SlideShare a Scribd company logo
1 of 52
Download to read offline
เรื่อง ระบบขับถ่าย
รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559
คุณครูฐิตารีย์ สาเภา
โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (กาญจนบุรี-ราชบุรี)
 สืบค้นข้อมูล อภิปรายและสรุปเกี่ยวกับความหมายของของเสีย และการขับถ่าย
พร้อมทั้งอธิบายกระบวนการขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์
 สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างของไตและอวัยวะที่
เกี่ยวข้อง
 สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับการทางานของไตกับการรักษาดุลยภาพ
ของน้าและแร่ธาตุในร่างกาย
 สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายความผิดปกติที่เกี่ยวเนื่องกับไตและโรคของ
ไต พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางในการดูแลสุขภาพ
จุดประสงค์การเรียนรู้
 การขับถ่าย (Excretion)
 การขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
 การขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์
 การขับถ่ายของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
 การขับถ่ายของคน
 ความผิดปกติเกี่ยวกับไตและโรคของไต
ระบบขับถ่ายกับการรักษาดุลยภาพของร่างกาย
 การกาจัดของที่ร่างกายขับออกมาหรือของ
ส่วนเกินต่างๆ ที่เกิดจากกระบวนการเม
แทบอลิซึม (Metabolism) ที่ร่างกายไม่
ต้องการใช้และไม่มีประโยชน์
 CO2 จากระบบหายใจ
 ของเสียที่อยู่ในรูปไนโตรเจน (N) เป็น
องค์ประกอบหลัก เรียกว่า Nitrogen waste
ได้จากการสลายโปรตีนและกรดนิวคลีอิก
 การถ่ายอุจจาระไม่ถือเป็น Excretion
เนื่องจากกากอาหารที่ร่างกายขับออกมายัง
เป็นสารที่มีประโยชน์ เพียงแต่ร่างกายย่อย
ไม่ได้
การขับถ่าย (EXCRETION)
Nitrogenous waste เช่น ammonia,
urea และ uric acid
CO2
น้าและเกลือแร่
ประเภทของของเสียในสิ่งมีชีวิต
 Gas
 พิษสูงสุด
 ใช้น้าในการกาจัดมาก
 กาจัดออกในรูป NH+
4
 เปลี่ยนรูปเป็น urea/uric acid ได้
 พบในสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้า
 สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
 สัตว์หลายเซลล์ชั้นต่า
 สัตว์ขาข้อที่อาศัยอยู่ในน้า
 Mollusk ที่อยู่ในน้า
 ปลากระดูกแข็ง ปลากัด ปลาดุก
ปลาช่อน ปลาทู ปลาไหล
AMMONIA
 Liquid
 พิษต่ากว่า NH3
 สูญเสียน้าน้อยลงเวลาขับออก
 สร้างที่ตับ
 ขับทางไตในรูปปัสสาวะ
 ปริมาณขึ้นอยู่กับโปรตีนที่กิน
 พบในสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนบก
 ไส้เดือนดิน
 สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก
 ปลากระดูกอ่อน เช่นปลาฉลาม, ปลากระเบน,
 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
UREA
 Solid
 พิษต่าสุด
 ขับทางอุจจาระ
 Allantois เป็นที่เก็บของเสีย พบใน
เอ็มบริโอของสัตว์เลื้อยคลาน/นก
 อาจสะสมในข้อในผู้ป่วยโรค gout
 มูลจิ้งจกมีสีขาวและสีดา สีขาวของเสียใน
รูปกรดยูริก สีดาคือกากอาหาร (อุจจาระ)
 พบในสัตว์สงวนน้า
 สัตว์ขาข้อที่อาศัยอยู่บนบก/แมลง
 Mollusk ที่อยู่บนบก
 สัตว์เลื้อยคลาน
 นก
URIC ACID
 เกิดจากกระบวนการเผาผลาญสารอาหาร
 C6H12O6+6O2+6H2O+36ADP+36Pi6CO2+12H2O+36ATP
 ขับออกทางปอด
 พืชกาจัดออกทางปากใบ/นากลับไปใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง
