Pca7. กระบวนการเรียนรู้ตาม
กรอบทฤษฎี Constructivist
2. Accommodation เป็นกระบวนการที่ผู้เรียนปรับ
โครงสร้างความรู้ภายใน เพื่อให้สามารถตีความ
หรือสร้างความหมายให้กับข้อมูลหรือสถานการณ์
ใหม่
ครูควรดำาเนินการดังนี้
จัดสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศการเรียนรู้ให้ท้าทาย
และส่งเสริมกระบวนการคิดของผู้เรียน
ออกแบบภาระงานและบริบทที่สะท้อนให้เห็นถึงมิติ
ต่าง ๆ ของสังคมภายนอกที่ซับซ้อน ซึ่งผู้เรียนต้อง
ออกไปเผชิญ
ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทดสอบแนวความคิดหรือ
ความรู้ของตนในบริบทหรือมุมมองที่แตกต่างออก
ไป
8. กระบวนการเรียนรู้ตาม
กรอบทฤษฎี Constructivist
3. Disequilibrium เกิดความขัดแย้งระหว่างสิ่ง
ที่สิ่งที่พบใหม่กับโครงสร้างความรู้ทางสติ
ปัญญา นำาไปสู่การสูญเสียภาวะดุลภาพทาง
จิตวิทยา ตามปกติความไม่สมดุลในระดับที่
เหมาะสมจะเป็นแรงกระตุ้นให้บุคคลเสาะ
แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำาการสลายความ
ขัดแย้ง (Conflict Resolution) และคืนสู่ภาวะ
ดุลยภาพ
10. กระบวนการเรียนรู้ตามกรอบ
ทฤษฎี Constructivist
4. Equilibrium เป็นกระบวนการที่ผู้เรียนบรรลุหรือกลับ
สู่ภาวะดุลยภาพทางจิตวิทยา
ครูควรดำาเนินการอย่างไร
ออกแบบภาระงานและบริบทให้มีความยากง่าย
และความซับซ้อนในระดับที่เหมาะสมกับ
โครงสร้างความรู้ ทางสติปัญญาผู้เรียน
ให้โอกาสผู้เรียนในการศึกษาค้นคว้าและปรึกษา
หารือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและให้เวลาในการ
คิดวิเคราะห์ทบทวนเกี่ยวกับสาระและกระบวนการ
ทำางานของตน
11. การออกแบบภาระงาน
ขั้นตอนที่ 1 ระบุความรู้ ทักษะ
คุณลักษณะของผู้เรียน
ขั้นตอนที่ 2 ออกแบบภาระงานที่
ทำาให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะและ
คุณลักษณะตามขั้นตอนที่ 1
ขั้นตอนที่ 3 การกำาหนดเกณฑ์การ
ประเมินหรือการให้คะแนน
(Rubrics) ที่ชัดเจน เป็นปรนัย
12. การพิจารณาภาระงาน
Wiggins (1996)
ภาระงานนั้นๆ สรุปรวบยอดและตรงกับ
มาตรฐาน มาตรฐานช่วงชั้น
ผู้เรียนสามารถนำาพื้นฐานความรู้ที่มีอยู่ มาใช้
นำาไปสู่การเกิดความรู้ใหม่ และความรู้เหล่า
นี้สร้างภาระงาน/ชิ้นงาน ได้สำาเร็จ
ใช้กระบวนการคิดระดับสูง การคิด
สร้างสรรค์
ตรงจุดมุ่งหมาย อยู่ในบริบทที่มีความหมายดู
เหมือนสภาพแท้จริง
20. หลักการประเมินผลที่เน้นผู้เรียนเป็น
ศูนย์กลาง (ต่อ)
