การจำแนกประเภทผู้ป่วย

1. การจำา แนก
ประเภทผูป ่ว ย
้

2. Work Design
 สิ่ง ที่เ ป็น ผลกระทบของอัต รากำา ลัง ต่อ การจัด การ
ดูแ ลที่ป ลอดภัย
 workload
 work environment
 patient complexity
 skill level of nursing staff
 mix of nursing staff
 cost efficiency & effectiveness
2 ICN, 2006

3. การจัดอัตรากำาลังเพื่อความปลอดภัย (Safe staffing)
ควรคำานึงถึง.....
 ความยากและซับซ้อนของกิจกรรมทางการพยาบาล
 การเตรียมพยาบาลในแต่ละระดับ
 สมรรถนะและประสบการณ์ของพยาบาล
 การพัฒนาบุคลากร
 การสนับสนุนการบริหารจัดการทังระดับผู้ปฏิบัติและ
้
ระดับผู้บริหาร
 บริบทและสิ่งแวดล้อมทางด้านเทคโนโลยี่ขององค์การ
 การสนับสนุนช่วยเหลือและปกป้องในกรณีทมความไม่
ี่ ี
ชอบธรรม
3 The North Carolina Nurses
Association (NCNA, 2005)

4. ประโยชน์จากากร
จำาแนกประเภทผู้ป่วย
มาตรฐานการดูแลผู้ปวย
่
การจัดพืนทีสำาหรับผู้รับบริการ
้ ่
การวิเคราะห์ภาระงาน
การวางแผนกำาลังคนและการจัดอัตรา
กำาลัง
การประเมินประสิทธิภาพการจัดอัตรา
กำาลัง

6. แนวทางการดำา เนิน
งาน
ศึกษาจากเอกสารที่มีการจำาแนกประเภทผู้
ป่วย
วิเคราะห์กิจกรรมทางการพยาบาล
กิจกรรมที่ผู้ปวยทุกรายใช้เวลาเท่ากัน
่
กิจกรรมที่เมื่อเกิดขึ้นในผู้ปวยแล้วมีผลต่อ
่
ระยะเวลาเพิ่มขึ้น
เทียบเคียงเวลาเพื่อกำาหนดค่าคะแนน
ทดสอบจัดเก็บ
วิเคราะห์ การจำาแนกประเภทผู้ปวย กับระยะ
่
เวลาในการดำาเนินกิจกรรม

7. เกณฑ์ของสภาการพยาบาลทีกำาหนด
่
เครื่องมือในการจำาแนกผู้ป่วย 5 ระดับ
(Patient Classification System: PCS)
หาค่าจำานวนชั่วโมงการพยาบาลทีผู้ป่วยต้องการ
่
(Nursing Hour Per Patient Day: NHPPD)
หาค่าผลผลิต/ผลิตภาพ(Productivity)
7

8. ค่าจำานวนชั่วโมงการพยาบาลทีผู้ป่วยต้องการ
่
 ประเภทที่ 1 ค่า NHPPD = 3.83 ชั่ว โมง
 ประเภทที่ 2 ค่า NHPPD = 4.56 ชั่ว โมง
 ประเภทที่ 3 ค่า NHPPD = 5.71 ชั่ว โมง
 ประเภทที่ 4 ค่า NHPPD = 6.83 ชั่ว โมง
 ประเภทที่ 5 ค่า NHPPD = 10.24 ชั่ว โมง
 ICU ประเภทที่ 4 ค่า NHPPD = 16.15
ชั่ว โมง
 ประเภทที่ 5 ค่า NHPPD = 19.56 ชั่ว โมง
8

9. Relationship Between Nurse
Staf fing and Patient Outcomes
• Patient mortality increased 7% for every
additional patient that is added to the
average nurse’s workload.
• A hospital with an average patient-per-
nurse ratio of 8:1 has a 31% higher
mortality rate than a hospital with a ratio
of 4:1.
JAMA, October 23/30, 2002, 1987-1993

10. กติกา กิจกรรมทีนำามาใช้
่
เป็นกิจกรรมการพยาบาล
ไม่ว่าใครทำากิจกรรมนั้นให้ใช้คาเวลา
่
เฉลี่ย ของผลจากการศึกษา
ปัจจัยทางกายภาพของผูป่วยไม่นำามา
้
เป็นตัวแปร
กรณีที่ไม่มีกำาหนดไว้ให้นำาเข้า
กรรมการก่อนการประกาศค่าคะแนน
เป็นกิจกรรมทีมีหลักฐานการบันทึกไว้
่
เท่านั้น

11. สรุปกิจกรรมทีนำามาใช้
่
1. สัญญานชีพ
2. การเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง
3. การดูแลเรื่องการหายใจ
4. กิจวัตรประจำาวัน
5. การรับประทานอาหาร
6. การให้ยาและสารนำ้า
7. กิจกรรมการรักษาหรือหัตถการ
8. ความต้องการข้อมูลและการดูแลด้าน
จิตใจ

12. ตัวอย่างเกณฑ์การให้
คะแนน

21. กำาหนดประเภทผู้ปวยตามค่าคะแนน
่

23. เกณฑ์การจำาแนกของ
สำานักการพยาบาล

29. ตัวอย่างแบบบันทึก
แบบประเมินประเภทผู้ป่วย.xls
นาง ประทุมพร ทองรักษ์.xls
Productivity.xls

30. การวัด ผลิต ผลของงาน
(N.Productivities)
สูต รคำา นวณ N.Productivity
นชั่ว=โมงความต้อ งการการพยาบาลของผูป ่ว ย
X 100
้
จำา นวนชั่ว โมงที่พ ยาบาลทำา งาน
 การแปลความหมาย
(N.Productivity %)
90 – 110 = คนเหมาะสมกับ
งาน
< 90 = คนเกิน งาน , 2545)
(กฤษดา แสวงดี