More Related Content
Similar to โครงงานคอม (20)
โครงงานคอม
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่ างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร 6
ปี การศึกษา 2556
ชื่อโครงงาน แอพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรื่ องการหาค่ากลางของคณิ ตศาสตร์
่
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1 นาย ณัฐกรณ์ ตากันทะ เลขที่ 10 ชั้น ม.6 ห้อง 8
2 นางสาว กมลวรรณ ทองมี เลขที่ 22 ชั้น ม.6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึ กษาโครงงาน ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึ กษาโครงงานร่ วม ครู หทัยรัตน์
ศรี วโรจน์
ิ
ครู วรัชชัย
ิ
จันต๊ะวงค์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
้ ่
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้ อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นายณัฐกรณ์
2. นางสาว กมลวรรณ
ตากันทะ
ทองมี
เลขที่ 10
เลขที่ 22
คาชี้แจง ให้ ผู้เรียนแต่ ละกลุ่มเขียนข้ อเสนอโครงงานตามหัวข้ อต่ อไปนี้
ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย) : แอพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรื่ องการหาค่ากลางของคณิ ตศาสตร์
่
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) : Smart phone application development - medium finding
ประเภทโครงงาน : วิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขา คอมพิวเตอร์
ชื่อผู้ทาโครงงาน : นายณัฐกรณ์
ตากันทะ
นางสาว กมลวรรณ ทองมี
ชื่อทีปรึกษา : ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
่
ชื่อทีปรึกษาร่ วม : ครู หทัยรัตน์
่
ศรี วโรจน์
ิ
ครู วรัชชัย จันต๊ะวงค์
ิ
ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556
ทีมาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
่
ปั จจุ บ ัน การใช้ง านสมาร์ ท โฟนเข้ามามี บ ทบาทในชี วิตประจาวัน ของมนุ ษ ย์เป็ นอย่างมาก โดยเป็ นที่
่
แพร่ หลายในสังคมทุกเพศทุกวัย ไม่วาจะเป็ นนักศึกษาหรื อวัยทางาน เพราะมีความรวดเร็ วและใช้งานได้ง่าย ระบบ
ปฎิบติการบนสมาร์ ทโฟนที่นิยมใช้ส่วนใหญ่มี 2 ประเภท คือ ระบบปฏิบติการแอนดรอยด์ และ ระบบปฏิบติการ
ั
ั
ั
ios ซึ่ งระบบปฏิบติการดังกล่าวนี้ จะต้องมีแอพพลิเคชันเฉพาะการใช้งานต่างๆ เช่น แอปพลิเคชันสอนพูดอังกฤษ
ั
่
่
ในชี วิตประจาวัน แอปพลิเคชันสอนสทนาอังกฤษ แอปพลิ เคชันพจนานุ กรมภาษาไทย เป็ นต้น แอปพลิเคชันบน
่
่
่
สมาร์ ทโฟนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการศึกษาด้วย เนื่ องจากสมาร์ ทโฟน
่
เป็ นอุปกรณ์สื่อสารที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ประกอบกับการเรี ยนเกี่ยวกับวิชาคณิ ตศาสตร์ เรื่ อง “การหาค่ากลาง”
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 จาเป็ นจะต้องศึกษาเกี่ ยวกับเรื่ องการหาค่ากลางเป็ นส่ วนหนึ่ งของรายวิชา
คณิ ตศาสตร์ ซึ่ งการคานวณหาค่ากลางต่างๆ มีความยาก และมีสูตรที่แตกต่างกันไปทั้งการหาค่าของ x , Mo, Me,
H.M. และ G.M.