(Learner-Centered Assessment)
4. ความรู้ ทักษะและยุทธศาสตร์ที่ประเมินควรเป็น
อย่างเดียวกับที่นักเรียนใช้ในกระบวนการเรียนรู้
ตามหลักสูตรในชีวิตประจำาวัน
5. การประเมินผลควรอาศัยข้อมูลจากการปฏิบัติ
ภาระงานที่มีความหมาย สอดคล้องกับสภาพจริง
(Authentic Tasks) และสอดคล้องกับหลักสูตรและ
การเรียนการสอนในชั้นเรียน
6. การประเมินผลควรให้ความสำาคัญและนำ้าหนักที่
เหมาะสมกับ ความสามารถและความ
21. หลักการประเมินผลที่เน้นผู้เรียนเป็น
ศูนย์กลาง (ต่อ)
(Learner-Centered Assessment)
7. การประเมินและการตัดสินผลการเรียนไม่ควรใช้
ข้อมูลจากผลการสอบแบบทดสอบมาตรฐานเพียง
อย่างเดียว เพราะจะไม่เป็นธรรมกับผู้เรียนที่มีความ
หลากหลายด้านความสามารถและผลสัมฤทธิ์
8. การประเมินต้องเป็นธรรมกับผู้เรียนทุกคน ไม่ว่า
พื้นฐานทางวัฒนธรรม ภาษา เชื้อชาติ เพศ และภูมิ
หลังทางผลสัมฤทธิ์จะเป็นเช่นใด
9. ระบบการประเมินควรจะเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้อง
และผู้ใช้ประโยชน์ข้อมูลการประเมินทำาการตรวจ
22. หลักการประเมินผลที่เน้นผู้เรียนเป็น
ศูนย์กลาง (ต่อ)
(Learner-Centered Assessment)
10. การประเมินในชั้นเรียนควรกระทำาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ข้อมูลระยะยาวสำาหรับใช้เป็นหลักฐาน
การพัฒนาและความก้าวหน้าของผู้เรียนเป็นราย
บุคคล
11. ระบบการประเมินควรจะรวมถึงการวัดแรงจูงใจ
เจตคติ และปฏิกริยาทางจิตพิสัย (Affective
Reaction) ของผู้เรียนต่อหลักสูตรและการเรียน
การสอน นอกเหนือไปจากการวัดด้านความรู้
ทักษะทางปัญญา และยุทธศาสตร์การคิด
23. หลักการประเมินผลที่เน้นผู้เรียนเป็น
ศูนย์กลาง (ต่อ)
(Learner-Centered Assessment)
13. ผลการประเมินควรให้ข้อมูลป้อนกลับที่ชัดเจน
เข้าใจง่าย และเป็นปัจจุบันแก่ผู้เกี่ยวข้องระดับต่าง
ๆ
14. การประเมินไม่ควรถือความถูก-ผิดของคำาตอบ
อย่างเคร่งครัดและคับแคบ แต่ควรพิจารณาถึงคำา
ตอบที่เป็นไปได้และสมเหตุสมผล และเปิดโอกาส
ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากความผิดพลาด
15. การประเมินควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงออก
ซึ่งความรู้และความเข้าใจอย่างสร้างสรรค์และ
26. Rubric คืออะไร
Rubric คือ ชุดของแนวทาง
การให้คะแนนสำาหรับการ
ประเมินงานของผู้เรียน
Rubric is a set of scoring
guidelines forevaluating
student work.
