวะต่างๆในร่างกาย แต่จะเด่นที่สุดคือช่วย
ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก รองลงมาคือมะเร็งปอด และมะเร็งที่กระเพาะอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์เรื่องผิวพรรณ ลดการเกิดสิวและทาให้รอยแผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ผักและผลไม้ที่
อยู่ในกลุ่มสีแดงได้แก่ มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ บีทรูท เชอรี่ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และกระเจี้ย
บแดง
- 4. 4
o ผักผลไม้สีเหลืองและส้ม
ผักและผลไม้ที่สีเขียวอ่อนและสีเหลืองจะมีสารที่ชื่อว่า ลูทีน (Lutein) อยู่มาก ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงกับ
ดวงตา ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาในผู้ใหญ่ และมีส่วนช่วยในการพัฒนา การ
มองเห็นในเด็กเล็กได้อีกด้วย สาหรับผักและผลไม้ที่มีสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ที่ช่วย
ลดระดับคอเลสเตอรอล,ไขมันในเส้นเลือด ช่วยให้ผิวพรรณสดใส รักษาความชุ่มชื่นให้ผิว ลดความเสื่อมของ
เซลล์ในร่างกาย ช่วยส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกัน
ซึ่งผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองและส้มได้แก่ ส้ม แครอท มะละกอ มะนาว สับปะรด ฟักทอง มันเทศ
ขนุน เสาวรส และ ข้าวโพด
o ผักผลไม้ที่มีสีม่วงและม่วงอมน้าเงิน
สีสันแปลกตาเหล่านี้มาจากสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทาลายสารที่ทาให้เกิด
มะเร็ง ช่วยกระตุ้นการทางานของเซลล์ต่างๆ ชะลอความเสื่อมถอย ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ ช่วยยับยั้งเชื้อ
อีโคไลที่ทาให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังช่วยบารุงเส้นผมให้เงางามอีกด้วย
โดยสารสีม่วงนี้จะพบมากใน มะเขือสีม่วง ลูกแบล็คเบอรี่ บลูเบอรี่ ดอกอัญชัน กะหล่าปลีที่มีสีม่วง มันเทศสี
ม่วง และหอมแดง
o ผักผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้าตาลอ่อน
จะเป็นผักและผลไม้ที่มีสารอาหารที่เรียกว่า แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ช่วยลด
อาการอักเสบ ช่วยรักษาระดับน้าตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆที่ประกอบด้วย กรดไซแนปติก
(Synaptic acid) และ อัลลิซิน (Allicin) โดยสารเหล่านี้มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเลือด
ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจได้
ผักและผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้าตาลอ่อนได้แก่ ขิง ข่า กระเทียม กุยช่าย ขึ้นช่าย เซเลอรี่ เห็ด ลูกเดือย หัว
ไชเท้า ถั่วเหลือง ดอกกะหล่า ถั่วงอก และงาขาว ส่วนผลไม้ก็ได้แก่ กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่
ละมุด แห้ว เป็นต้น
3.การกินผักและผลไม้ให้เกิดประโยชน์ สาคัญที่สุดต้องกินให้หลากสีหลากชนิด และพยายามให้ถึงเกณฑ์
มาตรฐาน คือไฟเบอร์/ใยอาหาร 25 กรัม เปรียบเทียบคือผักและผลไม้ 400 กรัม หรืออย่างน้อยประมาณ 5
ทัพพีต่อวัน พร้อมทั้งควรกินให้หลากหลายวิธีด้วย เช่น กินสดๆ กินโดยผ่านการต้ม การย่าง เป็นต้น นอกจากนี้
ควรกินผักให้เป็นอาหารหลักไม่ใช่แค่เครื่องเคียง