CO2
 ขับส่วนที่เกินความต้องการออก
 ขับในรูป
 ปัสสาวะ (max)
 เหงื่อ
 ลมหายใจ
 อุจจาระ (min)
 ขับออกทางปัสสาวะ เหงื่อ อุจจาระ
จะมีเกลือแร่ปนอยู่ด้วย
 ขับออกทางลมหายใจจะมีแต่น้า
(gas) เท่านั้น
 สาหรับพืชเก็บสะสมไว้ที่ sap
vacuole
น้าและเกลือแร่
การขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
แบคทีเรีย สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน: การแพร่ของของเสียผ่านเยื่อหุ้ม
เซลล์ (CO2)
โพรโทซัวน้าเค็ม: ขับของเสียออกจากเยื่อหุ้มเซลล์
โพรโทซัวน้าจืด: มีอวัยวะขับถ่ายของเสียคือ คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล
(contractile vacuole)
 สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชั้นต่า
 ไม่มีโครงสร้างในการขับถ่ายของเสีย
 ทุกเซลล์สัมผัสกับน้าโดยตรง
 ของเสียในรูปของแอมโมเนีย
 กาจัดของโดยการแพร่สู่สภาพแวดล้อม
การขับถ่ายของฟองน้า ไฮดรา แมงกะพรุน
โครงสร้างที่ทาหน้าที่กาจัดของเสีย
เรียกว่า เฟลมเซลล์ (Flame cell)
กระจายอยู่ 2 ข้างตลอดความยาว
ลาตัวเชื่อมต่อกับช่องขับถ่ายที่ผนัง
ลาตัว
ของเสียที่ถูกกาจัดออกสู่ภายนอก
เป็นสารพวกแอมโมเนีย
การขับถ่ายของพลานาเรียหรือหนอนตัวแบน
 อวัยวะขับถ่ายของเสียเรียกว่า เนฟริเดียม (Nephridium)
 ไส้เดือนดินเป็นสัตว์ลาตัวเป็นปล้อง เนฟริเดียม มีทุกปล้อง ๆ ละ 1 คู่ เป็นท่อขดไป
มา ปลายเปิดทั้งสองข้าง
 ปลายข้างหนึ่งคล้ายปากแตร เรียกว่า เนโฟรสโตรม (nephrostome) รับของเหลว
พวกแอมโมเนียและยูเรีย เพื่อขับออกนอกร่างกาย
 ลักษณะการทางานของเนฟริเดียมคล้ายไตของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การขับถ่ายของไส้เดือนดิน
โครงสร้างที่ใช้ขับถ่ายของเสียเรียกว่า ท่อมัลพิเกียน (malpighian tubule)
ของเสียเป็นกรดยูริก ขับออกมาพร้อมกากอาหาร
การขับถ่ายของแมลง
การขับถ่ายของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
 อวัยวะที่ทาหน้าที่ขับถ่ายของเสียและรักษาดุลยภาพของน้าและแร่ธาตุเรียกว่า ไต
(Kidney)
 ระบบขับถ่ายทางานร่วมกับระบบหมุนเวียนเลือด
 ไต เป็นอวัยวะขับถ่ายของเสีย
 ของเสียเป็นสารประกอบไนโตรเจนลักษณะเป็นของเหลวจาพวกแอมโมเนีย
การขับถ่ายของปลา
 ขับถ่ายของเสียในรูปของยูเรีย
การขับถ่ายของสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก
 มีผิวหนังหนา มีเกล็ด หรือขนปกคลุม ป้องกันการสูญเสียน้าและแร่ธาตุ
 ของเสียจากทุกส่วนของร่างกายผ่านมาทางกระแสเลือดและเข้าสู่ไตแล้วขับออกนอก
ร่างกาย
 ของเสียเป็นกรดยูริก
 อุจจาระจิ้งจกมี 2 สี สีดาเป็นกากอาหาร สีขาวเป็นกรดยูริก
การขับถ่ายของนกและสัตว์เลื้อยคลาน
 อวัยวะที่ใช้กาจัดของเสียของมนุษย์
 โครงสร้างของไต
 หน้าที่การทางานของไต
 ความผิดปกติของระบบขับถ่าย
การขับถ่ายของคน
 ไต (Kidney): มี 2 อัน อยู่
ด้านหลัง ช่วงเอว รูปร่างคล้าย
เม็ดถั่ว
 ท่อไต (Ureter): ทาหน้าที่
ลาเลียงปัสสาวะ
 กระเพาะปัสสาวะ (Urinary
Bladder): เป็นที่สะสมปัสสาวะ
ยืดหดตัวได้ ความจุ ≈500 cm3
เมื่อน้าปัสสาวะไหลลงสู่กระเพาะ
ปัสสาวะ ≈250 cm3 ร่างกายจึง
จะรู้สึกปวดปัสสาวะ
อวัยวะที่ใช้กาจัดของเสียของมนุษย์
ท่อปัสสาวะ (Urethra): ใช้ขับ
ปัสสาวะออกนอกร่างกายของผู้ชาย
ยาว ≈20 cm3 ของผู้หญิงยาว ≈5
