SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน
ประโยชน์ของสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (Berries Extract)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นาย จิรายุ ศรีสุธรรม เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 9
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นายจิรายุ ศรีสุธรรม เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 9
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ประโยชน์ของสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Berries Extract
ประเภทของโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้จัดทาโครงงาน นายจิรายุ ศรีสุธรรม เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 9
ชื่อครูที่ปรึกษาโครงงาน คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1 - 2 ปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
โครงงานนี้เกี่ยวกับประโยชน์ของสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จัดทาขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันนี้ เบอร์รี่นั้นเป็น
หนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมอยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนามารับประทานหรือนามาแปรรูป เพื่อจัดทาเป็น
อาหารเสริมหรือช่วยในการเสริมความงามโดยเป็นที่ยอมรับอย่างมากในวัยรุ่นและวัยทางาน
เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารสกัดที่มีประโยชน์ เช่น สารแอนโทไซยานิน มีหน้าที่ในการป้องกันการเกิด
โรคเรื้อรังต่างๆ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยรักษาสุขภาพและป้องกันโรคอย่างโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ โรค
กลัวความสูง และวิตามินที่จาเป็นต่อร่างกายของมนุษย์ เช่นวิตามินซี เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถผลิต
ขึ้นมาเองได้ จึงจาเป็นต้องได้รับจากแหล่งอื่น
ด้วยเหตุนี้การเลือกรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการ
เกิดโรคต่างๆได้
วัตถุประสงค์ของการทาโครงงาน
1. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
2. เพื่อศึกษาสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
3. เพื่อทาให้ทราบถึงประโยชน์ของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ขอบเขตของการทาโครงงาน
ประโยชน์ของสารสกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สามารถทราบถึงสารสกัดและป้องกันการเกิดโรคต่างๆได้
3
หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
 ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ความหมายของคาว่าเบอร์รี่ ในภาษาอังกฤษตามพจนานุกรมของเคมบริดจ์ หมายถึง ผลไม้ลูกเล็ก
ลักษณะกลม เป็นผลของพืชบางชนิด (a small round fruit on particular plants and trees)
ความหมายของคาว่าเบอร์รี่ ในทางวิทยาศาสตร์กันบ้าง ในทางพฤกษศาสตร์ (วิชาว่าด้วยต้นไม้ -
ความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน) หมายถึง ผลไม้มีเนื้อที่เกิดจากรังไข่เดียว (fleshy fruit
from single ovary)
ผลไม้ที่ทางพฤกษศาสตร์จัดว่าเป็นเบอร์รี่จะเกิดจากดอกไม้ที่มีรังไข่เดียว ซึ่งถือเป็นส่วนใหญ่ของ
ผลไม้ทั้งหมด พืชที่ให้ผลเป็นเบอร์รี่ ในทางพฤกษศาสตร์จะเรียกว่า bacciferous เช่น บลูเบอร์รี่ กูซเบอร์รี่
เอลเดอร์เบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ โกจิเบอร์รี่
เบอรร์รี่แบ่งออกเป็น 10 ชนิด
1. โกจิเบอร์รี่
2. อาซาอิเบอร์รี่
3. บลูเบอร์รี่
4. ราสเบอร์รี่
5. เชอร์รี่
6. เอลเดอร์เบอร์รี่
7. แบล็คเบอร์รี่
8. แครนเบอร์รี่
9. สตรอว์เบอร์รี่
10. บิลเบอร์รี่
11. มัลเบอร์รี่
 สารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารและวิตามินต่างๆเช่น
1. สารแอนโธไซยานิน
2. สารแอนตี้ออกซิแดนท์
3. สารแทนนิน
4. ไบโอฟลาโวนอยด์
5. วิตามินมากมาย เช่น A, B, C, E, K และ P
สารแอนโธไซยานิน
4
สารแอนโทไซยานิน จะพบมากในพืชและผักที่มีสี แดง ม่วง ฟ้า เป็นส่วนมาก มีฤทธิ์ต่อต้านสาร
อนุมูลอิสระ สามารถยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของลิโปโปรตีน และการตกตะกอนของเกร็ดเลือด ทาให้แอน
โทไซยานิน มีหน้าที่ในการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคที่เกียวกับหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง
เบาหวาน ทั้งยังชะลอการเสื่อมของเซลล์ ช่วยยับยังจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร
โครงสร้างของแอนโทไซยานิน ประกอบด้วยสารประกอบ 2 หรือ 3 ชนิด ได้แก่
1. แอนโทไซยานิดิน หรืออะไกลโคน(Aglycone) มีโครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วย คาร์บอนเชื่อมต่อ
กันในรูป C-6-C-3-C-6 เชื่อมต่อกัน ซึ่งแอนโธไซยานิดินที่พบมากในปัจจุบันจะมีอยู่ 6 ชนิด คือ
เพลาโกนิดินไซยานิดิน เดลฟินิดิน พีโอนิดิน เพทุนิดิน และมอลวิดิน
2. น้าตาล ซึ่งจะเกิดพันธะกับคาร์บอน ตาแหน่งที่ 3 หรือตาแหน่งที่ 3 และ 5 โดยน้าตาลที่เกิดพันธะ
ได้ เช่น กลูโคส กาแลกโตส รูติโนส แรมโนส เป็นต้น
3. โครงสร้างที่เป็นกรด ซึ่งส่วนนี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้ แอนโทไซยานินที่มีกรดเป็นองค์ประกอบเรียกว่า
นอนอะซิเลตเทต แอนโทไซยานิน ถ้าไม่มีกรดเป็นองค์ประกอบเรียกว่า อะซิเลตเทต แอนโทไซยา
นิน โดยกรดจะเกิดเอสเทอริฟิเคชัน กับน้าตาล กรดที่เกิดพันธะเอสเทอร์กับน้าตาล เช่น กรดคูมาริก
กรดเฟอร์รูริก กรดคาร์เฟอิก เป็นต้น
สารแอนตี้ออกซิแดนท์
สารต้านอนุมูลอิสระ คือโมเลกุลของสารที่สามารถจับกับตัวรับและสามารถยับยั้งปฏิกิริยา
