More Related Content
More from Pa'rig Prig (20)
อากาศภาค
- 3. กาเนิดบรรยากาศโลก
1. โลกในยุคแรกเป็นของเหลวหนืดร้อน (4,600 Mg)
2. ก๊าซไฮโดรเจนแตกตัวเป็นประจุ (Ion) และหลุดหนีสู่อวกาศ
3. เปลือกโลกเริ่มเย็นตัวลงเป็นของแข็ง มีการระเบิดของภูเขาไฟ
4. บรรยากาศโลกส่วนใหญ่เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และไนโตรเจน
5. โลกเย็นตัวลงจนไอน้าในอากาศสามารถควบแน่นทาให้เกิดฝน
6. ก๊าซออกซิเจนกลายเป็นองค์ประกอบหลักแทนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(2,000 Mg)
- 7. โฮโมสเฟียร์(Homosphere)
1. โทรโพสเฟียร์ (Troposphere)
สูงจากผิวโลก 8 - 15 ก.ม. ยิ่งสูงอุณหภูมิยิ่งลด 6.4 องศา C
ทุก ๆ 1,000 เมตร อุณหภูมิจะหยุดลดลงเมื่อถึงชั้นรอยต่อ(โทรโพพอส)
-55 องศาC
2. สตราโตสเฟียร์ (Stratosphere)
ถัดจากโทรโพพอสไปจนถึงสตราโตพอส (20 - 48)
ก.ม. ยิ่งสูงอุณหภูมิยิ่งสูง อาจถึง 77 องศาC บรรยาการเคลื่อนที่ใน
แนวนอน ท้องฟ้าแจ่มใส โดยปกติเครื่องบินมักนิยมบินในชั้นนี้
3. มีโซสเฟียร์ (Mesosphere)
ถัดจากชั้นสตราโตพอส สูงจากระดับน้าทะเลประมาณ 50 - 80
ก.ม. ความสูงเพิ่มขึ้นอุณหภูมิลดลง อาจถึง -100 องศาC ไปจนถึง
- 10. ภาพของ เมฆ ซึ่งกาลังขยายตัวจากบรรยากาศชั้นโทรโปสเฟียร์ ขึ้นมายังชั้น สเตรโตเฟียร์
- 11. เทอร์โมสเฟียร์ (Termosphere)
บางครั้งเราเรียกบรรยากาศที่ระดับความสูง 90-400 กิโลเมตร ว่า
“ไอโอโนสเฟียร์” (Ionosphere) เนื่องจากก๊าซในบรรยากาศชั้นนี้มีสถานะเป็น
ประจุไฟฟ้า ซึ่ง มีประโยชน์ในการสะท้อนคลื่นวิทยุสาหรับการสื่อสาร
โทรคมนาคม
มวลอากาศในชั้นเทอร์โมสเฟียร์มิได้อยู่ในสถานะของก๊าซ หากแต่อยู่ใน
สถานะของประจุไฟฟ้า เนื่องจากอะตอมของก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนใน
บรรยากาศชั้นบน ได้รับรังสีคลื่นสั้นจากดวงอาทิตย์เช่น รังสีเอ็กซ์ และแตกตัวเป็น
ประจุ อย่างไรก็ตามแม้ว่าบรรยากาศชั้นนี้จะมีอุณหภูมิสูงมาก แต่ก็มิได้มีความร้อน
มาก เนื่องจากมีอะตอมของก๊าซอยู่เบาบางมาก (อุณหภูมิเป็นเพียงค่าเฉลี่ยของ
พลังงานในแต่ละอะตอม ปริมาณความร้อนขึ้นอยู่กับมวลทั้งหมดของสสาร)
ฮีเทอร์โรสเฟียร์ (Heterosphere) สูง > 90 ก.ม.
- 12. เหนือชั้นเทอร์โมสเฟียร์ขึ้นไป ที่ระยะสูงประมาณ 500 กิโลเมตร โมเลกุลของ
อากาศอยู่ห่างไกลกันมาก จนอาจไม่สามารถวิ่งชนกับโมเลกุลอื่นได้ในบางครั้ง
โมเลกุลซึ่งเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงเหล่านี้ อาจหลุดพ้นอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงโลก เรา
เรียกบรรยากาศในชั้นที่อะตอมหรือโมเลกุลของอากาศมีแนวโน้มจะหลุดหนีไปสู่
อวกาศนี้ว่า “เอ็กโซสเฟียร์” (Exosphere)
- 15. ฮีเทอร์โรสเฟียร์ (Heterosphere)
1. Molecular nitrogen layer เป็นโมเลกุลของไนโตรเจน สูง 90 - 200 ก.ม.
2. Atomic oxygen layer ประกอบด้วยชั้นอะตอมของออกซิเจน
สูง 200 - 1,100 ก.ม.
