Guitar1. 2
ทฤษฎีดนตรี
Staff คือ บรรทัด 5 เส้น ใช้บันทึกระดับเสียง สูง-ต่ำของกีตำร์
STAFF
Treble Clef (กุญแจซอล) ใช้บันทึกโน้ตทีมีระดับเสียงสูง เช่น กีตำร์ ไวโอลิน
TREBLE
CLEF
การเปรียบเทียบระดับเสียงโน้ต โน้ตทีมีระดับต่ำกว่ำจะมีเสียงต่ำ โน้ตทีมีระดับสูงกว่ำจะมีเสียงสูง
การเขียนโน้ตมี 3 แบบ คือ
- โน้ตทีอยู่คำบเส้นบรรทัด 5 เส้น
LINES
- โน้ตทีอยู่ในช่องบรรทัด 5 เส้น
SPACES
2. 3
- โน้ตบนเส้นน้อย (Ledger Lines) เส้นน้อย คือ เส้นเล็ก ๆ ทีอยู่ด้ำนบนหรือ
ใต้บรรทัด 5 เส้น ใช้ส่ำหรับเขียนตัวโน้ตทีไม่สำมำรถบันทึกลงในบรรทัด 5 เส้นได้ เส้นน้อยทีอยู่สูง
กว่ำบรรทัด 5 เส้นไปมำกเท่ำใดก็จะมีระดับเสียงสูงขึ้นมำกเท่ำนั้น และเส้นน้อยทีอยู่ต่ำกว่ำบรรทัด 5
เส้นมำกเท่ำใดก็จะยิงมีเสียงต่ำลงมำกเท่ำนั้น กำรเขียนโน้ตจะเว้นระยะห่ำงระหว่ำงเส้นน้อยให้เท่ำ ๆ
กับบรรทัด 5 เส้น และจะเขียนเส้นน้อยให้เลยตัวโน้ตออกมำด้ำนข้ำงเล็กน้อย ดังรูป
ตัวโน้ตในบันไดเสียง (Scale)
โด
เร
มี
ฟำ
ซอล
ลำ
ที
โด
Measure Bar Line (เส้นกั้นห้องเพลง) ใช้กั้นแบ่งค่ำโน้ตให้ครบตำมเครืองหมำยก่ำหนดจังหวะ
Bar line
MEASURE
BAR LINE
Measure
Double
Bar line
ใช้เมื่อจบเพลง
3. 4
Time Signature (เครื่องหมายกาหนดจังหวะ) ใช้ก่ำหนดจังหวะใน 1 ห้องเพลง
TIME
SIGNATURE
หรือ
เลขตัวบน บอกจ่ำนวนตัวโน้ต
เลขตัวล่าง บอกตัวโน้ตหลักของห้องเพลง เช่น 2 คือ ตัวขำว ( ), 4 คือ ตัวด่ำ ( ), 8 คือ
ตัวเขบ็ต 1 ชั้น ( ) เป็นต้น
การอ่านค่าจังหวะโน้ต
1. Quarter Note (ตัวด่ำ) สัญลักษณ์
มีค่ำ 1 จังหวะ
2. Half Note (ตัวขำว) สัญลักษณ์
มีค่ำ 2 จังหวะ
3. Whole Note (ตัวกลม) สัญลักษณ์
มีค่ำ 4 จังหวะ
เล่นตามการเคาะเท้า
1
หรือตบมือ
2
3
4
1 เว้น 3 เว้น
(1 - 2 3 - 4)
1 เว้น เว้น เว้น
(1 - 2 - 3 - 4)
Repeat sign (เครื่องหมายย้อน)
เมือพบเครืองหมำยนี้ให้ย้อนกลับไปเล่นใหม่ 1 รอบแล้วจึงเล่นต่อไป
REPEAT
SIGN
4. 5
Dotted Note (โน้ตประจุด) จุดของโน้ตตัวนั้นจะยำวเป็น
โดยรวมจังหวะของโน้ตและจุด เช่น
4 จังหวะ
2 จังหวะ