28. การใช้ Rubric สามารถตอบ
คำาถามเหล่านี้
เกณฑ์อะไรที่ใช้ในการตัดสินงาน
ของผู้เรียน
ในการตัดสินผลสำาเร็จของงาน
พิจารณาจากสิ่งใดบ้าง
ความแตกต่างของช่วงระดับ
คุณภาพของงาน
ความเชื่อมั่น ความเที่ยงตรง ความ
ยุติธรรมในการให้คะแนน
30. รูปแบบของ rubric
1. ประกอบด้วยมาตรวัด ( scale ) ที่
ต่อเนื่อง เพื่อให้คะแนนผลงาน
โดยปกติคะแนนสูง คือ ระดับที่
แสดงว่าผลงานดีที่สุด
โดยทั่วไป ระดับสูงอาจกำาหนด
เป็น 6/5/4
ระดับตำ่าสุดอาจกำาหนดเป็น 1/0
34. ตัวอย่างประเมินแบบทั่วไป / แบบ
เฉพาะของภาระงาน
แบบทั่วไป แบบเฉพาะของภาระงาน
4 = เข้าใจเกี่ยวกับ
ความคิดรวบยอด
และข้อเท็จจริงใน
สถานการณ์อย่าง
ถูกต้องทั้งหมดและ
มีแนวคิดใหม่
4 = เข้าใจในความ
คิด รวบยอดใน
กระบวนการต่อสู้
เพื่อประชาธิปไตย
ที่ส่งผลกระทบต่อ
ผู้อื่นได้ถูกต้อง
ครบถ้วนและมี
แนวคิดใหม่เกี่ยว
กับตัวประกัน
36. Rubrics ที่ดีมีลักษณะอย่างไร
ในแต่ละภาระงาน การประเมิน
ต้องมีความสัมพันธ์กับเป้าหมาย
ทั่วไปที่กำาหนดไว้ และควรมีความ
เฉพาะเจาะจง มีประโยชน์ต่อ
ภาระงานนั้นๆ
ควรจำาแนกเกณฑ์แต่ละเกณฑ์ ให้
ชัดเจน ไม่ควรนำาเกณฑ์ที่ไม่
เหมือนกันมารวมไว้ในเกณฑ์
เดียวกัน
41. เทคนิควิธีการในการสร้าง rubric
5. ความเที่ยงตรง ( Valid )
สะท้อนให้เห็นถึงการวิเคราะห์ภาระ
งาน โดยพิจารณาช่วงระดับคะแนน
ผลงานทุกระดับ
อธิบายความแตกต่างของผลงานใน
เชิงคุณภาพ มิใช่เชิงปริมาณ
เน้นเกณฑ์การแสดงออกตามสภาพ
จริง ไม่พิจารณาด้านพฤติกรรมเป็น
สำาคัญ
46. ขั้นตอนในการสร้าง rubric
2.3 ตัดสินใจว่าจะใช้เกณฑ์การ
ประเมินแบบ holistic เพียงเกณฑ์
เดียว หรือจะใช้แบบ analytic
ข้อสังเกต
คำานึงถึงประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
แบบรวม --- สร้างง่ายและเร็วกว่า ใช้ง่าย
และสะดวกกว่า
แบบจำาแนก --- ให้ข้อมูลย้อนกลับที่ดีกว่า มี
ความครอบคลุมประเด็นต่างๆ มากกว่า มี
ความเที่ยงตรงมากกว่า
47. ขั้นตอนในการสร้าง rubric
2.4 เริ่มกำาหนดเกณฑ์การประเมินที่
ต้องการ ( 4 ช่วง หรือ 6 ช่วง)
ข้อสังเกต
6---- ระดับความสำาเร็จสูงสุด
1---- ระดับความสำาเร็จตำ่าสุด
อาจกำาหนดระดับ 0 “0” มักถูกกำาหนดเป็นคะแนน
พิเศษ สำาหรับ
การปฏิบัติที่ไม่สามารถให้คะแนนได้ เช่นไม่
สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง
กรณีประสงค์จะกำาหนดระดับคะแนนมากกว่า 6
ควรพิจารณาภายหลัง โดยดูว่าจะสามารถจำาแนก
คุณภาพได้หรือไม่
51. Holistic Scale
3 ดี 2 พอใช้ 1ปรับปรุง 0 ยังใช้ไม่ได้
คำาตอบแสดง
ข้อสรุปหลาย
ประการที่สม
เหตุสมผล
และมีความ
ชัดเจน
คำาตอบสรุป
ความบาง
ส่วนสั้น