cm3 ทาให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อโรค
กระเพาะปัสสาวะอักเสบง่ายกว่า
ผู้ชาย เพราะท่อปัสสาวะของผู้หญิง
สั้นกว่า ทาให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย
อวัยวะที่ใช้กาจัดของเสียของมนุษย์
ไตมี 2 ชั้น
ชั้นนอก (Cortex): ประกอบด้วย
หน่วยไต (Nephron) ไตแต่ละข้าง
มีจานวนถึง 1 ล้านหน่วย ทา
หน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด
ชั้นใน (Medulla): ท่อรวมจาก
หน่วยไต ทาหน้าที่รับของเสียที่
กรองได้จากหน่วยไต เป็นส่วนที่นา
ปัสสาวะไปสู่กรวยไต (renal
pelvis) เพื่อนาไปสู่ท่อไต
โครงสร้างของไต
papilla
ทาหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด
และดูดกลับสารที่มีประโยชน์เข้าเลือด
ไตแต่ละข้างมีหน่วยไต ประมาณ 1.2
ล้านหน่วย
หน่วยไต (Nephron) แต่ละหน่วย
ประกอบด้วย
Glomerulus
Bowman’s capsule
ท่อของหน่วยไต (renal tubule)
โครงสร้างของหน่วยไต
 หลอดเลือดฝอยพันกันเป็นก้อนกลมพาสารมากรองออก
 หลอดเลือดฝอยเมื่อออกจาก Glomerulus จะแตกแขนงเป็นร่างแหคลุมท่อของหน่วยไต
ส่วนพรอกซิมอล และ ส่วนดิสทอล
 และแผ่ลงไปคลุมห่วงเฮนเล ซึ่งโค้งขนานไปกับห่วงเฮนเล เรียกว่า vasa recta
 หลอดเลือดฝอยรวมกันออกมาเป็นหลอดเลือดดา ส่งไปยัง renal vein
GLOMERULUS
NEPHRON
 ส่วนของท่อหลอดไตที่พองออกเป็นกระเปาะคล้ายถ้วย ล้อมรอบกลุ่มหลอดเลือดฝอย
Glomerulus
 ผนังบางๆ 2 ชั้น
 ผนังหลอดเลือดฝอยโกลเมอรูลัสแนบชิดกับเยื่อชั้นในของ Bowman’s capsule
 ช่องว่างภายในแคปซูล ติดต่อกับท่อของหน่วยไต
BOWMAN’S CAPSULE
ท่อขดส่วนต้น (proximal tubule): ท่อขดไปมา มีการดูดซึมสารกลับ
เข้าสู่กระแสเลือดมากที่สุด (กลูโคส อะมิโน และน้า) โดยวิธี active
transport และ passive transport
ท่อของหน่วยไต (RENAL TUBULE)
ห่วงเฮนเล (Loop of Henle): หลอดโค้งรูปตัวยู อยู่ถัดจากท่อขดส่วน
ต้น ยื่นเข้ามาในหน่วยไตส่วน เมดัลลา หน้าที่ดูดกลับเกลือและน้าในกรณี
ร่างกายขาดน้า
ท่อของหน่วยไต (RENAL TUBULE)
ท่อขดส่วนปลาย (Distal tubule): เป็นท่อขดไปมาคล้ายท่อขดส่วน
ต้น อยู่ถัดจากห่วงเฮนเลเข้ามาในเนื้อไตชั้นคอร์เท็กซ์ ตอนปลายเปิด
เข้าสู่ท่อรวม (collecting duct) ซึ่งรับของเหลวจากท่อหน่วยไต
ส่งไปทางกรวยไต
ท่อของหน่วยไต (RENAL TUBULE)
 ท่อรับของเหลวจากท่อหน่วยไตหลายๆ ท่อ เพื่อส่งออกไปทางกรวยไต
ท่อรวม (COLLECTING DUCT)
หน่วยไตทาหน้าที่กรองของเสียออกจาก
เลือด และกาจัดออกเป็นน้าปัสสาวะ
กระบวนการเกิดน้าปัสสาวะเกิดจาก 3
กระบวนการคือ
1. การกรองที่โกลเมอรูลัส
(glomerular filtration)
2. การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต
(tubular reabsorption)
3. การหลั่งสารที่ท่อของหน่วยไต
(tubular secretion)
กลไกการทางานของหน่วยไต
 กรองของเสียออก
 สารโมเลกุลเล็กผ่านได้พร้อมน้า
 เกิดจากแรงดันเลือดดันของเหลวจากหลอดเลือดฝอยผ่านเยื่อบุผิวของโบว์แมน
แคปซูลเข้าช่องว่างของโบว์แมนแคปซูล และท่อของหน่วยไต
การกรองที่โกลเมอรูลัส
 เกิดผ่านเยื่อบุ 3 ชั้น
 ผนังของหลอดเลือดฝอยโกลเมอรูลัส: มีรูขนาด 60-100 m ยอมให้สารขนาดเล็กผ่าน
โดยการแพร่ แต่ไม่ยอมให้เซลล์เม็ดเลือดผ่าน
 ชั้นเบสเมนต์เมมเบรนของโกลเมอรูลัส: หรือ basal lamina เป็นตัวกรองโปรตีนขนาด
ใหญ่ไว้ ช่วยจากัดการผ่านของโปรตีนขนาดใหญ่