1 จังหวะ
1
2
+
=
+
เท่ำของโน้ตตัวนั้น กำรเล่นให้เล่น
2 จังหวะ =
+
=
6 จังหวะ
+
1 จังหวะ =
3 จังหวะ
+
=
+
1
2
จังหวะ =
1 1 จังหวะ
2
5. 6
ท่าทางในการเล่นกีตาร์
ท่ำทำงในกำรเล่นเป็นส่วนส่ำคัญเป็นอย่ำงยิง กำรใช้ท่ำนัง กำรวำงแขนและกำรใช้นิ้วที
ถูกต้องก็จะท่ำให้ได้คุณภำพเสียงทีดี ท่ำทำงในกำรเล่นประกอบด้วย
1. ท่านั่ง ท่ำทำงในกำรบรรเลงกีตำร์มี 2 ท่ำด้วยกันคือ ท่ำนังในแบบกีตำร์คลำสสิกและ
ท่ำนังในแบบกีตำร์โฟล์ค ซึงท่ำนังแบบกีตำร์โฟล์คเป็นแบบทีนิยมในกำรเล่นกีตำร์ทัวไป กำรเลือก
ท่ำนังนั้นขึ้นอยู่กับควำมถนัดของแต่ละบุคคล อุปกรณ์ประกอบท่ำนังคือ ทีวำงเท้ำ (Foot stool) ใน
กำรใช้ควรทดลองปรับควำมสูงต่ำของทีวำงเท้ำหลำย ๆ ระดับ ไม่ควรให้สูงหรือต่ำเกินไปท่ำให้เล่น
ไม่ถนัด
แบบคลาสสิค
แบบโฟล์ค
2. การวางแขน ให้วำงในระยะของแขนท่อนที 1 ปรับตำมควำมถนัด พิงกับกีตำร์ อยู่ใน
ท่ำสบำย หัวไหล่ไม่เกร็ง กำรเกร็งจะท่ำให้เกิดผลเสียต่อกำรเล่น คือ
- ท่ำให้ดีดเสียงกระตุก
- บังคับเสียงตำมต้องกำรไม่ได้
- ท่ำให้ยำกต่อกำรบรรเลงบทเพลงทีต้องใช้ควำมเร็ว
Foot stool
6. 3. การวางมือ
7
ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่กึงกลำงช่องเสียง (Sound Hole) โดยจะไม่ให้มือไปปิดทีช่องเสียง เพรำะจะ
ท่ำให้เสียงสะท้อนออกมำไม่เต็มที นิ้วหัวแม่มือ ให้วำงอยู่ในระยะระหว่ำงสำยที 4 5 และ 6 เพือตัด
เสียงรบกวนจำกสำยเปล่ำสำยที 1 และเมือกดโน้ตลำ (A) ในช่องที 5 สำยที 1
การทดสอบเสียงรบกวน
- ดีดสำยเปล่ำสำยที 1 จะเห็นว่ำสำยที 5 มีกำรสันสะเทือน
- ดีดสำยที 1 แล้ว หยุดเสียงในสำยที 1 จะเห็นว่ำมีเสียงกังวำนตำมออกมำ ซึงในกำร
บรรเลงบทเพลงถือว่ำเป็นเสียงรบกวน
4. การใช้นิ้วมือ กำรใช้นิ้วมือเป็นส่วนทีส่ำคัญทีสุดของกำรเล่นกีต้ำร์ เสียงทีมีคุณภำพ
ดีขึ้นอยู่กับกำรใช้ข้อนิ้วและมุมเล็บในกำรดีดทีถูกต้อง โดยลักษณะของกำรใช้นิ้วมือมีข้อแตกต่ำงๆ
ดังนี้
กำรดีดโดยใช้ข้อที 1 จะเกิดเสียงในลักษณะกระตุกท่ำให้เกิดเสียงทีไม่ดี
- กำรดีดโดยใช้ข้อที 2 จะเกิดเสียงออกมำในลักษณะฟำดนิ้วท่ำให้เกิดเสียงทีไม่ดี
