More Related Content
Similar to ชื่อสัมพันธ์ (20)
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์ (20)
ชื่อสัมพันธ์
- 2. บทที่ ๑ ชื่อสัมพันธ์
ปฐมาวิภัตติ ใช้ในอรรถ ๖ อย่าง
๑. เป็นประธานในประโยคกตฺตุวาจก เรียกว่า สยกตฺตา
๒. เป็น ปธ. ใน ปย.
ตา
เหตุกตฺตุวาจก
,,
เหตุกตฺ
๓. เป็น ปธ. ใน ปย. กมฺมวาจก หรือ เหตุกมฺมวาจก ,, วุตฺตกมฺม
๔. เป็น ปธ. ใน ปย. กิริยาปธานนัย (ตฺวา ปัจจัยคุมพากย์),,
ติกตฺตา
๕. เป็น ปธ. ใน ปย. ไม่มกิริยคุมพากย์
ี
ปก
เรียกว่า ลิงคตฺถ
ฺ
๖. เป็น ปธ. ใน ปย. เปรียบเทียบ (ควบด้วย วิย, อิว,ยถา ศัพท์)
เรียกว่า อุปมาลิงคตฺถ
ฺ
- 3. ทุติยาวิภัตติใช้ในอรรถ ๖ อย่าง เข้ากับกิริยา
๑. แปลว่า ซึ่ง
เรียกว่า
อวุตฺตกมฺม
๒. แปลว่า สู่
เรียกว่า
สมฺปาปุณยกมฺม
ิ
๓. แปลว่า ยัง
เรียกว่า
การิตกมฺม
๔. แปลว่า สิ้น, ตลอด
เรียกว่า
อจฺจนฺตสํโยค
๕. แปลว่า กะ
เรียกว่า
อกถิตกมฺม
๖. แปลไม่ออกสําเนียงอายตนิบาต เรียกว่า กิรยาวิเสสน
ิ
- 4. ตติยาวิภัตติใช้ในอรรถ ๖ อย่าง
เข้ากับนามบ้าง กิริยาบ้าง อัพยยศัพท์บาง
้
๑. แปลว่า ด้วย
เรียกว่า กรณ
๒. แปลว่า โดย, ตาม, ทาง, ข้าง เรียกว่า ตติยาวิเสสน
๓. แปลว่า อัน
เรียกว่า อนภิหิตกตฺตา
๔. แปลว่า เพราะ
เรียกว่า เหตุ
๕. แปลว่า มี (เข้ากับนาม), ด้วยทั้ง (เข้ากับกิริยา) เรียกว่า อิตฺ
ถมฺภูต
๖. แปลว่า ด้วย เข้ากับ สห หรือ สทฺธึ ศัพท์ เรียกว่า สหตฺถ
ตติยา
- 6. ปัญจมีวิภัตติ ใช้ในอรรถ ๒ อย่าง เข้ากับ
นามบ้าง กิริยาบ้าง
๑. แปลว่า แต่, จาก, กว่า
เรียกว่า
อปาทาน
๒. แปลว่า เหตุ, เพราะ
เรียกว่า
เหตุ
- 7. ฉัฏฐีวิภัตติใช้ในอรรถ ๖ อย่าง เข้ากับนาม
๑. แปลว่า แห่ง, ของ เนื่องด้วยเป็นเจ้า เรียกว่า สามีสมฺพนฺธ
๒. แปลว่า แห่ง, ของ เข้ากับภาวศัพท์ และศัพท์ที่แปลว่า
ความ การ อัน เรียกว่า ภาวาทิสมฺพนฺธ
๓. แปลว่า แห่ง เนื่องในหมู่
เรียกว่า สมุหสมฺพนฺธ
๔. แปลว่า เมื่อ เป็นประธานในประโยคแทรก เรียกว่า
อนาทร
๕. แปลว่า ซึ่ง เข้ากับนามกิตก์ (ณวุ ตุ ยุ)
กมฺม
เรียกว่า ฉฏฺฐี
- 8. สัตตมีวิภัตติใช้ในอรรถ ๑๒ อย่าง เข้ากับ
นามบ้าง กิริยาบ้าง
