More Related Content
Similar to กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
Similar to กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ (20)
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
- 1. กระบวนการวิเคราะห์ และกาหนดความต้ องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกาหนดความต้องการสารสนเทศเป็ นกระบวนการเพือให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่ตรงกับ
่
ความต้องการ โดยมีข้นตอนในการปฏิบติ ได้แก่ ขั้นตอนการวิเคราะห์และกาหนดความต้องการสารสนเทศ และ
ั ั
ขั้นตอนการกาหนดคุณลักษณะของสารสนเทศที่ตองการ ้
ขั้นตอนการวิเคราะห์ และกาหนดความต้ องการสารสนเทศ
เป็ นขั้นตอนของการกาหนดหัวข้อของสารเทศที่ตองการจากแนวคิดหรื อประเด็นที่พจารณาจากวัตถุประสงค์
้ ิ
ของเรื่ องที่จะทาการศึกษาค้นคว้า
1. ระดมความคิดเพือขยายแนวคิดหรื อประเด็นที่สาคัญหรื อจาเป็ นจากวัตถุประสงค์ของเรื่ องที่ตองการศึกษา
่ ้
ค้นคว้า โดยใช้แหล่งสารสนเทศเพือช่วยเพิมความเข้าใจเกี่ยวกับ เรื่ องที่ตองการศึกษาค้นคว้าโดยกาหนดเป็ นหัวข้อ
่ ่ ้
ของสารสนเทศที่ตองการ เป็ นการใช้ความรู ้พ้นฐานที่มีอยูเ่ ดิมขยายไปสู่ความรู ้ใหม่
้ ื
2. กาหนดขอบเขตหรื อกรอบความต้องการสารสนเทศ โดยให้หวข้อของความต้องการสารสนเทศที่ได้มี
ั
ั
ความสัมพันธ์กน อาจทาในรู ปแบบของ แผนที่ความคิด หรื อผังความคิด ซึ่งเป็ นเทคนิคการจดบันทึกที่พฒนาจาก
ั
ความรู ้ที่มี จะช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ของประเด็นแนวคิดที่เกิดขึ้นได้ง่าย
ขั้นตอนการกาหนดคุณลักษณะของสารสนเทศทีต้องการ
่
เป็ นขั้นตอนของการกาหนดคุณลักษณะของสารสนเทศที่ตองการในแต่ละแนวคิดหรื อประเด็นที่ได้จาก
้
ขั้นตอนแรกซึ่งได้กาหนดเป็ นหัวข้อไว้แล้ว เพือให้มีแนวทางในการค้นหาสารสนเทศ โดยพิจารณาตามเกณฑ์
่
ต่อไปนี้
1. ความแคบหรือกว้ างของเนื้อหา เช่น ต้องการสารสนเทศครอบคลุมสาขาใดและ/หรื อแขนงใดบ้าง หรื อ
ต้องการสารสนเทศเฉพาะบางสาขา/แขนง
2. ลักษณะหรือธรรมชาติของข้ อมูล ในสารสนเทศเรื่ องเดียวกันนั้น ต้องการสารสนเทศที่มีลกษณะ ั
แบบใด หลากหลายหรื อไม่ เช่น เป็ นรู ปภาพ ตัวเลข หรื อข้อความ เป็ นต้น ยกตัวอย่าถ้าต้องการสารสนเทศเกี่ยวกับ
ส่วนประกอบของกล้องดิจิตอล อาจต้องการสารสนเทศในลักษณะเป็ นรู ปภาพหรื อคาอธิบาย เพือจะได้เข้าใจ
่
ส่วนประกอบของกล้องดิจิตอลได้อย่างชัดเจน
่ั
3. ปริมาณของข้ อมูล สารสนเทศที่ตองการมีปริ มาณมากหรื อน้อย ขึ้นอยูกบวัตถุประสงค์ของการนาไปใช้
้
ยกตัวอย่างหากเป็ นความต้องการเพียงคาตอบเพือตอบสนองความอยากรู ้อยากเห็น ปริ มาณสารสนเทศที่ตองการมัก
่ ้
มีจานวนน้อย แต่ถาต้องการสารสนเทศเพือนาไปใช้ทาเป็ นรายงานหรื อบทนิพนธ์อื่นๆ ปริ มาณสารสนเทศที่ตองการ
้ ่ ้
มักมีจานวนมากตามขอบเขตของเรื่ องที่จะเขียนรายงานหรื อบทนิพนธ์น้ นๆ ั
4. ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศ ต้องการสารสนเทศประเภทใด เช่น อินเทอร์เน็ต บทความ
วารสาร บทความวิจย สื่อประสม บทความในสารานุกรม ซีดี-รอม สื่อโสตทัศน์ เทปเสียง เป็ นต้น ยกตัวอย่างหาก
ั
ต้องการทราบวิธีการพับนก จะใช้สารสนเทศรู ปแบบไหนจึงจะเข้าใจวิธีการทามากกว่า ในที่น้ ีหากศึกษาจากวีดิทศน์ ั
และอ่านจากหนังสือตาราการพับกระดาษประกอบกันจะทาให้เข้าใจวิธีการพับนกได้ดียงขึ้น ิ่
้ ่
5. อายุของข้ อมูล สารสนเทศที่ตองการอยูในช่วงระยะเวลาใดเป็ นสารสนเทศที่เป็ นปั จจุบนหรื อ
ั
- 2. สารสนเทศเชิงประวัติศาสตร์ ยกตัวอย่างถ้าต้องการศึกษาผลกระทบทางสังคมของสงครามโลกครั้งที่สอง ข้อมูลที่จะ
ค้นหาจึงควรเป็ นสารสนเทศเชิงประวัติศาสตร์ แต่ถาต้องการสารสนเทศเกี่ยวกับการจัดทาประชาพิจารณ์ร่าง
้
รัฐธรรมนูญ ข้อมูลที่จะค้นหาควรเป็ นสารสนเทศที่เป็ นปั จจุบน เป็ นต้น
ั
6. คุณภาพของข้ อมูล ต้องการสารสนเทศที่มีความถูกต้องและความน่าเชื่อถือหรื อไม่ซ่ งสามารถ
ึ
พิจารณาจากผูเ้ ขียน และสานักพิมพ์ ที่เป็ นผูจดทาสารสนเทศนั้นๆ
้ั
7. ภาษาของข้ อมูล ข้อมูลที่ตองการเป็ นภาษาใด ภาษาไทยหรื อต่างประเทศ ข้อมูลที่เป็ นศัพท์เทคนิค
้
หรื อศัพท์เฉพาะทาง เช่น ศัพท์ทางการแพทย์ ศัพท์คอมพิวเตอร์ เป็ นต้น ซึ่งประเด็นนี้ทกษะและความสามารถในการ
ั
ใช้ภาษาต่างประเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องและมีความจาเป็ นในการพิจารณาเลือกข้อมูลด้วย
Source: http://www.rianruu.ob.tc/Laening3-2.html