 เยื่อบุผนังของโบว์แมนแคปซูล: มีเซลล์พิเศษ คือ podocyte ช่วยเลือกสารที่จะกรองผ่าน
การกรองที่โกลเมอรูลัส
 เยื่อกรองยอมให้ของเหลว และสารโมเลกุลเล็กในพลาสมาผ่านออกมา
 สารที่ผ่านได้ เช่น น้า กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ เช่น Na K Cl เป็นต้น และยูเรีย
 สารที่ผ่านไม่ได้ เช่น โปรตีน ไขมัน เม็ดเลือด
 ของเหลวที่กรองผ่านโกลเมอรูลัสเรียก ของเหลวที่กรองได้ หรือ glomerular filtrate
การกรองที่โกลเมอรูลัส
 เซลล์เยื่อบุผิวที่ท่อของหน่วยไตมีบทบาทในการดูดสารกลับเนื่องจากมี microvilli
และมี Mitochondria มาก
 proximal tubule: ดูดกลับกลูโคส กรดอะมิโน วิตามิน และ NaCl (Active
transport) ส่วน น้า K+ และ HCO3
- (Passive transport)
 ห่วงเฮนเลส่วนวกลง: ดูดน้ากลับโดยวิธี Osmosis
 ห่วงเฮนเลส่วนวกขึ้น: ดูด NaCl กลับ ทั้งแบบ Active transport และ Passive
transport
 Distal tubule: ดูดน้ากลับ แบบ Passive transport ส่วน NaCl และ HCO3
- ดูด
กลับแบบ Active transport
 Collecting Duct: ดูดน้ากลับโดยวิธี Osmosis ยอมให้ยูเรียผ่านออกโดยการแพร่
 การดูดสารกลับถูกควบคุมด้วยฮอร์โมน Aldosterone หลั่งจากชั้นคอร์เทกซ์ของ
ต่อมหมวดไต กระตุ้น Distal tubule และ Collecting Duct ให้เพิ่มการดูด H2O
และ Na+ กลับคืนเลือดทาให้เลือด และความดันเพิ่มขึ้น
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต
 สารบางชนิดหลั่งจากเลือดเข้าสู่ของเหลวที่กรองได้ในทิวบูล
 proximal tubule: มีการหลั่ง H+, K+, NH+
4
 H+: เพื่อรักษาระดับ pH ในของเหลวในร่างกายให้คงที่
 K+: เมื่อความเข้มข้นของ K+ สูงเกินไปเพราะทาให้การส่งกระแสประสาท
บกพร่องและความแรงในการหดตัวของกล้ามเนื้อลดลง
 Distal tubule: มีการหลั่ง H+, K+, ยาบางชนิดเช่น เพนิซิลลิน และยาพิษ
 K+: ควบคุมระดับความเข้มข้นของ K+ และ Na+ ในร่างกาย แปรผันการหลั่ง
K+ และการดูดกลับ Na+
 H+: เพื่อควบคุม pH ในเลือด โดยควบคุมการหลั่ง H+ และการดูดกลับ HCO3
-
การหลั่งสารที่ท่อของหน่วยไต
กลไกการกรองของไต
ตาแหน่ง องค์ประกอบของสารที่ตรวจพบ
Glomerulus เม็ดเลือด, โปรตีน, กรดอะมิโน, กลูโคส, ยูเรีย, น้า
และแร่ธาตุ
Bowman’s capsule กรดอะมิโน, กลูโคส, ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Proximal tubule กรดอะมิโน, กลูโคส, ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Loop of Henle ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Distal tubule ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Urine ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
ตารางเปรียบเทียบสาร
 รักษาสมดุลน้าในร่างกาย: ขับปัสสาวะเพื่อควบคุมน้า เกิดจากฮอร์โมน Antidiuretic
(ADH) ควบคุมการดูดกลับของน้าที่ท่อหน่วยไตและท่อรวม
 ร่างกายขาดน้า: ADH หลั่งมาก ดูดน้ากลับมาก ปัสสาวะสีเหลืองจัด กระหายน้า
 ร่างกายมีน้ามาก: ADH หลั่งน้อย ดูดน้ากลับน้อย ปัสสาวะสีจาง
 รักษาสมดุลเกลือแร่ของร่างกาย: โดยฮอร์โมน Aldosterone กระตุ้นการดูดกลับของ
แร่ธาตุ ถ้าขาดฮอร์โมนนี้ปัสสาวะมีแร่ธาตุมาก เรียกว่า เบาเค็ม
 การรักษาระดับ pH ของร่างกาย: ร่างกายผลิตกรดทุกวัน การคั่งของกรดทาให้เบื่อ
อาหาร ไตเสื่อมสภาพ ปัสสาวะเป็นกรด