ออกซิเดชันของโมเลกุลสารอื่นๆได้ ปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวเนื่องกับการแลกเปลี่ยน
อิเล็กตรอนจากสารหนึ่งไปยังตัวออกซิไดซ์ ปฏิกิริยาดังกล่าวสามารถให้ผลิตภัณฑ์เป็นสารอนุมูลอิสระ (free
radical) ซึ่งสารอนุมูลอิสระเหล่านี้จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และทาลายเซลล์ของร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระจะ
เข้ายุติปฏิกิริยาลูกโซ่เหล่านี้ด้วยการเข้าจับกับสารอนุมูลอิสระและยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยถูก
ออกซิไดซ์ ดังนั้นสารต้านอนุมูลอิสระจึงถือเป็นตัวรีดิวซ์ อาทิ ไธออล กรดแอสคอร์บิก และโพลีฟีนอล
แม้ว่าปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นสิ่งสาคัญต่อสิ่งมีชีวิต หากแต่ก็ยังเกิดโทษเช่นกัน ดังนั้นพืชและสัตว์จึง
รักษาสมดุลด้วยระบบอันซับซ้อนของปฏิริยาโดยสารต้านอนุมูลอิสระดังเช่น กลูตาไธโอน วิตามินซี และ
วิตามินอี เช่นเดียวกับเอนไซม์อย่างตัวเร่งปฏิกิริยาและเอนไซม์ซูเปอร์ออกไซด์ รวมถึงเพอรอกซิเดสต่างๆ
ระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่าหรือเอนไซม์ที่ยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันที่มากเกินไป จะยังผลให้เกิดภาวะ
ออกซิเดชันที่มากเกินไป (oxidative stress) นามาซึ่งการทาลายหรือสร้างความเสียหายแก่เซลล์ได้
ในภาวะที่ออกซิเดชันมากเกินไปจะทาให้เกิดโรคในมนุษย์หลายโรค การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ
ในทางเภสัชวิทยาได้รับการศึกษาอย่างละเอียดในการรักษาภาวะโรคหลอดเลือดในสมองและโรค
neurodegenerative disease อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าออกซิเดชันที่มากเกินไปนั้นเป็นสาเหตุ
การเกิดโรคหรือไม่
5
สารต้านอนุมูลอิสระถูกนามาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิด ด้วยคาดหวังใน
การรักษาสุขภาพและป้องกันโรคอย่างโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมไปถึงโรคกลัวความสูง แม้
การศึกษาในช่วงแรกให้การสนับสนุนถึงการเติมสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้สุขภาพ
ดีนั้น ภายหลังการศึกษาในระยะคลินิกพบว่าสารที่เติมลงไปไม่ได้ช่วยหรือก่อให้เกิดประโยชน์อันใดแก่
ผู้บริโภค ซ้ายังผลมาซึ่งอันตรายจากการรับประทานที่มากเกินไปนอกจากนี้ยังมีการใช้สารต้านอนุมูลอิสระ
ธรรมชาติในเภสัชภัณฑ์ และส่วนประกอบอื่นๆในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเช่นสารกันบูดในอาหารและ
เครื่องสาอาง และช่วยลดการสึกกร่อนของยางและแก๊สโซลีนอีกด้วย
สารแอนตี้ออกซิแดนท์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่ม 1 ชนิดที่ละลายในน้า จะทาปฏิกิริยากับสารออกซิแดนท์ ภายใน”ซโตปราสซึม (Cytoplasm) หรือใน
พลาสมาของเลือด
กลุ่ม 2 ชนิดที่ละลายในไขมัน จะป้องผนังเซลล์ไม่ให้ถูกทาลายจาก ปฏิกิริยา Lipid Peroxidation
สารเหล่านี้บางชนิดก็สร้างขึ้นมาได้เองภาย ในร่างกาย แต่บางชนิดก็จาเป็นต้องได้รับจากอาหาร บางชนิดก็
พบได้มากในเซลล์ เช่น Glutathione, Ubiquinone บางชนิดพบมากในพลาสมาเช่น กรดยูริค
สารแทนนิน
เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่และโครงสร้างซับซ้อน มีสถานะเป็นกรดอ่อนรสฝาด เป็นสารให้ความฝาด
ในพืช พบได้ในพืชหลายชนิด แทนนิน มี 2 ชนิด คือ
คอนเดนส์แทนนิน (condensed tannins) หรือเรียกอีกอย่างว่า โปรแอนโทรไซยานิน
(proanthrocyanin) พบได้ในส่วนเปลือกต้น และแก่นไม้เป็นส่วนใหญ่
สารไฮโดรไลซ์แทนนิน (hydrolysable tannins) คือแบบที่สามารถถูกแยกออกเป็นโมเลกุลเล็กๆ
ได้ พบมากในส่วนใบ ฝัก และส่วนที่ปูดออกมาจากปกติ เมื่อต้นไม้ได้รับอันตราย (gall) แทนนิน มีคุณสมบัติ
ตกตะกอนโปรตีน ทาให้หนังสัตว์ไม่เน่าเปื่อย จึงมีการใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนังด้วย แทนนินมีฤทธิ์ฝาด
สมาน จึงใช้เป็นยารักษาโรคท้องเสียได้ แทนนินมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้ ตัวอย่างแทนนินได้แก่
theogallin, gallic acid, ellagic acid
แทนนิน มาจากคาว่า “แทนนิ่ง” "tanning" ซึ่งแปลว่ารักษาไว้และกันน้า แทนนิ่งคือการเปลี่ยนหนัง
สัตว์ที่ตายแล้วให้เป็นผลิตภัณฑ์หนังโดยการใช้สารสกัดจากพืช
ไบโอฟลาโวนอยด์
เป็นสารโมเลกุล ทางเคมีเป็นสารพวก flavone และ อนุพันธ์ เช่น flavanone, flavan,
flavanonol, anthocyanidin, leucocyanidin, rutin, hesperidin ส่วนใหญ่สามารถละลายในน้าได้
พบในธรรมชาติ ประมาณ 4,000 กว่าชนิด โดยพบในพืชทั่วไป ในทุกส่วนของต้นพืช เช่น หัวหอมมี
quercetin ประมาณ 6% โดยน้าหนักแห้ง quercetin เป็นสารเริ่มต้นของพิษ เม็ดสี สารกรองแสง ฮอร์โมน
6
กระตุ้นการเจริญของพืช การตรึงไนโตรเจน ฯลฯ ใช้เป็นอาหารของคนและสัตว์ สามารถดูดซึมผ่านทางเดิน
อาหารได้
ฤทธิ์ทางชีวภาพ เดิมเรียกสารกลุ่มนี้ว่า “ไวตามิน P” มีฤทธิ์ต่อร่างกายหลายอย่างใช้ป้องกันโรคเส้นเลือด
ฝอยแตก โรคเลือดออกตามไรฟัน ทดแทนหรือเสริมไวตามิน C ในบางโอกาส ปัจจุบันพบฤทธิ์ที่สาคัญ เช่น
1. การต้านออกซิเดชั่น
สารเช่น 3-OH-flavnone, quercetin, (+)-catechin, fustin, rutin, luteolin, morin, kaempferol,
genistein มีฤทธิ์ต่อต้านการทาลาย lipid peroxidation ของ PUFA จึงอาจช่วยลดการอักเสบ และลดพิษ
จากเหล็กอิสระ
2. การยับยั้งเอนไซม์
quercetin, d-catechin และอนุพันธ์ของ flavan สามารถยับยั้ง histidine decarboxylase,
hyaluronidase
ฉะนั้นจึงยับยั้งฮัสตามีน และอาจใช้ป้องกันการเกิดผลในกระเพาะอาหารได้ ไบโอฟลาโวนอยด์บางชนิดอาจ
ยับยั้ง phospholipases, lipoxygenase, xanthine oxidase, lactic dehydrogenase, protein kinase