บางประเด็น
ขาดความ
ชัดเจน หรือ
การให้
เหตุผลมีข้อ
ผิดพลาด
เล็กน้อย
คำาตอบมี
ข้อสรุป
อย่าง
น้อย 1
ข้อ แต่
ไม่หนัก
แน่นหรือ
มีความ
สับสน
คำาตอบไม่มี
ข้อสรุป
หรือข้อสรุป
ไม่เหมาะ
สม หรือไม่
สอดคล้อง
กับงาน
52. 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1ปรับปรุง 0 ยังใช้ไม่
ได้
คำาตอบตอบ
คำาถาม
สำาคัญทั้งหมด
แสดงความ
เข้าใจที่
ลึกซึ้งเกี่ยวกับ
ข้อมูล
สำาคัญเชื่อม
โยงข้อมูล
สารสนเทศกับ
ความรู้
ที่มีมาก่อนได้
อย่าง
สอดคล้อง
แสดงการ
ตีความ การ
คำาตอบตอบ
คำาถาม
สำาคัญได้
เกือบ
ทั้งหมดแสดง
ความ
เข้าใจข้อมูล
สำาคัญ
มองข้ามความ
คิด
สำาคัญหรือ
รายละเอียด
สำาคัญบาง
ประการไป
หรือมีความ
เข้าใจผิด
คำาตอบ
ตอบ
คำาถาม
เพียง
บาง
คำาถาม
เข้าใจ
ข้อมูล
สำาคัญบาง
ประการ
ใน
บทความ
คำาตอบไม่
สอดคล้อง
กับคำาถาม
หรือผิด
พลาด
ทั้งหมด
เว้นว่าง /
ไม่มีคำา
ตอบ
Holistic ScaleHolistic Scale
53. Holistic Scale
4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1ปรับปรุง
มีความเข้าใจ
อย่าง ถ่องแท้
โดยตลอด
จดจำา
เหตุการณ์ต่าง
ๆ ในเรื่องได้
แม่นยำามีสาระ
สำาคัญต่าง ๆ
ครบถ้วน การ
เรียบเรียง
ประโยค ใน
การนำาเสนอดี
มีความเข้าใจ
อย่างดี
จดจำา
เหตุการณ์
ต่างๆ
ในเรื่องได้
แม่นยำา
แต่ขาด
การนำาเสนอ
สาระสำาคัญ
ไป 1
ประเด็น
มีความ
เข้าใจได้
บ้าง จดจำา
เหตุการณ์
ใน
เรื่องได้
บ้าง แต่
ขาดสาระ
สำาคัญ
ไป 1
ประเด็น
หรือ
มากกว่า
มีความเข้าใจ
เพียง
เล็กน้อย หรือ
มี
ความเข้าใจ
ที่ไม่
ถูกต้อง มี
ความ
สับสนใน
เหตุการณ์
ที่เกิดขึ้น
และ/หรือ
ไม่สามารถ
54. Holistic Scale (คณิตศาสตร์)
4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1ปรับปรุง
คำาตอบถูกต้อง
แสดงเหตุผล
ถูกต้อง
แนวคิดชัดเจน
คำาตอบถูก
ต้อง
แสดงเหตุผล
ถูกต้อง
มีข้อผิด
พลาดเล็ก
น้อย
คำาตอบไม่
ถูกต้อง
การ
คำานวณ
ผิดพลาด
แต่มี
แนวทางที่
จะนำาไปสู่
คำาตอบที่
ถูกต้อง
คำาตอบไม่ถูก
ต้องไม่มี
แนวทางที่จะ
นำาไปสู่คำา
ตอบที่ถูกต้อง
หรือไม่ตอบ
เลย
55. ตัวอย่าง
ระดับ 3 ดี ได้คะแนน 7-10
-นักเรียนสามารถปฏิบัติตามกระบวนการ แก้ปัญหา
ได้ครบทุกขั้นตอน
-นักเรียนสามารถทำางานร่วมกับผู้อื่นได้ตามขั้น
ตอนของกระบวนการกลุ่มทุกขั้นตอน
-ผลงานมีข้อมูลถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ตามจุด
ประสงค์ของกิจกรรม
-ผลงานของนักเรียนมีภาพประกอบชัดเจน ถูกต้อง
ตามจุดประสงค์ของกิจกรรม
-นักเรียนสามารถรายงานผลการปฏิบัติกิจกรรม
หน้าชั้นเรียนได้อย่างชัดเจน ถูกต้อง
56. ระดับ 2 พอใช้ ได้คะแนน 4-6
-นักเรียนสามารถปฏิบัติตามกระบวนการ แก้