3. Helium layer คือ ชั้นฮีเลียม สูง 1,100 - 3,500 ก.ม.
4. Hydrogen layer คือ ชั้นไฮโดรเจน 3,500 - > 10,000 ก.ม.
(อาจถึง 35,000 ก.ม.)
แมกนิโตสเฟียร์ (Magnetosphere)
บรรยากาศของสนามแม่เหล็ก สูง 64,000 - 130,000 ก.ม.
- 20. เซอรัส Ci
เซอโรคิวมูลัส Cc
เซอโรสเตรตัส Cs
อัลโตคิวมูลัส Ac
อัลโตสเตรตัส As
นิมโบสเตรตัส Ns
สเตรโตคิวมูลัส Sc
สเตรตัส St
คิวมูลัส Cu
คิวมูโลนิมบัส Cb
Ci
Cb
Cu
Cs Cc
Ac
As
Ns
St
ดวงอาทิตย์ทรงกลด
เมฆก่อ
ตัว
แนวตั้ง
ฝนตก พายุฝนฟ้ าคะนอง
6 km
2
km
บังดวงอาทิตย์
18
km
Sc
เซอรัส
สัญลักษณ์
สัดส่วนเมฆปกคลุมท้องฟ้า
1/10
2-3/10
4/10
5/10
ไม่มีเมฆ
7-8/10
9/10
10/10
มีสิ่งกีดขวาง
6/10
เมฆยิ่งสูง ก้อนยิ่งเล็ก แผ่นยิ่งบางการเรียกชื่อเมฆ
ระดับของเมฆ
เซอโรคิวมูลัส
อัลโตคิวมูลัส
คิวมูลัส คิวมูโลนิมบัส
เซอโรสเตรตัส
อัลโตสเตรตัส
สเตรตัสนิมโบสเตรตัส
สเตรโตคิวมูลัส
Cirro
(ชั้นสูง)
Alto
(ชั้นกลาง)
เมฆแผ่น(เมฆฝน) (เมฆฝน)
Strato (ชั้นต่า)
เมฆก้อน
- 21. อุณหภูมิอากาศ
1. กาลอากาศ (Weather) = ลักษณะของอากาศประจาวันใดวันหนึ่งเวลาใด
เวลาหนึ่ง เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่งบนผิวโลก
2. ภูมิอากาศ (Climate) = สภาวะอากาศของท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง ที่ได้จาก
การเก็บข้อมูลมาเป็นเวลานาน เป็นค่าเฉลี่ยของลมฟ้าอากาศในภูมิภาคนั้น ๆ
ทั้งยังพิจารณาถึงภูมิอากาศที่แตกต่างไปจากค่าเฉลี่ยด้วย
- 24. ละติจูด
เนื่องจากโลกเป็นทรงกลม แสงอาทิตย์จึงตกกระทบพื้นโลกเป็นมุมไม่เท่ากัน (ภาพที่ 3) ในเวลา
เที่ยงวันพื้นผิวบริเวณศูนย์สูตรได้รับรังสีจากแสงอาทิตย์เป็นมุมชัน แต่พื้นผิวบริเวณขั้วโลก
ได้รับรังสีจากแสงอาทิตย์เป็นมุมลาด ส่งผลให้เขตศูนย์สูตรมีอุณหภูมิสูงกว่าเขตขั้วโลก
ประกอบกับรังสีที่ตกกระทบพื้นโลกเป็นมุมลาด เดินทางผ่านความหนาชั้นบรรยากาศเป็น
ระยะทางมากกว่า รังสีที่ตกกระทบเป็นมุมชัน ความเข้มของแสงจึงถูกบรรยากาศกรองให้ลด
น้อยลง ยังผลให้อุณหภูมิลดต่าลงไปอีก
- 26. การวัดอุณหภูมิ
1. อุณหภูมิเฉลี่ยของวัน = มากสุดของวัน + น้อยสุดของวัน
2
2. อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือน = อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวันรวมกัน
จานวนวัน
3. อุณหภูมิเฉลี่ยของปี = อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละเดือนรวมกัน
12
- 40. เซอรัส Ci
เซอโรคิวมูลัส Cc
เซอโรสเตรตัส Cs
อัลโตคิวมูลัส Ac
อัลโตสเตรตัส As
นิมโบสเตรตัส Ns
สเตรโตคิวมูลัส Sc
สเตรตัส St
คิวมูลัส Cu
คิวมูโลนิมบัส Cb
Ci
Cb
Cu
Cs Cc
Ac
As
Ns
St
ดวงอาทิตย์ทรงกลด
เมฆก่อ
ตัว
แนวตั้ง
ฝนตก พายุฝนฟ้ าคะนอง
6 km
2
km
บังดวงอาทิตย์
18
km
Sc
เซอรัส
สัญลักษณ์
สัดส่วนเมฆปกคลุมท้องฟ้า
1/10
2-3/10
4/10
5/10
ไม่มีเมฆ
7-8/10
9/10
10/10
มีสิ่งกีดขวาง
6/10
เมฆยิ่งสูง ก้อนยิ่งเล็ก แผ่นยิ่งบางการเรียกชื่อเมฆ