C, kinases, microsomal cytochrome P450
3. การต่อต้านสารพิษ
ไบโอฟลาโวนอยด์ สามารถต่อต้านพิษจากสารเคมีบางชนิด เชื้อรา fusarium (T-toxin) พิษจากรังสี สารก่อ
มะเร็ง (carcinogen) สารส่งเสริมการเกิดมะเร็ง อนุมูลอิสระ ควัยบุหรี่
4. Differentiating agent
สารไบโอฟลาโวนอยด์บางอย่าง เช่น genistein เป็นสารกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และลักษณะของเซลล์
(differentiating agent) หลายชนิด เช่น human myelogenous leukemia K562, murine
erythroleukemia cells ในหลอดทดลอง โดยกลไกการยับยั้งเอนไซม์ tyrosine kinase ในเซลล์ ฉะนั้นจึง
ยับยั้งมะเร็ง
วิตามิน
วิตามิน A เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น, เพิ่มภูมิคุ้มกัน, ทาให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น, ทั้ง
ยังเสริมสร้างให้กระดูก ฟัน และเล็บแข็งแรง นอกจากนี้ยังป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร, ระบบ
ทางเดินหายใจและระบบปัสสาวะ ผิวและผมแข็งแรง ช่วยบรรเทาโรคที่เกี่ยวกับไทรอยด์ได้
ส่วนในด้านของผิวพรรณนั้น วิตามินเอ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่, ลดอาการอักเสบ
ของผิว, ช่วยลดเลือนจุดด่างดาได้ วิตามินเอจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการลดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ใน
อุตสาหกรรมเวชสาอางค์ จึงได้นาวิตามินเอมาผสมทั้งครีม, แป้ง และผลิตภัณฑ์อีกหลาย ๆ ตัว
7
วิตามิน C มีประโยชน์ และปลอดภัยมากที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งในร่างกายของเรา ไม่สามารถสร้าง
วิตามินซีเองได้ เราจึงควรต้องได้รับจากอาหาร หรือวิตามินเสริม และไม่ต้องกังวลการตกค้างภายในร่างกาย
เพราะวิตามินซีนั้นสามารถละลายได้ในน้า เมื่อเข้าสู่ร่างกายก็จะละลาย และดึงเอาประโยชน์ไปใช้ หลังจาก
นั้นก็ถูกขับออกจากร่างกาย ในรูปแบบของการขับถ่ายภายใน 24 ชม. วิตามินซีจึงปลอดภัยกับร่างกายโดย
แท้ วิตามินซีนั้นช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดได้ดี, ลดอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ, เสริมสร้างกระดูกและ
ฟัน และต่อต้านสารก่อมะเร็งได้เป็นอย่างดี
วิตามิน E เป็นวิตามินที่จาเป็นต่อร่างกาย และต้องได้รับทุกวัน ละลายได้ดีในไขมัน เช่นเดียวกับ
วิตามินเอ มีหน้าที่สาคัญในการขยายหลอดลม และเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด วิตามินอี ยังเป็นสารต้าน
อนุมูลอิสระที่สาคัญอีกตัวหนึ่งที่ช่วยยับยั้ง การเสื่อมของเยื่อหุ้มเซลล์ และป้องกันเซลล์ถูกทาลายจากสาร
อนุมูลอิสระ และทาให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคงทนมากขึ้นด้วย
ในวิตามินอีนั้นจะสามารถละลายได้ในร่างกาย จึงถูกขับออกมาทางระบบขับถ่ายเหมือนกับวิตามินซี แต่กลับ
มีการตกค้างอยู่ในร่างกาย จนกลายเป็นการสะสมเหมือน วิตามินเอ เพราะฉะนั้นจึงควรระวังในการ
รับประทาน
วิตามิน K หรือไฟโลควิโนน ช่วยให้การแข็งตัวของเลือดให้เป็นปกติ เช่นเดียวกับการขนส่ง
แคลเซียม ชาวอเมริกันสามารถบริโภควิตามินเคจากผักใบเขียวเป็นหลัก ผักใบเขียวอย่างผักโขมที่ย่อยลาบาก
สามารถเพิ่มการดูดซึมได้มากกว่า 3 เท่า ด้วยการทานร่วมกับไขมัน เช่น เนย หรือน้ามันมะกอก เช่นเดียวกับ
วิตามินละลายในไขมันตัวอื่นๆ
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกษาตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้คือ ศึกษาสารในผลไม้ชนิดต่างๆที่สามารถต้านมะเร็งได้
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
งบประมาณ ไม่มีค่าใช้จ่าย
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน ผู้จัดทา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ผู้จัดทา
3 จัดทาโครงร่างงาน ผู้จัดทา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน ผู้จัดทา
8
5 ปรับปรุงทดสอบ ผู้จัดทา
6 การทาเอกสารรายงาน ผู้จัดทา
7 ประเมินผลงาน ผู้จัดทา
8 นาเสนอโครงงาน ผู้จัดทา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
จากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ครั้งนี้ ผู้จัดทาได้คาดหวังว่าข้อมูลในโครงงานเล่มนี้ คือ ทาให้ผู้คนได้ทราบถึงสารกัด
ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และโครงงานจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์และคุณค่าของเบอร์รี่ และ
สามารถนาความรู้จากการศึกษาโครงงานไปต่อยอดได้
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 238 ถนนพระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
วิชาวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
หลากประโยชน์จากตระกูลเบอร์รี่ .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก:
https://guru.sanook.com/8569/ (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 มกราคม 2562)
เบอร์รี่ผลไม้ต้านโรค .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก:
https://www.honestdocs.co/berry-fruit-prevent-disease (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 มกราคม 2562)
รวมผลไม้ เบอร์รี่ 10 ชนิดที่ควรรับประทาน .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก:
https://sistacafe.com/summaries/43083 - ซื้อมากินสิคะซิสรวมผลไม้เบอร์รี่10ชนิด (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5
มกราคม 2562)
วิตามินแต่ละชนิด .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก:
https://www.honestdocs.co/each-vitamins-benefits (วันที่สืบค้นข้อมูล: 6 มกราคม 2562)

