ใบความร้ ูที 9.1
                                       เรือง สมการพหนาม      ุ
สมการพนาม ( Polynomail Equations )
         ุ
                            ่
        สมการพหุ นามทีจะกลาวเป็ นสมการพหุ นามตัวแปรเดียวทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็ม
              ่ ิ
และมีดีกรี ไมเกนสาม
                        ํ           ่
        สมการพหุ นามกาลัง n จะอยูในรู ป a n x n + a n −1 x n −1 + a n −2 x n − 2 + K + a 0 = 0
เมือ n เป็ นจํานวนเต็มบวก และ a n , a n −1 , a n −2 ,K, a 1 , a 0 เป็ นสัมประสิ ทธิ ของพหุ นามทีเป็ น
                                                ํ
จํานวนจริ ง โดยที a n ≠ 0 สมการพหุ นามกาลัง n จะหาคําตอบหรื อรากของสมการได้เสมอ
   ่
อยางน้อยหนึงราก

           ทฤษฎีบทหลักมลของพัชคณิต ( Fundamental Theorem of Algebra )
                        ู
                                                       ่
                 ถ้า p(x ) เป็ นพหุ นามทีมีดีกรี มากกวาศูนย์แล้ว สมการ p(x ) = 0
                                                     ่
                 จะมีคาตอบทีเป็ นจํานวนเชิงซ้อนอยางน้อยหนึงคําตอบ
                      ํ


           ทฤษฎีบท ถ้า p(x ) เป็ นพหุ นามดีกรี n ≥ 1 แล้ว สมการ p(x ) = 0
                                                                ั
                   จะมีคาตอบทั3งหมด n คําตอบ (นับคําตอบทีซํ3 ากนด้วย)
                        ํ

                      ํ
        สมการพหุ นามกาลังสองจะเขียนในรู ป ax 2 + bx + c = 0 เมือ a , b และ c เป็ น
จํานวนจริ งใดๆ และ a ≠ 0 การหาคําตอบหรื อการหารากของสมการต้องจัดรู ปสมการให้เป็ น
ax 2 + bx + c = 0 เสมอ การหาคําตอบหรื อหารากของสมการทําเพียง 2 วิธี
        1. โดยการแยกตัวประกอบ
                                             b 2 − 4ac
         2. โดยการใช้สูตร x = − b ±
                                             2a



           ทฤษฎีบท ถ้าจํานวนเชิงซ้อน z เป็ นคําตอบของสมการพหุ นาม
                 p( x ) = x n + a 1 x n −1 + a 2 x n − 2 + K + a n −1 x + a n = 0
                 โดยทีสัมประสิ ทธิ a 1 , a 2 , a 3 ,K, a n เป็ นจํานวนจริ ง แล้วสังยุค   z
                 จะเป็ นคําตอบของสมการพหุ นามนี3 ดวย     ้
ทฤษฎีบทตัวประกอบ ( Factor Theorem )
             ํ                                    ่       ่ ั         ่
            กาหนด p(x ) เป็ นพุหนามทีมีดีกรี มากกวาหรื อเทากบ 1 จะได้วา
                                                  ็่
            พหุ นาม p(x ) มี x − c เป็ นตัวประกอบกตอเมือ p(c) = 0


                                  ทฤษฎีบทตัวประกอบจํานวนตรรกยะ
               ํ
             กาหนด p(x ) เป็ นพหุ นามในรู ป a n x n + a n −1 x n −1 + a n −2 x n −2 + K + a 0
      โดยที n เป็ นจํานวนเต็มบวก a n , a n −1 , a n −3 ,K, a 1 , a 0 เป็ นจํานวนเต็ม ซึ ง a n ≠ 0
                            k
                 ถ้า x −         เป็ นตัวประกอบของพหุ นาม p(x ) โดยที     m   และ k
                            m
      เป็ นจํานวนเต็มซึ ง m ≠ 0 และ ห.ร.ม. ของ m และ k คือ 1 แล้ว               m หาร a n ลงตัว
      และ k หาร a n ลงตัว