- 3. 3
ั
ดังนั้น ผูจดทาจึงคิดที่จะนาเทคโนโลยีบนสมาร์ ทโฟนที่กาลังเป็ นที่นิยมในปั จจุบนมาประยุกต์กบการเรี ยน
้ั
ั
การสอน โดยพัฒนาโครงงานแอปพลิเคชันบนสมาร์ ทโฟนเรื่ อง การหาค่ากลาง เพื่อเป็ นสื่ อในการใช้คานวณหาค่า
่
กลางได้อย่างรวดเร็ วและมีประสิ ทธิ ภาพ บนรู ปของเครื่ องคิดเลข X4MCalculator ในระบบปฏิบติการแอนดรอยด์
ั
เพื่ออานวยความสะดวกของนักเรี ยนในการหาค่ากลาง
วัตถุประสงค์ (สิ่ งที่ตองการในการทาโครงงาน ระบุเป็ นข้อ)
้
1. เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ ทโฟน เรื่ องการหาค่ากลาง
่
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ขอบเขตการศึกษา
สร้างแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เรื่ องการหาค่ากลาง ประกอบด้วยเนื้อหาการหาค่ากลางและตัวอย่างการ
่
คานวณหาค่ากลางของข้อมูลได้จานวน 5 ค่า
วิธีการค้ นคว้า
1) ศึกษาปัญหาและความเป็ นไปได้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ ทโฟน
่
2) ศึกษาเนื้อหาที่เกี่ยวกับการหาค่ากลาง
3) ศึกษาการเขียนแอปพลิเคชันบนสมาร์ ทโฟนโดยโปรแกรม eclipse
่
4) ออกแบบ และการสร้างแอปพลิเคชันบนสมาร์ ทโฟน ด้วยโปรแกรม eclipse
่
-...ออกแบบระบบ
-...สร้างแอปพลิเคชัน ด้วยโปรแกรม eclipse
่
5) ทดสอบการใช้งานแอปพลิเคชัน
่
- กลุ่มตัวอย่าง
6) วิเคราะห์ผลและปรับปรุ งแอปพลิเคชันในส่ วนที่มีปัญหา
่
7) จัดทาเอกสารประกอบ
หลักการและทฤษฎี (ความรู ้ หลักการ หรื อทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
การหาค่ากลางของข้อมูลที่เป็ นตัวแทนของข้อมูลทั้งหมดเพื่อความสะดวกในการสรุ ปเรื่ องราวเกี่ยวกับข้อมูล
นั้นๆ จะช่วยทาให้เกิดการวิเคราะห์ขอมูลถูกต้องดีข้ ึนการหาค่ากลางของข้อมูลมีวธีหาหลายวิธี แต่ละวิธีมีขอดีและ
้
ิ
้
่ ั
ข้อเสี ย และมีความเหมาะสมในการนาไปใช้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยูกบลักษณะข้อมูลและวัตถุประสงค์ของผูใช้ขอมูล
้ ้
นั้นๆ
ค่ าเฉลียเลขคณิต ( X ) จัดว่าเป็ นค่าที่มีความสาคัญมากในวิชาสถิติ เพราะค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตเป็ นค่ากลางหรื อ
่
เป็ นตัวแทนของข้อมูลที่ดีที่สุด
1) เป็ นค่าที่ไม่เอนเอียง
2) เป็ นค่าที่มีความคงเส้นคงวา
- 4. 4
3) เป็ นค่าที่มีความแปรปรวนต่าที่สุด และ
4) เป็ นค่าที่มีประสิ ทธิ ภาพสู งสุ ด
แต่ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตก็มีขอจากัดในการใช้ เช่น ถ้าข้อมูลมีการกระจายมาก หรื อข้อมูลบางตัวมีค่ามากหรื อน้อยจน
้
ผิดปกติ หรื อข้อมูลมีการเพิ่มขึ้นเป็ นเท่าตัว ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตจะไม่สามารถเป็ นค่ากลางหรื อเป็ นตัวแทนที่ดีของ
ข้อมูลได้การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตเมื่อข้อมูลไม่ได้มีการแจกแจงความถี่ ( X )
ในกรณี ที่ขอมูลไม่ได้มีการแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตสามารถหาได้โดย