ปัญหาได้แต่ไม่ครบทุกขั้นตอน
-นักเรียนสามารถทำางานร่วมกับผู้อื่นได้ตามขั้น
ตอนของกระบวนการกลุ่มได้แต่ไม่ครบทุกขั้น
ตอน
-ผลงานมีข้อมูลถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์พอ
สมควร ตามจุดประสงค์ของกิจกรรม
-ผลงานของนักเรียนมีภาพประกอบพอสมควร
ตามจุดประสงค์ของกิจกรรม
57. ระดับ 1 ต้องแก้ไข ได้คะแนน 1-3
-นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามกระบวนการแก้
ปัญหาได้
-นักเรียนไม่สามารถทำางานร่วมกับผู้อื่นได้
-ผลงานมีข้อมูลถูกต้องเป็นส่วนน้อย ไม่
สอดคล้องกับจุดประสงค์ของกิจกรรม
-ผลงานของนักเรียนไม่มีภาพประกอบหรือมีแต่
ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของกิจกรรม
-นักเรียนไม่สามารถรายงานผลการปฏิบัติ
กิจกรรมหน้าชั้นเรียนได้ หรือรายงานได้แต่ไม่
ถูกต้อง
64. วางแผนกำาหนดขั้นตอนการทำางาน
๔ หมายถึง ระบุภาระงานและขั้นตอนการทำางานชัดเจน การ
ทำางานทั้งหมดสอดคล้องกับจุดประสงค์ของงานดีมาก
๓ หมายถึง ระบุภาระงานได้บ้างแต่ไม่ครบตามขั้นตอน การ
ทำางานโดยรวมสอดคล้องกับจุดประสงค์ของงานดี
๒ หมายถึง ระบุภาระงานตามขั้นตอนได้พอสมควร บางส่วน
ไม่เหมาะสม การทำางานเหมาะสมกับประสงค์ของงานพอใช้
๑ หมายถึง ระบุภาระงานและขั้นตอนการทำางานไม่ได้ต้องได้
รับการช่วยเหลือจึงจะวางแผนงานได้
65. จัดเตรียมอุปกรณ์อุปกรณ์
๔ หมายถึง จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือด้วยตนเองได้
ครบถ้วนเหมาะสมกับงานดีมาก
๓ หมายถึง จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือด้วยตนเอง
ได้ครบถ้วนเหมาะสมกับงานดี
๒ หมายถึง จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือด้วยตนเองได้
ครบถ้วนเหมาะสมกับงานพอใช้
๑ หมายถึง จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือด้วยตนเอง
ไม่ได้ต้องได้รับคำาแนะนำาจึงจะทำาได้สำาเร็จ
66. กระบวนการทดลอง
๔ หมายถึง การสังเกต การศึกษา การทดลอง
รวบรวมข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วนตามแผนที่วางไว้และแก้
ปัญหาการทำางานได้ด้วยตนเอง
๓ หมายถึง การสังเกต การศึกษา การทดลอง
รวบรวมข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วนตามแผนที่วางไว้และแก้
ปัญหาการทำางานได้ด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่
๒ หมายถึง การสังเกต การศึกษา การทดลอง
รวบรวมข้อมูลตามแผนที่วางไว้และแก้ปัญหาการทำางานได้ด้วย
ตนเองเป็นบางส่วน
๑ หมายถึง การสังเกต การศึกษา การทดลอง
รวบรวมข้อมูลตามแผนที่วางไว้และแก้ปัญหาการทำางานได้ด้วย
ตนเองไม่ได้