                             ํ      ่        ้
         สมการพหุ นามทีมีกาลังสู งกวา 2 จะแกสมการได้โดยการแยกตัวประกอบ และการแยกตัว
                                               ่ ั
ประกอบจะใช้วธีการแยกตัวประกอบแบบใดขึ3 นอยูกบโจทย์ เชน
                ิ                                       ่
ตัวอย่ างที 1 จงหาคําตอบทั3 งหมดของสมการ 2x 4 + x 3 − 2x − 1 = 0
วิธีทา
     ํ                 2x 4 + x 3 − 2x − 1 = 0
                    (2 x 4 + x 3 ) + (−2 x − 1) = 0
                      x 3 (2 x + 1) − (2 x + 1) = 0
                                (2 x + 1)( x 3 − 1) = 0
                (2 x + 1)( x − 1)( x 2 + x + 1) = 0
                                               −1± 1− 4 i         − 1 ± 3i
      จาก   x2 + x +1 = 0         จะได้   x=                  =
                                                       2              2
                        1                                − 1 ± 3i
      ฉะนั3 น   x=−         หรื อ    x =1    หรื อ   x=
                        2                                    2
                                                      1     − 1 + 3i − 1 − 3i
      ดังนั3 น คําตอบทั3 งหมดของสมการคือ             − ,1,            ,
                                                      2         2         2
แบบฝึ กทักษะที 9.1

                           ่
จงหาเซตคําตอบของสมการตอไปนี3
1. x 4 + 5x 2 + 4 = 0
2. x 6 + 7 x 3 − 8 = 0
3. 2x 3 − x 2 + 2x − 1 = 0
4. 4x 3 + 8x 2 − x − 2 = 0
5. x 3 − 3x 2 − 15x + 125 = 0
6. x 3 + x 2 + 9x + 9 = 0
7. x 3 + 4x 2 + 14x + 20 = 0
8. 2x 3 + 3x 2 + 50x + 75 = 0
9. 4x 3 + 23x 2 + 34x − 10 = 0
10. 8x 3 − 14x 2 + 18x − 9 = 0
11. x 4 − 6x 2 − 40 = 0




                            ใบความร้ ูที 9.2
เรือง สมการพหนาม ุ
                             ํ                                             ่
         จากสมการพหุ นามกาลัง n สามารถหาคําตอบของสมการได้ n คา และในทางกลับกน           ั
เมือกาหนดคําตอบของสมการมาให้ก็สามารถหาสมการจากคําตอบนั3 นได้ดวย ให้นกเรี ยนพิจารณา
       ํ                                                                     ้  ั
          ่ ่
จากตัวอยางตอไปนี3
ตัวอย่ างที 1 จงหาสมการพหุ นามดีกรี 4 ทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็มและมี 3 , 4 และ 3 + i
              เป็ นคําตอบ
วิธีทา ตามทฤษฎีบท มี 3 + i และ 3 − i เป็ นคําตอบของสมการด้วย
     ํ
           จะได้          ( x − 3)( x − 4)( x − (3 + i))( x − (3 − i)) = 0
                         ( x 2 − 7 x + 12)(( x − 3) − i)(( x − 3) + i) = 0
                                     ( x 2 − 7 x + 12)(( x − 3) 2 + 1) = 0
                                ( x 2 − 7 x + 12)( x 2 − 6 x + 9 + 1) = 0
                                   ( x 2 − 7 x + 12)( x 2 − 6 x + 10) = 0
   x 4 − 6 x 3 + 10 x 2 − 7 x 3 + 42 x 2 − 70 x + 12 x 2 − 72 x + 120 = 0
                                x 4 − 13x 3 + 64 x 2 − 142 x + 120 = 0
       ดังนั3 น สมการพหุ นามดีกรี 4 ทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็มคือ
                k ( x 4 − 13x 3 + 64 x 2 − 142 x + 120) = 0 เมือ k เป็ นจํานวนเต็มใดๆ
แบบฝึ กทักษะที 9.2

 1. จงหาสมการพหุ นามดีกรี 3 ทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็มและมีรากเป็ น
    1.1 1 , 5i
    1.2 6 , − 5 + 2i
    1.3 2 , 4 + i
    1.4 4 , − 3i
    1.5 − 2 , 1 + i
                                                               ่
2. จงหาสมการพหุ นามดีกรี สาม p(x ) = 0 ทีสอดคล้องเงือนไขแตละข้อตอไปนี3่
   2.1 -3 , -1 , 4 เป็ นคําตอบ และ p(2) = 5
   2.2 2 , 5 , -3 เป็ นคําตอบ และ p(1) = 4