ระดับของเมฆ
เซอโรคิวมูลัส
อัลโตคิวมูลัส
คิวมูลัส คิวมูโลนิมบัส
เซอโรสเตรตัส
อัลโตสเตรตัส
สเตรตัสนิมโบสเตรตัส
สเตรโตคิวมูลัส
Cirro
(ชั้นสูง)
Alto
(ชั้นกลาง)
เมฆแผ่น(เมฆฝน) (เมฆฝน)
Strato (ชั้นต่า)
เมฆก้อน
- 62. การจาแนกประเภทภูมิอากาศตามแบบเคิปเปน
A เป็นลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้น (Tropical climate) มีอุณหภูมิเฉลี่ยทุก
เดือนสูงกว่า 64.4 องศา F (18 องศา C) ไม่มีฤดูหนาวเลย ปริมาณฝน
เฉลี่ยค่อนข้างสูง
B เป็นลักษณะภูมิอากาศแบบแห้งแล้ง (Dry climate) มีอัตราการระเหยของ
น้ามากกว่าปริมาณความชื้นที่ได้รับแต่ละปี มีฝนตกน้อยตามบริเวณต่าง ๆ ไม่
มีร่องน้าที่น้าสามารถไหลได้ตลอดปี
C เป็นลักษณะภูมิอากาศแบบอบอุ่น (Warm temperate (Mesothermal) climate)
เดือนที่หนาวที่สุดมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ากว่า 64.4 องศา F (18 องศา C ) แต่สูง
กว่า26.6 องศา F (-3 องศา C ) และอย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือนที่มี
อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 50 องศา F (10 องศา C ) มีทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว
- 63. D ภูมิอากาศหนาวมีหิมะตก (Snow Microthermal climate) เดือนที่หนาวที่สุด
อุณหภูมิเฉลี่ยต่ากว่า 26.6 องศา F (-3 องศา C ) เดือนที่ร้อนที่สุดมีอุณหภูมิ
เฉลี่ยสูงกว่า 50 องศา F (10 องศา C) ตามแนวของเส้นไอโซเทอมทางเหนือ
สุดของเดือนที่ร้อนที่สุดของภูมิอากาศแบบ D เป็นแนวที่ต้นไม้เจริญเติบโตได้
E ภูมิอากาศที่มีน้าแข็งปกคลุม (Ice climate) อุณหภูมิเฉลี่ยเดือนที่ร้อนที่สุดต่ากว่า
50 องศา F (10 องศา C ) ไม่มีฤดูร้อนเลย
* S ภูมิอากาศทุ่งหญ้าสเตปป์ (Steppe climate) อุณหภูมิอากาศกึ่งแห้งแล้ง ฝน
ตกเฉลี่ยต่า ประมาณปีละ 15 - 30 นิ้ว (38 - 76 เซนติเมตร) ได้แก่ BS
* W ภูมิอากาศทะเลทราย (Desert climate) อุณหภูมิอากาศแห้งแล้ง ฝนตกเฉลี่ย
ประจาปีน้อยกว่า 10 นิ้ว (25 เซนติเมตร) ได้แก่ BW
* f ภูมิอากาศชุ่มชื้น มีฝนตกทุกเดือน ไม่มีฤดูแล้ง ใช้กับภูมิอากาศแบบ A,B,C
* w ภูมิอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาว หรือระยะที่ดวงอาทิตย์อ้อมใต้
- 64. * s ภูมิอากาศแห้งแล้งในฤดูร้อน หรือระยะที่ดวงอาทิตย์อ้อมเหนือ
* m ภูมิอากาศที่มีระยะเวลาแห้งแล้งสั้น พบในเขตมรสุม ใช้กับอากาศแบบ A
Af ภูมิอากาศแบบป่าร้อนชื้น มีปริมาณฝนมากกว่า 2.4 นิ้ว/ปี
Am ภูมิอากาศแบบป่าร้อนชื้น ฝนน้อยกว่า 2.4 นิ้ว/ปี (ภาคใต้,ตะวันออก)
Aw ภูมิอากาศร้อนชื้นแบบสะวันนา (ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคเหนือของไทย)
BS ภูมิอากาศทุ่งหญ้าสเตปป์
BW ภูมิอากาศทะเลทราย
Cw ภูมิอากาศอบอุ่น ชื้น และฝนตกชุก แห้งแล้งในฤดูหนาว
Cf ภูมิอากาศอบอุ่นชุ่มชื้น มีความชื้นตลอดปี
Cs ภูมิอากาศอบอุ่นชื้น มีฝนตก แห้งแล้งในหน้าร้อน (เมริเตอเรเนียน)