Putticha
- 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน โรคเบาหวาน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวพุทธิชา จุมดวง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 เลขที่ 19
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) โรคเบาหวาน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ )Diabetes
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพุทธิชา จุมดวง
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
โรคเบาหวาน เป็นโรคภัยไข้เจ็บที่คนสมัยนี้ตรวจพบกันมากขึ้น เนื่องจากสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไป ทาให้ต้องเร่งรีบ
อยู่ตลอดเวลา และลืมเอาใจใส่สุขภาพของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นนอกเสียจากว่าจะไป
ตรวจสุขภาพแล้วจึงจะพบ แต่กว่าจะพบว่าตัวเองเป็นเบาหวาน ระดับน้าตาลในเลือดที่สูงก็ส่งผลมากมายต่อ
สุขภาพแล้ว แถมพอเป็นแล้วก็ยังไม่รู้อีกว่าตัวเองเป็นเบาหวานประเภทไหน เพราะโรคเบาหวานนั้นก็ยังถูกแบ่ง
ออกเป็น 2 ประเภทอีก ซึ่งโรคเบาหวาน เป็นความผิดปกติทางร่างกายที่เกิดจากการที่ตับอ่อนสร้าง "ฮอร์โมน
อินซูลิน" ได้น้อยหรือไม่สามารถสร้างได้เลย ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินที่ว่าจะคอยช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้าตาลมาใช้
เป็นพลังงาน และเมื่อฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายไม่เพียงพอก็จะทาให้เกิดการสะสมของน้าตาลในอวัยวะต่าง ๆ
เมื่อน้าตาลสะสมในเลือดมาก ๆ ก็จะถูกกรองออกมาผ่านทางปัสสาวะนั่นเอง โดยโรคเบาหวานเป็นโรคที่เรื้อรังและ
ไม่หายขาด รวมทั้งยังเป็นโรคทางพันธุกรรมอีกด้วย นอกจากนี้โรคเบาหวานยังสามารถเกิดขึ้นได้แม้คนใน
ครอบครัวไม่มี-ปร-ะวัติโรคเบาหวาน เพราะปัจจัยต่าง ๆ ในการใช้ชีวิต อย่างเช่น อาหารการกิน สิ่งแวดล้อม การ
ออกกาลังกาย หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด ก็ทาให้เกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ได้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน
2.เพื่อให้ทราบว่าตนเองหรือคนรอบข้างมีความเสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวานหรือไม่
3.เพื่อเป็นแนวทางป้องกันแก่คนที่กาลังเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวพุทธิชา จุมดวง
- 3. ขอบเขตโครงงาน
1.โรคเบาหวานคืออะไร
2.ประเภทของโรคเบาหวาน
3.สาเหตุที่ทาให้เกิดโรคเบาหวาน
4.อาการของโรคเบาหวาน
5.การรักษาโรคเบาหวาน
6.การป้องกันโรคเบาหวาน
หลักการและทฤษฎี
โรคเบาหวานคืออะไร
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้าตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาด
ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) หรือการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้าตาลในเลือดให้เป็น
พลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติหรือทางานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้าตาลสะสมในเลือดปริมาณ
มาก หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้เป็นเวลานานจะทาให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อม เกิดโรคและอาการแทรกซ้อน
ขึ้น
ประเภทของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ประเภทที่พึ่งอินซูลินและประเภทที่ไม่พึ่งอินซูลิน โดยชนิดที่พบได้บ่อย
ที่สุดก็คือ ประเภทที่ 2 หรือประเภทที่ไม่พึ่งอินซูลิน ซึ่งมีความรุนแรงน้อย และมักพบในกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
แต่ก็อาจจะพบในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาวได้ โดยประเภทนี้ตับอ่อนจะสามารถสร้างอินซูลินได้แต่ก็สร้างได้น้อย----
ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทาให้ร่างกายจาเป็นต้องได้รับอินซูลินบ้างเป็นครั้งคราว
สาเหตุที่ทาให้เกิดโรคเบาหวาน
ความอ้วน การไม่ออกกาลังกาย ความเครียด เนื่องจากการตอบสนองของอินซูลินลดลง
ผู้สูงอายุ การสังเคราะห์และการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินลดลง
โรคของตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน ทาให้การหลั่งอินซูลินลดลง
การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น หัดเยอรมัน คางทูม ซึ่งมีผลต่อตับอ่อนทาให้การหลั่งอินซูลินลดลง
การได้รับยาบางชนิด สเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกาเนิดบางชนิดทาให้มีการสร้างน้าตาลมากขึ้น หรือการ
ตอบสนองของอินซูลินลดลง
การตั้งครรภ์ เนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมนจากรกหลายชนิด ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการทางานของอินซูลิน
- 4. อาการของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติ บางรายอาจตรวจพบโรคเบาหวานเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนขึ้น
แล้ว อาการของโรคเบาหวานแต่ละชนิดอาจมีความคล้ายกัน ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ คือ กระหายน้ามาก ปาก
แห้ง ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้าหนักลดหรือเพิ่มผิดปกติ สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด รู้สึกเหนื่อยง่าย มีอาการชา
โดยเฉพาะมือและขา บาดแผลหายยาก เป็นต้น ทั้งนี้ อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะแสดงอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักเกิดขึ้น
ในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 24-28 สัปดาห์
การรักษาโรคเบาหวาน
การรักษาผู้ป่วยเบาหวานในประเภทที่ 1 จาเป็นต้องได้รับฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปทดแทนในร่างกายด้วยการฉีดยา
เป็นหลัก ควบคู่ไปกับการคุมอาหารและออกกาลังกายที่เหมาะสม ในขณะที่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 หากเป็นใน
ระยะแรก ๆ สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม การออกกาลัง และควบคุมน้าหนัก หาก
อาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจให้ยาควบคู่ไปด้วยหรือฉีดอินซูลินเข้าไปทดแทนเช่นเดียวกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1
สาหรับผู้เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรเข้าฝากครรภ์กับแพทย์ตั้งแต่ในระยะแรก พร้อมทั้งควบคุมอาหารที่
รับประทานและออกกาลังกายตามคาแนะนาของแพทย์
นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ป่วยเกิดแผลเบาหวานขึ้นที่เท้า แพทย์อาจให้ผู้ป่วยใส่อุปกรณ์ป้องกันแผล เช่น รองเท้า
สาหรับผู้ป่วยเบาหวาน เฝือก หรือผ้าพันแผล เป็นต้น หากแผลเริ่มมีลักษณะรุนแรงขึ้น แพทย์อาจวางแผนการ
รักษาตามเหมาะสมขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของแผลเบาหวานที่เป็น ทั้งนี้ หากรักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้นแพทย์
อาจต้องตัดอวัยวะทิ้งเพื่อป้องกันอาการลุกลาม
การป้องกันโรคเบาหวาน
สิ่งสาคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ ต้องคอยหมั่นระวังระดับน้าตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้
อยู่เกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่ม
แอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมถึงการออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ หากเป็นสตรีมีครรภ์ควรเข้ารับการฝาก
ครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่าเสมอ และได้รับการตรวจคัดกรองเบาหวานหากมีความเสี่ยง เพื่อ
สามารถตรวจพบโรคเบาหวานได้ในระหว่างการตั้งครรภ์