- กำรดีดโดยใช้ข้อที 3 จะเกิดเสียงเป็นค่ำคล้ำยเสียงพูดหรือร้องซึงเป็นเสียงทีดี
9. 10
2. ตะใบเล็บเนื้อละเอียด ใช้ฝนในขั้นตอนที 2
เพือลบเศษเล็บและรอยขรุขระ ท่ำให้ดีดได้ลืน แต่ไม่
ควรจะฝนจนเล็บสั้นลงจำกเดิมอีก กำรฝนเล็บให้ฝน
จำกด้ำนหลังโดยกำรหงำยฝ่ำมือ ท่ำกำรฝนให้โค้ง
ตำมรูปนิ้วซึงจะได้ควำมโค้งเป็นมุมป้ำน เมือฝนเสร็จ
แล้วหงำยมือเพือดูจำกด้ำนหน้ำจะพบว่ำเล็บจะโค้งไม่
ตรงกับด้ำนหลัง อย่ำงไรก็ตำมเรำจะให้ควำมส่ำคัญ
กับเล็บด้ำนทีสัมผัสกับสำย
ภาพของเล็บที่ฝนแล้ว
ด้ำนหน้ำ
ด้ำนหลัง
10. 11
การใช้นิ้วมือขวา
สัญลักษณ์นิ้วมือขวา
i ( Index ) หมำยถึง นิ้วชี้
m ( Middle ) หมำยถึง นิ้วกลำง
การดีด Rest Stroke หมำยถึง กำรดีดผ่ำนสำยหนึงแล้วไปหยุดทีสำยถัดไป
ฝึกการดีดพักสาย (Rest Stroke) ในสาย 1, 2 และ 3 ตามแบบฝึกหัดดังนี้
สาย 1, 2 และ 3 i
m i
สาย 1 i m i
สาย 2
สาย 3
m
1
2
3
i
m i
m i
m i
m
m i
i
m
i
i
m
m i
m.
m i
m.
.
.
m
i
i
m i
i
i
m i
m
m
m i
m i
m i .
.
.
12. 13
การใช้นิ้วมือซ้าย
สัญลักษณ์ของนิ้วมือซ้ำยมีดังนี้
1 คือ นิ้วชี้
2 คือ นิ้วกลำง
3 คือ นิ้วนำง
4 คือ นิ้วก้อย
กำรใช้นิ้วมือซ้ำยทีให้เสียงทีดีและไม่ท่ำให้เจ็บนิ้วท่ำได้โดยกำรกดลงไปในต่ำแหน่งชิดกับเฟร็ต
ออกแรงพอให้สำยติดกับเฟร็ต นิ้วเอียงท่ำมุมประมำณ 45 องศำกับช่องกีตำร์ (Fingerboard) และ
ไม่ก่ำมือ จะท่ำให้นิ้วเคลือนทีได้เร็วขึ้น กำรเปลียนต่ำแหน่งแต่ละครั้งให้คลำยกล้ำมเนื้อตลอด จะท่ำ
ให้เล่นได้เร็วและไม่เมือยมือ
นิ้วมือซ้ายที่ดี
นิ้วเอียงทามุมประมาณ 45 องศากับช่องกีตาร์
การกามือ
นิ้วมือซ้ายที่ไม่ดี
นิ้วหัก
13. 14
การกดโน้ตในสายที่ 1
E
F
ใช้นิ้วชี้กด fret ที่ 1
G
ข้อสังเกต
เมือดีดโน้ตตัว F (ฟำ) ไปทีโน้ตตัว G (ซอล) ควรจะให้
เสียงต่อเนืองกัน ไม่ควรยกนิ้วทีกดตัว F (ฟำ) ออกก่อน
ดีดเสียง G (ซอล) เพรำะจะท่ำให้เสียงขำดควำม
ต่อเนืองควรปฏิบัติเมือดีดโน้ตในสำยอืน ๆ ด้วย
ใช้นิ้วนำงกด fret ที 3 โดยนิ้วชี้ยังกดทีโน้ตตัว F
มี
ฟำ
สำยเปล่ำ
กดช่องที 1
ซอล
กดช่องที 3