๑. แปลว่า ใน เป็นที่กำาบัง, เป็นที่ปกปิด เรียกว่า ปฏิจฺฉนฺนา
ธาร
๒. แปลว่า ใน เป็นที่ซึมซาบ
เรียกว่า พฺยาปิกาธาร
๓. แปลว่า ใน เป็นที่อยู่อาศัย
เรียกว่า วิสยาธาร
๔. แปลว่า ใน เข้ากับกิริยา ไม่ลงในอรรถไหน เรียกว่า
อาธาร
๕. แปลว่า ใน เข้ากับนาม ไม่ลงในอรรถไหน เรียกว่า ภินฺ
นาธาร
๖. แปลว่า ใน, ณ เกี่ยวกับกาลเวลา เรียกว่า กาลสตฺตมี
- 9. ๗. แปลว่า ใกล้, ณ เป็นที่ใกล้เคียง
๘. แปลว่า ในเพราะ
เรียกว่า สมีปาธาร
เรียกว่า นิมิตฺตสตฺตมี
๙. แปลว่า ครั้นเมื่อ เป็นประธานในประโยคแทรก ,,
ลกฺขณ
๑๐. แปลว่า เหนือ, บน, ที่ เป็นที่รองรับไว้ เรียกว่า อุปสิเลสิ
กาธาร
๑๑. แปลว่า ใน...หนา (ประโยคถอน)
(มี นิทฺธารณีย รับ)
เรียกว่า นิทฺธารณ
๑๒. แปลว่า อันว่า (อ.) เป็นประธาน ลงในอรรถปฐมาวิภัตติ
เรียกว่า สตฺตมีปจฺจตฺตสยกตฺตา
- 10. อาลปน
สัมพันธ์แล้วปล่อย
แปลว่า แนะ, ดูก่อน, ข้าแต่, ข้าแด่
เรียกว่า อาลปน
หมายเหตุ ถ้าอาลปนนาม มาคู่กับอาลปนนิบาต ให้สัมพันธ์อา
ลปนนิบาต เป็นวิเสสนะของอาลปนนาม เช่น
อาวุโส โมคฺคลฺลาน ดูก่อนโมคคัลลานะ ผู้มีอายุ
สัมพันธ์ อาวุโส วิเสสน ของ โมคฺคลฺลาน ๆ อาลปน
- 11. วิเสสนะ
เข้ากับนามบ้าง สัพพนามบ้าง
๑. คุณนาม
เรียกว่า
วิเสสน
๒. วิเสสนสัพพนาม
เรียกว่า
วิเสสน
๓. นามกิตก์ที่เป็นคุณนาม เรียกว่า
วิเสสน
๔. อนฺต และ มาน ปัจจัย อยู่หน้าตัวประธาน หรือ ประกอบ
ด้วยวิภัตติอนจากปฐมาวิภัตติ จะอยู่หน้าหรือหลังตัวประธาน
ื่
ก็ตาม เรียกว่า วิเสสน
๕. ต อนีย และ ตพฺพ ปัจจัย ที่ไม่ได้เป็นกิริยาคุมพากย์ หรือ
วิกติกตฺตา เรียกว่า วิเสสน
- 12. ๖. ตูนาทิปัจจัย แปลไม่ออกสำาเนียงปัจจัย หลังนาม
เรียกว่า วิเสสน
๗. สมาสคุณนามและตัทธิตคุณนาม เรียกว่า วิเสสน
- 13. ประธานพิเศษไม่แจกวิภัตตินาม
๑. ตถา อ. เหมือนอย่างนั้น
๒. เอวำ อ. อย่างนั้น
๓. อลำ อ. อย่าเลย
๔. อลำ อ. พอละ
เรียกว่า ลิงฺคตฺถ
เรียกว่า สจฺจวาจกลิงฺคตฺถ
เรียกว่า ปฏิเสธลิงฺคตฺถ
เรียกว่า ลิงฺคตฺถ
๕. อชฺช อ. วันนี้
เรียกว่า สตฺตมีปจฺจตฺตสยกตฺตา
๖. อิทานิ อ.กาลนี้
เรียกว่า สตฺตมีปจฺจตฺตสยกตฺตา
๗. ตทา อ.กาลนั้น
เรียกว่า สตฺตมีปจฺจตฺตส
ยกตฺตา