 ควบคุมความดันโลหิต: ความดันโลหิตสูงเกิดจากความผิดปกติของการควบคุมสมดุล
น้าและเกลือแร่
 ผลิตและควบคุมการทางานของฮอร์โมน: เช่น Vitamin D ช่วยสร้างกระดูก
หน้าที่ของไต
อวัยวะที่ใช้ในการขับถ่ายของสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิต โครงสร้างที่ใช้
โปรโตซัว อะมีบา พารามีเซียม
(สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว)
เยื่อหุ้มเซลล์, Contractile vacuole เพื่อขับ
น้าส่วนเกิน
ฟองน้า (P. Porifera) และ
ไฮดรา (P. Cnidaria)
แพร่โดยตรงเข้าเซลล์
หนอนตัวแบน (P. Platyhelminthes) เฟลมเซลล์ (Flame cell) ระบบ
Protonephridia
ไส้เดือนดิน (P. Annelida) เนฟริเดีย (Nephridia)
แมลง (P. Arthropoda : Insect) ท่อมัลพิเกียน (Mulphighian Tubule)
สัตว์มีกระดูกสันหลัง, คน (P.
Chordata), P. Mollusca
ไต (Kidney)
การรักษาสมดุลของน้า
โพรทิสต์ : กาจัดของเสียออกทางเยื่อหุ้มเซลล์
โพรทิสต์น้าจืดบางชนิด : พารามีเซียมน้าจืด และอะมีบาน้าจืด มี
contractile vacuole หดตัวไล่น้าส่วนเกินที่ออสโมซิสเข้ามาให้ออกไป
สัตว์ : ป้องกันการสูญเสียน้าโดยมีเกล็ด และสร้างปัสสาวะปริมาณน้อยและ
สังเกตจาก Bowman’s capsule เล็ก หรือ loop of Henle ยาว
คน : รักษาสมดุลของน้าโดยสมองส่วน hypothalamus และ kidney
การรักษาดุลยภาพอื่นๆ
การรักษาสมดุลเกลือแร่
 ปลาน้าจืด: สภาพแวดล้อมเป็น hypotonic จึงมีกระบวนการป้องกันน้าเข้าตัว และ
กันเกลือแพร่ออก เช่น มีเกล็ด ปัสสาวะเจือจางและบ่อย มี active transport ที่
เหงือก ทวารหนักดูดเกลือกลับคืน
 ปลาน้าเค็ม: สิ่งแวดล้อมเป็น hypertonic จึงมีกระบวนการป้องกันเกลือแพร่เข้ามา
และน้าทะลักออก เช่น มีเกล็ด ปัสสาวะเข้มข้น มี active transport ขับเกลือแร่
ออกที่เหงือกและทวารหนัก
 สัตว์ทะเลอื่น: มีของเหลวในร่างกาย isotonic ต่อน้าทะเล เช่น แมงกะพรุน
ปลาดาว
 นก: มีต่อมนาสิกหรือต่อมเกลือ (nasal gland, salt gland) ขับเกลือส่วนเกินออก
บริเวณจมูก
การรักษาดุลยภาพอื่นๆ
การรักษาสมดุลอุณหภูมิ
 คน: ผิวหนังเป็นเซนเซอร์
รับอุณหภูมิ แล้วส่งข้อมูลไป
ให้สมองส่วนไฮโพทาลามัส
ควบคุม
 T สูง: หลอดเลือดฝอยที่
ผิวหนังขยายตัว มีการขับ
เหงื่อ เส้นขนเอนราบ ลด
อัตรา metabolism
 T ต่า: หลอดเลือดฝอยที่
ผิวหนังหดตัว ขนลุกชัน
กล้ามเนื้อสั่นเทิ้ม เพิ่มอัตรา
metabolism
การรักษาดุลยภาพอื่นๆ
การรักษาสมดุลอุณหภูมิ
การจาศีลสัตว์เลือดเย็น: มีอัตราการหายใจและการเต้นของหัวใจต่ามาก เช่น
กบ
การจาศีลของสัตว์เลือดอุ่น: การเปลี่ยนแปลงในร่างกายน้อยมาก เช่น หนู
และค้างคาวบางชนิด
สัตว์เลือดอุ่นไม่ได้จาศีลแต่หลับในฤดูหนาว เช่น หมีขั้วโลก สกั๊งค์
การรักษาดุลยภาพอื่นๆ
 การรักษาสมดุลกรดเบส
 รักษา pH พลาสมาให้อยู่ที่ประมาณ 7.4 มี 3 กระบวนการ
 ระบบหายใจ: มี CO2 หรือ H+ เป็นตัวกระตุ้นพอนส์และเมดัลลา
 ระบบขับถ่าย: ใช้ไต เช่นการขับ H+ ออกหรือดูดกลับ HCO3
- เข้า
 ระบบบัฟเฟอร์: สารเคมีในเลือดทาปฏิกิริยาเพื่อปรับ pH เช่น คู่สาร H2CO3 /
HCO3
- คู่สาร H2PO4
- / HPO4
2- หรือโปรตีน เช่น hemoglobin
 กาลังในการรักษา pH: ไต (ออกเยอะ) > หายใจ (ออกทีละน้อย) > บัฟเฟอร์
(ปฏิกิริยาเคมี)
 ความเร็วในการรักษา pH: บัฟเฟอร์ (วินาที) > หายใจ (นาที) > ไต (ชั่วโมง)
การรักษาดุลยภาพอื่นๆ
ระบบขับถ่าย