้
N
i1 Xi
สู ตร x =
N
่
มัธยฐาน (Median) ใช้ สัญลักษณ์ Med คือ ค่าที่มีตาแหน่งอยูก่ ึงกลางของข้อมูล
่
ทั้งหมด เมื่อได้เรี ยงข้อมูลตามลาดับ ไม่วาจากน้อยไปมาก หรื อจากมากไปน้อย
การหามัธยฐานของข้อมูลที่ไม่ได้แจกแจงความถี่
หลักการคิด
่ ั
1) เรี ยงข้อมูลที่มีอยูท้ งหมดจากน้อยไปมาก หรื อมากไปน้อยก็ได้
2) ตาแหน่งมัธยฐาน คือ ตาแหน่งกึ่งกลางข้อมูล ดังนั้นตาแหน่งของ
มัธยฐาน = N 1
2
เมื่อ N คือ จานวนข้อมูลทั้งหมด
่
3) มัธยฐาน คือ ค่าที่มีตาแหน่งอยูก่ ึงกลางของข้อมูลทั้งหมด ข้อควรสนใจ
1. เนื่องจากตาแหน่งกึ่งกลางเป็ นตาแหน่งที่เราจะหามัธยฐานดังนั้นเรา
่
จะเรี ยกตาแหน่งนี้วาตาแหน่งของมัธยฐาน
2. เราไม่สามารถหาตาแหน่งกึ่งกลางโดยวิธีการตามตัวอย่างข้างต้น เพราะต้องเสี ยเวลา
ในการนาค่าจากการสังเกตมาเขียนเรี ยงกันทีละตาแหน่ง ดังนั้น เราจะใช้วธีการคานวณหา โดยสังเกตดังนี้
ิ
ตาแหน่งมัธยฐาน = N 1
2
่ ั
3. ในการหามัธยฐาน ความสาคัญอยูที่นกเรี ยนต้องหาตาแหน่งของมัธยฐานให้ได้
เสี ยก่อนแล้วจึงไปหาค่าของข้อมูล ณ ตาแหน่งนั้น
มัธยฐาน = N 1
2
ฐานนิยม (Mode)
การหาฐานนิยมของข้อมูลที่ไม่แจกแจงความถี่
หลักการคิด
่
่ ั
1) ให้ดูวาข้อมูลใดในข้อมูลที่มีอยูท้ งหมด มีการซ้ ากันมากที่สุด (ความถี่
สู งสุ ด) ข้อมูลนั้นเป็ นฐานนิยมของข้อมูลชุดนั้น
หมายเหตุ ฐานอาจจะไม่มี หรื อ มีมากกว่า 1 ค่าก็ได้
- 5. 5
การหาฐานนิยมของข้อมูลที่มีการแจกแจงเป็ นอันตรภาคชั้นการประมาณอย่างคร่ าวๆ
ฐานนิยม คือ จุดกึ่งกลางชั้นที่มีความถี่สูงสุ ด
คะแนน
20 - 29
30 - 39
40 - 49
50 - 59
60 - 69
ความถี่
2
10
15
13
5
ตารางที่ 2.1 แสดงตัวอย่างการหาค่าฐานนิยม
อันตรภาคชั้นที่มีความถี่สูงสุ ด คือ 40-49
จุดกลางชั้น คือ 40 49 = 89 = 44.5
2
2
ดังนั้น ฐานนิยมโดยประมาณ คือ 44.5
คุณสมบัติที่สาคัญของฐานนิยม
1. ฐานนิยมสามารถหาได้จากเส้นโค้งของความถี่ และฮิสโทแกรม
2. ในข้อมูลแต่ละชุด อาจจะมีฐานนิยมหรื อไม่มีก็ได้ ถ้ามี อาจจะมีเพียงค่าเดียว หรื อ
หลายค่าก็ได้
3. ให้ X1, X2, X3, ….., XN เป็ นข้อมูลชุดหนึ่งที่มีฐานนิยมเท่ากับ Mo ถ้า k เป็ นค่าคงตัว จะได้
ว่า X1+k, X2+k, X3+k, …., XN+k เป็ นข้อมูลที่มีฐานนิยมเท่ากับ Mo + k
4. ให้ X1, X2, X3, …., XN เป็ นข้อมูลชุดหนึ่งที่มีฐานนิยมเท่ากับ Mo ถ้า k เป็ นค่าคง
่
ตัว ซึ่ง k =/= 0 จะได้วา kX1, kX2, kX3, …, kXN จะเป็ นข้อมูลที่มีฐานนิยนเท่ากับ kMo
คุณสมบัติขอที่ 3 และ 4 ก็เช่นเดียวกับค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต และมัธยฐาน กล่าวคือ ถ้านาค่าคงตัวไปบวก หรื อ
้
คูณกับค่าจากการสังเกตทุกตัวในข้อมูลชุดหนึ่ง ฐานนิยมของข้อมูลชุดใหม่น้ ี จะเท่ากับ ฐานนิยมของข้อมูลชุด
เดิม บวกหรื อคูณกับค่าคงตัวดังกล่าว ตามลาดับ
ค่ าเฉลียเรขาคณิต (Geometric mean) มีประโยชน์ในการหาค่าเฉลี่ยของ
่
่