More Related Content

What's hot

โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน
Umaporn Maneesatjang
 
การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
Sombom
 

What's hot (17)

2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
Tuangtham Sura M.6/9 No.37
Tuangtham Sura M.6/9 No.37Tuangtham Sura M.6/9 No.37
Tuangtham Sura M.6/9 No.37
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2560 project (1) (1)
2560 project  (1) (1)2560 project  (1) (1)
2560 project (1) (1)
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน
 
การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
การสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานนนนน
งานนนนนงานนนนน
งานนนนน
 
Com
ComCom
Com
 
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของจามเทวี (1)
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของจามเทวี (1)ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของจามเทวี (1)
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของจามเทวี (1)
 
เล่มโครงงาน ม.5
เล่มโครงงาน ม.5เล่มโครงงาน ม.5
เล่มโครงงาน ม.5
 
งาน
งานงาน
งาน
 
เค้าโครงร่างจ๋า
เค้าโครงร่างจ๋าเค้าโครงร่างจ๋า
เค้าโครงร่างจ๋า
 
โครงร่าง จ๋า
โครงร่าง จ๋าโครงร่าง จ๋า
โครงร่าง จ๋า
 
โครงงาน แพ้ภูมิตัวเอง ศัตตรูมืดในร่างกายคุณ
โครงงาน แพ้ภูมิตัวเอง ศัตตรูมืดในร่างกายคุณโครงงาน แพ้ภูมิตัวเอง ศัตตรูมืดในร่างกายคุณ
โครงงาน แพ้ภูมิตัวเอง ศัตตรูมืดในร่างกายคุณ
 

Similar to Aaaaaaaaaaa

โครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาโครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษา
Bream Mie
 
2562 final-project -1-23-1 weed
2562 final-project -1-23-1 weed2562 final-project -1-23-1 weed
2562 final-project -1-23-1 weed
ssuser8b5bea
 
อาหารบำรุงสมอง
อาหารบำรุงสมองอาหารบำรุงสมอง
อาหารบำรุงสมอง
Wisaruta
 

Similar to Aaaaaaaaaaa (20)

Pitchayaporn N.
Pitchayaporn N.Pitchayaporn N.
Pitchayaporn N.
 