More Related Content

What's hot

ระบบหายใจ (1-2560)
ระบบหายใจ  (1-2560)ระบบหายใจ  (1-2560)
ระบบหายใจ (1-2560)Thitaree Samphao
 
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชsukanya petin
 
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1Wuttipong Tubkrathok
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system kasidid20309
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3Wuttipong Tubkrathok
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนสำเร็จ นางสีคุณ
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสงPinutchaya Nakchumroon
 
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2Sukanya Nak-on
 
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ระบบหายใจ
ระบบหายใจ Thitaree Samphao
 
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบโครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบThanyamon Chat.
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด Thitaree Samphao
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองsukanya petin
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่Supaluk Juntap
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดPinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสารบทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสารPinutchaya Nakchumroon
 
การรับรู้และตอบสนอง
การรับรู้และตอบสนอง การรับรู้และตอบสนอง
การรับรู้และตอบสนอง Thitaree Samphao
 
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนการรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนsukanya petin
 
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3  พลังงานไฟฟ้าบทที่ 3  พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้าPinutchaya Nakchumroon
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด Thitaree Samphao
 

What's hot (20)

ระบบหายใจ (1-2560)
ระบบหายใจ  (1-2560)ระบบหายใจ  (1-2560)
ระบบหายใจ (1-2560)
 
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
 
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
 
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
ชีววิทยาเรื่องการหายใจ respiration system
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
 