- 14. ๘. สาธุ อ. ดีละ
เรียกว่า ลิงฺคตฺถ
๙. ตุำ ปัจจัย ใช้เป็นประธาน เรียกว่า ตุมตฺถกตฺตา
- 15. กิริยาคุมพากย์
กิริยาคุมพากย์ ได้แก่ กิิิริยาดังต่อไปนี้
๑. กิริยาอาขยาต
กตฺตุวาจก เช่น ปจติ
วาจก
เรียกว่า อาขฺยาตบท
เรียกว่า อาขฺยาตบท กตฺตุ
กมฺมวาจก เช่น ปจิยเต เรียกว่า อาขฺยาตบท กมฺมวาจก
ภาววาจก เช่น ภูยเต เรียกว่า
อาขฺยาตบท ภาว
วาจก
เหตุกตฺตุวาจก เช่น ปาเจติ เรียกว่า อาขฺยาตบท เหตุกตฺตุ
วาจก
เหตุกมฺมวาจก เช่น ปาจาปิยเต เรียกว่า อาขฺยาตบท เหตุ
กมฺมวาจก
- 16. ๒. นามกิตก์ ได้แก่ ณฺย ปัจจัย ใช้คมพากย์ เช่น คารยฺหา
ุ
เรียกว่า กิตบท กมฺมวาจก
๓. กิริยากิตก์ ได้แก่ ต อนีย ตพฺพ ปัจจัยใช้คมพากย์ เรียกว่า กิ
ุ
ตบท
กตฺตุวาจก เช่น ปวิฏฺโฐ
เรียกว่า กิตบท กตฺตุวาจก
กมฺมวาจก เช่น อธิคโต
เรียกว่า กิตบท กมฺมวาจก
ภาววาจก เช่น ภวิตพฺพํ
เรียกว่า กิตบท ภาววาจก
เหตุกตฺตุกมฺมวาจก เช่น ปติฏฐาปิโต เรียกว่า กิตบท เหตุ
ฺ
กมฺมวาจก
- 17. ๔. ตฺวา ปัจจัย คุมพากย์
เรียกว่า กิริยาปธานนัย
๕. สกฺกา และ อลํ ใช้คุมพากย์
เรียกว่า
กิริยาบท ภาววาจก บ้าง
กิริยาบท กมฺมวาจก บ้าง
๖. อนฺต และ มาน ปัจจัย ประกอบด้วยฉัฏฐีวิภตติ เป็นกิริยา
ั
ของประโยคอนาทร เรียกว่า อนาทรกิริยา
๗. อนฺต และ มาน ปัจจัย ประกอบด้วยสัตตมีวิภัตติเป็นกิริยา
ของประโยคลักขณะ เรียกว่า ลกฺขณกิริยา
- 18. หมายเหตุ
ณฺย ต อนีย ตพฺพ ปัจจัย และ สกฺกา ใช้คุมพากย์ได้เมื่อตัว
ประธานเป็นประถมบุรุษเท่านั้น ถ้าตัวประธานเป็นมัธยมบุรุษ
หรืออุตตมบุรุษ ให้แปล ณฺย ต อนีย ตพฺพ ปัจจัย หรือ สกฺกา
เป็นวิกติกตฺตา ในกิริยาอาขยาต
- 19. กิริยาในระหว่าง
กิริยาในระหว่าง ได้แก่ กิริยาดังต่อไปนี้
๑. อนฺต และ มาน ปัจจัย ประกอบด้วยปฐมาวิภัตติ อยู่หลังตัว
ประธาน เรียกว่า อพฺภนฺตรกิริยา
๒. ตูน ตฺวา ตฺวาน ปัจจัย ที่เรียกว่า ตูนาทิปัจจัย
แปลว่า แล้ว แปลตามลําดับกิริยา เรียกว่า ปุพพกาลกิริยา
ฺ
แปลว่า แล้ว แปลหลังกิริยาคุมพากย์ เรียกว่า อปรกาลกิริยา
แปลว่า เพราะ แปลหลังกิริยาคุมพากย์ เรียกว่า เหตุ
แปลไม่ออกสําเนียงปัจจัย ตามลําดับกิริยา เรียกว่า สมาน
กาลกิริยา