Math9

  • 1.
    ใบความร้ ูที 9.1 เรือง สมการพหนาม ุ สมการพนาม ( Polynomail Equations ) ุ ่ สมการพหุ นามทีจะกลาวเป็ นสมการพหุ นามตัวแปรเดียวทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็ม ่ ิ และมีดีกรี ไมเกนสาม ํ ่ สมการพหุ นามกาลัง n จะอยูในรู ป a n x n + a n −1 x n −1 + a n −2 x n − 2 + K + a 0 = 0 เมือ n เป็ นจํานวนเต็มบวก และ a n , a n −1 , a n −2 ,K, a 1 , a 0 เป็ นสัมประสิ ทธิ ของพหุ นามทีเป็ น ํ จํานวนจริ ง โดยที a n ≠ 0 สมการพหุ นามกาลัง n จะหาคําตอบหรื อรากของสมการได้เสมอ ่ อยางน้อยหนึงราก ทฤษฎีบทหลักมลของพัชคณิต ( Fundamental Theorem of Algebra ) ู ่ ถ้า p(x ) เป็ นพหุ นามทีมีดีกรี มากกวาศูนย์แล้ว สมการ p(x ) = 0 ่ จะมีคาตอบทีเป็ นจํานวนเชิงซ้อนอยางน้อยหนึงคําตอบ ํ ทฤษฎีบท ถ้า p(x ) เป็ นพหุ นามดีกรี n ≥ 1 แล้ว สมการ p(x ) = 0 ั จะมีคาตอบทั3งหมด n คําตอบ (นับคําตอบทีซํ3 ากนด้วย) ํ ํ สมการพหุ นามกาลังสองจะเขียนในรู ป ax 2 + bx + c = 0 เมือ a , b และ c เป็ น จํานวนจริ งใดๆ และ a ≠ 0 การหาคําตอบหรื อการหารากของสมการต้องจัดรู ปสมการให้เป็ น ax 2 + bx + c = 0 เสมอ การหาคําตอบหรื อหารากของสมการทําเพียง 2 วิธี 1. โดยการแยกตัวประกอบ b 2 − 4ac 2. โดยการใช้สูตร x = − b ± 2a ทฤษฎีบท ถ้าจํานวนเชิงซ้อน z เป็ นคําตอบของสมการพหุ นาม p( x ) = x n + a 1 x n −1 + a 2 x n − 2 + K + a n −1 x + a n = 0 โดยทีสัมประสิ ทธิ a 1 , a 2 , a 3 ,K, a n เป็ นจํานวนจริ ง แล้วสังยุค z จะเป็ นคําตอบของสมการพหุ นามนี3 ดวย ้
  • 2.
    ทฤษฎีบทตัวประกอบ ( FactorTheorem ) ํ ่ ่ ั ่ กาหนด p(x ) เป็ นพุหนามทีมีดีกรี มากกวาหรื อเทากบ 1 จะได้วา ็่ พหุ นาม p(x ) มี x − c เป็ นตัวประกอบกตอเมือ p(c) = 0 ทฤษฎีบทตัวประกอบจํานวนตรรกยะ ํ กาหนด p(x ) เป็ นพหุ นามในรู ป a n x n + a n −1 x n −1 + a n −2 x n −2 + K + a 0 โดยที n เป็ นจํานวนเต็มบวก a n , a n −1 , a n −3 ,K, a 1 , a 0 เป็ นจํานวนเต็ม ซึ ง a n ≠ 0 k ถ้า x − เป็ นตัวประกอบของพหุ นาม p(x ) โดยที m และ k m เป็ นจํานวนเต็มซึ ง m ≠ 0 และ ห.ร.