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียนใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
ใบงาน ระบบต่อมไร้ท่อ นักเรียน
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
 
ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2ระบบขับถ่าย ม.2
ระบบขับถ่าย ม.2
 
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ระบบหายใจ
ระบบหายใจ
 
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบโครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
 
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
ระบบกำจัดของเสีย (Excretory System)
 
บทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสารบทที่ 1 การจำแนกสาร
บทที่ 1 การจำแนกสาร
 
การรับรู้และตอบสนอง
การรับรู้และตอบสนอง การรับรู้และตอบสนอง
การรับรู้และตอบสนอง
 
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมนการรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาดุลยภาพของร่างกายด้วยฮอร์โมน
 
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3  พลังงานไฟฟ้าบทที่ 3  พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 

Similar to ระบบขับถ่าย

การขับถ่ายของคน
การขับถ่ายของคนการขับถ่ายของคน
การขับถ่ายของคนWan Ngamwongwan
 
สรีรวิทยา (part 1)
สรีรวิทยา (part 1)สรีรวิทยา (part 1)
สรีรวิทยา (part 1)pitsanu duangkartok
 
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิตการรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิตKankamol Kunrat
 
ระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่ายระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่ายkrubua
 
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิตดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิตWichai Likitponrak
 
Mass transport
Mass transportMass transport
Mass transportadriamycin
 
Urinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by Jiradet
Urinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by JiradetUrinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by Jiradet
Urinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by JiradetJiradet Dongroong
 
ติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียน
ติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียนติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียน
ติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียนWichai Likitponrak
 
การลำเลียงอาหารของพืช
การลำเลียงอาหารของพืชการลำเลียงอาหารของพืช
การลำเลียงอาหารของพืชAnana Anana
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดNookPiyathida
 
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemsupreechafkk
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Thanyalux Kanthong
 
502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน
502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน
502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คนThitiporn Parama
 
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54กลไกการรักษาดุลยภาพ 54
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54Oui Nuchanart
 

Similar to ระบบขับถ่าย (19)

การขับถ่ายของคน
การขับถ่ายของคนการขับถ่ายของคน
การขับถ่ายของคน
 
สรีรวิทยา (part 1)
สรีรวิทยา (part 1)สรีรวิทยา (part 1)
สรีรวิทยา (part 1)
 
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิตการรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต
 
ระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่ายระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่าย
 
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิตดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
 
Transportation body
Transportation bodyTransportation body
Transportation body
 
Mass transport
Mass transportMass transport
Mass transport
 
Urinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by Jiradet
Urinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by JiradetUrinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by Jiradet
Urinary (นำเสนอข้อมูลจาก CD) Physiology by Jiradet
 
ติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียน
ติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียนติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียน
ติวสอบเตรียมระบบย่อยและหมุนเวียน
 
การลำเลียงอาหารของพืช
การลำเลียงอาหารของพืชการลำเลียงอาหารของพืช
การลำเลียงอาหารของพืช
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
Ccs (2)
Ccs (2)Ccs (2)
Ccs (2)
 
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive systemระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
รักษาดุลม.5
รักษาดุลม.5รักษาดุลม.5
รักษาดุลม.5
 
502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน
502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน
502การย่อยอาหารจุลทรีย์ สัตว คน
 
Lesson 1 homeostasis
Lesson 1 homeostasisLesson 1 homeostasis
Lesson 1 homeostasis
 
Ppt circuratory
Ppt circuratoryPpt circuratory
Ppt circuratory
 
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54กลไกการรักษาดุลยภาพ 54
กลไกการรักษาดุลยภาพ 54
 

More from Thitaree Samphao

ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)Thitaree Samphao
 
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท Thitaree Samphao
 
เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน Thitaree Samphao
 
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาทการทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาทThitaree Samphao
 
อวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึกอวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึกThitaree Samphao
 
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต Thitaree Samphao
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ Thitaree Samphao
 
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน Thitaree Samphao
 

More from Thitaree Samphao (8)

ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)
 
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
ศูนย์ควบคุมระบบประสาท
 
เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน เซลล์ประสาทและการทำงาน
เซลล์ประสาทและการทำงาน
 
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาทการทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาท
 
อวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึกอวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึก
 
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน
 

ระบบขับถ่าย