More Related Content Similar to อารยธรรมอินเดีย
Similar to อารยธรรมอินเดีย (13) อารยธรรมอินเดีย5. ควำมเจริญเกิดขึ้นเมื่อ 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักรำช
หรือ ประมำณ 4,500 ปี มีเมืองที่เป็นศูนย์กลำงควำมเจริญคือ เมือง
โมเฮนโจ-ดำโร และเมืองฮำรัปปำ ปัจจุบันอยู่ในปำกีสถำน เป็นอำรย
ธรรมที่เกิดจำกกำรหล่อหลอมและผสมผสำนควำมเจริญของชนชำติ
ต่ำง ๆ ที่มำครอบครอง จนกลำยเป็น อำรยธรรมอินเดีย มีชนชำติ
สำคัญที่สร้ำงควำมเจริญคือ ชำวดรำวิเดียน(ทมิฬ) ชำวอำรยัน
2.ความเจริญที่สาคัญ
7. 2. สมัยประวัติศาสตร์ อินเดียเข้าสู่ “สมัยประวัติศาสตร์” เมื่อมีการประดิษฐ์ตัวอักษร
ขึ้นใช้ประมาณ 700ปี ก่อนคริสต์ศักราช โดยชนเผ่าอินโด – อารยัน ( Indo –
Aryan ) ซึ่งตั้งถิ่นฐานในบริเวณลุ่มแม่น้าคงคา
ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่การถือกาเนิดตัวอักษรอินเดียโบราณ ที่
เรียกว่า “บรามิ ลิปิ” ( Brahmi lipi ) เมื่อประมาณ 700 ปีก่อนคริสต์ศักราช และ
สิ้นสุดในราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์คุปตะ ( Gupta ) เป็นยุค
สมัยที่ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู และพระพุทธศาสนาได้ถือกาเนิดขึ้นแล้ว
อักษร บรามิ ลิปิ
8. อินเดียสมัยใหม่ภายใต้จักรวรรดิโมกุล (ค.ศ. 1526-1858)
อินเดียสมัยใหม่เริ่มต้นด้วยกำรรุกรำนของพวกผสมมองโกล เติร์ก
ภำยใต้กำรนำของติมูร์ (Timur) ทำให้อำณำจักรของเดลฮีอ่อนแอ พวก
ฮินดูเริ่มมีอำนำจมำกขึ้น ต่อมำประกอบกับภำยในอำณำจักรสุลต่ำนแห่ง
เดลฮีเกิดควำมอ่อนแอ เนื่องจำกกำรแย่งชิงรำชสมบัติ เปิดโอกำสให้บำร์บู
ซึ่งเป็นทำยำทมีเชื้อสำยห่ำงๆ ยกทัพจำกเมืองคำบูลในอัฟกำนิสถำนเข้ำ
รุกรำนเมืองต่ำงๆ ทำงภำคเหนือของอินเดีย ทั้งเมืองพวกฮินดูและมุสลิม
สำมำรถยึดนครเดลฮีได้สำเร็จ สถำปนำจักรวรรดิมีกำรปกครองโดย
รำชวงศ์โมกุลได้สำเร็จประมำณ ค.ศ.1525
9. สมัยเอกราช
หลังสงครำมโลกครั้งที่ 2 ขบวนกำรชำตินิยมอินเดียนำโดย มหำตมะ คำนธี
และ เยำวรำลห์ เนห์รู ใช้หลักอหิงสำในกำรเรียกร้องเอกรำชจนประสบ
ควำมสำเร็จ อังกฤษยอมมอบเอกรำชให้ในปี1947 โดยมีนำยกรัฐมนตรีคน
แรก คือ เยำวรำลห์ เนห์รู หลังจำกได้รับเอกรำชอินเดียปกครองด้วยระบอบ
ประชำธิปไตย แต่จำกควำมแตกแยกทำงเชื้อชำติและศำสนำทำให้อินเดีย
ต้องแตกแยกเป็นอีก 2 ประเทศคือ ปำกีสถำน(เดิมคือปำกีสถำนตะวันตก)
และบังคลำเทศ (ปำกีสถำนตะวันออก)