ข้อมูลในกรณี ที่ค่าของข้อมูลสู งหรื อต่ากว่าค่าอื่นๆ รวมอยูบางค่าหรื อหลายค่ามาก กรณี เช่นนี้ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ตใช้
เป็ นค่ากลางของข้อมูลได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต เนื่องจากค่าที่สูงหรื อต่ามากเหล่านี้ จะมีผลกระทบต่อค่าเฉลี่ย
เรขาคณิ ตของข้อมูลไม่มากนัก
ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต
G.M. =
- 6. 6
หมายเหตุ เนื่องจากการหาค่า G.M.ต้องมีการคานวณหากรณฑ์ที่ N ของจานวน ซึ่งทาให้การใช้สูตร
ดังกล่าวข้างต้นไม่สะดวกในกรณี ที่ขอมูลมีค่ามากๆและต้องใช้เครื่ องคิดเลขในการคานวณ ดังนั้นเพื่อความสะดวก
้
จึงใช้ลอการิ ทึมช่วย โดยจะได้สูตรในการหาค่า G.M. ดังนี้
สาหรับข้อมูลที่ไม่ได้แจกแจงความถี
2.2 เครื่องมือทีใช้ ในการพัฒนา
่
2.2.1 ภาษาจาวา (JAVA)
Java หรื อ Java programming language คื อภาษาโปรแกรมเชิ งวัต ถุ พัฒ นาโดย เจมส์ กอสลิ ง และกลุ่ ม
วิศวกรคนอื่นๆ ของบริ ษท ซัน ไมโครซิ สเต็มส์ ภาษานี้ มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซี พลัสพลัส C++ โดยภาพ
ั
แบบที่เพิ่มเติมขึ้นคล้ายกับภาษาอ็อบเจกต์ทีฟซี (Objective-C) แต่เดิมภาษานี้ เรี ยกว่า ภาษาโอ๊ก (Oak) ซึ่ งตั้งชื่ อตาม
ต้นโอ๊กใกล้ที่ทางานของ เจมส์ กอสลิง แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "จาวา" ซึ่ งเป็ นชื่อกาแฟแทนดังภาพที่ 2-1
จุ ด เด่ น ของภาษาจาวาอยู่ที่ ผูเ้ ขี ย นโปรแกรมสามารถใช้ห ลัก การของ Object-Oriented Programming มาพัฒ นา
โปรแกรมของตนด้วย Java ได้ภาษาจาวาเป็ นภาษาสาหรับเขียนโปรแกรมที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ(
OOP : Object-Oriented Programming) โปรแกรมที่ เขี ย นขึ้ น ถู ก สร้ างภายในคลาส ดัง นั้น คลาสคื อ ที่ เก็ บ เมทอด
(method) หรื อพฤติกรรม (behavior) ซึ่งมีสถานะ (state) และภาพพรรณ (identity) ประจา พฤติกรรม
ภาพที่ 2.1 แสดงสัญลักษณ์ภาษาจาวา
ข้อดีของ ภาษาจาวา
1) ภาษาจาวาเป็ นภาษาที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุแบบสมบูรณ์ซ่ ึ งเหมาะสาหรับพัฒนาระบบ
่
ที่มีความซับซ้อน การพัฒนาโปรแกรมแบบวัตถุจะช่วยให้เราสามารถใช้คาหรื อชื่ อต่างๆที่มีอยูในระบบงานนั้นมา
ใช้ในการออกแบบโปรแกรมได้ ทาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
2) โปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยใช้ภาษาจาวาจะมีความสามารถทางานได้ในระบบปฏิบติการที่แตกต่างกัน ไม่
ั
จาเป็ นต้องดัดแปลงแก้ไขโปรแกรม เช่ น หากเขียนโปรแกรมบนเครื่ อง Sun โปรแกรมนั้นสามารถนามา compile
และ run บนเครื่ องพีซีธรรมดาได้3
3) ภาษาจาวามีการตรวจสอบข้อผิดพลาดทั้งตอน compile และ run ทาให้ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิ ดขึ้นใน
โปรแกรม และช่วยให้ debug โปรแกรมได้ง่าย
- 7. 7
4) ภาษาจาวามีความซับซ้อนน้อยกว่าภาษา C++ เมื่อเปรี ยบเทียบ code ของโปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยภาษา
จาวากับ C++ พบว่า โปรแกรมที่เขียนโดยภาษาจาวาจะมีจานวน code น้อยกว่าโปรแกรมที่เขียนโดยภาษา C++ ท
าให้ใช้งานได้ง่ายกว่าและลดความผิดพลาดได้มากขึ้น
5) ภาษาจาวาถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยสู งตั้งแต่แรก การรักษาความปลอดภัยทาให้โปรแกรมที่
เขียนขึ้นด้วยจาวามีความปลอดภัยมากกว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้ น ด้วยภาษาอื่น เพราะจาวามี security ทั้ง low level
และ high level ได้แก่ electronic signature, public and private key management, access control และ certificates
6) มี IDE, application server, และ library ต่าง ๆ มากมายสาหรับจาวาที่เราสามารถใช้งานได้โดยไม่ตอง
้
เสี ยค่าใช้จ่าย ทาให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ตองเสี ยไปกับการซื้ อเครื่ องมือและซอฟต์แวร์ ต่าง ตัวอย่างต่อไปนี้ คือ
้
การเขียนโปรแกรม Hello world โดยใช้ภาษาจาวา
public class Main
{ public static void main(String[] args)
{ System.out.println("Hello World!");
}}
โปรแกรมข้างต้นจะแสดงข้อความ Hello world บนจอภาพ
2.2.2 Eclipse คือโปรแกรมที่ใช้สาหรับพัฒนาภาษา Java ซึ่งโปรแกรม Eclipse เป็ นโปรแกรมหนึ่งที่ใช้ใน
การพัฒนา Application Server ได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ และเนื่องจาก Eclipse เป็ นซอฟต์แวร์ OpenSource ที่
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้โดยนักพัฒนาเอง ทาให้ความก้าวหน้าในการพัฒนาของ Eclipse เป็ นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ ว
Eclipse มีองค์ประกอบหลักที่เรี ยกว่า Eclipse Platform ซึ่งให้บริ การพื้นฐานหลักสาหรับรวบรวมเครื่ องมือ
ต่างๆจากภายนอกให้สามารถเข้ามาทางานร่ วมกันในสภาพแวดล้อมเดียวกัน และมีองค์ประกอบที่เรี ยกว่า Plug-in
Development Environment (PDE) ซึ่ งใช้ในการเพิ่มความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์ มากขึ้น เครื่ องมือ
ภายนอกจะถูกพัฒนาในภาพแบบที่เรี ยกว่า Eclipse plug-ins ดังนั้นหากต้องการให้ Eclipse ทางานใดเพิ่มเติม ก็
ั
เพียงแต่พฒนา plugin สาหรับงานนั้นขึ้นมา และนา Plug-in นั้นมาติดตั้งเพิ่มเติมให้กบ Eclipse ที่มีอยูเ่ ท่านั้น
ั
Eclipse Plug-in ที่มีมาพร้อมกับ Eclipse เมื่อเรา download มาครั้งแรกก็คือองค์ประกอบที่เรี ยกว่า Java
Development Toolkit (JDT) ซึ่งเป็ นเครื่ องมือในการเขียนและ Debug โปรแกรมภาษา Java
ั
ข้อดีของโปรแกรม Eclipse คือ ติดตั้งง่าย สามารถใช้ได้กบ J2SDK ได้ทุกเวอร์ ชน รองรับ
ั่
ั
ภาษาต่างประเทศอีกหลายภาษา มี plugin ที่ใช้เสริ มประสิ ทธิภาพของโปรแกรม สามารถทางานได้กบไฟล์หลาย
ชนิด เช่น HTML, Java, C, JSP, EJB, XML และ GIF และที่สาคัญเป็ นฟรี เเวร์ (ให้ใช้งานได้ 90 วัน ถ้าจะใช้งาน
ั
เต็มประสิ ทธิ ภาพต้องเสี ยค่าใช้จ่ายภายหลัง) ใช้งานได้กบระบบปฏิบติการ Windows, Linux