ม. ของ m และ k คือ 1 แล้ว m หาร a n ลงตัว และ k หาร a n ลงตัว ํ ่ ้ สมการพหุ นามทีมีกาลังสู งกวา 2 จะแกสมการได้โดยการแยกตัวประกอบ และการแยกตัว ่ ั ประกอบจะใช้วธีการแยกตัวประกอบแบบใดขึ3 นอยูกบโจทย์ เชน ิ ่ ตัวอย่ างที 1 จงหาคําตอบทั3 งหมดของสมการ 2x 4 + x 3 − 2x − 1 = 0 วิธีทา ํ 2x 4 + x 3 − 2x − 1 = 0 (2 x 4 + x 3 ) + (−2 x − 1) = 0 x 3 (2 x + 1) − (2 x + 1) = 0 (2 x + 1)( x 3 − 1) = 0 (2 x + 1)( x − 1)( x 2 + x + 1) = 0 −1± 1− 4 i − 1 ± 3i จาก x2 + x +1 = 0 จะได้ x= = 2 2 1 − 1 ± 3i ฉะนั3 น x=− หรื อ x =1 หรื อ x= 2 2 1 − 1 + 3i − 1 − 3i ดังนั3 น คําตอบทั3 งหมดของสมการคือ − ,1, , 2 2 2
  • 3.
    แบบฝึ กทักษะที 9.1 ่ จงหาเซตคําตอบของสมการตอไปนี3 1. x 4 + 5x 2 + 4 = 0 2. x 6 + 7 x 3 − 8 = 0 3. 2x 3 − x 2 + 2x − 1 = 0 4. 4x 3 + 8x 2 − x − 2 = 0 5. x 3 − 3x 2 − 15x + 125 = 0 6. x 3 + x 2 + 9x + 9 = 0 7. x 3 + 4x 2 + 14x + 20 = 0 8. 2x 3 + 3x 2 + 50x + 75 = 0 9. 4x 3 + 23x 2 + 34x − 10 = 0 10. 8x 3 − 14x 2 + 18x − 9 = 0 11. x 4 − 6x 2 − 40 = 0 ใบความร้ ูที 9.2
  • 4.
    เรือง สมการพหนาม ุ ํ ่ จากสมการพหุ นามกาลัง n สามารถหาคําตอบของสมการได้ n คา และในทางกลับกน ั เมือกาหนดคําตอบของสมการมาให้ก็สามารถหาสมการจากคําตอบนั3 นได้ดวย ให้นกเรี ยนพิจารณา ํ ้ ั ่ ่ จากตัวอยางตอไปนี3 ตัวอย่ างที 1 จงหาสมการพหุ นามดีกรี 4 ทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็มและมี 3 , 4 และ 3 + i เป็ นคําตอบ วิธีทา ตามทฤษฎีบท มี 3 + i และ 3 − i เป็ นคําตอบของสมการด้วย ํ จะได้ ( x − 3)( x − 4)( x − (3 + i))( x − (3 − i)) = 0 ( x 2 − 7 x + 12)(( x − 3) − i)(( x − 3) + i) = 0 ( x 2 − 7 x + 12)(( x − 3) 2 + 1) = 0 ( x 2 − 7 x + 12)( x 2 − 6 x + 9 + 1) = 0 ( x 2 − 7 x + 12)( x 2 − 6 x + 10) = 0 x 4 − 6 x 3 + 10 x 2 − 7 x 3 + 42 x 2 − 70 x + 12 x 2 − 72 x + 120 = 0 x 4 − 13x 3 + 64 x 2 − 142 x + 120 = 0 ดังนั3 น สมการพหุ นามดีกรี 4 ทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็มคือ k ( x 4 − 13x 3 + 64 x 2 − 142 x + 120) = 0 เมือ k เป็ นจํานวนเต็มใดๆ
  • 5.
    แบบฝึ กทักษะที 9.2 1. จงหาสมการพหุ นามดีกรี 3 ทีมีสัมประสิ ทธิ เป็ นจํานวนเต็มและมีรากเป็ น 1.1 1 , 5i 1.2 6 , − 5 + 2i 1.3 2 , 4 + i 1.4 4 , − 3i 1.5 − 2 , 1 + i ่ 2. จงหาสมการพหุ นามดีกรี สาม p(x ) = 0 ทีสอดคล้องเงือนไขแตละข้อตอไปนี3่ 2.1 -3 , -1 , 4 เป็ นคําตอบ และ p(2) = 5 2.2 2 , 5 , -3 เป็ นคําตอบ และ p(1) = 4