10. สังคมและวัฒนธรรมอินเดีย
1. ระบบวรรณะ ตั้งขึ้นโดยชาวอารยัน แบ่งออกเป็น 4 วรรณะ
ได้แก่วรรณะพราหมณ์ กษัตริย์ไวศยะ (แพศย์) ศูทร
2. ลักษณะครอบครัว เป็นครอบครัวรวม ชายที่มีอายุมากที่สุด
เป็นหัวหน้าครอบครัว
3. ปรัชญาและลัทธิศาสนา อินเดียเป็นแหล่งกาเนิดของศาสนา
สาคัญ ได้แก่ พราหมณ์-ฮินดู พุทธ เชน ซิกข์ คาสอนของ
ศาสนาต่างๆ มีอิทธิพลต่อการดาเนินชีวิตของชาวอินเดีย
11. การเมืองการปกครองของอินเดีย
1. สมัยพระเวท มีการปกครองแบบราชาธิปไตย กษัตริย์เป็นสมมติเทพ
2. สมัยจักรวรรดิ แบ่งเป็น
1. จักรวรรดิมคธ มีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
2. จักรวรรดิราชวงศ์โมริยะ แบ่งการปกครองออกเป็น ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค
3. สมัยแบ่งแยก อาณาจักรต่างๆ ตั้งตัวเป็นอิสระเกิดการรุกรานจากภายนอก
คือ กรีก เปอร์เซีย
4. สมัยจักรวรรดิคุปตะ กษัตริย์มีอานาจเต็มในเมืองหลวงและใกล้เคียง
ดินแดน ห่างไกลมีเจ้าครองนครปกครอง
12. 5. หลังสมัยคุปตะ รำชวงศ์ปำละ –เสนะ เป็นรำชวงศ์สุดท้ำยที่ปกครองก่อนที่
มุสลิมจะเข้ำยึดครองอินเดีย
3. สมัยมุสลิม รำชวงศ์โมกุลซึ่งนับถือศำสนำอิสลำมเข้ำมำปกครองก่อนที่อินเดีย
จะตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
4. สมัยอำณำนิคม มีระเบียบบริหำรรำชกำร กฎหมำย และกำรศำลเป็นแบบฉบับ
เดียวกันทั่วประเทศเป็นผลดีแก่อินเดีย
5. สมัยเอกรำช พลังของขบวนกำรชำตินิยม ระหว่ำงสงครำมโลกครั้งที่ 2 ภำยใต้
กำรนำของมหำตมะคำนธี
6. สมัยปัจจุบัน อินเดียมีกำรปกครองแบบประชำธิปไตยแบบรัฐสภำ มี
ประธำนำธิบดีเป็นประมุข มีนำยกบริหำรประเทศ รัฐสภำมี 2 สภำคือ รำชยสภำ
กับโลกสภำ (สภำผู้แทน)
16. ได้แก่ สถูป เสำหิน ตลอดจนฐำนรำกของพระรำชวัง สถำปัตยกรรมดังกล่ำวมัก
เกี่ยวข้องกับพระพุทธศำสนำเพื่อแสดงถึงควำมศักดิ์สิทธิ์ของสถำนที่ หรือ
เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุกำรณ์สำคัญ เช่น พระสถูปที่สำญจี
พระสถูปที่สำญจี
เสำหินที่เมืองสำรถี และพระรำชวังของพระเข้ำอโศก
มหำรำชที่เมืองปำฏลีบุตร ในสมัยมุสลิม
เสำหินสมัยพระเจ้ำอโศก
18. - ประติมำกรรมรุ่นแรกๆของอินเดียอยู่ในสมัยรำชวงศ์เมำรยะ เป็น
ประติมำกรรมลอยตัวขนำดใหญ่ สลักจำกหิน มีรูปร่ำงหนัก แข็งกระด้ำง แสดง
ท่ำหยุดนิ่ง เช่น รูปยักษ์ รูปสตรี
- ประติมำกรรมที่เป็นพระพุทธรูปสมัยแรก คือ พระคันธำระ ( คริสต์ศตวรรษที่
1-2 ) โดยรับอิทธิพลจำกศิลปะกรีก เห็นได้ชัดจำกพระหัตถ์และพระวรกำย