ั
- 8. 8
ภาพที่ 2.2 แสดงสัญลักษณ์ Eclipse
2.2.3 Android SDK
Android SDK ย่ อ มาจาก Android Software Development Kit ซึ่ งเป็ นชุ ดโปรแกรมที่ ท าง Google
พัฒ นาออกมาเพื่ อ แจกจ่ ายให้ นั ก พั ฒ นาแอปพลิเคชั่ น หรื อ ผู้ ส นใจทั่ ว ไปดาวน์ โหลดไปใช้ งานกั น ได้ โดยไม่ มี
ค่ าใช้ จ่ายใดๆ (ฟรี สาหรับการใช้ งานโปรแกรม) จึงเป็ นอีกหนึ่งปั จจัยที่ทาให้ แอปพลิเคชั่ นบนแอนดรอยด์ น้ัน
เพิ่ม ขึ้น อย่ างรวดเร็ ว ในชุ ด SDK นั้ นจะมี โปรแกรมและไลบรารี่ ต่ างๆ ที่จาเป็ นต่ อการพัฒ นาแอปพลิเคชั่ นบน
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ อย่ างเช่ น Emulator หรื อโปรแกรมจาลองเครื่ องจักรเสมือนดัง ภาพที่ 2-4 ซึ่ งทาให้
ผู้พัฒ นาโปรแกรมสามารถสร้ างแอปพลิเคชั่ นและนามาทดลองใช้ งานบน Emulator ก่ อนโดยมีสภาวะแวดล้ อม
เหมือนกับการนาไปใช้ งานโทรศัพท์ เคลื่อนที่ที่ ใช้ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จริ งๆ เลยโดยสามารถดาวน์ โหลด
Android SDK ทีมีให้ เลือกทั้งบน Windows, Mac และ Linux5
่
ภาพที่ 2.3 แสดงสัญลักษณ์ Android SDK
2.3 งานวิจัยทีเ่ กียวข้ อง
่
นางสาวจิตราวรรณ พฤกษ์ไพศาล และนายธนวัฒน์ พลสุ วรรณ(2554) ได้ศึกษาแอปพลิ เคชันการดูแลเด็ก
่
ให้มีสุขภาพและพัฒนาการที่ดีต้ งแต่แรกเกิด เป็ นแอปพลิเคชันช่วยลดภาระของแม่ในการติดตามบันทึกพัฒนาการ
ั
่
ของลูก และส่ งเสริ มการพึ่งพาตนเองด้านสุ ขภาพ และมีการเข้าถึงข้อมูลจากผูเ้ ชี่ยวชาญและแม่ผมีประสบการณ์ใน
ู้
โซเชียลเน็ตเวิร์ค (social network) ซึ่ งทาให้แม่ได้ขอมูลที่ถูกต้องและหลากหลายแง่มุมโดยสะดวกและรวดเร็ ว
้
นายอนุ กูล คงสกูล (2551) ระบบทดสอบย่อยผ่านทางอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถื อโครงงานชิ้ นนี้ ได้นาส่ วน
ของโปรแกรมประยุก ต์ส าหรั บ ทดสอบหรื อ Quiz Player มาพัฒ นาและปรั บ ปรุ ง ให้ ส ามารถใช้ ง านได้อ ย่า ง
- 9. 9
เหมาะสมทั้งบนอุ ปกรณ์ คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถื อ เพื่อพัฒนาและทดสอบระบบทดสอบย่อย (QMS) ใน
ส่ วนของโปรแกรมประยุกต์สาหรับทดสอบ ให้สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือให้ได้มากที่สุด
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
วิเคราะห์ เนือหา
้
1 ) ค่ าเฉลียเลขคณิต จัดว่าเป็ นค่าที่มีความสาคัญมากในวิชาสถิติ เพราะค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตเป็ นค่า
่
กลางหรื อเป็ นตัวแทนของข้อมูลที่ดีที่สุด การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตเมื่อข้อมูลไม่ได้มีการแจกแจงความถี่
ในกรณี ที่ขอมูลไม่ได้มีการแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตสามารถหาได้โดย
้
N Xi
สู ตร x = i1
N
2 ) ค่ าเฉลียเรขาคณิต เนื่ องจากการหาค่า G.M. ต้องมีการคานวณหากรณฑ์ที่ N ของจานวน ซึ่งทา
่