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง
 
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
ประโยชน์ของผลไม้
ประโยชน์ของผลไม้ประโยชน์ของผลไม้
ประโยชน์ของผลไม้
 
Jirachaya jeein
Jirachaya jeeinJirachaya jeein
Jirachaya jeein
 
2561 project 03
2561 project  032561 project  03
2561 project 03
 
Healthy food
Healthy foodHealthy food
Healthy food
 
Jirachaya jeein
Jirachaya jeeinJirachaya jeein
Jirachaya jeein
 
2560 project
2560 project2560 project
2560 project
 
2560 project
2560 project2560 project
2560 project
 
แบบโครงร่าง โรคเบาหวาน
แบบโครงร่าง โรคเบาหวานแบบโครงร่าง โรคเบาหวาน
แบบโครงร่าง โรคเบาหวาน
 
โครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษาโครงงานเพื่อการศึกษา
โครงงานเพื่อการศึกษา
 
เค้าโครงร่างคู่คอม
เค้าโครงร่างคู่คอมเค้าโครงร่างคู่คอม
เค้าโครงร่างคู่คอม
 
เค้าโครงร่างคู่คอม
เค้าโครงร่างคู่คอมเค้าโครงร่างคู่คอม
เค้าโครงร่างคู่คอม
 
1
11
1
 
Do you-know-green-tea
Do you-know-green-teaDo you-know-green-tea
Do you-know-green-tea
 
2562 final-project -1-23-1 weed
2562 final-project -1-23-1 weed2562 final-project -1-23-1 weed
2562 final-project -1-23-1 weed
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
อาหารบำรุงสมอง
อาหารบำรุงสมองอาหารบำรุงสมอง
อาหารบำรุงสมอง
 