ตลอดจนริ้วจีวรเป็นแบบกรีก
- ประติมำกรรมพระพุทธรูปของศิลปะเมถุรำซึ่งอยู่ในระยะเวลำเดียวกัน
ได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบคันธำระผสมกับลักษณะพื้นเมือง โดยทั่วไปมี
ลักษณะเหมือนศิลปะคันธำระ
ประติมำกรรม
26. • 2) วรรณกรรมตันติสันสกฤต หรือ วรรณกรรมสันสกฤตแบบแผน ภำษำ
สันสกฤตที่วิวัฒนำกำรมำจำกภำษำเก่ำของพระเวท รูปแบบคำประพันธ์
มักเป็นร้อยกรองที่เรียกว่ำ โศลก งำนสำคัญคือ มหำภำรตะ และ รำ
มำยณะ ถือเป็นมหำกำพย์ของอินเดียมีเรื่องรำวสะท้อนถึงสังคม
กำรเมือง ศำสนำ และชีวิตควำมเป็นอยู่ของชำวอินเดียในช่วงระยะเวลำ
ประมำณระหว่ำง 1,000-500 ปีก่อนคริสต์ศักรำช ซึ่งเรียกว่ำ ยุคมหำ
กำพย์
• 3)วรรณกรรมสันสกฤตผสม ภำษำสันสกฤตผสมเป็นภำษำ
สันสกฤตใช้เขียนหลักธรรมและเรื่องรำวทำงพระพุทธศำสนำ งำนนิพนธ์
เป็นแบบร้อยแก้ว งำนนิพนธ์สำคัญและมีชื่อเสียงมำก ได้แก่ พุทธจริต
ของอัศวโฆษ
• 4) วรรณกรรมภำษำบำลี ใช้ในวรรณกรรมพระพุทธศำสนำ
นิกำยเถรวำท เขียนเป็นร้อยแก้ว อธิบำยหลักธรรมคำสอนทำง
พระพุทธศำสนำ เช่น พระไตรปิฎกชำดก วรรณกรรมภำษำทมิฬดัดแปลง
จำกวรรณกรรมสันสกฤต วรรณกรรมที่เป็นของทมิฬเองจริงๆ ไม่มี
หลักฐำนปรำกฏ วรรณกรรมสันสกฤตที่มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมภำษำ
ทมิฬมำก คือ มหำภำรตะ รำมำยณะ และคัมภีร์ปุรำณะ
28. ภูมิภำคเอเชียกลำง อำรยธรรมอินเดียที่ถ่ำยทอดให้เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7
เมื่อพวกมุสลิมอำหรับ ซึ่งมีอำนำจในตะวันออกกลำงนำวิทยำกำรหลำยอย่ำง
ของอินเดียไปใช้ ได้แก่ กำรแพทย์ คณิตศำสตร์ ดำรำศำสตร์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันอินเดียก็รับอำรยธรรมบำงอย่ำงทั้งของเปอร์เชียและกรีก
โดยเฉพำะด้ำนศิลปกรรม ประติมำกรรม เช่น พระพุทธรูปศิลปะคันธำระซึ่งเป็น
อิทธิพลจำกกรีก ส่วนอิทธิพลของเปอร์เชีย ปรำกฏในรูปกำรปกครอง
สถำปัตยกรรม เช่น พระรำชวัง กำรเจำะภูเขำเป็นถ้ำเพื่อสร้ำงศำสนสถำน
ภูมิภำคที่ปรำกฏอิทธิพลของอำรยธรรมอินเดียมำกที่สุดคือ เอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ พ่อค้ำ พรำหมณ์ และภิกษุสงฆ์ชำวอินเดียเดินทำงมำและนำอำรยธรรม
มำเผยแพร่ อำรยธรรมที่ปรำกฏอยู่มีแทบทุกด้ำน โดยเฉพำะในด้ำนศำสนำ
ควำมเชื่อ กำรปกครอง ศำสนำพรำหมณ์ ฮินดู และพุทธ ได้หล่อหลอมจน
กลำยเป็นรำกฐำนสำคัญที่สุดของประเทศต่ำงๆในภูมิภำคนี้