ให้การใช้สูตรดังกล่าวข้างต้นไม่สะดวกใน กรณี ที่ขอมูลมีค่ามากๆ และต้องใช้เครื่ องคิดเลขในการ
้
คานวณ ดังนั้นเพื่อความสะดวกจึงใช้ลอการิ ทึมช่วย โดยจะได้สูตรในการหาค่า G.M. ดังนี้
G.M. =
่
3 ) มัธยฐาน (Median) ใช้สญลักษณ์ Med คือ ค่าที่มีตาแหน่งอยูก่ ึงกลางของข้อมูลทั้งหมด เมื่อ
ั
่
ได้เรี ยงข้อมูลตามลาดับ ไม่วาจากน้อยไปมาก หรื อจากมากไปน้อยการหามัธยฐานของข้อมูลที่ไม่ได้แจก
แจงความถี่
หลักการคิด
่ ั
1) เรี ยงข้อมูลที่มีอยูท้ งหมดจากน้อยไปมาก หรื อมากไปน้อยก็ได้
2) ตาแหน่งมัธยฐาน คือ ตาแหน่งกึ่งกลางข้อมูล ดังนั้นตาแหน่งของ
มัธยฐาน = N 1
2
เมื่อ N คือ จานวนข้อมูลทั้งหมด
่
3) มัธยฐาน คือ ค่าที่มีตาแหน่งอยูก่ ึงกลางของข้อมูลทั้งหมด
4 ) พิสัย (Range : R)พิสัย หมายถึง การหาการกระจายของข้อมูลโดยนาข้อมูลที่มี
ค่าสู งที่สุด ลบกับข้อมูลที่มีค่าต่าที่สุด เพื่อให้ได้ค่าที่เป็ นช่วงของการกระจาย ซึ่ งสามารถบอกถึงความกว้างของ
ข้อมูลชุดนั้นๆ สาหรับสู ตรที่ใช้ในการหาพิสัยคือ
พิสัย (R) = Xmax – Xmin
- 10. 10
การออกแบบโครงสร้ างของบทเรียน
เมนูหลัก
บทเรี ยน
ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต G.M.
ทดลองคานวณ
คานวณ
G.M. =
ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต x
มัธยฐาน Me
พิสัย
Me = N 1
2
N
i1 Xi
x=
N
พิสัย Xmax - Xmin
ภาพที่ 3.1 ภาพแสดงการออกแบบโครงสร้างของบทเรี ยน
การออกแบบหน้ าจอ
หน้าเมนูหลัก ประกอบไปด้วยส่ วนประกอบ ดังนี้
1) ชื่อแอพพลิเคชัน “X4MCalculator”
่
2) ปุ่ มเลือกเข้าใช้งานแอพพลิเคชันเนื้อหาบทเรี ยน
่
3) ปุ่ มเลือกเข้าใช้งานการทดลองคานวณ
-ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต
-มัธยฐาน
-พิสัย
-ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต
การหาค่ากลาง
บทเรี ยน
ทดลองคานวณ
ค่าเฉลี่ยเลข
คณิ ต
มัธยฐาน
พิสย
ั
ค่าเฉลี่ย
เรขาคณิ ต
ภาพที่ 3.2 แสดงหน้าเมนูหลัก
หน้าเมนูของเนื้อหาทฤษฎีเกี่ยวกับสมบัติของก๊าซ ประกอบด้วยเนื้อหา 4 ส่ วน แบ่งออกเป็ น 4 ปุ่ ม คือ
- ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต
- มัธยฐาน
- พิสัย
- ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต
- 11. 11
กรุ ณาเลือกเนื้อหา
ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต
มัธยฐาน
พิสัย
ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต
ภาพที่ 3.3 แสดงหน้าเนื้อหาบทเรี ยน
เทคนิคการพัฒนาโครงงาน
1 ) ค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต //ทาการคานวณ
Double F = (A + B + C + D + E )/5;
String G = changeFormat.format(F);//textView2.setText(Double.toString(G));
TextView2.setText(G);}});
2) มัธยฐาน //ทาการคานวณ
Double F = (double) ((5 + 1)/2);
String G = changeFormat.format(F);
//textView2.setText(Double.toString(G));
TextView2.setText(G);}});
3 ) พิสัย //ทาการคานวณ
Double F = (E - A );
String G = changeFormat.format(F);
//textView2.setText(Double.toString(G));
TextView2.setText(G);}});
4 ) ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต //ทาการคานวณ
Double F = (Math.sqrt(Math.sqrt((A * B * C * D ))));
String G = changeFormat.format(F);
//textView2.setText(Double.toString(G));
TextView2.setText(G);}});
- 12. 12
เครื่องมือและอุปกรณ์ ทใช้
ี่
ฮาร์ ดแวร์
1) เครื่ องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พร้อมเชื่ อมต่ออินเตอร์ เน็ต
2) โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบติงานแอนดรอยด์
ั
ซอฟต์ แวร์
1) โปรแกรม Eclipse
2) ระบบปฏิบติการแอนดรอยด์
ั
งบประมาณ 2000 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน
สั ปดาห์ ที่
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
2
3
4
5
6
7
8
คิดหัวข้อโครงงาน
ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
จัดทาโครงร่ างงาน
ปฏิบติการสร้าง
ั
โครงงาน
ปรับปรุ งทดสอบ
การทาเอกสารรายงาน
ประเมินผลงาน
นาเสนอโครงงาน
ผู้รับผิดชอบ
1 1
1 1 1 1 1
12
0 1
3 4 5 6 7
ณัฐกรณ์
ณัฐกรณ์
กมลวรรณ
กมลวรรณ
ณัฐกรณ์
กมลวรรณ
ณัฐกรณ์
กมลวรรณ
ณัฐกรณ์
ณัฐกรณ์
กมลวรรณ
- 13. 13
ผลทีคาดว่ าจะได้ รับ (ผลลัพธ์ที่ตองการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้ นสุ ดการทาโครงงาน)
่
้
1. ได้แอปพลิเคชันบนสมาร์ ทโฟน เรื่ องการหาค่ากลาง
่
สถานทีดาเนินการ: โรงเรี ยนยุพราชวิทยาลัย อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทเี่ กียวข้ อง: กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีสารสนเทศ
่
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรื อแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
จิตราวรรณ พฤกษ์ไพศาล และธนวัฒน์ พลสุ วรรณ.(2554). แอปพลิเคชั่ นการดูแลเด็กให้ มีสุขภาพและ
พัฒนาการทีดี. ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
่
จุฑารัตน์ ขันธศักดิ์. ค่าเฉลี่ยเรขาคณิ ต. (2552). ค่ าเฉลียเรขาคณิต 20 มกราคม 2556. [Online] Available
่
URL: https://sites.google.com/site/jutharatkhanthasak/kha-cheliy-rekhakhnit
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. การวิเคราะห์แนวโน้มเข้าสู่ ส่วนกลาง. (2551). ค่ าเฉลียเลขคณิต
่
(Arithmetic Mean, Average) ค่ ามัธยฐาน (Median: Me). 20 มกราคม 2556. [Online] Available URL:
http://pibul2.psru.ac.th/~buncha/Chp1_5.htm
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. การวัดการกระจายสัมบูรณ์ (Absolute Variation) (2551). พิสัย (Range
: R). 20 มกราคม 2556, [Online] Available URL: http://pibul2.psru.ac.th/~buncha/Chp1_6.htm
อนุกล คงสกูล. (2551). ระบบทดสอบย่ อยผ่ านทางอุปกรณ์ โทรศัพท์ มือถือ. ภาควิชาวิศวกรรม
ู
คอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานคริ นทร์