Aaaaaaaaaaa

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6 ปีการศึกษา 2561 ชื่อโครงงาน ประโยชน์ของสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (Berries Extract) ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย จิรายุ ศรีสุธรรม เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 9 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม นายจิรายุ ศรีสุธรรม เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 9 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ประโยชน์ของสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Berries Extract ประเภทของโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ชื่อผู้จัดทาโครงงาน นายจิรายุ ศรีสุธรรม เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 9 ชื่อครูที่ปรึกษาโครงงาน คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1 - 2 ปีการศึกษา 2561 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน โครงงานนี้เกี่ยวกับประโยชน์ของสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จัดทาขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันนี้ เบอร์รี่นั้นเป็น หนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมอยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนามารับประทานหรือนามาแปรรูป เพื่อจัดทาเป็น อาหารเสริมหรือช่วยในการเสริมความงามโดยเป็นที่ยอมรับอย่างมากในวัยรุ่นและวัยทางาน เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารสกัดที่มีประโยชน์ เช่น สารแอนโทไซยานิน มีหน้าที่ในการป้องกันการเกิด โรคเรื้อรังต่างๆ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยรักษาสุขภาพและป้องกันโรคอย่างโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ โรค กลัวความสูง และวิตามินที่จาเป็นต่อร่างกายของมนุษย์ เช่นวิตามินซี เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถผลิต ขึ้นมาเองได้ จึงจาเป็นต้องได้รับจากแหล่งอื่น ด้วยเหตุนี้การเลือกรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการ เกิดโรคต่างๆได้ วัตถุประสงค์ของการทาโครงงาน 1. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 2. เพื่อศึกษาสารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 3. เพื่อทาให้ทราบถึงประโยชน์ของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ขอบเขตของการทาโครงงาน ประโยชน์ของสารสกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สามารถทราบถึงสารสกัดและป้องกันการเกิดโรคต่างๆได้
  • 3. 3 หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง  ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ความหมายของคาว่าเบอร์รี่ ในภาษาอังกฤษตามพจนานุกรมของเคมบริดจ์ หมายถึง ผลไม้ลูกเล็ก ลักษณะกลม เป็นผลของพืชบางชนิด (a small round fruit on particular plants and trees) ความหมายของคาว่าเบอร์รี่ ในทางวิทยาศาสตร์กันบ้าง ในทางพฤกษศาสตร์ (วิชาว่าด้วยต้นไม้ - ความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน) หมายถึง ผลไม้มีเนื้อที่เกิดจากรังไข่เดียว (fleshy fruit from single ovary) ผลไม้ที่ทางพฤกษศาสตร์จัดว่าเป็นเบอร์รี่จะเกิดจากดอกไม้ที่มีรังไข่เดียว ซึ่งถือเป็นส่วนใหญ่ของ ผลไม้ทั้งหมด พืชที่ให้ผลเป็นเบอร์รี่ ในทางพฤกษศาสตร์จะเรียกว่า bacciferous เช่น บลูเบอร์รี่ กูซเบอร์รี่ เอลเดอร์เบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ โกจิเบอร์รี่ เบอรร์รี่แบ่งออกเป็น 10 ชนิด 1. โกจิเบอร์รี่ 2. อาซาอิเบอร์รี่ 3. บลูเบอร์รี่ 4. ราสเบอร์รี่ 5. เชอร์รี่ 6. เอลเดอร์เบอร์รี่ 7. แบล็คเบอร์รี่ 8. แครนเบอร์รี่ 9. สตรอว์เบอร์รี่ 10. บิลเบอร์รี่ 11. มัลเบอร์รี่  สารกัดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารและวิตามินต่างๆเช่น 1. สารแอนโธไซยานิน 2. สารแอนตี้ออกซิแดนท์ 3. สารแทนนิน 4. ไบโอฟลาโวนอยด์ 5. วิตามินมากมาย เช่น A, B, C, E, K และ P สารแอนโธไซยานิน
  • 4. 4 สารแอนโทไซยานิน จะพบมากในพืชและผักที่มีสี แดง ม่วง ฟ้า เป็นส่วนมาก มีฤทธิ์ต่อต้านสาร อนุมูลอิสระ สามารถยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของลิโปโปรตีน และการตกตะกอนของเกร็ดเลือด ทาให้แอน โทไซยานิน มีหน้าที่ในการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคที่เกียวกับหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ทั้งยังชะลอการเสื่อมของเซลล์ ช่วยยับยังจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร โครงสร้างของแอนโทไซยานิน ประกอบด้วยสารประกอบ 2 หรือ 3 ชนิด ได้แก่ 1. แอนโทไซยานิดิน หรืออะไกลโคน(Aglycone) มีโครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วย คาร์บอนเชื่อมต่อ กันในรูป C-6-C-3-C-6 เชื่อมต่อกัน ซึ่งแอนโธไซยานิดินที่พบมากในปัจจุบันจะมีอยู่ 6 ชนิด คือ เพลาโกนิดินไซยานิดิน เดลฟินิดิน พีโอนิดิน เพทุนิดิน และมอลวิดิน 2. น้าตาล ซึ่งจะเกิดพันธะกับคาร์บอน ตาแหน่งที่ 3 หรือตาแหน่งที่ 3 และ 5 โดยน้าตาลที่เกิดพันธะ ได้ เช่น กลูโคส กาแลกโตส รูติโนส แรมโนส เป็นต้น 3. โครงสร้างที่เป็นกรด ซึ่งส่วนนี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้ แอนโทไซยานินที่มีกรดเป็นองค์ประกอบเรียกว่า นอนอะซิเลตเทต แอนโทไซยานิน ถ้าไม่มีกรดเป็นองค์ประกอบเรียกว่า อะซิเลตเทต แอนโทไซยา นิน โดยกรดจะเกิดเอสเทอริฟิเคชัน กับน้าตาล กรดที่เกิดพันธะเอสเทอร์กับน้าตาล เช่น กรดคูมาริก กรดเฟอร์รูริก กรดคาร์เฟอิก เป็นต้น สารแอนตี้ออกซิแดนท์ สารต้านอนุมูลอิสระ คือโมเลกุลของสารที่สามารถจับกับตัวรับและสามารถยับยั้งปฏิกิริยา ออกซิเดชันของโมเลกุลสารอื่นๆได้ ปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวเนื่องกับการแลกเปลี่ยน อิเล็กตรอนจากสารหนึ่งไปยังตัวออกซิไดซ์ ปฏิกิริยาดังกล่าวสามารถให้ผลิตภัณฑ์เป็นสารอนุมูลอิสระ (free radical) ซึ่งสารอนุมูลอิสระเหล่านี้จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และทาลายเซลล์ของร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระจะ เข้ายุติปฏิกิริยาลูกโซ่เหล่านี้ด้วยการเข้าจับกับสารอนุมูลอิสระและยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยถูก ออกซิไดซ์ ดังนั้นสารต้านอนุมูลอิสระจึงถือเป็นตัวรีดิวซ์ อาทิ ไธออล กรดแอสคอร์บิก และโพลีฟีนอล แม้ว่าปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นสิ่งสาคัญต่อสิ่งมีชีวิต หากแต่ก็ยังเกิดโทษเช่นกัน ดังนั้นพืชและสัตว์จึง รักษาสมดุลด้วยระบบอันซับซ้อนของปฏิริยาโดยสารต้านอนุมูลอิสระดังเช่น กลูตาไธโอน วิตามินซี และ วิตามินอี เช่นเดียวกับเอนไซม์อย่างตัวเร่งปฏิกิริยาและเอนไซม์ซูเปอร์ออกไซด์ รวมถึงเพอรอกซิเดสต่างๆ ระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่าหรือเอนไซม์ที่ยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันที่มากเกินไป จะยังผลให้เกิดภาวะ ออกซิเดชันที่มากเกินไป (oxidative stress) นามาซึ่งการทาลายหรือสร้างความเสียหายแก่เซลล์ได้ ในภาวะที่ออกซิเดชันมากเกินไปจะทาให้เกิดโรคในมนุษย์หลายโรค การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ ในทางเภสัชวิทยาได้รับการศึกษาอย่างละเอียดในการรักษาภาวะโรคหลอดเลือดในสมองและโรค neurodegenerative disease อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าออกซิเดชันที่มากเกินไปนั้นเป็นสาเหตุ การเกิดโรคหรือไม่
  • 5. 5 สารต้านอนุมูลอิสระถูกนามาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิด ด้วยคาดหวังใน การรักษาสุขภาพและป้องกันโรคอย่างโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมไปถึงโรคกลัวความสูง แม้ การศึกษาในช่วงแรกให้การสนับสนุนถึงการเติมสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้สุขภาพ ดีนั้น ภายหลังการศึกษาในระยะคลินิกพบว่าสารที่เติมลงไปไม่ได้ช่วยหรือก่อให้เกิดประโยชน์อันใดแก่ ผู้บริโภค ซ้ายังผลมาซึ่งอันตรายจากการรับประทานที่มากเกินไปนอกจากนี้ยังมีการใช้สารต้านอนุมูลอิสระ ธรรมชาติในเภสัชภัณฑ์ และส่วนประกอบอื่นๆในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเช่นสารกันบูดในอาหารและ เครื่องสาอาง และช่วยลดการสึกกร่อนของยางและแก๊สโซลีนอีกด้วย สารแอนตี้ออกซิแดนท์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ชนิดที่ละลายในน้า จะทาปฏิกิริยากับสารออกซิแดนท์ ภายใน”ซโตปราสซึม (Cytoplasm) หรือใน พลาสมาของเลือด กลุ่ม 2 ชนิดที่ละลายในไขมัน จะป้องผนังเซลล์ไม่ให้ถูกทาลายจาก ปฏิกิริยา Lipid Peroxidation สารเหล่านี้บางชนิดก็สร้างขึ้นมาได้เองภาย ในร่างกาย แต่บางชนิดก็จาเป็นต้องได้รับจากอาหาร บางชนิดก็ พบได้มากในเซลล์ เช่น Glutathione, Ubiquinone บางชนิดพบมากในพลาสมาเช่น กรดยูริค สารแทนนิน เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่และโครงสร้างซับซ้อน มีสถานะเป็นกรดอ่อนรสฝาด เป็นสารให้ความฝาด ในพืช พบได้ในพืชหลายชนิด แทนนิน มี 2 ชนิด คือ คอนเดนส์แทนนิน (condensed tannins) หรือเรียกอีกอย่างว่า โปรแอนโทรไซยานิน (proanthrocyanin) พบได้ในส่วนเปลือกต้น และแก่นไม้เป็นส่วนใหญ่ สารไฮโดรไลซ์แทนนิน (hydrolysable tannins) คือแบบที่สามารถถูกแยกออกเป็นโมเลกุลเล็กๆ ได้ พบมากในส่วนใบ ฝัก และส่วนที่ปูดออกมาจากปกติ เมื่อต้นไม้ได้รับอันตราย (gall) แทนนิน มีคุณสมบัติ ตกตะกอนโปรตีน ทาให้หนังสัตว์ไม่เน่าเปื่อย จึงมีการใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนังด้วย แทนนินมีฤทธิ์ฝาด สมาน จึงใช้เป็นยารักษาโรคท้องเสียได้ แทนนินมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้ ตัวอย่างแทนนินได้แก่ theogallin, gallic acid, ellagic acid แทนนิน มาจากคาว่า “แทนนิ่ง” "tanning" ซึ่งแปลว่ารักษาไว้และกันน้า แทนนิ่งคือการเปลี่ยนหนัง สัตว์ที่ตายแล้วให้เป็นผลิตภัณฑ์หนังโดยการใช้สารสกัดจากพืช ไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นสารโมเลกุล ทางเคมีเป็นสารพวก flavone และ อนุพันธ์ เช่น flavanone, flavan, flavanonol, anthocyanidin, leucocyanidin, rutin, hesperidin ส่วนใหญ่สามารถละลายในน้าได้ พบในธรรมชาติ ประมาณ 4,000 กว่าชนิด โดยพบในพืชทั่วไป ในทุกส่วนของต้นพืช เช่น หัวหอมมี quercetin ประมาณ 6% โดยน้าหนักแห้ง quercetin เป็นสารเริ่มต้นของพิษ เม็ดสี สารกรองแสง ฮอร์โมน
  • 6. 6 กระตุ้นการเจริญของพืช การตรึงไนโตรเจน ฯลฯ ใช้เป็นอาหารของคนและสัตว์ สามารถดูดซึมผ่านทางเดิน อาหารได้ ฤทธิ์ทางชีวภาพ เดิมเรียกสารกลุ่มนี้ว่า “ไวตามิน P” มีฤทธิ์ต่อร่างกายหลายอย่างใช้ป้องกันโรคเส้นเลือด ฝอยแตก โรคเลือดออกตามไรฟัน ทดแทนหรือเสริมไวตามิน C ในบางโอกาส ปัจจุบันพบฤทธิ์ที่สาคัญ เช่น 1. การต้านออกซิเดชั่น สารเช่น 3-OH-flavnone, quercetin, (+)-catechin, fustin, rutin, luteolin, morin, kaempferol, genistein มีฤทธิ์ต่อต้านการทาลาย lipid peroxidation ของ PUFA จึงอาจช่วยลดการอักเสบ และลดพิษ จากเหล็กอิสระ 2. การยับยั้งเอนไซม์ quercetin, d-catechin และอนุพันธ์ของ flavan สามารถยับยั้ง histidine decarboxylase, hyaluronidase ฉะนั้นจึงยับยั้งฮัสตามีน และอาจใช้ป้องกันการเกิดผลในกระเพาะอาหารได้ ไบโอฟลาโวนอยด์บางชนิดอาจ ยับยั้ง phospholipases, lipoxygenase, xanthine oxidase, lactic dehydrogenase, protein kinase C, kinases, microsomal cytochrome P450 3. การต่อต้านสารพิษ ไบโอฟลาโวนอยด์ สามารถต่อต้านพิษจากสารเคมีบางชนิด เชื้อรา fusarium (T-toxin) พิษจากรังสี สารก่อ มะเร็ง (carcinogen) สารส่งเสริมการเกิดมะเร็ง อนุมูลอิสระ ควัยบุหรี่ 4. Differentiating agent สารไบโอฟลาโวนอยด์บางอย่าง เช่น genistein เป็นสารกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และลักษณะของเซลล์ (differentiating agent) หลายชนิด เช่น human myelogenous leukemia K562, murine erythroleukemia cells ในหลอดทดลอง โดยกลไกการยับยั้งเอนไซม์ tyrosine kinase ในเซลล์ ฉะนั้นจึง ยับยั้งมะเร็ง วิตามิน วิตามิน A เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น, เพิ่มภูมิคุ้มกัน, ทาให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น, ทั้ง ยังเสริมสร้างให้กระดูก ฟัน และเล็บแข็งแรง นอกจากนี้ยังป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร, ระบบ ทางเดินหายใจและระบบปัสสาวะ ผิวและผมแข็งแรง ช่วยบรรเทาโรคที่เกี่ยวกับไทรอยด์ได้ ส่วนในด้านของผิวพรรณนั้น วิตามินเอ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่, ลดอาการอักเสบ ของผิว, ช่วยลดเลือนจุดด่างดาได้ วิตามินเอจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการลดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ใน อุตสาหกรรมเวชสาอางค์ จึงได้นาวิตามินเอมาผสมทั้งครีม, แป้ง และผลิตภัณฑ์อีกหลาย ๆ ตัว
  • 7. 7 วิตามิน C มีประโยชน์ และปลอดภัยมากที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งในร่างกายของเรา ไม่สามารถสร้าง วิตามินซีเองได้ เราจึงควรต้องได้รับจากอาหาร หรือวิตามินเสริม และไม่ต้องกังวลการตกค้างภายในร่างกาย เพราะวิตามินซีนั้นสามารถละลายได้ในน้า เมื่อเข้าสู่ร่างกายก็จะละลาย และดึงเอาประโยชน์ไปใช้ หลังจาก นั้นก็ถูกขับออกจากร่างกาย ในรูปแบบของการขับถ่ายภายใน 24 ชม. วิตามินซีจึงปลอดภัยกับร่างกายโดย แท้ วิตามินซีนั้นช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดได้ดี, ลดอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ, เสริมสร้างกระดูกและ ฟัน และต่อต้านสารก่อมะเร็งได้เป็นอย่างดี วิตามิน E เป็นวิตามินที่จาเป็นต่อร่างกาย และต้องได้รับทุกวัน ละลายได้ดีในไขมัน เช่นเดียวกับ วิตามินเอ มีหน้าที่สาคัญในการขยายหลอดลม และเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด วิตามินอี ยังเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระที่สาคัญอีกตัวหนึ่งที่ช่วยยับยั้ง การเสื่อมของเยื่อหุ้มเซลล์ และป้องกันเซลล์ถูกทาลายจากสาร อนุมูลอิสระ และทาให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคงทนมากขึ้นด้วย ในวิตามินอีนั้นจะสามารถละลายได้ในร่างกาย จึงถูกขับออกมาทางระบบขับถ่ายเหมือนกับวิตามินซี แต่กลับ มีการตกค้างอยู่ในร่างกาย จนกลายเป็นการสะสมเหมือน วิตามินเอ เพราะฉะนั้นจึงควรระวังในการ รับประทาน วิตามิน K หรือไฟโลควิโนน ช่วยให้การแข็งตัวของเลือดให้เป็นปกติ เช่นเดียวกับการขนส่ง แคลเซียม ชาวอเมริกันสามารถบริโภควิตามินเคจากผักใบเขียวเป็นหลัก ผักใบเขียวอย่างผักโขมที่ย่อยลาบาก สามารถเพิ่มการดูดซึมได้มากกว่า 3 เท่า ด้วยการทานร่วมกับไขมัน เช่น เนย หรือน้ามันมะกอก เช่นเดียวกับ วิตามินละลายในไขมันตัวอื่นๆ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน ศึกษาตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้คือ ศึกษาสารในผลไม้ชนิดต่างๆที่สามารถต้านมะเร็งได้ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต งบประมาณ ไม่มีค่าใช้จ่าย ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน ผู้จัดทา 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ผู้จัดทา 3 จัดทาโครงร่างงาน ผู้จัดทา 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน ผู้จัดทา
  • 8. 8 5 ปรับปรุงทดสอบ ผู้จัดทา 6 การทาเอกสารรายงาน ผู้จัดทา 7 ประเมินผลงาน ผู้จัดทา 8 นาเสนอโครงงาน ผู้จัดทา ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) จากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ครั้งนี้ ผู้จัดทาได้คาดหวังว่าข้อมูลในโครงงานเล่มนี้ คือ ทาให้ผู้คนได้ทราบถึงสารกัด ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และโครงงานจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์และคุณค่าของเบอร์รี่ และ สามารถนาความรู้จากการศึกษาโครงงานไปต่อยอดได้ สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 238 ถนนพระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง วิชาวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) หลากประโยชน์จากตระกูลเบอร์รี่ .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก: https://guru.sanook.com/8569/ (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 มกราคม 2562) เบอร์รี่ผลไม้ต้านโรค .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก: https://www.honestdocs.co/berry-fruit-prevent-disease (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 มกราคม 2562) รวมผลไม้ เบอร์รี่ 10 ชนิดที่ควรรับประทาน .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก: https://sistacafe.com/summaries/43083 - ซื้อมากินสิคะซิสรวมผลไม้เบอร์รี่10ชนิด (วันที่สืบค้นข้อมูล: 5 มกราคม 2562) วิตามินแต่ละชนิด .(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก: https://www.honestdocs.co/each-vitamins-benefits (วันที่สืบค้นข้อมูล: 6 มกราคม 2562)